คาร์ซีทแบบกระเช้า คืออะไร ? เลือกยังไงให้เหมาะกับลูกคุณ

การเตรียมความพร้อมให้กับลูกน้อยนั้นมีสิ่งที่จำเป็นอยู่หลายอย่าง เริ่มตั้งแต่ก่อนคลอดไปจนถึงการเลี้ยงดูลูกตามช่วงวัยต่าง ๆ และสิ่งที่จำเป็นอย่างหนึ่งก็คือ คาร์ซีทสำหรับลูกน้อย อย่างคาร์ซีทเด็กแรกเกิด ที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับเด็ก ๆ ขณะนั่งรถยนต์ เพื่อช่วยลดโอกาสในการบาดเจ็บรุนแรงแก่เด็ก ๆ หากเกิดอุบัติที่ไม่คาดคิด 

ซึ่งปัจุบันมีคาร์ซีทหลากหลายรูปแบบมากมาย ทั้ง คาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 2 ปี คาร์ซีทสำหรับเด็กอายุ 3 ปีขึ้นไป คาร์ซีทที่ใช้สำหรับเด็กโตอายุ 4 – 12 ปี รวมถึง คาร์ซีทแบบกระเช้า ที่นิยมใช้กันมากขึ้น คาร์ซีทกระเช้าคืออะไร เป็นแบบไหน เหมาะกับเด็กช่วงวัยใด ควรเลือกซื้ออย่างไรบ้าง มารู้จักให้มากขึ้นผ่านบทความนี้กันค่ะ 

คาร์ซีทแบบกระเช้า เลือกยังไง ให้เหมาะกับลูกน้อย หาคำตอบได้ในบทความนี้ 

คาร์ซีทกระเช้า คืออะไร ? 

คาร์ซีทแบบกระเช้า (Infant Car Seat) หรือคาร์ซีทแบบ Newborn Only เป็นคาร์ซีทที่ใช้สำหรับเด็กแรกเกิดจนถึงอายุไม่เกิน 24 เดือน เหมาะสำหรับการติดตั้งหันหน้าเข้าหาเบาะรถยนต์ มีลักษณะรูปร่างคล้ายกับตะกร้า และมีที่สำหรับจับถือหิ้ว สามารถวางไว้ในรถได้ และยกออกได้เลยโดยที่ไม่ต้องอุ้มเด็กออกจากคาร์ซีท ทำให้ไม่รบกวนการนอนหลับของลูกน้อยรวมถึงเคลื่อนย้ายได้ง่ายไม่ยุ่งยาก ในบางรุ่นก็สามารถนำไปใส่กับรถเข็นเด็กได้ด้วย สร้างความสะดวกสบายให้กับคุณพ่อคุณแม่ในการพาลูกน้อยไปทำธุระนอกบ้าน เช่น พาไปหาหมอ พาไปหาคุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยาย เป็นต้น 

ข้อดี  

  • มีน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายได้ง่าย สามารถถอดออกมาเดินถือได้เลย  
  • มีที่นั่งกระชับ เหมาะสมกับสรีระของเด็ก ช่วยให้เด็กนอนในท่าทางที่สบายและอยู่ในท่าทางที่ถูกต้อง 
  • มีความสะดวกสบายในการใช้งาน สามารถใส่กับรถเข็นเด็กได้ในบางรุ่น หรือปรับเป็นเปลนอนได้  
  • มีความปลอดภัย สามารถติดตั้งหันหน้าเข้าหาเบาะรถยนต์ได้ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่มีความปลอดภัยที่สุดสำหรับเด็กแรกเกิด 

ข้อเสีย  

  • มีความบอบบาง เพราะมีขนาดเล็ก ทั้งยังมีน้ำหนักเบา ทำให้โครงสร้างและชิ้นส่วนต่างๆ มีขนาดเล็กและบอบบางตามไปด้วย  
  • มีระยะการใช้งานสั้นๆ เนื่องจากกระเช้าคาร์ซีทมีขนาดเล็ก จึงใช้สำหรับเด็กแรกเกิด – 1 ปี เท่านั้น 
  • ไม่ทนทานเท่ากับคาร์ซีทประเภทอื่นๆ ด้วยเพราะมีน้ำหนักเบา มีโครงสร้างที่เล็กและไม่แข็งแรงเท่ากับคาร์ซีทประเภทอื่นๆ

คาร์ซีทแบบกระเช้า เหมาะกับการใช้งานแบบใด ?   

  • กระเช้าคาร์ซีท เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิดโดยเฉพาะ เพราะมีน้ำหนักเบา สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย น้ำหนักไม่มากจนเกินไป  
  • เหมาะสำหรับการเดินทางทั้งใกล้และไกล เพราะสามารถยกออกจากรถได้ในขณะที่เด็กหลับอยู่ โดยที่ไม่ต้องอุ้มเด็กออกมาจากคาร์ซีท สร้างความสะดวกสบายให้กับคุณพ่อคุณแม่ และสามารถนำไปติดตั้งในรถเข็นเด็กได้อีกด้วย 
  • เหมาะสำหรับการใช้งานช่วงสั้นๆ ไม่เกิน 1 ปี เพราะกระเช้าคาร์ซีทมีขนาดกะทัดรัด เคลื่อนย้ายสะดวก หากเด็กมีน้ำหนักมากขึ้นหรือมีความสูงเพิ่มขึ้น ก็อาจจะนั่งไม่สะดวกได้ 

เลือกคาร์ซีทแบบกระเช้าอย่างไรดี ?  

ตอนนี้ก็ได้ทราบแล้วว่าคาร์ซีทแบบกระเช้าคืออะไร เป็นแบบไหน มีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง และเหมาะกับการใช้งานในรูปแบบใด แล้วเราจะมีวิธีเลือกคาร์ซีทกระเช้าอย่างไรดีให้เหมาะกับลูกน้อยมากที่สุด มาดูวิธีเลือกกันเลยค่ะ   

1. เลือกจากระบบการติดตั้ง
ปัจจุบันจะมีอยู่ 2 ระบบ ได้แก่ ระบบ Belt (ติดตั้งด้วยเข็มขัดนิรภัยของตัวรถยนต์) โดยสามารถติดตั้งคาร์ซีทได้กับรถยนต์ทุกรุ่น ทุกคัน และระบบ ISOFIX หรือระบบการติดตั้งตามมาตรฐานยุโรป โดยส่วนใหญ่จะมีในรถยนต์ที่ผลิตในปี 2014 ขึ้นไป หากยังไม่แน่ใจว่าควรเลือกคาร์ซีทแบบไหนที่เหมาะกับรถยนต์ของเรา อาจสอบถามผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์เพิ่มเติม จะได้เลือกอย่างถูกต้องค่ะ

2. เลือกจากรูปแบบและขนาดที่เหมาะสมกับการใช้งาน
กระเช้าคาร์ซีทนั้นเหมาะสำหรับเด็กแรกเกิด – 18 เดือนเท่านั้น หากลูกน้อยโตกว่านี้ อาจทำให้ลูกนั่งได้ไม่สบายและรู้สึกอึดอัดได้ ควรเลือกเป็นแบบที่ทำความสะอาดได้ง่าย ถอดซักได้ ระบายอากาศดี และซัพพอร์ตกับสรีระของเด็กเล็ก ทั้งนี้ ควรเลือกขนาดคาร์ซีทให้มีความเหมาะสมกับขนาดเบาะรถของเราด้วย เพื่อที่จะได้ติดตั้งได้อย่างพอดีและมีความมั่นคงแน่นหนา เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของลูกน้อยค่ะ

3. เลือกจากฟังก์ชั่นการใช้งานที่ตอบโจทย์เรา
การเลือกคาร์ซีทนั้น ควรเลือกจากการตั้งคำถามที่ว่า สามารถนำมาประกอบเข้ากับรถเข็นได้หรือไม่ สามารถปรับให้เอนราบเพื่อทำเป็นเปลนอนได้หรือไม่ มีเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ตรงกับความต้องการของเราหรือไม่ เช่น ระบบ Side impact ป้องกันการชนด้านข้าง ที่ช่วยลดแรงกระแทก และอื่นๆ

4. เลือกซื้อจากร้านที่มีความน่าเชื่อถือ
สิ่งที่สำคัญไม่แพ้คุณภาพ และวัตถุประสงค์การใช้งานของสินค้าแต่ละอย่างนั้น ก็คือการเลือกซื้อของจากร้านที่มีความน่าเชื่อถือ มีการรับประกันคุณภาพ และจัดจำหน่ายโดยตัวแทนนำเข้าอย่างถูกต้องตามกฏหมาย หากมีการชำรุดก็สามารถส่งซ่อมกับศูนย์ได้ หรือสามารถเปลี่ยนใหม่ได้ในกรณีที่มีการชำรุดเสียหายรุนแรงจากการเกิดอุบัติเหตุในบางแบรนด์

5. เลือกที่มีสัญลักษณ์รับประกันความปลอดภัย
โดยเลือกคาร์ซีทที่มีตราสัญลักษณ์มาตรฐานความปลอดภัยตามมาตรฐาน ECE R129 (i – Size) อันเป็นมาตรฐานใหม่ล่าสุดสำหรับคาร์ซีทของสหภาพยุโรปในการใช้ควบคุมการผลิตคาร์ซีทสำหรับเด็กเล็กให้มีความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น และเบาะต้องนั่งสบายมากขึ้น เนื่องจากมีข้อบังคับให้เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 เดือน ต้องนั่งคาร์ซีทแบบหันหน้าเข้าหาเบาะ (Rear – Facing) ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ที่มีการประกาศใช้ตั้งแต่ปี 2556 และยังเป็นมาตรฐานที่มีการทดสอบความปลอดภัยของคาร์ซีทอย่างเข้มงวด และได้รับการยอมรับในระดับสากลว่ามีความปลอดภัยสูงสุดอีกด้วย   

BabyGift แนะนำคาร์ซีทแบบกระเช้า สำหรับลูกน้อยของคุณ

1. KINDERKRAFT คาร์ซีทกระเช้า รุ่น MINK PRO 

คาร์ซีทแบบกระเช้าที่เหมาะสำหรับเด็กแรกเกิด สามารถถอด และถือหิ้วเหมือนตะกร้าได้ มีน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายได้สะดวกสบาย โครงสร้างแข็งแรงทนทาน ได้รับมาตรฐานความปลอดภัยยุโรป R129 (i – Size) มั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพ  

จุดเด่น  

  • ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ระดับยุโรป R129 (i-Size) อันเป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่ามีความปลอดภัยสูงสุด  
  • สามารถติดตั้งกับรถเข็นเด็กที่มี Adapter ได้ เช่น รถเข็นเด็ก รุ่น Apino และ รถเข็นรุ่น NEA 
  • สามารถปรับพนักพิงศีรษะ และเข็มขัดนิรภัยพร้อมกันได้ 5 ระดับ ตามสรีระลูกน้อย  
  • น้ำหนักเบา 3.5 กิโลกรัม ถอดออก และถือหิ้วได้สะดวก 
  • มี Head Support เมมโมรี่โฟมหนา 3 ชั้น เสริมด้านในด้วย EPS โฟม ปกป้องศีรษะ และลำคอทารกแรกเกิดได้อย่างแน่นหนา  
  • มี Side Protect เสริมการ์ดป้องกันการกระแทกด้านข้าง เสริมความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล  
  • มีเข็มขัดนิรภัย 3 จุด พร้อมนวมหุ้มสายเข็มขัดหนานุ่ม สัมผัสสบาย มีความปลอดภัยสูง ให้เด็กนั่งได้ถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์  
  • มีหลังคาบังแดด ช่วยปกป้องสายตาทารกที่ยังบอบบางให้หลับสนิทมากขึ้น  
  • โครงคาร์ซีทแข็งแรง แตกหักยาก ดูดซับแรงกระแทกได้สูง  

การใช้งาน : เด็กแรกเกิด – 15 เดือน ส่วนสูง 40 – 75 เซนติเมตร มีน้ำหนักระหว่าง 0 – 13 กิโลกรัม 

การติดตั้ง : ระบบ Belt 

แบรนด์ : ประเทศเยอรมนี

2. KINDERKRAFT คาร์ซีทกระเช้า รุ่น I-CARE  

คาร์ซีทแบบกระเช้าสำหรับเด็กแรกเกิด มีน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายได้สะดวก สามารถถอดและถือหิ้วเหมือนตระกร้าได้ มีการออกแบบเชิงโมดูลาร์ ดีไซน์ สามารถถอดแยกชิ้นส่วนได้เพื่อรองรับสรีระเด็กได้ดีที่สุด พร้อมมาตรฐานความปลอดภัยจากยุโรป R129 (i – Size) มั่นใจได้ในด้านคุณภาพการใช้งาน 

จุดเด่น  

  • ได้มาตรฐานความปลอดภัยใหม่ระดับยุโรป R129 (i-Size) ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่ามีความปลอดภัยสูงสุด  
  • สามารถติดตั้งกับรถเข็นเด็กที่มี Adapter ได้ เช่น รถเข็นเด็ก รุ่น NEA   
  • สามารถปรับพนักพิงศีรษะ และเข็มขัดนิรภัยพร้อมกันได้ 4 ระดับ ตามสรีระลูกน้อย  
  • น้ำหนักเบา 4.2 กิโลกรัม  
  • มี Head Support เมมโมรี่โฟมหนานุ่มที่สุด ถึง 3 ชั้น ช่วยปกป้องศีรษะ และลำคอทารกแรกเกิดได้อย่างแน่นหนา  
  • มี Side Protect เสริมการ์ดป้องกันการกระแทกด้านข้าง ปลอดภัยตามมาตรฐานสากล  
  • มีเข็มขัดนิรภัย 5 จุด พร้อมนวมหุ้มสายเข็มขัดหนานุ่ม สัมผัสสบาย มีความปลอดภัยสูง  
  • มีหลังคาบังแดด ปกป้องสายตาทารกที่ยังบอบบางให้หลับสนิทมากขึ้น  
  • โครงคาร์ซีทแข็งแรง แตกหักยาก ดูดซับแรงกระแทกได้สูง  

การใช้งาน : เด็กแรกเกิด – 15 เดือน ส่วนสูง 40 – 87 เซนติเมตร มีน้ำหนักระหว่าง 0 – 13 กิโลกรัม  

การติดตั้ง : ระบบ Belt  และสามารถใช้ฐานติดตั้งระบบ  ISOFIX  ได้ 

แบรนด์ : ประเทศเยอรมนี 

3. JOIE ตระกร้าคาร์ซีทเด็ก รุ่น Gemm 

กระเช้าคาร์ซีทสำหรับเด็กอ่อนในรูปแบบตระกร้าหิ้ว ทำให้ลูกน้อยหลับสบายแม้ในขณะเคลื่อนย้าย เหมาะสำหรับเด็กวัยแรกแกิดโดยเฉพาะ มีการรับประกันความแข็งแรงของโครงสร้าง 3 ปี ผ่านการทดสอบ  ECE R44/04 จากยุโรป มั่นใจได้ในเรื่องของคุณภาพ ได้มาตรฐานจากสากล 

 จุดเด่น  

  • ผ่านการทดสอบมาตรฐาน ECE R44/04 จากยุโรป 
  • น้ำหนักเบา เพียง 4.62 กิโลกรัม 
  • เบาะรองรับสรีระเด็กแรกเกิดได้ดี ระบายอากาศได้ดี และสามารถถอดซักได้ 
  • หลังคาป้องกันแสง UV สามารถถอดออกได้ และหูหิ้วปรับระดับได้ 
  • มีสายคาดนิรภัยแบบ 5 จุดตามมาตรฐานสากล สามารถปรับระดับได้ 
  • การติดตั้งหันหน้าเข้าหาเบาะ เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของลูกน้อย  
  • สามารถใช้ฐานเสริม Car Seat รุ่น I Base ในการติดตั้งด้วยระบบ ISOFIX หรือเข็มขัดนิรภัย เพียงนำตระกร้าหิ้วไปวานบน ฐานเสริม Car Seat รุ่น I Base ทำให้สะดวกยิ่งขึ้นในการใช้งาน 
  • สามารถใช้กับรถเข็นรุ่น Litetrax4 DLX / Pact / Tourist / Muze LX / Versatrax / Finiti 

การใช้งาน : เด็กแรกเกิด – 13 กิโลกรัม 

การติดตั้ง : ระบบ ISOFIX  

แบรนด์ : ประเทศอังกฤษ

ปัจจุบันมีกฏหมายคาร์ซีทที่ระบุเอาไว้ว่า เด็กที่อายุไม่เกิน 6 ปี หรือสูงไม่เกิน 135 เซนติเมตร ต้องมีที่นั่งพิเศษสำหรับเด็ก (คาร์ซีท) เพื่อป้องกันอันตรายในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ ซึ่งกำหนดใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2565 ดังนั้นแล้ว การเลือกคาร์ซีทให้กับลูกน้อย โดยเฉพาะเด็กแรกเกิดจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นสิ่งที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับลูก และช่วยลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุได้ หากคุณต้องการคาร์ซีทที่ได้มาตรฐาน มีคุณภาพดี BabyGift เป็นร้านจำหน่ายสินค้าแม่และเด็กระดับคุณภาพ มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี คุณพ่อคุณแม่สามารถพาลูกน้อยมาลองนั่งคาร์ซีทแบบกระเช้าได้ทุกรุ่น หรือ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ร้านเบบี้กิ๊ฟทั้ง 5 สาขา ใกล้บ้าน หรือสอบถามผ่านช่องทาง Online ทีมงาน BabyGift ยินดีให้คำแนะนำค่ะ  

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00

บทความแนะนำ

มาช่วงหลัง ๆ นี้เราจะได้ยินคำว่า Baby Shower กันบ่อยมาก โดยเฉพาะในเหล่าดาราคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ก่อนจะไปดูไอเดียสนุก ๆ คุณแม่ทราบมั้ยคะว่า Baby Shower คืองานอะไรกันแน่? Baby Shower คืออะไร? พอได้ยินคำว่า Baby Shower ปุ๊ป คุณแม่บางบ้านอาจเห็นภาพฝักบัวลอยมาเลย ไม่แปลกค่ะ เพราะว่างานนี้ยังไม่ค่อยแพร่หลายในเมืองไทย แต่เป็นงานที่มีความนิยมมากในต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศทางฝั่งตะวันตก อธิบายง่าย ๆ ก็คือ Baby Shower เป็นงานรวมญาติสนิทมิตรสหายเพื่อมาร่วมเฉลิมฉลองให้กับลูกน้อยของเราที่กำลังจะลืมตามาดูโลก โดยหลัก ๆ แล้ว แขกแต่ละคนก็จะนำของติดไม้ติดมือมาให้เพื่อเป็นของขวัญรับขวัญหลาน หรือบางคนก็อาจจะให้เป็นเงินทอง ส่วนใหญ่แล้วงาน Baby Shower ก็จะจัดขึ้นในไตรมาสที่ 3 นะคะ ไม่ช้าไม่เร็ว มาค่ะ เรามาดูกันว่านอกจากจะแค่ชวนเพื่อน ๆ มาพบปะกันแล้วเราจะจัดงาน Baby Shower แบบไหนกันได้บ้าง ไอเดียการจัด Baby Shower แบบคิวท์ ๆ 1. […]

ไขข้อสงสัยที่สาวๆอยากรู้ “แม่เสริมหน้าอก ให้นมลูกได้ไหม?” วันนี้ Baby Gift มีคำตอบค่ะ ปัจจุบันการศัลยกรรมเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่มาแรงและเข้าถึงทุกเพศทุกวัยทั่วโลก โดยเฉพาะการอัพไซส์ แม่เสริมหน้าอก เรียกได้ว่าเป็นที่นิยมในหมู่สาวๆ เพราะผลลัพธ์ที่ได้นั้นสาวๆจะมีหน้าอกที่สวยงามและขนาดใหญ่ขึ้นตามความต้องการ รวมถึงมีร่องอกที่ชิดและชัดเจนกว่าเดิม ส่งผลให้สาวๆเกิดความมั่นใจในรูปร่างตัวเองมากยิ่งขึ้น เมื่อสาวๆนิยมหันมาเสริมหน้าอก กันมากขึ้นจนเริ่มมีการตั้งคำถามว่า คุณแม่เสริมหน้าอก ให้นมลูกได้ไหม? คำตอบคือ ได้ค่ะ คุณแม่ที่เสริมหน้าอกมาแล้ว สามารถให้นมลูกได้ตามปกติและไม่มีผลข้างเคียงใดๆ เพราะปัจจุบันการเสริมหน้าอกใช้เทคนิคใส่ถุงซิลิโคนเข้าไปใต้หรือเหนือกล้ามเนื้อเต้านม  ซึ่งอยู่คนละส่วนกับที่ใช้ผลิตน้ำนม และไม่ได้มีการตัดท่อน้ำนมหรือตกแต่งบริเวณหัวนม ส่วนในกรณีที่คุณแม่เสริมหน้าอกลังเลเรื่อง คุณแม่เสริมหน้าอก สามารถปั๊มนมได้ไหม? คำตอบคือ ทำได้ค่ะ คุณแม่ที่เสริมหน้าอกมาแล้ว สามารถปั๊มนมได้ตามปกติ โดยเลือกใช้เครื่องปั๊มนมที่มีคุณภาพ รองรับการปั๊มนมสำหรับคนที่เสริมหน้าอก  อย่างไรก็ตาม การเสริมหน้าอกควรคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก และเพื่อความสบายใจของคุณแแม่ควรปรึกษาคุณหมอในการวางแผนมีลูกเพื่อรับคำแนะนำเพิ่มเติมเป็นกรณีไป ได้คำตอบแบบนี้แล้วคุณแม่มั่นใจหายห่วง เตรียมพร้อมรับมือเตรียมตัวเป็นคุณแม่กันดีกว่าค่ะ

คาร์ซีท ( Car Seat ) หนึ่งในอุปกรณ์เพิ่มความปลอดภัยให้กับเด็ก สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์ ที่พ่อแม่ทุกคนควรให้ความสำคัญ ควรเตรียมไว้ให้กับลูกตั้งแต่ก่อนคลอด เพราะในความเป็นจริง เราควรใช้คาร์ซีทตั้งแต่วันแรกที่พาลูกออกจากโรงพยาบาล เพื่อป้องกันเหตุไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นจากการเดินทาง นอกจากนี้ร่างกายของเด็กในช่วงแรกเกิดก็ยังมีความบอบบางจึงต้องใส่ใจและได้รับการดูแลเป็นพิเศษ คาร์ซีทก็มีหลากหลายแบบ หลายประเภท ( อ่านบทความประเภทของคาร์ซีท Click ) แต่วันนี้ที่อยากจะชวนพ่อแม่ทุกคนมาดูกันคือ คาร์ซีทแรกเกิดหมุนได้ 360 องศา ที่ถือว่าเป็นหนึ่งในคาร์ซีที่นิยมใช้เป็นอย่างมาก เพราะมีทั้งความปลอดภัย และมีความสะดวกสบายต่อการใช้งานเป็นอย่างมาก 4 เหตุผล ทำไมควรใช้คาร์ซีทหมุนได้ คาร์ซีทหมุนได้ เลือกแบบไหนดี การใช้คาร์ซีทให้ปลอดภัย คาร์ซีทหมุนได้ 7 รุ่น น่าใช้ โดนใจแม่ ประจำปี 2024 Ailebebe รุ่น Kurutto R The First จุดเด่น  การใช้งาน : เด็กแรกเกิดความสูง 40-100 cm. หรือ อายุ 0- 4 ปี  การติดตั้ง : ระบบ ISOFIX  แบรนด์ : ประเทศญี่ปุ่น  Ailebebe รุ่น Kurutto R […]

แน่นอนว่าคุณแม่ทุกบ้านจะต้องตื่นเต้นกับการทานข้าวมื้อแรกของลูก แต่นอกจากความตื่นเต้นแล้ว การฝึกลูกน้อยให้มีวินัยในการรับประทานอาหารก็ถือเป็นงานหินชิ้นนึงเลยล่ะค่ะ สำหรับคุณแม่ๆ บ้านไหนที่กำลังหาวิธีฝึกลูกน้อยให้คุ้นชินกับการทานข้าวอยู่ล่ะก็ มาดูกันดีกว่าว่าเรามีวิธีดีๆ อะไรมาฝากกันบ้าง ฝึกลูกหม่ำข้าวด้วยวิธีง่ายๆ ไม่ต้องบังคับ 1. นั่งโต๊ะและเริ่มทานข้าวพร้อมกัน  อย่างที่เรารู้ๆ กันอยู่ว่าเด็กมักจะชอบเลียนแบบพฤติกรรมของผู้ใหญ่ นั่นแหละค่ะ เราลองเอาเรื่องนี้มาเป็นตัวช่วยกันดีกว่า เพราะงั้นเวลาเราทานข้าว เราก็ควรให้ลูกน้อยของเรานั่งร่วมโต๊ะอาหารด้วยเนอะ ให้เค้าเห็นว่าทุกคนมีความสุขในการรับประทานอาหาร เห็นเวลาเรานำช้อนเข้าปาก ให้เค้ารู้ว่าการทานข้าวเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนทำ และเค้าก็ต้องทำด้วยเหมือนกัน แม้ตอนแรกอาจจะมีร้องงอแงบ้าง แต่ก็อย่าไปยอมแพ้ค่ะ ทำบ่อยๆ ทำให้เป็นกิจวัตร เดี๋ยวเค้าก็จะชินไปเอง 2. ทานอาหารให้เป็นเวลา  คุณแม่บางบ้านอาจจะยุ่งหัวหมุนกับทั้งงานประจำและงานบ้านจนเผลอไม่ได้ทานข้าว อ๊ะๆ ถ้าคุณแม่กำลังเป็น Working Woman แบบนี้อยู่ เราขอให้คุณแม่วางงานซักนิด แล้วมาทานข้าวกับลูกน้อยเมื่อถึงเวลา เพราะเราควรฝึกให้เค้าคุ้นเคยกับเวลาที่ต้องทานอาหาร ไม่ว่าจะเป็นอาหารเช้า กลางวัน เย็น คุณแม่ก็ควรจะให้เค้าทานเวลาเดิมๆ นอกจากจะสร้างนิสัยให้เค้าแล้ว ยังเป็นการปรับระบบย่อยอาหารภายในร่างกายของลูกน้อยอีกด้วยน้า ถ้าเค้าคุ้นเคยกับเวลาแล้ว ทีนี้ล่ะ ไม่ต้องเรียกเลย พอถึงเวลาเค้าก็จะหิวขึ้นมาเอง 3. เปลี่ยนเมนูอาหารให้หลากหลาย  เด็กหลายๆ คนเบื่อข้าว อมข้าว เพราะอาจจะเป็นเรื่องของรสชาติที่ไม่ถูกปาก หรือเมนูอาจจะซ้ำซากจำเจจนเกินไป การเปลี่ยนเมนูอาหารให้หลากหลายเนี่ย นอกจากจะช่วยให้ลูกได้รับสารอาหารครบถ้วนแล้ว ยังทำให้เค้าเพลิดเพลินไปกับเมนูใหม่ๆ ด้วยนะ […]

คุณแม่รู้ไหม? เรื่องนอนของลูกน้อยทารกสำคัญมากพอๆ กับเรื่องการกินที่ดีเลยทีเดียว  เพราะการนอน มีผลทั้งต่อสุขภาพร่างกาย พัฒนาการ อารมณ์จิตใจ และการเจริญเติบโตที่สมบูรณ์ในอนาคตของลูกน้อย เพราะการให้ลูกน้อยได้นอนหลับเต็มที่ หลับสนิทและยาวนาน จะทำให้ Growth Hormone ในร่างกายลูกน้อยหลั่งออกมาได้ดี ส่งผลช่วยให้ลูกมีการเจริญเติบโตที่ดี มีสุขภาพแข็งแรง  นอกจากนี้การที่ลูกน้อยได้นอนหลับสนิทเต็มที่ ยังทำให้สมองพัฒนาได้ดี ทำให้ลูกตื่นมาอารมณ์ดี เป็นเด็กที่สดใสและเลี้ยงง่ายอีกด้วย ดังนั้นคุณแม่จึงต้องใส่ใจเรื่องการนอนของลูกน้อย ด้วยการให้ลูกได้นอนหลับสบายเต็มที่ยาวนาน ไม่มีสิ่งต่างๆ มารบกวน  โดยเฉพาะการเลือกเครื่องนอนหรือเปลนอนให้ลูก ต้องให้ความสำคัญอย่างมาก โดยต้องเลือกเปลที่มีคุณสมบัติดีเยี่ยม ปลอดภัย ลูกน้อยหลับได้ยาวนาน  และยิ่งเป็นเปลที่ทำให้เบบี๋นอนหลับได้ง่าย เคลื่อนย้ายได้ แถมคุณแม่ไม่ต้องอุ้มเดินกล่อมลูกนอนให้ยุ่งยากต่อไป …นี่แหล่ะเปลนอนในดวงใจของทั้งคุณแม่และคุณลูก เปลนอนทารกมีกี่แบบ? 1. เปลหิ้ว หรือเปลตะกร้า เปลที่คุณพ่อคุณแม่สามารถให้ลูกนอนแล้วหิ้วเดิน หรือหิ้วไปใส่ในคาร์ซีทหรือรถเข็นได้ มีน้ำหนักเบา มีหูจับหิ้วสะดวก พกพาง่าย แต่ส่วนใหญ่มักจะมีขนาดเล็กซึ่งเหมาะสำหรับลูกน้อยวัยทารกแรกเกิดจนถึงอายุไม่เกิน 3 เดือนเท่านั้น ทำให้ใช้งานได้ไม่ยาวนานนัก 2. เปลไกว เปลไกว คือเปลนอนสำหรับเด็กที่สามารถแกว่งโยกไปมาได้ เป็นการเคลื่อนไหวคล้ายขณะที่ลูกทารกยังอยู่ในท้องแม่  เพื่อช่วยคุณแม่ไกวเปลกล่อมลูกนอน โดยไม่ต้องอุ้มโยกกล่อมลูกน้อย ซึ่งเปลไกวมีการพัฒนาหลายแบบ ทั้งเปลไกวตั้งพื้นขนาดเล็กเฉพาะตัวลูก เปลไกวแบบลูกกรง […]

เครื่องปั๊มนมเป็นตัวช่วยอันดับหนึ่งของคุณแม่ลูกอ่อน โดเฉพาะคุณแม่ที่ต้องการให้ลูกน้อยได้กินนมแม่อย่างต่อเนื่องยาวนานที่สุด เครื่องปั๊มนมจะช่วยให้คุณแม่ปั๊มนมได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่ทำให้เกิดอาการคัดเต้านม ซึ่งการที่คุณแม่ปั๊มนมอย่างสม่ำเสมอนั้น เป็นการช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำนมได้มากยิ่งขึ้น ทำให้คุณแม่สามารถสต็อกน้ำนมได้ตามความต้องการ ปัจจุบันในท้องตลาดมีเครื่องปั๊มนมหลากหลายยี่ห้อมากมาย และก็มีหลายประเภทให้เลือกซื้อ คุณแม่บางคนอาจสงสัยว่าควรเลือกแบบไหน จะเลือกเครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ? BabyGift มีเครื่องปั๊มนมน่าใช้ในปี 2025 มาแนะนำให้เหล่าคุณแม่ได้เลือกใช้ตามความเหมาะสมกันเลยค่ะ  เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ?  เครื่องปั๊มนมแบบไหนที่ถูกใจคุณแม่บ้าง ?  เครื่องปั๊มนมนั้นจำเป็นสำหรับคุณแม่อย่างมาก โดยเฉพาะคุณแม่ที่เพิ่งคลอดลูกและต้องกลับไปทำงานหลังลาคลอดทำให้ไม่ได้ให้ลูกกินนมจากเต้าเหมือนตอนอยู่บ้าน เครื่องปั๊มนมนั้นก็มีประโยชน์มากมาย อย่างเช่น ทำให้คุณแม่ปั๊มนมเก็บลงสต็อกได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ช่วยกระตุ้นน้ำนม เสมือนว่ามีทารกดูดน้ำนมอย่างเสมอซึ่งช่วยให้ร่างกายคุณแม่ผลิตน้ำนมได้มากยิ่งขึ้น ทั้งช่วยบรรเทาอาการคัดเต้านม และทำให้คุณแม่ได้มีเวลาพักผ่อนหรือมีเวลาทำกิจกรรมส่วนตัวเพิ่มขึ้นในระหว่างที่ลูกดูดนมสต็อกในขวดแทนการดูดจากเต้า เรียกว่าเครื่องปั๊มนมนั้นมีความจำเป็นมากทีเดียวเลยค่ะ แล้วจะเลือกเครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ? ก็ต้องดูว่าแต่ละรุ่นแต่ละแบบนั้น ตอบโจทย์การใช้งานของคุณแม่ได้มากน้อยอย่างไร สำหรับคุณแม่ที่อาจจะกำลังสงสัยว่าเครื่องปั๊มนม มีกี่แบบ ? โดยหลัก ๆ แล้วจะมีอยู่ 2 แบบด้วยกันดังนี้ค่ะ    BabyGift แนะนำเครื่องปั๊มนม 10 อันดับน่าใช้ประจำปี 2025   รู้กันแล้วว่ามีกี่ประเภท ตอนนี้เราลองมาดูยี่ห้อน่าใช้กันต่ะค่ะ ปัจจุบันตามท้องตลาดก็มีเครื่องปั๊มนมจำหน่ายมากมาย ทั้งแบบปั๊มมือ และแบบไฟฟ้า มีฟังก์ชั่นให้เลือกอย่างหลากหลาย […]

Menu
All Categories
All Brands
All Ages
Promotions
Locations
BabyGift Family
BabyGift Care
Parents Guide
News & Event

All Categories

All Categories
All Brands
All Ages