เป้อุ้มทารก ยี่ห้อไหนดี ? คุณภาพดี๊…ดี อัปเดตปี 2024 พร้อมคำแนะนำในการเลือกเป้อุ้มเด็กที่พ่อแม่ควรรู้ !

เป้อุ้มเด็กเป็นตัวช่วยอย่างหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต่างให้ความสนใจไม่แพ้กับคาร์ซีทและรถเข็นเด็กที่เป็นของจำเป็นสำหรับการเลี้ยงลูกน้อย โดยเฉพาะพ่อแม่เด็กอ่อนที่ต้องอุ้มลูกแทบจะตลอดเวลา หากอุ้มลูกนาน ๆ ก็อาจจะทำให้เมื่อยล้า ปวดแขน ปวดไหล่ ปวดหลัง และมีปัญหาด้านสุขภาพตามมาได้ จึงมองหาเป้อุ้มเด็กแรกเกิดที่จะมาช่วยทุ่นแรงให้อุ้มลูกน้อยได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น ในบทความนี้ BabyGift จะขอแนะนำยี่ห้อเป้อุ้มทารกที่คุณภาพดี เป็นที่นิยมกันในตลาด พร้อมคำแนะนำในการเลือกให้กับคุณพ่อคุณแม่กันค่ะ 

BabyGift แนะนำยี่ห้อเป้อุ้มทารกคุณภาพดี พร้อมวิธีการเลือกที่พ่อแม่ต้องรู้ ! 

เป้อุ้มเด็ก หรือ เป้อุ้มทารก เป็นอุปกรณ์ทุ่นแรงให้กับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ เพื่อให้อุ้มลูกน้อยได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น ไม่เหนื่อยไม่เมื่อยจนเกินไปในเวลาที่ต้องอุ้มลูกนาน ๆ และยังสามารถทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้ในขณะเดียวกัน โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีใครดูลูก หรือต้องปล่อยให้ลูกอยู่ห่างจากตัว เป้อุ้มเด็กนั้นเหมาะสำหรับการอุ้มเด็กเล็กตั้งแต่ช่วงแรกเกิดไปจนถึงอายุ 2 – 3 ขวบ ซึ่งเป้อุ้มเด็กจะมีประโยชน์อย่างมากในครอบครัวที่ไม่มีคนดูแลเด็กเมื่อคุณพ่อคุณแม่ต้องออกไปทำธุระอื่น ๆ นอกบ้าน หรือโดยเฉพาะคุณแม่ที่ต้องทำงานบ้านไปด้วยเลี้ยงลูกไปด้วย ก็สามารถใช้เป้อุ้มเด็กเพื่อให้ลูกอยู่กับตัวเองได้ และสามารถทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้ด้วย โดยสามารถใช้เป้อุ้มเด็กแรกเกิดไปจนถึง 1 ขวบขึ้นไป และบางรุ่นก็สามารถใช้ได้จนถึง 3 ขวบเลยทีเดียว ซึ่งเป้อุ้มเด็กในท้องตลาดก็มีอยู่มากมายหลายยี่ห้อด้วยกัน แล้วคุณพ่อคุณแม่จะเลือกยังไง วันนี้เรามียี่ห้อมาแนะนำกันค่ะ

1. Hugpapa 

แบรนด์ Hugpapa เป็นแบรนด์ดังจากประเทศเกาหลีใต้ ที่ทางแบรนด์เน้นการผลิตและจำหน่ายเป้อุ้มเด็กโดยเฉพาะ และขึ้นชื่อเรื่องนวัตกรรมเป้อุ้มเด็กที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ให้ได้มากที่สุด และนอกจากนี้ ก็มีอุปกรณ์เสริมอื่นๆ จำหน่ายแยกอีกด้วย 

สำหรับเป้อุ้มทารกจากแบรนด์ Hugpapa ที่ BabyGift อยากจะแนะนำก็คือ เป้อุ้ม Hugpapa รุ่น Dial-Fit Pro (3in1 Hip Seat Carrier) ที่มีเทคโนโลยี BOA ช่วยปรับให้เป้มีความกระชับตัวได้ง่ายมากขึ้นเพียงแค่หมุน ใช้งานได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และสามารถปรับได้พอดีกับสรีระของทุกคน ตัว Hipseat เป็น EPP Foam มีน้ำหนักเบาสบายเพียง 555 กรัม สามารถอุ้มลูกน้อยได้อย่างง่ายดาย 

 จุดเด่น  

  • วัสดุทำจาก Polyurethane มีความนุ่มพิเศษ ไม่เสียทรง คืนรูปรวดเร็ว  
  • ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ฮิปซีทที่นั่งเอียง 23 องศา ช่วยให้ลูกนั่งสบายมากขึ้น และเป็นแบบ M-Shape ที่ช่วยป้องกันข้อสะโพกหลุดในเด็ก 
  • ฮิปซีทเว้าโค้งช่วยให้เข่า และสะโพกเด็ก อยู่ในระดับเดียวกัน และโค้งรับหน้าท้อง ไม่กดแผลผ่าคลอดของคุณแม่ 
  • ได้รับการรับรองจากสถาบัน IHDI มั่นใจได้ว่าลูกนั่งสบายอย่างปลอดภัย ไม่ทำให้ขาโก่ง หลังงอ
  • มีหมวกคลุมศีรษะ ช่วงป้องกันแสงแดดให้ลูกน้อย  
  • มีผ้าซับน้ำลาย Organic ไม่ระคายเคืองผิว สามารถถอดซักได้  
  • มีแผ่นพยุงศีรษะลูกน้อย ช่วยป้องกันปัญหาคอพับ  
  • มีช่องตาข่ายระบายอากาศ สามารถเปิดระบายเหงื่อและความร้อนได้  
  • สายคาดเอวระบายอากาศได้ดี วัสดุเป็นตาข่ายแบบนุ่มพิเศษ ไม่ทำให้ร้อน  

การใช้งาน : ตั้งแต่แรกเกิดถึง 36 เดือน รองรับน้ำหนักได้สูงสุด 20 กิโลกรัม 

แบรนด์ : ประเทศเกาหลี

2. HAENIM 

HAENIM เป็นแบรนด์สินค้าแม่ และเด็กจากประเทศเกาหลีใต้ ที่มุ่งมั่นคิดค้นพัฒนาสินค้าแม่และเด็ก เพื่อมอบความสะดวกสบายและสุขภาพที่ดีให้พ่อแม่และลูกน้อย ด้วยผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กที่มีเทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ไม่เหมือนใคร จนสินค้ากลายเป็นที่นิยมในประเทศชั้นนำทั่วโลก นอกจากจะจำหน่ายเป้อุ้มเด็กแล้ว ยังมีสินค้าอื่นๆ เช่น เครื่องปั๊มนม ถุงเก็บน้ำนม และกรวยปั๊มนมจำหน่ายอีกด้วยนะคะ   

สำหรับเป้อุ้มทารกของ HAENIM ที่ BabyGift อยากแนะนำนั้น คือ HAENIM 9 Plus (Hipseat Carrier) ที่เป็นเป้อุ้มเด็กเพื่อสุขภาพ ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่อุ้มลูกได้อย่างสบาย ไม่ทำให้ปวดหลัง ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ซัพพอร์ตการอุ้มเด็กเล็กได้อย่างปลอดภัย สามารถปรับการใช้งานได้ถึง 9 รูปแบบ มี 3D Head Support ช่วยประคองศีรษะของลูกน้อยให้ตั้งตรง มั่นใจว่าปลอดภัยต่อลูกน้อย ดูแลรับประกันสินค้านาน 2 ปี  

 จุดเด่น 

  • ฐานนั่งแบบ M-Shaped ให้ลูกน้อยนั่งอย่างถูกสรีระ ป้องกันข้อต่อสะโพกอักเสบ  
  • ฮิปซีทมีความยืดหยุ่น และมีรูปทรงที่โค้งมนช่วยลดการกดทับบริเวณหน้าท้องของคุณแม่ 
  • มี Newborn Support ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ของทารก ช่วยซัพพอร์ตการอุ้มเด็กเล็กอย่างปลอดภัย  
  • สายคาดเอวสามารถคาดได้สูงสุดถึง 44 นิ้ว และสามารถเพิ่มขยายให้ใช้ได้ถึง 52 นิ้ว 
  • เนื้อผ้ามีคุณสมบัติเบา ระบายอากาศได้เป็นอย่างดี วัสดุภายนอกทำจากผ้า Melange ช่วยป้องกันละอองฝน และแสงแดดได้ดี  
  • ช่วยในเรื่องการกระจายน้ำหนักได้เป็นอย่างดี เหมาะกับคุณแม่ที่ต้องอุ้มลูกเป็นระยะเวลานาน 
  • หมอนประคองคอสำหรับเด็กถูกออกแบบมาพิเศษ เพื่อป้องกันกระดูกบริเวณคอเคลื่อนผิดรูป 
  • ผ้าซับน้ำลายทำจากผ้าฝ้ายออแกนิคแท้ 100% ปลอดภัยต่อสารเคมี
  • มีหมวกคลุมศีรษะที่ช่วยปกป้องแสงแดดให้ลูก สามารถถอดซักได้  

การใช้งาน : ตั้งแต่แรกเกิดถึง 36 เดือน รองรับน้ำหนักได้สูงสุด 20 กิโลกรัม 

แบรนด์ : ประเทศเกาหลี

3. BABY&Me  

แบรนด์ BABY&Me เป็นแบรนด์สินค้าแม่และเด็กที่มีชื่อเสียงในประเทศญี่ปุ่น โด่งดังในเรื่องสินค้ากลุ่มเป้อุ้มเด็กที่ถูกจัดอันดับให้เป็นแบรนด์เป้อุ้มเด็กอันดับ 1 ในญี่ปุ่นเลยทีเดียว นอกจากตัวเป้อุ้มเด็กแล้วก็ยังจำหน่าย Accessories ที่เกี่ยวกับเป้อุ้มเด็กอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นที่นั่งเสริม สายรัดตัวเด็ก ผ้ารองคอเด็กทารก และอื่นๆ  

BABY&Me เป็นแบรนด์เป้อุ้มเด็กในญี่ปุ่นที่ได้รับรางวัลมามากมาย เช่น Good Design Award / Kids Design Award / No.1 Parenting Award จึงรับรองได้ว่าเป็นเป้อุ้มเด็กที่มีคุณภาพดี ได้มาตรฐาน และเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง ได้รับการออกแบบโดยการศึกษาวิจัยเรื่ององศาการลงน้ำหนักที่ถูกต้อง จะไม่ทำให้คุณพ่อคุณแม่ปวดไหล่ หลัง เข่า อุ้มลูกน้อยได้อย่างสบายตัวไม่มีเมื่อยเลยค่ะ  BabyGift จึงอยากแนะนำเป้อุ้มทารก BABY&Me ให้คุณพ่อคุณแม่ได้รู้จักกัน 

จุดเด่น

ได้รับการวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยโอซาก้าว่าขณะใช้เป้อุ้มนั้น น้ำหนักของเด็กจะะทำให้เบาลงไปได้ถึง 53% (ทดสอบกับเด็กช่วงน้ำหนัก 6.5 – 11.2 กิโลกรัม) 

  • ในส่วนของเบาะนั่งนั้น มีการทำส่วนที่ซัพพอร์ตก้นเด็ก ทำให้เวลาลูกนั่งจะไม่เมื่อย ไม่ปวดก้น นั่งสบาย ถูกสรีระ 
  • มีอุปกรณ์ซัพพอร์ตคอของเด็ก และซัพพอร์ตตัวลูก เหมือนถูกคุณพ่อคุณแม่กอดไว้  
  • เนื้อผ้าเป็น Waterproof Fabric ง่ายต่อการทำความสะอาด 
  • มีตาข่ายเปิดระบายอากาศ ไม่ทำให้ลูกร้อน แต่หากต้องการให้อบอุ่นขึ้นสามารถรูดซิปปิดได้ 

การใช้งาน : ตั้งแต่แรกเกิด – 3 ปี รองรับน้ำหนักได้สูงสุด 20 กิโลกรัม 

แบรนด์ : ประเทศญี่ปุ่น

4. POGNAE 

POGNAE เป็นแบรนด์จากประเทศเกาหลีใต้ที่จำหน่ายเป้อุ้มเด็ก และอุปกรณ์เสริมสำหรับเป้อุ้มเด็ก การันตีคุณภาพจากรางวัล BEST BABY CARRIER 5 ปีซ้อน ตั้งแต่ปี 2019 – 2023 และได้รับรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งยังเป็นแบรนด์ยอดนิยมที่สุดในหลายประเทศทั้งเอเซีย ยุโรป และอเมริกา มียอดขายเป็นอันดับ 1 ในเกาหลีใต้ จึงมั่นใจในเรื่องของคุณภาพและความยอดนิยมจากแบรนด์นี้ได้เลยค่ะ 

สำหรับเป้อุ้มทารกของ POGNAE ที่ BabyGift อยากแนะนำคือ POGNAE เป้อุ้มเด็ก รุ่น No.5 Max ที่รวมทุกสิ่งที่ดีที่สุดไว้ในเป้รุ่นเดียว ทั้งผ้าอุ้มเด็ก Step One Shawl uv Air หรือผ้าอุ้มเด็กแรกเกิด พร้อมระบบ Safety Lock Upgrade ถอดเป้ได้เงียบกริบ ไม่ต้องกลัวลูกตื่น ได้รับการรับรองจากสถาบัน IHDI ว่าลูกใช้แล้วขาไม่โก่ง หลังไม่งอ ปลอดภัยทุกวินาทีที่อยู่บนเป้ 

จุดเด่น  

  • มี Baby Stay ที่ช่วยพยุงก้นลูก ออกแบบตามหลักสรีรวิทยา  
  • สามารถปรับการนั่งได้มากถึง 10 ท่า ตามการเจริญเติบโตของลูกน้อยอย่างถูกหลักสรีรศาสตร์  
  • มี Breathable Cool Mesh หรือระบบระบายอากาศรอบทิศทาง เหมาะกับอากาศประเทศไทย 
  • มีแกนพยุงสะบัก ไม่ก่อให้เกิดอาการปวดคอ บ่า ไหล่ ไม่กดทับแผลผ่าคลอดของคุณแม่ 
  • มีเหล็กเสริมพยุงหลัง 4 ชั้น ไม่ทำให้ปวดหลัง เอว สะโพก กระจายน้ำหนักได้ดี 
  • สามารถปรับเป็นแบบ M Shape / U Shape ได้ตามสรีระ และการเติบโตของลูก ไม่ทำให้ลูกมีปัญหาขาโก่งตามมา 
  • ทำจากผ้า Waterproof กันน้ำ ไม่เก็บความชื้น สามารถซักทำความสะอาดได้ 

การใช้งาน : ตั้งเเต่เเรกเกิดถึง 6 ขวบ รองรับน้ำหนักมาถึง 20 กิโลกรัม 

แบรนด์ : ประเทศเกาหลี

การอุ้มลูกนั้นดีอย่างไร ?  ทำไมการใช้เป้อุ้มเด็กแรกเกิดถึงจำเป็น ?

คุณพ่อคุณแม่บางท่านอาจจะเกิดความสงสัยว่า การที่เราใช้เป้อุ้มทารกและอุ้มลูกติดตัวเราเกือบจะตลอดเวลานั้น เป็นผลดีต่อตัวลูกน้อยหรือไม่ ลูกจะติดมือเราหรือเปล่า หรือจะทำให้ลูกงอแงหรือไม่ ขอบอกเลยว่าการอุ้มลูกน้อยนั้นดีต่อตัวเด็กมากๆ ค่ะ เพราะนอกจากจะช่วยให้เด็กรู้สึกอบอุ่นปลอดภัยเมื่อได้อยู่ใกล้ชิดพ่อแม่แล้ว การอุ้มลูกนั้นมีข้อดีอยู่หลายอย่างด้วยกัน ดังนี้ค่ะ 

  1. การอุ้มลูกจะช่วยให้ลูกปรับอุณหภูมิร่างกายได้ดีขึ้น
    ในเด็กแรกเกิดร่างกายจะอ่อนแอและบอบบางมาก ระบบการทำงานต่างๆ ของร่างกายยังไม่ถูกพัฒนาให้เทียบเท่ากับผู้ใหญ่ทั่วๆ ไป โดยเฉพาะระบบการปรับอุณภูมิของร่างกาย การอุ้มลูกแนบชิดกับตัวจึงช่วยทำให้ทารกได้รับรู้ถึงอุณภูมิของร่างกายคุณพ่อคุณแม่ ทำให้ลูกน้อยรู้สึกอบอุ่นมากขึ้นและร่างกายอุ่นขึ้นค่ะ 
  2. ช่วยส่งเสริมความมั่นคงทางอารมณ์
    จากการศึกษาของ Nationwide Children’s Hospital ในรัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา แสดงให้เห็นว่า เด็กจะรับรู้ได้ถึงความรักและความเอาใจใส่จากพ่อแม่ผ่านการสัมผัสหรืออุ้ม และจากภาษากายต่างๆ การที่พ่อแม่อยู่ใกล้ชิดกับลูก อุ้มลูกบ่อยๆ หรือแสดงความรักต่อลูก ไม่เพียงแต่จะทำให้ลูกมีความสุขหรือรู้สึกอบอุ่นปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังเป็นการวางพื้นฐานการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่นในอนาคตด้วย
  3. เด็กจะมีการพัฒนาการที่ดีขึ้น 
    เด็กที่ได้รับการสัมผัสมากพอ เซลล์สมองจะเติบโตและมีการขยายตัว ประสาทสัมผัสจะว่องไว และสามารถเรียนรู้ได้เร็วกว่าเด็กที่ไม่มีคนอุ้มหรือได้รับการสัมผัส ซึ่งจากการทดลองของ Nationwide Children’s Hospital ในรัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ที่ได้ศึกษาทดลองเกี่ยวกับเด็กที่คลอดก่อนกำหนด พบว่าเด็กที่มีพ่อแม่กับคนดูแลอุ้มบ่อยๆ จะตอบสนองกับการสัมผัสได้ดีมากกว่าเด็กที่ไม่ค่อยมีคนดูแลค่ะ 
  4. ปอดและหัวใจของลูกน้อยจะแข็งแรงขึ้น
    การอุ้มลูกน้อยไว้ในอกนั้น ความใกล้ชิดจะทำให้เจ้าตัวน้อยได้ยินเสียงหัวใจของคุณแม่เป็นจังหวะอย่างชัดเจน จึงทำให้ลูกมีจังหวะการหายใจที่พร้อมกับจังหวะการหายใจของคุณแม่ ส่งผลให้ปอดและหัวใจของลูกน้อยพัฒนาได้ดียิ่งขึ้นและมีความแข็งแรงมากขึ้นตามไปด้วย 
  5. สามารถปรับตัวต่อสถานการณ์ที่ตึงเครียดได้ดี
    จากการศึกษาวิจัยของนักวิทยาศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัย Columbia ที่ศึกษาถึง อิทธิพลของความรักและการเอาใจใส่จากแม่ลิงที่มีต่อพฤติกรรมของลูกลิงเมื่อโตขึ้น พบว่าลูกลิงที่ได้รับการสัมผัสดูแลจากแม่ลิงบ่อยๆ ในช่วงสัปดาห์แรกของชีวิต จะมีความสามารถในการปรับตัวต่อสถานการณ์ที่ตึงเครียดได้ดีกว่าลูกลิงที่ไม่ได้รับการสัมผัสจากแม่ ซึ่งการศึกษานี้สามารถนำมาอ้างอิงถึงการปรับตัวของมนุษย์ได้เช่นกัน 

ชวนดูประโยชน์ของเป้อุ้มทารก ตัวช่วยสำคัญของพ่อแม่ยุคใหม่  

ได้ทำความรู้จักแบรนด์คุณภาพกันไปแล้ว ได้รู้แล้วว่าการอุ้มเด็กไว้กับตัวนั้นมีข้อดีมากมายแค่ไหน ตอนนี้เราจะพาคุณพ่อคุณแม่มาดูข้อดีของการใช้เป้อุ้มเด็กกันต่อ จริงๆ แล้ว BabyGift เคยเขียนเรื่องนี้ไปแล้ว แต่จะขอเลือกมาบางส่วนเพื่อเป็นไอเดียให้คุณพ่อ คุณแม่นะคะ  

  1. ช่วยเซฟแรงของคุณพ่อคุณแม่ ทำให้คุณพ่อคุณแม่ไม่เมื่อยล้า เพราะเป้อุ้มเด็กจะช่วยรองรับน้ำหนักตัวของลูกและช่วยกระจายน้ำหนักได้ดี 
  2. สามารถทำกิจกรรมอื่นๆ ขณะอุ้มลูกได้ เช่น เดินซื้อของ หรือทำงานบ้าน โดยไม่ต้องพะวงว่าลูกจะหล่นหรือจะไม่มีใครดูลูก เพราะลูกอยู่ใกล้ชิดเราตลอดเวลา สร้างความสะดวกสบายในการเลี้ยงลูกให้กับคุณพ่อคุณแม่อย่างมาก   
  3. ทำให้ลูกน้อยรู้สึกอบอุ่นปลอดภัย เพราะได้อยู่ใกล้ชิดคุณพ่อคุณแม่ตลอดเวลา และจากการศึกษาของ Nationwide Children’s Hospital ในรัฐโอไฮโอ กล่าวว่า การอุ้มลูกบ่อยๆ นั้น จะทำให้เด็กมีความมั่นคงทางอารมณ์ และช่วยเสริมสร้างพัฒนาการที่ดีให้กับลูกน้อยด้วยค่ะ  
  4. ทำให้ลูกสงบ ไม่งอแง เมื่อลูกน้อยอยู่ในเป้อุ้มเด็กแรกเกิดนั้น จะได้ใกล้ชิดกับคุณแม่และได้ยินเสียงหัวใจของคุณแม่ คล้ายกับเวลาอยู่ในครรภ์ ทำให้ลูกน้อยรู้สึกสงบ หลับสบาย ไม่งอแงนั่นเองค่ะ  
  5. ช่วยลดภาวะซึมเศร้าหลังคลอดของคุณแม่ การได้ใกล้ชิดกับลูกน้อยนั้น จะทำให้สมองหลั่งฮอร์โมนออกซิโทซินออกมา ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการซึมเศร้าหลังคลอดได้ และนอกจากนี้ การที่คุณแม่พาลูกน้อยออกไปนอกบ้านโดยใช้เป้อุ้มเด็ก ได้ไปเดินเล่น ได้พบปะผู้คน หรือทำกิจกรรมต่างๆ จะช่วยให้คุณแม่ไม่เครียด ได้ผ่อนคลาย ช่วยคลายความวิตกกังวลไปได้  ซึ่งจะช่วยลดความตึงเครียดและอาการซึมเศร้าหลังคลอดลงได้ 

จะเลือกเป้อุ้มทารกอย่างไรดี ?  

คุณพ่อคุณแม่บางท่านอาจเคยได้ยินมาว่าการใช้เป้อุ้มเด็ก ใช้แล้วลูกขาโก่ง ต้องบอกเลยว่า การที่เด็กขาโก่งไม่ได้เป็นผลมาจากการใช้เป้อุ้มเด็กแต่อย่างใด แต่เกิดจากกรรมพันธ์ุและความผิดปกติของร่างกาย ซึ่งโดยปกติแล้ว กระดูกขาของเด็กเล็กนั้นจะมีความโค้งงอเล็กน้อย และจะค่อยๆ ยืดตรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเด็กโตขึ้น หรือบางคนอาจเคยได้ยินมาว่า การใช้เป้อุ้มเด็กแรกเกิดจะทำให้เกิดโรคข้อสะโพกหลุดในเด็กเล็ก ซึ่งความจริงแล้ว หากเลือกเป้อุ้มเด็กที่สอดคล้องกับสรีระของเด็กเล็กและปลอดภัยกับลูกน้อย มีการออกแบบที่ได้มาตรฐานและได้รับการรับรองว่าเมื่อใช้แล้วจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายกับอวัยวะและสรีระของลูก ก็สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัย ซึ่งมีวิธีเลือกดังนี้ค่ะ  

  1. เลือกเป็นเป้อุ้มทารกที่เด็กสามารถหันหน้าเข้าหาตัวคุณพ่อคุณแม่ได้ และช่วยรองรับกระดูกสันหลังและศีรษะของทารกได้ดี มีความยืดหยุ่นที่เด็กสามารถเอนตัวและขยับเคลื่อนไหวสะโพกได้ รวมถึงสามารถขยับแขนขาได้อย่างอิสระ 
  2. เลือกที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ลูกใช้แล้วไม่ทำให้เด็กขาโก่งหรือเสี่ยงต่อการเกิดโรคข้อสะโพกเคลื่อนหลุดในเด็ก ควรเลือกเป้อุ้มทารกที่ฐานนั่งเป็นแบบ M-Shaped ให้ลูกน้อยนั่งอย่างถูกสรีระ ป้องกันข้อต่อสะโพกเคลื่อนหลุดในเด็ก 
  3. เลือกให้เหมาะสมกับช่วงอายุและน้ำหนักของลูก บางรุ่นสามารถใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด – 1 ปี บางรุ่นก็สามารถใช้ได้ 3 – 6 ปีเลยทีเดียว ถ้าคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนวางแผนว่าอยากใช้งานได้ยาวๆ เพราะพาลูกออกไปข้างนอกบ่อย ก็ควรเลือกเป้อุ้มเด็กที่สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน และรองรับน้ำหนักได้มาก ตามช่วงวัยของลูกค่ะ  
  4. มีโครงสร้างที่ทำจากวัสดุแข็งแรงและทนทาน มีความปลอดภัย อาจพาลูกไปทดลองนั่งเป้ด้วย เพื่อที่จะได้รู้ว่าเหมาะกับลูกของเราหรือไม่ และควรกระจายน้ำหนักได้ดี คุณพ่อคุณแม่ใช้แล้วไม่เมื่อยไหล่ ไม่ดึงรั้งตัวคุณแม่ให้รู้สึกปวดเมื่อย เป็นต้น  
  5. เลือกเป้อุ้มเด็กที่มีสายสะพายไหล่บุนวมกว้างๆ มีที่พาดหลังและสายคาดเอวกว้างๆ ซึ่งจะช่วยกระจายน้ำหนักของเด็กได้อย่างสม่ำเสมอและช่วยลดแรงกดบนไหล่ของคุณพ่อคุณแม่ 
  6. เลือกเป้อุ้มเด็กที่สามารถระบายอากาศได้ดี ไม่ทำให้ลูกร้อนหรืออึดอัดจนเกินไป โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีอากาศร้อน จึงควรเลือกให้เหมาะกับสภาพอากาศ และควรเลือกวัสดุที่มีคุณภาพดีและทำให้ลูกอยู่ในเป้อุ้มเด็กได้อย่างสบายมากที่สุด  
  7. หลีกเลี่ยงเป้อุ้มทารกที่เด็กนั่งแล้วมีท่าทางคล้ายตัว C กล่าวคือ ทำให้เด็กอยู่ในท่าทางห่อตัวโค้งลง ซึ่งอาจทำให้เด็กทารกหายใจลำบากและอยู่ในท่าทางที่ผิดอิริยาบถได้ อาจส่งผลต่อกระดูกสันหลังของเด็ก จึงควรเลือกเป้ที่ช่วยพยุงหลังและสรีระของเด็กทารกได้เป็นอย่างดี และให้เด็กอยู่ในท่าทางที่ลำคอตั้งตรงและหายใจได้สะดวก  

เป้อุ้มเด็กเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเซฟแรงคุณพ่อคุณแม่ในการอุ้มลูกน้อยได้เป็นอย่างดี ทำให้อุ้มลูกได้สะดวกมากขึ้น สามารถทำกิจกรรมอื่นๆ ได้ในขณะอุ้มลูก ถ้าเลือกเป้อุ้มเด็กแรกเกิดที่มีคุณภาพดีก็สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน และถ้าเลือกเป้ที่ออกแบบมาถูกหลักสรีรศาสตร์ของเด็ก ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยเลยค่ะ เพราะไม่ทำให้ลูกขาโก่งหรือเสี่ยงต่อการเกิดโรคข้อสะโพกหลุดในเด็กแน่นอน ถ้าคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกเป้อุ้มทารกแบบไหนดี สามารถเข้ามาเยี่ยมชมสินค้าได้ที่ร้าน BabyGift ร้านจำหน่ายสินค้าแม่และเด็กระดับคุณภาพ มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี คุณพ่อคุณแม่สามารถพาลูกน้อยมาลองนั่งเป้อุ้มเด็กได้ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ร้านเบบี้กิ๊ฟทั้ง 5 สาขา ใกล้บ้าน หรือสอบถามผ่านช่องทาง Online ทีมงาน BabyGift ยินดีให้คำแนะนำค่ะ 

อ้างอิงที่มาข้อมูลบางส่วนจาก :  https://ergonomic-baby-carriers.com/blog/7_what-is-an-ergonomic-baby-carrier-.html 

https://raisingchildren.net.au/newborns/safety/equipment-furniture/baby-carrier-sling-safety

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00

บทความแนะนำ

คาร์ซีท คืออุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยสำหรับเด็กในขณะที่เดินทางด้วยรถยนต์ ซึ่งแต่ละรุ่นก็มีราคา ฟังก์ชั่น ที่แตกต่างกัน ทำให้คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คน ไม่แน่ใจว่าจะเลือกแบบไหนดีที่ลูกยอมนั่ง โดยเฉพาะคาร์ซีทแรกเกิด ที่ต้องให้ความสำคัญและใส่ใจในการเลือกเป็นพิเศษ เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายของเด็กบอบบางที่สุด ซึ่งการจะซื้อคาร์ซีทให้ปลอดภัย ต้องเลือกจากหลาย ๆ อย่าง เช่น เลือกประเภทคาร์ซีทให้เหมาะกับการใช้งาน เหมาะกับวัย ส่วนสูง และน้ำหนักของลูก  วันนี้ Baygift จึงจะพาพ่อแม่ทุกคน มารู้จักกันว่า คาร์ซีทมีทั้งหมดกี่แบบ แต่ละแบบมีข้อดี ข้อเสียอย่างไรบ้าง ไปดูกันเลย คาร์ซีท ระบบติดตั้งมีกี่แบบ เป็นเรื่องที่ต้องดูเป็นอันดับแรก ว่ารถที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบันสามารถติดตั้งคาร์ซีทได้ด้วยระบบใด ซึ่งการติดตั้งจะมีอยู่ 2 ระบบ ดังนี้…  ระบบนี้สามารถติดตั้งได้กับรถยนต์ทุกรุ่น ทุกคัน แต่ขั้นตอนการติดตั้งค่อนข้างจะยุ่งยาก จึงต้องศึกษาคู่มืออย่างละเอียด หรือ ให้พนักงานผู้เชี่ยวชาญช่วยติดตั้งให้เลย   คือ ระบบการติดตั้งตามมาตรฐานยุโรป ติดตั้งง่าย ISOFIX จะมีในรถที่ผลิตในปี 2014 ขึ้นไป บางรุ่นที่เก่ากว่าปี 2014 ก็อาจจะมีเช่นกัน ดังนั้น ให้ลองสังเกตสัญลักษณ์ […]

สำหรับครอบครัวที่มีลูกเล็กๆ ส่วนใหญ่การทำความสะอาดขวดนม จะใช้วิธีการต้ม หรือนึ่ง โดยเป็นการฆ่าเชื้อโรคด้วยความร้อนสูง ซึ่งเหมาะกับพาชนะที่เป็นแก้ว หรือซิลิโคน ส่วนขวดนมแบบพลาสติกการใช้ความร้อนสูงมากๆ ทุกวันจะทำให้ขวดนมพลาสติกและจุกนมเสื่อมสภาพเร็วขึ้นกว่าปกติ และเกิดการปล่อยสารต่างๆ ออกมาจากพลาสติกนั้น เช่น สารพวกโพลีเมอร์ หรือฟอร์มัลดีไฮด์ปนเปื้อนออกมาจากพลาสติกที่เสื่อมสภาพ แถมยังทิ้งไอน้ำไว้ที่ก้นขวด ซึ่งไอน้ำนี้อาจมีเชื้อแบคทีเรียแฝงอยู่ ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ได้มีการคิดค้นการฆ่าเชื้อโรค โดยรังสี UV ที่สามารถฆ่าเชื้อโรคได้กับหลากหลายผลิตภัณฑ์ เช่น ขวดนมพลาสติก ยางกัด จานชาม หรือแม้แต่อุปกรณ์อเลกทรอนิก มาทำความรู้จักกับ หลอดรังสี UV-C ที่หลายคนสงสัยว่า ฆ่าเชื้อโรคได้จริงไหม? รังสี UV คืออะไร แสงสว่างจากดวงอาทิตย์ประกอบด้วยรังสี 2 ส่วนคือ รังสีที่มองเห็นได้และมองไม่เห็นรังสีที่มองเห็นได้ จะมี 7 สี แต่จะสามารถเห็นต่อเมื่ออากาศมีความชื้นสูง รังสีจากดวงอาทิตย์ตกกระทบกับน้ำในอากาศ เราจะสามารถมองเห็นสีทั้ง 7 ได้ ที่เรียกว่า “รุ้งกินน้ำ” นั่นเอง รังสีที่มองไม่เห็น คือพลังงานในรูปคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่แผ่ออกมาจากดวง อาทิตย์ มี 2 ส่วนคือ สำหรับครอบครัวที่มีลูกเล็กๆ […]

การเลือกคาร์ซีท carseat ที่ปลอดภัยสำหรับลูกน้อยของคุณทำไมถึงต้องใช้คาร์ซีท carseat ที่มีความปลอดภัยจึงจำเป็นต่อคุณและลูกน้อยล่ะ? หลายประเทศได้ออกกฏหมายเกี่ยวกับความปลอดภัยของคาร์ซีท carseat สำหรับเด็กที่อายุน้อยกว่า 6 ขวบ เนื่องจากคุณจะต้องใช้คาร์ซีท carseat ที่มีความปลอดภัยเพื่อป้องกันลูกน้อยจากอันตราย หรืออุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน ขณะที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ ผู้โดยสารมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฏจราจร และหากคุณเดินทางพร้อมกับลูกน้อย โดยที่คุณจะต้องอุ้มลูกไว้ที่ตัก ก็อาจจะมีโอกาสที่คุณไม่สามารถที่จะอุ้มลูกได้อย่างมั่นคงและเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นลูกของคุณก็มีโอกาสที่จะได้รับบาดเจ็บสูงค่ะ ดังนั้นการมีคาร์ซีท ที่ปลอดภัยในรถยนต์ จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ช่วยลดการบาดเจ็บของลูกน้อยได้ ทั้งนี้พึงระวังไว้ว่าการใช้คาร์ชีทที่ไม่ถูกต้อง อาจจะก่อให้เกิดความเสี่ยงแก่เด็กมากขึ้น ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยสูงสุด คุณควรต้องเลือกใช้คาร์ซีท carseat ให้ถูกต้องพร้อมกับศึกษาการใช้งานอย่างถูกวิธีด้วยนะค่ะ หากไม่มีคาร์ซีท carseat ที่ปลอดภัยแล้ว อัตราการเสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นเป็น 4 เท่า จากสถิติได้แสดงให้เห็นว่าเมื่อเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 6 ขวบนั่งบนรถยนต์ที่ปราศจากคาร์ซีท carseat ที่ปลอดภัยและประสบอุบัติเหตุ อัตราการเสียชีวิตจะมากกว่าการนั่งบนรถยนต์ที่ติดตั้งคาร์ซีท carseat ที่ปลอดภัยถึง 4 เท่า***ข้อควรระวัง เมื่อใช้งานคาร์ซีท carseat ไม่ถูกวิธี จากผลสำรวจเมื่อปี 2008 โดยองค์การทางรถยนต์ประเทศญี่ปุ่น ( Japan Automobile Federation :JAF) เกี่ยวกับการใช้งาน คาร์ซีท carseat พบว่า 32.7 % ของคาร์ซีท carseat ที่ใช้งานนั้นติดตั้งอย่างไม่แน่นหนา ขณะที่อีก 67.3 % นั้นถูกพบว่ายังใช้งานได้ไม่ถูกต้องนัก ไม่ว่าจะเป็นการรัดสะโพกที่หลวมเกินไป หรือ การใช้งานที่หัวเข็มขัดที่ใช้ยึดที่นั่งไม่เหมาะสม ถึงแม้ว่าคุณจะเลือกใช้คาร์ซีท carseat ที่ถูกต้องแล้ว แต่หากการใช้งานไม่ถูกวิธีก็เท่ากับเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้กับเด็ก เพื่อลดปัญหาดังกล่าว เราควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้งานคาร์ซีทให้ถูกต้อง ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อคาร์ซีท คุณควรศึกษาข้อมูลว่า คาร์ซีท […]

เสื้อผ้าสำหรับเด็กเล็กๆ นั้นมักจะมีแต่สีสันสดใส เพื่อให้ดูเหมาะสมกับวัย คุณแม่จึงไม่ค่อยจะมีเสื้อผ้าเด็กสีดำติดบ้านกันสักเท่าไหร่ บางบ้านไม่มีเสื้อผ้าเด็กสีดำเลยด้วยซ้ำ จึงใส่ชุดให้ลูกไปตามที่มี ซึ่งก็เกิดประเด็นทำให้คุณแม่เป็นกังวลอย่างมาก บ้างโดนต่อว่าด้วยคำพูด บ้างโดนตำหนิด้วยสายตา “ทำไมไม่ใส่ชุดดำให้ลูก” พลอยทำให้คุณแม่ไม่กล้าพาลูกออกจากบ้าน เพราะที่บ้านไม่มีเสื้อผ้าเด็กสีดำเลย แล้วอย่างนี้ เด็กเล็กแต่งกายไว้ทุกข์อย่างไรดี สำหรับชุดไว้ทุกข์ของเด็กๆ นั้น ไม่ได้เคร่งครัดอะไร คุณแม่ไม่ต้องกังวลจนเกินไปค่ะ ขอให้เป็นสีเรียบๆ ไม่ฉูดฉาด หากเป็นไปได้ก็คุมโทนเสียหน่อย ด้วยโทนดำ ขาว ไข่ไก่ ครีม เทา น้ำเงิน น้ำตาลเข้ม ตัวอย่างแบบเสื้อผ้าเด็กสำหรับใส่ไว้ทุกข์มาฝากให้คุณแม่ลองนำไปมิกซ์แอนด์แมทช์ดูนะคะ การแต่งกายไว้ทุกข์สำหรับเด็กผู้ชาย การแต่งกายไว้ทุกข์สำหรับเด็กผู้หญิง สำหรับบ้านไหนที่ไม่มีเสื้อผ้าลูกสีคุมโทนตามที่กล่าวมา การซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้ลูกเพื่อใส่ไว้ทุกข์อาจไม่ใช่คำตอบ ด้วยราคาเสื้อดำที่ตอนนี้ค่อนข้างแพง และเด็กๆ เขาก็โตเร็ว ใส่ไม่เท่าไหร่ก็คับต้องยกให้คนอื่น คำนวณแล้วอาจไม่คุ้มกับราคาที่ต้องจ่าย อาจใช้วิธีย้อมผ้าสีดำ แทนก็ได้ เพียงซื้อสีย้อมผ้าราคาย่อมเยา ก็แปลงโฉมเสื้อผ้าสีสันเป็นเสื้อผ้าที่ใส่ถวายอาลัยได้แล้ว ขอบคุณแหล่งที่มาจาก : เว็ปไซด์ amarinbabyandkids

คาร์ซีทเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องมีสำหรับลูกน้อยของเราตั้งแต่ช่วงแรกเกิดไปจนถึงอายุ 6 ปี เพื่อความปลอดภัยขณะนั่งรถยนต์ ประกอบกับมีการออกกฏหมายจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม 2566 ให้ใช้คาร์ซีทในเด็กที่อายุไม่เกิน 6 ปี ยกเว้นรถรับจ้างหรือรถสาธารณะ ดังนั้นทุกบ้านควรจะต้องเตรียมคาร์ซีทให้พร้อมตั้งแต่ก่อนคลอด เพราะต้องให้ลูกน้อยนั่งตั้งแต่วันแรกที่ออกจากโรงพยาบาล ปัจจุบันคาร์ซีทก็มีหลายแบบมาก คุณพ่อคุณแม่หลายท่านอาจจะยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกแบบไหนดี หรือจะเลือกคาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี ที่มีคุณภาพดี ปลอดภัยได้มาตรฐาน และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในบทความนี้ BabyGift มีมาแนะนำแล้วค่ะ   จะเลือกคาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี ? แนะนำวิธีเลือกคาร์ซีทเด็กแรกเกิด มั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพและความปลอดภัย      ผู้ปกครองบางท่านอาจเกิดคำถามขึ้นมาว่า ทำไมต้องใช้คาร์ซีทสำหรับลูกน้อย ขอบอกว่า คาร์ซีทนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ ค่ะ คาร์ซีทเป็นอุปกรณ์เสริมที่ติดตั้งในรถยนต์ของคุณพ่อคุณแม่เพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับเด็กๆ ในขณะที่นั่งรถยนต์ เพื่อป้องกันหากเกิดอุบัติเหตุไม่คาดคิด คาร์ซีทจะช่วยลดโอกาสบาดเจ็บรุนแรง หรือลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตได้ ซึ่งคาร์ซีทก็มีหลายแบบมาก มีตั้งแต่คาร์ซีทเด็กแรกเกิด คาร์ซีทแบบกระเช้า คาร์ซีทสำหรับเด็กเล็ก และคาร์ซีทสำหรับเด็กโต นอกจากจะมีหลากหลายแบบแล้วก็ยังมีหลายยี่ห้อด้วย แล้วจะเลือกอย่างไรดี จะเลือกคาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี ? ให้กับลูกรักของเรา มารู้จักกับแต่ละประเภทของคาร์ซีทให้มากขึ้นก่อน ไปดูยี่ห้อที่ BabyGift แนะนำกันค่ะ  คาร์ซีทเด็กแรกเกิด […]

Q: ขวดนม อุปกรณ์ปั๊มนม ต้องต้ม หรือนึ่ง ให้ปราศจากเชื้อทุกวัน ? A: การนึ่ง หรือต้มฆ่าเชื้อขวดนมและจุกนมหลังใช้งานทุกวันจะทำให้ขวดนมพลาสติกและจุกนมเสื่อมสภาพเร็วขึ้นกว่าปกติ และไม่ได้ช่วยป้องกันโรคให้ทารกเพิ่มขึ้นมากไปกว่าล้างด้วยน้ำสบู่อุ่น ๆ หรือล้างด้วยน้ำร้อนผสมน้ำยาล้างขวดนมหลังใช้งาน การขยันทำให้ปลอดเชื้อมากเกินไป (over-sterilize) ไม่มีประโยชน์กลับเป็นการสร้างสิ่งแวดล้อมให้เชื้อที่ทนความร้อน และสร้างสปอร์ได้เพิ่มมากขึ้น (เพราะคุณไม่ได้ใช้หม้อความดัน หรือฉายรังสี) และทารกจะอาจได้สารพวกโพลีเมอร์ หรือฟอร์มัลดีไฮด์ปนเปื้อนออกมาจากพลาสติกที่เสื่อมสภาพแทน  สมาคมกุมารแพทย์อเมริกัน และ USFDA แนะนำให้ต้มหรือนึ่งฆ่าเชื้อขวดนม และอุปกรณ์ปั๊มนมเฉพาะครั้งแรกที่ใช้งานจากนั้นให้ล้างด้วยน้ำสบู่ หรือน้ำยาล้างขวดนมผสมน้ำอุ่น ทุกครั้งหลังใช้งานก่อนผึ่งให้แห้ง โดยไม่ให้้ใช้ผ้าเช็ด กรณีที่ต้องต้มหรือนึ่งฆ่าเชื้อทุกวันคือช่วงทารกป่วย เช่น ท้องร่วง หรือ เป็นฝ้าขาวในปาก คุณแม่ที่กังวลอาจนึ่งหรือต้ม ทุก 3-4 วัน สำหรับนมชง ทุก 1 สัปดาห์สำหรับนมแม่ทั้งนี้ จะต้องไม่มีการปล่อยให้นมบูดคาขวด (ถ้านมบูดคาขวดต้องต้มหรือนึ่งฆ่าเชื้อใหม่เสมอ) อย่างไรก็ตามไม่มีกฎตายตัว หากบ้านมีสภาพแวดล้อมที่ไม่สะอาด อยู่ใกล้แหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรค อาจพิจารณาต้มหรือนึ่งให้บ่อยขึ้น สำหรับประเทศไทยที่มีภูมิอากาศร้อนชื้นมีโรคเขตร้อนที่เป็นโรคทางเดินอาหารมาก และประชากรมีสุขอนามัยไม่แน่นอน กุมารแพทย์ไทยหลายท่านอาจแนะนำให้คุณแม่ต้มหรือนึ่งขวดนมทุกวัน และกรณีที่ห้องครัวมีความสกปรกอับชื้นท่อน้ำไม่สะอาด หรือมีกระบะทรายแมวในห้องครัว (ซึ่งไม่ควรมี) คุณแม่อาจเลี่ยงไปตากขวดนม และจุกนมที่อื่นที่มีอากาศถ่ายเทคุณแม่ที่ปั๊มนมห้ามใช้สบู่เหลวในห้องน้ำที่ทำงานล้างขวดนม หรือ […]

Menu
All Categories
All Brands
All Ages
Promotions
Locations
BabyGift Family
BabyGift Care
Parents Guide
News & Event

All Categories

All Categories
All Brands
All Ages