ขอใบสูติบัตร แจ้งเกิดภายในกี่วัน รู้ลึกขั้นตอนการขอสูติบัตรอย่างละเอียด
ถ้าคุณเป็นพ่อแม่มือใหม่ที่กำลังเตรียมพร้อมสำหรับการมาของลูกน้อย นอกจากจะต้องตระเตรียมของใช้จำเป็นต่าง ๆ แล้ว อีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่ละเลยไม่ได้เลยคือการแจ้งเกิดเพื่อขอสูติบัตร ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญทางกฎหมายที่เปรียบเสมือนใบเบิกทางแรกของลูกในโลกใบนี้ วันนี้เราจะมาเจาะลึกทุกขั้นตอนการขอสูติบัตรแบบละเอียด เพื่อให้คุณแม่คุณพ่อหมดกังวล และพร้อมต้อนรับสมาชิกใหม่ของครอบครัวอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด
ใบสูติบัตรคืออะไร
ใบสูติบัตร หรือที่หลายคนคุ้นเคยในชื่อ ใบเกิด คือเอกสารทางราชการที่ออกให้เพื่อรับรองการเกิดของบุคคล โดยถือเป็นเอกสารหลักฐานสำคัญที่ยืนยันสถานะความเป็นคนไทย และยังใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการขอเอกสารสำคัญอื่น ๆ เช่น บัตรประชาชน หรือหนังสือเดินทาง อีกทั้งยังเป็นการนำเข้าข้อมูลสู่ทะเบียนราษฎรอย่างเป็นทางการ ซึ่งเกี่ยวข้องกับสิทธิต่าง ๆ ที่ลูกน้อยพึงได้รับตามกฎหมาย
ทำไมต้องมีการแจ้งเกิด

การแจ้งเกิดเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะถือเป็นการทำตามกฎหมาย และเป็นการสร้างตัวตนทางทะเบียนราษฎรให้กับลูกน้อยอย่างถูกต้องสมบูรณ์ การมี ใบสูติบัตรทำให้ลูกได้รับสิทธิ์และสวัสดิการต่าง ๆ จากรัฐ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิ์ในการรักษาพยาบาล สิทธิ์ในการศึกษา หรือสิทธิ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสวัสดิการสังคม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับอนาคตของเด็ก นอกจากนี้ สูติบัตรยังเป็นหลักฐานยืนยันความสัมพันธ์ทางสายเลือดระหว่างพ่อแม่ลูกอีกด้วย
เอกสารสำคัญที่พ่อและแม่ต้องเตรียม
ก่อนจะไปแจ้งเกิด คุณพ่อคุณแม่ต้องเตรียมเอกสารให้พร้อม เพื่อความรวดเร็วและไม่เสียเวลาที่สำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอ เอกสารสำคัญที่ต้องใช้มีดังนี้
- บัตรประจำตัวประชาชนของผู้แจ้ง : ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อ คุณแม่ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ไปแจ้ง
- สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน : หรือหนังสือรับรองการแจ้งย้ายที่อยู่ เพื่อใช้ในการเพิ่มชื่อลูกเข้าทะเบียนบ้าน
- หนังสือรับรองการเกิด (ท.ร. 1/1) : เอกสารที่ออกให้โดยโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลที่เด็กเกิด
- ทะเบียนสมรส (ถ้ามี) : เพื่อใช้เป็นหลักฐานยืนยันสถานะสมรสของพ่อแม่
ขั้นตอนการแจ้งเกิดมีอะไรบ้าง
ขั้นตอนการแจ้งเกิดนั้นไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด แต่มีข้อปลีกย่อยที่แตกต่างกันไปตามแต่ละกรณี ซึ่งสามารถสรุปได้ง่าย ๆ ดังนี้
กรณีเด็กเกิดในโรงพยาบาล
ถือเป็นกรณีที่พบได้บ่อยและเป็นขั้นตอนที่ง่ายที่สุด เนื่องจากโรงพยาบาลจะออกหนังสือรับรองการเกิด (ท.ร. 1/1) ให้ ผู้แจ้งเพียงแค่เตรียมเอกสารที่จำเป็นดังต่อไปนี้
- บัตรประชาชนของผู้แจ้งและของบิดามารดา
- สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน
- หนังสือรับรองการเกิด (ท.ร. 1/1) ที่ออกโดยโรงพยาบาล
จากนั้นให้นำเอกสารทั้งหมดไปยื่นที่สำนักงานทะเบียนในพื้นที่ที่เด็กเกิด หรือที่บิดามารดามีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านได้เลยภายใน 15 วัน เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจสอบและออกสูติบัตรให้ภายในวันเดียวกัน
กรณีเด็กเกิดที่บ้านหรือสถานที่ที่ไม่ใช่สถานพยาบาล
ในกรณีนี้ผู้แจ้งจะต้องนำพยานบุคคล 2 คนที่สามารถยืนยันการคลอดได้ พร้อมเอกสารสำคัญไปแจ้งเกิดที่สำนักงานทะเบียนที่บิดามารดามีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านภายใน 15 วัน ซึ่งเอกสารที่ต้องใช้มีดังนี้
- บัตรประชาชนของผู้แจ้ง
- สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน
- พยานบุคคล อย่างน้อย 2 คนที่เห็นการคลอดหรือผู้ทำคลอด
เมื่อเอกสารครบถ้วน เจ้าหน้าที่จะสอบสวนพยานหลักฐานเพื่อออกใบแจ้งการเกิด (ท.ร.1 ตอนหน้า) และออกสูติบัตรให้ตามลำดับ
กรณีเด็กถูกทอดทิ้ง
หากพบเด็กถูกทอดทิ้ง ผู้ที่พบจะต้องรีบนำเด็กส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่ประชาสงเคราะห์โดยเร็วที่สุด ซึ่งหน่วยงานเหล่านี้จะเป็นผู้ดำเนินการแจ้งเกิดให้เด็กภายใน 15 วันนับจากวันที่รับเด็กไว้ โดยจะมีการรวบรวมหลักฐานต่าง ๆ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทะเบียนพิจารณาและออกสูติบัตรให้ต่อไป ซึ่งเอกสารที่ต้องใช้แจ้งเกิดกรณีนี้จะแตกต่างออกไป ดังนี้
- บัตรประจำตัวผู้แจ้ง
- สำเนาทะเบียนบ้านของสถานสงเคราะห์
- บันทึกการรับตัวเด็ก และหลักฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
กรณีที่เด็กมีพ่อหรือแม่ที่ไม่ใช่สัญชาติไทย หรือทั้งพ่อและแม่ไม่ได้มีสัญชาติไทย
สำหรับเด็กที่เกิดในประเทศไทย แต่มีพ่อหรือแม่เป็นชาวต่างชาติ หรือทั้งคู่เป็นชาวต่างชาติ ผู้แจ้งจะต้องนำเอกสารที่จำเป็นพร้อมกับเอกสารยืนยันตัวตนของชาวต่างชาติไปแจ้งเกิดที่สำนักงานทะเบียนท้องถิ่น ซึ่งเอกสารที่ต้องใช้ ได้แก่
- บัตรประชาชนของผู้แจ้ง
- หนังสือเดินทาง หรือเอกสารแสดงตนของบิดามารดาชาวต่างชาติ
- สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน
- หนังสือรับรองการเกิด (ท.ร. 1/1) ที่ออกโดยโรงพยาบาล
เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเอกสารและออกสูติบัตรให้ตามประเภทที่กำหนดไว้สำหรับผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทย
ต้องแจ้งเกิดภายในกี่วัน

ตามกฎหมายแล้ว คุณพ่อคุณแม่มีหน้าที่ต้องแจ้งเกิดลูกน้อย ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่เด็กเกิด หากพ้นกำหนดนี้แล้วจะถือว่าเป็นการแจ้งเกิดล่าช้า ซึ่งจะต้องเสียค่าปรับไม่เกิน 1,000 บาท อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่ไม่สามารถแจ้งเกิดได้ตามกำหนด ก็ยังสามารถแจ้งเกิดภายหลังได้ แต่ต้องไม่เกิน 30 วันนับจากวันที่เกิด โดยต้องมีเหตุผลและพยานหลักฐานมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่เพื่อพิจารณาด้วย
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการแจ้งเกิด
แจ้งเกิดออนไลน์ ได้หรือเปล่า
ปัจจุบันนี้ยัง ไม่สามารถ แจ้งเกิดออนไลน์ได้ ผู้แจ้งยังจำเป็นต้องเดินทางไปดำเนินการด้วยตนเองที่สำนักงานทะเบียนในพื้นที่ที่เด็กเกิดหรือพื้นที่ที่บิดามารดามีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน
แจ้งเกิดไม่มีทะเบียนบ้านต้องทำยังไง
หากไม่มีทะเบียนบ้านที่จะเพิ่มชื่อเด็กได้ คุณพ่อคุณแม่สามารถไปแจ้งเกิด ณ สำนักทะเบียนที่เด็กเกิดได้เลย โดยเจ้าหน้าที่จะออกสูติบัตรให้ก่อน แต่ยังไม่สามารถเพิ่มชื่อเด็กเข้าทะเบียนบ้านได้ จนกว่าจะมีการย้ายเข้าทะเบียนบ้านในภายหลัง
สามารถแจ้งเกิดย้อนหลังได้ไหม?
สามารถแจ้งเกิดย้อนหลังได้ หากพ้นกำหนด 15 วัน หรือ 30 วันตามกฎหมายแล้ว ผู้แจ้งจะต้องไปดำเนินการที่สำนักงานทะเบียนพร้อมเอกสารที่จำเป็นและจะต้องชำระค่าปรับตามที่กฎหมายกำหนด
สรุปบทความ
การแจ้งเกิดเพื่อขอสูติบัตรเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรละเลย เพราะเป็นใบเบิกทางที่สำคัญที่สุดสำหรับชีวิตของลูกน้อย แม้จะดูเป็นเรื่องที่ยุ่งยากในตอนแรก แต่เมื่อรู้ขั้นตอนและเตรียมเอกสารให้พร้อม ก็จะทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นมาก และเมื่อภารกิจเรื่องเอกสารผ่านพ้นไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะได้ใช้เวลาร่วมกับเจ้าตัวเล็กอย่างเต็มที่ และเมื่อไหร่ที่ต้องการตัวช่วยดี ๆ ที่เข้าใจเรื่องแม่และเด็กแบบรู้ลึกรู้จริง BabyGift ก็พร้อมที่จะเป็นเหมือนผู้ช่วยส่วนตัวที่อยู่เคียงข้างคุณเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการหาของเตรียมคลอดมีอะไรบ้าง หรือจะเป็นคำแนะนำดี ๆ เกี่ยวกับการเลือกเป้อุ้มเด็กยี่ห้อไหนดี เครื่องปั๊มนม หรือคาร์ซีทเด็กแรกเกิด ที่ BabyGift เราคัดสรรสินค้าแม่และเด็กที่ดีที่สุดเพื่อลูกน้อยของคุณ เพราะเราเชื่อว่าการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกคือความสุขของพ่อแม่ทุกคน
สามารถดูสินค้าทั้งหมดได้ที่ BabyGift Shop
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium
สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium
สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium
สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium
สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium
สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)
บทความแนะนำ
Aprica ก่อตั้งเมื่อปี 1947 ปี โดยทีมกุมารแพทย์จากประเทศญี่ปุ่น ด้วยความห่วงใยและใส่ใจเกี่ยวกับเด็กทารก เพราะถือว่าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเด็ก จึงได้ช่วยกันคิดค้นและวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นอย่างพิถีพิถัน โดยมีเป้าหมายคือการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเด็กและพ่อแม่ ด้วยความเชี่ยวชาญและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องกว่า 70 ปี Aprica จึงได้รับการยอมรับและไว้ว่างใจอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น Aprica เป็นบริษัทแรกในโลก ที่มีการใช้หุ่นจำลองเด็กทารกขนาด 5 kg. ที่มีมูลค่าสูงถึง 30 ล้านบาท โดยหุ่นจำลองนี้มีข้อต่อและอวัยวะในร่างกายเช่นเดียวกับเด็กทารก ติดตั้งเซ็นเซอร์ตัวรับสัญญาณในส่วนต่างๆ ทั่วร่างกาย เพื่อตรวจวัดการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นจากการกระแทกในอุบัติเหตุจำลองรูปแบบต่างๆ ได้รับรางวัลทรงเกียรติจากสถาบันนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็น
คุณอรุณศรี พิริยเลิศศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบบี้ กิ๊ฟ (ไทยแลนด์) จำกัด ได้รับเกียรติเชิญให้เป็นวิทยากรให้ความรู้แก่บุคลลากรทางการศึกษา จำนวน 70 ท่าน ภายใต้ชื่อ “ความจำเป็นของคาร์ซีทและการเลือกใช้คาร์ซีทอย่างไรให้ถูกวิธี” ณ โรงเรียนเลิศหล้า ทั้งนี้ความรู้เกี่ยวกับการเลือกใช้คาร์ซีทอย่างถูกวิธี เพื่อให้บุคลลากรทางการศึกษาได้มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับความจำเป็นของคาร์ซีท และสามารถนำมาปรับใช้กับนักเรียนในโรงเรียนได้ เพื่อให้สอดคล้องกับการบังคับใช้คาร์ซีทสำหรับเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 5 กันยายน 2565 นี้
คุณแม่อาจป้อนอาหารบดละเอียดให้ลูกเสริมกับการกินนมแม่เป็นหลัก หรือถ้าคุณพ่อคุณแม่คนไหนอยากฝึก BLW ให้ลูกกินข้าวด้วยตัวเองเป็นก็อาจให้ลูกหยิบจับอาหารนิ่ม ๆ กินเองโดยที่ไม่ต้องป้อนซึ่งอาจเป็นอาหารที่ไม่ผ่านการปรุงมาก อย่างเช่น ผักต้มนิ่มๆ ผลไม้นิ่มๆ เนื้อปลาต้มนิ่มๆ และเมื่อลูกย่างเข้าสู่เดือนที่ 8 เป็นต้นไป ลูกก็จะเริ่มกินอาหารได้หลากหลายมากขึ้น คุณพ่อคุณแม่ก็อาจมองหาเมนูอาหารใหม่ๆ ให้กับลูกน้อย ซึ่งในบทความนี้ BabyGift มีเมนูอาหารเด็ก 8 เดือน 5 เมนูอร่อยมาแนะนำกัน จะมีอะไรบ้างนั้น ลองไปดูกันค่ะ ชวนเข้าครัวเตรียมเมนูอาหารเด็ก 8 เดือนให้ลูกน้อย เด็ก 8 เดือนกินอะไรได้บ้าง ? พอลูกของเราอายุ 6 เดือนขึ้นไป ก็จะสามารถกินอาหารเสริมนอกเหนือจากนมแม่เพิ่มเติมได้ และถ้าเป็นไปได้ คุณแม่ก็ควรให้นมแม่ควบคู่กับการเพิ่มมื้ออาหารให้ลูก ซึ่งอาหารสำหรับเด็กอ่อนนั้น สามารถใช้วัตถุดิบได้หลากหลาย และเมื่อลูกอายุ 8 เดือนก็จะเริ่มมีฟันน้ำนม สามารถกินอาหารได้อย่างหลากหลายมากขึ้น เนื้อสัมผัสอาหารมีความหยาบได้มากขึ้น รวมถึงกินผลิตภัณฑ์จากนมอย่าง เนย ชีส และโยเกิร์ตได้ สำหรับเมนูอาหารเด็ก 8 เดือนที่เราจะแนะนำกันนั้น สามารถใช้วัตถุดิบอะไรได้บ้าง มาดูกันค่ะ แนะนำ […]
คาร์ซีท เป็นอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยที่สำคัญที่สุดสำหรับการเดินทางของลูกน้อย ตั้งแต่วันแรกที่ออกจากโรงพยาบาลจนถึงวัยเด็กโต การรู้ว่า คาร์ซีทมีกี่แบบ วิธีติดตั้งที่ถูกต้อง และตำแหน่งที่ปลอดภัยที่สุดในการติดตั้งคือสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ทุกคนต้องทราบ BabyGift จะมาไขข้อสงสัยทั้งหมดเพื่อให้ลูกรักของคุณปลอดภัยสูงสุดในทุกเส้นทางค่ะ คาร์ซีท ระบบติดตั้งมีกี่แบบ เป็นเรื่องที่ต้องดูเป็นอันดับแรก ว่ารถที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบันสามารถติดตั้งคาร์ซีทได้ด้วยระบบใด ซึ่งการติดตั้งจะมีอยู่ 2 ระบบ ดังนี้… ระบบนี้สามารถติดตั้งได้กับรถยนต์ทุกรุ่น ทุกคัน แต่ขั้นตอนการติดตั้งค่อนข้างจะยุ่งยาก จึงต้องศึกษาคู่มืออย่างละเอียด หรือ ให้พนักงานผู้เชี่ยวชาญช่วยติดตั้งให้เลย คือ ระบบการติดตั้งตามมาตรฐานยุโรป ติดตั้งง่าย ISOFIX จะมีในรถที่ผลิตในปี 2014 ขึ้นไป บางรุ่นที่เก่ากว่าปี 2014 ก็อาจจะมีเช่นกัน ดังนั้น ให้ลองสังเกตสัญลักษณ์ ISOFIX ที่เบาะด้านหลังว่ามีหรือไม่ หรือ หากไม่แน่ใจ ก็สามารถเอารุ่นรถ ปีรถ ไปสอบถามพนักงานผู้เชี่ยวชาญได้ คาร์ซีทเด็กมีกี่แบบ เลือกแบบไหนดี คาร์ซีทแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ คือ คาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิด และ คาร์ซีทสำหรับเด็กโต คาร์ซีทเด็กแรกเกิด มีดังนี้ คาร์ซีทแบบตระกร้าหิ้ว New […]
เชื่อว่าปัญหาที่หลายๆ บ้านจะต้องเจอก็คือ การที่ลูกรักไม่ยอมกินข้าว โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่อายุ 1 ขวบขึ้นไป เมื่อเริ่มเดินได้คล่อง เริ่มวิ่งได้บ้าง ก็จะติดเล่น ไม่ค่อยยอมกินข้าวหรือกินได้น้อย บางคนก็อมข้าว ไม่ยอมเคี้ยว หรือหันหน้าหนี กว่าจะป้อนหมดชามก็ใช้เวลานานเกินไป ซึ่งทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายๆ คนเป็นกังวล เพราะการที่ลูกเราไม่ยอมกินข้าวก็อาจส่งผลต่อสุขภาพและการเติบโตของลูกได้ แต่ปัญหาการกินของลูกรับมือได้ไม่ยากเลยค่ะ เพียงแค่ต้องให้เวลา ใช้ความเข้าใจ และต้องใจแข็งนิดหน่อย ก็จะทำให้ลูกมีวินัยในการกินมากขึ้น ลูกไม่ยอมกินข้าว 1 ขวบ จะแก้ปัญหาอย่างไรดี ? มาลองฝึกลูกน้อยไปพร้อม ๆ กันกับ BabyGift ได้เลยค่ะ ลูกไม่ยอมกินข้าว 1 ขวบ ทำยังไงดี ? ชวนดูเทคนิคดีๆ ที่ทำให้ลูกกินได้มากขึ้น การได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอในปริมาณที่เหมาะสมนั้นเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากสำหรับลูกน้อย เพราะส่งผลต่อการเจริญเติบโตตามวัย หากได้รับสารอาหารไม่เพียงพอนั้นอาจทำให้ลูกมีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์และสุขภาพไม่แข็งแรงได้ โดยทั่วไปแล้ว เมื่อเด็กอายุครบ 1 ขวบจะเริ่มเรียนรู้การปฏิเสธอาหารหรือคายอาหาร เนื่องจากมีพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวร่างกาย สามารถหยิบจับอาหารเข้าปากได้เอง การปฏิเสธ หรือคายอาหารจึงเป็นสัญชาตญาณอย่างหนึ่งที่ช่วยป้องกันไม่ให้ตัวเองกินสิ่งที่เป็นพิษหรือสิ่งแปลกปลอมเข้าไป โดยส่วนใหญ่แล้ว การที่ลูกไม่ยอมกินข้าว 1 ขวบนั้นจะเกิดขึ้นไม่นานและหายไปได้เอง แต่เด็กบางคนอาจมีพฤติกรรมกินยาก […]
คำถามติดอันดับยอดฮิตของคุณแม่มือใหม่คือ “เลือดล้างหน้าเด็กคืออะไร และต่างจากประจำเดือนอย่างไร?” เพราะเจ้าเลือดตัวนี้จะเป็นตัวชี้ชะตาเลยว่า เรากำลังจะเป็นแม่คนหรือเปล่า เอาล่ะค่ะ เราจะไม่ปล่อยให้คุณแม่ต้องสงสัยกันนาน ลองมาดูกันดีกว่าว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคุณแม่นั้นเป็นเลือดล้างหน้าเด็กหรือประจำเดือนกันแน่ เลือดล้างหน้าเด็กคืออะไร? เลือดล้างหน้าเด็กนั้นเป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าคุณกำลังจะเป็นแม่คน แต่ก็ไม่ใช่ว่าแม่ท้องทุกคนจะมีเลือดล้างหน้าเด็กนะคะ เลือดล้างหน้าเด็กก็คืออาการที่มีเลือดออกมาจากทางช่องคลอด แต่ก็เป็นแค่แบบกะปริบกะปรอยเท่านั้นเอง เลือดล้างหน้าเด็กเกิดจากอะไร? เลือดล้างหน้าเด็กเกิดจากการที่ตัวอ่อนเข้าฝังตัวกับเยื่อบุโพรงมดลูกค่ะ เพราะบางครั้งการฝังตัวนี้อาจจะทำให้หลอดเลือดฝอยในโพรงมดลูกแตก ทำให้มีเลือดออกมาจากช่องคลอด แต่ไม่ได้เยอะอะไรเท่าไหร่นะ เลือดล้างหน้าเด็กมาแค่วันเดียวใช่หรือไม่? ส่วนใหญ่แล้วเลือดล้างหน้าเด็กจะมาประมาณ 2-3 วันค่ะ แต่จะมาไม่ตรงกับรอบเดือนของเรานะคะ โดยจะมาก่อนครบกำหนดรอบเดือนประมาณ 1 อาทิตย์ เลือดล้างหน้าเด็กกับประจำเดือนต่างกันอย่างไร? เลือดล้างหน้าเด็กกับประจำเดือนค่อนข้างแตกต่างกัน และแยกได้อย่างค่อนข้างง่ายเลยล่ะค่ะ อย่างหนึ่งคือเลือดล้างหน้าเด็กจะมีสีที่จางกว่าเลือดประจำเดือนค่ะ และมีปริมาณไม่เยอะเท่า นอกจากนี้ในบางคนที่มีอาการปวดท้องประจำเดือนเป็นประจำแล้ว จะยิ่งสังเกตง่ายกว่าเดิมอีกค่ะ เพราะเลือดล้างหน้าเด็กจะไม่มาพร้อมกับอาการปวดท้องค่ะ และที่สำคัญคือ เลือดล้างหน้าเด็กจะมาไม่ตรงรอบเดือนของเราด้วย แล้วอาการแท้งคุกคามคืออะไร? อาการหรือภาวะแท้งคุกคามคือการแท้งบุตรที่มีเลือดออกมาจากทางช่องคลอดก่อนครบกำหนดคลอด โดยมาจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นความผิดปกติของทารกในครรภ์ คุณแม่ที่ตั้งท้องตอนที่มีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป โรคเรื้อรัง หรือตำแหน่งการฝังตัวของตัวอ่อนที่ผิดไปจากปกติ อาการแท้งคุกคามนี่เกิดขึ้นได้ในทุกไตรมาสของการตั้งครรภ์เลยนะคะ เพราะงั้นคุณแม่ที่กำลังท้องอ่อนๆ หรือยังไม่รู้ตัวว่าท้อง การมีเลือดออกมาจากทางช่องคลอดก็สามารถเป็นได้ทั้งเลือดล้างหน้าเด็ก ประจำเดือน และแท้งคุกคามเลย ความแตกต่างระหว่างเลือดล้างหน้าเด็กกับแท้งคุกคาม? ถ้าคุณยังไม่รู้ตัวว่ากำลังจะเป็นแม่คน แต่มีเลือดไหลออกมาจากทางช่องคลอดที่ไม่ตรงกับการมารอบเดือนแล้วนั้น จะมีสาเหตุได้อยู่สองอย่างค่ะ ก็คืออาจจะเป็นเลือดล้างหน้าเด็ก หรือแท้งคุกคาม […]
