ลูกร้องงอแงไม่ยอมนอน ตื่นกลางดึก คุณแม่แก้ได้ด้วยวิธีนี้

การนอนหลับให้เพียงพอต่อวันอย่างมีคุณภาพ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับเด็กเล็กเลยนะคะ เพราะระหว่างที่ลูกน้อยนอนหลับร่างกายก็จะสร้าง “โกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) หรือ ฮอร์โมนการเจริญเติบโต” ขึ้นมา ช่วยให้ลูกน้อยเติบโตสมวัย มีภูมิคุ้มกันโรค ช่วยเรื่องความจำและการเรียนรู้ของสมองด้วยค่ะ

แต่หาก ลูกร้องงอแงไม่ยอมนอน คุณพ่อคุณแม่ก็จะต้องรู้วิธีดูแลนะคะ เพราะอาจส่งผลต่อพัฒนาการและอารมณ์ของลูกน้อยได้ แต่ก็ไม่ควรกังวลมากไปค่ะ เพราะทารกจะเริ่มมีวงจรการนอนที่เป็นปกติหลังจากเดือนที่ 6 เป็นต้นไป

เด็กแต่ละวัย ควรนอนกี่ชั่วโมงต่อวัน

ทารกแรกเกิด  2 เดือน

ทารกแรกเกิดจะนอนตอนกลางวันเหมือนกับนอนตอนกลางคืน จะนอนประมาณ 2 – 4 ครั้งต่อวัน ระยะเวลาการนอนประมาณ 4 – 16 ชั่วโมง

ทารกวัย 3 เดือน  5 เดือน

เด็กเล็กวัยนี้สามารถฝึกให้หลับเวลาเดิมได้แล้ว เพราะวัยนี้จะเริ่มนอนเป็นเวลามากขึ้น จะนอนประมาณ 2 – 4 ครั้งต่อวัน ระยะเวลาการนอนประมาณ 4 – 13 ชั่วโมง

เด็กวัย 6 เดือน – 11 เดือน

วัยนี้จะนอนเป็นเวลาแล้ว เมื่อถึงเวลาเดิมที่เคยนอนก็จะหลับได้เอง จะนอนประมาณ 2 – 3 ครั้งต่อวัน ระยะเวลาการนอนประมาณ 3 – 12 ชั่วโมง

เด็กวัย 1 – 2 ปี

เด็กวัยนี้จะชอบเล่นช่วงเช้าและจะนอนช่วงบ่าย จะนอนประมาณ 2 ครั้งต่อวัน ระยะเวลาการนอนประมาณ 2 – 9 ชั่วโมง

เด็กวัย 3 – 4 ปี

วัยนี้เริ่มเข้าสู่ช่วงก่อนวัยเรียน จะตื่นและเข้านอนตรงเวลา จะนอนประมาณ 1 ครั้งต่อวัน ระยะเวลาการนอนประมาณ 12 ชั่วโมง

ลูกร้องงอแงไม่ยอมนอน มีวิธีช่วยให้ลูกนอนง่าย หลับยาวมากขึ้นได้

1.พาลูกออกกำลังกายเบา ๆ

ระหว่างวันคุณพ่อคุณแม่สามารถให้ลูกน้อยออกกำลังกายตามพัฒนาการได้ เช่น จับคว่ำ คลาน เกาะยืน เดิน วิ่งเล่น ก็จะช่วยให้ลูกน้อยได้ออกกำลังกายเบา ๆ แล้ว ยังมีอีกเคล็ดลับที่คุณหมอเด็กแนะนำ คือถ้าลูกเล็ก ควรพาลูกออกไปตากแดดอ่อน ๆ ช่วงเช้า 7 – 8 โมงเช้าและช่วงเย็น 5 โมงครึ่งด้วย วิธีนี้จะทำให้นาฬิกาชีวภาพลูกทำงานได้ดีขึ้นด้วยนะคะ

2. ฝึกให้ลูกนอนเป็นเวลา

คุณแม่จะรู้ตารางนอนของลูกอยู่แล้ว ว่าเวลาไหนบ้าง เมื่อถึงเวลานอนก็ไม่ควรที่จะปล่อยให้ลูกเล่นหรือทำกิจกรรมจนเกินเวลา คุณแม่ควรจะสร้างบรรยากาศการนอนให้ลูก เช่น พาไปที่เตียง หาหมอน ผ้าห่มให้ ให้ลูกเข้าเต้า เพื่อให้ลูกรู้ว่าเวลานี้ต้องนอนแล้ว ควรจะทำเวลาเดิมในทุก ๆ วันด้วยนะคะ

3. ดูแลให้ลูกรักสบายตัว

ให้ลูกน้อยอาบน้ำอุ่น ๆ เพื่อความผ่อนคลาย ทาครีมบำรุงผิวให้ลูกฟินสบายตัว และสวมใส่ชุดนอนเนื้อผ้านุ่ม ๆ ข้อดีของการใส่ชุดนอนคือจะทำให้ลูกรู้ว่าถึงเวลานอนแล้ว จะช่วยให้ลูกนอนหลับได้ง่ายขึ้น

4. เตรียมอุปกรณ์กล่อมนอน

ก่อนจะนอนให้เตรียมของชิ้นโปรดของลูกไว้ เช่น ตุ๊กตา หมอน ผ้าห่ม เพื่อให้ลูกจับหรือลูบก่อนนอน นอนจะทำให้ลูกเพลิดเพลิน นอนหลับได้ง่ายขึ้น ช่วยป้องกัน ลูกร้องงอแงไม่ยอมนอน

5. อุณหภูมิห้องพอเหมาะ แสงไฟสลัว

ห้องนอนของลูก ควรจะปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมกับอากาศภายนอก ไม่หนาวหรือร้อนจนเกินไป ที่สำคัญในห้องจะต้องไฟแสงสลัว ๆ ด้วย จะช่วยให้ลูกสบายตามากขึ้น และยังช่วยให้ลูกเห็นคุณพ่อคุณแม่ที่อยู่ใกล้ ๆ ทำให้นอนหลับอย่างอุ่นใจ

6. ให้ลูกเข้าเต้าก่อนนอน

ให้ลูกเข้าเต้าก่อนจะนอน นับว่าเป็นช่วงเวลาดี ๆ ที่จะได้จ้องตากัน ได้ฟังเสียงแม่ก่อนนอน ช่วยให้ลูกมีความสุขหลับสบายมากขึ้นได้ หรือหากลูกดื่มนมจากขวดนม คุณแม่ไม่ควรให้หลับคาขวดนมนะคะ เพราะลูกจะติดการดูดขวดนมกล่อมตัวเองไปจนโตได้ หากลูกหลับแล้วคุณแม่ควรจะเอาขวดนมออกจากปากลูก

7. เตียงนอนเด็ก ช่วยลูกรักหลับสบายขึ้น

เตียงนอนลูกมีความสำคัญมากนะคะ เตียงจะต้องเหมาะสมกับวัยของลูก เบาะนุ่มพอดี ระบายอากาศ จะทำให้ลูกนอนสบาย หลับยาวมากขึ้น และเตียงลูกก็ควรจะต้องมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่อำนวยความสะดวกสำหรับคุณพ่อคุณแม่ด้วย ขอแนะนำแบรนด์ Prince&Princess และ Kinderkraft เลยค่ะ เป็นแบรนด์ดังที่มีเตียงเด็กหลากหลายดีไซน์ เหมาะกับการนอนของเด็ก ๆ ทุกวัยเลยค่ะ

เตียงเด็กเลือกแบบไหนดี

1. เตียงนอนทารก ควรระบายอากาศได้ดี

เตียงและเบาะที่ระบายอากาศดี จะช่วยให้ลูกน้อยนอนสบาย ไม่ร้อน ไม่อับชื้น ช่วยป้องกันการเกิดภาวะขาดอากาศหายใจเนื่องจากการนอนคว่ำ และช่วยลดการเกิดภูมิแพ้บริเวณผิวหนัง ผดร้อน ผดผื่นอีกด้วย

2. เบาะนอนไม่แข็งหรือนุ่มเกินไป

เบาะนอนทารก ไม่ควรจะแข็งหรือนุ่มจนเกินไป เพราะถ้าแข็งจะทำให้ลูกน้อยรู้สึกไม่สบายตัว หรือถ้านุ่มจนเกินไปจะทำให้เวลาลูกนอนคว่ำอาจเกิดความเสี่ยงหน้าจมที่นอนได้

3. เตียงนอนเหมาะสมกับน้ำหนักตัวของลูก

เตียงจะแข็งหรือนุ่มแค่ไหน คุณพ่อคุณแม่ต้องดูน้ำหนักและขนาดตัวของลูกน้อยประกอบกันด้วยนะคะ เช่น ถ้าลูกน้ำหนักตัวเยอะ คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกที่แข็งขึ้นมาหน่อย ที่นอนจะได้ไม่ยุบตัวง่ายเกินไป

4. เตียงคุณภาพ ไม่มีรอยยุบหรือร่อง

เตียงนอนของลูกน้อยจะต้องไม่มีรอยยุบใด ๆ ต่อให้เป็นที่นอนใหม่ก็ตาม เพื่อป้องกันความเสี่ยงของทารกที่อาจนอนดิ้นไปตกร่องทำให้บาดเจ็บหรือหายใจไม่ออกได้  และเนื่องจากทารกกระดูกยังไม่แข็งแรง การที่นอนในลักษณะผิดท่าทาง อาจมีผลเสียต่อการเจริญเติบโตของกระดูก ทำให้กระดูกผิดรูปได้

5. เตียงที่ทำความสะอาดได้ง่าย

เพื่อสุขอนามัยที่ดีของลูกน้อย ลดโอกาสที่จะทำให้ลูกเกิดอาการป่วย เบาะหรือผ้าของเตียงนอน ควรจะถอดซักได้ หรือเป็นผ้าที่กันไรฝุ่นด้วยจะดีมาก

ดูรายละเอียด เตียงนอนทารก รุ่น Dreamie

ลูกร้องงอแงไม่ยอมนอน คุณแม่ลองนำวิธีทำให้ลูกหลับง่ายไปปรับใช้ดูนะคะ เพราะการสร้างกิจวัตรการนอนที่สม่ำเสมอ ให้ลูก รวมถึงการเตรียมเตียงนอน อุปกรณ์การนอนต่าง ๆ จะช่วยให้ลูกนอนหลับสบายได้ยาวนานขึ้นค่ะ

หากคุณแม่ต้องการอุปกรณ์การนอนของลูกที่มีคุณภาพ สามารถแวะมาเลือกได้ที่ร้าน BabyGift 4 สาขา ใกล้บ้านคุณ หรือสอบถามผ่านช่องทาง Online ทีมงาน BabyGift ยินดีให้คำแนะนำค่ะ

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00

บทความแนะนำ

ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก : เว็ปไซด์ theasianparent.com

พอรู้ว่าตั้งท้อง สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่มักอยากจะทราบเป็นอันดับแรกก็คือเพศของลูกในท้องใช่มั้ยล่ะคะ วันนี้เราตั้งใจจะมาพูดถึงวิธีสนุกๆ ที่ไม่ต้องพึ่งวิทยาศาสตร์ เป็นวิธีที่อิงความเชื่อล้วนๆ ฮิตกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ แม่นไม่แม่น ไม่รู้ แต่ก็สนุกดีค่ะ ถือว่าคลายเครียดกันเนอะ (เอ๊ะ หรือจะทำให้เครียดกว่าเดิม?) 9 วิธีสนุกๆ ทายเพศลูกน้อยตามแบบโบราณ อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าวิธีเหล่านี้เป็นความเชื่อของคนสมัยโบราณที่ตอนนั้นวิทยาการก็ยังไม่ค่อยจะล้ำสมัยซักเท่าไหร่ ถือว่าทำเอาเล่นๆ ขำๆ ละกันนะคะ ถ้าคุณแม่อยากทราบเพศลูกที่ชัวร์ๆ ก็ลองปรึกษาขอ คุณหมอตรวจโครโมโซมหรือเจาะน้ำคร่ำดูก็ได้ค่ะ เพราะสองวิธีนี้ให้ผลแม่นยำถึง 99.4% เลยล่ะ แม่นยิ่งกว่าการบอกเพศจากการอัลตร้าซาวด์อีกนะ แต่ต่อให้ลูกจะคลอดออกมาเป็นเพศไหน เราก็มั่นใจว่าคุณแม่ทุกท่านจะรักลูกจนหมดหัวใจแน่นอน

เมื่อลูกน้อยถึงวัยเริ่มกินอาหารเสริมนอกจากนมแม่ ซึ่งก็คือในช่วงอายุ 6 เดือนขึ้นไป หากลูกเริ่มนั่งได้เก่งขึ้น สามารถนั่งได้เองโดยที่ไม่ต้องประคอง และเริ่มชอบเอามือหยิบจับสิ่งต่าง ๆ เข้าปาก นั่นแสดงว่าลูกน้อยของเราพร้อมที่จะกินอาหารเสริมได้แล้ว ในบางบ้านอาจจะคุ้นเคยกับการเตรียมอาหารเด็กอ่อนโดยการปั่นหรือบดละเอียดและป้อนให้ลูก แต่หลาย ๆ บ้านก็อาจจะใช้วิธีฝึกให้ลูกกินอาหารด้วยตัวเองที่เรียกว่า BLW (Baby-Led Weaning) แต่ไม่ว่าจะเป็นวิธีไหนก็ตาม อุปกรณ์สำคัญอย่างโต๊ะกินข้าวเด็กก็เป็นของที่ต้องมี และถ้าเลือกให้ดีก็จะใช้งานได้อย่างยาวนานตั้งแต่เล็กจนโต แล้วจะมีวิธีการเลือกอย่างไร ควรเลือกแบบไหนดี ? BabyGift มีคำแนะนำดี ๆ มาฝากแล้วค่ะ  โต๊ะกินข้าวเด็ก สำคัญอย่างไร ? ควรเลือกแบบไหนดี ?  โต๊ะกินข้าวสำหรับเด็กนั้นมีความแตกต่างจากโต๊ะทั่ว ๆ ไป โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นโต๊ะที่เรียกว่า High Chair โดยเป็นชุดเก้าอี้กินข้าวเด็กที่มีโต๊ะพับมาให้แบบครบชุด สามารถใช้งานได้หลายแบบ บางรุ่นสามารถพกพาออกไปข้างนอกได้ด้วย และยังมีเข็มขัดนิรภัยเพื่อป้องกันเด็กพลัดตกเก้าอี้ ทำให้มีความปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งบางที่อาจเรียกว่าโต๊ะกินข้าวเด็ก หรือบางที่ก็เรียกว่าเก้าอี้กินข้าวเด็ก หรือ อาจเรียกรวม ๆ ว่าชุดโต๊ะเก้าอี้กินข้าวของเด็ก แต่จะเรียกแบบไหน ก็หมายถึง High Chair ที่นั่งกินข้าวของเด็กเล็กโดยเฉพาะนั่นเองค่ะ  โต๊ะกินข้าวสำหรับเด็กนั้นเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นมาก โดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่ที่อยากฝึกลูกให้กินข้าวด้วยตัวเองแบบ BLW ซึ่งการฝึกลูกกินข้าวเอง […]

แม่ๆ ดาราเซเลบคนดังร่วมแสดงความยินดีกับงานฉลองเปิดร้าน BabyGift สาขา เซ็นทรัลเวิลด์แบรนด์ผู้นำเข้า คาร์ซีท, รถเข็นเด็ก, เก้าอี้ทานข้าว, เป้อุ้มเด็ก และผลิตภัณฑ์สำหรับลูกน้อยที่ดีที่สุดทั้งจากประเทศญี่ปุ่น, เกาหลี และ สหรัฐอเมริกาอย่าง #APRICA #AILEBEBE #PRINCEANDPRINCESS #REALKIDS และอีกมากมาย และในงานยังเปิดตัวสินค้านวัตกรรม 3 รุ่นใหม่ได้แก่ รถเข็นเด็กพับเล็ก #Aprica #NanoSmart, คาร์ซีท #Ailebebe #Kurutto4Grance และ #Ecowell เครื่องผลิตสเปรย์ฆ่าเชื้ออเนกประสงค์ #BabyGift #CentralWorld #BabyBestItems #BabyProducts BabyGift สาขา Central World ชั้น 2 โซนลานไอซ์สเก็ตเปิดบริการ 10.00 – 22.00 น. ทุกวันโทร. 095-851-8521LINE ID : bbg_ctw

ลูกไม่ยอมกินข้าว เป็นปัญหาที่พบเป็นประจำของหลาย ๆ บ้านเลยนะคะ สำหรับเรื่องการกินข้าวยากของลูกน้อย โดยเฉพาะคุณหนูวัย 1 ปีขึ้นไป ที่เริ่มเดินได้คล่อง เริ่มวิ่งได้บ้าง พอถึงเวลากินข้าวเมื่อไหร่ ก็ทำให้คุณพ่อคุณแม่หนักใจไม่น้อยเลย ทั้งกินข้าวน้อย อมข้าว ห่วงเล่นจนใช้เวลานานเกินไปสำหรับอาหาร 1 มื้อ แต่ปัญหาการกินของลูกรับมือได้ไม่ยากเลยค่ะ เพียงแต่ต้องให้เวลา ให้ความเข้าใจ และต้องใจแข็งนิดหน่อย คุณพ่อคุณแม่ก็จะช่วยให้ลูกมีวินัยในการกินมากขึ้นได้ มาลองฝึกลูกน้อยไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ ฝึกให้ลูกทานข้าวเป็นเวลา ให้คุณแม่ทำข้อตกลงกับลูกว่า เข็มนาฬิกาชี้เลขนี้ เวลานี้ คือเวลาทานอาหาร ลูกควรจะหยุดเล่น แล้วมาทานข้าวด้วยกัน หลังทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้วลูกค่อยกลับไปเล่นต่อ หรือ จะบอกลูกว่าเวลานี้ต้องทานอาหาร ลูกคือคนสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่อยากทานข้าวด้วย เราต้องทานพร้อมกัน เพื่อฝึกให้ลูกรู้จักเวลาของมื้ออาหาร และรู้ว่าทุก ๆ คนในบ้านก็ทำเหมือนกัน สร้างบรรยากาศการทานอาหารให้ลูก การทานอาหารร่วมกันก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สร้างวินัยการทานอาหารให้ลูกได้ พ่อ แม่ ลูก ร่วมโต๊ะทานอาหารด้วยกัน ไม่ปล่อยให้ลูกทานคนเดียว หรือ แยกโต๊ะลูกออกไป ก็จะช่วยสร้างบรรยากาศการทานอาหารให้ลูก ให้ลูกรู้สึกว่าเขาเป็นคนสำคัญในบ้าน เป็นเหมือนผู้ใหญที่ได้นั่งโต๊ะกินข้าวด้วยกัน ฝึกให้ลูกนั่งเก้าอี้ทานข้าวสำหรับเด็ก คุณพ่อคุณแม่ห้ามตามป้อนข้าว […]

แผ่นรองคลาน ถือเป็นอีกหนึ่งไอเท็มจำเป็นที่ต้องมีในบ้าน ถึงแม้จะไม่อยู่ในลิสของใช้ลูกที่ต้องเตรียมไว้ก่อนคลอด แต่ก็ต้องทำความรู้จักกันไว้ล่วงหน้าซักนิด เพราะแผ่นรองคลาน ถือเป็นอีกอุปกรณ์หนึ่งที่จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการลูกน้อย ในวันที่เขาเริ่มคว่ำตัว และเริ่มที่อยากจะคลาน ซึ่งอยู่ในช่วงวัย 4 – 5 เดือน เป็นต้นไป แล้วแผ่นรองคลานแบบไหนที่ดีต่อลูกน้อยที่สุด วันนี้ Babygift เตรียมคำตอบไว้ให้คุณพ่อคุณแม่แล้วค่ะ แผ่นรองคลานที่ทำจากโฟม EVA วัสดุประเภทโฟม EVA นั้น จะมีน้ำหนักเบา และสามารถตัดเป็นชิ้นได้ง่าย แผ่นรองคลานประเภทนี้ จึงมักจะทำมาในรูปแบบของตัวต่อจิ๊กซอว์ แบบแยกชิ้นส่วน ทั้งแบบตัวเลข หรือตัวอักษรภาษาอังกฤษ เพื่อให้ลูกฝึกต่อเล่น เสริมสร้างพัฒนาการได้ เมื่อถอดเป็นชิ้น ๆ สามารถใส่กระเป๋าพกพาได้ง่าย และมีราคาถูกที่สุดในบรรดาแผ่นรองคลานทุกชนิด แต่เนื่องจากน้ำหนักที่เบาเกินไป ทำให้แผ่นรองคลานไม่ยึดติดกับพื้นบ้าน เมื่อลูกฝึกเดินอาจทำให้ลื่นติดกับเท้า อาจทำให้ลื่นล้มได้ / วัสดุมีกลิ่น และมีสี ที่อาจเป็นอันตรายหากลูกสัมผัสและนำมือเข้าปาก / วัสดุเป็นโฟม จึงไม่ทนทานต่อการขีดข่วน เมื่อเด็กเล็กที่มีเล็บยาว ข่วน หรือจิกเวลาที่พยุงตัว ก็อาจจะทำให้ฉีกขาดได้ง่าย จึงใช้งานได้เพียงระยะสั้น / แผ่นที่แยกกันทำให้อาจเกิดร่อง ซึ่งเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค และวัสดุชนิดนี้ไม่สามารถกันน้ำได้ […]

Menu
All Categories
All Brands
All Ages
Promotions
Locations
BabyGift Family
BabyGift Care
Parents Guide
News & Event

All Categories

All Categories
All Brands
All Ages