ซื้อขวดนม ยี่ห้อไหนดี ? ชวนคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ไปช้อปของจำเป็นให้ลูกกัน !

ขวดนมเป็นอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นสำหรับทารกในช่วงแรกเกิด ยิ่งหากว่าคุณแม่จำเป็นต้องทำงาน หรือเดินทาง การใช้ขวดนมก็จะเป็นตัวช่วยที่บุคคลอื่นสามารถช่วยให้ลูกน้อยมีนมไว้กินได้ หรือในคุณแม่บางคนที่อาจจะมีภาวะแทรกซ้อนหลังคลอด ก็ใช้ขวดนมเป็นตัวช่วยได้อีกเช่นกัน เรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวก เพิ่มความสบายให้กับคุณพ่อคุณแม่ที่เลี้ยงลูกน้อยเลยหล่ะค่ะ และในบทความนี้ BabyGift จะชวนคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ไปดูยี่ห้อขวดนมคุณภาพดี ราคามิตรภาพ พร้อมคำแนะนำต่างๆ ที่ควรรู้ในการเลือกซื้อขวดนมกันค่ะ
ขวดนม ยี่ห้อไหนดี ? รวมยี่ห้อดี คุณภาพแน่น ที่บรรดาคุณแม่ไว้วางใจ !
ก่อนที่เราจะพูดถึงเรื่องซื้อขวดนม ยี่ห้อไหนดี BabyGift ขอชวนคุณพ่อคุณแม่มาดูคำแนะนำในการเลือกซื้อขวดนมกันก่อนสักหน่อยค่ะ สิ่งที่ต้องโฟกัสก็คือ วัสดุ ที่มีทั้งแก้ว หรือพาสติก รูปทรงขวด จุกนม ความง่ายในการทำความสะอาด และที่สำคัญก็คือควรเลือกยี่ห้อที่มีคุณภาพ ใช้วัสดุที่ปลอดภัยต่อลูกน้อยของเราค่ะ สำหรับพ่อแม่มือใหม่ที่อยากเข้าใจวิธีการเลือกซื้อขวดนมให้มากขึ้นกว่านี้ เราเคยเขียนบทความไว้แล้วลองอ่านเพิ่มเติมกันดูนะคะ เอาหล่ะค่ะ ตอนนี้ได้เวลาของการแนะนำขวดนม ยี่ห้อไหนดี ? ที่เราเลือกมาแนะนำแล้ว ตามไปดูยี่ห้อดีๆ กันเลยค่ะ

BabyGift แนะนำ ขวดนม ยี่ห้อไหนดี ?

1. HAENIM ขวดนม รุ่น NOTHING™ ขนาด 5 ออนซ์ (ไม่รวมจุกนม)
หากกำลังมองหาขวดนมที่ใสเหมือนแก้ว มองเห็นน้ำนมชัดแจ๋วต้อง ต้องเลือกขวดนม จาก HAENIM รุ่น NOTHING™ นี้เลยค่ะ นี่คือขวดนมที่เป็น Medical Grade ผ่านมาตรฐานสากล มั่นใจไร้กังวลเรื่องสารปนเปื้อน ขวดคอกว้าง ง่ายต่อการทำความสะอาด ทนความร้อนได้สูงถึง 160 องศา สามารถฆ่าเชื้อได้ทุกรูปแบบ ฝาขวดน้ำหนักเบา เปิดได้ด้วยมือเดียว พร้อมวางตั้งเป็นแก้วน้ำได้ รุ่นนี้ไม่มีจุกนมมาให้นะคะ แต่สามารถใช้จุกนมขวดทรงคอกว้างของ PIGEON หรือ Dr.Betta ได้ค่ะ
จุดเด่น
- ใช้วัสดุ PA (Polyamide)ที่ใสเหมือนแก้ว โดยไม่มีการฟอกสี หรือ เคลือบสี ทนทานต่อรอยขีดข่วนและการตกแตก โปร่งใส ช่วยให้มองเห็นความผิดปกติของน้ำนมได้ดีกว่าวัสดุชนิดอื่น
- ขวด 5 ออนซ์ น้ำหนักเบาเพียง 36 กรัม ช่วยลูกน้อยฝึกจับเองได้ง่าย มีขีดปริมาณละเอียดทุก 10 ml. ทำให้คำนวณการดื่มนมในแต่ละมื้อได้ง่ายขึ้น
- ขวดทรงสูง ขนาดพอเหมาะกับการจับหรือถือ มี 2 ขนาด คือ 150 ml. (5 ออนซ์) และ 270 ml. (9 ออนซ์) และมี 4 สี ให้เลือก ได้แก่ Beige, Yellow, Pink และ White

2. PIGEON ขวดนม รุ่น PPSU WN3 Howapipi ขนาด 160 มล. (แพ็ค 2 ขวด)
ขวดนม PIGEON ทรงใหม่ที่มีรูปทรงจับได้ง่ายขึ้น มาพร้อมลวดลายสุดน่ารัก และจุกนม SoftTouch ที่พัฒนามาจากการเลียนแบบการดูดตามธรรมชาติของทารก ผลิตจากซิลิคอนที่อ่อนนุ่มพิเศษ สัมผัสเสมือนเต้านมมารดามากยิ่งขึ้น หมดปัญหาเรื่องการสับสนเต้า ตรงขวดมีเส้นบอกตำแหน่งริมฝีปากเพื่อให้พอดีกับปากทารก มีให้เลือกด้วยกัน 2 ขนาด คือ ขนาด 5 ออนซ์จะมาพร้อมจุกขนาด SS และ ขนาด 8 ออนซ์จะมาพร้อมจุกขนาด M
จุดเด่น
- เป็นขวดนมสีชาทนต่อความร้อนได้สูงถึง 180 องศาเซลเซียส ส่วนจุกนมทนความร้อนได้ถึง 120 องศาเซลเซียส
- ตัวขวดนมมีอายุการใช้งาน 1-2 ปี ปลอดสาร BPA & BPS ( BPA&BPS FREE)
- ขวดนม PIGEON มีระบบ Air Ventilation System (AVS™) ควบคุมการไหลเวียนของอากาศ ช่วยปรับสมดุลความดันอากาศภายในขวด ทำให้รู้สึกสบายท้องขณะดูด
- ส่วนของรูจุกนมออกแบบให้น้ำนมไหลตามปริมาณที่ทารกต้องการ หมดปัญหาสำลักนม

3. HEGEN ขวดนม ขนาด 2 oz. / 60 ml.
ขวดนมที่ผลิตจากพลาสติก PPSU พลาสติกคุณภาพสูงที่ทนต่อความร้อนได้ถึง 180 องศาเซลเซียส มาพร้อมกับจุกนมที่ไหลช้าเป็นพิเศษที่เหมาะสำหรับทารกที่คลอดก่อนกำหนดหรือน้ำหนักแรกเกิดต่ำกว่าเกณฑ์ที่ยังต้องค่อยๆ เรียนรู้ที่จะดูดนมและกลืน ดีไซน์เก๋ไก๋ใช้งานได้หลากหลาย แถมคุณแม่ยังสามารถเปลี่ยนขวดนมให้เป็นกล่องเก็บน้ำนม ขนม หรือผลไม้ได้อีก แค่เปลี่ยนจุกนมเป็นฝาผิด (ตัวฝาปิดแยกจำหน่าย) เรียกว่าตอบโจทย์คุณแม่ยุคใหม่เลยล่ะค่ะ
จุดเด่น
- เป็นขวดนมที่สามารถเปิด-ปิดได้ด้วยมือข้างเดียว หรือ PCTO (กดเพื่อปิด-บิดเพื่อเปิด) หยิบถือได้ง่าย และลดการหกเลอะเทอะ
- ออกแบบให้มีช่องลมของขวดนมที่ให้ลมเข้าได้น้อย ลดการเกิดฟองอากาศและลดการสูญเสียคุณค่าของน้ำนม ช่วยลดปริมาณลมที่จะเข้าสู่ท้องของลูกน้อยจากการดื่มนม
- จุกนมเป็นรูปทรงวงรีที่เลียนแบบหัวนมของแม่เพื่อกระตุ้นการดูดนมของเด็ก ทำให้การสลับระหว่างการเข้าเต้าแม่กับขวดนมเป็นไปอย่างราบรื่น และตำแหน่งหัวจุกนมที่ไม่ได้อยู่ตรงกลางของขวด ทำให้ลูกน้อยสามารถยกดื่มด้วยองศาที่เป็นไปอย่างธรรมชาติได้
- ล้างได้ง่าย และสะอาดกว่าที่เคย เข้าถึงทุกซอกทุกมุม ด้วยการออกแบบรูปทรงขวดนมที่มีปากกว้างและไม่มีเหลี่ยมมุม

4. DR.BETTA ขวดนม คอกว้าง รุ่น Brain WS2 240 ml.
ขวดนม ยี่ห้อไหนดี อีกหนึ่งยี่ห้อที่อยากแนะนำก็คือ DR.BETTA เป็นขวดนมที่คิดค้นโดยกุมารแพทย์ชาวอเมริกา และผลิตในประเทศญี่ปุ่น ออกแบบให้มีลักษณะโค้งมน ได้มุมการป้อนนมแบบเดียวกับที่มารดาให้นมบุตร รับรองคุณภาพด้วยรางวัล Kids Design Award และ Good Design Award ปลอดสาร BPA BPS วัสดุเป็นพลาสติก PPSU แบบใส ทนความร้อนได้มากถึง 180 องศาเซลเซียส มาพร้อมจุกนมที่คิดค้นจากประสบการณ์ของพยาบาลผดุงครรภ์ให้ลูกน้อยดูดนมได้ตามจังหวะที่เหมาะสมของตัวเอง
จุดเด่น
- ขวดนม Doctor Bétta คิดค้นโดยกุมารแพทย์ชาวอเมริกา และผลิตในประเทศญี่ปุ่น
- มีลักษณะโค้งมน ได้มุมการป้อนนมแบบเดียวกับที่มารดาให้นมบุตร ซึ่งให้ประโยชน์ถึง 3 อย่าง ได้แก่ ปลอดภัยต่อหูชั้นกลาง ช่วยให้สะดวกในการกลืน และ ช่วยลดการกลืนอากาศที่ไม่จำเป็น อันเป็นต้นเหตุของโรคโคลิค
- จุกนมที่คิดค้นพัฒนาจากแรงบันดาลใจ และประสบการณ์จริงของพยาบาลผดุงครรภ์
- ตัวขวดนมเป็นวัสดุ PPSU ทนความร้อนได้ถึง 180 องศาเซลเซียส ฝาครอบทำจากโพลิโพรพิลีน ทนความร้อนได้ถึง 120 องศาเซลเซียส และจุกนมทำจากซิลิโคน ทนความร้อนได้ถึง 120 องศาเซลเซียส

5. MAM ขวดนมป้องกันโคลิค PPSU 9 oz (จุกเบอร์ 2) คละสี
MAM เป็นขวดนมป้องกันโคลิค หรืออาการจุกเสียดของเด็กที่ทำให้ทารกร้องไห้หนัก
MAM ผลิตด้วยคุณภาพที่ได้มาตรฐานความปลอดภัยจากยุโรป แถมยัง ปราศจากสาร BPS และ BPA มาพร้อมจุกนมที่ทำจากซิลิโคนเนื้อนุ่ม ทำให้ลูกไม่รู้สึกถึงความแตกต่างจากการดูดนมจากเต้าของแม่ น้ำนมไหลอย่างสม่ำเสมอ ไม่ต้องกังวลเรื่องการสำลัก ตัวขวดมีสีสัน ลวดลายน่ารัก ถูกใจเด็กน้อย มีให้เลือกด้วยกัน 2 แบบ ตามความชอบค่ะ
จุดเด่น
- ผลิตจากพลาสติก Polyphenylsulfone ปราศจากสาร BPS และ BPA ทนต่อความร้อนได้สูงถึง 180 องศาเซลเซียส ไม่ดูดซับสี และ กลิ่น แข็งแรงทนต่อแรงกระแทก
- มีฐานและวาล์วป้องกันโคลิคอยู่ใต้ขวด ซึ่งต่างจากขวดป้องกันโคลิคยี่ห้ออื่นที่มีรูระบายอากาศอยู่ที่จุกนม
- MAM ได้จดสิทธิบัตรจุกนมที่ทำให้ลูกไม่รู้สึกถึงความแตกต่างจากการดูดนมจากเต้าแม่ ตัวจุกนมทำจากซิลิโคนเนื้อนุ่ม ปลอดสารก่อมะเร็ง

5. MOYUUM ขวดนม PPSU ขนาด 170 ml.
MOYUUM เป็นขวดนมเด็กที่ผลิตจากวัสดุ PPSU ปลอดภัยต่อลูกน้อย คุณแม่ไร้กังวล มาพร้อมกับจุกนมที่ใช้ได้กับเด็กทารก จนถึงอายุ 2 เดือน ตัวขวดนมคอกว้าง ทำให้ง่ายต่อการชงนม และทำความสะอาด น้ำหนักเบา สามารถปรับเปลี่ยนเป็นที่จับขวดนมได้ ขึ้นอยู่กับการใช้งานสำหรับเด็กแต่ละช่วงวัย และสามารถเปลี่ยนเอาจุกนมออกและใส่หลอดดูดหัดดื่มเพื่อฝึกดื่มได้ ทนความร้อนได้ถึง 200 องศาเซลเซียส มีหลายสี และหลายลวดลายน่ารัก น่าใช้
จุดเด่น
- ขวดนมใช้วัสดุ PPSU ปลอดภัย ไร้กังวล เชื่อถือได้ ใช้งานได้ดีและปลอดภัยแน่นอน
- ขวดนมเด็ก และจุกนมซิลิโคน MOYUUM มีคุณภาพระดับโลก ได้มาตรฐานการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของสหรัฐอเมริกา
- ขวดนมใช้กับเครื่องอบฆ่าเชื้อได้ ใช้กับเครื่องล้างอัตโนมัติได้ ฆ่าเชื้อโรคในน้ำร้อน-ไอน้ำได้ ทนต่อความร้อนได้ถึง 200 องศาเซลเซียส
การเลือกซื้อขวดนม และความเข้าใจถึงความจำเป็นของขวดนมเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามสำหรับคุณแม่มือใหม่ เพราะขวดนมคืออุปกรณ์ที่จะช่วยให้คุณแม่ใช้ป้อนอาหารที่ดีที่สุดให้กับเด็กทารกในตลอดช่วงแรกของชีวิตลูก ดังนั้นการเลือกขวดนมที่เหมาะสม ปลอดภัย ได้มาตรฐาน และเอื้อต่อการพัฒนาการการดูดกลืนน้ำนมของลูกน้อยนั้น จึงเป็นเรื่องสำคัญที่คุณแม่มือใหม่ที่ควรให้ความใส่ใจนั่นเองค่ะ สำหรับคุณแม่ที่มีปัญหาเรื่องน้ำนม ลองอ่านเรื่องวิธีกระตุ้นน้ำนมเพิ่มเติมได้อีกนะคะ และหากใครสนใจผลิตภัณฑ์ขวดนม ลังเลในการเลือกขวดนม ยี่ห้อไหนดี ? หรือสนใจสินค้าแม่ และเด็กอื่นๆ ก็สามารถมาเยี่ยมชมสินค้าหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ BabyGift ร้านจำหน่ายสินค้าแม่และเด็กระดับคุณภาพ มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี คุณพ่อคุณแม่สามารถมาเยี่ยมมสินค้าได้ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ร้านเบบี้กิ๊ฟ ทั้ง 4 สาขา ใกล้บ้าน หรือ สอบถามผ่านช่องทาง Online ทีมงาน BabyGift ยินดีให้คำแนะนำค่ะ
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
เครื่องผลิตน้ำเกลือฆ่าเชื้อโรค Blue Water นวัตกรรมการฆ่าเชื้อโรครูปแบบใหม่ ที่ใส่ใจในสุขภาพ และความคุ้มค่า จึงได้คิดค้นวิธีที่จะสามารถ “ผลิตน้ำเกลือฆ่าเชื้อโรค” เองได้ที่บ้านง่าย ๆ โดยเป็นสูตร Organic 100% เพียงมี “น้ำประปา เกลือ และเครื่อง Blue Water” ที่ทำหน้าที่ปล่อยประจุไฟฟ้า ส่งผ่านไปยังน้ำ ทำให้อะตอมของน้ำแตกตัว จนเกิดปฏิกิริยา Oxidation และเกิดเป็นสารประกอบใหม่ขึ้นมา นั่นก็คือ ไฮโปคลอรัส เอซิส HOCl และ ไฮโปคลอไรท์ ไอออน OCl- ซึ่งกรดไฮโปคลอรัส คือกรดชนิดเดียวกันกับที่ร่างกายมนุษย์ผลิตขึ้นมาได้เองในเม็ดเลือดขาว เพื่อฆ่าเชื้อโรคภายในร่างกายนั่นเอง ซึ่งเมื่อนำน้ำที่ผลิตจากเครื่อง Blue Water ไปตรวจวัดประสิทธิภาพที่สถาบันวิจัยนานาชาติ และได้ผลรับรองมาดังนี้ ผลวิจัยพิสูจน์แล้วว่า น้ำเกลือฆ่าเชื้อที่ผลิตจากเครื่อง Blue Water สามารถฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ ที่เป็นตัวต้นกำเนิดของโรคต่าง ๆ ได้ถึง 99.9% ภายในเวลา 30 วินาที นอกจากสามารถฆ่าเชื้อโรคได้แล้ว […]
ต้องบอกว่าคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่นั้นโชคดีมากมาย เพราะการเลี้ยงลูกสมัยนี้มีเครื่องอำนวยความสะดวกที่ช่วยทุ่นแรง ช่วยประหยัดเวลา และช่วยทำความสะอาดฆ่าเชื้อ ช่วยให้นมแม่ เรียกว่ามีสารพัดตั้งแต่ช่วยให้นม ทำความสะอาด ช่วยเตรียมอาหาร ครบถ้วนทั้งอุปกรณ์การนอน การกิน การอยู่สำหรับคุณแม่และลูกน้อย และสิ่งหนึ่งที่หลายๆ บ้านขาดไม่ได้ และคุณพ่อคุณแม่มือใหม่กำลังมองหา เพราะเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยทุ่นแรงกายในการอุ้มลูกน้อยวัยทารก นั่นคือ เป้อุ้มเด็ก เครื่องทุ่นแรงสำคัญที่มีประโยชน์มาก เพราะช่วยทำให้คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องอุ้มลูกน้อยด้วยมือตัวเองตลอดเวลา และไม่ต้องหาคนช่วยอุ้ม เพราะลูกเบบี๋ยังเดินไม่ได้ การกิจวัตรการดูแลลุกส่วนใหญ่ก็จำเป็นต้องอุ้มลูกไว้บ่อยๆ ทั้งการอุ้มไล่ลม อุ้มกล่อมนอน อุ้มปลอบโยน อุ้มเดินเล่น หลายชั่วดมงต่อวัน แถมยังต้องอุ้มลูกนานตั้งแต่แรกเกิดหรือวัยทารกไปจนถึงวัยประมาณเกือบ 2 ขวบ จนเมื่อลูกเดินได้เก่ง ฉะนั้นเพื่อตอกย้ำถึงประโยชน์และความคุ้มค่าในการใช้เป้อุ้มเด็ก ให้คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังตัดสินใจว่าจะซื้อเป้อุ้มให้ลูกดีหรือไม่ ได้เห็นถึงข้อดีว่ามีแค่ไหน…เชื่อว่าเมื่อรู้แล้วทุกท่านจะสามารถเลือกซื้อใช้กันได้มั่นใจยิ่งขึ้น 10 ข้อดี ที่ต้องมี เป้อุ้มเด็ก 1 ประหยัดแรงกาย ประหยัดแรงคน เพราะเป้อุ้มเด็ก จะช่วยทุ่นแรงคุณแม่ไม่ต้องเดินอุ้มลูก ใช้กำลังแขนกำลังมืออุ้มลูกบ่อยๆ ประหยัดแรงกาย ช่วยให้คุณแม่ไม่เมื่อยล้า แต่เป้จะช่วยรองรับน้ำหนักตัวของลูกน้อยด้วยเป้และสายรัดให้อยู่กับตัวคุณแม่ ประหยัดแรงคนไม่ต้องหาคนมาช่วยอุ้มลูกเวลาที่คุณแม่จะต้องทำงาน เดินซื้อของ หรือทำธุระอื่นๆ 2 ลูกปลอดภัย นั่งและนอนได้สบาย เมื่อลูกน้อยอยู่ในเป้อุ้มเด็กจะปลอดภัย เพราะตัวคุณแม่และเป้จะประคองลูกตลอดเวลา ซึ่งเป้อุ้มเด็กส่วนใหญ่จะผลิตจากวัสดุที่ทำด้วยผ้าหนานุ่ม […]
หลังจากเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ กฎหมายคาร์ซีท เกี่ยวกับเด็กที่อายุไม่เกิน 6 ปี หรือสูงไม่เกิน 135 ซม. ผู้ปกครองต้องจัดหาที่นั่งพิเศษให้สำหรับเด็ก หรือนั่งในที่นั่งพิเศษสำหรับเด็ก (คาร์ซีท) เพื่อป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ หากไม่ทำตามกฏหมายก็จะถูกปรับ 2,000 บาท โดยจะมีผลบังคับใช้ในอีก 120 วันข้างหน้า ซึ่งตรงกับวันที่ 5 กันยายน 2565 นี้ เมื่อมี กฎหมายคาร์ซีท ออกมาแล้วคุณพ่อคุณแม่หลายท่านก็ต้องมองหาคาร์ซีทให้ลูกอย่างจริงจังเลยใช่ไหมคะ แล้วคาร์ซีทแบบไหนเหมาะสำหรับลูกเรา แบบไหนปลอดภัยกว่า วันนี้ Baby Gift ได้รวบรวมข้อมูลมาให้กับคุณพ่อคุณแม่ได้เตรียมความพร้อมแล้วค่ะ ไปดูกันเลย หลังจากเว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ กฎหมายคาร์ซีท เกี่ยวกับเด็กที่อายุไม่เกิน 6 ปี หรือสูงไม่เกิน 135 ซม. ผู้ปกครองต้องจัดหาที่นั่งพิเศษให้สำหรับเด็ก หรือนั่งในที่นั่งพิเศษสำหรับเด็ก (คาร์ซีท) เพื่อป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ หากไม่ทำตามกฏหมายก็จะถูกปรับ 2,000 บาท โดยจะมีผลบังคับใช้ในอีก 120 วันข้างหน้า ซึ่งตรงกับวันที่ 5 กันยายน 2565 […]
คุณแม่ยุคใหม่หลายๆ ท่านอาจจะรู้จัก วิธีการให้อาหารเสริมลูกน้อยแบบ Baby Led Weaning หรือการ กินแบบ BLW กันบ้างแล้ว เพราะเป็นวิธีการที่หลายบ้านเริ่มนิยมใช้ เนื่องจากเป็นการฝึกลูกกินอาหารเสริมด้วยตัวเองตั้งแต่มื้อแรก ในแบบที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องป้อน และไม่ต้องบดหรือปั่นอาหารให้ลูกน้อย ที่สำคัญคือการให้ลูกกินอาหารเสริมด้วยวิธีนี้ ยังมีข้อดีหลายอย่าง เพราะเป็นการฝึกให้ลูกได้ใช้พัฒนาการทั้งด้านกล้ามเนื้อ สายตา ได้เรียนรู้รสชาติอาหารที่แตกต่าง และเป็นการฝึกพื้นฐานการช่วยเหลือตัวเองเพื่อพัฒนาให้ลูกสามารถทำอะไรได้เองเก่งขึ้นในอนาคต กินแบบ BLW มีขั้นตอนอย่างไร? วิธีการ กินแบบ BLW มีขั้นตอนต่างๆ ดังนี้ ซึ่งการให้ลูกกินด้วยวิธีการแบบนี้ จะช่วยให้ทั้งคุณแม่และคุณลูกรักมีความสุขกับมื้ออาหารของลูกมากขึ้น เพราะไม่ต้องเหนื่อยเดินป้อนข้าวลูก ลูกน้อยเองก็รู้สึกสนุก เพลิดเพลินกับการได้หยิบจับอาหารเข้าปาก ทำให้การ กินแบบ BLW เป็นที่นิยมกันในครอบครัวต่างประเทศ และนิยมในเมืองไทยบ้านเรามากขึ้น แต่การจะเริ่มให้ลูกกิน BLW จะต้องมีการเตรียมพร้อมก่อนให้มื้อแรก และคุณแม่ต้องเรียนรู้ข้อจำกัดและข้อควรระวังหลายๆ อย่าง ดังนั้นไปดูกันว่ามีอะไรที่คุณแม่ต้องพิถีพิถันใส่ใจบ้าง แม่ต้องเตรียมอะไรบ้าง? เมื่อเริ่มให้ลูก กินแบบ BLW แม้จะดูเหมือนการให้อาหารเสริมลูกด้วยวิธีการ BLW นี้ จะไม่ได้ยุ่งยากนัก แต่ก็มีเรื่องสำคัญต่างๆ ที่คุณแม่จะต้องใส่ใจและพิถีพิถันเลือกให้ลูกน้อย เพื่อความปลอดภัย และให้อาหารลูกในแบบ BLW ได้สำเร็จ […]
การใช้ชีวิตในสังคมยุคปัจจุบันเรียกได้ว่าต้องเป็นคุณแม่สายแข็งสายสตรอง ไหนจะมลพิษ ไหนจะฝุ่นขนาดเล็กอย่าง PM2.5 ที่ถาโถมมาประดังกันอย่างไม่หยุดหย่อน ซ้ำร้ายกว่านั้น เจ้าภัยร้าย PM2.5 ยังมองด้วยตาเปล่าไม่เห็นอีกซะนี่ แต่ไหนๆ ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว งั้นเรามาทำความรู้จักกับเจ้า PM2.5 พร้อมวิธีการป้องกันกันดีกว่าค่ะ PM2.5 คืออะไร? PM2.5 คือฝุ่นละอองไซส์เล็กจิ๋วที่มีขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน ถ้าคุณแม่คิดภาพไม่ออก ลองมองดูที่เส้นผมเราค่ะ เจ้าฝุ่นตัวนี้มีขนาดเล็กกว่าผมเราประมาณ 25 เท่าเลยเชียวนะ และขนาดที่เล็กมากเนี่ยแหละที่เป็นอันตราย เพราะแม้แต่จมูกของเราที่สามารถกรองฝุ่นได้อย่างดีเยี่ยมยังไม่สามารถทำอะไรได้ ตอนนี้ก็เลยเป็นหน้าที่ของเราแล้วนะที่จะต้องป้องกันตัวเอง PM 2.5 เกิดจากอะไร? สาเหตุหลักๆ ของ PM2.5 มาจากการเผาขยะ โรงงานอุตสาหกรรม การคมนาคมขนส่งอะไรพวกนี้ค่ะ แต่ฝุ่นนี้ก็ไม่ได้มาแค่ฝุ่นนะคะ เพราะมันจะพาพวกสารเคมีอันตรายจำนวนมากมาด้วย ไม่ว่าจะเป็นสารพิษที่ทำให้เกิดมะเร็งอย่าง P-A-Hs สารเคมีที่ไปทำลายระบบประสาทอย่างปรอท รวมถึงแคดเมียมซึ่งเป็นสารพิษจากการทำอุตสาหกรรมต่าง ๆ และสารหนูที่ส่งผลต่อระบบประสาทอีกด้วยเช่นกัน ผลกระทบต่อการตั้งครรภ์ เพราะฝุ่นชนิดนี้มีขนาดเล็กมาก ทำให้สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายๆ ลูกน้อยของเราจึงมีความเสี่ยงมากเป็นพิเศษ แถมยังมีก๊าซต่างๆ ที่ลอยคลุ้งอยู่กับฝุ่นละออง ไม่ว่าจะเป็นก๊าซไนโตรเจนไดออกไซด์ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และโอโซน ซึ่งล้วนมีผลต่อการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ทั้งสิ้น […]
เมื่อรู้ว่าตัวเองก้าวเข้าสู่สถานะคุณแม่ตั้งครรภ์เต็มตัวแล้ว สิ่งแรกที่บรรดาแม่ๆ ทั้งหลายแอบกังวลอยู่ไม่น้อย คงจะหนีไม่พ้นเรื่องอาหารการกิน ที่เป็นเรื่องใกล้ตัวเรามากที่สุด เพราะจากประสบการณ์ตรงของการเป็นคุณแม่ตั้งครรภ์แล้ว บรรดาเพื่อนสนิท คนใกล้ชิด มักจะวนเวียนมาถามว่า คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ควรกินอะไร หรือสามารถกินอะไรได้บ้าง ยิ่งถ้าไม่มีอาการแพ้ท้อง ถือว่าโชคดีสองชั้น อยากกินทุกอย่างที่ขวางหน้าแน่นอน หรือแพ้ท้องแล้วก็ดันอยากจะกินอาหารที่ไม่ควรกินอีก เพราะโน้นก็อร่อย นี่ก็ของชอบ ไม่รู้ว่ากินเข้าไปแล้วจะมีผลกระทบต่อเจ้าตัวน้อยในครรภ์รึเปล่า วันนี้คุณแม่เลยอยากจะแนะนำอาหารคุณแม่ตั้งครรภ์ท้องใหม่ไม่ควรรับประทานให้ฟังว่า 1. อาหารที่มีรสจัดคุณแม่ตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสจัดมากๆ เพราะระบบย่อยอาหารจะผิดปกติไปจากเดิม การกินอาหารรสจัดๆ ไม่ว่าจะเผ็ดจัด เค็มจัด หวานจัด เปรี้ยวจัด จะทำให้มีโอกาสปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ นำไปสู่อาหารเป็นพิษได้ง่าย 2. อาหารที่ก่อโรคไหลย้อนในช่วงตั้งครรภ์ โอกาสที่คุณแม่จะเป็นโรคกรดไหลย้อนเกิดขึ้นได้ง่าย ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดกรดไหลย้อนโดยเฉพาะ อาหารทอด, อาหารจำพวกแป้งที่ต้องอุ่นซ้ำ, อาหารที่มีรสจัด, ชา, กาแฟ, น้ำอัดลม, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์, ชีส รวมถึงยาบางชนิด เช่น ยาขยายหลอดลม เป็นต้น 3. อาหารที่กินแล้วท้องผูกต้องบอกไว้ก่อนเลยว่า อาการท้องผูกกลายเป็นของคู่กันของคุณแม่ตั้งครรภ์ไปแล้ว ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดริดสีดวงทวารได้ง่าย คุณแม่จึงควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ย่อยยาก หรือลดปริมาณการกินให้น้อยลง แล้วหันมารับประทานอาหารที่มีกากใยสูง อย่างผักและผลไม้แทน […]