4 พิกัดสวนสัตว์ พาลูกเที่ยว วันหยุด

วันหยุดนี้ พาลูกเที่ยว ที่ไหนดี ?
คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหาสถานที่ พาลูกเที่ยว วันหยุดนี้ห้ามพลาด กับ 4 พิกัดสวนสัตว์ ในเมืองไทย ซึ่งแต่ละที่มีไฮไลต์เด็ดๆที่แตกต่างกัน มีทั้งสัตว์ท้องถิ่นในเมืองไทย สัตว์หายาก และสัตว์จากทวีปอื่นๆ ทั่วทุกมุมโลก วันหยุดนี้ พาลูกเที่ยว เลือกเช็คอินได้เลย !! รับรองถูกใจเจ้าตัวเล็ก แถมคุณพ่อคุณแม่ยังได้ย้อนวัยกลับไปเป็นเด็กอีกครั้งแน่นอน ถ้าพร้อมแล้ว ตามมาดูกันเลย !!

สวนสัตว์เปิดเขาเขียว ชลบุรี
ค่าบัตรผ่านประตู :
ผู้ใหญ่ : 150 บาท
เด็ก สูงไม่เกิน 135 ซม : 30 บาท
ผู้ใหญ่ ชาวต่างชาติ : 250 บาท
เด็ก ชาวต่างชาติ : 100 บาท
ข้าราชการ นักเรียน นักศึกษา : 70 บาท
ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป คนพิการ : ฟรี
เวลาทำการ : 8:00-18:00 น.
ติดต่อ : โทร. 038-318-444
ที่อยู่ : 235 ม.7 ต.บางพระ อ.ศรีราชา ชลบุรี 20110
คุณพ่อคุณแม่ท่านไหนมีรถส่วนตัว สามารถจอดซื้อบัตรบริเวณทางเข้า และขับรถเข้าชมภายในสวนสัตว์ได้เลย หรือจะเลือกใช้บริการรถรางชมรอบสวนสัตว์ได้ฟรี!! โดยบนรถจะมีเจ้าหน้าที่คอยบรรยายเกี่ยวกับสัตว์ต่างๆที่ขับรถผ่านอีกด้วย บรรยากาศด้านในสวนสัตว์เปิดเขาเขียว จะเต็มไปด้วยสัตว์นานาพันธุ์ ท่ามกลางธรรมชาติร่มรื่น แบ่งออกเป็นโซนต่างๆ พร้อมมีการแสดงโชว์สัตว์น่ารักๆให้เลือกชมอย่างเพลิดเพลินอย่าง ช้างว่ายน้ำ พาเหรดเพนกวิน รับรองงานนี้สนุกถูกใจเด็กๆอย่างแน่นอน

ซาฟารีเวิลด์ กรุงเทพฯ
ค่าบัตรผ่านประตู :
ผู้ใหญ่ : 580 บาท
เด็ก : 480 บาท
เด็ก (สูงไม่เกิน 100 ซม) : ฟรี
บัตรรายปีราคาปกติ : 2,800 บาท
(บางช่วงมีโปรโมชั่นพิเศษ)
เวลาทำการ : 9:00-17:00 น.
ติดต่อ : โทร. 02-518-1000
ที่อยู่ : 99 ถนน ปัญญาอินทรา แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ 10510
สุดยอดสวนสัตว์อีกแห่งของเมืองไทย ที่จะพาเจ้าหนูท่องโลกกับสัตว์ป่านานาชนิดและการแสดงสัตว์แสนรู้น่ารักๆมากมาย ที่เต็มไปด้วยความบันเทิงหลากหลาย และพลาดไม่ได้กับไฮไลต์ที่เด็ดที่สุดในโซนซาฟารีที่มีสัตว์ป่ามากมายจากแอฟริกา แค่นี้ก็เหมือนได้ใช้วันหยุดไปท่องเที่ยวเจอสัตว์ในแอฟริกาแบบคูลสุดๆ หรือโซน Jungle Cruise ที่จำลองบรรยากาศลุ่มน้ำอะเมซอน แถมยังเต็มไปด้วยการแสดงโชว์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นโชว์ลิงชกมวย โชว์ลิงอุรุงอุตัง โชว์โลมา หรือจะเป็นโชว์สตันท์แมน รอดูดีๆบางช่วงบัตรรายปียังมีโปรโมชั่นพิเศษอีกด้วย เรียกได้ว่า ซื้อครั้งเดียวเข้าได้ไม่อั้นทั้งปี คุ้มยิ่งกว่าคุ้มแบบนี้พลาดไม่ได้แล้ว

สวนสัตว์เชียงใหม่
ค่าบัตรผ่านประตู :
ผู้ใหญ่ : 100 บาท
เด็ก : 20 บาท
ค่าบัตรเข้าชมอควาเรียม :
ผู้ใหญ่ : 250 บาท
เด็ก : 190 บาท
เวลาทำการ : 8:00-17:00 น.
ติดต่อ : โทร. 053-221-179
ที่อยู่ : 100 ถ. ห้วยแก้ว ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่ 50200
สวนสัตว์คู่เมืองเชียงใหม่ ที่โด่งดังจากการยืมตัว ช่วงช่วง และหลินฮุ่ย คู่รักแพนด้าจากประเทศจีนมาจัดแสดง ปัจจุบันมีการเสริมส่วนกิจกรรมอื่นๆ เช่น อควาเรียม และสโนว์โดม ที่พลาดไม่ได้คือ การเข้าชมความน่ารักของแพนด้า และชมความสวยงามของโลกใต้ท้องทะเลที่อควาเรียมที่มีอุโมงค์ใต้น้ำที่ยาวที่สุดในโลกกว่า 133 เมตร พร้อมปลา 250 สายพันธุ์ กว่า 10,000 ตัว

สวนเสือศรีราชา ชลบุรี
ค่าบัตรผ่านประตู :
ผู้ใหญ่ : 200 บาท
เด็ก (สูงไม่เกิน 140 ซม) : 100 บาท
เด็ก (สูงไม่เกิน 100 ซม) : ฟรี
ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป (แสดงบัตร) : ฟรี
เวลาทำการ : จันทร์-อาทิตย์ (8:00-17:30 น.)
ติดต่อ : โทร. 038-296-556
ที่อยู่ : 341 หมู่ที่ 3 อำเภอศรีราชา ชลบุรี 20230
แหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม และเป็นที่ยอมรับว่าเป็นสวนสัตว์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ในบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติ มีกิจกรรมที่คุณพ่อคุณแม่และเด็กๆ สามารถเลือกชม เลือกสัมผัสได้อย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็น ตกจระเข้ ป้อนนมลูกเสือ ยิงอาหารให้เสือ ถ่ายรูปกับเสือ ป้อนนมปลาคราฟ ตกปลาช่อน สนามลูกเสือ แถมยังมีการแสดงอีกมากมายเรียกได้ว่า ซื้อบัตรครั้งเดียวชมได้ทุกการแสดงกันเลยทีเดียว ด้านในยังมีภัตตาคารชื่อดังให้บริการอาหารไทย จีน ยุโรป และอินเดีย ครบรสขนาดนี้คุณพ่อคุณแม่ต้องพาลูกน้อยแวะเช็คอินกันแล้วค่ะ
เป็นยังไงกันบ้างคะ? กับพิกัดสวนสัตว์ ที่จะพาเจ้าหนูเพลิดเพลินไปกับการท่องโลกของสัตว์นานาชนิด พร้อมทั้งช่วยเสริมสร้างจินตนาการให้เด็กๆ คุณพ่อคุณแม่ปลื้มที่ไหน อย่าลืมเตรียมความพร้อมเรื่องความปลอดภัยในการเดินทางอย่างคาร์ซีท หรือเตรียมตัวช่วยดีๆอย่างรถเข็นเด็กที่สามารถพับพกพาได้ ช่วยให้การเที่ยวของลูกน้อยเป็นเรื่องสนุก สะดวกสบายมากขึ้น หากคุณพ่อคุณแม่พร้อมแล้ว จัดกระเป๋าพาน้องๆหนูๆไปเที่ยวถ่ายรูปเช็คอินกันเลย
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
คุณแม่รู้ไหม? ในช่วงตั้งครรภ์นอกเหนือจากบทบาทว่าที่คุณแม่แล้ว ยังเป็นโอกาสดีที่คุณแม่จะได้สวมบทบาทสนุกๆ อีก 10 อย่างเพื่อการตั้งครรภ์อย่างมีคุณภาพและมีความสุข 1.นักออกกำลังกาย : สุขภาพ ที่แข็งแรงเป็นสิ่งสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ ซึ่งการออกกำลังกายอย่างปลอดภัยสามารถทำได้ตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 2 โดยต้องเป็นกีฬา หรือกิจกรรมที่ไม่ใช้แรงหรือมีการกระแทก เช่น การว่ายน้ำ เดิน เต้นแอโรบิกเบาๆ บริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ขี่จักรยาน อยู่กับที่ ควรหาโอกาสออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพื่อให้กล้ามเนื้อแข็งแรงและไม่อ่อนแรงง่าย 2. นักสำรวจ : หมั่นสำรวจ และ สังเกตการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงภายนอก อย่างผิวพรรณ เส้นผม เล็บ เพื่อบำรุงอย่างถูกวิธี รวมถึงการเปลี่ยนแปลงภายใน อาการหรือความผิดปกติต่างๆ การดิ้น ของลูก โรคประจำตัว จดบันทึกการเปลี่ยนแปลง เพื่อจะได้นำไปถามคุณหมอเมื่อนัดตรวจครรภ์ หรือถ้ามีความผิดปกติที่ร้ายแรงจะได้รักษาได้ทันค่ะ 3. นักโภชนาการ : การพิถี พิถันเรื่องอาหารการกินเป็นเรื่องที่ทราบกันดี อยู่แล้ว ซึ่งการกินอาหารครบ 5หมู่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับคุณแม่และช่วยเสริมสร้างความสมบูรณ์ของร่าง กายให้กับลูกในท้อง รวมถึงต้องกินอาหารที่ปรุงเสร็จใหม่ๆ หลีกเลี่ยงอาหารค้างคืนหรืออาหารสำเร็จรูปเพราะคุณค่าทางอาหารจะลดลง หากอยากกินน้ำอัดลม ชา กาแฟ หรือขนมต่างๆ ก็สามารถกินได้ให้พอหายอยาก ไม่ควรกินมากเกินไปเพราะจะทำให้อ้วนและยังมีสารต่างๆ จากส่วนผสมที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ร่างกายค่ะ 4. นักกิจกรรม : วันว่างอย่าลืม ผ่อนคลายด้วยกิจกรรมต่างๆ เช่น การรดน้ำต้นไม้อยู่ที่บ้าน ไปเดินผ่อนคลายเปิดหูเปิดตานอกบ้าน ฟังการเสวนาหรือเข้าอบรมเกี่ยวกับการตั้งครรภ์จะช่วยให้ได้รับความรู้และพัก ผ่อนในวันหยุด 5. […]
อายุครรภ์คืออะไรกันนะ? เมื่อตั้งท้อง สิ่งหนึ่งที่เป็นคำถามยอดฮิตเลยก็คือ “ท้องกี่เดือน” หรือ “คลอดเมื่อไหร่” การที่เราจะตอบคำถามพวกนี้ได้นั้นเราจะต้องทราบอายุครรภ์ของเราก่อนค่ะ พูดง่าย ๆ อายุครรภ์ก็คือระยะเวลาที่ลูกของเราได้อยู่ในท้องของเรามา แต่ถ้าหากจะพูดให้ดูมีหลักการหน่อยแล้ว อายุครรภ์ก็คือระยะเวลาที่นับตั้งแต่วันแรกของรอบเดือนล่าสุดของเรามาจนถึงปัจจุบัน โดยทั่วไปแล้วนั้น อายุครรภ์ที่นับจนถึงกำหนดคลอดควรจะเท่ากับ 40 สัปดาห์โดยประมาณค่ะ เราจะรู้อายุครรภ์ของเราได้อย่างไร? 1. การตรวจภายในโดยวัดขนาดของมดลูก ฟังดูน่ากลัวนิดนึงใช่มั้ยคะ วิธีนี้สามารถกะอายุครรภ์โดยประมาณของคุณแม่ได้ แต่ก็ไม่ได้แม่นยำเท่าไหร่หรอกนะ เพราะว่าเด็กแต่ละคนตัวใหญ่เล็กไม่เท่ากัน อาจมีคลาดเคลื่อนบ้าง 2. การอัลตราซาวด์ วิธีการตรวจแบบนี้จะตรวจได้เมื่อตอนอายุครรภ์สัก 5-6 สัปดาห์ขึ้นไป ส่วนถ้าอยากได้ผลแม่น ๆ หน่อยก็อาจจะมาตรวจช่วง 8-18 สัปดาห์ก็ได้นะ สำหรับวิธีนี้คุณหมอก็จะใช้วิธีการวัดขนาดของมดลูกเช่นกัน แต่จะเป็นการวัดผ่านการทำอัลตราซาวด์ แม้จะไม่ได้ตรงเป๊ะแบบ 100% แต่ก็ไม่คลาดเคลื่อนมากค่ะ 3. การนับรอบเดือน การนับรอบเดือนจะสามารถใช้ได้กับคุณแม่ที่มีรอบเดือนแบบมาสม่ำเสมอ ตรงกันทุกเดือน สามารถนับได้โดยการนับจากวันแรกของการมีประจำเดือนครั้งล่าสุด ให้ถือว่าวันนั้นเป็นวันแรกของการตั้งครรภ์ค่ะ วันนี้คุณแม่ไปพบคุณหมอครั้งแรก คุณหมอจะประเมินวันคลอดคร่าว ๆ ด้วยการนับรอบเดือนแบบนี้แหละ เพราะงั้นทางที่ดี เราควรจะจดรอบเดือนของเราทุกเดือนนะ เราทราบอายุครรภ์กันเพื่ออะไร? การทราบอายุครรภ์นั้นมีประโยชน์แน่นอนค่ะ อย่างแรกคือเราก็จะทราบได้ว่าเราจะคลอดเมื่อไหร่หรือประมาณช่วงไหน จะได้เตรียมตัวได้ถูก […]
หลังจากที่ได้เห็นข่าวที่เกี่ยวกับลูกน้อย วัยกำลังเริ่มแสบซน เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนเกี่ยวกับรถที่ผู้ปกครองขับ ไม่ว่าเค้าจะชนเรา หรือเราจะชนอะไรก็ตาม มีความเสี่ยงไปหมดดดดดด คาร์ซีท หรือเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็ก เป็นวิธีที่ดีที่สุดเพื่อความปลอดภัยในการเดินทางของเด็ก โดยเฉพาะเด็กเล็กและทารก เพราะคาร์ซีทช่วยลดความเสี่ยงการเสียชีวิตและการบาดเจ็บร้ายแรงอื่น ๆ จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้ ความเสี่ยงในที่นี้ คือ เจ้าตัวน้อยของเราสามารถกระเด็น พุ่งหลุดออกจากอ้อมอกอ้อมกอดเราได้ทุกเมื่อ เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ทุกเวลา ต่อให้ระวังแค่ไหนก็เกิดขึ้นได้ หากเด็กไม่ได้อยู่ในระบบยึดเหนี่ยวภายในรถอย่างเหมาะสมและเหตุนี้หลากหลายประเทศถึงมีกฎหมายออกมาเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ที่เดินทางโดยใช้รถ จำเป็นต้องติดตั้งคาร์ซีท ก่อนจะได้ออกจากโรงพยาบาล อ้อมกอดของคุณจะปลอดภัยไปทุกครั้ง เพราะเด็กน้อย จำเป็นต้องมีคาร์ซีท การเลือกคาร์ซีทให้ลูกน้อย มีมาฝากเพียง 5 ข้อ คือ 1. มาตรฐานความปลอดภัย2. เข็มขัดนิรภัย 5 จุด3. ความใหม่ของผลิตภัณฑ์4. ราคา5. ความเหมาะสมกับรถยนต์ อย่างไรก็ตาม ความสำคัญของคาร์ซีทก็มีมากมาย หากไปดูหลายๆ เคสหรือหลายๆ ข่าว ก็จะมีให้เราผู้เป็นพ่อเป็นแม่เห็น ครั้งต่อไปจะมาเล่าเรื่องฝึกการนั่งคาร์ซีทให้กับลูกน้อยให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ได้ลองศึกษาดูนะคะ ขอขอบคุณบทความจาก : monkeykids
จากเหตุการณ์ครั้งนี้ คุณนานาอยากฝากไปถึงคุณพ่อคุณแม่ทุกท่าน ให้ตระหนักถึงความสำคัญของการใช้คาร์ซีท ในทุกครั้งที่เดินทาง ไม่ว่าใกล้หรือไกล ก็ต้องให้ลูกนั่งคาร์ซีทเสมอ เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ขอปรบมือให้กับคุณนานาและคุณเวย์ ที่เป็นครอบครัวตัวอย่าง ฝึกให้น้องบีน่าและน้องบรู๊คลีน มีวินัยในการนั่งคาร์ซีททุกครั้งที่อยู่บนรถ คาร์ซีท หรือเบาะนั่งนิรภัยในรถยนต์สำหรับเด็ก ช่วยลดโอกาสการบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้ การใช้ คาร์ซีท จะช่วยรองรับศีรษะ คอ กระดูกสันหลัง ที่ยังไม่แข็งแรงของเด็กเล็ก ช่วยไม่ให้สมองและไขสันหลังถูกทำลายจากการกระแทกในขณะเกิดอุบัติเหตุ และสิ่งสำคัญควรติดตั้งคาร์ซีทอย่างถูกต้อง ให้ลูกคาดเข็มขัดนิรภัยที่ตัวคาร์ซีทด้วยทุกครั้ง และปรับสายให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง ไม่ให้ลูกอึดอัดและไม่หลวมเกินไป เพราะถ้าหลวมเกินไป เมื่อเกิดอุบัติเหตุที่ร้ายแรงและไม่คาดฝัน ก็อาจทำให้เด็กหลุดออกจากคาร์ซีท และหลุดออกนอกตัวรถไปจนเป้นอันตรายถึงชีวิต ครอบครัวตัวอย่างเดินทางอย่างปลอดภัย คุณพ่อคุณแม่คาดเบลล์ ลูกๆนั่งคาร์ซีท ว้าว เยี่ยมไปเลย !!! น้องบีน่าและน้องบรู๊คลิน เดินทางอย่างปลอดภัยและหลับสบ๊ายสบายด้วยค่ะ
1.เลือกจากประเภทการใช้งานให้เหมาะสมกับสรีระและน้ำหนักของเด็กค่ะโดยทั่วไปรถเข็นจะแบ่งออกเป็นสองประเภทคือ 2. วัสดุโครงสร้างของรถเข็นเด็กต้องแข็งแรงและที่สำคัญน้ำหนักต้องเบาเพราะว่าบางครั้งคุณแม่อาจจะต้องเดินทางโดยลำพังกับลูกน้อย นอกจากนี้เบาะที่สัมผัสของตัวน้องควรทำจากวัสดุที่นุ่มสบายเพื่อให้เด็กนั่งได้นาน อีกทั้งยังต้องมีคุณสมบัติในการระบายความร้อนที่ดีเนื่องจากอากาศที่เมืองไทยค่อนข้างร้อนและระบบปรับอุณหภูมิในเด็กเล็กนั้นยังทำงานได้ไม่ดีนักทำให้เด็กจะร้อนและเหงื่อออกได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่ 3. ล้อต้องเป็นล้อที่สามารถหมุนได้สะดวกและแข็งแรง เพราะจะทำให้การเคลื่อนตัวของรถเข็นคล่องตัวขึ้นแม้ว่าคุณแม่จะต้องเข็นรถในที่ที่แคบ 4. โครงสร้างของผลิตภัณฑ์ต้องออกแบบมาเพื่อรักษาให้ขาและข้อต่อสะโพกอยู่ในรูปทรงตามธรรมชาติโดยประคองขาและข้อต่อสะโพกในอยู่ในรูปทรงตัว“M” ซึ่งเป็นท่าที่จะทำให้ขาและสะโพกของลูกน้อยมั่นคงที่สุดรวมทั้งจะส่งเสริมการเจริญเติบโตของกระดูกทั้งสองส่วนให้เป็นไปตามธรรมชาติที่ดีที่สุด 5. มีหลังคาที่สามารถปกป้องลูกน้อยจากแสงแดดและรังสียูวีเพราะผิวหนังของเด็กนั้นยังบอบบางโดยที่บังแดดควรจะปรับได้ตามทิศทางของแสงแดดที่ปรับเปลี่ยนตามช่วงเวลาในแต่ละวัน นอกจากนี้ที่บังแดดยังช่วยบังลมให้ลูกน้อยได้อีกด้วย 6. โครงสร้างของรถเข็นเด็ก ต้องออกแบบมาเพื่อปกป้องระบบการหายใจในกรณีที่เด็กอาจจะเผลอหลับบนรถเข็น โดยมีเบาะที่จะทำให้ศีรษะเด็กไม่เคลื่อนที่และป้องกันการบิดของลำคอจึงช่วยป้องกันภาวะหยุดหายใจขณะหลับเนื่องจากทางเดินหายใจอุดกั้น 7. ข้อสำคัญอีกประการก็คือหากคุณใช้รถเข็นเด็กแรกเกิด ควรจะเลือกประเภทที่สามารถหันที่นั่งรถเอาหาตัวคุณแม่ได้ เนื่องจากเด็กเล็กต้องการความเอาใจใส่จากแม่เป็นพิเศษ เมื่อน้องออกไปข้างนอกเขาต้องการจะมองเห็นคุณแม่เพื่อความอุ่นใจค่ะ แต่ถ้าเป็นเด็กโตแล้ว เด็กจะให้ความสนใจกับสิ่งรอบตัวซึ่งในวัยนี้คุณแม่อาจจะปรับที่นั่งรถเข็นให้มองออกไปข้างนอกได้ค่ะ หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้จากผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษาและคำแนะนำอย่างถูกต้อง