วิธีนับอายุครรภ์สำคัญอย่างไร พร้อมแชร์วิธีการนับให้ได้ผลที่แม่นยำที่สุด

วิธีนับอายุครรภ์

การนับอายุครรภ์คือหนึ่งในเรื่องที่สร้างความสับสนให้คุณแม่มือใหม่หลายคน และมักจะถูกถามบ่อย ๆ ว่า “ตอนนี้ท้องกี่เดือนแล้ว?” “อายุครรภ์เท่าไหร่?” ซึ่งบางครั้งคุณแม่เองก็อาจจะยังไม่แน่ใจนัก การทราบอายุครรภ์ที่แม่นยำจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะไม่ใช่แค่เพื่อตอบคำถาม แต่ยังเพื่อความปลอดภัยและพัฒนาการที่ดีของลูกน้อยในครรภ์นั่นเอง วันนี้ BabyGift จะพาคุณแม่มาไขข้อสงสัยและเรียนรู้วิธีการนับอายุครรภ์ให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำที่สุดกัน

การนับอายุครรภ์สำคัญอย่างไร

การนับอายุครรภ์ที่ถูกต้องและแม่นยำมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดูแลสุขภาพทั้งของคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ เพราะจะช่วยให้แพทย์สามารถประเมินพัฒนาการของทารกได้อย่างเหมาะสมในแต่ละสัปดาห์ รวมถึงวางแผนการตรวจครรภ์และติดตามความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดการตั้งครรภ์ ซึ่งจะนำไปสู่การดูแลที่ตรงจุดและมีประสิทธิภาพสูงสุด

ประโยชน์ของการนับอายุครรภ์

การนับอายุครรภ์มีประโยชน์หลายอย่างที่คุณแม่ควรรู้ ประการแรกคือช่วยให้แพทย์ประเมินพัฒนาการของทารกในครรภ์ได้ตรงตามช่วงอายุจริง เช่น ขนาดของทารก หรือการเต้นของหัวใจ ประการที่สองคือช่วยกำหนดวันคลอดที่คาดการณ์ไว้ (EDC) ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในการเตรียมความพร้อมเรื่องของใช้ต่าง ๆ เช่น ของเตรียมคลอด ของใช้ลูกแรกเกิด อุปกรณ์แม่และเด็กมีอะไรบ้าง หรือการวางแผนการลาคลอด ประการที่สามคือใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจทางการแพทย์ เช่น การให้ยา หรือการทำหัตถการต่าง ๆ อย่างปลอดภัย

6 วิธีนับอายุครรภ์ที่ทำได้ด้วยตัวเอง

วิธีนับอายุครรภ์

การนับอายุครรภ์ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด คุณแม่สามารถเริ่มต้นคำนวณได้ด้วยตัวเองหลากหลายวิธี ซึ่งแต่ละวิธีก็มีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป

1. นับอายุครรภ์ที่นับตามวันแรกของประจำเดือนครั้งสุดท้าย

วิธีนี้เป็นวิธีพื้นฐานที่ใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับคุณแม่ที่จำวันแรกของประจำเดือนครั้งสุดท้ายได้แม่นยำ โดยสูตินรีแพทย์จะเริ่มนับอายุครรภ์จากวันแรกของประจำเดือนครั้งสุดท้ายที่มา (LMP) และใช้เป็นจุดเริ่มต้นของการตั้งครรภ์ ซึ่งปกติแล้วการตั้งครรภ์จะครบกำหนดที่ 40 สัปดาห์ หรือ 280 วัน นับจากวันแรกของประจำเดือนครั้งสุดท้าย และสามารถนำไปคำนวณวันคลอดที่คาดไว้ได้อย่างแม่นยำ

2. นับอายุครรภ์เป็นรายสัปดาห์

เพื่อให้ง่ายต่อการติดตามพัฒนาการของทารกในแต่ละช่วง การนับอายุครรภ์เป็นรายสัปดาห์จึงเป็นวิธีที่แพทย์นิยมใช้ โดยสัปดาห์ที่ 1-12 เป็นช่วงไตรมาสแรกที่ทารกมีการสร้างอวัยวะที่สำคัญ ส่วนสัปดาห์ที่ 13-26 เป็นไตรมาสที่สองที่ทารกเติบโตอย่างรวดเร็ว และสัปดาห์ที่ 27 เป็นต้นไปคือไตรมาสที่สาม ซึ่งเป็นช่วงที่อวัยวะต่าง ๆ สมบูรณ์เต็มที่และพร้อมสำหรับการคลอด

3. นับอายุครรภ์ตามวันที่ปฏิสนธิ

วิธีนี้เป็นการคำนวณอายุจริงของทารกในครรภ์ โดยอิงจากวันที่เกิดการปฏิสนธิ ซึ่งจะแตกต่างจากการนับตามวันแรกของประจำเดือนครั้งสุดท้ายประมาณ 2 สัปดาห์ เพราะโดยทั่วไปแล้วการตกไข่และการปฏิสนธิจะเกิดขึ้นประมาณ 2 สัปดาห์หลังวันแรกของประจำเดือนครั้งสุดท้าย อย่างไรก็ตามการคำนวณวิธีนี้ทำได้ค่อนข้างยากและแม่นยำน้อยกว่า เนื่องจากคุณแม่ส่วนใหญ่ไม่สามารถทราบวันที่ไข่ตกได้อย่างแน่ชัด

4. นับอายุครรภ์ด้วยคลื่นเสี่ยงความถี่สูงหรืออัลตร้าซาวนด์

การอัลตราซาวนด์เป็นวิธีที่แม่นยำที่สุดสำหรับการนับอายุครรภ์ โดยเฉพาะในช่วง 12 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ แพทย์จะใช้คลื่นเสียงความถี่สูงวัดขนาดของถุงตั้งครรภ์และตัวอ่อนในครรภ์ (Crown Rump Length) เพื่อคำนวณอายุครรภ์ที่แน่นอน วิธีนี้จึงเหมาะสำหรับคุณแม่ที่จำวันแรกของประจำเดือนครั้งสุดท้ายไม่ได้ หรือมีรอบเดือนมาไม่สม่ำเสมอ ซึ่งจะช่วยให้แพทย์ประเมินสุขภาพและพัฒนาการของลูกน้อยได้อย่างถูกต้องและแม่นยำที่สุด

5. นับอายุครรภ์ตามเดือนและไตรมาส

การนับอายุครรภ์เป็นเดือนและไตรมาสช่วยให้คุณแม่เข้าใจภาพรวมของการตั้งครรภ์ได้ง่ายขึ้น แม้แต่ละเดือนจะมีจำนวนสัปดาห์ไม่เท่ากันก็ตาม โดยไตรมาสแรกเริ่มจากสัปดาห์ที่ 1-13, ไตรมาสที่สองสัปดาห์ที่ 14-27, และไตรมาสที่สามสัปดาห์ที่ 28-42 ซึ่งการทำความเข้าใจในแต่ละช่วงจะช่วยให้คุณแม่เตรียมตัวและวางแผนรับมือการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ได้อย่างเป็นระบบ เช่น การเลือกซื้อเครื่องปั๊มนม หรือคาร์ซีทเด็กแรกเกิด

6. นับอายุครรภ์จากความรู้สึกแม่ว่าลูกดิ้นเป็นครั้งแรก

วิธีนี้เป็นการนับอายุครรภ์แบบดั้งเดิมที่อาศัยความรู้สึกของคุณแม่เป็นหลัก โดยคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ครั้งแรกมักจะเริ่มรู้สึกว่าลูกดิ้นครั้งแรกในช่วงอายุครรภ์ประมาณ 18-20 สัปดาห์ ส่วนคุณแม่ที่เคยมีประสบการณ์มาแล้วจะรู้สึกได้เร็วกว่าคือประมาณ 16-18 สัปดาห์ อย่างไรก็ตามวิธีนี้ไม่ใช่วิธีที่แม่นยำนักในทางการแพทย์ เนื่องจากความรู้สึกของแต่ละบุคคลมีความแตกต่างกันไปและอาจมีความคลาดเคลื่อนได้

หากจำประจำเดือนครั้งสุดท้ายไม่ได้จะนับอย่างไร

วิธีนับอายุครรภ์

หากคุณแม่จำวันแรกของประจำเดือนครั้งสุดท้ายไม่ได้ หรือมีรอบเดือนมาไม่สม่ำเสมอจนยากต่อการคำนวณ ไม่ต้องกังวลไป! วิธีที่แม่นยำและปลอดภัยที่สุดคือการไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อให้ใช้วิธีอัลตราซาวนด์ แพทย์จะใช้ขนาดของถุงตั้งครรภ์ (Gestational Sac) หรือความยาวของทารก (Crown Rump Length) เป็นเกณฑ์ในการคำนวณอายุครรภ์ที่แน่นอนได้ โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ วิธีนี้จะให้ผลที่แม่นยำที่สุดและยังสามารถใช้ตรวจดูพัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์ได้อีกด้วย

สรุปบทความ

การนับอายุครรภ์ที่แม่นยำเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการดูแลสุขภาพที่ดีของลูกน้อยในครรภ์ ไปจนถึงการเตรียมพร้อมสำหรับวันคลอด ไม่ว่าจะเป็นการเลือกซื้อเป้อุ้มเด็กยี่ห้อไหนดี หรือสินค้าแม่และเด็กอื่น ๆ BabyGift เข้าใจดีว่าการเป็นพ่อแม่มือใหม่ไม่ใช่เรื่องง่าย เราจึงพร้อมเป็นผู้ช่วยส่วนตัวที่รู้จริงเรื่องของใช้แม่และเด็กอย่างลึกซึ้งเสมอ เราพร้อมคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อคุณและลูกน้อย เพราะเราเชื่อว่าทุกช่วงเวลาของการเลี้ยงลูกควรเป็นความทรงจำที่สวยงามและเต็มไปด้วยความสุข สามารถดูสินค้าทั้งหมดได้ที่ BabyGift Shop

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00

บทความแนะนำ

คาร์ซีทนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับลูกน้อย และคุณพ่อคุณแม่ควรเตรียมพร้อมคาร์ซีทให้เรียบร้อยก่อนที่ลูกน้อยจะคลอด เพราะเมื่อออกจากโรงพยาบาลมาแล้วก็ต้องนั่งคาร์ซีทกลับบ้าน ทั้งเพื่อความปลอดภัยสำหรับลูกน้อยเอง และเพื่อปฏิบัติตามกฏหโมายเรื่องการกำหนดที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก (คาร์ซีท) ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม 2566 เป็นต้นไป สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกคาร์ซีท เด็กแรกเกิดอย่างไรดี ควรเลือกแบบไหน คาร์ซีทสำหรับเด็กมีกี่ประเภท เลือกอย่างไร BabyGift มีคำแนะนำดี ๆ มาฝากกันแล้วค่ะ  เลือกคาร์ซีท เด็กแรกเกิด อย่างไรดี ? ต้องรู้อะไร ? เลือกยังไงดี หาคำตอบได้จากบทความนี้ !  คาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิด เป็นหนึ่งในสิ่งที่ต้องเตรียมไว้ให้กับลูกตั้งแต่ก่อนคลอด และควรที่จะให้ลูกได้ใช้ตั้งแต่วันแรกที่ออกจากโรงพยาบาล เนื่องจากร่างกายของเด็กทารกยังไม่แข็งแรง ยังไม่สามารถรับแรงกระแทกได้มากเท่าไหร่ อีกทั้งเราไม่รู้ว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ จึงควรป้องกันไว้ก่อนและเตรียมความพร้อมในทุกสถานการณ์ คาร์ซีท เด็กแรกเกิด จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ไม่รู้จะเลือกอย่างไรดี ต้องเลือกแบบไหน คาร์ซีท มีกี่แบบ ต้องเลือกอย่างไร ? ในบทความนี้ BabyGift มีเคล็ดลับดีๆ ในการเลือกซื้อคาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิดมาฝากกันค่ะ เรามารู้จักประเภทของคาร์ซีทกันก่อนเลย ซึ่งสามารถแบ่งประเภทของคาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิดได้ดังนี้  1. New Born Only : หรือคาร์ซีทแบบกระเช้า คาร์ซีทประเภทนี้จะมีขนาดเล็ก […]

เพราะแม่แต่ละคนมีความเป็นตัวของตัวเองที่แตกต่าง Aprica จึงสรรสร้างนวัตกรรมที่รองรับทุกความต้องการด้วยรถเข็นเด็กหลากหลายรุ่นเพื่อตอบโจทย์ที่ไม่เหมือนกัน แล้วรถเข็นเด็ก Aprica รุ่นไหน เหมาะกับคุณไปดูกันเลย แม่ที่ใส่ใจทุกรายละเอียด ทุ่มเททุกความสุขเพื่อลูกและคนในครอบครัวเป็นสำคัญ ถ้าคำว่า “ที่สุด” คือนิยามของรถเข็นเด็กที่ดีที่สุดสำหรับลูก คือคำตอบเดียวที่คุณต้องการ รถเข็นเด็ก Aprica โดดเด่นในเรื่องนวัตกรรมใหม่ล่าสุดมอบความสบาย นุ่มนวล ปกป้องลูกน้อยแบบ 360 องศา ใส่ใจในสุขภาพและเสริมสร้างพัฒนาการ เพื่อเทวดานางฟ้าตัวน้อย รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Optia รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Soraria Magic basket คุณแม่ทรงพลัง คล่องแคล่ว ขี้เล่น ถ้าคุณและลูกน้อยต้องการความคล่องตัว พร้อมทุกสถานการณ์ รถเข็นเด็กน้ำหนักเบาแต่ครบทุกฟังชันท์ที่เหนือกว่า พร้อมเติมความคล่องตัวด้วยการใช้รถเข็นสลับกับเป้อุ้มเด็กได้ง่าย เป็นตัวช่วยที่ดี ไม่ว่าสถานการณ์ไหนๆ คุณแม่ก็พร้อม รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Luxuna CTS รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Luxuna Light คุณแม่เด็กแนว กิ๊บเก๋ทันสมัย ไม่ชอบตามใคร สนใจทางเลือกใหม่ๆ รักอิสระและความแปลกใหม่ รถเข็นเด็ก แบบ 3 ล้อเท่ห์ๆ ไม่เหมือนใครที่ผสมผสานทุกฟังก์ชั่นอย่างลงตัว และที่โดนใจยิ่งกว่าคือ ความแข็งแรง ทนทาน ไม่ว่าจะไปไหนก็พร้อมลุยทุกสภาพพื้นผิว ใช้ง่ายพับกางสะดวกและขนาดกระทัดรัด […]

          SIDS หรืออาการภาวะไหลตาย เป็นอีกหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เด็กทารกแรกเกิดเสียชีวิต ถือเป็นอีกสิ่งที่คุณพ่อ และคุณแม่ควรให้ความใส่ใจ และหาทางป้องกันไม่ให้เกิดอาการดังกล่าว ทาง BABY GIFT EXPERT จึงอยากพาคุณพ่อ คุณแม่ทุกคน มาทำความเข้าใจกันว่า SIDS คืออะไร และสามารถป้องกันได้อย่างไร SIDS คืออะไร         นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ ได้อธิบายถึงภาวะ SIDS (Sudden Infant Death Syndrome) หรือภาวะไหลตายไว้ว่า เป็นภาวะเสียชีวิตขณะนอนหลับ เกิดขึ้นได้แม้ในทารกที่มีสุขภาพแข็งแรงดี พบบ่อยในช่วงอายุเด็กแรกเกิดถึง 1 ปี และพบบ่อยที่สุดในช่วงที่อายุ 2-4 เดือน โดยส่วนมากมักจะพบในเด็กผู้ชายมากกว่าเด็กผู้หญิง สาเหตุของการเกิดภาวะ SIDS         SIDS มีสาเหตุมาจากการกีดขวางการหายใจของทารกขณะนอนหลับ เช่น การจัดท่าให้ทารกนอนคว่ำ หรือนอนตะแคง การที่มีผ้าห่มหรือวัตถุนิ่มๆปิดหน้าทารกขณะนอนหลับ การถูกผู้ใหญ่นอนทับ เป็นต้น เนื่องจากทารกยังไม่สามารถเคลื่อนไหวศีรษะได้ดี ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงของภาวะนี้ คือ ทารกเกิดก่อนกำหนด ควันบุหรี่ และอุณหภูมิห้องนอนที่ร้อน ซึ่งอุณหภูมิห้องนอนที่เหมาะสมของทารกคือ […]

Kids Item 2018-2019 ของเพจ Daddy’s day ได้แก่ แท่น แทน แท่น แท๊นนนนนน Aprica Nano smart คันนี้เลย หลายคนถามมาเรื่องรถเข็นเด็ก ว่าใช้รุ่นไหนยังไงดี ทาง Daddy’s Day ขอเลือกคันนี้เลย เอาจริงๆ รถเข็นที่บ้านมี 3 คัน ตั้งแต่ไฮเทคสุดแต่หนักมาก  ไม่ไฮเทค พับง่ายแต่น้ำหนักยังหนักอยู่ จนมาลงตัวกับ Nano smart ที่สุด ชอบมากสุด ใช้ดีต้องบอกต่อเลย บ้านเราได้ทดลองใช้พาไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วย เพราะต้องเดินเยอะ แถมทางที่ไปหลายที่ มีทั้งทางเรียบ ขรุขระ ขึ้นเขาลงห้วยสารพัด รถเข็นคันนี้เอาอยู่หมด ตอบโจทย์มาก #พับเล็กพร้อมเดินทาง แบบสุดๆ 1. ที่ชอบที่สุดคือน้ำหนักเบา พกพาสะดวก เพราะรถเข็นน้ำหนักแค่ 5.6 kg เท่านั้น แบกสบาย ( มีกระเป๋าใส่มาให้ด้วยนะคะ แต่ทางเราไม่ได้ใช้เพราะรีบ ต้องแบกของเยอะ ) Daddy แบกของคนเดียวสบายๆเลย […]

หนึ่งอุปกรณ์สำคัญเพื่อการเลี้ยงลูกที่คุณแม่ขาดไม่ได้คือ ขวดนม ที่คุณแม่ตั้งครรภ์หลายท่านอาจมองข้าม เพราะคิดและตั้งใจไว้แล้วว่าจะให้นมแม่ล้วนหลังคลอด ซึ่งอาจลืมไปว่าแม้จะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ แต่ขวดนมก็ยังมีความสำคัญและเป็นผู้ช่วยชั้นดีของการให้นมแม่ได้แน่นอน » ขวดนมจำเป็นแค่ไหน ? » ขวดนม มีกี่แบบ ? ปัจจุบันขวดนมสำหรับเด็กผลิตขึ้นจากวัสดุที่หลากหลาย มีหลายประเภทและหลายรูปทรงให้เลือก วัสดุของขวดนม ขวดนมสำหรับเด็ก มีทั้งขวดแก้ว ขวดพลาสติก และขวดที่ใช้แล้วทิ้ง(Disposable Liners)ที่ใส่ลงในขวดนมอีกที  แต่ปัจจุบันขวดนมส่วนใหญ่ที่นิยมใช้มักผลิตจากพลาสติกเพราะน้ำหนักเบา ตกไมแตก ทนความร้อนและหาซื้อง่าบ โดยมีทั้งขวดพลาสติกใส ขวดพลาสติกขาวขุ่น และขวดสีชา ที่ผลิตจากพลาสติกที่ต่างชนิดกัน 1. ขวดนม PP วัสดุ POLYPROPYLENE เป็นขวดนมที่มีสีโปร่งใส หรือสีขาวขุ่น มีน้ำหนักเบา ทนทาน โดยทนอุณหภูมิได้ตั้งแต่ -20 –110˚c มีอายุการใช้งานประมาณ 6 เดือน และอาจเหลือน้อยลงหากผ่านความร้อนจากการต้มหรือนึ่งบ่อยๆ 2. ขวดนม PES วัสดุ POLYETHERSULFONE เป็นขวดพลาสติกสีชาหรือน้ำผึ้ง สามารถทนอุณหภูมิได้ที่ -50–180˚c มีอายุการใช้งานยาวนานประมาณ 6 เดือน […]

หลากหลายฟังก์ชั่น ช่วงอายุการใช้งานยาวนาน รองรับเด็กมีความสูง 76 ถึง 150 ซมผ่านมาตรฐานความปลอดภัย I-size R 129 และการรับรองจากสภาบันชั้นนำ เบาะกว้าง นั่งสบาย นุ่มกว่าที่เคยสัมผัสรองรับเด็กน้ำหนัก 15 ถึง 36 กิโลกรัมผ่านมาตรฐาน  ECE R44-04และการทดสอบจากสถาบันชั้นนำในยุโรป พกพาสะดวก ติดตั้งง่ายรองรับเด็กน้ำหนัก 15 ถึง 36 กิโลกรัมผ่านมาตรฐานความปลอดภัย ECE R44-04 

Menu
All Categories
All Brands
All Ages
Promotions
Locations
BabyGift Family
BabyGift Care
Parents Guide
News & Event

All Categories

All Categories
All Brands
All Ages