ล้างจมูกเด็ก 1 ขวบ ทำยังไงให้ปลอดภัย ? เลี่ยงป่วย ร่างกายแข็งแรง !

ในเด็กเล็กที่มักจะมีปัญหาสุขภาพาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ไม่ว่าจะด้วยปัญหาฝุ่นควัน เชื้อโรค ไวรัส เป็นหวัดคัดจมูก หรือเป็นโรคประจำตัวอย่างหอบหืด เป็นภูมิแพ้ ไซนัสอักเสบ การล้างจมูกจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยและช่วยขจัดเชื้อโรคได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการล้างจมูกเด็ก 1 ขวบที่เด็กเล็กยังสั่งน้ำมูกไม่เป็น การล้างจมูกด้วยน้ำเกลือจะช่วยขจัดเชื้อโรคและสิ่งสกปรกได้เป็นอย่างดี ในบทความนี้ BabyGift จะมาแนะนำวิธีการล้างจมูกให้ลูกน้อย ต้องเตรียมอุปกรณ์อะไรบ้าง มีขั้นตอนอย่างไร ไปดูพร้อมๆ กันเลยค่ะ
แชร์วิธีการล้างจมูกเด็ก 1 ขวบ ขจัดสิ่งสกปรกและเชื้อโรค ให้ลูกน้อยหายใจโล่งขึ้น

การล้างจมูกเป็นการทำความสะอาดโพรงจมูกด้วยการสวนล้างโดยใช้น้ำเกลือ เพื่อขจัดสิ่งสกปรกที่อยู่ภายในโพรงจมูกอย่างน้ำมูกหรือสารที่ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้ให้หมดไป ซึ่งสามารถลดปัญหาน้ำมูกไหลลงคอ และอาการคัดจมูกได้ดี ทั้งยังช่วยให้โพรงจมูกมีความชุ่มชื้นมากขึ้นด้วย ทำให้หายใจได้โล่งขึ้นนั่นเอง ทั้งนี้ การล้างจมูกไม่ได้ทำเฉพาะในเด็กที่มีอาการป่วย หรือเป็นภูมิแพ้เท่านั้น แต่การล้างจมูกเด็ก 1 ขวบที่มีสุขภาพแข็งแรงดีก็สามารถทำได้ โดยเฉพาะในช่วงที่มีฝุ่นควันหรือมีการระบาดของโรคทางเดินหายใจ ผู้ปกครองบางคนอาจพาลูกไปข้างนอกโดยใช้เป้อุ้มเด็ก ซึ่งทำให้เด็กได้สัมผัสกับอากาศนอกบ้านดังนั้นการล้างจมูกเป็นประจำทุกวัน โดยเฉพาะหลังจากกลับมาบ้านแล้ว ก็จะช่วยขจัดเชื้อโรค และสิ่งสกปรกที่อยู่ภายในโพรงจมูก ทำให้ลูกน้อยมีสุขภาวะที่ดีขึ้น จะทำได้อย่างไร มาดูวิธีกันเลยค่ะ
อุปกรณ์ที่ต้องเตรียม
- น้ำเกลือที่มีความเข้มข้น 0.9% สามารถหาซื้อได้จากโรงพยาบาลหรือร้านขายยาทั่วไป
- ถ้วยสะอาดสำหรับใส่น้ำเกลือ
- กระบอกฉีดยาพลาสติก (ไซริงค์) สำหรับเด็กเล็ก ขนาด 5 – 10 ซีซี
- ผ้าสะอาดหรือกระดาษทิชชู่
- จุกล้างจมูก
- ลูกยางแดงสำหรับดูดน้ำมูก เสมหะ ( ล้างจมูกเด็ก 1 ขวบควรใช้เบอร์ 0 – 2)
- ภาชนะรองน้ำมูก หรือถ้าไม่ใช้ภาชนะ สามารถพาลูกไปล้างจมูกที่อ่างล้างหน้าก็ได้ค่ะ
ขั้นตอนวิธีล้างจมูกเด็ก 1 ขวบ ในกรณีที่เด็กไม่ให้ความร่วมมือ และสั่งน้ำมูกเองไม่ได้

สำหรับเด็ก 1 ขวบที่ให้ความร่วมมือ และสามารถสั่งน้ำมูกเองได้ สามารถล้างจมูกให้ลูกในท่ายืนหรือนั่งตรงบริเวณอ่างล้างหน้าหรือทำให้ห้องน้ำได้เลย เพื่อป้องกันความเลอะเทอะ หรือล้างจมูกก่อนไปอาบน้ำเพื่อที่จะได้ล้างตัวลูกทีเดียวค่ะ ซึ่งมีขั้นตอนดังนี้
- ผู้ปกครองล้างมือถูสบู่ให้สะอาด
- นำเอาจุกล้างจมูกต่อเข้ากับกระบอกฉีดยาพลาสติก เพื่อป้องกันไม่ให้เข็มของกระบอกฉีดยากระแทกรูจมูกของลูก
- เทน้ำเกลือใส่ในภาชนะที่เตรียมไว้ จากนั้นใช้กระบอกฉีดยาดูดน้ำเกลือประมาณ 0.5 ซีซี
- จ่อปลายเข็มฉีดยาชิดรูจมูกของลูก
- ค่อยๆ ฉีดน้ำเกลือเข้าไปในรูจมูกลูก โดยน้ำเกลือจะไหลออกมาจากรูจมูกอีกข้างโดยอัตโนมัติ จากนั้นให้ลูกสั่งน้ำมูกออกมา
- ใช้ผ้าสะอาดหรือกระดาษทิชชู่เช็ดน้ำมูกที่ไหลออกมา
- ทำซ้ำหลายๆ ครั้งในแต่ละข้าง จนกว่าจมูกจะสะอาดและไม่มีน้ำมูก
วิธีทำความสะอาดอุปกรณ์ที่ใช้ล้างจมูก
- กระบอกฉีดยาและภาชนะใส่น้ำเกลือ : ให้ล้างด้วยน้ำสบู่หรือน้ำยาล้างจาน และผึ่งให้แห้ง
- ลูกยางแดง : ล้างด้วยน้ำสบู่ทั้งภายนอกและภายใน จากนั้นล้างด้วยน้ำประปาจนสะอาด บีบน้ำที่ค้างในลูกยางออกจนหมด วางคว่ำในภาชนะที่สะอาด โดยคว่ำปลายลูกยางแดงลง ควรนำไปต้มในน้ำเดือดวันละ 1 ครั้ง โดยดูดน้ำเดือดเข้ามาในลูกยางแดง ต้มประมาณ 5 นาที จากนั้นบีบน้ำที่ค้างอยู่ในลูกยางแดงออกจนหมด วางคว่ำในภาชนะที่สะอาด โดยคว่ำปลายลูกยางแดงลง
ข้อควรรู้ในการล้างจมูกลูกน้อย

- การล้างจมูกไม่ควรใช้น้ำเปล่า เนื่องจากน้ำเปล่าไม่มีความสมดุลกับน้ำในเซลล์ร่างกาย หากใช้น้ำเปล่าอาจทำให้เกิดอาการสำลักและแสบในโพรงจมูกได้ รวมถึงมีโอกาสติดเชื้อเพิ่มชึ้นด้วย
- การล้างจมูกเด็กสามารถทำได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิดไปจนถึงลูกโต โดยทั่วไปแล้วการล้างจมูกสามารถทำได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิดจนถึงผู้สูงวัย
- การล้างจมูกนั้นสามารถล้างได้ทุกวัน อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ช่วงตื่นนอนตอนเช้าและก่อนเข้านอน หรือเมื่อรู้สึกว่ามีน้ำมูกมากหรือรู้สึกแน่นจมูก หรือก่อนใช้ยาพ่นจมูก
- น้ำเกลือและอุปกรณ์ที่ล้างจมูกต้องสะอาด โดยเฉพาะน้ำเกลือไม่ควรใช้ขวดใหญ่ เพราะการเปิดฝาใช้บ่อยๆ อาจทำให้มีเชื้อโรคสะสมอยู่ได้ โดยทั่วไปควรใช้ขวดละ 100 ซีซี
- ห้ามนำน้ำเกลือที่เหลือในภาชนะเทกลับเข้าไปในขวดอย่างเด็ดขาด เพราะทำให้เกิดการปนเปื้อนของเชื้อโรคและไม่ถูกสุขอนามัย
- แนะนำให้ล้างจมูกเด็กตอนท้องว่าง เพื่อป้องกันการอาเจียนที่อาจเกิดขึ้นได้
ประโยชน์ของการล้างจมูกเด็ก มีอะไรบ้าง
- ช่วยกำจัดน้ำมูกเหนียวข้นที่ตกค้างอยู่ภายในโพรงจมูก ทำให้จมูกสะอาด
- ช่วยบรรเทาอาการหวัดเรื้อรัง
- ช่วยป้องกันการลุกลามของเชื้อโรคที่อยู่ภายในจมูกไม่ให้แพร่กระจายเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ
- ช่วยป้องกันการลุกลามของไซนัสไม่ให้ลงไปยังปอด
- ช่วยลดปริมาณเชื้อโรค ของเสีย และสารก่อภูมิแพ้ต่างๆ และบรรเทาอาการระคายเคืองที่เกิดขึ้นในโพรงจมูก
- เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเยื่อบุโพรงจมูก
- ช่วยบรรเทาอาการแน่นจมูก หายใจไม่ออก ทำให้หายใจโล่งขึ้น ลองสังเกตดูว่า ลูกร้องงอแงไม่ยอมนอน ตื่นกลางดึก อาจเป็นเพราะหายใจไม่สะดวกหรือรู้สึกคัดจมูกหรือเปล่า การล้างจมูกเด็ก 1 ขวบ รวมถึงเด็กวัยอื่นๆ ก่อนนอน อาจช่วยบรรเทาอาการนี้ได้ค่ะ
- ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของยาพ่นจมูก โดยยาจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อจมูกโล่งสะอาด
BabyGift แนะนำสินค้าสำหรับเด็กเล็ก อำนวยความสะดวกให้ทั้งคุณแม่และคุณลูก

1. Ailebebe คาร์ซีทแรกเกิด รุ่น Kurutto R The First
คาร์ซีทนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับความปลอดภัยของลูกน้อยขณะนั่งรถยนต์ ในหลายๆ บ้านอาจต้องพาลูกน้อยนั่งรถออกไปข้างนอกบ่อยๆ จึงขอแนะนำเป็นคาร์ซีทของ Ailebebe รุ่น Kurutto R The First คาร์ซีทเพื่อเด็กแรกเกิดที่ได้การรับรองมาตรฐานใหม่ ECE R129 ผลิตจากประเทศญี่ปุ่น มี Head Support ใหม่ที่หนาขึ้น 100 มิลลิเมตร ช่วยป้องกันการกระแทกด้านข้างได้อย่างมั่นใจ โครงสร้างออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ของทารก ปกป้องลูกน้อยให้ปลอดภัยอย่างรอบด้าน ใช้งานได้ยาวนานตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 4 ขวบเลยค่ะ
จุดเด่น
- ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัย ECE R129 (i – Size)
- เป็นคาร์ซีททรงไข่ Egg – Shell Protection เพื่อทารกแรกเกิดอย่างแท้จริง
- พนักพิงสามารถยุบตัวได้ จึงช่วยรองรับแรงกระแทกเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ช่วยปกป้องกระดูกสันหลังของลูกน้อย
- โครงคาร์ซีทเป็นไฟเบอร์กลาส มีความทนทาน แข็งแรง แตกหักยาก
- ผ้าที่บุคาร์ซีทสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ 99 เปอร์เซ็นต์ ด้วยพลัง Ion Silver เมื่อเจอแบคทีเรียจะเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ทำลายเซลล์แบคทีเรียและทำให้เชื้อแบคทีเรียตายลง
- ด้านหลังและด้านข้างของคาร์ซีทมีช่องระบายอากาศถึง 1695 ช่อง ช่วยระบายอากาศได้ดี ไม่อับชื้น ลดการสะสมความร้อน นั่งได้นานโดยไม่รู้สึกร้อนหลัง
- มีเข็มขัดนิรภัย 5 จุด พร้อมระบบ Jumping Harness
- สามารถหมุนได้ 360 องศา ช่วยให้อุ้มลูกขึ้นลงคาร์ซีทได้อย่างปลอดภัย
- หลังคาของคาร์ซีทสามารถคลุมได้มิดชิดถึงปลายเท้า ยาว 98 เซนติเมตรช่วยป้องกันรังสี UV และปกป้องดวงตาของลูกน้อย
การใช้งาน : แรกเกิด – 4 ปี หรือน้ำหนักไม่เกิน 18 กิโลกรัม หรือความสูงระหว่าง 40 – 105 เซนติเมตร
การติดตั้ง : ระบบ ISOFIX
แบรนด์ : ประเทศญี่ปุ่น

2. PRINCE & PRINCESS เครื่องอบยูวี รุ่น Baby UV Smart Tech
การทำความสะอาดของใช้ลูกน้อยนั้นเป็นสิ่งสำคัญมาก เราสามารถฆ่าเชื้อโรคและไวรัสที่อาจปนเปื้อนอยู่ในอุปกรณ์ล้างจมูกเด็กด้วยเครื่องอบยูวี แนะนำเป็นแบรนด์ PRINCE & PRINCESS รุ่น Baby UV Smart Tech ที่มาด้วยดีไซน์เรียบหรูทันสมัย อบฆ่าเชื้อได้ทั้งขวดนม ของเล่น อุปกรณ์ปั๊มนม จานชาม แก้วน้ำ ช้อนส้อม และอุปกรณ์ของใช้อื่นๆ สำหรับเด็ก พิเศษด้วยการอบฆ่าเชื้อจากหลอดไฟ UV-C LED จำนวน 9 ดวง มีประสิทธิภาพการฆ่าเชื้อสูง ไม่ก่อให้เกิดโอโซน ภายในเป็นวัสดุ Stainless พร้อมประตูกระจก ช่วยสะท้อนแสงยูวีรอบด้าน 360 องศา ฆ่าเชื้อทั่วถึงทุกชิ้น มั่นใจได้ว่าปลอดเชื้อและดีต่อสุขอนามัยของลูกน้อยอย่างแน่นอนค่ะ
จุดเด่น
- เป็นแบรนด์เดียวในประเทศไทย ที่มีผลวิจัยรับรองการฆ่าเชื้อ Human Coronavirus ได้ 99.9 เปอร์เซ็นต์ พร้อมผ่านการรับรองการฆ่าเชื้อไวรัส แบคทีเรีย ได้ 99.9 เปอร์เซ็นต์ จากสถาบันวิจัยระดับสากล
- การันตีคุณภาพการฆ่าเชื้อและมาตรฐานความปลอดภัยของ สคบ.
- เครื่องขนาดใหญ่ความจุ 20 ลิตร วางขวดนมได้ถึง 20 ขวด ในครั้งเดียว
- มีโหมดทำความสะอาดหลายโหมด เช่น โหมด TURBO อบแห้งรวดเร็ว โหมด UV อบฆ่าเชื้อแสงยูวี โหมด STORAGE เก็บขวดนมพร้อมฆ่าเชื้อไว้ภายในตู้ โหมด CLEAN แจ้งเตือนทำความสะอาด และโหมด SMART อบฆ่าเชื้อทุกครั้งเมื่อเปิด-ปิดประตูเพื่อลดการปนเปื้อน
- ใช้เครื่องทำความร้อน PTC Heater แบบเดียวกันกับบนเครื่องบิน ควบคุมอุณหภูมิไม่เกิน 45 องศาเซลเซียส
- มีพัดลมระบายอากาศ 2 ตัว ระบายอากาศ 2 ทิศทาง กำจัดกลิ่น แห้งไวกว่ารุ่นที่ใช้พัดลมตัวเดียว
- แจ้งเตือนด้วยแสง LED สุดคมชัด แสดงสถานะหลอด UV-C/เวลา/อุณหภูมิ พร้อม Touch Screen ระบบสัมผัสทำงานรวดเร็ว ใช้งานได้ง่าย
- ทำความสะอาดง่าย เพียงใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดตามพื้นผิว
- รับประกันสินค้านาน 2 ปี พร้อมเครื่องสำรองใช้งาน
ประเทศผู้ผลิต : ประเทศเกาหลี
การล้างจมูกเด็ก 1 ขวบไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป แต่ก็อาจจะไม่ง่ายนักสำหรับครั้งแรกเพราะเด็กๆ อาจจะงอแงหรือรู้สึกแสบจมูกจนไม่ยอมให้ล้างจมูกได้ คุณพ่อคุณแม่ต้องใจเย็นๆ ค่อยๆ บอกลูกว่าเป็นการทำความสะอาดร่างกายอย่างหนึ่ง ไม่มีอันตราย หรืออาจจะสาธิตโดยการล้างจมูกตัวเองให้ลูกดูก่อนก็ได้ เมื่อเด็กเห็นว่าเราสามารถทำได้และไม่มีอันตรายใดๆ ก็อาจจะรู้สึกกลัวน้อยลง เมื่อทำบ่อยๆ เด็กก็จะเกิดความชินและไม่งอแง เมื่อลูกโตขึ้นอีกหน่อยก็สามารถทำได้ด้วยตัวเอง เป็นการเสริมสร้างนิสัยการทำความสะอาดโพรงจมูกเป็นประจำเพื่อการมีสุขภาวะที่ดีค่ะ
ทั้งนี้ ถ้าคุณพ่อคุณแม่สนใจสินค้าอื่นๆ สำหรับแม่และเด็ก สามารถมาเยี่ยมชมสินค้าได้ที่ BabyGift ร้านจำหน่ายสินค้าแม่และเด็กระดับคุณภาพ มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี คุณพ่อคุณแม่สามารถมาเยี่ยมชมสินค้าต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ที่อำนวยความสะดวกในการล้างจมูกให้ลูกๆ หรือสินค้าอื่น ๆ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ร้านเบบี้กิ๊ฟทั้ง 4 สาขา ใกล้บ้าน หรือสอบถามผ่านช่องทาง Online ทีมงาน BabyGift ยินดีให้คำแนะนำค่ะ
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
คุณแม่ฉีดวัคซีนกันหรือยังงงงง อย่ามัวแต่รีรอนะ เพราะว่าวัคซีนนั้นสำคัญมาก แต่ใครที่ฝากท้องกับคุณหมอแล้วก็ไม่ต้องห่วงค่ะ เดี๋ยวคุณหมอก็จะนัดฉีดเอง คุณแม่บางคนอาจจะสงสัยว่าเวลาท้องแล้วจะต้องฉีดวัคซีนอะไรบ้าง วันนี้เราเลยนำความรู้เกี่ยวกับวัคซีนที่สำคัญสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์มาฝากกันค่ะ ปกติแล้วการได้รับวัคซีนของคุณแม่ท้องจะแบ่งเป็น 2 ช่วง ก็คือช่วงก่อนตั้งครรภ์กับช่วงระหว่างตั้งครรภ์ ด้านล่างคือวัคซีนต่างๆ ที่สำคัญสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ค่ะ 1. วัคซีนป้องกันโรคหัดเยอรมัน (Rubella Vaccine) ใครเตรียมตัวเป็นคุณแม่ก็ไปฉีดวัคซีนตัวนี้ล่วงหน้าสัก 3 เดือนเป็นอย่างน้อยนะคะ อ๊ะๆ คนที่ยังไม่ได้ฉีดกำลังตกใจกันอยู่ใช่มั้ย อย่าเพิ่งตกใจไปค่ะ ถ้าคุณแม่ไม่เคยฉีดวัคซีนตัวนี้ก่อนท้อง คุณแม่ก็แค่ต้องดูแลตัวเองให้ดีๆ ในช่วงที่ท้องสามเดือนแรก หลักๆ คืออย่าไปที่ที่มีคนพลุกพล่าน เพราะมันเป็นแหล่งรวมเชื้อโรคเลยล่ะ ยิ่งถ้าไปเจอคนที่ไอหรือจามหรือเป็นไข้อะไรพวกนี้ด้วยแล้วก็ยิ่งเสี่ยงเข้าไปใหญ่เลย เพราะถ้าหากคุณแม่ติดเชื้อไวรัสหัดเยอรมันตัวนี้เข้าในช่วงที่ท้องสามเดือนแรก มันจะส่งผลให้ลูกในท้องมีความพิการที่อวัยวะต่างๆ เช่น ตา หู หัวใจ แขน ขาหรือสมองได้ค่ะ คุณแม่ที่เป็นหัดเยอรมันจะมีอาการเหมือนเป็นไข้หวัดธรรมนี่แหละ แต่จะแถมด้วยผื่นขึ้นตามตัว แต่ว่าถ้าคุณแม่ติดเชื้อไวรัสนี้ในช่วงเดือนท้ายๆ ก็ไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะลูกของเราจะไม่ได้รับผลกระทบจากเชื้อนี้เนื่องจากเค้าเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว 2. วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบบี (Hepatitis B Vaccine) ไวรัสตัวนี้พบเยอะมากได้ประเทศไทยค่ะ คนที่เป็นก็จะแสดงอาการไม่เหมือนกันหรอก แต่ถ้าเป็นขั้นรุนแรงแล้วล่ะก็สามารถเสียชีวิตได้เลยค่ะ คนที่เป็นโรคนี้หนักๆ ตัวจะเหลือง อ่อนเพลียมากตลอดเวลาแล้วตับก็จะถูกทำลาย เจ้าเชื้อตัวนี้สามารถติดจากแม่สู่ลูกในท้องได้ แต่ก็ไม่ได้มีผลร้ายแรงอะไรนะคะ ที่บอกว่าติดต่อก็คือว่า ถ้าเกิดคุณแม่มีเชื้อนี้ […]
เพราะแม่แต่ละคนมีความเป็นตัวของตัวเองที่แตกต่าง Aprica จึงสรรสร้างนวัตกรรมที่รองรับทุกความต้องการด้วยรถเข็นเด็กหลากหลายรุ่นเพื่อตอบโจทย์ที่ไม่เหมือนกัน แล้วรถเข็นเด็ก Aprica รุ่นไหน เหมาะกับคุณไปดูกันเลย แม่ที่ใส่ใจทุกรายละเอียด ทุ่มเททุกความสุขเพื่อลูกและคนในครอบครัวเป็นสำคัญ ถ้าคำว่า “ที่สุด” คือนิยามของรถเข็นเด็กที่ดีที่สุดสำหรับลูก คือคำตอบเดียวที่คุณต้องการ รถเข็นเด็ก Aprica โดดเด่นในเรื่องนวัตกรรมใหม่ล่าสุดมอบความสบาย นุ่มนวล ปกป้องลูกน้อยแบบ 360 องศา ใส่ใจในสุขภาพและเสริมสร้างพัฒนาการ เพื่อเทวดานางฟ้าตัวน้อย รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Optia รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Soraria Magic basket คุณแม่ทรงพลัง คล่องแคล่ว ขี้เล่น ถ้าคุณและลูกน้อยต้องการความคล่องตัว พร้อมทุกสถานการณ์ รถเข็นเด็กน้ำหนักเบาแต่ครบทุกฟังชันท์ที่เหนือกว่า พร้อมเติมความคล่องตัวด้วยการใช้รถเข็นสลับกับเป้อุ้มเด็กได้ง่าย เป็นตัวช่วยที่ดี ไม่ว่าสถานการณ์ไหนๆ คุณแม่ก็พร้อม รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Luxuna CTS รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Luxuna Light คุณแม่เด็กแนว กิ๊บเก๋ทันสมัย ไม่ชอบตามใคร สนใจทางเลือกใหม่ๆ รักอิสระและความแปลกใหม่ รถเข็นเด็ก แบบ 3 ล้อเท่ห์ๆ ไม่เหมือนใครที่ผสมผสานทุกฟังก์ชั่นอย่างลงตัว และที่โดนใจยิ่งกว่าคือ ความแข็งแรง ทนทาน ไม่ว่าจะไปไหนก็พร้อมลุยทุกสภาพพื้นผิว ใช้ง่ายพับกางสะดวกและขนาดกระทัดรัด […]
ในช่วงแรกของการเป็นคุณพ่อ คุณแม่มือใหม่ คำถามที่มักจะเกิดขึ้นก็คือ “ทำไมต้องใช้หมอนสำหรับทารก หรือหมอนหัวทุย” แท้จริงแล้วหมอนเหล่านี้มีประโยชน์มากมายสำหรับเจ้าตัวน้อย เนื่องจากช่วยป้องกันปัญหาหัวแบน กระดูกสันหลังบิดเบี้ยว ช่วยเพิ่มความสบายในการนอนหลับ ระบายอากาศได้ดี ดังนั้นในบทความนี้ BabyGift จะชวนมาเรียนรู้เหตุผลสำคัญที่คุณพ่อ คุณแม่ทุกคนไม่ควรมองข้ามในการเลือกหมอนสำหรับทารกแรกเกิด เพื่อเตรียมห้องนอนเด็กอ่อนให้พร้อมก่อนคลอดกันค่ะ เลือกหมอนทารกใบแรกให้ลูก ต้องเลือกยังไง ? หมอนหัวทุยจำเป็นหรือเปล่า ? หมอนสำหรับทารกถือเป็นสิ่งจำเป็นในการดูแลเจ้าตัวน้อย แม้จะดูเป็นสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ แต่การเลือกหมอนที่เหมาะกับทารกจะส่งผลต่อสุขภาพและความปลอดภัยของลูกน้อยอย่างมาก คุณพ่อ คุณแม่คนไหนที่กำลังสงสัยว่าจะเลือกหมอนสำหรับทารก หรือหมอนหัวทุยยังไงดี ไปหาคำตอบพร้อมกันในบทความนี้พร้อมๆ กันเลยค่ะ หมอนทารก คืออะไร ? หมอนสำหรับทารก เป็นหมอนขนาดเล็กที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับทารก ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักดังนี้ ควรใช้หมอนทารก เมื่อไหร่ ? ตามคำแนะนำจากกุมารแพทย์ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ได้มีการสรุปว่า ท่านอนที่ดีและปลอดภัยที่สุดสำหรับทารก คือการนอนหงายบนพื้นผิวแบนราบโดยไม่มีสิ่งของใดๆ อยู่บนเตียงนอน เช่น ผ้าห่ม ตุ๊กตา หมอน เป็นต้น เนื่องจากอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ หรือโรคไหลตายในทารก (SIDS) ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตในเด็กอายุไม่เกิน 4 เดือน การใช้หมอนอาจเพิ่มความเสี่ยงจากการอุดกั้นทางเดินหายใจของทารก เมื่อทารกพลิกตัว หรือคว้าวัตถุเหล่านั้นโดยไม่รู้ตัว […]
Ailebebe รุ่น Kurutto R The First 1 และ Kurutto R The First 2 เป็นคาร์ซีทเด็กแรกเกิดที่ผลิตจากประเทศญี่ปุ่น ที่มีนวัตกรรมความปลอดภัยล้ำสมัย ช่วยให้การเดินทางของลูกน้อยทั้งปลอดภัยและสะดวกสบาย และทั้ง 2 รุ่น มีคุณสมบัติที่เด่นและแตกต่างกัน ซึ่งสามารถตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย เราจะพาคุณพ่อคุณแม่มาทำความรู้จักกับความแตกต่างเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่เลือกคาร์ซีทที่เหมาะสมกับความต้องการของครอบครัวได้ค่ะ เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจเลือกซื้อคาร์ซีท Ailebebe รุ่น Kurutto R ได้อย่างเหมาะสมกับลูกน้อยมากที่สุด มาเริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจกันก่อนว่าทำไมรุ่นนี้ถึงเป็นที่นิยมและมีจุดเด่นอะไรบ้างนะคะ ทำไมต้องเลือก Ailebebe รุ่น Kurutto R ? 1. มาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงสุด : ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากสหภาพยุโรป R129 (i-Size) 2. การทดสอบที่แม่นยำ : ใช้เซ็นเซอร์วัดแรงกระแทกสูงสุดถึง 32 จุดบนหุ่นจำลอง และหุ่นไม่ได้รับการบาดเจ็บ 3. ทดสอบการชนที่เข้มงวด : ทดสอบการชนที่ความเร็ว 70-100 กม./ชม. เพื่อความปลอดภัยสูงสุด […]
แข็งแรง ทนทาน พับ-กางง่าย ลูกน้อยนอนสบาย นี่แหละคุณสมบัติรถเข็นเด็กที่แม่ๆต้องการ 1. รถเข็นเด็กที่แข็งแรง ทนทาน ต้องไม่มีรอยต่อหรือพับเล็กมากเกินไป โครงสร้างควรเชื่อมเป็นชิ้นเดียวกัน เพราะเมื่อผ่านการใช้งาน มักมีการขยับของข้อต่อ เป็นสาเหตุให้โครงสร้างไม่แข็งแรงและเกิดการสั่นสะเทือนเมื่อเข็นในที่ขรุขระ รถเข็นเด็กที่ดีควรมีการเชื่อมต่อส่วนที่สำคัญเป็นชิ้นเดียว จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงแม้ผ่านการใช้งานที่ยาวนาน 2. พับ-กางง่าย ด้วยมือเดียว เพราะต้องพาลูกเดินทางคนเดียวบ่อยๆ แน่นอนว่าแม่ๆ ที่ต้องเลี้ยงลูกเองไปไหนมาไหนกับลูกลำพัง เช่น ไปเดินห้าง เดินสวนสาธารณะ ต้องเลือกรถเข็นเด็กที่ให้ความคล่องตัว ใช้งานง่าย พับกางง่าย ไม่ซับซ้อน คุณแม่สามารถพับรถเข็นเด็กได้เองด้วยมือเพียงข้างเดียวได้ เพราะมืออีกข้างหนึ่งต้องอุ้มลูก พับแล้วตั้งกับพื้นได้โดยไม่ล้มกองบนพื้น จะช่วยให้คุณสามารถลากไปมาสะดวกและยังปลอดจากสิ่งสกปรกบนพื้นที่อาจเป็นอันตรายต่อลูกน้อยได้ 3. ชุด Support สำหรับเด็กแรกเกิด ชุดเบาะรองนอนสำหรับเด็กทารกเป็นสิ่งจำเป็นมาก รถเข็นเด็กแรกเกิด ควรมีหมอนรองรับสรีระเด็กทั้งศีรษะ คอ และหลัง เพราะเด็กทารกจะมีกระดูกสันหลังและคอที่ยังไม่แข็งแรง จึงต้องนอนบนเบาะที่ช่วยรองรับสรีระตั้งแต่ศีรษะ ต้นคอ หลัง และสะโพกเพื่อให้ท่านทนที่ถูกต้องหลังไม่โค้งงอผิดรูป และไม่เกิดการปิดกั้นทางเดินทางหายใจ Aprica รถเข็นเด็ก สำหรับวัยแรกเกิดอย่างแท้จริงๆ คิดค้นและวิจัยโดยกุมารแพทย์ จากประเทศญี่ปุ่น
Q: ขวดนมที่ไม่มี BPA ปลอดภัย ใช้ได้นานกว่า ? A :ขวดนม PP ไม่มี BPA อายุการใช้งานสั้นกว่า PC ที่มี BPA โดยทั่วไป พลาสติกแต่ละชนิด จะมีอายุการใช้งานที่ต่างกัน ยิ่งต้ม ยิ่งนึ่ง ยิ่งขัด ก็ยิ่งเสื่อมสภาพเร็ว ทั้งนี้ คุณภาพและการผลิตพลาสติกของแต่ละโรงงานย่อมต่างกัน ขวด PP ที่ผลิตจากเม็ดพลาสติกคุณภาพสูงไม่ผสมเศษงานมักจะใสกว่า คุณแม่อาจพิจารณาเปลี่ยนขวดนมเมื่อเห็นว่าเริ่มบุบเบี้ยว หรือ ขวดนมขุ่นมากขึ้นอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม อายุการใช้งานจะสิ้นสุดถ้าขวดนมเป็นรอยขูดข่วน จึงควรล้างขวดนมด้วยแปรงขนนิ่ม ฟองน้ำ หรือแปรงซิลิโคน ***ดังนั้น อย่ากังวลกับฉลากและ โฆษณา “BPA-Free” ให้มากนัก หันมาดูวัสดุ และการดูแลรักษาให้ปลอดภัยจะดีกว่า ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก : SS Medical Clinic โดย พ.ญ.สิทธิ์ธีราห์ ชโรเต้อร์ หรือใช้การฆ่าเชื้อด้วยแสงรังสี UV (Prince&Princess Baby UV Sterilizer) นวัตกรรมใหม่สำหรับการดูแลลูกน้อยให้พ้นจากเชิ้อโรค ได้ถึง […]