รวม 10 รุ่น คาร์ซีทเด็กโต (อัปเดตปี 2024) พร้อมคำแนะนำเลือกยังไง ? เมื่อไหร่ถึงควรเปลี่ยนคาร์ซีท

ถึงเวลาเปลี่ยนคาร์ซีทกันแล้วหรือยังคะ ? 

เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่ที่เข้ามาอ่านบทความนี้ก็คงจะมีประสบการณ์เลือกคาร์ซีทเด็กเล็กกันมาบ้างแล้ว ตอนนี้กำลังมองหาคาร์ซีทเด็กโตให้กับเจ้าตัวน้อยที่กำลังนั่งตัวเดิมแล้วดูอึดอัดกันอยู่ใช่หรือเปล่าคะ ? ในบทความนี้ BabyGift จะชวนคุณพ่อคุณแม่มาดู 10 รุ่นคุณภาพดี พร้อมกับแนะนำการเลือกคาร์ซีทสำหรับเด็กโตกัน ลองมาดูกันว่า เมื่อเจ้าตัวเล็กของเราเริ่มจะโตขึ้น เราต้องใส่ใจกับเรื่องอะไรบ้าง มีคาร์ซีทรุ่นไหนบ้างที่น่าสนใจ มาหาคำตอบกันได้จากบทความนี้ค่ะ  

10 คาร์ซีทเด็กโตคุณภาพดี แนะนำรุ่นฮิต ถูกใจคุณพ่อคุณแม่ by babyGift ! 

การเลือกคาร์ซีทนั้น นอกจากจะเลือกตามอายุ น้ำหนัก หรือส่วนสูงของลูกน้อยแล้ว อายุการใช้งานของคาร์ซีทก็เป็นสิ่งที่เราควรจะพิจารณาเป็นพิเศษ ก่อนที่เราจะไปดูคาร์ซีทสำหรับเด็กโตทั้ง 10 รุ่นที่ BabyGift แนะนำ จะขอพาผู้อ่านทุกคนมาทำความเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสำคัญ และประเด็นต่างๆ ที่ควรจะพิจารณาก่อนเปลี่ยนคาร์ซีทกันก่อนค่ะ 

คาร์ซีทเด็กโต จำเป็นไหม ? ทำไมเด็กโตถึงยังต้องใช้คาร์ซีท 

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ให้ลูกนั่งคาร์ซีทตั้งแต่เป็นยังเป็นเด็กเล็กก็คงจะไม่มีปัญหาเรื่องการฝึกลูกนั่งคาร์ซีท แต่สำหรับบ้านไหนที่เด็กๆ เริ่มโตแล้ว และจะต้องนั่งคาร์ซีทตามข้อกฏหมายอันมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค. 2566 เป็นต้นมา ก็ไม่ต้องกังวลไปนะคะ การฝึกลูกนั่งคาร์ซีทไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป แต่ก็ยังมีคุณพ่อคุณแม่บางคนอาจจะเกิดคำถามในใจว่า คาร์ซีทสำหรับเด็กโต มีความจำเป็นไหม ? ซึ่งคาร์ซีทสำหรับเด็กโตนั้น  เป็นอุปกรณ์เสริมช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับเด็ก ๆ ในขณะที่นั่งรถยนต์เช่นเดียวกันกับคาร์ซีทสำหรับเด็กเล็ก 

ซึ่งโดยหลักการแล้ว ควรให้เด็กนั่งคาร์ซีทตั้งแต่เล็ก ๆ เนื่องจากเบาะรถยนต์และสายเข็มขัดนิรภัยในรถยนต์ ไม่ได้ถูกออกแบบเพื่อรองรับกับผู้โดยสารที่เป็นเด็กและมีส่วนสูงน้อยกว่า 150 เซนติเมตร หากเด็กใช้งานสายเข็มขัดนิรภัยของรถยนต์ สายเข็มขัดมักจะพาดตรงบริเวณลำคอ หรือ บริเวณใบหน้า ทำให้เด็กๆ ต้องดึงสายเข็มขัดลงมา จนอยู่ในท่าทางที่ไม่ถูกต้อง ไม่ปลอดภัย และถ้าหากมีการเบรกรถรุนแรง หรือเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน อาจเกิดอันตรายทำให้เด็กๆ บาดเจ็บได้ เช่น สายเข็มขัดกระแทกลำคอ กระแทกที่ใบหน้า ด้วยเหตุนี้ จึงต้องให้ลูกนั่งคาร์ซีทสำหรับเด็กโต และบูสเตอร์ซีท ที่มีการออกแบบเบาะและโครงสร้าง เพื่อทดแทนเบาะรถยนต์ที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อปกป้องตัวเด็ก ด้วยการเพิ่มความสูงของเบาะที่นั่ง พร้อมเสริมฟังก์ชั่นความปลอดภัย ที่จะช่วยให้เด็กๆ นั่งสบาย และปลอดภัยมากขึ้นเมื่อต้องเดินทาง 

คาร์ซีทเด็กโตมีกี่แบบ ? 

คาร์ซีทสำหรับเด็กโตสามารถแบ่งออกเป็น 2  ประเภท ดังนี้ 

1. คาร์ซีทสำหรับเด็กโต Forward Facing หรือ Combination Seat
คาร์ซีทแบบนี้ เหมาะใช้เป็นคาร์ซีทตัวที่ 2 ให้กับลูก ใช้งานแบบหันหน้าไปหน้ารถอย่างเดียว บางรุ่นมีเข็มขัดนิรภัย 5 จุด และปรับเป็นบูสเตอร์ซีทได้ในตัวเดียว จึงใช้งานได้ยาวนาน ส่วนใหญ่จะใช้ได้ตั้งแต่อายุ 1  – 12 ปี ตัวคาร์ซีทจะมีลักษณะเบาะกว้าง พนักพิงใหญ่และสูง เพื่อทำให้เด็กนั่งได้สบายและเหมาะสมกับการเจริญเติบโตของเด็ก 

ข้อดี  

  • โครงสร้างใหญ่ เบาะกว้าง ทำให้ลูกนั่งสบาย ไม่อึดอัด  
  • พนักพิงจะปรับความสูงได้เยอะ เพื่อรองรับสรีระเด็กได้ตามวัย  
  • บางรุ่นปรับเป็นบูสเตอร์ซีทได้ในตัวเดียว ใช้งานได้นาน  
  • วัสดุรองรับแรงกระแทกมีความแข็งแรง ทำให้คาร์ซีทมีความปลอดภัยสูง  

ข้อเสีย  

  • บางรุ่นจะมีน้ำหนักเยอะ เคลื่อนย้ายไม่ค่อยสะดวก  
  • บางรุ่นไม่สามารถปรับเบาะเอนนอนได้ อาจทำให้เด็กนอนหลับไม่สบาย ควรเลือกแบบปรับเอนได้  

2. Booster seat 
สำหรับบูสเตอร์ซีท จะแบ่งย่อยได้ 2 แบบ คือ บูสเตอร์ซีทแบบมีพนักพิง และ บูสเตอร์ซีทแบบไม่มีพนักพิง โดยมีรายละเอียดดังนี้  

บูสเตอร์ซีทแบบไม่มีพนักพิง
จะเป็นเบาะรองนั่ง น้ำหนักเบา พกพาสะดวก ฟังก์ชั่นหลัก ๆ จะช่วยเพิ่มความสูงให้เด็กๆ เพื่อให้คาดเข็มขัดนิรภัยของรถยนต์ได้อย่างพอดี สายเข็มขัดไม่รัดคอ เหมาะกับเด็กอายุ 4 ปีขึ้นไป 

ข้อดี 

  • มีน้ำหนักเบา พกพาสะดวก สามาถพกเดินทางไปต่างประเทศได้  

ข้อเสีย 

  • ไม่มีพนักพิงรองรับสรีระ เด็กจะพิงเบาะรถยนต์แทน   
  • ถ้าหากไม่มีตัวปรับสายเข็มขัด อาจทำให้เข็มขัดนิรภัยรัดจนเกินไป หรือ สายเข็มขัดอาจพาดที่คอของเด็กได้

บูสเตอร์ซีทแบบมีพนักพิง
บูสเตอร์ซีทมีพนักพิงจะช่วยให้นั่งสบายมากขึ้น นอกจากเพิ่มความสูงให้เด็กๆ คาดเข็มขัดนิรภัยของรถยนต์ได้อย่างพอดี สายเข็มขัดไม่รัดคอ ยังมีฟังก์ชั่นความปลอดภัยเสริมอีกด้วย เหมาะกับเด็กอายุ 4 ปีขึ้นไป BabyGift เคยเขียนเรื่องบูสเตอร์ซีทเอาไว้แล้ว สามารถอ่านเพิ่มเติมได้อีกนะคะ 

ข้อดี  

  • มีพนักพิงสูงใหญ่ หนานุ่ม จะช่วยให้เด็กนั่งพิงได้สบายมากขึ้น  
  • มีฟังก์ชั่นความปลอดภัยเสริม เช่น ซัพพอร์ตข้างศีรษะหนา กันกระแทกได้อย่างปลอดภัย  

ข้อเสีย  

  • บางรุ่นมีน้ำหนักเยอะ อาจเคลื่อนย้ายบ่อยไม่สะดวก  
  • บูสเตอร์ซีทที่มีพนักพิง ตัวเบาะจะกว้าง ต้องใช้พื้นที่ในการติดตั้ง  

เมื่อไหร่ที่ควรเปลี่ยนคาร์ซีทให้ลูก ? และจะเลือกอย่างไรดี ? 

การเลือกซื้อประเภทคาร์ซีทโดยทั่วไปนั้น จะพิจารณาจากน้ำหนักและส่วนสูงของเด็ก รวมถึงอายุของเด็ก ซึ่งสามารถแบ่งประเภทคาร์ซีทตามเกณฑ์ของลูกได้ดังนี้  

  • เด็กแรกเกิด – 3 ปี : ควรใช้คาร์ซีทสำหรับทารกที่เป็นแบบปรับให้หันหน้าไปด้านหลังรถ (Rear – Facing Car Seat) หรือมีน้ำหนักไม่เกิน 13 กิโลกรัม  
  • เด็กอายุ 3 – 6 ปี ควรใช้คาร์ซีทเป็นที่นั่งแบบหันหน้ามาด้านหน้า (Forward – Facing Car Seat) หรือมีน้ำหนักประมาณ 9 – 18 กิโลกรัม 
  • เด็กอายุ 4 – 12 ปี : ควรใช้ Booster Seat หรือคาร์ซีทที่เป็นที่นั่งแบบหันหน้ามาด้านหน้า สำหรับเด็กโตใช้ร่วมกับเข็มขัดนิรภัยปกติ (ขึ้นอยู่กับน้ำหนักและส่วนสูง) 

ซึ่งการพิจารณาเปลี่ยนคาร์ซีทให้ลูกนั้น อาจดูจากน้ำหนักและอายุของลูกว่า ควรใช้คาร์ซีทประเภทใด และคาร์ซีทที่ใช้ในปัจจุบันมีขนาดเล็กเกินกว่าอายุและน้ำหนักของลูกหรือไม่ หากลูกของเราถึงเกณฑ์ที่ต้องเปลี่ยนมาใช้คาร์ซีทเด็กโตแล้ว ก็ควรเปลี่ยนเพื่อความปลอดภัยและความสะดวกสบายของลูกค่ะ และถ้าลูกมีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป หรือมีความสูงมากกว่า150 เซนติเมตร ก็สามารถนั่งรถได้ตามปกติโดยไม่ต้องใช้คาร์ซีท และควรคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้งขณะโดยสารรถยนต์ และนอกจากนี้ การพิจารณาอายุการใช้งานของคาร์ซีทก็สำคัญ  ซึ่งโดยทั่วไปผู้ผลิตจะระบุเวลาคุณภาพการใช้งานระหว่าง 7 – 10 ปี หากคาร์ซีทมีอายุการใช้งานมากกว่านี้ก็สมควรเปลี่ยนใหม่ เพราะอาจมีการเสื่อมสภาพ และอาจป้องกันลูกน้อยจากการบาดเจ็บหากเกิดอุบัติเหตุได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ซึ่งสามารถอ่านบทความวิธีตรวจสอบวันหมดอายุของคาร์ซีท ที่ BabyGift ได้เคยเขียนเอาไว้แล้วเป็นข้อมูลเพิ่มเติมได้เลยนะคะ   

คาร์ซีทเด็กโต 10 รุ่นน่าใช้ อัปเดตปี 2024 ที่ BabyGift แนะนำ 

1. คาร์ซีท Ailebebe รุ่น Papatto Premium

คาร์ซีท Ailebebe สำหรับตั้งแต่เด็กเล็กถึงเด็กโต รุ่นนี้มี Head Support หนานุ่มถึง 3 ชั้น ช่วยป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง ช่วยปกป้องศีรษะและลำคอของเด็กได้เป็นอย่างดี หมอนนุ่ม ระบายอากาศได้ดี นอนพิงได้สบายมากขึ้น ปรับเอนตามเบาะรถยนต์ได้มากถึง 120 องศา ให้ลูกได้นั่งสบาย พร้อมมั่นใจในความปลอดภัย  

 จุดเด่น  

  • ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยจากยุโรป ECE R44/04  
  • ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ประคองหลังและโอบอุ้มร่างกายให้นั่งสบายตลอดทาง 
  • มี Top Tether ตะขอเกี่ยวเบาะหลัง ป้องกันคาร์ซีทคว่ำหน้า  
  • ซัพพอร์ตเป็นหมอนหนานุ่ม 3 ชั้น  
  • ผ้า Mesh เรียบนุ่ม ตลอดช่วงตัว ระบายอากาศดี  
  • ช่องระบายอากาศด้านหลัง 864 ช่อง ระบายอากาศดี  
  • พนักพิงปรับได้ตามความสูง ถึง 145 เซนติเมตร  
  • ปรับเอนนอนได้ตามเบาะรถยนต์ ได้ 120 องศา  
  • ปรับเป็นบูสเตอร์ซีท (Booster Seat) ได้ หรือ จะถอดพนักพิงเป็นบูสเตอร์ซีทแบบพกพาได้ 

การใช้งาน : เด็กอายุ 1 – 11 ปี หรือ น้ำหนัก 9 – 36 กิโลกรัม หรือมีส่วนสูง 75 – 145 เซนติเมตร  

การติดตั้ง : ระบบ ISOFIX 

แบรนด์ : ประเทศญี่ปุ่น 

2. คาร์ซีท Ailebebe รุ่น Swing Moon Premium S Natural

คาร์ซีทสำหรับเด็กโตที่สามารถปรับเอนนอนได้ในตัวถึง 3 ระดับ หมอนมีความหนานุ่ม ให้ลูกนั่งสบายได้ตลอดทาง แถมฟังก์ชั่นป้องกันการกระแทก รองรับสรีระช่วงลำคอเด็กให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมและตั้งตรงได้อย่างปลอดภัย พร้อมเบาะที่ซัพพอร์ตสะโพก ไม่ทำให้ลูกเมื่อยขณะนั่ง  

 จุดเด่น  

  • ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยจากยุโรป ECE R44/04  
  • มีหมอนรองศีรษะหนานุ่ม ปลอดภัยสูง  
  • มีหมอนรองสะโพก ทำให้นอนสบายขึ้น  
  • ทำจากผ้าธรรมชาติ สัมผัสนุ่มสบาย  
  • มีผ้า Mesh เรียบนุ่ม ตลอดช่วงตัว ระบายอากาศดี  
  • ช่องระบายอากาศด้านหลัง ระบายอากาศดี ทำให้ไม่ร้อน  
  • พนักพิงปรับได้ตามความสูง 120 เซนติเมตร  
  • ปรับเอนนอนได้ในตัว ถึง 3 ระดับ ปรับได้มากถึง 120 องศา ทำให้ลูกนอนสบาย 
  • ปรับเป็นบูสเตอร์ซีท (Booster Seat) ได้  

การใช้งาน : เด็กอายุ 1 – 7 ปี หรือ น้ำหนัก 9 – 25 กิโลกรัม หรือมีส่วนสูง 75 – 120 เซนติเมตร  

การติดตั้ง : ระบบ Belt 

แบรนด์ : ประเทศญี่ปุ่น 

3. คาร์ซีท Ailebebe รุ่น Swing Moon Standard

คาร์ซีท Ailebebe รุ่นนี้ มีการ์ดด้านข้างที่หนานุ่ม มีรูปทรงโค้ง ทำให้ลูกพิงสบายได้มากยิ่งขึ้น ช่วยป้องกันการกระแทกจากด้านข้าง และช่วยปกป้องศีรษะ ลำคอของเด็กๆ ได้อย่างปลอดภัย เบาะปรับเอนได้ในตัวถึง 3 ระดับ ซึ่งเป็นองศาที่เหมาะกับสรีระเด็กโต ช่วยให้นั่งสบายมากขึ้น พักผ่อนได้เต็มที่ตลอดการเดินทาง   

 จุดเด่น  

  • ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยจากยุโรป ECE R44/04  
  • ผ้า Mesh เรียบนุ่ม ตลอดช่วงตัว ระบายอากาศดี  
  • ช่องระบายอากาศด้านหลัง ระบายอากาศดี  
  • เบาะหนานุ่ม ไม่ยวบ ยืดหยุ่นสูง สามารถรองรับและกระจายน้ำหนักที่กดทับได้เป็นอย่างดี 
  • พนักพิงปรับได้ตามความสูง 120 เซนติเมตร 
  • ปรับเอนนอนได้ในตัว ถึง 3 ระดับ ปรับได้มากสุด 120 องศา  
  • ปรับเป็นบูสเตอร์ซีท (Booster Seat) ได้  

การใช้งาน : เด็กอายุ 1 – 7 ปี หรือ น้ำหนัก 9 – 25 กิโลกรัม รือมีส่วนสูง 75 – 120 เซนติเมตร  

การติดตั้ง : ระบบ Belt 

แบรนด์ : ประเทศญี่ปุ่น 

4. คาร์ซีท Ailebebe รุ่น Saratto Premium

คาร์ซีทของ Ailebebe รุ่น Saratto Premium มีความพิเศษคือ ปกป้องเด็กๆ ด้วย Impact Shield ไม่ต้องคาดเข็มขัด ลดความอึดอัดในการนั่งคาร์ซีทได้ดี จึงเหมาะสำหรับเด็กที่ไม่ชอบคาดเข็มคัดโดยเฉพาะ และได้รับรองความปลอดภัยแล้วว่า Impact Shield ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้คาร์ซีทได้  

จุดเด่น  

  • ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยจากยุโรป ECE R44/04  
  • ใช้ Impact Shield หรือ ที่กั้นหน้า ช่วยป้องกันการกระแทก เด็กไม่ต้องคาดเบลท์คาร์ซีท ไม่อึดอัด  
  • บุด้วยผ้า Mesh เรียบนุ่ม ตลอดช่วงตัว ระบายอากาศดี  
  • มีช่องระบายอากาศด้านหลัง ระบายอากาศดี  
  • ปรับพนักพิงปรับได้ตามความสูง ถึง 145 เซนติมตร  
  • ปรับเอนนอนได้ตามเบาะรถยนต์ 120 องศา  
  • ปรับเป็นบูสเตอร์ซีท (Booster Seat) ได้ หรือ จะถอดพนักพิงเป็นบูสเตอร์ซีทแบบพกพาได้ 

การใช้งาน : เด็กอายุ 1 – 11 ปี หรือ น้ำหนัก 9- 36 กิโลกรัม หรือมีส่วนสูง 74 – 145 เซนติเมตร  

การติดตั้ง : ระบบ Belt 

แบรนด์ : ประเทศญี่ปุ่น

5. คาร์ซีท Renolux รุ่น Olymp

หากอยากได้คาร์ซีทเด็กโตที่มีความนุ่มพิเศษ นั่งสบายมากๆ แนะนำเป็นตัวนี้เลยค่ะ ด้วยเทคโนโลยี Softness สิทธิบัตรหนึ่งเดียวของ Renolux ที่เลือกใช้เหล็กเป็นโครงสร้างหลักของคาร์ซีท ฉีดขึ้นรูปห่อหุ้มด้วยโฟมชนิดพิเศษ จึงมีความแข็งแรงทนทาน และดูดซับแรงกระแทกได้มากกว่าคาร์ซีททั่วไปถึง 40 เปอร์เซ็นต์ อุ่นใจทั้งในเรื่องของความปลอดภัย และความนุ่มสบายเลยล่ะค่ะ   

จุดเด่น  

  • ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ล่าสุดจากยุโรป ECE R129 (i-Size)  
  • เบาะนุ่มพิเศษ นั่งสบายเหมือนโซฟาระดับพรีเมี่ยม ด้วยเทคโนโลยี Softness Cushion  
  • ผ่านการทดสอบมาตรฐานความปลอดภัยจาก ADAC เยอรมนี และ TCS สวิตเซอร์แลนด์  
  • มี Side Protection ป้องกันการชน ช่วยรองรับแรงกระแทกจากอุบัติเหตุด้านข้าง   
  • มี Top Tether ตะขอเกี่ยวด้านหลังพนักพิงรถยนต์ ช่วยยึดคาร์ซีทไม่ให้เคลื่อนที่  
  • เนื้อผ้าสัมผัสเย็น ทักถอพิเศษแบบ Topstiches มีลายเส้น ทำให้นุ่ม นั่งสบายมากขึ้น  
  • ปรับเอนนอนสบายๆ ได้ถึง 108 องศา    
  • ปรับพนักพิงได้ตามความสูงของเด็ก  
  • ปรับเป็นบูสเตอร์ซีท (Booster Seat) ได้  

การใช้งาน : เด็กตั้งแต่ความสูง 76-150 เซนติเมตร หรือ อายุ 15 เดือน – 12 ปี 

การติดตั้ง : ระบบ ISOFIX 

แบรนด์ : ประเทศฝรั่งเศส 

6. คาร์ซีท Renolux รุ่น Renofix

คาร์ซีทอีกรุ่นหนึ่งของ Renolux ที่ใช้เทคโนโลยี Softness สิทธิบัตรหนึ่งเดียวของ Renolux ทำให้มีความแข็งแรงทนทาน และนั่งได้สบาย มีความนุ่มพิเศษ รองรับแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม มีขนาดใหญ่ ให้ลูกน้อยได้นั่งสบายไม่มีอึดอัด ปรับเอนนอนได้ถึง 4 ระดับด้วยระบบ ISOFIX  

จุดเด่น  

  • ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยจากยุโรป ECE R44/04  
  • ผ่านการทดสอบความปลอดภัยจาก ADAC เยอรมนี และ TCS สวิตเซอร์แลนด์  
  • เบาะหนานุ่ม เหมือนยกโซฟามาไว้บนรถ ด้วยเทคโนโลยี Softness Cushion  
  • รองรับการกระแทกได้ดี ลดการสั่นสะเทือนได้ถึง 40%  
  • เบาะไม่ดูดซับความร้อนจากร่างกาย นั่งแล้วเย็นสบาย  
  • ผ้า CoolSoft สัมผัสเย็น ทักถอแบบ Topstiches มีลายเส้น นั่งสบายมากขึ้น  
  • ปรับเอนนอนได้ตามเบาะรถยนต์  
  • พนักพิงนุ่ม ปรับพนักพิงศีรษะได้ตามความสูงถึง 150 เซนติเมตร 
  • มีที่พักแขน นั่งสะดวกสบายมาก  

การใช้งาน : เด็กอายุ 4 – 11 ปี หรือมีน้ำหนัก 15 – 36 กิโลกรัม หรือมีความสูง 100 เซนติเมตรขึ้นไป  

การติดตั้ง : ระบบ ISOFIX 

แบรนด์ : ประเทศฝรั่งเศส 

7. บูสเตอร์ซีท Renolux รุ่น Jet

หากกำลังมองหาบูสเตอร์ซีท แนะนำเป็นตัวนี้เลยค่ะ ใช้เทคโนโลยี Softness Cushion อีกเช่นเดียวกัน ทำให้ลูกนั่งได้สบาย ไม่มีเมื่อย ติดตั้งได้ง่ายด้วยสายเข็มขัดนิรภัย 3 จุด เบาะนั่งมีขนาดกว้าง นั่งสบาย มาพร้อมที่พักแขน เหมาะกับการเดินทางในระยะสั้น และครอบครัวที่เปลี่ยนรถยนต์เป็นประจำ 

จุดเด่น  

  • ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยยุโรป ECE R 44/04  
  • เบาะนุ่มพิเศษ นั่งสบายเหมือนโซฟา ด้วยเทคโนโลยี Softness Cushion  
  • รูปทรงออกแบบให้เหมาะกับสรีระเด็กโต นั่งสบายแม้เดินทางไกล  
  • เนื้อผ้าสัมผัสเย็น ทักถอพิเศษมีลายเส้น นั่งสบายมากขึ้น  
  • สะดวกพกพาเดินทาง และครอบครัวที่เปลี่ยนรถยนต์เป็นประจำ  

การใช้งาน : เด็กอายุ 4 -11 ปี หรือ น้ำหนัก 15 – 36 กิโลกรัม หรือมีความสูง 100 เซนติเมตรขึ้นไป  

การติดตั้ง : ระบบ Belt 

แบรนด์ : ประเทศฝรั่งเศส 

8. คาร์ซีท PRINCE & PRINCESS รุ่น Mark 12

คาร์ซีทสำหรับเด็กอายุ 3 – 12 ปี ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยยุโรป  ECE R 44/04 มี Safety Head Guard ป้องกันการกระแทกบริเวณศีรษะได้ดี มาพร้อม Safety Standard รองรับแรกกระแทกได้ดี ปกป้องลูกได้อย่างมั่นใจ ตัวคาร์ซีทรองรับสรีระลูกทุกช่วงวัย ใช้งานได้อย่างยาวนาน  

จุดเด่น  

  • ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยยุโรป ECE R 44/04  
  • เมื่อปรับพนักพิงศีรษะให้สูงขึ้น พนักพิงด้านข้างจะขยายออกไปพร้อมกัน รองรับกับสรีระของเด็กที่เจริญเติบโตขึ้น   
  • ที่ล็อกสายเข็มขัดนิรภัย ช่วยให้สายอยู่ในตำแหน่งที่ปลอดภัย ไม่รั้งคอ   
  • ปรับระดับพนักพิงศีรษะได้ 10 ระดับ   
  • ปรับเอนหลังได้ 3 ระดับ สูงสุด 104 องศา   
  • มีที่วางแก้วน้ำ และนวมหุ้มเข็มขัดนิรภัย   
  • บุด้วยเนื้อผ้า Twill Cationic ให้สัมผัสนุ่ม มีความยืดหยุ่น  
  • เบาะใช้ Memory Foam กระจายน้ำหนัก และลดแรงกดทับบริเวณพื้นผิว   
  • โครงสร้างใช้วัสดุ Polypropylene (PP) และ EPS Foam รองรับแรงกระแทกได้ดี   

การใช้งาน : เด็กอายุ 3-12 ปี ที่มีน้ำหนัก 15 – 36 กิโลกรัม 

การติดตั้ง : ระบบ Belt และ ISOFIX 

9. คาร์ซีท Kinderkraft รุ่น Xpand

คาร์ซีทสำหรับเด็กโตที่ได้รับมาตรฐานความปลอดภัยจากยุโรป มี H – Guard System ที่ช่วยปกป้องศีรษะและต้นคอจากแรงกระแทกเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน พร้อมพนักพิงแบบป้องกันการชนจากด้านข้างขนาดใหญ่ และมีที่วางแขนเพิ่มความปลอดภัย ออกแบบพิเศษตามสรีระเด็ก 

จุดเด่น  

  • ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยยุโรป ECE R 44/04  
  • มีที่ล็อกสายเบลท์ ปรับระดับได้ ป้องกันไม่ให้สายเบลท์พาดคอเด็ก  
  • เบาะหนานุ่ม นั่งสบาย  
  • วัสดุหนา รองรับการกระแทกได้ดี  
  • ปรับเอนนอนได้ตามเบาะรถยนต์  
  • พนักพิงนุ่ม ปรับพนักพิงศีรษะได้ตามความสูง ถึง 150 เซนติเมตร 
  • บุด้วยผ้า WOOL สัมผัสนุ่ม สบายผิว  
  • มีที่พักแขน นั่งสะดวกสบายมาก  

การใช้งาน : เด็กอายุ 3 – 12 ปี หรือ ส่วนสูง 100 เซนติเมตรขึ้นไป 

การติดตั้ง : ระบบ ISOFIX 

แบรนด์ : ประเทศเยอรมันนี 

10. คาร์ซีท Kinderkraft รุ่น Comfort Up

คาร์ซีทสำหรับเด็กโตจากแบรนด์  Kinderkraft ที่มีการรองรับมาตรฐานความปลอดภัยยุโรป R129 (i – Size) จากประเทศเยอรมนี มีน้ำหนักเบาเพียง 6 กิโลกรัม เคลื่อนย้ายได้สะดวก รองรับการใช้งานยาวนานถึง 12 ปี โครงสร้างคาร์ซีทใหญ่ แข็งแรง ดูดซับแรงกระแทกได้ดี ซัพพอร์ตหนานุ่ม ให้ลูกน้อยนั่งได้สบาย 

จุดเด่น  

  • ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ล่าสุดจากยุโรป ECE R129 (i-Size)  
  • น้ำหนักเบาเพียง 6 กิโลกรัม ติดตั้งง่าย เคลื่อนย้ายสะดวก  
  • บุด้วยผ้า MESH เรียบนุ่มตามช่วงตัว ช่วยให้เย็นสบาย ระบายอากาศได้ดี  
  • ปรับเอนนอนได้ตามเบาะรถยนต์ 100 องศา ทำให้ลูกนอนสบายมากขึ้น  
  • ใช้งานได้ทั้งแบบหันหน้าไปหน้ารถ (Forward Facing) และปรับเป็นบูสเตอร์ซีทเด็กโต (Booster Seat) 
  • มี Head Support หนา 3 ชั้น ปกป้องศีรษะและลำคอเด็กได้อย่างแน่นหนา  
  • การ์ดด้านข้างแข็งแรง ป้องกันการกระแทกได้อย่างปลอดภัย  

การใช้งาน : เด็กอายุ 15 เดือน – 12 ปี หรือ ส่วนสูง 76 – 150 เซนติเมตร  

การติดตั้ง : ระบบ Belt 

แบรนด์ : ประเทศเยอรมันนี

การเลือกคาร์ซีทเด็กโตให้ลูกของเรานั้น ก็ต้องคำนึงถึงความสะดวกสบายและความปลอดภัยของเด็กเป็นหลัก หากคาร์ซีทตัวเดิมที่มีอยู่ดูจะเล็กเกินไปสำหรับลูกของเรา ก็อาจถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนคาร์ซีทตัวใหม่ให้กับลูก ซึ่งก็มีหลากหลายแบรนด์ หลากหลายรุ่น หลากหลายแบบให้เลือกด้วยกัน หากคุณพ่อคุณแม่ท่านใดต้องการสอบถามรายละเอียดของสินค้าเพิ่มเติม ก็สามารถสอบถามมาได้ที่  BabyGift ร้านจำหน่ายสินค้าแม่และเด็กระดับคุณภาพ มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี ในการคัดสรรคาร์ซีทที่ดีที่สุดสำหรับเด็กทุกช่วงวัย คุณพ่อคุณแม่สามารถพาเด็กๆ มาลองนั่งคาร์ซีทได้ทุกรุ่น หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ร้านเบบี้กิ๊ฟทั้ง 6 สาขา ใกล้บ้าน หรือสอบถามผ่านช่องทาง Online ทีมงาน BabyGift ยินดีให้คำแนะนำค่ะ  

 อ้างอิงที่มาข้อมูลบางส่วนจาก : https://www.princsuvarnabhumi.com/news/car-seat  
www.samitivejhospitals.com/th/article/detail/ลูกนั่ง-car-seat  

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00

บทความแนะนำ

ขอแสดงความยินดีกับว่าที่คุณแม่คนใหม่ด้วยนะคะ! กำลังกังวลกันอยู่ใช่มั้ยล่ะ ว่าตอนท้องอ่อนๆ จะสามารถทำอะไรได้บ้างทำอะไรไม่ได้บ้าง วันนี้เราเลยนำเรื่องที่คุณแม่มือใหม่ควรหลีกเลี่ยงมาบอกกันค่ะ ไม่แปลกใจที่คุณแม่บางท่านจะกังวลมากๆ ในช่วงท้องอ่อน เพราะในช่วงสามเดือนแรกนั้น อวัยวะต่างๆ ของลูกน้อยในท้องของคุณแม่ยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ค่ะ ดังนั้นในระยะนี้จึงมีความเสี่ยงต่อการแท้งมากกว่าในไตรมาสอื่นๆ ช่วงนี้คุณแม่ที่ท้องอ่อนๆ ต้องใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการรับประทานอาหาร สิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัว หรือการใช้ยาต่างๆ ดังนั้น เรื่องความปลอดภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญ กังวลได้แต่อย่าเครียดนะ เพราะความเครียดก็เป็นสิ่งที่คุณแม่ต้องพึงระวังไว้ด้วย กำลังคิดจะไปทานแซลมอน ลาบก้อย หอยนางรมฉลองสมาชิกใหม่กันอยู่รึเปล่า ช่วงนี้คุณแม่อาจจะต้องงดไว้ก่อนนะ เพราะอาหารที่ปรุงไม่สุกส่วนใหญ่อาจปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียที่จะทำให้คุณแม่ท้องเสียหรืออาเจียนได้ แถมยังอาจทำให้เป็นโรคทอกโซพลาสโมซิส (Toxoplasmosis) ซึ่งเจ้าโรคนี้เนี่ยมันเกิดจากเชื้อปรสิตทอกโซพลาสมา กอนดิไอ(Toxoplasma gondii) ที่สามารถแพร่ไปสู่ลูกน้อยในท้องของคุณแม่ได้ค่ะ เห็นชื่อน่ากลัวแบบนี้ มันก็น่ากลัวจริงๆ นะ เพราะหากติดโรคนี้ตอนท้องก็อาจจะทำให้แท้งไปเลย หรือไม่ก็ลูกอาจจะเสียชีวิตในท้อง ไม่ก็อาจมีอาการของโรคเมื่อคลอดออกมา สังเกตง่ายๆ เลยค่ะ ถ้าคุณแม่ที่ติดเชื้อนี้ตอนท้อง ลูกคลอดออกมาจะมีขนาดศีรษะที่ไม่ปกติ อาจจะเล็กหรือไม่ก็ใหญ่กว่าเด็กคนอื่นๆ แถมพอโตไปก็อาจจะตาบอดหรือสติปัญญาอาจจะด้อยกว่าเด็กอื่นๆ ด้วยนะ แต่แต่แต่ ถ้าคุณแม่เคยเป็นโรคนี้ก่อนท้องแล้วก็ชิวชิวค่า เพราะร่างกายคุณแม่มีภูมิคุ้มกันแล้ว ไม่กลับมาเป็นอีกแล้วล่ะ คุณแม่ที่กำลังใช้ยาอยู่ หยุดก่อนค่ะ! ได้ถามคุณหมอรึยังว่ายาตัวนั้นคนท้องทานได้มั้ย คุณแม่อย่าชะล่าใจไปน้าเพราะยามีหลายประเภทแล้วก็ออกฤทธิ์แตกต่างกัน เพราะงั้นยาบางตัวอาจมีผลต่อการสร้างอวัยวะของลูกน้อยได้ เช่นพวกยารักษาสิว Isotretinoin นี่ตัวดีเลยค่ะ เพราะมันเป็นยาที่รุนแรงมาก มากจนอาจทำให้ลูกพิการได้เลยนะ หรือพวกยาที่ใช้รักษาไมเกรน เช่น Cafergot เพราะมันทำให้มดลูกของพวกเราบีบตัวจึงอาจทำให้คลอดก่อนกำหนดได้ พอคุณแม่ทานยาเข้าไปปุ๊ป ลูกก็จะได้ยาพวกนี้ผ่านทางรกด้วยค่ะ แต่ผลกระทบต่อลูกก็จะขึ้นอยู่กับปริมาณยาที่คุณแม่ทานเข้าไปนะ เพราะฉะนั้นหากจะทานยา […]

ปัจจุบันคุณพ่อคุณแม่หลายครอบครัวให้ความสำคัญกับ “คาร์ซีท” หรือ เบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็ก เป็นอุปกรณ์จำเป็นเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกน้อยในขณะที่เดินทางด้วยรถยนต์กันเป็นจำนวนมาก โดยล่าสุด นางสาวอรุณศรี พิริยเลิศศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบบี้ กิ๊ฟ (ไทยแลนด์) จำกัด ได้รับเกียรติเข้าเยี่ยมชม “Aprica Central Research Center” ที่เมืองนารา ประเทศญี่ปุ่น และแลกเปลี่ยนความรู้กับผู้เชี่ยวชาญด้านคาร์ซีท เจาะลึกถึงแนวคิดการออกแบบที่สอดคล้องกับสรีระของเด็กในแต่ละช่วงวัย การเลือกสรรวัสดุที่ปลอดภัย และขั้นตอนการผลิตที่ได้มาตรฐาน รวมไปถึงวิธีทดสอบคาร์ซีทในห้องปฎิบัติการด้านความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลก อะปริก้า (Aprica) ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.  2490 โดยทีมกุมารแพทย์จากประเทศญี่ปุ่น ด้วยความห่วงใยและใส่ใจเกี่ยวกับเด็กทารก เพราะถือว่าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเด็ก จึงได้ช่วยกันคิดค้นและวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นอย่างพิถีพิถัน โดยมีเป้าหมายคือการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเด็กและพ่อแม่ ด้วยความเชี่ยวชาญและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องกว่า 70 ปี อะปริก้า จึงได้รับการยอมรับและไว้วางใจอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น และอะปริก้ายังได้รับเกียรติให้เป็นผู้จัดทำรถเข็นและผลิตภัณฑ์เด็กรุ่นพิเศษ ภายใต้ชื่อ Royal Knot เพื่อทูลเกล้าถวายแด่ราชวงศ์ในประเทศญี่ปุ่น รวมถึงเชื้อพระวงศ์ในอีกหลายประเทศทั่วโลก Aprica Central Research Center เป็นศูนย์กลางวิจัยเกี่ยวกับการคิดค้นผลิตภัณฑ์เด็กตั้งอยู่ในเมืองนาราประเทศญี่ปุ่นด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 10,000 ล้านเยน เพื่อเป็นศูนย์กลางในการรวบรวมประวัติความเป็นมาของแบรนด์อะปริก้า แนวคิดปรัญชาการพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก รวมทั้งเทคโนโลยีนวัตกรรมที่ทันสมัย โดยเฉพาะด้าน Childcare Engineering […]

การเป็นแม่มือใหม่อาจจะเป็นเรื่องที่ทั้งสนุกและท้าทายอย่างมาก สำหรับแม่มือใหม่หลายๆ คนที่เพิ่งมีลูกคนแรก ย่อมต้องเผชิญกับปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นประจำ ซึ่งบางครั้งอาจทำให้รู้สึกเครียดและสับสน แต่ไม่ต้องกังวล เพราะทุกปัญหามีวิธีการจัดการที่สามารถทำได้ทันที วันนี้เรามี 5 ปัญหาที่แม่มือใหม่เจอบ่อย พร้อมวิธีแก้ไขที่ได้ผลทันทีมาฝากค่ะ 1. ลูกไม่ยอมนอนตอนกลางคืน หนึ่งในปัญหาที่แม่มือใหม่มักเจอบ่อยคือ ลูกไม่ยอมนอนตอนกลางคืน ตื่นบ่อย หรือร้องไห้จนทำให้แม่ไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ นี่อาจเกิดจากการที่เด็กยังไม่คุ้นเคยกับการนอนตอนกลางคืน หรือยังปรับตัวไม่ได้กับตารางเวลา วิธีแก้ไข: 2. ลูกไม่ยอมกินนม/อาหารเสริม หลายๆ แม่มือใหม่มักจะพบว่า ลูกไม่ยอมกินนมแม่หรือนมขวด หรือแม้กระทั่งปฏิเสธอาหารเสริม แม้จะพยายามหลายครั้งแล้วก็ตาม วิธีแก้ไข: 3. ลูกร้องไห้ไม่หยุด หนึ่งในปัญหาที่ท้าทายมากสำหรับแม่มือใหม่คือการที่ลูกร้องไห้ไม่หยุด ซึ่งบางครั้งอาจทำให้แม่รู้สึกวิตกกังวลและไม่รู้วิธีการช่วยลูก วิธีแก้ไข: 4. ปัญหาน้ำนมไม่พอ แม่มือใหม่หลายคนจะมีความกังวลเรื่องน้ำนมไม่พอให้ลูกดื่ม ซึ่งอาจเกิดจากความเครียดหรือการให้นมไม่สม่ำเสมอ วิธีแก้ไข: 5. รู้สึกเครียดหรือเหนื่อยล้าจากการเลี้ยงลูก การเป็นแม่มือใหม่ที่ต้องดูแลลูกอย่างต่อเนื่องอาจทำให้เกิดความเครียดและรู้สึกเหนื่อยล้า ทำให้บางครั้งแม่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ดีพอ วิธีแก้ไข: บทสรุป ปัญหาที่แม่มือใหม่เจอบ่อยนั้นเป็นสิ่งที่สามารถจัดการได้ด้วยการมีความรู้และวิธีการที่ถูกต้อง อย่าลืมว่าการเลี้ยงลูกไม่ใช่การแข่งกับเวลา แต่คือการเรียนรู้และปรับตัวไปพร้อมๆ กัน ไม่ต้องกังวลหรือเครียดเกินไป ขอให้แม่มือใหม่ทุกคนมีความสุขกับการเลี้ยงดูลูกอย่างเต็มที่ และรู้สึกมั่นใจในการตัดสินใจที่ดีที่สุดเพื่อสุขภาพและความสุขของลูกค่ะ!

การเลือกซื้อรถเข็นคันแรกให้ลูกน้อย อาจจะเป็นปัญหาชวนปวดหัวสำหรับคุณพ่อคุณแม่ เพราะปัจจุบันรถเข็นเด็กมีหลากหลายรูปแบบให้เลือกเยอะมากมาย จนหลายคนตัดสินใจไม่ถูก ว่าจะเลือกรถเข็นเด็กยี่ห้อไหนดี ? ต้องดูที่อะไรบ้าง ให้เหมาะกับลูกน้อยในวัยแรกเกิด และตรงตามไลฟ์สไตล์คุณพ่อคุณแม่ วันนี้ Baby Gift มีคำตอบ . . . “ เพราะ รถเข็นเด็ก ทุกคันไม่ได้เหมาะกับเด็กแรกเกิดทุกคัน ” หลายคนยังเข้าใจผิดว่า รถเข็นเด็ก แต่ละคัน ดูๆแล้วก็คล้ายๆกัน น่าจะใช้เหมือนๆ กันแต่ในความเป็นจริง แล้วเด็กแรกเกิดมีความบอบบางและต้องการการดูแลเป็นพิเศษ รถเข็นเด็กสำหรับเด็กแรกเกิดจึงต้องมีคุณสมบัติเฉพาะที่นอกจากจะช่วยปกป้องสรีระของลูกน้อย  แล้วยังช่วยเสริมพัฒนาการรอบด้าน สร้างสุขอนามัยที่ดี และสร้างรอยยิ้มแห่งความสุขให้ทั้งคุณแม่และลูกน้อยได้อีกด้วย เลือกรถเข็นเด็ก ให้เหมาะกับช่วงวัยแรกเกิด นอกจากคาร์ซีทแล้ว รถเข็นเด็ก ก็เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ต้องคำนึงถึงเรื่องของอายุเด็กเป็นสำคัญ เพราะรถเข็นเด็กทุกคันไม่ได้เหมาะกับเด็กทุกคนโดยเฉพาะเด็กในช่วงวัยแรกเกิด หรือเด็กทารกที่ต้องการการดูแลใส่ใจมากเป็นพิเศษ เราจึงควรเลือกรถเข็นเด็กที่มีคุณสมบัติต่อไปนี้ จะช่วยให้เด็กนอนหลับในรถเข็นเด็กได้อย่างสบายและมีสุขภาพดี 1. มีชุดหมอน Newborn Support ที่บริเวณคอและสะโพก เด็กแรกเกิดช่วงคอและกระดูกสันหลังยังไม่แข็งแรง และต้องการได้รับการปกป้องเป็นพิเศษ การมีชุดหมอน Newborn Support เสริมบริเวณคอและสะโพก จะช่วยประคองให้ศีรษะและหลังยืดเป็นเส้นตรง ให้ลูกนั่งรถเข็นได้อย่างปลอดภัย ไม่ทำให้ลูกคอพับโงนเงน หรือเอนไปมา และยังช่วยให้ลูกน้อยหายใจได้สะดวก เติมออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงสมองในขณะหลับได้อย่างเต็มที่ 2. เลือกเบาะรถเข็นที่ปรับนอนได้ […]

อุ่นนมแม่ น้ำนมแม่  สารอาหารที่มากไปด้วยคุณประโยชน์ที่จำเป็นต่อการเติบโตของลูกน้อย และสร้างภูมิคุ้มกันที่สำคัญให้กับลูกน้อย ในปัจจุบัน คุณแม่จึงมักนิยมให้ลูกได้ทานน้ำแม่มากขึ้น แต่ด้วยภาระที่คุณแม่ที่ไม่สะดวกต่อการให้น้ำนมลูกได้ตลอดเวลา จึงทำให้คุณแม่นิยมปั้มนมใส่ถุงสต๊อกนำไปแช่เย็นไว้อย่างดี และในเวลาที่ลูกหิวก็นำนมแม่ออกมาอุ่นให้กับลูกน้อยกิน ซึ่งวิธีนี้ยังเพิ่มความสะดวกสบายให้กับคุณแม่ได้เป้นอย่างมากอีกด้วย เพราะไม่ว่าจะเป็น คุณพ่อ คุณตา คุณยาย ใครๆก็สามารถนำนมมาอุ่นแล้วก็ป้อนให้กับลูกน้อยได้            แต่ทุกคนรู้กันไหวว่า ถ้าอุ่นนมผิดวิธี จะทำให้น้ำนมแม่นั้นเสียคุณค่าทางอาหารไป วันนี้ทาง BABY GIFT EXPERT จึงจะมาแชร์วิธีการ การอุ่นนมที่ถูกวิธีให้กับทุกคนได้รู้กันค่ะ           ก่อนอื่นที่จะไปรู้วิธีการการอุ่นนม เรามารู้จักกันก่อนว่าก่อนอุ่นนมที่ดี มีข้อห้ามหรือข้อแนะนำอะไรบ้าง  วิธีการอุ่นนมแม่แบบทั่วไป            อุ่นนมแม่ด้วยวิธีแบบทั่วไปนั้นใครๆก็สามารถทำได้ แต่ข้อเสียของวิธีการนี้คือ อุณหภูมิน้ำอาจจะไม่อยู่ในอุณหภูมิที่เหมาะสมตลอดเวลา ต้องใช้ระยะเวลา มีความยุ่งยาก และหลายขั้นตอน ทำให้คุณพ่อ คุณแม่ ที่ไม่สะดวก หรือไม่มีเวลามาก อาจจะไม่เหมาะกับวิธีการนี้ และที่สำคัญยังไม่ทันต่อการใช้งาน เพราะบางครั้งลูกน้อยอาจจะหิวไม่เป็นเวลา หรือตื่นขึ้นมากลางดึกแล้วร้องทานนม อุ่นนมแม่ […]

Renolux บริษัทผู้ผลิตสินค้าเพื่อแม่และเด็ก มานานกว่า 40 ปี สัญชาติฝรั่งเศส ก่อตั้งขึ้นในเมือง Nord-Isère ใกล้กับเมือง Lyon เป็นผู้นำนวัตกรรมด้านความปลอดภัยของเด็ก โดยเฉพาะในด้านการผลิตคาร์ซีท จนในปัจจุบันมีการพัฒนากระบวนการผลิตโฟมโพลียูรีเทนแบบพิเศษ ที่เป็นเอกสิทธ์เฉพาะของบริษัท          ทำให้จากความเชี่ยวชาญและความรู้ที่สั่งสมมาช่วยให้เราสามารถคิดสร้างสรรค์และควบคุมแต่ละขั้นตอนของการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลเด็กของเราทุกขั้นตอนภายในไซต์ 17,000 ตารางเมตรที่ตั้งอยู่ใน Nord-Isère ได้อย่างมีประสิทธิภาพ          ปัจจุบันความรู้ทางอุตสาหกรรมของ Renolux ช่วยให้เราเชี่ยวชาญในเทคนิคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เทคนิคพอลิเมอไรเซชันผ่านกระบวนการจดสิทธิบัตรของเรา (โฟมโพลียูรีเทน) งานโลหะ (การเจาะการตัดการรัดการเชื่อม) สิ่งทอ (การเคลือบการตัดการทำ) และการประกอบในที่สุด มุ่งมั่นที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกวัน          เพราะฉะนั้น การใช้ผลิตภัณฑ์ของ Renolux จะไม่ใช่แค่ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กทั่วไปเท่านั้น แต่ยังได้ความเชี่ยวชาญมากกว่า 40 ปี ในการให้บริการผลิตภัณฑ์ดูแลเด็กที่มีคุณภาพของ Renolux           คาร์ซีท Renolux Renofix คาร์ซีทเด็กโตที่สามารถใช้ได้ตั้งแต่เด็กน้ำหนัก 15 – 36 KG. […]

Menu
All Categories
All Brands
All Ages
Promotions
Locations
BabyGift Family
BabyGift Care
Parents Guide
News & Event

All Categories

All Categories
All Brands
All Ages