แชร์วิธีห่อตัวเด็กทารก ทำตามง่าย ลูกน้อยหลับสบาย ลดสะดุ้ง !

หลาย ๆ คนที่เคยไปฝึกอบรมเข้าคอร์สคุณพ่อคุณแม่มือใหม่มานั้น นอกจากการสาธิตวิธีการอุ้ม วิธีการอาบน้ำเด็กแรกเกิด และวิธีดูแลเด็กเล็กในเรื่องต่างๆ แล้ว การฝึกห่อตัวทารกก็เป็นทักษะที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ควรรู้เช่นกัน การห่อตัวเด็กเล็กนั้นจะช่วยให้เด็กรู้สึกสบายตัว และรู้สึกปลอดภัย คล้ายกับยังอยู่ในครรภ์ของคุณแม่ การห่อตัวเด็กเล็กจึงช่วยให้ลูกนอนหลับได้ง่าย ทั้งยังรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น ทั้งนี้ก็ต้องมี วิธีห่อตัวเด็ก อย่างถูกต้องด้วย ทำได้อย่างไร มาดูกันเลยค่ะ
แชร์ วิธีห่อตัวเด็ก ที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ทำตามได้จริง
นอกจากความสำคัญของการห่อตัวเด็กแล้ว ในบทความนี้ BabyGift จะพามารู้จักวิธีห่อตัวทารกในแบบต่าง ๆ รวมถึงตอบคำถามเกี่ยวกับการห่อตัวเด็ก และแนะนำผ้าห่อตัวเด็กคุณภาพดีให้กับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่กันค่ะ ตามมาอ่านเรื่องนี้กันได้ในบทความนี้เลยนะคะ
ทำไมถึงต้องห่อตัวเด็กเล็ก ? การห่อตัวเด็กจำเป็นหรือไม่ ?

การห่อตัวเด็กแรกเกิดนั้นจะช่วยให้เด็กสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมภายนอกได้ ทั้งยังช่วยกระชับแขนขา ช่วยลดอาการสะดุ้งตกใจจากเสียงดัง และยังช่วยรักษาความอบอุ่นให้กับลูกน้อย ทำให้ลูกไม่หนาวและนอนหลับได้นานขึ้น ทั้งยังทำให้ลูกรู้สึกอบอุ่นปลอดภัย เสมือนอยู่ในครรภ์ของคุณแม่ ให้ความรู้สึกว่ากำลังถูกโอบกอดอยู่ ในเด็กบางคนที่ผวาตื่นได้ง่ายหรือนอนสะดุ้งบ่อย ๆ วิธีห่อตัวเด็กอย่างถูกวิธีก็จะทำให้นอนหลับได้นานขึ้น ร่วมกับการกล่อมลูกนอนด้วย White noise อย่างเสียงน้ำไหล เสียงฝนตก เสียงลมธรรมชาติ ก็จะทำให้ลูกหลับสนิทและผ่อนคลายได้มากขึ้น ส่งผลให้ลูกนอนหลับพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ค่ะ อย่างไรก็ตาม คุณพ่อคุณแม่เองก็ต้องรู้วิธีห่อตัวเด็กอย่างถูกต้องด้วยเหมือนกัน เพราะถ้าห่อตัวผิดวิธี ก็อาจส่งผลเสียต่อลูกน้อยได้ ซึ่งการห่อตัวเด็กทารกโดยหลัก ๆ แล้ว มีอยู่ 3 วิธีด้วยกัน แต่ละวิธีจะนั้นจะเป็นอย่างไร ไปดูกันเลยค่ะ
วิธีห่อตัวทารก แบบต่าง ๆ มีอะไรบ้าง ?
ก่อนจะไปดูวิธีห่อตัวเด็กเล็ก อันดับแรกที่จำเป็นต้องมีก็คือ ผ้าสำหรับห่อตัวลูกนั่นเอง ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งผ้าอ้อมหรือผ้าขนหนู โดยแนะนำให้เลือกเป็นผ้าที่มีผิวสัมผัสนุ่มละมุน ทำให้ลูกน้อยรู้สึกสบายตัว ส่วนความหนาของผ้านั้น ควรเลือกให้เหมาะกับสภาพอากาศ มีขนาดที่ใหญ่พอดีจนสามารถห่อตัวเด็กเล็กได้ และเมื่อห่อตัวเรียบร้อยแล้วจะต้องมีความกระชับ ไม่เลื่อนหลุดขณะลูกดิ้นหรือขยับตัว เตรียมผ้ากันเรียบร้อยแล้วหรือยังคะ ถ้าพร้อมแล้วก็มาดูขั้นตอนการห่อตัวเด็กพร้อม ๆ กันเลยค่ะ
1. ห่อตัวแบบคลุมศีรษะ
วิธีห่อตัวเด็กแบบคลุมศีรษะ เหมาะสำหรับการพาลูกน้อยออกไปนอกสถานที่ เช่น ไปโรงพยาบาล หรือไปทำธุระนอกบ้าน จะช่วยให้เด็กรู้สึกอบอุ่นปลอดภัยได้มากขึ้น ทำได้ดังนี้ค่ะ

- ขั้นตอนแรก วางผ้าลงกับเตียงหรือเบาะนอนโดยให้มุมผ้าชี้ขึ้นด้านบน แล้วพับมุมผ้าลงให้เป็นรูปสามเหลี่ยม
- วางตัวลูกน้อยให้ศีรษะอยู่ต่ำกว่าขอบชายผ้าเล็กน้อย
- นำผ้ามาคลุมศีรษะลูกให้แนบไปตามลำตัว และจัดแขนของลูกข้างใดข้างหนึ่งให้แนบลำตัว
- พับชายผ้าให้มาอีกฝั่ง โดยให้ผ้าห่มทับลำตัวของลูกน้อย และเหน็บชายผ้าไว้ใต้รักแร้ของลูก กระชับผ้าให้พอดี
- ทำอีกด้านให้เหมือนกัน โดยเหน็บผ้าไว้ใต้ลำตัวของลูกน้อย
- จับชายผ้าด้านล่างมัดขมวดเป็นปม เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
2. ห่อตัวแบบเปิดศีรษะ
วิธีห่อตัวทารกแบบเปิดศีรษะ ใช้สำหรับการพาลูกน้อยออกจากโรงพยาบาลหลังคลอด หรือเวลาห่อตัวอยู่บ้าน เป็นต้น

- ขั้นตอนแรก วางผ้าลงบนเตียงหรือเบาะนอนโดยให้มุมผ้าชี้ขึ้นด้านบน แล้วพับมุมผ้าลงให้เป็นรูปสามเหลี่ยม
- วางตัวลูกน้อยลงบนผ้า โดยให้ชายผ้าอยู่ในระดับไหล่ของลูก
- ให้แขนของลูกน้อยอยู่แนบลำตัว และพับผ้ามาอีกฝั่ง จากนั้นนำแขนอีกหนึ่งข้างทับผ้าไว้
- พับผ้าอีกด้านให้ทาบตัวของลูกน้อย เก็บชายผ้าโดยการสอดใต้ลำตัวของลูก
- จับชายผ้าด้านล่างมัดขมวดเป็นปม เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
3. ห่อตัวแบบเปิดแขนข้างใดข้างหนึ่ง
วิธีห่อตัวเด็กแบบนี้ เหมาะสำหรับการเจาะสายน้ำเกลือ ฉีดยา หรือจำเป็นต้องตัดเล็บ ซึ่งเป็นการเปิดแขนออกมาจากผ้า 1 ด้าน เพื่อสร้างความสะดวกสบายในการทำหัตถการทางการแพทย์ วิธีการคล้ายๆ แบบที่ 2 แต่ต่างกันเล็กน้อยทำได้ดังนี้ค่ะ
- ขั้นตอนแรก วางผ้าลงบนเตียงหรือเบาะนอนโดยให้มุมผ้าชี้ขึ้นด้านบน แล้วพับมุมผ้าลงให้เป็นรูปสามเหลี่ยม
- วางตัวลูกน้อยลงบนผ้า โดยให้ชายผ้าอยู่ในระดับไหล่ของลูก
- จับแขนของลูก 1 ข้างให้แนบชิดลำตัว และจับชายผ้าพาดมาอีกฝั่งหนึ่งให้อยู่ใต้รักแร้ของลูกพอดี และจับแขนของลูกทับผ้าไว้
- พับผ้ามาอีกฝั่ง โดยให้ผ้าสอดไว้ที่ใต้แขนของลูก เพื่อให้แขนอีกด้านสามารถอยู่นอกผ้าห่อตัวได้
- เก็บชายผ้าโดยการสอดใต้ลำตัวของลูก และจับชายผ้าด้านล่างมัดขมวดเป็นปม เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
แล้วพ่อแม่ควรห่อตัวเด็กเล็กจนถึงกี่เดือน ?

โดยปกติแล้ว สามารถห่อตัวลูกน้อยของเราได้ตั้งแต่แรกเกิดจนอายุไม่เกิน 3 สัปดาห์ เพราะถ้าเริ่มโตขึ้นก็จะขยับเคลื่อนไหวตัวมากขึ้น และอาจจะเริ่มพลิกตะแคง พลิกคว่ำ ซึ่งถ้าหากห่อตัวในช่วงที่เด็กสามารถพลิกตัวหรือคว่ำเองได้แล้ว อาจเสี่ยงต่อการหลับไหลตาย (Sudden Infant Death Syndrome : SIDS) เพราะการคว่ำทำให้หน้าจมลงที่นอน ส่งผลให้ทารกหายใจไม่ออก ทั้งยังไม่สามารถพลิกกลับมานอนหงายได้เอง และการพันผ้าห่อตัวลูกน้อยก็อาจทำให้ถูกรัดแน่น ขยับดิ้นไม่ได้ ทำให้ขาดอากาศหายใจและเสียชีวิตได้ค่ะ ดังนั้นแล้ว ถ้าสังเกตว่าลูกเริ่มขยับมากขึ้นหรือพลิกตะแคง พลิกคว่ำได้เองแล้ว ควรเลิกห่อผ้าให้ลูกน้อย เพื่อเป็นการป้องกันเหตุไม่คาดคิดที่อาจเกิดขึ้นได้
แจกเคล็ดลับดีๆ วิธีห่อตัวเด็ก ให้ปลอดภัย
- ควรให้ลูกน้อยนอนหลับในท่านอนหงาย เฝ้าดูลูกเป็นระยะเพื่อให้แน่ใจว่าลูกไม่พลิกตัวนอนคว่ำหรือนอนตะแคงข้างในระหว่างที่ถูกห่อตัวขณะนอนหลับ
- จัดผ้าปูที่นอน และผ้ารองนอนบนเตียงให้ตึงอยู่เสมอ เพราะผ้าปูที่นอนหรือผ้ารองนอนที่ย่น รวมถึงผ้าห่อตัวเด็กที่พันไว้อย่างหลวมๆ อาจหลุดออกและไปอุดปากอุดจมูกของเด็ก ซึ่งอาจทำให้ขาดอากาศหายใจได้
- วัสดุรองนอนของลูกไม่ควรนิ่มจนบุ๋มเป็นแอ่ง เพราะอาจทำให้หายใจไม่สะดวก ทั้งนี้ ควรแยกที่นอนของลูกน้อยออกจากเตียงของพ่อแม่ เพื่อป้องกันการนอนทับลูก หรือเกิดอุบัติเหตุอื่นๆ ที่ไม่คาดคิด
- ควรสังเกตลูกน้อยในระหว่างที่ห่อตัวนอนหลับอย่างสม่ำเสมอ เพราะการห่อตัวอาจทำให้อุณหภูมิร่างกายของลูกสูงกว่าปกติ หากลูกมีเหงื่อออกตามตัว ผมเปียกชื้น แก้มแดงกว่าปกติ มีผื่นขึ้นเพราะอากาศร้อน ควรคลายผ้าห่อตัวออก เพราะอาจทำให้เด็กไม่สบายตัวได้
BabyGift แนะนำผ้าห่อตัวเด็กคุณภาพดี ให้ลูกน้อยหลับสบาย

1. ผ้าห่อตัวใยเทนเซล GRANNY BEN
ผ้าห่อตัวใยเทนเซล (Tencel Muslin Swaddle Cloth) เป็นผ้าห่อตัวอเนกประสงค์ขนาดใหญ่ มีขนาด 47 x 47 นิ้ว ใช้งานได้อย่างหลากหลาย พร้อมหูคล้องสองด้านสำหรับแขวนกันตกหรือตากแห้ง ใช้ห่อตัวเด็กเพื่อกันสะดุ้ง คลุมให้นม เช็ดตัวหลังอาบน้ำ ใช้ห่มนอน ปูรองนอน คลุมกันแดด รองนั่งรถเข็น หรือคาร์ซีท นำมาใช้ได้สารพัดประโยชน์ ตอบโจทย์การใช้งานทุกรูปแบบ

2. ผ้าห่อตัวเด็ก BABY & CO.
นอกกจากจะต้องรู้วิธีห่อตัวเด็กอย่างถูกต้องแล้ว การเลือกใช้ผ้าห่อตัวที่นุ่มสบายและมีคุณภาพดีก็สำคัญต่อลูกน้อยเช่นกัน หากคุณแม่ท่านใดอยากได้ผ้ามัสลินสำหรับห่อตัวเด็กแรกเกิด ขอแนะนำอีกหนึ่งยี่ห้อของ BABY & CO. เนื้อผ้าเนียนนุ่มให้ลูกน้อยรู้สึกสบายตัว ซึมซับรวดเร็ว แห้งไว นอกจากนี้ ยังมีขนาดใหญ่ถึง 47 นิ้ว ครอบคลุมทุกการใช้งานทั้งคุณแม่และลูกน้อย

3. ผ้าห่อตัวสาลูใยไผ่ NAPPI
ผ้าห่อตัวสาลูใยไผ่จาก NAPPI ตัวช่วยสำคัญที่ทำให้ลูกน้อยหลับง่าย ลดการร้องไห้และผวาตื่น ให้สัมผัสนุ่มสบายกว่าผ้าสาลูทั่วไป ระบายอากาศดีมาก ดูดซับความชื้น เหงื่อ และซับน้ำได้ดี ช่วยให้ลูกน้อยแห้งสบายตัว เหมาะสำหรับลูกน้อยที่มีผิวบอบบาง มีขนาดใหญ่ 47 X 47 นิ้ว ใช้ได้สารพัดประโยชน์ทั้งห่อตัว ห่ม ปูรองนอน เช็ดตัว คลุมให้นม พิมพ์ด้วยสี Non-Toxic ปราศจาก AZO-DYE ไม่มีสาร Phthalate ฟอร์มาลดีไฮด์ และสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อลูกน้อย
วิธีห่อตัวเด็กอย่างถูกต้องนั้น จะช่วยให้ลูกน้อยหลับสบายได้มากขึ้น ลดอาการสะดุ้งและอาการผวาขณะนอนหลับได้ เพราะการห่อตัวทำให้ลูกรู้สึกอบอุ่นปลอดภัย คล้ายกับการอยู่ในครรภ์คุณแม่ อย่างไรก็ตาม เมื่อลูกน้อยโตขึ้นจนไม่สามารถห่อตัวได้แล้ว หากอยากให้ลูกน้อยนอนหลับได้ง่ายขึ้นและหลับได้ยาวนานขึ้น การใช้เปลไกวทารกก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำหรับการกล่อมลูกนอนค่ะ สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังชั่งใจว่าจะเลือกเปลไกวแบบหน้า-หลัง หรือไกวแบบซ้าย-ขวา เลือกแบบไหนดี ? BabyGift มีเขียนบทความเรื่องนี้เอาไว้ อ่านเพิ่มเติมได้เลยนะคะ หรือหากต้องการอุปกรณ์ของใช้เด็กอ่อนอื่นๆ เพิ่มเติม สามารถเข้ามาเยี่ยมชมสินค้าได้ที่ร้าน BabyGift ร้านจำหน่ายสินค้าแม่และเด็กระดับคุณภาพ มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี ซึ่งสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ร้านเบบี้กิ๊ฟทั้ง 6 สาขาใกล้บ้าน หรือสอบถามผ่านช่องทาง Online ทีมงาน BabyGift ยินดีให้คำแนะนำค่ะ
อ้างอิงที่มาข้อมูลบางส่วนจาก : https://www.youtube.com/watch?v=ZySzj_w2rd0
คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
คาร์ซีทนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับลูกน้อย และคุณพ่อคุณแม่ควรเตรียมพร้อมคาร์ซีทให้เรียบร้อยก่อนที่ลูกน้อยจะคลอด เพราะเมื่อออกจากโรงพยาบาลมาแล้วก็ต้องนั่งคาร์ซีทกลับบ้าน ทั้งเพื่อความปลอดภัยสำหรับลูกน้อยเอง และเพื่อปฏิบัติตามกฏหโมายเรื่องการกำหนดที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก (คาร์ซีท) ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม 2566 เป็นต้นไป สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกคาร์ซีท เด็กแรกเกิดอย่างไรดี ควรเลือกแบบไหน คาร์ซีทสำหรับเด็กมีกี่ประเภท เลือกอย่างไร BabyGift มีคำแนะนำดี ๆ มาฝากกันแล้วค่ะ เลือกคาร์ซีท เด็กแรกเกิด อย่างไรดี ? ต้องรู้อะไร ? เลือกยังไงดี หาคำตอบได้จากบทความนี้ ! คาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิด เป็นหนึ่งในสิ่งที่ต้องเตรียมไว้ให้กับลูกตั้งแต่ก่อนคลอด และควรที่จะให้ลูกได้ใช้ตั้งแต่วันแรกที่ออกจากโรงพยาบาล เนื่องจากร่างกายของเด็กทารกยังไม่แข็งแรง ยังไม่สามารถรับแรงกระแทกได้มากเท่าไหร่ อีกทั้งเราไม่รู้ว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ จึงควรป้องกันไว้ก่อนและเตรียมความพร้อมในทุกสถานการณ์ คาร์ซีท เด็กแรกเกิด จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ไม่รู้จะเลือกอย่างไรดี ต้องเลือกแบบไหน คาร์ซีท มีกี่แบบ ต้องเลือกอย่างไร ? ในบทความนี้ BabyGift มีเคล็ดลับดีๆ ในการเลือกซื้อคาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิดมาฝากกันค่ะ เรามารู้จักประเภทของคาร์ซีทกันก่อนเลย ซึ่งสามารถแบ่งประเภทของคาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิดได้ดังนี้ 1. New Born Only : หรือคาร์ซีทแบบกระเช้า คาร์ซีทประเภทนี้จะมีขนาดเล็ก […]
พัฒนาการของเด็ก แบ่งได้หลายแบบ โดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 4 ด้านใหญ่ๆ คือ เด็กปกติทั่วไปจะมีลำดับขั้นของพัฒนาการใกล้เคียงกัน ถ้าเด็กมีพัฒนาการล่าช้าเกิน 6 เดือนขึ้นไป ถือว่ามีความผิดปกติบางอย่างที่ต้องรีบช่วยเหลือ และกระตุ้นพัฒนาการอย่างเร็วที่สุด พัฒนาการปกติในแต่ละช่วงวัยเป็นดังนี้ พัฒนาการด้านกล้ามเนื้อมัดใหญ่ (Gross Motor Development) ช่วงวัย พัฒนาการ แรกเกิด งอแขนขา, เคลื่อนไหวเท่ากัน 2 ด้าน 1 เดือน หันหน้าซ้ายขวา 2 เดือน ชันคอ 4 เดือน ยกแขนดันตัวชูขึ้นในท่าคว่ำ 6 เดือน คว่ำหงายได้เอง 9 เดือน นั่งได้มั่นคง, คลาน, เกาะยืน 12 เดือน เกาะเดิน 15 เดือน เดินเองได้ 18 เดือน วิ่ง, ยืนก้มเก็บของ 2 ปี เตะลูกบอล, กระโดด 2 เท้า 3 ปี ขึ้นบันไดสลับเท้า, ถีบรถ 3 ล้อ 4 ปี ลงบันไดสลับเท้า, กระโดดขาเดียว 5 […]
Q: ขวดนมที่ไม่มี BPA ปลอดภัย ใช้ได้นานกว่า ? A :ขวดนม PP ไม่มี BPA อายุการใช้งานสั้นกว่า PC ที่มี BPA โดยทั่วไป พลาสติกแต่ละชนิด จะมีอายุการใช้งานที่ต่างกัน ยิ่งต้ม ยิ่งนึ่ง ยิ่งขัด ก็ยิ่งเสื่อมสภาพเร็ว ทั้งนี้ คุณภาพและการผลิตพลาสติกของแต่ละโรงงานย่อมต่างกัน ขวด PP ที่ผลิตจากเม็ดพลาสติกคุณภาพสูงไม่ผสมเศษงานมักจะใสกว่า คุณแม่อาจพิจารณาเปลี่ยนขวดนมเมื่อเห็นว่าเริ่มบุบเบี้ยว หรือ ขวดนมขุ่นมากขึ้นอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม อายุการใช้งานจะสิ้นสุดถ้าขวดนมเป็นรอยขูดข่วน จึงควรล้างขวดนมด้วยแปรงขนนิ่ม ฟองน้ำ หรือแปรงซิลิโคน ***ดังนั้น อย่ากังวลกับฉลากและ โฆษณา “BPA-Free” ให้มากนัก หันมาดูวัสดุ และการดูแลรักษาให้ปลอดภัยจะดีกว่า ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก : SS Medical Clinic โดย พ.ญ.สิทธิ์ธีราห์ ชโรเต้อร์ หรือใช้การฆ่าเชื้อด้วยแสงรังสี UV (Prince&Princess Baby UV Sterilizer) นวัตกรรมใหม่สำหรับการดูแลลูกน้อยให้พ้นจากเชิ้อโรค ได้ถึง […]
ในความคิดหรือความเชื่อของคุณแม่ตั้งครรภ์หลายๆ ท่าน ยังมีความคิดและดูจากโฆษณาต่างๆ จนทำให้เชื่อว่า ตอนท้องแม่ต้องดื่มนมมากๆ เพื่อบำรุงให้แม่และลูกแข็งแรง ซึ่งความจริงแล้วข้อมูลนี้เป็นความเข้าใจที่ผิดค่ะ เพราะเรื่องของการกินอาหารและกินนมของแม่ท้องนั้น วิธีที่ดีและถูกต้องที่สุดคือกินอย่างเหมาะสม หลากหลายไม่ซ้ำและกินมากจนเกินไป โดยเฉพาะเรื่องการกินนมในแม่ท้อง ยิ่งเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจ เพราะมีข้อมูลออกมาบอกว่า การที่คุณแม่ตั้งครรภ์ดื่มนมวัวมากเกินไป จะเป็นสาเหตุให้ลูกแพ้นมวัวได้ตั้งแต่แรกเกิด เราจึงขอนำความรู้ดีๆ เกี่ยวกับโภชนาการและการกินนมวัวมาอธิบายให้คุณแม่ตั้งครรภ์ได้เข้าใจ เพื่อให้กินอาหารและดื่มเครื่องดื่มต่างๆ ได้อย่างเหมาะสมมาฝากค่ะ แม่ท้องกินนมวัวมาก ลูกอาจแพ้ได้จริงหรือ? ข้อมูลนี้เป็นความจริงค่ะ เพราะการที่ร่างกายคุณแม่ได้รับสารอาหารอะไรมากจนเกินไป จะสามารถกระตุ้นให้ลูกน้อยมีอาการแพ้อาหารชนิดนั้นๆ ได้ตั้งแต่หลังคลอด นั่นคือนมวัวที่กินมากไปนั้น จะไปทำให้เกิดการสะสมของแคลเซียมและโปรตีนนมวัว เป็นหนึ่งในสารก่อภูมิแพ้ที่ส่งผลกับลูกน้อยในครรภ์ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ จนกระตุ้นให้เกิดการแพ้ โดยจะมีอาการแสดงของการแพ้นมวัวได้แก่ ซึ่งปกติแล้วการที่ลูกน้อยจะแพ้นมวัว แพ้อาหาร หรือเป็นภูมิแพ้ได้นั้น สาเหตุใหญ่หลักๆ คือ นอกจากนี้ยังไม่รวมกับโปรตีนในนมวัวที่คุณแม่ได้รับจากอาหารอื่นๆ ที่แฝงไปด้วยนมอีก เช่น เบเกอรี่ ไอศกรีม เนย ชีส ยิ่งทำให้คุณแม่ได้รับโปรตีนจากนมวัวมากเกินไป ทำให้ลูกน้อยแพ้นมวัวได้ตั้งแต่หลังคลอด นมอะไร? ที่คุณแม่ท้องดื่มได้บ้าง โดยนมวัวที่คุณแม่ดื่มได้ในปัจจุบัน มีหลายรูปแบบ ซึ่งนมสำหรับแม่ท้องที่แนะนำคือ นมนมสดพาสเจอไรส์ชนิดพร่องมันเนย เพราะได้คุณค่าสารอาหารที่ต้องการโดยที่ตัวแม่ตั้งครรภ์ไม่ต้องรับไขมันมากเกินไป แต่ข้อเสียคือนมชนิดนี้อายุสั้น เก็บไว้ได้ไม่นาน กรณีที่คุณแม่ดื่มนมชนิดนี้ไม่ได้ก็อาจเลือกนมชนิดอื่นแทน เช่น […]
แม่ใบเตย-พ่อแมน ปลื้มใจ ที่ได้ตัวช่วยดีๆอย่างรถเข็น Aprica เข็นพาลูกออกไปไหนมาไหนก็ลื่นสมูทไม่มีสะดุด ช้อปปิ้งนานแค่ไหน น้องเวทมนต์ ก็นอนสบายหลับสนิทไม่งอแง การมีรถเข็นเด็กแรกเกิดดีๆสักคันที่แม่ไว้วางใจ การพาลูกออกไปเดินเล่นนอกบ้าน ก็ไม่ใช่เรื่องยากคุณแม่ใบเตยเลือก รถเข็น Aprica รุ่น Optia Cushion Premuim พา น้องเวทมนต์ ไปข้างนอกแบบสบายๆ ปรับเป็นแบบเข็นไปเห็นหน้าลูกไปก็ได้ สบายใจหายห่วงสุดๆ ตามมาส่องความน่ารัก ” น้องเวทมนต์ “ ลูกสาวตัวน้อยของแม่ใบเตย-พ่อแมนสุดน่ารักกันเลยค่า BabyGift ยินดีแนะนำรถเข็นที่เหมาะกับลูกน้อยและไลฟ์สไตล์คุณพ่อคุณแม่ ทักมาปรึกษาได้เลยค่า
” ลูกติดเต้า ไม่ยอมใช้ขวดนมเลย ทำอย่างไรดี ? เริ่มให้ลูกหย่านมจากเต้า มาฝึกใช้ขวดนมเมื่อไหร่ดี ? ” อีกคำถามที่แม่ๆหลายคนมักเจอตอนลูกน้อยอายุ 1 ขวบ โดยเฉพาะคุณแม่ที่เลี้ยงลูกน้อยด้วยนมจากเต้าเพียงอย่างเดียว วันนี้ BabyGift มีเคล็ดไม่ลับมาฝากแม่ๆกันค่ะ ต้องขอเกริ่นก่อนว่า ความจริงแล้วการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เป็นสิ่งที่ดีที่สุดอยู่แล้ว ด้วยคุณค่าของน้ำนมความอบอุ่นและอื่นๆ แต่เมื่อลูกรักโตขึ้น หลายคนที่ดูดนมแม่จากเต้าจนติด หรือที่เรียกว่า ” ลูกติดเต้า “ งอแงไม่ยอมกินนมจากขวด เวลาที่คุณแม่ต้องออกไปทำงานหรืออยู่นอกบ้าน การให้นมแม่จากขวดนม หรือการเริ่มหย่านมแม่ มักจะเกิดปัญหาตามมาเพราะลูกไม่ยอมกินนมจากขวด งอแงร้องไห้ จนเกิดปัญหาการกินกับลูกได้ และปัญหาการใช้ชีวิตของคุณแม่เอง ฉะนั้นมาดูกันเลยค่ะว่าจะมีเทคนิคแบบไหน ที่สามารถทำให้ลูกได้ฝึกกินนมจากขวดได้ โดยไม่หักดิบ ไม่ทำให้ลูกร้องไห้งอแง หงุดหงิดเสียใจ คุณแม่เองก็ไม่ต้องเครียดไปด้วย ตามมาดูกันเลยค่ะ 8 ทริค ฝึกลูกดูดนมขวดแบบแฮปปี้ 1 ) ค่อยๆ ฝึก ไม่บังคับลูกเพราะการดูดขวดคือทักษะใหม่ของลูกรักที่เคยแต่ดูดนมแม่จากเต้ามาตลอด จนกลายเป็นว่า ลูกติดเต้า รวมถึงวิธีการดูดนมจากขวดกับการดูดนมจากเต้าก็มีความแตกต่าง จึงต้องอาศัยเวลาให้ลูกปรับตัวและฝึกฝน รวมถึงลูกรักเองก็ต้องใช้สมาธิในการดูดมากขึ้นในช่วงแรก ฉะนั้นการทำความเข้าใจไม่บังคับ และให้ลูกได้ลองฝึกในสิ่งแวดล้อมที่เงียบและสงบค่อย […]






