คุณแม่มือใหม่ต้องรู้! รวมทุกเรื่องสำคัญเกี่ยวกับเครื่องปั๊มนม
คุณแม่มือใหม่กำลังคิดว่าจำเป็นต้องมีเครื่องปั๊มนมไว้ใช้หรือไม่? หรือกำลังสงสัยว่าควรเลือกแบบไหนดี? วันนี้เรามาตอบทุกคำถามเกี่ยวกับเครื่องปั๊มนมกันอย่างครบถ้วน เพื่อให้คุณแม่เตรียมตัวได้อย่างมั่นใจและเลือกซื้ออุปกรณ์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตัวเอง
ประโยชน์ของเครื่องปั๊มนม
เครื่องปั๊มนมเป็นผู้ช่วยสำคัญที่ช่วยให้คุณแม่สามารถเก็บนมแม่ไว้ล่วงหน้าได้ ช่วยแก้ปัญหาเมื่อต้องออกไปทำงานหรือมีธุระนอกบ้าน ลดความกังวลเรื่องลูกหิวนม นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการผลิตนมแม่ให้ต่อเนื่อง และบรรเทาอาการเต้านมตึงเมื่อมีนมมากเกินไป
เครื่องปั๊มนมมีกี่ประเภท
เครื่องปั๊มนมมีให้เลือกหลากหลายประเภทตามความต้องการ แต่ละแบบมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง
เครื่องปั๊มนมแบบใช้มือ
ที่ปั๊มนมแบบใช้มือเป็นตัวเลือกพื้นฐานที่เหมาะสำหรับคุณแม่ที่ไม่ได้ปั๊มนมบ่อย ใช้งานได้ทุกที่โดยไม่ต้องพึ่งกระแสไฟฟ้า ราคาไม่แพง และเก็บรักษาง่าย แต่อาจต้องใช้เวลานานกว่าและอาจเมื่อยมือในการใช้งาน
เครื่องปั๊มนมแบบไฟฟ้าเดี่ยว
เครื่องปั๊มนมไฟฟ้าแบบเดี่ยวใช้ปั๊มทีละข้าง ทำงานอัตโนมัติช่วยประหยัดแรงคุณแม่ เหมาะสำหรับการใช้งานเป็นครั้งคราว สะดวกกว่าแบบใช้มือและมีราคาที่เหมาะสม แต่ใช้เวลานานกว่าแบบปั๊มคู่เมื่อต้องปั๊มทั้งสองข้าง
เครื่องปั๊มนมแบบไฟฟ้าคู่
เครื่องปั๊มนมไฟฟ้าแบบคู่สามารถปั๊มทั้งสองข้างพร้อมกัน ประหยัดเวลาได้มาก เหมาะสำหรับคุณแม่ที่ต้องปั๊มนมเป็นประจำหรือต้องทำงานนอกบ้าน ช่วยกระตุ้นการผลิตนมได้ดีกว่า แต่ราคาสูงกว่าและต้องใช้พลังงานไฟฟ้า
เครื่องปั๊มนมสำหรับใช้ในโรงพยาบาล
เครื่องปั๊มนมระดับโรงพยาบาลมีขนาดใหญ่และประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับกรณีที่ลูกต้องเข้ารับการดูแลพิเศษในไอซียู หรือคุณแม่ที่มีปัญหาเรื่องการให้นม สามารถใช้ร่วมกันได้หลายคนโดยมีอุปกรณ์ส่วนตัวแยกกัน
วิธีการใช้เครื่องปั๊มนมที่ถูกต้อง
การใช้เครื่องปั๊มนมอย่างถูกต้องจะช่วยให้ได้นมมากขึ้นและปลอดภัย มีขั้นตอนดังนี้
- ล้างมือและอุปกรณ์ให้สะอาดก่อนใช้งานทุกครั้ง
- วางกรวยปั๊มให้ตรงกลางหัวนม ไม่ให้แน่นหรือหลวมเกินไป
- เริ่มด้วยความแรงต่ำและเพิ่มขึ้นค่อย ๆ ตามความสบาย
- ปั๊มแต่ละครั้งประมาณ 15-20 นาที หรือจนกว่านมจะหยุดไหล
- เก็บนมในตู้เย็นทันทีหลังปั๊มเสร็จ
เทคนิคการเลือกซื้อเครื่องปั๊มนมสำหรับมือใหม่
การเลือกเครื่องปั๊มนมที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์และความต้องการของแต่ละคน
- พิจารณาความถี่ในการใช้งาน หากปั๊มบ่อยควรเลือกแบบไฟฟ้า
- ดูขนาดของกรวยปั๊มให้เหมาะกับขนาดหัวนม
- เลือกแบรนด์ที่มีบริการหลังการขายและอะไหล่หาง่าย
- ตรวจสอบระดับเสียงถ้าต้องใช้ในที่สาธารณะ
- พิจารณางบประมาณและคุณสมบัติที่จำเป็นจริง
วิธีทำความสะอาดเครื่องปั๊มนม
การดูแลรักษาเครื่องปั๊มนมให้สะอาดเป็นเรื่องสำคัญมาก
- ล้างชิ้นส่วนที่สัมผัสนมด้วยน้ำเย็นทันทีหลังใช้
- ใช้น้ำอุ่นและน้ำยาล้างจานอ่อน ๆ ล้างทำความสะอาด
- ล้างน้ำให้สะอาดและผึ่งให้แห้งบนผ้าสะอาด
- ต้มฆ่าเชื้อเป็นครั้งคราวตามคำแนะนำของผู้ผลิต
- เช็ดตัวเครื่องด้วยแอลกอฮอล์และเก็บในที่แห้ง
3 เครื่องปั๊มนมที่คุณแม่เลือกใช้
เรามาดูเครื่องปั๊มนมยอดนิยม 3 รุ่นที่คุณแม่หลายคนให้ความไว้วางใจ แต่ละรุ่นมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ช่วยตอบโจทย์ความต้องการหลากหลายของคุณแม่ยุคใหม่
1. ATTITUDE MOM เครื่องปั๊มนมไร้สาย รุ่น EASY LIFE ll
เครื่องปั๊มนมไร้สายรุ่นนี้ตอบโจทย์คุณแม่ที่ต้องการความคล่องตัว พกพาง่าย ใช้งานได้ทุกที่โดยไม่ต้องหาเต้าเสียบ จุดเด่นที่โดดเด่น
- 4 โหมดการทำงานครบครัน ตั้งแต่โหมดกระตุ้นไปจนถึงโหมดรีดนม
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ 5-6 รอบ ชาร์จครั้งเดียวใช้ได้นาน
- น้ำหนักเบาเพียง 242 กรัม เสียงเบาเพียง 65 เดซิเบล
2. IMANI i2 Plus
เครื่องปั้มนมแฮนด์ฟรีที่มาพร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัย หน้าจอ LCD แสดงข้อมูลครบถ้วน เหมาะสำหรับคุณแม่ที่ต้องการความสะดวกสบายสูงสุด
- ระบบแฮนด์ฟรี ปั๊มได้โดยไม่ต้องใช้มือถือ
- 2 เครื่อง 2 มอเตอร์ ทำงานอิสระแยกกัน
- ฟังก์ชันจดจำการใช้งาน และตั้งเวลาปิดอัตโนมัติ
3. เครื่องปั๊มนม HAENIM 7X
เครื่องปั๊มนมเกรดโรงพยาบาลที่สามารถปรับการทำงานได้อย่างอิสระ ตอบโจทย์ทุกความต้องการสำหรับคุณแม่มือใหม่ เพื่อให้คุณแม่ไร้ความกังวลเรื่องการปั๊มนม ปั๊มนมแล้วเจ็บ ปั๊มนมแล้วไม่ออก ดูดลึกอย่างนุ่มนวล การันตีคุณภาพและผ่านการตรวจสอบการรับรองมาตรฐาน อย. ไทย
- สามารถปรับค่าการทำงานได้มากถึง 90 รูปแบบ
- แรงดูดอยู่ในช่วง 220-300 mmHg และรอบดูด 40-60 ครั้งต่อนาที
- กรวยพลาสติกเคลือบซิลิโคน นุ่ม ถนอมหัวนมแม่
สรุปบทความ
เครื่องปั๊มนมคือเพื่อนแท้ของคุณแม่ยุคใหม่ที่ช่วยให้การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นเรื่องง่ายและสะดวกมากขึ้น การเลือกซื้อที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณแม่มั่นใจในการดูแลลูกน้อย ที่ BabyGift เราเข้าใจดีว่าคุณแม่มือใหม่ต้องการคำแนะนำที่ถูกต้อง เราจึงคัดสรรเครื่องปั๊มนมคุณภาพจากแบรนด์ชั้นนำ พร้อมให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญที่เข้าใจความต้องการของคุณแม่อย่างแท้จริง
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
เมื่อพี่ตู่เตรียมคาร์ซีท พาน้องริสาออกไปเที่ยวครั้งแรก… แต่มะลิ (แม่บ้าน) ดันถอดเบาะคาร์ซีทไปซักซะงั้น งานนี้พี่ตู่ต้องใส่ผ้าหุ้มกลับเข้าไปเหมือนเดิม เบาะทั้งหมดแบ่งออกเป็น 3 ชิ้น ที่เข้าใจง่ายๆ พี่ตู่บอกว่าง่ายมาก ทำครั้งแรกก็ได้เลย #แท็กสามี #ซักคาร์ซีทให้หน่อย เพราะคุณแม่นุชออกไปทำธุระข้างนอก การพาน้องริสาออกไปเที่ยวครั้งนี้มีแค่สองพ่อลูกเท่านั้น คาร์ซีทจึงจำเป็นมาก พี่ตู่เลือกคาร์ซีท Ailebebe รุ่น Kurutto 4 Grance ผ้าหุ้มตาข่ายระบายอากาศได้ดี น้องริสานั่งแล้วสบายตัว ไม่อึดอัด ไม่งอแง สบายจังเลย…ปะป๋า ของีบแป๊บบบบนะคะ หมุนได้ 360 องศา อุ้มน้องริสาขึ้นลงคาร์ซีทได้ง่าย คาร์ซีท Ailebebe ปลอดภัยแน่นอน เพราะทุกตัวผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวด จากประเทศญี่ปุ่น รีวิวคาร์ซีท Ailebebe รุ่น Kurutto4
Aprica ก่อตั้งเมื่อปี 1947 ปี โดยทีมกุมารแพทย์จากประเทศญี่ปุ่น ด้วยความห่วงใยและใส่ใจเกี่ยวกับเด็กทารก เพราะถือว่าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเด็ก จึงได้ช่วยกันคิดค้นและวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นอย่างพิถีพิถัน โดยมีเป้าหมายคือการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเด็กและพ่อแม่ ด้วยความเชี่ยวชาญและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องกว่า 70 ปี Aprica จึงได้รับการยอมรับและไว้ว่างใจอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น Aprica เป็นบริษัทแรกในโลก ที่มีการใช้หุ่นจำลองเด็กทารกขนาด 5 kg. ที่มีมูลค่าสูงถึง 30 ล้านบาท โดยหุ่นจำลองนี้มีข้อต่อและอวัยวะในร่างกายเช่นเดียวกับเด็กทารก ติดตั้งเซ็นเซอร์ตัวรับสัญญาณในส่วนต่างๆ ทั่วร่างกาย เพื่อตรวจวัดการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นจากการกระแทกในอุบัติเหตุจำลองรูปแบบต่างๆ ได้รับรางวัลทรงเกียรติจากสถาบันนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็น
ไม่นานมานี้ดิฉันเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัดกับลูกๆทั้งสนุกสนานและปลอดภัยตั้งแต่ออกเดินทางจนถึงจุดมุ่งหมายเลยค่ะรู้สึกขอบใจตัวเองที่กัดฟันให้ลูกนั่งคาร์ซีท ตั้งแต่วันแรกที่ลืมตาดูโลก ทำให้ขับรถได้อย่างมีสมาธิ แต่กว่าจะถึงวันนี้ลูกก็เคยร้องไห้ประท้วงจนแหวะใส่เก้าอี้ตัวเองมาแล้ว ดิฉันใช้วิธีสงบสยบความเคลื่อนไหวร้องได้ร้องไป แค่ 15 นาทีเท่านั้น คลื่นลมก็สงบ ตั้งแต่นั้นมาลูกๆเรียนรู้เลยว่า เวลาขึ้นรถต้องไปนั่งที่ “เก้าอี้วิเศษ” ของตัวเองและนั่งทุกครั้งแม้ระยะทางจะใกล้หรือไกลเพราะอุบัติเหตุอาจเกิดจากภัยในรถ เช่น ลูกทะเลาะกันที่เบาะหลัง (เจอมาแล้ว) หรือปีนป่ายจนได้รับอันตราย คุณแม่ท่านไหนที่ยังไม่มั่นใจในคาร์ซีท carseat ว่าจะช่วยวันยุ่งๆของคุณแม่ได้มากน้อยแค่ไหน ลองเคล็ดลับต่อไปนี้ดูสิคะ แล้วลูกคุณจะรัก “เก้าอี้วิเศษ” ของตัวเองขึ้นเยอะเลย เคล็ดลับก่อนตัดสินใจเลือกซื้อคาร์ซีท อายุ ประเภทของคาร์ซีท คำแนะนำทั่วไป เด็กอ่อน คาร์ซีทสำหรับเด็กอ่อน เด็กอายุน้อยกว่า 1 ปี และมีน้ำหนักน้อยกว่า 9 kg.– ต้องนั่งคาร์ซีทแบบหันหน้าเข้าหาเบาะ เพราะคอยังไม่แข็งพอรับแรงกระแทกขณะรถวิ่ง เด็กก่อนวัยเรียน เก้าอี้แบบหันหน้าออก เด็กอายุ 1 ปี ขึ้นไป หรือหนัก 9 kg. ขึ้นไป เด็กเล็กวัยเรียน เบาะรองนั่ง เด็กควรสูงอย่างน้อย 120 cm.และต้องมั่นใจว่าเข็มขัดนิรภัยพาดที่ไหล่และต้นขาของเด็กอย่างพอดี เด็กโต เข็มขัดนิรภัย […]
หลากหลายฟังก์ชั่น ช่วงอายุการใช้งานยาวนาน รองรับเด็กมีความสูง 76 ถึง 150 ซมผ่านมาตรฐานความปลอดภัย I-size R 129 และการรับรองจากสภาบันชั้นนำ เบาะกว้าง นั่งสบาย นุ่มกว่าที่เคยสัมผัสรองรับเด็กน้ำหนัก 15 ถึง 36 กิโลกรัมผ่านมาตรฐาน ECE R44-04และการทดสอบจากสถาบันชั้นนำในยุโรป พกพาสะดวก ติดตั้งง่ายรองรับเด็กน้ำหนัก 15 ถึง 36 กิโลกรัมผ่านมาตรฐานความปลอดภัย ECE R44-04
คาร์ซีท คืออุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยสำหรับเด็กในขณะที่เดินทางด้วยรถยนต์ ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีราคา ฟังก์ชั่น ที่แตกต่างกัน ทำให้คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คน ไม่แน่ใจว่าจะเลือกแบบไหนดีที่ลูกยอมนั่ง โดยเฉพาะคาร์ซีทแรกเกิด ที่ต้องให้ความสำคัญและใส่ใจในการเลือกเป็นพิเศษ เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายของเด็กบอบบางที่สุด ซึ่งการจะซื้อคาร์ซีทให้ปลอดภัย ต้องเลือกจากหลาย ๆ อย่าง เช่น เลือกประเภทคาร์ซีทให้เหมาะกับการใช้งาน เหมาะกับวัย ส่วนสูง และน้ำหนักของลูก วันนี้ Babygift จึงจะพาพ่อแม่ทุกคน มารู้จักกันว่า คาร์ซีทมีทั้งหมดกี่แบบ แต่ละแบบมีข้อดี ข้อเสียอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลย ความสำคัญของการติดตั้งคาร์ซีท การติดตั้งคาร์ซีทอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการใช้งาน เพราะแม้จะซื้อรุ่นที่มีความปลอดภัยสูงสุด แต่หากติดตั้งผิดวิธี ก็อาจไม่สามารถปกป้องลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ งานวิจัยพบว่าเด็กที่ใช้คาร์ซีทที่ติดตั้งถูกต้องจะมีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บลดลงถึง 70% เมื่อเทียบกับการไม่ใช้เลย นอกจากนี้ วิธีนั่งคาร์ซีทที่ถูกต้อง ยังช่วยให้ลูกรู้สึกสบายและปลอดภัยในการเดินทางทุกครั้ง กฎหมายคาร์ซีท กฎหมายคาร์ซีทในประเทศไทยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 17 สิงหาคม 2566 โดยกำหนดให้เด็กต้องนั่งคาร์ซีทถึงกี่ขวบ คือ เด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ต้องมีคาร์ซีทระหว่างการโดยสารรถยนต์ หากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท แต่จะต้องทำตามหลักเกณฑ์ […]

ร้านสินค้าแม่และเด็กที่คัดสรรนวัตกรรมของใช้แม่และเด็กที่มี
คุณภาพให้คำปรึกษาและบริการ อย่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยให้การเลี้ยงลูกเป็นเรื่องง่าย ปลอดภัย และมีความสุข
Online Shopping
สาขา ปิ่นเกล้า ราชพฤกษ์
สาขา Mega บางนา
สาขา Central World
สาขา BTS วงเวียนใหญ่ (Outlet)
Copyright 2024 © Baby Gift (Retail) Co., Ltd.