วิธีกระตุ้นน้ำนม มีอะไรบ้าง ? ทำยังไงให้คุณแม่มีน้ำนมเพียงพอต่อลูกน้อย ?!

ใครๆ ก็รู้ว่าน้ำนมแม่สำคัญต่อพัฒนาการของลูกน้อยมากแค่ไหน แต่น้ำนมของคุณแม่แต่ละคนไม่ได้มีเยอะเท่ากันใช่มั้ยหล่ะคะ บางคนก็เยอะ บางคนก็น้อย บางคนก็ไม่มี ดังนั้นการกระตุ้นน้ำนมอย่างถูกวิธีมีความสำคัญอย่างมากต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ซึ่งเป็นวิธีการเลี้ยงดูที่ดีที่สุดสำหรับทารกในช่วงแรกเกิด และในบทความนี้ BabyGift จะพาคุณแม่ไปรู้จักกับวิธีกระตุ้นน้ำนมกันค่ะว่าจะมีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยแม่ๆ ที่มีปัญหาเรื่องน้ำนมได้บ้าง
แชร์วิธีกระตุ้นน้ำนมแม่ ทำยังไงให้คุณแม่มีน้ำนมเพียงพอ ส่งต่อสุขภาพดีๆ ให้ลูก
การกระตุ้นน้ำนมแม่มีความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำนมให้เพียงพอต่อความต้องการของทารก เพราะน้ำนมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารกในช่วง 6 เดือนแรก ซึ่งจะช่วยให้ทารกได้รับสารอาหารครบถ้วน เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และช่วยให้ร่างกายทารกเจริญเติบโตอย่างเต็มที่และแข็งแรง แถมยังเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์แม่ลูกให้แน่นแฟ้น เพราะในขณะที่แม่ให้นมลูก จะเกิดการหลั่งฮอร์โมนความรักและผูกพันกัน ช่วยเสริมสร้างความรู้สึกอบอุ่น ความปลอดภัยให้แก่ทารกค่ะ เอาหล่ะค่ะ แล้ววิธีกระตุ้นน้ำนมแม่มีอะไรบ้าง เรามาดูกันต่อเลยค่ะ

วิธีกระตุ้นน้ำนมแม่ มีอะไรบ้าง ?
มีหลายวิธีในการกระตุ้นการไหลของน้ำนมแม่ค่ะ เป็นวิธีง่ายๆ ที่ทำได้จริง ซึ่งการทำตามวิธีเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอและถูกวิธี จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำนมได้อย่างเต็มที่ มาดูกันค่ะ
1. การดื่มน้ำ : และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ : วิธีง่ายๆ แต่ส่งผลต่อปริมาณและคุณภาพของน้ำนมแม่ คุณแม่ลองใส่ใจในการกินอาหารให้มากขึ้น เช่น ถั่วงอก ข้าวกล้อง น้ำผลไม้ กระเจี๊ยบเขียว หรือผักใบเขียวอื่นๆ ถั่วเมล็ดแห้ง ข้าวกล้อง รวมถึงการดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว พวกนี้ล้วนแต่มีส่วนช่วยเพิ่มน้ำนมได้ค่ะ
2. การพักผ่อนและผ่อนคลาย : เมื่อร่างกายเครียดมากเกินไป จะมีผลให้ระดับฮอร์โมนโปรแลกตินที่กระตุ้นการสร้างน้ำนมลดลง ดังนั้นแม่จึงควรมีเวลาพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงความเครียดนะคะ
3. ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่นประคบที่เต้านม : การประคบผ้าชุบน้ำอุ่น ก่อนให้นมลูกหรือก่อนปั๊มนมจะช่วยกระตุ้นน้ำนมให้ไหลได้สะดวกขึ้น เพราะความอบอุ่นจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต และขยายหลอดน้ำนมให้เปิดออก จะทำให้น้ำนมไหลได้สะดวกมากขึ้น แต่ต้องระวังอุณหภูมิของน้ำนะคะ อย่าให้น้ำร้อนเกินไปจนลวกเต้านมค่ะ
4. การนวดเต้านม : เป็นการกระตุ้นจุดสร้างน้ำนมภายในเต้านมให้ทำงาน โดยใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ นวดวนเบาๆ รอบๆ เต้านม ทั้งด้านหน้าและข้างๆ เพื่อให้น้ำนมไหลออกมาได้สะดวกขึ้น ควรนวดประมาณ 5-10 นาทีก่อนให้นมลูก นวดอย่างนุ่มนวล เพื่อกระตุ้นการไหลของน้ำนม ให้น้ำนมออกมาได้ง่ายขึ้นค่ะ
5. การปั๊มนม : วิธีกระตุ้นน้ำนมวิธีสุดท้ายคือ การใช้เครื่องปั๊มนมไฟฟ้าหรือปั๊มนมแบบมือปั๊มก็ได้เช่นกันค่ะ วิธีนี้ก็จะช่วยกระตุ้น และดูดน้ำนมออกมาได้ดี และเก็บไว้ให้ลูกกินได้ต่อไปด้วยค่ะ (สามารถดูวิธีการใช้เครื่องปั๊มนมเพิ่มเติมได้อีก BabyGift เคยเขียนไว้แล้วค่ะ)

ทำไมการนวดถึงช่วยกระตุ้นน้ำนม ?
การนวดเต้านมด้วยวิธีถูกต้องและสม่ำเสมอ ร่วมกับการให้ลูกดูดนมจะเป็นการกระตุ้นร่างกายให้ผลิตน้ำนมได้มากขึ้น ซึ่งเป็นวิธีสำคัญในการเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่นอกเหนือจากการรับประทานอาหารเสริมต่างๆ มีข้อมูลเพิ่มเติมจากคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านนมแม่ BabyGift สรุปเป็นประเด็นสำคัญได้ดังนี้ค่ะ
1. การนวดเต้านมด้วยวิธีบีบน้ำนมออกจนเกลี้ยงเต้า จะกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำนมชุดใหม่มาทดแทน
2. การนวดจี๊ดหัวนม จะช่วยให้น้ำนมออกมาได้มากขึ้น
3. การนวดเต้านมที่ถูกวิธีและทำสม่ำเสมอ ควบคู่กับการให้ลูกดูดนมบ่อยๆ จะส่งสัญญาณให้ร่างกายรับรู้ความต้องการของลูกและผลิตน้ำนมเพิ่มขึ้น
วิธีการนวดกระตุ้นน้ำนม ทำยังไงบ้าง ?
การนวดกระตุ้นน้ำนมด้วยวิธีการเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอจะช่วยกระตุ้นการไหลของน้ำนมได้ดียิ่งขึ้น เมื่อคุณแม่ฝึกฝนบ่อยๆ ร่วมกับการให้ลูกดูดนมก็จะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำนมได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ ลองมาดูวิธีนวดกันต่อนะคะ
ท่านวดที่ 1 บีบเต้านมด้วยมือ : ใช้มือสองข้างจับเต้านมข้างซ้ายไว้ แล้วบีบนวดเต้านมโดยไล่จากกลางเต้านมไล่ลงมายังปลายหัวนมให้คุณแม่บีบนวดลงไปซ้ำๆ ประมาณ 10-15 ครั้ง แล้วเปลี่ยนไปทำข้างขวาในวิธีเดียวกัน ซี่งระหว่างนวดจะมีน้ำนมไหลออกมาด้วย ไม่ต้องกังวลไปนะคะ
ท่านวดที่ 2 กระตุ้นจี๊ด ดึงหัวนม : เริ่มจากให้คุณแม่ใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้จับบริเวณหัวนมไว้ จากนั้นดึงหัวนมไปข้างหน้า ดึงให้มากที่สุดเท่าที่หัวนมจะยื่นออกไปได้ ทำอย่างสม่ำเสมอ ประมาณ 5-10 ครั้ง
ท่านวดที่ 3 กระตุ้นจี๊ด นวดหมุนหัวนม : ให้คุณแม่ใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้จับตรงหัวนม แล้วบีบนวดหัวนมในลักษณะหมุนๆ รอบหัวนมประมาณ 5-10 ครั้ง ซึ่งในขั้นนี้ระหว่างนวดควรจะมีน้ำนมไหลออกมาด้วยนะคะ
หลังจากการนวดเต้านมครบ 3 ขั้นตอนแล้ว ให้คุณแม่ผ่อนคลายเต้านม ด้วยการประคบอุ่นเพื่อผ่อนคลายให้กับเต้านม จะช่วยเรื่องการไหลเวียนระบบต่างๆ ให้คุณแม่ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นแล้วพันรอบเต้านมไว้ 2-3 นาที แค่นี้ก็ช่วยให้ผ่อนคลายได้แล้วค่ะ สำหรับคุณแม่ที่ต้องการดูวิดีโอวิธีการนวดกระตุ้นน้ำนมที่ถูกต้องลองคลิกดูเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยค่ะ

คำแนะนำ และข้อควรระวังในการกระตุ้นน้ำนม
การกระตุ้นน้ำนมแม่นั้น มีข้อควรระวังและคำแนะนำดังต่อไปนี้ค่ะ
1. อย่าออกแรงมากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นการนวดหรือบีบเต้านม เพราะอาจทำให้เกิดอาการบอบช้ำและระคายเคืองได้ ควรใช้แรงพอประมาณอย่างนุ่มนวลค่ะ
2. หลีกเลี่ยงการดึงหรือบีบที่หัวนมแรงเกินไป เนื่องจากหัวนมค่อนข้างบอบบางและอาจทำให้เจ็บได้ค่ะ
3. หากรู้สึกปวดหรือระคายเคืองผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์หรือพยาบาลผู้เชี่ยวชาญ
ความพยายามและพลังใจเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการกระตุ้นน้ำนมแม่ก็จริง แต่อย่าลืมว่าคุณแม่ก็ต้องใส่ใจดูแลสุขภาพ และให้ความสำคัญกับการพักผ่อนด้วยเหมือนกันนะคะ เพื่อให้ร่างกายได้ผลิตน้ำนมอย่างเต็มประสิทธิภาพค่ะ
BabyGift แนะนำ ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับน้ำนมแม่

1. เครื่องปั๊มนม HAENIM 7X
ผลิตภัณฑ์กระตุ้นน้ำนมชิ้นแรกที่ BabyGift อยากแนะนำคือ สินค้า 1 ใน 10 อันดับเครื่องปั๊มนมน่าใช้ค่ะ HAENIM รุ่น 7X ตัวนี้จะปั๊มได้แบบนุ่มนวล เหมาะสำหรับคุณแม่ท้องแรก ที่เพิ่งเคยปั๊มนมครั้งแรก ตัวกรวยปั๊มมีให้เลือก 2 แบบ คือ กรวยเคลือบซิลิโคน NexusFit™ ให้ความรู้สึกนุ่มถนอมหัวนม ไม่เจ็บเต้า ไม่ย้วยแบบซิลิโคนทั่วไป แถมยังมีปุ่มนวดกระตุ้น เหมาะสำหรับคุณแม่ที่เนื้อหน้าอกเยอะ และกรวยซิลิโคนแบบบางพิเศษ NexusFit™ Basic ออกแบบให้ไม่มีปุ่มนวด เหมาะสำหรับคุณแม่ที่เนื้อหน้าอกน้อย
จุดเด่น
- ผลิตและนำเข้าจากประเทศเกาหลี ผ่านการตรวจสอบและได้รับการรับรองมาตรฐาน อย. ไทย
- กรวยเคลือบซิลิโคน NexusFit™ ได้รับการจดสิทธิบัตร ปลอดภัย ได้มาตรฐาน
- ปรับได้ทั้งความแรงและความเร็วรอบดูดในเครื่องเดียว เพิ่มทางเลือกให้ตรงใจแม่มากที่สุด ถึง 90 รูปแบบ
- มีโหมดจดจำ ไม่ต้องตั้งค่าใหม่ ปั๊มนมครั้งต่อไปสะดวก ประหยัดเวลา
- มีโหมด Mute เปิด-ปิด ไร้เสียง มีโคมไฟและหน้าจอมีแสงไฟ ปั๊มกลางคืนได้โดยไม่ต้องเปิดไฟห้อง ไม่รบกวนลูกน้อยและคนรอบข้าง
- มีขวดนม PA (Polyamide) ใสเหมือนแก้ว ช่วยให้มองเห็นความผิดปกติของน้ำนมได้ดี
- ระบบ 1 มอเตอร์ คุณแม่สามารถเลือกปั๊มเดี่ยวหรือปั๊มคู่ได้ตามต้องการ และมีระบบหยุดอัตโนมัติ หลังการปั๊มนม 30 นาที เพื่อความปลอดภัย

2. LAVIE อุปกรณ์กระตุ้นน้ำนม
นี่คืออุปกรณ์กระตุ้นน้ำนมเเม่ ตัวช่วยที่ให้คุณเเม่มือใหม่ได้แก้ปัญหาอาการคัดหน้าอก ท่อน้ำนมตัน ฯลฯ ได้ เพราะปัญหาเหล่านี้อาจทำให้เกิดอาการ เจ็บปวด เครียด จนทำให้คุณแม่หลายๆ คนหยุด เพราะกลัวการให้ลูกดูดนมจากเต้าได้นั่นเองค่ะ
จุดเด่น
- ช่วยกระตุ้นการเพิ่มการไหลเวียนของน้ำนม
- ตัวเครื่องกันน้ำได้
- ชาร์จแบตเตอรี่ได้ มีสายชาร์จ USB และกล่องสำหรับพกพา

3. MR.FOX ถุงเก็บน้ำนมแม่รุ่นพลัส ขนาด 8 ออนซ์
ถุงเก็บน้ำนมแม่ Mr.Fox ขนาด 8 ออนซ์ ผลิตจากพลาสติกหนา 2 ชั้น เหนียว หนา ไม่แตก ไม่รั่วซึม ขอบถุงซีลหนาถึง 5 มิลลิเมตร สามารถใช้ถุงต่อตรงจากเครื่องปั๊มลงถุงเก็บน้ำนมได้เลย และสามารถต่อจุกนมให้ลูกดื่มจากถุงได้เลยเช่นกันโดยไม่ต้องพึ่งขวดนม ลดการปนเปื้อน
จุดเด่น
- สามารถต่อตรงจากเครื่องปั๊มลงถุงเก็บน้ำนมได้เลย และสามารถต่อจุกนมให้ลูกดูดจากถุงได้เลยเช่นกัน จึงลดการปนเปื้อน จากการเทไปเทมาระหว่างขวดนมและถุงเก็บน้ำนม แล้วยังลดการปนเปื้อนจากการล้างขวดนมไม่สะอาดอีกด้วย
- Vitamin Protection ด้วยถุงนมทึบแสง และลดเหม็นหืนในน้ำนมแม่ได้
- เขียนด้วยปากกาลูกลื่นได้ ไม่ต้องยุ่งยากในการหาปากกา permanent

4. เครื่องอุ่นนม Baby Bottle Warmer & Sterilizer – PRINCE & PRINCESS
ใช้วิธีกระตุ้นน้ำนมที่เราแนะนำแล้วได้ผล ก็ต้องมีเครื่องอุ่นนมติดบ้านไว้ด้วยนะคะ เครื่องนี้สามารถอุ่นน้ำนมได้โดยไม่เสียคุณค่า มี 4 โหมดทำงานอัจฉริยะ ได้แก่ Warm โหมดอุ่นนม Defrost โหมดละลายน้ำแข็ง Food โหมดอุ่นอาหารเด็ก และ Sterilize โหมดนึ่งฆ่าเชื้อขวดนม สามารถสั่งงานด้วยระบบ Touch Screen แถมน้ำหนักเบา พกง่าย อุ่นนมให้ลูกได้ทุกที่
จุดเด่น
- ประหยัดเวลาแม่ อุ่นน้ำนมให้ลูกพร้อมกันได้ถึง 2 ขวด โดยไม่เสียคุณค่าน้ำนม
- BPA Free ปลอดภัย อุ่นนมให้ลูกอย่างมั่นใจ
- อุ่นใจ มีบริการหลังการขาย มีรับประกันสินค้า

5. MOTHERY หมอนรองให้นม เอียง 11 องศา
หมอนให้นมเป็นตัวช่วยสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่จะช่วยคุณแม่มือใหม่ให้เลี้ยงลูกได้อย่างสะดวก สบายมากขึ้น MOTHERY เป็นหมอนรองให้นมที่พัฒนาโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทำให้การเข้าเต้าเป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณแม่ มีหลายสีให้เลือก สีสันสวยงาม ใช้งานง่าย ถูกใจคุณแม่
จุดเด่น
- พัฒนาโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ออกแบบเอียง 11 องศา เข้าเต้าได้ในองศาที่ดีที่สุด
- ดีไซน์แบบ U-curve ช่วยให้ลูกเข้าเต้าได้ด้วยองศาที่ดีที่สุด
- Back Support ช่วยลดอาการปวดเมื่อยให้กับคุณแม่ถึง 5 จุด
การกระตุ้นน้ำนมแม่เป็นเรื่องสำคัญในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ หวังว่าวิธีกระตุ้นน้ำนมที่เราแนะนำจะช่วยคุณแม่ให้มีน้ำนมเพียงพอต่อการเลี้ยงเจ้าตัวน้อยนะคะ และถึงแม้ว่าจะต้องใช้ความพยายามและอดทน แต่หากคุณแม่ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอและปฏิบัติตามวิธีการอย่างถูกต้อง ควบคู่กับการดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม เชื่อว่าปัญหาการขาดน้ำนมของคุณแม่จะดีขึ้นได้อย่างแน่นอนค่ะ และหากใครสนใจผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการกระตุ้นน้ำนม หรือสินค้าแม่ และเด็กอื่นๆ ก็สามารถมาเยี่ยมชมสินค้าหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ BabyGift ร้านจำหน่ายสินค้าแม่และเด็กระดับคุณภาพ มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี คุณพ่อคุณแม่สามารถมาเยี่ยมมสินค้าได้ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ร้านเบบี้กิ๊ฟ ทั้ง 5 สาขา ใกล้บ้าน หรือ สอบถามผ่านช่องทาง Online ทีมงาน BabyGift ยินดีให้คำแนะนำค่ะ
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
เครื่องปั๊มนมเป็นตัวช่วยอันดับหนึ่งของคุณแม่ลูกอ่อน โดเฉพาะคุณแม่ที่ต้องการให้ลูกน้อยได้กินนมแม่อย่างต่อเนื่องยาวนานที่สุด เครื่องปั๊มนมจะช่วยให้คุณแม่ปั๊มนมได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่ทำให้เกิดอาการคัดเต้านม ซึ่งการที่คุณแม่ปั๊มนมอย่างสม่ำเสมอนั้น เป็นการช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำนมได้มากยิ่งขึ้น ทำให้คุณแม่สามารถสต็อกน้ำนมได้ตามความต้องการ ปัจจุบันในท้องตลาดมีเครื่องปั๊มนมหลากหลายยี่ห้อมากมาย และก็มีหลายประเภทให้เลือกซื้อ คุณแม่บางคนอาจสงสัยว่าควรเลือกแบบไหน จะเลือกเครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ? BabyGift มีเครื่องปั๊มนมน่าใช้ในปี 2025 มาแนะนำให้เหล่าคุณแม่ได้เลือกใช้ตามความเหมาะสมกันเลยค่ะ เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ? เครื่องปั๊มนมแบบไหนที่ถูกใจคุณแม่บ้าง ? เครื่องปั๊มนมนั้นจำเป็นสำหรับคุณแม่อย่างมาก โดยเฉพาะคุณแม่ที่เพิ่งคลอดลูกและต้องกลับไปทำงานหลังลาคลอดทำให้ไม่ได้ให้ลูกกินนมจากเต้าเหมือนตอนอยู่บ้าน เครื่องปั๊มนมนั้นก็มีประโยชน์มากมาย อย่างเช่น ทำให้คุณแม่ปั๊มนมเก็บลงสต็อกได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ช่วยกระตุ้นน้ำนม เสมือนว่ามีทารกดูดน้ำนมอย่างเสมอซึ่งช่วยให้ร่างกายคุณแม่ผลิตน้ำนมได้มากยิ่งขึ้น ทั้งช่วยบรรเทาอาการคัดเต้านม และทำให้คุณแม่ได้มีเวลาพักผ่อนหรือมีเวลาทำกิจกรรมส่วนตัวเพิ่มขึ้นในระหว่างที่ลูกดูดนมสต็อกในขวดแทนการดูดจากเต้า เรียกว่าเครื่องปั๊มนมนั้นมีความจำเป็นมากทีเดียวเลยค่ะ แล้วจะเลือกเครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ? ก็ต้องดูว่าแต่ละรุ่นแต่ละแบบนั้น ตอบโจทย์การใช้งานของคุณแม่ได้มากน้อยอย่างไร สำหรับคุณแม่ที่อาจจะกำลังสงสัยว่าเครื่องปั๊มนม มีกี่แบบ ? โดยหลัก ๆ แล้วจะมีอยู่ 2 แบบด้วยกันดังนี้ค่ะ BabyGift แนะนำเครื่องปั๊มนม 10 อันดับน่าใช้ประจำปี 2025 รู้กันแล้วว่ามีกี่ประเภท ตอนนี้เราลองมาดูยี่ห้อน่าใช้กันต่ะค่ะ ปัจจุบันตามท้องตลาดก็มีเครื่องปั๊มนมจำหน่ายมากมาย ทั้งแบบปั๊มมือ และแบบไฟฟ้า มีฟังก์ชั่นให้เลือกอย่างหลากหลาย […]
เคล็ดลับการฝึกลูกนั่งคาร์ซีท car seat จากประสบการณ์จริงคุณแม่ลูกสอง โดย แม่ป่าน เพจ เลี้ยงลูกอย่างมีความสุข by mommy Arpan 1. ฝึกเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ : ถ้าเป็นไปได้จัดเตรียมคาร์ซีท car seat ไว้ก่อนคลอด และให้ลูกนั่งตั้งแต่วันแรกที่ออกจากโรงพยาบาล จะช่วยสร้างความคุ้นเคยให้กับทั้งตัวลูกและพ่อแม่ 2. ต่อเนื่อง และสม่ำเสมอจนกลายเป็น routine (กิจวัตร) : ไม่ว่าจะไปไหน ใกล้หรือไกลต้องให้เด็กนั่ง car seat ทุกครั้ง เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ ปฏิบัติจนคุ้นชิน และทุกอย่างจะง่ายขึ้นเองค่ะ 3. ปรับทัศนคติให้ตรงกัน (ปัญหาหลักที่หลายบ้านพบเจอ) : โดยเฉพาะผู้ใหญ่ในบ้านที่อาจจะยังไม่เข้าใจ หรือยังมองไม่เห็นความสำคัญ ลองนั่งพูดคุยบอกเล่าเหตุการณ์ๆต่างๆในข่าว ที่เวลาเกิดอุบัติเหตุและเด็กที่นั่ง car seat รอดชีวิต เปรียบเทียบกับเด็กที่ไม่ได้นั่งและเกิดความสูญเสียร้ายแรงตามมา และลองคุยปรับความเข้าใจกับท่านดู เชื่อว่าถ้าท่านรักและห่วงหลานๆเป็นทุน ยังไงวันหนึ่งท่านจะเข้าใจค่ะ อีกวิธีหนึ่งที่แนะนำคือลองหาวิดิโอใน Youtube สาธิตแรงกระแทกที่เกิดขณะรถชน (จะมีสาธิตเปรียบเทียบระหว่างมีคนอุ้มเด็ก กับเด็กนั่งคาร์ซีท ….หวังว่าภาพที่เห็นจะสามารถเปลี่ยนใจของบรรดาผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านได้นะคะ […]
ตัวช่วยสำคัญที่จะช่วยให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้เต็มที่ตามความตั้งใจ เพื่อให้ลูกน้อยทารกได้กินน้ำนมแม่ตั้งแต่แรกเกิดและต่อเนื่องยาวนานที่สุด คือ เครื่องปั๊มนม เพราะเครื่องปั๊มนมที่ดีจะมีข้อดีและมีประโยชน์ต่อคุณแม่และลูกน้อยมากมาย ได้แก่ แต่การที่คุณแม่จะใช้ เครื่องปั๊มนม ให้ได้คุ้มค่า จำเป็นต้องศึกษาข้อมูล ปรึกษาผู้มีประสบการณ์และเลือกซื้อให้เหมาะสมกับการใช้งานของคุณแม่เอง เพราะปัจจุบันมีเครื่องปั๊มนมให้คุณแม่เลือกซื้อมากมาย หลายแบบ และมีราคาที่แตกต่าง คุณแม่จึงต้องพิจารณาเลือกถึงความจำเป็นที่จะต้องใช้ และเรียนรู้ว่าเลือกแบบไหนจะเหมาะกับเราและลูกน้อย ฉะนั้นเราจึงขอแนะนำให้คุณแม่ได้รู้จักกับเครื่องปั๊มนมแบบต่างๆ ที่มีขายในปัจจุบัน การทำงานที่น่าสนใจลักษณะการใช้งาน และคุณสมบัติที่น่ารู้ รวมถึงวิธีการเลือกซื้อในแบบที่ใช่มากที่สุด 1. เครื่องปั๊มนม แบบปั๊มมือ 2. เครื่องปั๊มนมแบบใช้แบตเตอรี่ 3. เครื่องปั๊มนมแบบใช้ไฟฟ้า เลือก เครื่องปั๊มนม แบบไหน? ที่ใช่สำหรับคุณแม่ เพราะเครื่องปั๊มนมเป็นตัวช่วยคู่ใจ ให้คุณแม่ทำสต๊อกน้ำนมแม่ให้ลูกน้อยได้เต็มที่ ดังนั้นคุณแม่จำเป็นต้องคำนึงถึงคุณภาพของเครื่องปั๊มนมเป็นสำคัญ โดยควรเลือกเครื่องปั๊มนมที่เหมาะกับครอบครัว และมีประสิทธิภาพต่างๆ ดังนี้
คาร์ซีทเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องมีสำหรับลูกน้อยของเราตั้งแต่ช่วงแรกเกิดไปจนถึงอายุ 6 ปี เพื่อความปลอดภัยขณะนั่งรถยนต์ ประกอบกับมีการออกกฏหมายจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม 2566 ให้ใช้คาร์ซีทในเด็กที่อายุไม่เกิน 6 ปี ยกเว้นรถรับจ้างหรือรถสาธารณะ ดังนั้นทุกบ้านควรจะต้องเตรียมคาร์ซีทให้พร้อมตั้งแต่ก่อนคลอด เพราะต้องให้ลูกน้อยนั่งตั้งแต่วันแรกที่ออกจากโรงพยาบาล ปัจจุบันคาร์ซีทก็มีหลายแบบมาก คุณพ่อคุณแม่หลายท่านอาจจะยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกแบบไหนดี หรือจะเลือกคาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี ที่มีคุณภาพดี ปลอดภัยได้มาตรฐาน และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในบทความนี้ BabyGift มีมาแนะนำแล้วค่ะ จะเลือกคาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี ? แนะนำวิธีเลือกคาร์ซีทเด็กแรกเกิด มั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพและความปลอดภัย ผู้ปกครองบางท่านอาจเกิดคำถามขึ้นมาว่า ทำไมต้องใช้คาร์ซีทสำหรับลูกน้อย ขอบอกว่า คาร์ซีทนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ ค่ะ คาร์ซีทเป็นอุปกรณ์เสริมที่ติดตั้งในรถยนต์ของคุณพ่อคุณแม่เพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับเด็กๆ ในขณะที่นั่งรถยนต์ เพื่อป้องกันหากเกิดอุบัติเหตุไม่คาดคิด คาร์ซีทจะช่วยลดโอกาสบาดเจ็บรุนแรง หรือลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตได้ ซึ่งคาร์ซีทก็มีหลายแบบมาก มีตั้งแต่คาร์ซีทเด็กแรกเกิด คาร์ซีทแบบกระเช้า คาร์ซีทสำหรับเด็กเล็ก และคาร์ซีทสำหรับเด็กโต นอกจากจะมีหลากหลายแบบแล้วก็ยังมีหลายยี่ห้อด้วย แล้วจะเลือกอย่างไรดี จะเลือกคาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี ? ให้กับลูกรักของเรา มารู้จักกับแต่ละประเภทของคาร์ซีทให้มากขึ้นก่อน ไปดูยี่ห้อที่ BabyGift แนะนำกันค่ะ คาร์ซีทเด็กแรกเกิด […]
ตัดเล็บทารก หน้าที่นี้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่มักจะแอบเกร็งเลยใช่ไหมคะ เพราะนิ้วลูกยังเล็กมาก เล็บก็ยังอ่อนและเปราะบาง คุณพ่อคุณแม่เลยกลัวว่าจะตัดเล็บเข้าเนื้อทำให้ลูกน้อยเจ็บตัวได้ แต่อย่ากลัวเลยค่ะ เพราะเรามี ”วิธีการตัดเล็บทารก” มาแชร์ให้อ่านกัน วิธีตัดเล็บนี้จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่มีความมั่นใจในการตัดเล็บให้ลูกน้อยมากขึ้น ตัดเล็บทารก เรื่องง่าย ๆ ถ้ารู้วิธีที่ถูกต้อง พร้อมอุปกรณ์ที่เหมาะสม ตัดเล็บทารก ควรตัดบ่อยแค่ไหน เล็บมือทารกจะยาวขึ้นวันละ 0.1 มม. ส่วนเล็บเท้าจะยาวช้ากว่า เด็กเล็กจึงควรตัดเล็บมือเฉลี่ย 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ และเล็บเท้า 2-3 ครั้งต่อเดือน ซึ่งช่วงเดือนแรกลูกน้อยเล็บยังนิ่ม แต่ก็สามารถบาดผิวลูกได้ จึงแนะนำให้ใช้การตะไบมากกว่าการตัด แต่หลังจากนั้นเล็บจะแข็งแรงขึ้น สามารถเลือกใช้ตะไบตัดเล็บหรือกรรไกรก็ได้ แล้วแต่ความถนัดของคุณพ่อคุณแม่ วิธีตัดเล็บทารก ตัดเล็บทารกให้ไม่เข้าเนื้อ ตัดเล็บเข้าเนื้อ อันตรายกว่าที่คิด การตัดเล็บให้ลูกน้อยอย่างไม่เชี่ยวชาญ ใช้อุปกรณ์ตัดเล็บไม่เหมาะสม และไม่ระวังมากพอ อาจทำให้ตัดเข้าเนื้อ เล็บฉีก จนลูกน้อยบาดเจ็บเลือดไหล และอันตรายไปถึงขั้นติดเชื้อได้เลยนะคะ จากข้อมูลเพจเรื่องเล่าจากโรงหมอ ได้นำเสนอข่าวเด็กวัยสิบเดือนที่ยายตัดเล็บให้ จากนั้นนิ้วโป้งเท้าของเด็กก็เริ่มบวม แดง อักเสบ มีไข้สูง เมื่อพาไปพบคุณหมอก็ได้ข้อวินิจฉัยว่าเด็กนิ้วเท้าอักเสบและติดเชื้อในกระแสเลือด คุณหมอจึงขออนุญาตคุณพ่อคุณแม่นำรูปมาโพสต์เตือนให้พ่อแม่ทุกคนระวังในการตัดเล็บลูกน้อยมากขึ้น เห็นแบบนี้แล้วคุณพ่อคุณแม่ต้องเลือกอุปกรณ์ตัดเล็บให้เหมาะกับวัยของลูกและควรตัดอย่างระมัดระวังมากขึ้นนะคะ ที่ตัดเล็บเด็ก ควรใช้แบบไหนให้ปลอดภัย 1. กรรไกรตัดเล็บเด็ก 2. […]
เมื่อลูกน้อยอายุประมาณ 5 เดือนขึ้นไป ฟันซี่แรกก็จะเริ่มขึ้น ฟันจะค่อย ๆ ดันเหงือกขึ้นมา ทำให้ลูกเริ่มมีอาการคันเหงือก เจ็บเหงือก ลูกเลยชอบที่จะหยิบของเล่นเข้าปากเพื่อกัดเล่น เคี้ยวเล่น ให้ผ่อนคลายอาการคันเหงือกนี้ แต่เพื่อความสะอาด เพื่อความปลอดภัยกับเหงือกและฟันซี่แรกของลูกน้อย คุณพ่อคุณแม่จึงมักจะมองหายางกัดมาให้ลูกน้อยได้กัดเล่น แต่ยางกัดเด็ก ไม่ใช่อะไรก็ได้นะคะ คุณพ่อคุณแม่ต้องมั่นใจด้วยว่า วัสดุไร้สารเคมี นุ่มอ่อนโยนสำหรับเด็ก รูปทรงไม่เป็นอันตราย และไม่ทำให้เหงือกและฟันของลูกน้อยบาดเจ็บ แล้วแบบนี้จะเลือกยางกัดเด็กอย่างไรดี เด็กแรกเกิดใช้ยางกัดได้ไหม เรามีคำตอบมาให้ในบทความนี้ค่ะ ยางกัดเด็ก ลดคันเหงือก แบบไหนดี ? ลูกควรใช้ได้ตอนอายุเท่าไหร่ สามารถเริ่มเล่นยางกัดได้ตั้งแต่อายุ 3 เดือน ขึ้นไป เนื่องจากยางกัดเด็กสามารถเป็นของเล่นเสริมพัฒนาการได้ หรือ เมื่อลูกอายุประมาณ 5 เดือน ให้คุณพ่อคุณแม่ลองสังเกตอาการลูก ว่ามักจะหยิบของเล่นทุกอย่างมากัดเล่นหรือเปล่า พอกัดไม่ได้เนื่องจากของเล่นนั้นแข็งเกินไป ระคายช่องปาก ก็จะทำให้ลูกร้องไห้งอแง เริ่มมีน้ำลายไหลมากขึ้นด้วย อาการเหล่านี้บ่งบอกว่าลูกอยากหาอะไรกัดเคี้ยวเล่นเพื่อบรรเทาอาการคันเหงือก ก็สามารถเริ่มใช้ยางกัดเด็กได้แล้วค่ะ ยางกัดเด็กมีกี่ประเภท พร้อมวิธีการเลือกยางกัดที่พ่อแม่ต้องรู้ ! 1. ยางกัดเด็กแบบซิลิโคน ยางกัดเด็กแบบซิลิโคน จะผลิตจากซิลิโคนฟู้ดส์เกรด BPA Free100% […]






