ฆ่าเชื้อของเล่นเด็ก นวัตกรรมใหม่ที่ต้องรู้

การทำความสะอาดของเล่นเด็ก ฆ่าเชื้อของเล่นเด็ก ถือเป็นเรื่องสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่อย่างเราต้องใส่ใจ โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่มีการแพร่ระบาดของโรคต่าง ๆ อยู่เรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็น ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ COVID-19 โรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันร้ายแรง (SARS) และไข้หวัดนก การใช้วิธีแบบเดิม ๆ ที่ได้ผลในอดีต อาจไม่เพียงพอในการป้องกันเชื้อโรคสายพันธุ์ใหม่ที่แฝงตัวอยู่รอบตัวได้ รวมไปถึงปัญหามลพิษในอากาศ เช่น ฝุ่น PM 2.5 ที่ทวีความรุนแรงขึ้นทุกปี การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ ฆ่าเชื้อโรคของใช้ลูก จึงต้องเลือกที่สามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ และใช้ได้กับทุกคนภายในครอบครัว เพื่อความคุ้มค่าสูงสุด

ความต้องการทีเปลี่ยนไปของผู้บริโภคทำให้มีการคิดค้นผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ ๆ ที่นำเอาเทคโนโลยีเชิงวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้มากขึ้น โดยเฉพาะในประเทศแถบเอเชีย เช่น เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และประเทศจีน โดยผลิตภัณฑ์เหล่านี้เกิดขึ้นมาเพื่อเป็นตัวเสริมจากการป้องกันตนพื้นฐาน เช่น การสวมหน้ากากอนามัย การพกพาเจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือ หรือการใช้สารฟอกขาวในการฆ่าเชื้อ ได้แก่ เทคโนโลยีเครื่องปล่อยโอโซน เครื่องผลิตไอออนประจุลบ เครื่องผลิตน้ำอิเล็กโทรไลต์ เครื่องฆ่าเชื้อด้วยรังสี UV เป็นต้น
แต่อย่างไรก็ตามมีผลิตภัณฑ์มากมาย ที่ผลิตโดยไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัย หรือไม่ได้ประสิทธิภาพตามคำโฆษณา จึงก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี หรือไม่ได้ผลในการฆ่าเชื้อโรค ฉะนั้นเพื่อความปลอดภัยสูงสุด คุณแม่จึงต้องทำความเข้าใจรูปแบบของการ ฆ่าเชื้อของเล่นเด็ก ใหม่ๆ เพื่อรู้ให้เท่าทันก่อนการตัดสินใจซื้อมาใช้กับลูกน้อยค่ะ

เครื่องผลิตน้ำอิเล็กโทรไลต์ (Electrolyte Water Maker)
เครื่องผลิตน้ำอิเล็กโทรไลต์ ถือเป็นนวัตกรรมการฆ่าเชื้อที่ใหม่มากในประเทศไทย แต่ในประเทศแถบยุโรป หรือเกาหลีใต้ นั้น ได้ถูกนำไปใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรมมานานแล้ว โดยเครื่องผลิตน้ำอิเล็กโทรไลต์ จะนำหลักการทางเคมี ที่เรียกว่า “กระบวนการอิเล็กโทรลิซิส” หรือการปล่อยประจุไฟฟ้า ผ่านไปยังตัวนำไฟฟ้า (อิเล็กโทรด) ที่สัมผัสกับสารละลาย ซึ่งก็คือ น้ำประปา และเกลือบริสุทธิ์ จนก่อให้เกิดการออกซิเดชั่น (Oxidation) และได้สารประกอบใหม่ขึ้นมา ได้แก่ กรดไฮโปคลอรัส (HOCl) , ไฮโปคลอไรท์ ไอออน (OCl-) , โซเดียม ไฮโปคลอไรต์ (NaOCl) ฯลฯ ซึ่งในบรรดาสารประกอบที่เกิดขึ้น กรดไฮโปคลอรัส ถือเป็นสารที่มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อสูงสุด โดยมีบทความ และผลวิจัยจากต่างประเทศมากมาย ที่ได้มีการพูดถึง กรดไฮโปคลอรัส เป็นอย่างมาก

กรดไฮโปคลอรัส (Hypochlorous Acid) หรือชื่อเรียกทางเคมีว่า HOCl เป็นกรดอ่อน ๆ จากธรรมชาติ ชนิดเดียวกันกับภูมิคุ้มกันในร่างกาย มีคุณสมบัติในการทำลายเยื่อผนังหุ้มเซลล์ของเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย เข้าไปยับยั้งการเจริญเติบโต และหยุดการแพร่กระจายในบริเวณนั้นได้ เนื่องจากเป็นสารธรรมชาติที่ร่างกายมนุษย์คุ้นเคย จึงมีความอ่อนโยนกว่าการใช้สารฟอกขาว หรือน้ำยาฆ่าเชื้อที่มีส่วนผสมของสารเคมีที่อาจก่อให้เกิดอันตรายหากใช้ไม่ถูกวิธีได้
เนื่องจากกรดไฮโปคลอรัส ที่ได้จากเครื่องผลิตน้ำอิเล็กโทรไลต์ มีความเป็น Organic 100% ไม่มีสารกันเสีย จึงทำให้ระเหย และกลับคืนสู่สภาพตั้งต้น หรือกลับกลายเป็นน้ำประปาดังเดิมได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว ภายใน 1-3 วัน ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม เช่น อุณหภูมิสูง จึงต้องผลิตใหม่อยู่เรื่อย ๆ และไม่สามารถหาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อ การเลือกใช้เครื่องผลิตน้ำอิเล็กโทรไลต์ที่ดีอาจมีราคาสูง แต่ให้ความคุ้มค่าในระยะยาว เพราะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลายรูปแบบ ได้แก่ การฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย การกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ การล้างกำจัดยาฆ่าแมลง เป็นต้น

การเลือกซื้อ เครื่องผลิตน้ำอิเล็กโทรไลต์ ที่นำมาใช้ฉีดพ่น ฆ่าเชื้อของเล่นเด็ก ฉีดเช็ดสิ่งของรอบตัวลูกน้อย หรือการแช่ล้างฆ่าเชื้อ ล้างทำความสะอาดให้กับคนในครอบครัว นอกจากต้องได้รับรองมาตรฐานการผลิตจากหน่วยงานของรัฐในประเทศผู้ผลิต เพราะจัดเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า ยังต้องทราบว่า หากปล่อยให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านเข้าสู่น้ำอิเล็กโทรไลต์อยู่ตลอดเวลา จะไปเพิ่มค่าความเข้มข้นในน้ำ ให้สูงเกินค่ามาตรฐาน จนอาจก่อให้เกิดผลเสียได้ โดยปัจจุบันที่มีนำเข้ามาขายในประเทศไทย ราคาอยู่ที่ 7,000 – 10,000 บาท

เครื่องฟอกอากาศแบบพกพา (Personal Rechargable Air Purifier)
เครื่องฟอกอากาศสำหรับพกพา ชนิดที่สามารถปล่อยประจุลบนั้น มีมานานหลายปีแล้ว แต่เพิ่งได้มีการนำเข้ามาขายในประเทศไทย ในช่วงที่เริ่มมีปริมาณฝุ่น PM 2.5 สูงขึ้น เนื่องจากเครื่องได้ถูกประดิษฐ์ให้มีลักษณะเล็ก น้ำหนักเบา ดูทันสมัย สามารถห้อยคอ พกพาไปได้ทุกที่ จึงได้รับความนิยมจากคนรุ่นใหม่เป็นอย่างมาก โดยตัวเครื่องสามารถชาร์จไฟด้วยสาย USB และใช้งานได้นานถึง 30 – 150 ชั่วโมง
เครื่องฟอกอากาศ แบบพกพา ชนิดนี้ ทำงานโดยการปล่อยไอออนลบ หรือประจุลบ ปริมาณมากว่า 2,000,000 ประจุ ทุกวินาที อย่างต่อเนื่อง จนเกิดเป็นม่านประจุลบบริเวณโดยรอบใบหน้า หรือระยะการสูดลมหายใจ เมื่อประจุลบเหล่านี้เข้าจับตัวกับสิ่งแปลกปลอมในอากาศ ได้แก่ ฝุ่น ละอองเชื้อโรค แบคทีเรีย เกสรดอกไม้ ควันบุหรี่ ขนสัตว์ จะทำให้ตกลงสู่พิ้นผิว เป็นการลดอัตราการสูดหายใจนำสิ่งสกปรกเข้าสู่ร่างกาย และช่วยทำให้คุณภาพอากาศรอบตัวดีขึ้น แต่ทั้งนี้หากไม่ทำความสะอาดพื้นผิวที่สิ่งสกปรกเหล่านั้นตกหล่น ก็อาจปลิวกลับขึ้นมาใหม่ได้เช่นกัน จึงต้องทำความสะอาดพื้นผิวทุกครั้งจึงจะได้ประสิทธิภาพสูงสุด
อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพของ เครื่องฟอกอากาศชนิดปล่อยประจุลบ จะอ่อนประสิทธิภาพลงเมื่ออยู่กลางแจ้งซึ่งมีลมพัดแรง หรืออากาศมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ และกระบวนการไหลเวียนอากาศผ่านแผ่นสร้างประจุไฟฟ้า (Ionizing) จะทำให้เกิดโอโซน ฉะนั้นต้องเลือกซื้อ เครื่องฟอกอากาศพกพา ที่ได้รับมาตรฐานการผลิต และมีปริมาณโอโซนไม่เกิน 0.05 ppm ตามมาตรฐานที่องค์การอาหารและยาสหรัฐอเมริกา FDA USA กำหนด โดยราคาขายในประเทศไทยปัจจุบันอยู่ที่ 4,000 – 7,000 บาท

เครื่องผลิตโอโซน (Ozone Generator)
โอโซน (Ozone หรือ O3) คือ รูปหนึ่งของก๊าซออกซิเจนที่มีพลัง (Active Oxygen) สามารถทำปฏิกิริยาออกซิเดชั่น กับสารอินทรีย์ และสารอนินทรีย์ได้เกือบทุกชนิดทั้งในน้ำและในอากาศ มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อที่รุนแรงและเร็วกว่าคลอรีนถึง 3,125 เท่า โดยโอโซนจะเข้าไปจับกับโมเลกุลของสารปนเปื้อน และทำการแยกย่อยสลายโดยการเปลี่ยนโครงสร้างของสารนั้น เนื่องจากโอโซนเป็นก๊าซที่มีโครงสร้างไม่เสถียร หลังทำปฏิกิริยา โอโซนจะแปรสภาพกลับเป็นก๊าซออกซิเจนทั่วไปที่มีอยู่ในอากาศ ซึ่งไม่เป็นอันตราย หรือส่งผลกระทบใดๆ ต่อมนุษย์ สัตว์และสิ่งแวดล้อม โอโซนได้ถูกค้นพบครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1840 โดยนักเคมีชาวเยอรมันชื่อคริสเตียน เฟเดอริก ชอนไบน์ โดยตั้งชื่อเป็นภาษาอังกฤษว่า Ozein ที่แปลว่า ดม

วิธีการเกิดก๊าซโอโซน
- ในธรรมชาติก๊าซโอโซนเกิดจากกระแสไฟฟ้าแรงสูงในอากาศ หรือฟ้าผ่า ฟ้าแลบ และแสงจากดวงอาทิตย์ ที่มีรังสี Ultra Violet เปลี่ยนโครงสร้างของออกซิเจนจาก O2 ให้เป็น O3
- การใช้รังสี Ultra Violet หรือหลอดไฟ UV วิธีนี้จะสร้างความเข้มข้นของก๊าซโอโซนไม่สูงนัก จะอยู่ในช่วง 0.01 – 0.10% โดยน้ำหนัก (ช่วงคลื่น 185 นาโนเมตร)
- การใช้สนามแม่เหล็กไฟฟ้าความถี่สูง (High Frequency Corona Discharge) จะสามารถทำความเข้มข้นของก๊าซโอโซนได้สูงถึง 6% โดยน้ำหนัก ในยุโรป และอเมริกา สามารถผลิตได้ถึง 3,000 ปอนด์/วัน (ประมาณ 56 กิโลกรัม/ชั่วโมง)
จุดเด่นของก๊าซโอโซน
- ฆ่าเชื้อโรคได้รวดเร็ว โดยเฉพาะแบคทีเรีย (สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคและกลิ่นเหม็น) ที่ความเข้มข้น 0.01-0.04 PPM
- ทำลาย กลิ่น สารเคมี และก๊าซพิษได้ดีเยี่ยม
- ไม่ทิ้งพิษตกค้าง เพราะเมื่อทำปฏิกิริยากับมลพิษเสร็จทุกครั้ง จะได้ออกซิเจน (O2) ที่เป็นก๊าซบริสุทธิ์ จึงเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมที่ดี
ถึงแม้โอโซนจะมีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดเชื้อไวรัส อย่างไวรัสโคโรนา และมีการนำมาใช้ฆ่าเชื้อในสถานพยาบาล สำหรับในประเทศไทยนั้นเครื่องผลิตโอโซนยังไม่ถูกนำมาใช้ในการฆ่าเชื้อภายในบ้านมากนัก เพราะตัวเครื่องยังมีข้อจำกัดในการใช้งานอยู่มาก และผู้ใช้จะต้องมีความรู้ที่เพียงพอ เพราะหากใช้ผิดวิธี อาจก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าประโยชน์ได้ โดยการใช้โอโซนนั้น จะต้องใช้ในค่าความเข้มข้นที่ปลอดภัย คือไม่เกิน 0.05 ppm และต้องใช้ในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเท โดยจะต้องเลือกใช้เครื่องที่ผลิตได้ปริมาณพอดีกับขนาดพื้นที่ที่ต้องการใช้ ในปริมาณที่จะไม่ก่อให้เกิดอันตราย

เครื่องฆ่าเชื้อด้วยรังสียูวี (UV Sterilizer)
เครื่องฆ่าเชื้อด้วยรังสี UV หรือ ตู้อบฆ่าเชื้อรังสี UV ถือเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมใหม่ในการกำจัดไวรัสแบคทีเรีย ให้กับทุกคนภายในบ้านได้อย่างปลอดภัย โดยได้มีการนำเข้ามาขายในประเทศไทยนานมากแล้ว ในวงการแม่และเด็ก โดยเริ่มต้นจากการนำมาใช้ฆ่าเชื้อขวดนม แทนที่เครื่องนึ่งขวดนม เพราะเป็นการฆ่าเชื้อที่ผ่านการรับรองและวิจัย ว่าสามารถฆ่าเชื้อไวรัสแบคทีเรียได้ 99.9% โดยไม่จำเป็นต้องใช้ความร้อน จึงมั่นใจได้ว่าของใช้ที่ลูกน้อยต้องสัมผัส หรือนำเข้าปาก จะสะอาดจริง และเนื่องจากไม่ใช้ความร้อน จึงช่วยยืดอายุการใช้งานของขวดนมได้อีกด้วย

รังสี UV-C นั้น เป็นประเภทหนึ่งของรังสี UV ที่ไม่สามารถทะลุผ่านมายังพื้นโลกได้ มนุษย์จึงได้มีการคิดค้นหลอดสังเคราะห์แสง UV-C ชื่อว่า Ultraviolet Germicidal Irradiation (UVGI) เพื่อนำมาใช้ในการฆ่าและทำลายเชื้อโรคชนิดต่าง ๆ ได้แก่ ไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา และยีสต์ ที่อยู่บนพื้นผิวและในอากาศ ซึ่งหลอด UV-C มีหลายประเภท และมีค่าความเข้มข้นแสงที่ต่างกันขึ้นอยู่กับการนำไปใช้งาน โดยในการฆ่าเชื้อที่ใช้ในโรงพยาบาล ห้องปฏิบัติการจุลชีววิทยา หรือที่ถูกนำมาใช้กับเครื่องฆ่าเชื้อนั้น จะใช้หลอด UV ที่มีค่าความเข้มข้นแสงอยู่ที่ 257.3 นาโนเมตร ซึ่งเป็นค่าความเข้มข้นที่เพียงพอในการทะลุเข้าไปทำลาย DNA ของเชื้อโรค ทำให้เชื้อโรคไม่สามารถสืบพันธุ์ หยุดการเจริญเติบโต และตายในที่สุด
ตู้ฆ่าเชื้อรังสี UV ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในเดือนที่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ COVID-19 ระบาดในประเทศไทย หลังจากที่มีบทความ และผลวิจัยต่าง ๆ มากมาย ออกมาพูดถึงประสิทธิภาพของรังสี UV ในการกำจัดเชื้อไวรัสโคโรนาได้ 100% และยังมีผลการทดลองจากทีมแพทย์ รพ. รามาธิบดี ที่พิสูจน์ให้เห็นว่า รังสี UV สามารถกำจัดเชื้อไวรัสโคโรนา บนหน้ากากอนามัย และ หน้ากาก N95 ได้จริง โดยไม่ทำให้เสื่อมประสิทธิภาพ ยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงพลังในการกำจัดเชื้อโรคของรังสี UV
อ่านข่าวการวิจัยฆ่าเชื้อหน้ากากอนามัยด้วยรังสียูวี ได้ที่นี่ >> Click
ปัจจุบันในประเทศไทย จึงมีการนำเข้า เครื่องฆ่าเชื้อด้วยรังสี UV มาจำหน่ายเป็นปริมาณมาก รวมทั้งมีการคิดค้นและดัดแปลงตู้อบชนิดอื่น ๆ โดยการติดตั้งหลอดไฟ UV เข้าไป เพื่อใช้ในการฆ่าเชื้อ โดยเป็นเครื่องที่ไม่ได้ผ่านมาตรฐานการผลิตและการป้องกันอันตรายที่อาจได้รับจากการใช้แสง UV แบบผิด ๆ เนื่องจากรังสี UV มีความเข้มข้นสูง หากสัมผัสโดนผิวหนังหรือดวงตา จะก่อให้เกิดอันตราย และมะเร็งผิวหนังได้ การเลือกซื้อ เครื่องฆ่าเชื้อด้วยรังสี UV จึงต้องคำนึงถึงความปลอดภัย โดยวัสดุจะต้องป้องกันการเล็ดลอดของรังสี UV ไม่ให้ออกสู่ภายนอก มีระบบตัดไฟ และวัสดุภายในยังต้องสามารถสะท้อนแสง UV ให้ส่องไปได้ทั่วถึงทุกอณู รวมถึงค่าความเข้มข้นของแสง UV กำลังไฟของหลอด เมื่อเทียบกับพื้นที่ความจุยังต้องสอดคล้องกัน เพื่อให้การฆ่าเชื้อโรคมีประสิทธิภาพ 100%
แนวโน้มในอนาคตของการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องทำความสะอาด ฆ่าเชื้อของเล่นเด็ก น่าจะมีทางเลือกเพิ่มขึ้นอีกมากมาย ในฐานะคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ จึงไม่ควรพลาดที่จะทำความรู้จักหลักการใช้งานเหล่านี้ไว้ เพื่อสามารถตัดสินใจซื้อสิ่งที่ดีที่สุดให้คุ้มค่า และใช้ได้กับทุกคนในครอบครัว
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
Q: ขวดนมที่ไม่มี BPA ปลอดภัย ใช้ได้นานกว่า ? A :ขวดนม PP ไม่มี BPA อายุการใช้งานสั้นกว่า PC ที่มี BPA โดยทั่วไป พลาสติกแต่ละชนิด จะมีอายุการใช้งานที่ต่างกัน ยิ่งต้ม ยิ่งนึ่ง ยิ่งขัด ก็ยิ่งเสื่อมสภาพเร็ว ทั้งนี้ คุณภาพและการผลิตพลาสติกของแต่ละโรงงานย่อมต่างกัน ขวด PP ที่ผลิตจากเม็ดพลาสติกคุณภาพสูงไม่ผสมเศษงานมักจะใสกว่า คุณแม่อาจพิจารณาเปลี่ยนขวดนมเมื่อเห็นว่าเริ่มบุบเบี้ยว หรือ ขวดนมขุ่นมากขึ้นอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม อายุการใช้งานจะสิ้นสุดถ้าขวดนมเป็นรอยขูดข่วน จึงควรล้างขวดนมด้วยแปรงขนนิ่ม ฟองน้ำ หรือแปรงซิลิโคน ***ดังนั้น อย่ากังวลกับฉลากและ โฆษณา “BPA-Free” ให้มากนัก หันมาดูวัสดุ และการดูแลรักษาให้ปลอดภัยจะดีกว่า ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก : SS Medical Clinic โดย พ.ญ.สิทธิ์ธีราห์ ชโรเต้อร์ หรือใช้การฆ่าเชื้อด้วยแสงรังสี UV (Prince&Princess Baby UV Sterilizer) นวัตกรรมใหม่สำหรับการดูแลลูกน้อยให้พ้นจากเชิ้อโรค ได้ถึง […]
Kids Item 2018-2019 ของเพจ Daddy’s day ได้แก่ แท่น แทน แท่น แท๊นนนนนน Aprica Nano smart คันนี้เลย หลายคนถามมาเรื่องรถเข็นเด็ก ว่าใช้รุ่นไหนยังไงดี ทาง Daddy’s Day ขอเลือกคันนี้เลย เอาจริงๆ รถเข็นที่บ้านมี 3 คัน ตั้งแต่ไฮเทคสุดแต่หนักมาก ไม่ไฮเทค พับง่ายแต่น้ำหนักยังหนักอยู่ จนมาลงตัวกับ Nano smart ที่สุด ชอบมากสุด ใช้ดีต้องบอกต่อเลย บ้านเราได้ทดลองใช้พาไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วย เพราะต้องเดินเยอะ แถมทางที่ไปหลายที่ มีทั้งทางเรียบ ขรุขระ ขึ้นเขาลงห้วยสารพัด รถเข็นคันนี้เอาอยู่หมด ตอบโจทย์มาก #พับเล็กพร้อมเดินทาง แบบสุดๆ 1. ที่ชอบที่สุดคือน้ำหนักเบา พกพาสะดวก เพราะรถเข็นน้ำหนักแค่ 5.6 kg เท่านั้น แบกสบาย ( มีกระเป๋าใส่มาให้ด้วยนะคะ แต่ทางเราไม่ได้ใช้เพราะรีบ ต้องแบกของเยอะ ) Daddy แบกของคนเดียวสบายๆเลย […]
เชื่อว่าปัญหาที่หลายๆ บ้านจะต้องเจอก็คือ การที่ลูกรักไม่ยอมกินข้าว โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่อายุ 1 ขวบขึ้นไป เมื่อเริ่มเดินได้คล่อง เริ่มวิ่งได้บ้าง ก็จะติดเล่น ไม่ค่อยยอมกินข้าวหรือกินได้น้อย บางคนก็อมข้าว ไม่ยอมเคี้ยว หรือหันหน้าหนี กว่าจะป้อนหมดชามก็ใช้เวลานานเกินไป ซึ่งทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายๆ คนเป็นกังวล เพราะการที่ลูกเราไม่ยอมกินข้าวก็อาจส่งผลต่อสุขภาพและการเติบโตของลูกได้ แต่ปัญหาการกินของลูกรับมือได้ไม่ยากเลยค่ะ เพียงแค่ต้องให้เวลา ใช้ความเข้าใจ และต้องใจแข็งนิดหน่อย ก็จะทำให้ลูกมีวินัยในการกินมากขึ้น ลูกไม่ยอมกินข้าว 1 ขวบ จะแก้ปัญหาอย่างไรดี ? มาลองฝึกลูกน้อยไปพร้อม ๆ กันกับ BabyGift ได้เลยค่ะ ลูกไม่ยอมกินข้าว 1 ขวบ ทำยังไงดี ? ชวนดูเทคนิคดีๆ ที่ทำให้ลูกกินได้มากขึ้น การได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอในปริมาณที่เหมาะสมนั้นเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากสำหรับลูกน้อย เพราะส่งผลต่อการเจริญเติบโตตามวัย หากได้รับสารอาหารไม่เพียงพอนั้นอาจทำให้ลูกมีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์และสุขภาพไม่แข็งแรงได้ โดยทั่วไปแล้ว เมื่อเด็กอายุครบ 1 ขวบจะเริ่มเรียนรู้การปฏิเสธอาหารหรือคายอาหาร เนื่องจากมีพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวร่างกาย สามารถหยิบจับอาหารเข้าปากได้เอง การปฏิเสธ หรือคายอาหารจึงเป็นสัญชาตญาณอย่างหนึ่งที่ช่วยป้องกันไม่ให้ตัวเองกินสิ่งที่เป็นพิษหรือสิ่งแปลกปลอมเข้าไป โดยส่วนใหญ่แล้ว การที่ลูกไม่ยอมกินข้าว 1 ขวบนั้นจะเกิดขึ้นไม่นานและหายไปได้เอง แต่เด็กบางคนอาจมีพฤติกรรมกินยาก […]
เชื่อว่าอาการปวดหลังหรืออาการปวดเมื่อยตามร่างกายนั้น ต้องเป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนเคยสัมผัสมาก่อน โดยเฉพาะในผู้ที่ต้องนั่งหรืออยู่ในท่าทางเดิมเป็นเวลานาน ๆ และก็อาจจะมองหาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพอย่างเบาะยางพาราและเบาะเมมโมรี่โฟมเพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย เนื่องจากวัสดุดังกล่าวให้ความรู้สึกที่นุ่มสบายและช่วยคลายความปวดได้ แต่ทราบหรือไม่คะว่า ปัจจุบันนี้มีสิ่งที่เรียกว่า Vetagel (เวทาเจล) ซึ่งเป็นวัสดุเจลประเภทหนึ่งที่มีความยืดหยุ่นสูง คืนตัวได้เร็ว และลดแรงกดทับได้ดีกว่ามาก ทั้งยังเป็นที่นิยมในประเทศเกาหลีอีกด้วย vetagel คืออะไร มีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง มีประโยชน์ทางด้านสุขภาพของเราอย่างไร ไปอ่านพร้อม ๆ กันเลยค่ะ Vetagel คือ อะไร ? ชวนรู้จักเจลชนิดพิเศษเพื่อสุขภาพ นำเข้าจากเกาหลีใต้ vetagel คือวัสดุเจลชนิดหนึ่ง เป็นเจลใสสีเขียวชนิดพิเศษ ผลิตขึ้นในประเทศเกาหลีใต้ เนื้อเจลจะมีคุณสมบัติเหนียว แข็งแรง มีความยืดหยุ่นสูงมาก แม้มีแรงกดทับหนัก ๆ ก็ไม่เสียรูปทรงง่าย สามารถกระจายแรงกดทับได้ดีและคืนตัวได้เร็ว เมื่อเรากดลงไปในเนื้อเจล เนื้อเจลจะเด้งดึ๋งคืนตัวทันที (Fast Recovery Property) ทำให้เกิดแรงกดทับได้น้อยมาก ๆ ซึ่งแตกต่างจากวัสดุชนิดอื่น ๆ เช่น เมมโมรี่โฟมหรือยางพาราที่เมื่อเราใช้มือกดลงไป วัสดุจะค่อย ๆ คืนตัวช้า ๆ […]
ปัจจุบันคุณพ่อคุณแม่หลายครอบครัวให้ความสำคัญกับ “คาร์ซีท” หรือ เบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็ก เป็นอุปกรณ์จำเป็นเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับลูกน้อยในขณะที่เดินทางด้วยรถยนต์กันเป็นจำนวนมาก โดยล่าสุด นางสาวอรุณศรี พิริยเลิศศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบบี้ กิ๊ฟ (ไทยแลนด์) จำกัด ได้รับเกียรติเข้าเยี่ยมชม “Aprica Central Research Center” ที่เมืองนารา ประเทศญี่ปุ่น และแลกเปลี่ยนความรู้กับผู้เชี่ยวชาญด้านคาร์ซีท เจาะลึกถึงแนวคิดการออกแบบที่สอดคล้องกับสรีระของเด็กในแต่ละช่วงวัย การเลือกสรรวัสดุที่ปลอดภัย และขั้นตอนการผลิตที่ได้มาตรฐาน รวมไปถึงวิธีทดสอบคาร์ซีทในห้องปฎิบัติการด้านความปลอดภัยมาตรฐานระดับโลก อะปริก้า (Aprica) ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2490 โดยทีมกุมารแพทย์จากประเทศญี่ปุ่น ด้วยความห่วงใยและใส่ใจเกี่ยวกับเด็กทารก เพราะถือว่าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเด็ก จึงได้ช่วยกันคิดค้นและวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นอย่างพิถีพิถัน โดยมีเป้าหมายคือการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเด็กและพ่อแม่ ด้วยความเชี่ยวชาญและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องกว่า 70 ปี อะปริก้า จึงได้รับการยอมรับและไว้วางใจอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น และอะปริก้ายังได้รับเกียรติให้เป็นผู้จัดทำรถเข็นและผลิตภัณฑ์เด็กรุ่นพิเศษ ภายใต้ชื่อ Royal Knot เพื่อทูลเกล้าถวายแด่ราชวงศ์ในประเทศญี่ปุ่น รวมถึงเชื้อพระวงศ์ในอีกหลายประเทศทั่วโลก Aprica Central Research Center เป็นศูนย์กลางวิจัยเกี่ยวกับการคิดค้นผลิตภัณฑ์เด็กตั้งอยู่ในเมืองนาราประเทศญี่ปุ่นด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 10,000 ล้านเยน เพื่อเป็นศูนย์กลางในการรวบรวมประวัติความเป็นมาของแบรนด์อะปริก้า แนวคิดปรัญชาการพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก รวมทั้งเทคโนโลยีนวัตกรรมที่ทันสมัย โดยเฉพาะด้าน Childcare Engineering […]
มาทำความรู้จักกับโรค Shaken Baby Syndromeสำหรับพ่อแม่คนไทยอาจไม่คุ้นหูกับโรคนี้ แต่ในต่างประเทศโรคนี้มีโอกาสเกิดขึ้นได้ง่ายๆ กับคุณแม่มือใหม่ มิหนำซ้ำความรุนแรงยังอันตรายถึงชีวิตของลูกน้อย โรค Shaken Baby Syndrome คือโรคที่มักพบในเด็กที่อายุน้อยกว่า 1 ปี เกิดจากการที่พ่อแม่จับลูกเขย่าแรงๆ อาจจะด้วยความตั้งใจหรือไม่นั้น แรงเขย่าจะทำให้เนื้อสมองกระแทกกับกะโหลกศีรษะ จนสมองได้รับการกระทบกระเทือนและมีเลือดออก เพราะเส้นเลือดในสมองของเด็กเล็กๆยังไม่แข็งแรง โอกาสที่มีการฉีกขาดจึงมีมากกว่าผู้ใหญ่ สาเหตุที่ทำให้ทารกเป็น Shaken Baby Syndrome จนทำให้พิการ หรือถึงขั้นเสียชีวิตเพราะการเขย่ารุนแรงจนมีภาวะเสี่ยงเป็นโรค Shaken Baby Syndrome นี้ มักจะไม่ทิ้งร่องรอยที่ร่างกายภายนอก ทารกจึงไม่ได้รับการรักษา เมื่อปล่อยทิ้งไว้นานก็อาจมีปัญหาด้านการเรียนรู้ สติปัญญา อาจเกิดอาการเป็นลมชัก ตาบอด หรือร้ายแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ วิธีสังเกตอาการภาวะเสี่ยงเป็น Shaken Baby Syndrome– อาการอาเจียน หรือหายใจลำบาก ซึ่งอาจดูไม่รุนแรง คล้ายภาวะปวดท้อง ช่วง 3 เดือนแรก(Baby Colic) เมื่อพาลูกน้อยไปพบแพทย์ ต้องบอกด้วยว่าเด็กโดนเขย่าอย่างรุนแรง หากเกิดภาวะเสี่ยงเป็น Shaken Baby Syndrome […]

ร้านสินค้าแม่และเด็กที่คัดสรรนวัตกรรมของใช้แม่และเด็กที่มี
คุณภาพให้คำปรึกษาและบริการ อย่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยให้การเลี้ยงลูกเป็นเรื่องง่าย ปลอดภัย และมีความสุข
Online Shopping
สาขา ปิ่นเกล้า ราชพฤกษ์
สาขา Mega บางนา
สาขา Central World
สาขา The Crystal รามอินทรา
สาขา BTS วงเวียนใหญ่ (Outlet)
Copyright 2024 © Baby Gift (Retail) Co., Ltd.