ลูกไม่ยอมกินข้าว 1 ขวบ ทำยังไง ? แจก 9 เทคนิคช่วยคุณแม่สบายใจ ไม่ต้องปวดหัว !

เชื่อว่าปัญหาที่หลายๆ บ้านจะต้องเจอก็คือ การที่ลูกรักไม่ยอมกินข้าว โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่อายุ 1 ขวบขึ้นไป เมื่อเริ่มเดินได้คล่อง เริ่มวิ่งได้บ้าง ก็จะติดเล่น ไม่ค่อยยอมกินข้าวหรือกินได้น้อย บางคนก็อมข้าว ไม่ยอมเคี้ยว หรือหันหน้าหนี กว่าจะป้อนหมดชามก็ใช้เวลานานเกินไป ซึ่งทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายๆ คนเป็นกังวล เพราะการที่ลูกเราไม่ยอมกินข้าวก็อาจส่งผลต่อสุขภาพและการเติบโตของลูกได้ แต่ปัญหาการกินของลูกรับมือได้ไม่ยากเลยค่ะ เพียงแค่ต้องให้เวลา ใช้ความเข้าใจ และต้องใจแข็งนิดหน่อย ก็จะทำให้ลูกมีวินัยในการกินมากขึ้น ลูกไม่ยอมกินข้าว 1 ขวบ จะแก้ปัญหาอย่างไรดี ? มาลองฝึกลูกน้อยไปพร้อม ๆ กันกับ BabyGift ได้เลยค่ะ

ลูกไม่ยอมกินข้าว 1 ขวบ ทำยังไงดี ? ชวนดูเทคนิคดีๆ ที่ทำให้ลูกกินได้มากขึ้น

การได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอในปริมาณที่เหมาะสมนั้นเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากสำหรับลูกน้อย เพราะส่งผลต่อการเจริญเติบโตตามวัย หากได้รับสารอาหารไม่เพียงพอนั้นอาจทำให้ลูกมีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์และสุขภาพไม่แข็งแรงได้ โดยทั่วไปแล้ว เมื่อเด็กอายุครบ 1 ขวบจะเริ่มเรียนรู้การปฏิเสธอาหารหรือคายอาหาร เนื่องจากมีพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวร่างกาย สามารถหยิบจับอาหารเข้าปากได้เอง การปฏิเสธ หรือคายอาหารจึงเป็นสัญชาตญาณอย่างหนึ่งที่ช่วยป้องกันไม่ให้ตัวเองกินสิ่งที่เป็นพิษหรือสิ่งแปลกปลอมเข้าไป โดยส่วนใหญ่แล้ว การที่ลูกไม่ยอมกินข้าว 1 ขวบนั้นจะเกิดขึ้นไม่นานและหายไปได้เอง แต่เด็กบางคนอาจมีพฤติกรรมกินยาก เลือกกิน ไม่ชอบกินข้าว หรือติดเล่นจนไม่ยอมกินข้าว ก็อาจทำให้คุณพ่อคุณแม่เป็นกังวลต่อสุขภาพของลูกได้ แล้วจะทำให้ลูกกินข้าวมากขึ้นได้อย่างไร BabyGift มี 9 เทคนิคดีๆ มาฝากแล้วค่ะ 

1. ฝึกให้ลูกกินข้าวเป็นเวลา และ กำหนดช่วงเวลาในการกินข้าวอย่างชัดเจน

ในกรณีที่ลูกไม่ยอมกินข้าวนั้น อาจเป็นเพราะว่าลูกห่วงเล่น ติดเล่น หรือเล่นสนุกเพลินจนไม่อยากกินข้าว ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรกำหนดเวลากินข้าวให้ชัดเจนว่า พระอาทิตย์ตกดินแล้วต้องเลิกเล่นและเตรียมตัวกินข้าว หรือเวลาที่สมาชิกในครอบครัวกินข้าวกัน ลูกก็ต้องมานั่งกินด้วย และถ้าลูกบอกว่าไม่หิวหรือห่วงเล่น ก็ไม่ควรดุด่าหรือตำหนิลูก แต่ควรอธิบายให้ลูกเข้าใจว่า ต้องมากินข้าวก่อน จากนั้นถึงจะสามารถเล่นต่อได้ และควรมีกฎระเบียบชัดเจนว่าควรเล่นได้จนถึงเวลาไหน นอกจากนี้ ในแต่ละมื้อลูกควรใช้เวลากินข้าวประมาณ 30 – 45 นาที เมื่อถึงเวลาที่กำหนด ให้เก็บจานข้าว แม้ว่าลูกจะยังกินไม่หมดหรือกินได้น้อยก็ตาม เพื่อเป็นการฝึกให้ลูกได้เรียนรู้ว่า ถ้าไม่กินภายในช่วงเวลานี้ ก็จะไม่ได้กินจนกว่าจะถึงมื้อต่อไป  โดยช่วงแรกคุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องใจแข็งเมื่อลูกงอแงอยู่บ้าง แต่ผ่านไปสักพักลูกจะเริ่มเรียนรู้และปรับตัวได้มากขึ้น และกินข้าวเป็นเวลามากขึ้นค่ะ

2. ฝึกให้ลูกนั่งเก้าอี้กินข้าวสำหรับเด็ก

การให้ลูกนั่งบนเก้าอี้กินข้าวเด็กโดยเฉพาะจะทำให้ลูกมุ่งความสนใจไปที่อาหารตรงหน้าและไม่วอกแวก ทำให้โฟกัสกับการกินข้าวได้มากขึ้น เมื่อเทียบกับการป้อนข้าวลูกในขณะที่ลูกเล่นอยู่หรือเดินไปกินข้าวไป จะทำให้กินได้น้อยและไม่ใส่ใจกับการกินเท่าที่ควร หรือถึงขั้นไม่ยอมกินข้าวได้ โดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่ที่อยากใช้วิธี BLW ฝึกลูกกินข้าวเอง เพราะการฝึกให้ลูกนั่งกินข้าวกับที่นั้นเป็นเทคนิคที่ทำให้ลูกน้อยมุ่งความสนใจไปยังการกินอาหารได้มากขึ้น นอกจากนี้ การเพิ่มความน่าสนใจไปที่ถ้วยชาม ช้อนส้อม แก้วน้ำ ผ้ากันเปื้อน ให้มีลวดลายน่ารักและมีสีสันสดใส หรือเป็นลายตัวการ์ตูนที่ลูกชอบ ก็จะทำให้ลูกสนุกกับการกินได้มากขึ้นด้วย

3. ไม่ควรทำอย่างอื่นในเวลากินข้าว

เมื่อลูกไม่ยอมกินข้าว คุณพ่อคุณแม่บางคนอาจจะเข้าใจว่า การเปิดแท็บเล็ตหรือเปิดการ์ตูนให้ลูกดู จะทำให้กินข้าวได้มากขึ้น แต่ความจริงแล้ว การทำแบบนี้อาจเป็นการเสริมสร้างนิสัยการกินที่ไม่ดีให้กับลูกน้อย วิธีง่ายๆ ในการฝึกวินัยการกินข้าวให้ลูกน้อย ก็คือ ไม่ควรให้ลูกทำกิจกรรมอย่างอื่นในระหว่างที่กำลังกินข้าวอยู่ ในขณะที่กินอาหารไม่ควรดูทีวี แท็บเล็ต หรือเล่นของเล่นไปด้วย เพราะจะทำให้ลูกกินข้าวช้า ใช้เวลากินข้าวนานเกินไป หรืออาจจะอมข้าว และไม่ยอมกินข้าวได้ นอกจากนี้ ควรนำของเล่นออกจากบริเวณโต๊ะอาหารด้วย เพราะหากลูกเห็นของเล่น ก็จะทำให้ลูกไม่สนใจอาหารที่อยู่ตรงหน้าได้

4. ให้ลูกกินนอาหารพร้อมกับคนอื่นๆ 

การกินอาหารร่วมกันก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สร้างวินัยการทานอาหารให้ลูกได้ พ่อ แม่ ลูก อาจร่วมโต๊ะทานอาหารด้วยกัน ไม่ควรปล่อยให้ลูกนั่งกินคนเดียวหรือแยกโต๊ะลูกออกไป เพราะจะทำให้ลูกรู้สึกว่าเวลากินข้าวนั้นเป็นช่วงเวลาที่ทำให้ตัวเองต้องอยู่คนเดียวหรือรู้สึกเหงา โดดเดี่ยว และแปลกแยก การกินอาหารร่วมกันจะทำให้ลูกรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนสำคัญในบ้าน เป็นเหมือนผู้ใหญ่ที่ได้นั่งโต๊ะกินข้าวด้วยกัน นอกจากนี้ อาจให้ลูกกินข้าวร่วมกับเพื่อนๆ หรือเด็กๆ คนอื่นๆ เช่น กินข้าวด้วยกันกับพี่น้อง ก็จะทำให้ลูกเจริญอาหารมากขึ้นค่ะ 

5. ตกแต่งเมนูอาหารให้น่ากินมากขึ้น

หากอาหารหน้าตาน่ากินหรือมีความน่ารัก ลูกก็จะให้ความสนใจกับอาหารมากขึ้นและอยากลองชิมดู บางทีที่ลูกไม่ยอมกินข้าวอาจเป็นเพราะรู้สึกเบื่อเมนูอาหารเดิมๆ และเพื่อไม่ให้ลูกรู้สึกเบื่อกับเมนูเดิม ๆ ซ้ำ ๆ อาจจะตกแต่งอาหารของลูกน้อยให้เป็นตัวการ์ตูนที่ลูกรู้จัก หรือปั้นข้าวให้เป็นลูกบอลหรือรูปหน้าหมี ทอดไข่ดาวจากพิมพ์ ตัดผักให้คล้ายต้นไม้แบบธรรมชาติ ก็จะช่วยให้ลูกหยิบกินได้ง่ายและรู้สึกสนุกไปด้วย 

นอกจากนี้ ควรเพิ่มสีสันลงไปในอาหารให้มากขึ้น เช่น สีเขียวจากบรอกโคลี สีส้มจากแครอท สีเหลืองจากฟักทอง สีขาวจากข้าว สีน้ำตาลจากเนื้อสัตว์ สีแดงจากผลไม้อย่างแตงโม สตรอว์เบอร์รี่ ก็จะทำให้มีสีสันน่ารับประทาน และทำให้ลูกได้รับสารอาหารที่หลากหลายครบถ้วนตามหลักโภชนาการเด็กอีกด้วย อย่าลืมสังเกตชนิด และลักษณะอาหารที่ลูกชอบด้วย ครั้งหน้าจะได้เตรียมเพิ่มให้ได้ และที่สำคัญอย่าลืมเรื่องรสชาติ ต้องอร่อยถูกใจ ลูกจะได้เจริญอาหารแบบสุดๆ ไปเลยค่ะ

6. บรรยากาศในการกินข้าวต้องมีความผ่อนคลาย 

ลูกไม่ยอมกินข้าว 1 ขวบ สามารถแก้ได้ด้วยบรรยากาศ คุณพ่อคุณแม่บางคนอาจจะตำหนิลูกหรือดุด่าทำโทษลูก ซึ่งอาจจะทำให้สถานการณ์ยิ่งแย่ลง การฝึกให้ลูกมีวินัยในการกินข้าวนั้นจะต้องทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป คุณพ่อคุณแม่ต้องใจเย็นๆ และมีความอดทนมากๆ และต้องเชื่อมั่นว่าลูกจะกินอาหารได้มากขึ้นอย่างแน่นอน ฉะนั้น ต้องไม่ดุ ไม่ตี ไม่บังคับให้ลูกต้องกิน หากลูกยังไม่ให้ความร่วมมือในการกินข้าว ก็ควรใช้วิธีดึงความสนใจ เช่น “มาดูสิ ข้าวหนูหน้าตาเหมือนตัวการ์ตูนที่ชอบเลย” “มาเลือกช้อนกินข้าวกัน วันนี้เอาสีอะไรดีคะ” หรือบอกเหตุผลที่ต้องกินข้าว เช่น “หนูต้องกินข้าวเพราะจะได้มีแรงไปเล่นกับเพื่อน” “ถ้ากินข้าวเยอะก็จะได้โตเร็วๆ ตัวโตเท่าเพื่อนเลย” หรือ “ต้องกินข้าวก่อนนะคะคุณแม่ถึงจะให้เล่นต่อ” อะไรแบบนี้เป็นต้น เพราะยิ่งบังคับ ยิ่งดุหรือทำโทษ แม้สุดท้ายลูกจะยอมกินข้าว แต่ก็กินด้วยความฝืนใจ ทำให้ฝังใจและมีความรู้สึกไม่ดีกับการกินข้าวได้ค่ะ

7. ตักอาหารให้ลูกในปริมาณที่พอเหมาะ 

คุณพ่อคุณแม่บางคนอยากให้ลูกกินเยอะๆ จึงตักอาหารให้ลูกในปริมาณมาก ซึ่งถ้าหากอาหารมีปริมาณมากเกินไป ลูกจะรู้สึกว่าเป็นเรื่องยากที่ต้องกินให้หมดชาม ทำให้ไม่อยากกินหรือท้อใจกับการกินได้ ดังนั้นเมื่อลูกไม่ยอมกินข้าว 1 ขวบ จึงควรตักอาหารให้ลูกในปริมาณที่พอดี ไม่มากไม่น้อยเกินไป กะปริมาณให้ลูกกินอิ่มใน 1 มื้อ และได้รับพลังงานอย่างเพียงพอ และถ้าลูกยังไม่อิ่ม หรืออยากกินเพิ่ม ก็ค่อยตักเพิ่มให้ลูกค่ะ

8. ลดขนมหวาน

ให้ลองสังเกตดูว่า ถ้าลูกไม่ยอมกินข้าว 1 ขวบ เป็นเพราะว่ากินขนมในปริมาณมากหรือเปล่า เพราะขนมหวาน เค้ก คุ้กกี้ ไอศกรีม ลูกอม ช็อกโกแลต ขนมกรุบกรอบที่มีรสหวานต่างๆ นั้น เมื่อกินเสร็จจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ซึ่งจะไปกดศูนย์ควบคุมความหิวในสมอง ทำให้ลูกไม่รู้สึกหิว ไม่อยากอาหาร สามารถแก้ไขได้โดยการงดขนมหวานระหว่างมื้ออาหาร อาจเปลี่ยนเป็นผลไม้ที่ไม่หวานจัดแทน การงดขนมหวานระหว่างมื้อจะทำให้เด็กท้องว่าง รู้สึกหิวมากขึ้น และทำให้กินข้าวได้มากขึ้นโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ การลดน้ำตาลในเด็กยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ในเด็กอีกด้วยค่ะ 

9. ให้ลูกได้เล่นซน และใช้พลังงานอย่างเต็มที่ 

อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ลูกไม่ค่อยหิว และไม่ยอมกินข้าวนั้น อาจเป็นเพราะว่าลูกไม่ได้ใช้พลังงานอย่างเต็มที่ หรือไม่ค่อยได้ขยับเขยื้อนร่างกาย และถ้าคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนให้ลูกกินขนมหรืออาหารว่างระหว่างวันเรื่อยๆ ก็จะยิ่งทำให้เด็กไม่รู้สึกอยากอาหารได้ ดังนั้นแล้ว ลองพาลูกออกไปเล่นซนนอกบ้านบ่อยๆ ไปทำกิจกรรมนอกบ้านให้มากขึ้น หรือพาไปวิ่งเล่นกับเพื่อนๆ ซึ่งจะทำให้ลูกได้ใช้พลังงานอย่างเต็มที่ ได้ออกกำลังกาย ได้ออกแรง และรู้สึกหิวโดยอัติโนมัติ ทำให้กินข้าวได้มากขึ้นนั่นเองค่ะ วิธีนี้นอกจากจะทำให้ลูกมีความอยากอาหารเพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังทำให้ลูกได้ออกแรงและมีร่างกายแข็งแรงขึ้นด้วยนะคะ   

BabyGift แนะนำตัวช่วยสำหรับมื้ออาหาร ให้ลูกน้อยกินข้าวได้เยอะขึ้น

1. PRINCE & PRINCESS เก้าอี้ฝึกกินข้าว Fairy Plus

เก้าอี้ฝึกกินข้าวสำหรับเด็กรุ่น Fairy Plus จากแบรนด์ PRINCE & PRINCESS เป็นตัวช่วยสำคัญในการฝึกให้ลูกนั่งกินข้าวได้เอง และมีวินัยในการกินมากขึ้น รองรับน้ำหนักได้มาก มีความแข็งแรงปลอดภัยด้วยรางล็อคเหล็กแบบตะขอเกี่ยว ไม่เสี่ยงต่อการหลุดร่วงลงมา ให้ลูกน้อยนั่งกินข้าวเองได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย ตอบโจทย์ความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ในยุคปัจจุบัน

จุดเด่น 

  • สามารถปรับความสูงได้ 7 ระดับ ตั้งแต่ 25 เซนติเมตร – 60 เซนติเมตร 
  • พนักพิงเก้าอี้สามารถปรับเอนนอนได้ 3 ระดับ เหมาะกับการใช้นั่งพักหลังมื้ออาหาร ป้องกันไม่ให้ลูกน้อยเป็นกรดไหลย้อน หรือแหวะนม เมื่อเทียบกับการพาลูกนอนราบบนที่นอน
  •  มีล้อหน้า-หลัง และตัวล็อคล้อเพื่อความปลอดภัย เคลื่อนย้ายได้สะดวก และหากไม่ใช้งานสามารถพับเก็บได้ง่ายภายใน 1 วินาที
  • ถาดอาหารมีขนาดใหญ่ มี 2 ชั้น มีคุณสมบัติ BPA Free (ปราศจากสาร  Bisphenol A ที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย) และเป็นวัสดุ Food Grade ปลอดภัยไม่มีสารตกค้าง สามารถถอดแยกไปทำความสะอาดได้ 
  • พนักพิงเก้าอี้กว้าง รองรับช่วงสรีระของลูกน้อยได้จนโต มีสายรัดนิรภัยเพื่อป้องกันลูกร่วงตกจากเก้าอี้ 
  • เบาะรองนั่งเป็นนวัตกรรม Cotton Cushion เสริมความหนานุ่มนั่งสบาย สามารถถอดซักได้ และเบาะ PU ที่เป็นวัสดุกันน้ำไม่ซึม เช็ดทำความสะอาดได้

2. GRACE KIDS ช้อนป้อนอาหารซิลิโคน 3 ฟังก์ชั่น พร้อมกล่องเก็บ

ช้อนป้อนอาหารซิลิโคนปลายนิ่ม เหมาะสำหรับวัยที่เริ่มหัดกินข้าวเอง มี 3 ฟังก์ชั่นการใช้งานด้วยกัน ได้แก่ ช้อนตัก ส้อม และปลายช้อนสำหรับบดอาหาร มาในรูปยีราฟน่ารักน่าใช้งาน พร้อมกล้องเก็บช้อนที่สะดวกต่อการพกพา ป้องกันการปนเปื้อนจากสิ่งสกปรกได้ดี 

จุดเด่น

  • ปราศจากสาร BPA ที่เป็นอันตรายต่อลูกน้อย
  • ทำความสะอาดได้ง่าย ไม่เป็นคราบ
  • สามารถนึ่งฆ่าเชื้อโรคได้ 
  • ออกแบบมาให้มีขนาดพอดีกับปากเด็กเล็ก
  • ด้ามจับถนัดมือ ผลิตจากวัสดุมีคุณภาพ

สำหรับคุณพ่อคุณแม่คนไหนที่กำลังกังวลใจเรื่องลูกไม่ยอมกินข้าว หวังว่า 9 เทคนิคที่ BabyGift เอามาฝากในบทความนี้จะทำให้ลูกเริ่มกินข้าวได้มากขึ้นและมีวินัยในการกินมากขึ้นนะคะ ทั้งนี้ ควรคำนึงด้วยว่า ลูกไม่ยอมกินข้าว 1 ขวบนั้น เป็นเพราะลูกของเรามีปัญหาด้านสุขภาพที่ส่งผลต่อการกินหรือเปล่า โดยเด็กอาจดูด เคี้ยว กัด หรือกลืนอาหารไม่ถนัด มีอาการสำลักหรือรู้สึกพะอืดพะอมในเวลากินข้าว หรือปวดท้อง ท้องอืด ท้องผูก ท้องเสียเป็นประจำหลังกินข้าวเสร็จ ก็อาจจะทำให้รู้สึกไม่อยากกิน ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตด้วยว่าลูกมีปัญหาทางด้านสุขภาพหรือไม่ และควรพาไปพบคุณหมอเพื่อรักษาตามอาการค่ะ 

และถ้าคุณพ่อคุณแม่สนใจสินค้าอื่นๆ สำหรับแม่และเด็ก สามารถมาเยี่ยมชมสินค้าได้ที่ BabyGift ร้านจำหน่ายสินค้าแม่และเด็กระดับคุณภาพ มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี คุณพ่อคุณแม่สามารถมาเยี่ยมชมสินค้าต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์กินข้าวสำหรับลูกน้อยหรือสินค้าอื่นๆ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ร้านเบบี้กิ๊ฟทั้ง 5 สาขา ใกล้บ้าน หรือสอบถามผ่านช่องทาง Online ทีมงาน BabyGift ยินดีให้คำแนะนำค่ะ 

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00

บทความแนะนำ

แม่ๆ ดาราเซเลบคนดังร่วมแสดงความยินดีกับงานฉลองเปิดร้าน BabyGift สาขา เซ็นทรัลเวิลด์แบรนด์ผู้นำเข้า คาร์ซีท, รถเข็นเด็ก, เก้าอี้ทานข้าว, เป้อุ้มเด็ก และผลิตภัณฑ์สำหรับลูกน้อยที่ดีที่สุดทั้งจากประเทศญี่ปุ่น, เกาหลี และ สหรัฐอเมริกาอย่าง #APRICA #AILEBEBE #PRINCEANDPRINCESS #REALKIDS และอีกมากมาย และในงานยังเปิดตัวสินค้านวัตกรรม 3 รุ่นใหม่ได้แก่ รถเข็นเด็กพับเล็ก #Aprica #NanoSmart, คาร์ซีท #Ailebebe #Kurutto4Grance และ #Ecowell เครื่องผลิตสเปรย์ฆ่าเชื้ออเนกประสงค์ #BabyGift #CentralWorld #BabyBestItems #BabyProducts BabyGift สาขา Central World ชั้น 2 โซนลานไอซ์สเก็ตเปิดบริการ 10.00 – 22.00 น. ทุกวันโทร. 095-851-8521LINE ID : bbg_ctw

คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ ท่าน คงเริ่มรู้จักกับคาร์ซีทกันบ้างแล้ว ว่าเป็นอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยสำหรับลูกน้อยในขณะเดินทาง แต่รู้หรือไม่ว่า คาร์ซีทที่ติดตั้งในรถยนต์แต่ละประเภทนั้น จะต้องติดตั้งตำแหน่งที่แตกต่างกัน เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อย บทความนี้จะพาคุณพ่อคุณแม่ไปหาคำตอบกันว่า วิธีติดตั้งคาร์ซีท ตำแหน่งไหนปลอดภัยมากที่สุด วิธีติดตั้งคาร์ซีท มีอยู่ด้วยกัน 2 วิธี  ตำแหน่งที่ควรติดตั้งคาร์ซีทมากที่สุด สำหรับประเทศไทย ตำแหน่งในรถยนต์ที่ควรติดตั้งคาร์ซีทมากที่สุดก็คือ “เบาะหลังฝั่งคนนั่ง” ด้วยเหตุผลดังนี้…  รถยนต์ SUV หรือ รถตู้ ติดตั้งคาร์ซีทเบาะไหนดี  ติดตั้งคาร์ซีทที่รถตู้ ส่วนใหญ่แล้วรถที่มีนั่งมากกว่า 2 ตอน ควรจะติดตั้งคาร์ซีทที่เบาะแถวสุดท้ายของตัวรถ แต่ก็จะมีข้อควรระวังในเรื่องของการติดตั้ง เช่น ควรจะขยับเบาะให้ห่างจากประตูหลัง เพื่อให้มีระยะห่างกับประตูพอสมควร เพื่อเป็นการเซฟตี้ลูกน้อยให้ปลอดภัยมากที่สุด  Alphard ติดตั้งคาร์ซีทได้ไหม ติดตั้งเบาะไหนดี  ติดตั้งคาร์ซีทที่รถ Toyota Alphard ควรจะติดตั้งที่เบาะแถวแรก หรือ แถวตอนสุดท้ายของตัวรถ ไม่ควรติดตั้งที่เบาะด้านหน้า เนื่องจากมีถุงลมนิรภัย (Airbag) และคาร์ซีทบางรุ่นอาจมีขนาดใหญ่ ทำให้ทัศนวิสัยในการมองของคนขับลดน้อยลง และสำหรับคาร์ซีทที่มีฟังก์ชั่นหมุนได้ เมื่อติดตั้งไปแล้วจะทำให้หมุนยากหรือหมุนไม่ได้เลย เนื่องจากเบาะรถมีขนาดพอดีตัว พื้นที่จำกัด ทำให้เวลาหมุนแล้วตัวคาร์ซีทจะไปติดที่ข้างเบาะ […]

การเลือกซื้อรถเข็นคันแรกให้ลูกน้อย อาจจะเป็นปัญหาชวนปวดหัวสำหรับคุณพ่อคุณแม่ เพราะปัจจุบันรถเข็นเด็กมีหลากหลายรูปแบบให้เลือกเยอะมากมาย จนหลายคนตัดสินใจไม่ถูก ว่าจะเลือกรถเข็นเด็กยี่ห้อไหนดี ? ต้องดูที่อะไรบ้าง ให้เหมาะกับลูกน้อยในวัยแรกเกิด และตรงตามไลฟ์สไตล์คุณพ่อคุณแม่ วันนี้ Baby Gift มีคำตอบ . . . “ เพราะ รถเข็นเด็ก ทุกคันไม่ได้เหมาะกับเด็กแรกเกิดทุกคัน ” หลายคนยังเข้าใจผิดว่า รถเข็นเด็ก แต่ละคัน ดูๆแล้วก็คล้ายๆกัน น่าจะใช้เหมือนๆ กันแต่ในความเป็นจริง แล้วเด็กแรกเกิดมีความบอบบางและต้องการการดูแลเป็นพิเศษ รถเข็นเด็กสำหรับเด็กแรกเกิดจึงต้องมีคุณสมบัติเฉพาะที่นอกจากจะช่วยปกป้องสรีระของลูกน้อย  แล้วยังช่วยเสริมพัฒนาการรอบด้าน สร้างสุขอนามัยที่ดี และสร้างรอยยิ้มแห่งความสุขให้ทั้งคุณแม่และลูกน้อยได้อีกด้วย เลือกรถเข็นเด็ก ให้เหมาะกับช่วงวัยแรกเกิด นอกจากคาร์ซีทแล้ว รถเข็นเด็ก ก็เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ต้องคำนึงถึงเรื่องของอายุเด็กเป็นสำคัญ เพราะรถเข็นเด็กทุกคันไม่ได้เหมาะกับเด็กทุกคนโดยเฉพาะเด็กในช่วงวัยแรกเกิด หรือเด็กทารกที่ต้องการการดูแลใส่ใจมากเป็นพิเศษ เราจึงควรเลือกรถเข็นเด็กที่มีคุณสมบัติต่อไปนี้ จะช่วยให้เด็กนอนหลับในรถเข็นเด็กได้อย่างสบายและมีสุขภาพดี 1. มีชุดหมอน Newborn Support ที่บริเวณคอและสะโพก เด็กแรกเกิดช่วงคอและกระดูกสันหลังยังไม่แข็งแรง และต้องการได้รับการปกป้องเป็นพิเศษ การมีชุดหมอน Newborn Support เสริมบริเวณคอและสะโพก จะช่วยประคองให้ศีรษะและหลังยืดเป็นเส้นตรง ให้ลูกนั่งรถเข็นได้อย่างปลอดภัย ไม่ทำให้ลูกคอพับโงนเงน หรือเอนไปมา และยังช่วยให้ลูกน้อยหายใจได้สะดวก เติมออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงสมองในขณะหลับได้อย่างเต็มที่ 2. เลือกเบาะรถเข็นที่ปรับนอนได้ […]

แข็งแรง ทนทาน พับ-กางง่าย ลูกน้อยนอนสบาย นี่แหละคุณสมบัติรถเข็นเด็กที่แม่ๆต้องการ 1. รถเข็นเด็กที่แข็งแรง ทนทาน ต้องไม่มีรอยต่อหรือพับเล็กมากเกินไป โครงสร้างควรเชื่อมเป็นชิ้นเดียวกัน เพราะเมื่อผ่านการใช้งาน มักมีการขยับของข้อต่อ เป็นสาเหตุให้โครงสร้างไม่แข็งแรงและเกิดการสั่นสะเทือนเมื่อเข็นในที่ขรุขระ รถเข็นเด็กที่ดีควรมีการเชื่อมต่อส่วนที่สำคัญเป็นชิ้นเดียว จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงแม้ผ่านการใช้งานที่ยาวนาน 2. พับ-กางง่าย ด้วยมือเดียว เพราะต้องพาลูกเดินทางคนเดียวบ่อยๆ แน่นอนว่าแม่ๆ ที่ต้องเลี้ยงลูกเองไปไหนมาไหนกับลูกลำพัง เช่น ไปเดินห้าง เดินสวนสาธารณะ ต้องเลือกรถเข็นเด็กที่ให้ความคล่องตัว ใช้งานง่าย พับกางง่าย ไม่ซับซ้อน คุณแม่สามารถพับรถเข็นเด็กได้เองด้วยมือเพียงข้างเดียวได้ เพราะมืออีกข้างหนึ่งต้องอุ้มลูก พับแล้วตั้งกับพื้นได้โดยไม่ล้มกองบนพื้น จะช่วยให้คุณสามารถลากไปมาสะดวกและยังปลอดจากสิ่งสกปรกบนพื้นที่อาจเป็นอันตรายต่อลูกน้อยได้ 3. ชุด Support สำหรับเด็กแรกเกิด ชุดเบาะรองนอนสำหรับเด็กทารกเป็นสิ่งจำเป็นมาก รถเข็นเด็กแรกเกิด ควรมีหมอนรองรับสรีระเด็กทั้งศีรษะ คอ และหลัง เพราะเด็กทารกจะมีกระดูกสันหลังและคอที่ยังไม่แข็งแรง จึงต้องนอนบนเบาะที่ช่วยรองรับสรีระตั้งแต่ศีรษะ ต้นคอ หลัง และสะโพกเพื่อให้ท่านทนที่ถูกต้องหลังไม่โค้งงอผิดรูป และไม่เกิดการปิดกั้นทางเดินทางหายใจ Aprica รถเข็นเด็ก สำหรับวัยแรกเกิดอย่างแท้จริงๆ คิดค้นและวิจัยโดยกุมารแพทย์ จากประเทศญี่ปุ่น

เคล็ดลับการฝึกลูกนั่งคาร์ซีท car seat จากประสบการณ์จริงคุณแม่ลูกสอง โดย แม่ป่าน เพจ เลี้ยงลูกอย่างมีความสุข by mommy Arpan 1. ฝึกเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ : ถ้าเป็นไปได้จัดเตรียมคาร์ซีท car seat ไว้ก่อนคลอด และให้ลูกนั่งตั้งแต่วันแรกที่ออกจากโรงพยาบาล จะช่วยสร้างความคุ้นเคยให้กับทั้งตัวลูกและพ่อแม่ 2. ต่อเนื่อง และสม่ำเสมอจนกลายเป็น routine (กิจวัตร) : ไม่ว่าจะไปไหน ใกล้หรือไกลต้องให้เด็กนั่ง car seat ทุกครั้ง เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ ปฏิบัติจนคุ้นชิน และทุกอย่างจะง่ายขึ้นเองค่ะ 3. ปรับทัศนคติให้ตรงกัน (ปัญหาหลักที่หลายบ้านพบเจอ) : โดยเฉพาะผู้ใหญ่ในบ้านที่อาจจะยังไม่เข้าใจ หรือยังมองไม่เห็นความสำคัญ ลองนั่งพูดคุยบอกเล่าเหตุการณ์ๆต่างๆในข่าว ที่เวลาเกิดอุบัติเหตุและเด็กที่นั่ง car seat รอดชีวิต เปรียบเทียบกับเด็กที่ไม่ได้นั่งและเกิดความสูญเสียร้ายแรงตามมา และลองคุยปรับความเข้าใจกับท่านดู เชื่อว่าถ้าท่านรักและห่วงหลานๆเป็นทุน ยังไงวันหนึ่งท่านจะเข้าใจค่ะ อีกวิธีหนึ่งที่แนะนำคือลองหาวิดิโอใน Youtube สาธิตแรงกระแทกที่เกิดขณะรถชน (จะมีสาธิตเปรียบเทียบระหว่างมีคนอุ้มเด็ก กับเด็กนั่งคาร์ซีท ….หวังว่าภาพที่เห็นจะสามารถเปลี่ยนใจของบรรดาผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านได้นะคะ […]

เลือกรถเข็นเด็กไปเมืองนอก พับเล็กอย่างเดียวไม่พอ เอาที่ลูกนั่งสบายด้วยนะคะ เพราะรถเข็นเด็กคือที่พักผ่อนของเด็กๆ คุณสมบัติที่สำคัญและจำเป็นจริงๆ คือ แนะนำคุณพ่อคุณแม่ที่เลือกรถเข็นเด็กไปเมืองนอก แนะนำรถเข็นเด็ก Aprica Magical Air แบบน้องอลิน-อลัน คันนี้แม่โอปปลื้มมาก จนต้องบอกต่อใน IG พิสูจน์แล้วโดยคุณแม่เซเลปคนดัง มั่นใจในผลิตภัณฑ์เด็ก Aprica #แท็กสามี #แท็กเพื่อน แล้วจัดทริปเลยค่ะ Aprica รถเข็นเด็ก สำหรับวัยแรกเกิดอย่างแท้จริงๆ คิดค้นและวิจัยโดยกุมารแพทย์ จากประเทศญี่ปุ่น

trang ca cuoc bong da
Menu
All Categories
All Brands
All Ages
Promotions
Locations
BabyGift Family
BabyGift Care
Parents Guide
News & Event

All Categories

All Categories
All Brands
All Ages