เตรียม ห้องนอนเด็กอ่อน ให้พร้อมก่อนคลอด ต้องมีอะไรบ้าง?

ห้องนอนเด็กอ่อน เป็นเรื่องสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ หากกำลังวางแผนที่จะมีลูกน้อย หรือบางครอบครัวคุณแม่อาจกำลังตั้งครรภ์ และเตรียมพร้อมที่จะจัดบ้าน จัดห้องนอนเพื่อต้อนรับลูกน้อย เพราะห้องนอนที่ดีของลูกน้อยวัยทารกจะส่งผลต่อทั้งสุขภาพ พัฒนาการและอารมณ์จิตใจในอนาคต

ด้วยเพราะลูกน้อยทารกต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนอน และการนอนเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ทำให้โกร๊ธฮอร์โมน หรือฮอร์โมนเพื่อการเจริญเติบโตหลั่งเต็มที่ ทำให้ลูกเติบโตอย่างมีพัฒนาการที่ดีและสุขภาพแข็งแรง ซึ่งหากลูกน้อยนอนหลับไม่เต็มที่ หรือมีสิ่งต่างๆ รบกวนเวลานอน ทำให้นอนไม่เพียงพอ ลูกจะงอแง หงุดหงิดง่าย เติบโตได้ไม่ดี แถมยังส่งผลต่ออารมณ์จิตใจ ทำให้เป็นเด็กเลี้ยงยากและอารมณ์ไม่ดี  ยิ่งหากห้องนอนไม่มีการเตรียมพร้อมป้องกันอุบัติเหตุไว้อย่างดี  ลูกก็อาจจะมีอันตรายในขณะนอนจนถึงชีวิตได้อีกด้วย

ฉะนั้นการเตรียมพร้อมเรื่องนอนให้ลูกทารก จึงเป็นเรื่องที่ทุกบ้านต้องพิถีพิถันใส่ใจ ควรเลือกซื้อ จัดวางและเตรียมพร้อมให้ลูกในแบบที่ถูกต้อง เหมาะสม ปลอดภัย จะดีที่สุด

5 เรื่องต้องคิด ก่อนเตรียม ห้องนอนเด็กอ่อน

ก่อนเลือกซื้อและจัดเตรียมอุปกรณ์ของใช้ในห้องเด็กอ่อนให้ลูกน้อย มีเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ควรพิจารณาเป็นสำคัญนั่นคือ การเลือกห้องนอนให้ลูก ซึ่งจะต้องให้ความสำคัญกับ 5 เรื่อง นั่นคือ

  1. ห้องต้องมีพื้นที่กว้างเหมาะสม  เพื่อให้สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์เช่น เตียง เปล  และชั้นวางของได้สะดวก ไม่คับแคบจนทำให้คุณพ่อคุณแม่เข้าไปแล้วดูแลลูกลำบาก  สามารถจัดวางของต่างๆ ได้ในระยะห่างกันพอดี ไม่อยู่ใกล้จนลูกโตแล้วเอื้อมมาคว้าหยิบจับจนสิ่งต่างๆ หล่น โค่นล้มจนเป็นอันตรายได้ นอกจากนี้ห้องนอนลูก ควรอยู่ใกล้ห้องคุณพ่อคุณแม่ หรือใกล้กับห้องนั่งเล่นของบ้าน   เพื่อให้ทุกคนที่ใกล้ชิดสามารถเข้ามาช่วยเหลือและดูแลลูกน้อยได้ง่ายและเข้าออกได้สะดวก
  2. ควรเป็นห้องที่มีแสงสว่างเพียงพอ และปรับได้  โดยควรเป็นห้องที่มีแสงสว่างเพียงพอให้คุณพ่อคุณแม่ได้มองเห็นและดูแลลูกได้ชัดเจน จะได้รู้ว่าลูกทำอะไร และสามารถหยิบจับของใช้ได้ไม่ผิดพลาด  นอกจากนี้ควรมีม่านหรือมูลี่ไว้บังแดดหรือแสงที่ส่องมาด้วย เพื่อจะไม่ให้แสงนั้นแยงตาลูกน้อยเวลานอน  ส่วนในเวลากลางคืนเมื่อลูกหลับ อาจจะต้องมีการใช้ดวงไฟอ่อนๆไว้ด้วย เผื่อกรณีคุณพ่อคุณแม่ติดกล้องวงจรปิดหรือเบบี้มอนิเตอร์เอาไว้ดูลูกน้อยนอนได้นั่นเอง
  3. เป็นห้องที่ไม่มีเสียงรบกวน ไม่มีเสียงดัง และสิ่งแวดล้อมใกล้ๆ ห้องนอนลูก ควรจะมีบรรยากาศที่เงียบสงบ ไม่ใกล้กับห้องครัว เพื่อไม่ให้มีเสียงทำครัวหรือกลิ่นอาหารเข้ามาได้ ไม่ใกล้ที่มีคนพลุกพล่านหรือใกล้ที่จอดรถและห้องที่มีเสียงดัง
  4. มีอากาศถ่ายเทดี ไม่ใกล้ถนน ห้องนอนของลูกน้อยควรมีอากาศถ่ายเทได้ดี ไม่ควรอยู่ใกล้ถนน ใกล้ที่จอดรถ  เพื่อป้องกันฝุ่นละออง  สารพิษ หรือควันรถยนต์เข้ามาในห้องนอนของลูก  หากกรณีจำเป็นต้องใช้ห้องนอนที่ใกล้สิ่งแวดล้อมเหล่านี้ ควรต้องปิดห้องให้มิดชิด และมีเครื่องปรับอากาศหรืออุปกรณ์ช่วยฟอกอากาศ เพื่อป้องกันฝุ่นและเชื้อโรค 
  5. ห้องนอนควรมีประตูปิดมิดชิด พื้นเรียบและไม่ลื่น ไม่เปิดง่าย จนทำให้เด็กโตหรือสัตว์เลี้ยงเข้าไปได้ง่าย  รวมทั้งพื้นห้องควรจะเรียบไม่ขรุขระ สะอาด และปลอดภัยไม่ลื่นง่ายเกินไป เพื่อให้คุณแม่สามารถอุ้มลูกเดิน หรือเข้าออกได้อย่างปลอดภัยนั่นเอง 

Checklist ห้องนอนเด็กอ่อน ต้องมีอะไรบ้าง

เตียงนอน  

ควรเป็นเตียงนอนที่ออกแบบมาสำหรับเด็กเล็กโดยเฉพาะ ซึ่งเตียงนอนเด็กอ่อน ควรเป็นเตียงที่มีความมั่นคงแข็งแรง และเป็นเตียงใหญ่พอที่จะใช้สำหรับให้ลูกเวลาโตได้อีกระยะหนึ่ง เตียงไม่มีมุมหรือเหลี่ยมแหลมคมที่เป็นอันตราย  หากเป็นเตียงที่มีซี่กรง ควรมีความถี่ของซี่กรงรอบเตียงหรือราวกันตกห่างกันไม่เกิน 6 ซม.  ไม่ควรใช้เตียง 2 ชั้นในเด็กเล็ก เพราะยังช่วยตัวเองไม่ได้ จึงอาจจะพลัดตกลงมาจนเป็นอันตรายได้

อุปกรณ์เครื่องนอน

นอกจากเตียงแล้ว ควรเตรียมเครื่องนอน เช่น ฟูก เบาะนอนสำหรับลูกน้อยให้พอดีกับเตียงนอน  รวมถึงควรมี หมอนที่ต้องไม่อ่อนนุ่มหรือใหญ่เกินไป เพราะอาจกดทับใบหน้าและจมูกของลูกได้ ควรมีมุ้งครอบเตียงเพื่อป้องกันยุงและแมลงด้วย

ที่นอน ต้องเป็นฟูกที่นุ่มแต่ไม่นิ่มจนอ่อนยวบ เพราะลูกอาจจะจมไปกับที่นอนจนหายใจไม่ออกได้  ผ้าปูที่นอนและฟูกต้องเรียบตึง ไม่หลุดง่าย ผ้าปูที่นอนและเครื่องนอน ควรเป็นผ้าใยธรรมชาติที่ผิวสัมผัสนุ่ม ไม่ระคายเคืองผิวลูกน้อย  และไม่ควรมีตุ๊กตา หรือของเล่นอยู่บนฟูกด้วย

Play Pen, Play Yard หรือเปลไกวไฟฟ้า เปลโยก ซึ่งมีที่เปลี่ยนผ้าอ้อม

คุณพ่อคุณแม่อาจเตรียมเพลเพน ที่ด้านบนสามารถปรับเป็นที่เปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูกได้ หรือจะใช้เพลเลนนี้ไว้สำหรับเปลี่ยนที่ให้ลูกนอนเล่น นั่งเล่นได้อย่างปลอดภัย กรณีต้องทำความสะอาดหรือเปลี่ยนผ้าปูเตียงนอนหรืออื่นๆ  นอกจากนี้เปลไกวไฟฟ้า หรือเปลไกวอัตโนมัติ จะช่วยโยกไกวเพื่อกล่อมลูกน้อยให้นอนหลับ ช่วยแบ่งเบาภาระคุณแม่ในการอุ้มกล่อมลูกนอนได้อีกด้วย

ตู้เสื้อผ้าเด็ก ตู้อเนกประสงค์

หรือชั้นวางอุปกรณ์ของใช้ ที่ช่วยสำหรับจัดเก็บเสื้อผ้า ผ้าอ้อมและของใช้ต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับลูกน้อยได้พร้อมกันทั้งหมด เพื่อให้คุณแม่ได้หยิบจับนำเสื้อผ้า ผ้าอ้อมผ้า ผ้าอ้อมสำเร็จรูป หรือเครื่องใช้ของลูก แยกประเภทต่างๆ ได้เป็นระเบียบ และนำมาใช้ได้ง่าย  โดยสิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ เลือกที่มีขนาดพอเหมาะไม่สูงเกินไป ทำให้คุณแม่ต้องเอื้อมหยิบของใช้ การติดตั้งต้องยึดกับผนังให้แข็งแรง ไม่โยกหรือเอนจนล้มลงมาทับเตียงลูก หรือทับคุณแม่ได้  ตู้ต้องสามารถรองรับน้ำหนักของใช้ต่างๆ ได้ดี

คอกกั้นเด็ก

กรณีมีเผื่อไว้สำหรับให้ลูกน้อยที่เริ่มคืบคลาน และสามารถใช้ได้ไปจนลูกน้อยเกาะยืน เริ่มเดิน หรือเดินแล้ว  เพื่อไว้จัดเป็นโซนสำหรับนอนหรือนั่งเล่น เล่นของเล่นอยู่ในบริเวณนั้น ให้ลูกมีพื้นที่เคลื่อนไหวได้อิสระ เสริมสร้างพัฒนากล้ามเนื้อและการเรียนรู้ให้ลูกน้อยได้พร้อมกัน  ทั้งยังจำกัดพื้นที่ให้ลูกอยู่ในโซนที่ปลอดภัยอีกด้วย

Play Mat เสื่อหรืออุปกรณ์ปูพื้นสำหรับเด็กเล็ก

ไว้ใช้สำหรับปูไว้ในบริเวณที่นั่งหรือนอนเล่นของลูกน้อย ปูในคอกกั้นเด็ก ให้เป็นพื้นที่เล่นอิสระอย่างมีความสุขและปลอดภัยของลูกน้อย

เบบี้มอนิเตอร์ (Baby Monitor) กล้องสำหรับดูลูกน้อยแบบไร้สาย

  • ตัวช่วยอำนวยความสะดวกในการดูแลลูกยามลูกน้อยนอนหลับ หรือเมื่อคุณพ่อคุณแม่ไม่อยู่ใกล้ ต้องไปทำธุระส่วนตัว  รวมถึงกรณีที่ต้องให้พี่เลี้ยงหรือคนอื่นดูแลลูกน้อย
  • เบบี้มอนิเตอร์นิยมใช้กันมากในบ้านที่มีลูกเล็กเบบี๋ โดยเฉพาะในห้องนอนของเด็กอ่อน
  • สามารถดูลูกน้อยได้ตลอด 24 ชั่วโมง ที่สำคัญยังใช้ง่าย ดูได้ทุกที่ เพราะสามารถต่อแอพพลิเคชั่นเพื่อใช้งานกับโทรศัพท์สมาร์ทโฟน
  • มีทั้งกล้องแบบที่สามารถเห็นภาพและเสียงด้วยระบบ AI บันทึกภาพเป็นไฟล์วิดีโอย้อนหลังได้
  • สามารถนำกล้องไปติดไว้ในที่ต่างๆ ได้หลากหลาย ทั้งตั้งบนผนัง บนเฟอร์นิเจอร์ หรือซ่อนไว้มุมต่างๆ เพื่อดูลูกน้อยได้
  • ในกล้องบางรุ่น ยังสามารถตรวจสอบอุณหภูมิ ความชื้น ฝุ่นละอองได้อีกด้วย

กล้องดูลูกน้อยแบบไร้สายเหล่านี้ ถือเป็นอุปกรณ์หนึ่งที่สำคัญประจำบ้านยุคใหม่ ที่ใช้ดูความเคลื่อนไหวของลูกผ่านแอปพลิเคชั่นบนหน้าจอมือถือ ได้ทุกที่ทุกเวลาที่ต้องการ เพื่อดูแลความปลอดภัยของลูกน้อยได้อย่างใกล้ชิด เหมือนดูแลลูกด้วยตัวเอง ใช้ดูแลความปลอดภัยได้ทั้งกับลูกน้อย คนในครอบครัว สัตว์ สิ่งของภายในบ้านได้พร้อมกัน

เก้าอี้ให้นม หรือเก้านั่งคุณแม่

อาจเลือกซื้อไว้ใช้ในห้องนอนของลูกสัก 1 ตัว เพื่อไว้ให้คุณแม่สามารถนั่งให้นมลูกน้อยได้สะดวก ก่อนที่จะพาลูกน้อยเข้าเตียงนอน ช่วยให้คุณแม่ไม่ต้องไปนั่งให้นมลูกที่โซฟา หรือนอกห้องนอนลูกน้อย เวลาลูกหิว ง่วง หรือใกล้เวลานอนก็ให้นมลูกน้อยได้สะดวกทันที

อุปกรณ์ของใช้ลูกน้อย

ที่จำเป็นในห้อง เช่น เสื้อผ้าของลูก โมบายของเล่น  ที่ตัดเล็บ  ตะกร้าใส่ผ้าอ้อม กล่องเก็บของเล่นไม่ให้เกะกะ ผ้าอ้อม อุปกรณ์ให้นม ตะกร้าผ้าที่ใช้แล้ว ถังขยะ เป็นต้น

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00

บทความแนะนำ

“เวลาลูกสาววัย 5 เดือนดูดนมแม่ จะมีเหงื่อออกมาก โดยเฉพาะที่ศีรษะจะเปียกตลอดเลยทั้งที่อยู่ในห้องแอร์ ถือเป็นอาการผิดปกติหรือเปล่า”  เด็กต้องการพลังงานเทียบกับน้ำหนักตัวสูงกว่าผู้ใหญ่ เนื่องจากต้องใช้เพื่อการเจริญเติบโตและสร้างเนื้อเยื่อ อวัยวะต่างๆจึงต้องการใช้พลังงานสูงมาก เช่น เพื่อการสร้างเซลสมอง การสร้างเซลกล้ามเนื้อ ในขณะที่ผู้ใหญ่ต้องการพลังงานเพื่อการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ กล้ามเนื้อหัวใจในเด็กทารกเป็นเซลกล้ามเนื้อชนิดที่ล้าง่าย ต้องการพลังงานสูง ชีพจรของเด็กจึงเต้นเร็วกว่าผู้ใหญ่ เด็กแรกเกิดชีพจรเต้น 140 ครั้งต่อนาที และลดลงเรื่อยๆเมื่อเด็กเติบโตขึ้น จนเป็น 60-80 ครั้งต่อนาทีเมื่อเป็นผู้ใหญ่ ดังนั้นความร้อนที่เกิดขึ้นจากการเผาผลาญพลังงานก็ย่อมมีมาก การระบายความร้อนออกจากร่างกายทำได้โดยการขับออกเป็นเหงื่อ ดังนั้นการที่เห็นว่าทารกนอนดูดนมเฉยๆ ทำไมถึงมีเหงื่อเยอะจัง เพราะภายในร่างกายของเขามีการทำงานอยู่ตลอดเวลา จึงไม่ผิดปกติค่ะ ขณะที่ผู้ใหญ่จะใช้พลังงานสูงเท่ากับที่เด็กทารกต้องการ ก็ต่อเมื่อมีการออกกำลัง จนชีพจรเต้นเร็วเท่ากับเด็กทารก ถึงเวลานั้นเราก็มีเหงื่อออกเต็มตัวเหมือนเด็กทารกเวลาดูดนมเช่นกัน อย่างไรก็ดีมีโรคบางอย่างที่ทำให้ทารกมีเหงื่อออกมากผิดปกติกว่าเด็กคนอื่น เช่น โรคหัวใจ โรคธัยรอยด์เป็นพิษ แต่ลูกควรมีอาการผิดปกติอย่างอื่นร่วมด้วย เช่น เลี้ยงไม่โต ดูดนมแล้วดูเหนื่อยต้องหยุดเป็นพักๆ ตรวจร่างกายฟังได้ยินเสียงผิดปกติที่หัวใจ หากสงสัยว่าลูกเป็นโรคเหล่านี้ ให้ปรึกษากุมารแพทย์ได้ค่ะ หากตรวจแล้วพบว่าลูกปกติดี การมีเหงื่อออกเวลาดูดนม นอกจากช่วยระบายความร้อนแล้วยังช่วยให้ต่อมเหงื่อทำงานขับของเสียออกทางผิวหนังอีกทางหนึ่ง จึงไม่จำเป็นต้องเปิดแอร์ให้ลูกตลอดเวลา เพียงใส่เสื้อผ้าที่ระบายความร้อนได้ง่าย และอยู่ในที่อากาศถ่ายเทจะดีกว่าค่ะ >>>ขอบคุณข้อมูล : สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ

แข็งแรง ทนทาน พับ-กางง่าย ลูกน้อยนอนสบาย นี่แหละคุณสมบัติรถเข็นเด็กที่แม่ๆต้องการ 1. รถเข็นเด็กที่แข็งแรง ทนทาน ต้องไม่มีรอยต่อหรือพับเล็กมากเกินไป โครงสร้างควรเชื่อมเป็นชิ้นเดียวกัน เพราะเมื่อผ่านการใช้งาน มักมีการขยับของข้อต่อ เป็นสาเหตุให้โครงสร้างไม่แข็งแรงและเกิดการสั่นสะเทือนเมื่อเข็นในที่ขรุขระ รถเข็นเด็กที่ดีควรมีการเชื่อมต่อส่วนที่สำคัญเป็นชิ้นเดียว จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงแม้ผ่านการใช้งานที่ยาวนาน 2. พับ-กางง่าย ด้วยมือเดียว เพราะต้องพาลูกเดินทางคนเดียวบ่อยๆ แน่นอนว่าแม่ๆ ที่ต้องเลี้ยงลูกเองไปไหนมาไหนกับลูกลำพัง เช่น ไปเดินห้าง เดินสวนสาธารณะ ต้องเลือกรถเข็นเด็กที่ให้ความคล่องตัว ใช้งานง่าย พับกางง่าย ไม่ซับซ้อน คุณแม่สามารถพับรถเข็นเด็กได้เองด้วยมือเพียงข้างเดียวได้ เพราะมืออีกข้างหนึ่งต้องอุ้มลูก พับแล้วตั้งกับพื้นได้โดยไม่ล้มกองบนพื้น จะช่วยให้คุณสามารถลากไปมาสะดวกและยังปลอดจากสิ่งสกปรกบนพื้นที่อาจเป็นอันตรายต่อลูกน้อยได้ 3. ชุด Support สำหรับเด็กแรกเกิด ชุดเบาะรองนอนสำหรับเด็กทารกเป็นสิ่งจำเป็นมาก รถเข็นเด็กแรกเกิด ควรมีหมอนรองรับสรีระเด็กทั้งศีรษะ คอ และหลัง เพราะเด็กทารกจะมีกระดูกสันหลังและคอที่ยังไม่แข็งแรง จึงต้องนอนบนเบาะที่ช่วยรองรับสรีระตั้งแต่ศีรษะ ต้นคอ หลัง และสะโพกเพื่อให้ท่านทนที่ถูกต้องหลังไม่โค้งงอผิดรูป และไม่เกิดการปิดกั้นทางเดินทางหายใจ Aprica รถเข็นเด็ก สำหรับวัยแรกเกิดอย่างแท้จริงๆ คิดค้นและวิจัยโดยกุมารแพทย์ จากประเทศญี่ปุ่น

ว่าด้วยเรื่องความปลอดภัยของคาร์ซีท#คาร์ซีทมือสอง ตามที่พ่อหมอเคยเขียนเรื่องการเลือกซื้อคาร์ซีทไว้แล้วตั้งแต่ตอนเปิดเพจครับ คลิกอ่านได้ครับที่https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1318721458224835&substory_index=0&id=1312969582133356 ก็เริ่มมีลูกเพจเริ่มถามเรื่อง “การซื้อคาร์ซีท” ในหัวข้อนอกเหนือจากคำถามเบื้องต้นครับ โดยเฉพาะเรื่อง “การซื้อคาร์ซีทมือสอง” หรือ “คาร์ซีทเก่า” ตามคำแนะนำของราชวิทยาลัยกุมาร ฯ ของสหรัฐอเมริกา … บอกไว้ว่า เรื่องความปลอดภัย … หมอย้ำเสมอตั้งแต่เปิดเพจครับ เป็นเรื่องที่ผ่อนปรนไม่ได้#หมอวินเพจเลี้ยงลูกตามใจหมอ References: การใช้คาร์ซีทมือสอง

แน่นอนว่าคุณแม่ทุกบ้านจะต้องตื่นเต้นกับการทานข้าวมื้อแรกของลูก แต่นอกจากความตื่นเต้นแล้ว การฝึกลูกน้อยให้มีวินัยในการรับประทานอาหารก็ถือเป็นงานหินชิ้นนึงเลยล่ะค่ะ สำหรับคุณแม่ๆ บ้านไหนที่กำลังหาวิธีฝึกลูกน้อยให้คุ้นชินกับการทานข้าวอยู่ล่ะก็ มาดูกันดีกว่าว่าเรามีวิธีดีๆ อะไรมาฝากกันบ้าง ฝึกลูกหม่ำข้าวด้วยวิธีง่ายๆ ไม่ต้องบังคับ 1. นั่งโต๊ะและเริ่มทานข้าวพร้อมกัน  อย่างที่เรารู้ๆ กันอยู่ว่าเด็กมักจะชอบเลียนแบบพฤติกรรมของผู้ใหญ่ นั่นแหละค่ะ เราลองเอาเรื่องนี้มาเป็นตัวช่วยกันดีกว่า เพราะงั้นเวลาเราทานข้าว เราก็ควรให้ลูกน้อยของเรานั่งร่วมโต๊ะอาหารด้วยเนอะ ให้เค้าเห็นว่าทุกคนมีความสุขในการรับประทานอาหาร เห็นเวลาเรานำช้อนเข้าปาก ให้เค้ารู้ว่าการทานข้าวเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนทำ และเค้าก็ต้องทำด้วยเหมือนกัน แม้ตอนแรกอาจจะมีร้องงอแงบ้าง แต่ก็อย่าไปยอมแพ้ค่ะ ทำบ่อยๆ ทำให้เป็นกิจวัตร เดี๋ยวเค้าก็จะชินไปเอง 2. ทานอาหารให้เป็นเวลา  คุณแม่บางบ้านอาจจะยุ่งหัวหมุนกับทั้งงานประจำและงานบ้านจนเผลอไม่ได้ทานข้าว อ๊ะๆ ถ้าคุณแม่กำลังเป็น Working Woman แบบนี้อยู่ เราขอให้คุณแม่วางงานซักนิด แล้วมาทานข้าวกับลูกน้อยเมื่อถึงเวลา เพราะเราควรฝึกให้เค้าคุ้นเคยกับเวลาที่ต้องทานอาหาร ไม่ว่าจะเป็นอาหารเช้า กลางวัน เย็น คุณแม่ก็ควรจะให้เค้าทานเวลาเดิมๆ นอกจากจะสร้างนิสัยให้เค้าแล้ว ยังเป็นการปรับระบบย่อยอาหารภายในร่างกายของลูกน้อยอีกด้วยน้า ถ้าเค้าคุ้นเคยกับเวลาแล้ว ทีนี้ล่ะ ไม่ต้องเรียกเลย พอถึงเวลาเค้าก็จะหิวขึ้นมาเอง 3. เปลี่ยนเมนูอาหารให้หลากหลาย  เด็กหลายๆ คนเบื่อข้าว อมข้าว เพราะอาจจะเป็นเรื่องของรสชาติที่ไม่ถูกปาก หรือเมนูอาจจะซ้ำซากจำเจจนเกินไป การเปลี่ยนเมนูอาหารให้หลากหลายเนี่ย นอกจากจะช่วยให้ลูกได้รับสารอาหารครบถ้วนแล้ว ยังทำให้เค้าเพลิดเพลินไปกับเมนูใหม่ๆ ด้วยนะ […]

เมื่อต้องเดินทางหรือท่องเที่ยวพร้อมกับลูกวัยเบบี๋ อาจทำให้คุณแม่หลายๆ บ้านกังวลใจในการ พาลูกขึ้นเครื่อง ไม่ว่าจะเรื่องสุขภาพอนามัยความปลอดภัย ลูกน้อยจะเดินทางไหวไหม? ต้องเตรียมของใช้อะไรไปบ้าง? ลูกเดินทางได้อายุเท่าไร? มีอะไรที่เอาขึ้นเครื่องบินไปได้หรือไม่ได้บ้าง?  จะนั่งตรงไหนให้ปลอดภัยเลี้ยงลูกได้สะดวก? ลูกหิวหรือร้องงอแงจะทำอย่างไรได้บ้างนะ? ทุกเรื่องที่คุณแม่กังวลใจจัดการได้ไม่ยาก แค่เพียงทำตามข้อมูลและคำแนะนำเหล่านี้ค่ะ 4 เรื่องต้องรู้ก่อน พาลูกขึ้นเครื่องบิน เมื่อคุณแม่รู้ว่าจะต้องเพินทางพร้อมลูกวัยเบบี๋ สิ่งแรกที่ต้องทำคือการหาข้อมูล สอบถามกฎและรายละเอียดจากสายการบิน และวางแผนการเดินทางและอุปกรณ์ของใช้ให้ครบถ้วน อาทิ » หาข้อมูลก่อนเดินทาง ตรวจสอบกับสายการบิน ว่าอายุเด็กทารกที่เดินทางได้คือเท่าไร เพราะแต่ละสายการบินอาจมีข้อกำหนดที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งตามความจริงและพัฒนาการของเบบี๋แล้ว ควรให้ลูกอายุประมาณ 3-4 เดือนขึ้นไปจึงเดินทางได้เพื่อสุขภาพ สุขอนามัยและความปลอดภัย แต่หากมีความจำเป็นก็สามารถพาลูกเล็กขึ้นเครื่องบินได้ โดยบางสายการบินเด็กทารกที่เดินทางได้ต้องอายุไม่น้อยกว่า 7 วัน หรือบางสายการบินอาจให้ทารกอายุตั้งแต่ 14 วันขึ้นไป  หรืออาจอนุญาตให้อายุน้อยกว่านั้นขึ้นอยู่กับคำแนะนำของแพทย์ สอบถามหาข้อมูลเรื่องการจองตั๋ว การเลือกที่นั่ง และค่าโดยสารสำหรับเด็กเล็ก  แจ้งสายการบินล่วงหน้า สอบถามเรื่องเอกสารที่ต้องใช้สำหรับเด็ก   ศึกษาข้อบังคับและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ บนเครื่องบิน สอบถามหรือหาข้อมูลข้อกำหนดต่างๆ ในการขึ้นเครื่องบิน ว่าสามารถนำอุปกรณ์ของใช้อะไรบ้าง ที่ขึ้นเครื่องบินเพื่อดูแลลูกทารกระหว่างการเดินทางได้ เช่น » เตรียมพร้อมอุปกรณ์ของใช้ในการเดินทางให้ลูกทารก รถเข็นเด็ก […]

เส้นไหมทอละเอียด Silky Air นวัตกรรมใหม่จาก Aprica ที่มีในรถเข็นเด็ก รุ่น Luxuna Light และรุ่น Luxuna CTS Silky Air เส้นไหมทอละเอียดนุ่มเบาสบายระบายอากาศได้ดี มีความยืดหยุ่นลดภาระการเคลื่อนย้ายตัวของเด็ก Silky Air เป็นการผสมกันกับไหมและเส้นไฟเบอร์เรียงยาวละเอียดให้ความยืดหยุ่นเบาสบาย เมื่อเทียบกับผ้าคอตตอนแบบเก่าที่ผสมกับฟองน้ำที่มีความยืดหยุ่นต่ำระบายอากาศได้ไม่ดี มาเลือกความเบาสบายให้ลูกของคุณกับ Silky Air กับคุณสมบัติพิเศษ 3 ข้อ ดังนี้ 1. เบาะรองนั่งสามารถระบายอากาศได้เป็นอย่างดี ช่วยเพิ่มการระบายความชื้นมากขึ้นอีก 10%  เพราะ Silky Air เป็นวัสดุที่สามารถระบายอากาศได้อย่างดีเยี่ยม  การระบายความชื้นได้ดีเป็นตัวบ่งบอกว่าความร้อนไม่สามารถก่อตัวขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ประสิทธิภาพในการระบายความชื้นขึ้นอยู่กับความแตกต่างลักษณะรูปร่างของเด็กด้วย  2. สัมผัสที่อ่อนนุ่ม ผลิตจากวัสดุที่อ่อนนุ่มและสามารถระบายอากาศได้ดีให้ความรู้สึกเบาสบายเมื่อสัมผัสกับผิวที่บอบบางของทารก 3. สามารถทำความสะอาดด้วยเครื่องซักผ้า เบาะรองนั่งสามารถถอดออกและนำไปซักในเครื่องซักผ้าได้อย่างง่ายดายจึงทำให้คงความสะอาดตลอดเวลา สรุป ด้วยคุณสมบัติที่ดีเยี่ยมกับนวัตกรรมใหม่ ของ Silky Air ทั้ง  3 ประการ จึงนำมาใช้กับรถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Luxuna Light และรุ่น Luxuna CTS ได้เหมาะสมที่สุดกับเด็กแรกเกิด และเหมาะสมที่สุดกับคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการรถเข็นเด็กที่เบาและง่ายต่อการเดินทางไปทุกที่ กับคุณสมบัติพิเศษที่สามารถใช้คู่กับเป้อุ้มเด็ก Colan CTS ได้อีกด้วย รวดเร็วและสะดวกในการปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามไลฟ์สไตล์ของคุณแม่ คุณแม่สามารถเลือกใช้ได้อย่างใดอย่างหนึ่งได้อย่างง่ายดาย นวัตกรรมใหม่ในการใช้รถเข็นเด็กและเป้อุ้มเข้าด้วยกัน เป็นตัวช่วยให้คุณแม่พร้อมออกเดินทางได้ทุกสถานการณ์

Menu
All Categories
All Brands
All Ages
Promotions
Locations
BabyGift Family
BabyGift Care
Parents Guide
News & Event

All Categories

All Categories
All Brands
All Ages