BLW ฝึกลูกกินข้าวเอง ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

ฝึกลูกกินข้าวเอง หรือคำที่คุ้นหูกันในปัจจุบันอย่าง BLW (Baby Led Weaning) คือวิธีการที่ให้ลูกรู้จักหยิบอาหารกินเอง โดยอาหารจะไม่ใช่พวกอาหารปั่น อาหารบด แต่เป็นอาหารที่หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ มีความนุ่ม และหยิบจับได้ วิธีการนี้จะทำให้ลูกได้รู้จักและคุ้นเคยกับอาหารที่เป็นของแข็งมากยิ่งขึ้น โดยวิธีนี้เหมาะกับเด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป และสามารถนั่งได้เอง โดยที่ไม่ต้องมีคนช่วย

ฝึกลูกกินข้าวเอง มีประโยชน์อย่างไร
การให้ลูกกินข้าวเองนั้น นอกจากจะช่วยให้ลูกรู้จักอาหารที่เป็นของแข็งมากขึ้นแล้ว ยังมีส่วนในการช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางด้านร่างกาย และด้านความคิดอีกด้วย
1. สร้างทัศนคติที่ดีต่อการกินของลูก
ฝึกให้ลูกกินข้าวเอง ช่วยให้ลูกมีความสุขกับการทานอาหารมากยิ่งขึ้น เพราะลูกได้สนุกกับการกิน สนุกกับการเลียนแบบท่าทางระหว่างการกินอาหาร ทำให้ไม่ต้องคอยหลอกล่อให้ลูกกินข้าว
2. ฝึกพัฒนาการการใช้กล้ามเนื้อมือ
การให้ลูกได้หยิบจับอาหาร ทำให้ได้ฝึกการใช้แรงของมือ แรกๆอาหารอาจจะมีร่วงหล่นจากมือบ้าง หรืออาหารเละคามือบ้าง แต่ก็เป็นการให้ลูกได้ฝึกการควบคุมกล้ามเนื้อมือและน้ำหนักของมือ
3. ฝึกพัฒนาการการเคี้ยวและความคิด
เมื่อลูกหยิบจับอาหารเป็นชิ้นเป็นอัน กะน้ำหนักแรงมือได้แล้ว ลูกจะต้องนำอาหารเข้าปาก แรกๆลูกอาจจะกะขนาดของอาหารที่นำเข้าปากไม่ได้ อาจมีบางครั้งที่ชิ้นใหญ่เกินไป หรือเข้าปากแล้วเคี้ยวไม่ละเอียดจนทำให้สำลักได้ แต่ก็เป็นการฝึกลูกให้รู้จักคิดเป็น ไตร่ตรองจากประสบการณ์จริง มีการเรียงลำดับของเหตุการณ์เป็นขั้นตอน ทำให้ส่งเสริมพัฒนาการความคิดมากขึ้น
4. ลูกช่วยเหลือตัวเองได้เร็วขึ้น เป็นการฝึกการรับผิดชอบต่อตัวเองในเบื้องต้น
ฝึกให้ลูกกินข้าวเอง โดยไม่มีคนมาคอยป้อน ทำให้ลูกต้องทานข้าวเอง ต้องหยิบอาหารเข้าปากเอง ทำให้รู้จักเวลาในการทานอาหารมากขึ้น รับผิดชอบกับอาหารที่อยู่ตรงหน้า รับผิดชอบกับการกระทำของตัวเอง และช่วยเหลือตัวเองได้เร็วขึ้น
5. สร้างการประสานงานของมือและสายตา
เมื่อลูกตักอาหารขึ้นมา ต้องใช้ทั้งมือและสายตาร่วมกัน จึงเกิดกระบวนการเรียนรู้ให้มือกับตาทำงานสอดคล้องกัน เพื่อที่จะสามารถทานอาหารได้โดยไม่ตกหล่น

เคล็ดลับการฝึกลูกกินข้าวได้เอง
- ควรให้ลูกใช้เวลาในการทานอาหารจำกัดเวลาการกินเพียง 15 – 45 นาทีเท่านั้น เพื่อฝึกให้ลูกทานอาหารเป็นเวลา
- อย่าคาดหวังมากเกินไป ว่าวิธีนี้จะเหมาะสมสําหรับเด็กทุกคน เพราะเด็กบางคนที่พัฒนาการช้ากว่าก็สามารถให้อาหารเหลวแบบดั้งเดิมไปก่อน ไม่ต้องสร้างความคาดหวังขึ้นมาและเร่งรัดลูก
- อย่าเปลี่ยนอาหารใหม่ๆมากเกินไป ให้ลูกได้เรียนรู้กับอาหารใหม่ๆทุก 4 วันก็เพียงพอ เพื่อจะได้สังเกตว่าลูกแพ้อาหาหรือไม่
- ลูกอาจจะมีอาหารสำรักหรือสำรอก เพราะนี่คือปฏิกิริยาตอบสนองตามธรรมชาติของเด็กที่ปฏิเสธอาหารที่ไม่คุ้นเคย และไม่มีอะไรที่เป็นอันตราย ถ้าคุณแม่ตกใจเด็กก็จะยิ่งตกใจไปด้วย
- อย่าโมโห การให้ลูกหยิบอาหารกินเองควรเป็นไปอย่างธรรมชาติที่สุด
- ห้ามป้อนอาหารเด็ดขาด เพราะการป้อนอาหารจะทำให้ลูกไม่ยอมกินอาหารด้วยตัวเอง วิธีการ BLW ก็จะไม่เกิดผล เด็กบางคนอาจจะชอบอาหารเหลวมากกว่าในช่วงแรก เขาจึงจะเรียนรู้ที่จะหยิบอาหารเข้าปากตัวเองได้เล็ก อย่าเพิ่งด่วนตัดสินว่าลูกเราคงไม่เหมาะกับวิธีการนี้แล้ว ล้มเลิกไปเสียกลางคัน ต้องให้เวลาเขาได้เรียนรู้
- ห้ามปล่อยลูกไว้คนเดียวตอนกินอาหารเด็ดขาด ต้องมีผู้ใหญ่ที่เข้าใจวิธีการเหล่านี้คอยดูแลอยู่ตลอด เพราะบางกรณีลูกทานอาหารคำใหญ่เกินไป ทำให้เป็นอันตราย จึงต้องมีคนคอยดูแลอยู่ตลอด
- ไม่เชียร์อัพ ไม่ปรบมือ เพราะอาจจะสร้างนิสัยที่ไม่ดีให้กับเด็กได้ เพราะถ้าไม่มีพ่อแม่ปลอบ หรือคอยเชียร์เด็กก็ไม่ยอมทานอาหาร และอาจทำให้เด็กไม่สนใจกับการกินอาหาร หรือจดจ่ออยู่กับอาหารตรงหน้า

อาหารติดคอ ปฐมพยาบาลอย่างไร ?
ในกรณีที่ลูกทานอาหารแล้วเกิดอาการอาหารติดคอผู้ปกครองต้องอย่าตกใจ และตั้งสติให้ดี หลังจากนั้นทำการปฐมพยาบาลเบื่องต้น โดยใช้วิธีจับเด็กนอนคว่ำและตบแรงๆ บริเวณทรวงอกด้านหลังระหว่างกระดูกสะบัก จนอาหารกระเด็นหลุดออกมา ห้ามใช้นิ้วมือล้วงเข้าไปในปากเด็กหรือจับเด็กห้อยศีรษะและตบหลังเป็นอันขาด เพราะอาจทำให้เศษอาหารตกมาอุดที่กล่องเสียงจนขาดอากาศหายใจได้
ขอบคุณข้อมูลจาก : Mahidol Channel มหิดล แชนแนล
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมสำหรับการฝึกให้ลูกกินข้าวเอง
- เก้าอี้กินข้าวเด็ก เก้าอี้กินข้าวควรเป็นแบบมีพนักพิงหลัง และควรเป็นแบบสูง การใช้เก้าอี้กินข้าวเด็กจะทำให้ลูกนั่งกินอย่างเป็นที่เป็นทาง และทำให้เขาจดจ่อกับการกินที่อยู่ตรงหน้า ไม่ใช่วิ่งไปวิ่งมาเพื่อที่จะมากินข้าว หรือไปเล่นของเล่น รวมไปถึงระหว่างกินข้าวไม่ควรให้ลูกดูโทรทัศน์หรือโทรศัพท์มือถือ เพราะจะทำให้ลูกสนใจแต่จอ ไม่ยอมกินข้าว
- ผ้าพลาสติกปูรองใต้โต๊ะ เพราะการกินอาหารของลูก รับประกันได้เลยว่ามีความเลอะเทอะแน่นอน การมีผ้าพลาสติกปูรองใต้โต๊ะจะทำให้สามารถทำความสะอาดหลังลูกกินข้าวเสร็จได้ง่ายขึ้น
- ชุดกินข้าวของเด็ก มีสีสันสดใส การใช้ชุดกินข้าวที่เป็นของเด็กโดยเฉพาะจะทำให้การทานอาหารของลูกมีความปลอดภัยมากขึ้น เพราะอุปกรณ์พวกนี้จะถูกออกแบบมาให้แตกหักยาก และปลอดสารพิษที่อาจเป็นอันตรายต่อลูก นอกจากนี้การเลือกชุดถ้วยที่สีสันสดใสจะช่วยทำให้เด็กจดจ่อกับอาหาร และของที่อยู่ตรงหน้ามากยิ่งขึ้น

ขอบคุณข้อมูลจาก : today.line.me,parentsone.com,paolohospital.com
สนใจเลือกซื้อ อุปกรณ์ช่วยฝึกลูกกินข้าวเอง ได้อย่างปลอดภัยปรึกษาพนักงาน Baby Gift ทุกท่าน ยินดีให้คำแนะนำค่ะ
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
การเป็นแม่มือใหม่คือการเผชิญหน้ากับโลกใหม่ที่เต็มไปด้วยการเรียนรู้และความท้าทาย โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงการดูแลสุขภาพของลูกน้อย เพราะสุขภาพที่ดีเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการเติบโตและพัฒนาการของเด็กๆ ในวัยเด็กแรกเกิด ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่ดูยากในตอนเริ่มต้น แต่แม่มือใหม่สามารถเริ่มต้นด้วยเคล็ดลับง่ายๆ ที่จะช่วยให้ลูกมีสุขภาพดีได้ มาดูกันว่า 10 เคล็ดลับที่จะช่วยเลี้ยงลูกให้สุขภาพดีมีอะไรบ้างค่ะ 1. ให้นมแม่เป็นหลัก การให้นมแม่เป็นการมอบสารอาหารที่ดีที่สุดแก่ลูกในช่วง 6 เดือนแรกของชีวิต นมแม่มีทั้งสารอาหารที่ครบถ้วนและภูมิคุ้มกันที่ช่วยป้องกันโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคติดเชื้อที่พบบ่อยในเด็ก เคล็ดลับ: 2. เริ่มอาหารเสริมเมื่อถึงเวลา เมื่อเด็กครบ 6 เดือน ควรเริ่มให้อาหารเสริมเพื่อเสริมสร้างการเจริญเติบโต การเลือกอาหารที่เหมาะสมจะช่วยพัฒนาร่างกายและสมองของลูกได้อย่างดี เคล็ดลับ: 3. ส่งเสริมการนอนหลับที่เพียงพอ การนอนหลับที่เพียงพอช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของเด็กและช่วยพัฒนาสมอง เด็กเล็กต้องการการนอนหลับมากในแต่ละวัน เคล็ดลับ: 4. ฉีดวัคซีนตามกำหนด การฉีดวัคซีนเป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโรคร้ายแรง เช่น โรคหัด คอตีบ หรือบาดทะยัก ซึ่งเป็นสิ่งที่แม่มือใหม่ไม่ควรมองข้าม เคล็ดลับ: 5. ให้ลูกได้รับการเคลื่อนไหว การเคลื่อนไหวเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพัฒนาการร่างกายและสมองของลูก การให้ลูกมีโอกาสเคลื่อนไหวตามวัย เช่น การคลาน การนั่ง หรือการยืน ช่วยเสริมพัฒนาการให้ดีขึ้น เคล็ดลับ: 6. รักษาความสะอาดและสุขอนามัย การรักษาความสะอาดทั้งร่างกายและสิ่งแวดล้อมช่วยป้องกันโรคต่างๆ เช่น การติดเชื้อในช่องปากหรือผิวหนัง […]
สำหรับ Working Women หลายๆ คน การทำงานก็คือการสร้างคุณค่าให้กับตัวเอง และเป็นความสุขในการใช้ชีวิต แต่เมื่อบริบทเปลี่ยนไป มีครอบครัว มีลูกขึ้นมาแล้ว ก็ต้องยอมรับว่าการปรับรูปแบบการใช้ชีวิตประจำวันก็ต้องเปลี่ยนแปลงไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ แล้วถ้าเราขับรถเป็นประจำ พอท้องแล้วยังจะขับรถได้อยู่มั้ย ในบทความนี้ BabyGift จะมานำเสนอเรื่องเกี่ยวกับคนท้องขับรถได้มั้ย และคำแนะนำต่างๆ เพื่อให้คุณแม่อุ่นใจกันมากขึ้นค่ะ คนท้องขับรถได้ไหม ? ชวนคุณแม่ดูคำแนะนำ ข้อควรระวังเพื่อความปลอดภัยก่อนขับรถ ตลอดระยะเวลา 9 เดือนของการตั้งครรภ์ คุณแม่มักจะเผชิญกับคำถามมากมายเกี่ยวกับสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ ซึ่งหนึ่งในคำถามที่พบบ่อยคือ “คนท้องขับรถได้ไหม?” คำถามนี้มักสร้างความกังวลให้กับคุณแม่หลายคน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องเดินทางเป็นประจำ การตัดสินใจว่าจะขับรถหรือไม่ในระหว่างตั้งครรภ์นั้นเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของทั้งแม่และลูกน้อยในครรภ์ ดังนั้น การทำความเข้าใจถึงข้อควรระวังและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการตัดสินใจที่เหมาะสมในแต่ละสถานการณ์ เราลองมาดูรายละเอียดกันค่ะ คนท้องขับรถได้ไหม ? โดยทั่วไปหากมีความจำเป็นคนท้องสามารถขับรถได้นะคะ แต่หากเป็นไปได้ควรหลีกเลี่ยงดีกว่า โดยไม่ควรขับรถในช่วง 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ เนื่องจากอาจมีอาการแพ้ท้องกะหันทัน จนไม่สามารถโฟกัสที่การขับขี่ได้ดีเท่าที่ควร (อ่านเคล็ดลับลดอาการแพ้ท้องของคุณแม่เพิ่มเติมได้อีกนะคะ) และในช่วงอายุครรภ์ 7-9 เดือน ควรงดขับรถโดยเด็ดขาด เนื่องจากครรภ์ใหญ่ขึ้น หากเบรกกระทันหันอาจทำให้ท้องกระแทกพวงมาลัยได้ อีกทั้งเป็นช่วงเวลาของการเตรียมตัวคลอด ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยหากจำเป็นต้องขับรถ BabyGift มีคำแนะนำเพื่อความปลอดภัยมาฝากดังนี้ค่ะ คำแนะนำเพิ่มเติมเมื่อคนท้องต้องขับรถ คนท้องขับรถมอไซค์อันตรายไหม […]
ลูกควรเลิกใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปเมื่อไหร่? อยากฝึกให้ลูกนั่งกระโถน นั่งชักโครกขับถ่ายเองได้เริ่มเมื่อไหร่ดี? คงเป็นคำถามที่คุณพ่อคุณแม่มักสงสัยกันใช่ไหมคะ เพราะการฝึกลูกให้เลิกใส่ผ้าอ้อม ฝึกลูกนั่งกระโถน ไปจนฝึกให้เข้าห้องน้ำเองได้ก่อนที่จะเข้าโรงเรียน ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าลูกพร้อมที่จะเลิกใส่ผ้าอ้อม พร้อมนั่งกระโถนแล้ว มาเช็กกันเลยค่ะ ทำไมต้องฝึกลูกเรื่องขับถ่าย การฝึกลูกขับถ่ายให้เหมาะสม จะช่วยส่งเสริมให้ลูกมีพัฒนาการทางร่างกาย อารมณ์ ที่เหมาะสมตามวัย รวมถึงเป็นการปลูกฝังด้านสุขอนามัย ความสะอาด รู้จักร่างกายตัวเอง และรู้จักการช่วยเหลือตัวเองในเบื้องต้นได้ หากพ่อแม่ไม่สอนลูกเรื่องการขับถ่าย ปล่อยให้ขับถ่ายในผ้าอ้อมไปจนโต จะทำให้ลูกมีการขับถ่ายที่ไม่เหมาะสมตามวัย เมื่อลูกต้องไปโรงเรียน จะทำให้มีปัญหาในการดูแลความสะอาด อาจเกิดการขับถ่ายเล็ดราด หรือยังต้องใส่ผ้าอ้อมจนอึดอัด ส่งผลเสียต่อการเรียนรู้ ส่งผลต่อพัฒนาการตามวัยได้ ฝึกลูกนั่งชักโครก เลิกใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปได้ตอนไหน? วัยที่มีพัฒนาการและพฤติกรรมพร้อมพี่จะเริ่มฝึกได้ ควรเริ่มเมื่ออายุ 1 ปี – 1 ปี 6 เดือน และมักจะทำได้ดีตอนอายุ 2 ปี หรือเด็กบางคนอาจจะมาฝึกตอนอายุ 2 ปี และนั่งกระโถนได้เองตอนอายุ 3 ปี หรือบางคนอาจทำได้เมื่อโตกว่านั้น ขึ้นอยู่กับความพร้อมและสัญญาณต่าง ๆ ที่แสดงออกมาทั้งทางร่างกาย การสื่อสาร และความต้องการของลูก ไม่ควรเกิดจากการบังคับลูก 8 สัญญาณที่บอกว่าลูกพร้อมนั่งกระโถนเองได้แล้ว 7 เทคนิคฝึกลูกขับถ่าย […]
หนึ่งอุปกรณ์สำคัญเพื่อการเลี้ยงลูกที่คุณแม่ขาดไม่ได้คือ ขวดนม ที่คุณแม่ตั้งครรภ์หลายท่านอาจมองข้าม เพราะคิดและตั้งใจไว้แล้วว่าจะให้นมแม่ล้วนหลังคลอด ซึ่งอาจลืมไปว่าแม้จะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ แต่ขวดนมก็ยังมีความสำคัญและเป็นผู้ช่วยชั้นดีของการให้นมแม่ได้แน่นอน » ขวดนมจำเป็นแค่ไหน ? » ขวดนม มีกี่แบบ ? ปัจจุบันขวดนมสำหรับเด็กผลิตขึ้นจากวัสดุที่หลากหลาย มีหลายประเภทและหลายรูปทรงให้เลือก วัสดุของขวดนม ขวดนมสำหรับเด็ก มีทั้งขวดแก้ว ขวดพลาสติก และขวดที่ใช้แล้วทิ้ง(Disposable Liners)ที่ใส่ลงในขวดนมอีกที แต่ปัจจุบันขวดนมส่วนใหญ่ที่นิยมใช้มักผลิตจากพลาสติกเพราะน้ำหนักเบา ตกไมแตก ทนความร้อนและหาซื้อง่าบ โดยมีทั้งขวดพลาสติกใส ขวดพลาสติกขาวขุ่น และขวดสีชา ที่ผลิตจากพลาสติกที่ต่างชนิดกัน 1. ขวดนม PP วัสดุ POLYPROPYLENE เป็นขวดนมที่มีสีโปร่งใส หรือสีขาวขุ่น มีน้ำหนักเบา ทนทาน โดยทนอุณหภูมิได้ตั้งแต่ -20 –110˚c มีอายุการใช้งานประมาณ 6 เดือน และอาจเหลือน้อยลงหากผ่านความร้อนจากการต้มหรือนึ่งบ่อยๆ 2. ขวดนม PES วัสดุ POLYETHERSULFONE เป็นขวดพลาสติกสีชาหรือน้ำผึ้ง สามารถทนอุณหภูมิได้ที่ -50–180˚c มีอายุการใช้งานยาวนานประมาณ 6 เดือน […]
มาทำความรู้จักกับโรค Shaken Baby Syndromeสำหรับพ่อแม่คนไทยอาจไม่คุ้นหูกับโรคนี้ แต่ในต่างประเทศโรคนี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้ง่ายๆ กับคุณแม่มือใหม่ มิหนำซ้ำความรุนแรงยังอันตรายถึงชีวิตของลูกน้อย โรค Shaken Baby Syndrome คือโรคที่มักพบในเด็กที่อายุน้อยกว่า 1 ปี เกิดจากการที่พ่อแม่จับลูกเขย่าแรงๆ อาจจะด้วยความตั้งใจหรือไม่นั้น แรงเขย่าจะทำให้เนื้อสมองกระแทกกับกะโหลกศีรษะ จนสมองได้รับการกระทบกระเทือนและมีเลือดออก เพราะเส้นเลือดในสมองของเด็กเล็กๆยังไม่แข็งแรง โอกาสที่มีการฉีกขาดจึงมีมากกว่าผู้ใหญ่ สาเหตุที่ทำให้ทารกเป็น Shaken Baby Syndrome จนทำให้พิการ หรือถึงขั้นเสียชีวิตเพราะการเขย่ารุนแรงจนมีภาวะเสี่ยงเป็นโรค Shaken Baby Syndrome นี้ มักจะไม่ทิ้งร่องรอยที่ร่างกายภายนอก ทารกจึงไม่ได้รับการรักษา เมื่อปล่อยทิ้งไว้นานก็อาจมีปัญหาด้านการเรียนรู้ สติปัญญา อาจเกิดอาการเป็นลมชัก ตาบอด หรือร้ายแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ วิธีสังเกตอาการภาวะเสี่ยงเป็น Shaken Baby Syndrome– อาการอาเจียน หรือหายใจลำบาก ซึ่งอาจดูไม่รุนแรง คล้ายภาวะปวดท้อง ช่วง 3 เดือนแรก(Baby Colic) เมื่อพาลูกน้อยไปพบแพทย์ ต้องบอกด้วยว่าเด็กโดนเขย่าอย่างรุนแรง หากเกิดภาวะเสี่ยงเป็น Shaken Baby Syndrome […]
คาร์ซีท Ailebebe นวัตกรรมสุดล้ำ ปกป้องลูกน้อยได้ดีที่สุด คาร์ซีท เป็นผลิตภัณฑ์จำเป็นสำหรับเด็กชนิดหนึ่ง ที่พ่อแม่ต้องมั่นใจเป็นอย่างมากก่อนการตัดสินใจ ว่าสินค้านี้จะปลอดภัยมากเพียงพอในการปกป้องดูแลลูกน้อยตลอดการเดินทาง แบรนด์ Ailebebe ผู้นำด้านการผลิตคาร์ซีทในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นบริษัทที่ได้รับมาตรฐานระดับอุตสาหกรรมการออกแบบและพัฒนาชิ้นส่วนรถยนต์ ได้เข้าใจในเรื่องความปลอดภัยนี้ จนสามารถคิดค้นนวัตกรรมต่าง ๆ ที่เป็นเอกสิทธิ์หนึ่งเดียวในคาร์ซีท Ailebebe แบรนด์นี้แตกต่างจากคาร์ซีททั่วไปอย่างไร มาทำความรู้จัก คาร์ซีทเอเลเบเบ ไปพร้อม ๆ กันเลย คาร์ซีทเอเลเบเบ คืออะไร Ailebebe (Ai-le-be-be) อ่านว่า เอ-เล-เบ-เบ คือแบรนด์คาร์ซีทที่ผลิตจากประเทศญี่ปุ่น ออกแบบและผลิตโดยบริษัท Carmate จากเดิมเป็นผู้ออกแบบและพัฒนาชิ้นส่วนรถยนต์ที่มีความปลอดภัยที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เริ่มก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2509 จนถึงปัจจุบัน มากว่า 50 ปีแล้ว และด้วยการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จึงได้ออกแบบเบาะนั่งในรถยนต์สำหรับเด็ก หรือ คาร์ซีท ด้วยการใช้ประสบการณ์ความเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัย รวมถึงคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อให้ผู้ใช้คาร์ซีทปลอดภัยมากขึ้น ภายใต้แนวคิด “Safety and Comfort ความปลอดภัยที่มาพร้อมกับความสบาย” จนเป็นแบรนด์ Ailebebe คาร์ซีทที่คุณพ่อคุณแม่วางใจใช้มากที่สุดในประเทศญี่ปุ่น […]

ร้านสินค้าแม่และเด็กที่คัดสรรนวัตกรรมของใช้แม่และเด็กที่มี
คุณภาพให้คำปรึกษาและบริการ อย่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยให้การเลี้ยงลูกเป็นเรื่องง่าย ปลอดภัย และมีความสุข
Online Shopping
สาขา ปิ่นเกล้า ราชพฤกษ์
สาขา Mega บางนา
สาขา Central World
สาขา The Crystal รามอินทรา
สาขา BTS วงเวียนใหญ่ (Outlet)
Copyright 2024 © Baby Gift (Retail) Co., Ltd.