ขอใบสูติบัตร แจ้งเกิดภายในกี่วัน รู้ลึกขั้นตอนการขอสูติบัตรอย่างละเอียด

ถ้าคุณเป็นพ่อแม่มือใหม่ที่กำลังเตรียมพร้อมสำหรับการมาของลูกน้อย นอกจากจะต้องตระเตรียมของใช้จำเป็นต่าง ๆ แล้ว อีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่ละเลยไม่ได้เลยคือการแจ้งเกิดเพื่อขอสูติบัตร ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญทางกฎหมายที่เปรียบเสมือนใบเบิกทางแรกของลูกในโลกใบนี้ วันนี้เราจะมาเจาะลึกทุกขั้นตอนการขอสูติบัตรแบบละเอียด เพื่อให้คุณแม่คุณพ่อหมดกังวล และพร้อมต้อนรับสมาชิกใหม่ของครอบครัวอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด
ใบสูติบัตรคืออะไร
ใบสูติบัตร หรือที่หลายคนคุ้นเคยในชื่อ ใบเกิด คือเอกสารทางราชการที่ออกให้เพื่อรับรองการเกิดของบุคคล โดยถือเป็นเอกสารหลักฐานสำคัญที่ยืนยันสถานะความเป็นคนไทย และยังใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการขอเอกสารสำคัญอื่น ๆ เช่น บัตรประชาชน หรือหนังสือเดินทาง อีกทั้งยังเป็นการนำเข้าข้อมูลสู่ทะเบียนราษฎรอย่างเป็นทางการ ซึ่งเกี่ยวข้องกับสิทธิต่าง ๆ ที่ลูกน้อยพึงได้รับตามกฎหมาย
ทำไมต้องมีการแจ้งเกิด

การแจ้งเกิดเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะถือเป็นการทำตามกฎหมาย และเป็นการสร้างตัวตนทางทะเบียนราษฎรให้กับลูกน้อยอย่างถูกต้องสมบูรณ์ การมี ใบสูติบัตรทำให้ลูกได้รับสิทธิ์และสวัสดิการต่าง ๆ จากรัฐ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิ์ในการรักษาพยาบาล สิทธิ์ในการศึกษา หรือสิทธิ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสวัสดิการสังคม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับอนาคตของเด็ก นอกจากนี้ สูติบัตรยังเป็นหลักฐานยืนยันความสัมพันธ์ทางสายเลือดระหว่างพ่อแม่ลูกอีกด้วย
เอกสารสำคัญที่พ่อและแม่ต้องเตรียม
ก่อนจะไปแจ้งเกิด คุณพ่อคุณแม่ต้องเตรียมเอกสารให้พร้อม เพื่อความรวดเร็วและไม่เสียเวลาที่สำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอ เอกสารสำคัญที่ต้องใช้มีดังนี้
- บัตรประจำตัวประชาชนของผู้แจ้ง : ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อ คุณแม่ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ไปแจ้ง
- สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน : หรือหนังสือรับรองการแจ้งย้ายที่อยู่ เพื่อใช้ในการเพิ่มชื่อลูกเข้าทะเบียนบ้าน
- หนังสือรับรองการเกิด (ท.ร. 1/1) : เอกสารที่ออกให้โดยโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลที่เด็กเกิด
- ทะเบียนสมรส (ถ้ามี) : เพื่อใช้เป็นหลักฐานยืนยันสถานะสมรสของพ่อแม่
ขั้นตอนการแจ้งเกิดมีอะไรบ้าง
ขั้นตอนการแจ้งเกิดนั้นไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด แต่มีข้อปลีกย่อยที่แตกต่างกันไปตามแต่ละกรณี ซึ่งสามารถสรุปได้ง่าย ๆ ดังนี้
กรณีเด็กเกิดในโรงพยาบาล
ถือเป็นกรณีที่พบได้บ่อยและเป็นขั้นตอนที่ง่ายที่สุด เนื่องจากโรงพยาบาลจะออกหนังสือรับรองการเกิด (ท.ร. 1/1) ให้ ผู้แจ้งเพียงแค่เตรียมเอกสารที่จำเป็นดังต่อไปนี้
- บัตรประชาชนของผู้แจ้งและของบิดามารดา
- สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน
- หนังสือรับรองการเกิด (ท.ร. 1/1) ที่ออกโดยโรงพยาบาล
จากนั้นให้นำเอกสารทั้งหมดไปยื่นที่สำนักงานทะเบียนในพื้นที่ที่เด็กเกิด หรือที่บิดามารดามีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านได้เลยภายใน 15 วัน เจ้าหน้าที่จะดำเนินการตรวจสอบและออกสูติบัตรให้ภายในวันเดียวกัน
กรณีเด็กเกิดที่บ้านหรือสถานที่ที่ไม่ใช่สถานพยาบาล
ในกรณีนี้ผู้แจ้งจะต้องนำพยานบุคคล 2 คนที่สามารถยืนยันการคลอดได้ พร้อมเอกสารสำคัญไปแจ้งเกิดที่สำนักงานทะเบียนที่บิดามารดามีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านภายใน 15 วัน ซึ่งเอกสารที่ต้องใช้มีดังนี้
- บัตรประชาชนของผู้แจ้ง
- สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน
- พยานบุคคล อย่างน้อย 2 คนที่เห็นการคลอดหรือผู้ทำคลอด
เมื่อเอกสารครบถ้วน เจ้าหน้าที่จะสอบสวนพยานหลักฐานเพื่อออกใบแจ้งการเกิด (ท.ร.1 ตอนหน้า) และออกสูติบัตรให้ตามลำดับ
กรณีเด็กถูกทอดทิ้ง
หากพบเด็กถูกทอดทิ้ง ผู้ที่พบจะต้องรีบนำเด็กส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่ประชาสงเคราะห์โดยเร็วที่สุด ซึ่งหน่วยงานเหล่านี้จะเป็นผู้ดำเนินการแจ้งเกิดให้เด็กภายใน 15 วันนับจากวันที่รับเด็กไว้ โดยจะมีการรวบรวมหลักฐานต่าง ๆ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทะเบียนพิจารณาและออกสูติบัตรให้ต่อไป ซึ่งเอกสารที่ต้องใช้แจ้งเกิดกรณีนี้จะแตกต่างออกไป ดังนี้
- บัตรประจำตัวผู้แจ้ง
- สำเนาทะเบียนบ้านของสถานสงเคราะห์
- บันทึกการรับตัวเด็ก และหลักฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
กรณีที่เด็กมีพ่อหรือแม่ที่ไม่ใช่สัญชาติไทย หรือทั้งพ่อและแม่ไม่ได้มีสัญชาติไทย
สำหรับเด็กที่เกิดในประเทศไทย แต่มีพ่อหรือแม่เป็นชาวต่างชาติ หรือทั้งคู่เป็นชาวต่างชาติ ผู้แจ้งจะต้องนำเอกสารที่จำเป็นพร้อมกับเอกสารยืนยันตัวตนของชาวต่างชาติไปแจ้งเกิดที่สำนักงานทะเบียนท้องถิ่น ซึ่งเอกสารที่ต้องใช้ ได้แก่
- บัตรประชาชนของผู้แจ้ง
- หนังสือเดินทาง หรือเอกสารแสดงตนของบิดามารดาชาวต่างชาติ
- สำเนาทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน
- หนังสือรับรองการเกิด (ท.ร. 1/1) ที่ออกโดยโรงพยาบาล
เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเอกสารและออกสูติบัตรให้ตามประเภทที่กำหนดไว้สำหรับผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทย
ต้องแจ้งเกิดภายในกี่วัน

ตามกฎหมายแล้ว คุณพ่อคุณแม่มีหน้าที่ต้องแจ้งเกิดลูกน้อย ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่เด็กเกิด หากพ้นกำหนดนี้แล้วจะถือว่าเป็นการแจ้งเกิดล่าช้า ซึ่งจะต้องเสียค่าปรับไม่เกิน 1,000 บาท อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นที่ไม่สามารถแจ้งเกิดได้ตามกำหนด ก็ยังสามารถแจ้งเกิดภายหลังได้ แต่ต้องไม่เกิน 30 วันนับจากวันที่เกิด โดยต้องมีเหตุผลและพยานหลักฐานมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่เพื่อพิจารณาด้วย
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการแจ้งเกิด
แจ้งเกิดออนไลน์ ได้หรือเปล่า
ปัจจุบันนี้ยัง ไม่สามารถ แจ้งเกิดออนไลน์ได้ ผู้แจ้งยังจำเป็นต้องเดินทางไปดำเนินการด้วยตนเองที่สำนักงานทะเบียนในพื้นที่ที่เด็กเกิดหรือพื้นที่ที่บิดามารดามีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน
แจ้งเกิดไม่มีทะเบียนบ้านต้องทำยังไง
หากไม่มีทะเบียนบ้านที่จะเพิ่มชื่อเด็กได้ คุณพ่อคุณแม่สามารถไปแจ้งเกิด ณ สำนักทะเบียนที่เด็กเกิดได้เลย โดยเจ้าหน้าที่จะออกสูติบัตรให้ก่อน แต่ยังไม่สามารถเพิ่มชื่อเด็กเข้าทะเบียนบ้านได้ จนกว่าจะมีการย้ายเข้าทะเบียนบ้านในภายหลัง
สามารถแจ้งเกิดย้อนหลังได้ไหม?
สามารถแจ้งเกิดย้อนหลังได้ หากพ้นกำหนด 15 วัน หรือ 30 วันตามกฎหมายแล้ว ผู้แจ้งจะต้องไปดำเนินการที่สำนักงานทะเบียนพร้อมเอกสารที่จำเป็นและจะต้องชำระค่าปรับตามที่กฎหมายกำหนด
สรุปบทความ
การแจ้งเกิดเพื่อขอสูติบัตรเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรละเลย เพราะเป็นใบเบิกทางที่สำคัญที่สุดสำหรับชีวิตของลูกน้อย แม้จะดูเป็นเรื่องที่ยุ่งยากในตอนแรก แต่เมื่อรู้ขั้นตอนและเตรียมเอกสารให้พร้อม ก็จะทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นมาก และเมื่อภารกิจเรื่องเอกสารผ่านพ้นไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะได้ใช้เวลาร่วมกับเจ้าตัวเล็กอย่างเต็มที่ และเมื่อไหร่ที่ต้องการตัวช่วยดี ๆ ที่เข้าใจเรื่องแม่และเด็กแบบรู้ลึกรู้จริง BabyGift ก็พร้อมที่จะเป็นเหมือนผู้ช่วยส่วนตัวที่อยู่เคียงข้างคุณเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการหาของเตรียมคลอดมีอะไรบ้าง หรือจะเป็นคำแนะนำดี ๆ เกี่ยวกับการเลือกเป้อุ้มเด็กยี่ห้อไหนดี เครื่องปั๊มนม หรือคาร์ซีทเด็กแรกเกิด ที่ BabyGift เราคัดสรรสินค้าแม่และเด็กที่ดีที่สุดเพื่อลูกน้อยของคุณ เพราะเราเชื่อว่าการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกคือความสุขของพ่อแม่ทุกคน
สามารถดูสินค้าทั้งหมดได้ที่ BabyGift Shop
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
เพราะนมแม่ คือสุดยอดอาหารมื้อแรกและเป็นอาหารที่ดีที่สุดของลูกน้อย คุณแม่ทุกท่านจึงตั้งใจมอบคุณค่าน้ำนมแม่นี้ให้แก่ลูกรักได้นานที่สุดและมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยส่วนใหญ่มักจะเตรียมพร้อมตั้งแต่ตั้งครรภ์ และหลังคลอดก็ให้นมแม่จากเต้าทันทีและเต็มที่ และเชื่อว่าคุณแม่ทุกคนยอ่มวางแผนที่จะ ทำสต๊อกน้ำนมแม่ เพื่อให้ลูกได้กินนมแม่ในช่วงที่ต้องไปทำงาน และมีน้ำนมเก็บไว้ให้ลูกได้กินต่อเนื่องยาวนาน แต่การ ทำสต๊อกน้ำนมแม่ นอกจากคุณแม่ต้องมีวินัยในการปั๊มนมสม่ำเสมอทุกๆ 2-3 ชั่วโมงอย่างต่อเนื่องแล้ว คุณแม่จำเป็นเรียนรู้ข้อมูลและอุปกรณ์ต่างๆ ในการเก็บน้ำนมแม่ เพื่อให้น้ำนมแม่ที่นำมาให้ลูกกินในภายหน้ายังมีคุณค่าครบถ้วนเต็มที่ ให้ลูกรักมีพัฒนาการดีทุกด้าน เก่ง ฉลาด และสุขภาพแข็งแรงอยู่เสมอ ฉะนั้นมาดูกันว่า วิธีการทำสต๊อกน้ำนมแม่ต้องทำอย่างไร อุปกรณ์ ทำสต๊อกน้ำนมแม่ เครื่องปั๊มนม เป็นผู้ช่วยสำคัญที่ทำให้คุณแม่ได้ปั๊มนมเก็บไว้ และกระตุ้นให้น้ำนมมาได้มากอย่างต่อเนื่อง และสามารถปั๊มนมแม่ได้ ตั้งแต่ที่บ้านไปจนถึงเมื่อต้องกลับไปทำงาน ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องปั๊มนมให้เลือกมากมาย หาซื้อได้ง่ายทั้งทางออนไลน์และห้างสรรพสินค้าต่างๆ โดยคุณแม่ควรพิถีพิถันหาข้อมูล และเลือกซื้อเครื่องปั๊มนมที่ถูกใจ เหมาะสมกับชีวิตประจำวัน รวมถึงการใช้งานเมื่อต้องไปทำงานนอกบ้านหรือออกข้างนอก เช่น คุณแม่ที่ต้องทำงานนอกบ้าน กับคุณแม่ที่อยู่บ้านเลี้ยงลูก อาจจะต้องเลือกเครื่องปั๊มนมที่ให้ความสะดวก และมีระบบการทำงานที่แตกต่างกันนั่นเอง เครื่องปั๊มนมยุคใหม่ ก็มีให้คุณแม่ได้เลือกมากมายหลายแบบ หลายการใช้งานและหลายราคา อาทิ เครื่องปั๊มนมชนิดปั๊มมือ เครื่องปั๊มนมชนิดใช้แบตเตอรี่ และ เครื่องปั๊มนมชนิดใช้ไฟฟ้า แถมยังมีทั้งแบบที่ปั๊มนมเดี่ยวข้างเดียว แบบปั๊มนมได้คู่พร้อมกันสองข้าง รวมถึงสามารถชาร์จไฟจากพาวเวอร์ได้อีกด้วย สิ่งสำคัญคือการเลือกเครื่องปั๊มนมที่ได้มาตรฐาน มีแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับหรือได้รับความนิยมจากคุณแม่ทั่วไป ราคาเหมาะสม […]
วันหยุดนี้ พาลูกเที่ยว ที่ไหนดี ? คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหาสถานที่ พาลูกเที่ยว วันหยุดนี้ห้ามพลาด กับ 4 พิกัดสวนสัตว์ ในเมืองไทย ซึ่งแต่ละที่มีไฮไลต์เด็ดๆที่แตกต่างกัน มีทั้งสัตว์ท้องถิ่นในเมืองไทย สัตว์หายาก และสัตว์จากทวีปอื่นๆ ทั่วทุกมุมโลก วันหยุดนี้ พาลูกเที่ยว เลือกเช็คอินได้เลย !! รับรองถูกใจเจ้าตัวเล็ก แถมคุณพ่อคุณแม่ยังได้ย้อนวัยกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งแน่นอน ถ้าพร้อมแล้ว ตามมาดูกันเลย !! สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ชลบุรี ค่าบัตรผ่านประตู :ผู้ใหญ่ : 150 บาทเด็ก สูงไม่เกิน 135 ซม : 30 บาทผู้ใหญ่ ชาวต่างชาติ : 250 บาทเด็ก ชาวต่างชาติ : 100 บาทข้าราชการ นักเรียน นักศึกษา : 70 บาทผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป คนพิการ : ฟรี เวลาทำการ : 8:00-18:00 […]
คุณแม่ทุกคนล้วนแต่คิดถึงลูกในท้องมาเป็นอันดับแรก โดยเฉพาะเมื่อเป็นเรื่องของอาหารการกินและการบำรุง แต่คุณแม่หลายๆ คนตอนนี้กลับต้องมานั่งเครียดกับปัญหาน้ำหนักของตัวเองที่ทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว หรือน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นจนเกินจะควบคุมได้ ถ้าพูดแบบชาวบ้านๆ เค้าเรียกกันว่า “น้ำหนักลงแม่หมด” ค่ะ และคุณลูกก็ยังตัวเล็กเหมือนเดิมนะ เพราะงั้น ถ้าคุณแม่รู้สึกว่าน้ำหนักคุณแม่ขึ้นมากจนเกินไป ก็อย่าเพิ่งดีใจว่าลูกของคุณแม่ตัวใหญ่สมบูรณ์ เพราะความจริงแล้ว อาหารที่คุณแม่ทานเข้าไปนั้นอาจจะไม่ได้มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อทารกในครรภ์ หากแต่เป็นอาหารเพิ่มเนื้อหนังคุณแม่ต่างหาก ไม่ว่าจะเป็นแป้งเอย ไขมันเอย ทราบอย่างนี้แล้ว ก่อนจะนำอะไรเข้าปาก ลองฉุกคิดกันซักนิดก่อนดีกว่า ว่าอาหารคำนี้จะไปเป็นของคุณแม่หรือของคุณลูก น้ำหนักช่วงไตรมาส 2 ควรเป็นประมาณไหน? คุณแม่ทราบหรือเปล่าคะว่าคุณแม่ที่กำลังตั้งท้องนั้นจะมีความต้องการพลังงานมากกว่าสาวๆ ทั่วไปอยู่ที่ประมาณ 300 กิโลแคลอรีต่อวัน นั่นหมายถึงว่า โดยปกติแล้วเราจะต้องการพลังงานแค่ 2,000 กิโลแคลอรีใช่มั้ยคะ แต่คุณแม่ๆ ก็จะต้องการที่ประมาณ 2,300 กิโลแคลเพื่อที่จะนำมาสร้างเนื้อเยื่อและอวัยวะต่างๆ ของลูกน้อย ความจริงแล้ว ไม่มีใครสามารถบอกเป็นตัวเลขได้เป๊ะๆ ว่าน้ำหนักคุณแม่ควรจะเพิ่มขึ้นที่เท่าใด เพราะจะต้องคำนึงถึงน้ำหนักก่อนตั้งครรภ์ด้วย แต่ถ้าจะให้พูดโดยรวมๆ น้ำหนักของคุณแม่ควรจะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 7 กิโลกรัม และไม่ควรเกิน 13 กิโลกรัมค่ะ ในช่วงไตรมาสที่ 2 นั้น น้ำหนักของคุณแม่จะขึ้นเร็วกว่าในช่วงไตรมาสแรกอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉลี่ยแล้วจะขึ้นที่ 0.5 กิโลกรัมต่อสัปดาห์เลยทีเดียวนะ เพราะช่วงนี้จะเป็นช่วงที่คุณแม่ส่วนใหญ่สามารถทานอะไรได้มากขึ้น […]
แผ่นรองคลาน ถือเป็นอีกหนึ่งไอเท็มจำเป็นที่ต้องมีในบ้าน ถึงแม้จะไม่อยู่ในลิสของใช้ลูกที่ต้องเตรียมไว้ก่อนคลอด แต่ก็ต้องทำความรู้จักกันไว้ล่วงหน้าซักนิด เพราะแผ่นรองคลาน ถือเป็นอีกอุปกรณ์หนึ่งที่จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการลูกน้อย ในวันที่เขาเริ่มคว่ำตัว และเริ่มที่อยากจะคลาน ซึ่งอยู่ในช่วงวัย 4 – 5 เดือน เป็นต้นไป แล้วแผ่นรองคลานแบบไหนที่ดีต่อลูกน้อยที่สุด วันนี้ Babygift เตรียมคำตอบไว้ให้คุณพ่อคุณแม่แล้วค่ะ แผ่นรองคลานที่ทำจากโฟม EVA วัสดุประเภทโฟม EVA นั้น จะมีน้ำหนักเบา และสามารถตัดเป็นชิ้นได้ง่าย แผ่นรองคลานประเภทนี้ จึงมักจะทำมาในรูปแบบของตัวต่อจิ๊กซอว์ แบบแยกชิ้นส่วน ทั้งแบบตัวเลข หรือตัวอักษรภาษาอังกฤษ เพื่อให้ลูกฝึกต่อเล่น เสริมสร้างพัฒนาการได้ เมื่อถอดเป็นชิ้น ๆ สามารถใส่กระเป๋าพกพาได้ง่าย และมีราคาถูกที่สุดในบรรดาแผ่นรองคลานทุกชนิด แต่เนื่องจากน้ำหนักที่เบาเกินไป ทำให้แผ่นรองคลานไม่ยึดติดกับพื้นบ้าน เมื่อลูกฝึกเดินอาจทำให้ลื่นติดกับเท้า อาจทำให้ลื่นล้มได้ / วัสดุมีกลิ่น และมีสี ที่อาจเป็นอันตรายหากลูกสัมผัสและนำมือเข้าปาก / วัสดุเป็นโฟม จึงไม่ทนทานต่อการขีดข่วน เมื่อเด็กเล็กที่มีเล็บยาว ข่วน หรือจิกเวลาที่พยุงตัว ก็อาจจะทำให้ฉีกขาดได้ง่าย จึงใช้งานได้เพียงระยะสั้น / แผ่นที่แยกกันทำให้อาจเกิดร่อง ซึ่งเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค และวัสดุชนิดนี้ไม่สามารถกันน้ำได้ […]
ความเชื่อแรกที่ต้องมี..คาร์ซีทคือสิ่งสำคัญ เคยคิดไหมว่าถ้าวันหนึ่งคุณขับรถประสบอุบัติเหตุจนทำให้ลูกน้อยๆ ของคุณได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต คุณจะใช้ชีวิตต่อไปยังไง?? ผมถือว่าผมเป็นคนที่โชคดีคนหนึ่งที่ได้รับการปลูกฝังให้เห็นความสำคัญของคาร์ซีทสำหรับเด็กๆ ทั้งจากคุณหมอประจำตัวลูกๆ พี่สาว ภรรยา ตลอดจนเพื่อนๆของผมและภรรยาที่เคยมีลูกมาก่อน ที่พร่ำสอนว่า ต้องให้เด็กนั่งคาร์ซีททุกครั้งที่ขึ้นรถนะ… ทุกครั้งที่ผมเดินทางไม่ว่าจะใกล้หรือไกล ผมกับภรรยาจะให้ลูกๆนั่งคาร์ซีทตลอดเวลา ถึงแม้ช่วงแรกๆ (รวมถึงช่วงหลังๆด้วยบางเวลา) เค้าจะร้องไห้ฟูมฟายก็ตาม เราก็ต้องใจแข็งปล่อยให้ร้องไห้ไป เพราะถือคติว่า “safety first” พอนานๆเข้า เด็กๆก็จะเริ่มรู้เงื่อนไขเองว่า ถ้าไม่นั่งบนคาร์ซีทจะไม่ได้ขึ้นรถไปด้วย แม้แต่วันแรกที่พาลูกออกจากโรงพยาบาลหลังคลอด ผมและภรรยาก็ให้ลูกน้อยนั่งคาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิด …เชื่อว่าพ่อแม่หลายคนมักจะใจอ่อน และมักจะคิดว่านิดหน่อยคงไม่เป็นอะไร แต่อย่าลืมว่าอุบัติเหตุมันเกิดขึ้นได้ทุกวินาทีจริงๆ แข็งใจปล่อยให้ลูกร้องไห้ ดีกว่าไม่มีโอกาสให้เขาได้ร้องไห้นะครับ… กระนั้นก็ดี ด้วยความที่คาร์ซีทยี่ห้อดีๆมักจะมีราคาสูง(มาก) เดิมทีผมมีลูกชายคนเดียวก็มีสำหรับเด็กแรกเกิดถึงสองขวบ ต่อมาพอน้องปัณณ์โตขึ้นก็กัดฟันควักกระเป๋าซื้อสำหรับเด็ก 1-5 ขวบ มาอีกตัว จากนั้นพอผมมีน้องปุณณ์ ลูกสาวอีกคนที่อายุย่างเข้า 9 เดือน ภรรยาก็อยากได้ คาร์ซีทที่แข็งแรงๆ อีกอันไว้ให้น้องปัณณ์นั่ง ส่วนน้องปุณณ์จะขยับมานั่งอันที่สองแทน ผมก็คัดค้านเพราะเห็นว่าสิ้นเปลือง อันแรกยังใช้ได้อยู่เลย… แต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหว ยอมควักเงินอีกสองหมื่นกว่าซื้อมาอีกตัวอย่างเสียไม่ได้ หลังจากซื้อมาได้เพียงเดือนเดียว เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันและร้ายแรงที่สุดในชีวิตผมก็เกิดขึ้นจนได้ ผมกับครอบครัวเดินทางไป กทม. โดยลูกชายผมนั่งคาร์ซีทตัวใหม่อยู่ด้านข้างคนขับ (ขยับเบาะให้ไกลจาก […]
อวัยวะและระบบในร่างกายลูกน้อย ทั้ง 8 ที่ยังอ่อนแอและบอบบางใน เด็กแรกเกิดเช่น สมอง ศีรษะ คอ กระดูกสันหลัง ซึ่งเป็นส่วนลำคัญที่มีผลต่อการเจริญเติบของลูกสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่บอบบางและอ่อนแอมาก คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสำคัญดูแลเป็นพิเศษ 8 พัฒนาการทางด้านร่างกายของเด็กวัยแรกเกิด ที่ยังไม่สมบูรณ์ 3 พัฒนาการทางด้านจิตใจและอารมณ์ของเด็กวัยแรกเกิด 1 ความมั่นใจของลูกน้อยสามารถเสริมสร้างได้ผ่านการสัมผัส เพราะความมั่นใจ คือ พื้นฐานของพัฒนาการของลูกน้อย การสัมผัสด้วยการกอดและการสบตาจากแม่หรือคนรอบข้าง คือ สิ่งมหัศจรรย์ที่ก่อให้เกิดความมั่นใจของลูกน้อย เมื่อแม่พยายามปลอบในเวลาที่ลูกร้อง การยิ้มตอบเมื่อแม่พูดคุยด้วย สิ่งเหล่านี้คือสายใยแห่งความผูกพันที่ทำให้ลูกรู้สึกอบอุ่น และไว้ใจซึ่งจะนำไปสู่การเสริมสร้างให้ลูกมีบุคลิกและการแสดงออกในเชิงบวกได้ 2 ความอยากรู้อยากเห็นเกิดขึ้นผ่านสัมผัสทั้ง 5 เด็กในวัยแรกเกิด ทุกอย่างรอบตัว คือ โลกใบใหม่ของเค้า เด็กในวัยแรกเกิด – 1 ปี จะพยายามเรียนรู้สิ่งต่างๆ ด้วยการนำเข้าปาก และเมื่อย่างเข้าสู่วัยขวบปีแรก เด็กจะสนใจอยากเรียนรู้ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวด้วยการสัมผัสและการมอง ซึ่งความอยากรู้อยากเห็นนี้เองจะเป็นตัวกระตุ้น ให้เกิดการเรียนรู้และทักษะทางด้านร่างกาย การเรียนรู้โลกภายนอกด้วยการสัมผัสกับลมเบาๆและได้ยินเสียงจากธรรมชาติจะช่วยกระตุ้นประสาทสัมผัสทั้ง 5 ได้อย่างดี 3 ทักษะในการสื่อสารและเข้าสังคมสามารถพัฒนาได้จากรอยยิ้มของคนรอบข้าง เมื่อย่างเข้าสู่เดือนที่ 2 เด็กจะเริ่มรู้จักการยิ้ม ซึ่งถือได้ว่าเป็นพัฒนาการแรกในการเข้าสังคม ด้วยการมีปฏิกริยาโต้ตอบและบอกความรู้สึกให้ผู้คนรอบข้างได้รับรู้ ความสามารถในการสื่อสารขั้นพื้นฐานนี้ จะได้รับการพัฒนาโดยเริ่มจากความสัมพันธ์ระหว่างแม่และลูกและจะค่อยๆ […]






