ถุงเก็บน้ำนม อลูมิเนียมฟอยล์ คืออะไร ต่างจากพลาสติกอย่างไรบ้าง ?

สำหรับคนที่ชอบการเข้าครัว ทำอาหาร ถนอมอาหาร คงรู้จัก อลูมิเนียมฟอยล์ (Aluminium foil) กันอย่างแน่นอน เพราะเป็นอุปกรณ์ในการถนอมอาหารและใช้ในการนำความร้อนปรุงอาหาร ปัจจุบันได้มีนวัตกรรมใหม่ ๆ นำอลูมิเนียมฟอยล์ไปแปรรูปเป็น ถุงเก็บน้ำนม อลูมิเนียมฟอยล์ เพื่อช่วยในการเก็บรักษาน้ำนมแม่ ไม่ให้มีกลิ่นเหม็นหืน และยังช่วยให้อุ่นนมได้รวดเร็วขึ้น ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจมาก ๆ เราจึงได้หาข้อมูลคุณสมบัติทั้งข้อดีและข้อเสียมาบอกกัน จะน่าใช้หรือไม่ ตอบโจทย์คุณแม่นักปั๊มแค่ไหน ไปดูกันเลย

ถุงเก็บน้ำนม อลูมิเนียมฟอยล์ คืออะไร ?
คือ การใช้แผ่นอลูมิเนียมฟอยล์ เป็นวัสดุหลักในการผลิตถุงเก็บน้ำนม แทนการใช้พลาสติก โดยการขึ้นรูปถุงนมด้วยอลูมิเนียมฟอยล์ ผ่านการเคลือบด้วย Polyethylene, Polyamide และ Polyester รวม 4 ชั้น ให้ถุงเก็บน้ำนมแข็งแรงทนทานกว่าถุงเก็บน้ำนมพลาสติกใสทั่วไป รวมถึงอลูมิเนียมฟอยล์จะมีคุณสมบัติทึบแสง 100% เพื่อรักษาคุณภาพของน้ำนมแม่ให้คงรสชาติ กลิ่นไม่เหม็นหืน แบบเดียวกันกับการห่ออาหาร ถนอมอาหารในครัวเรือน

ทดลองอุ่นนมแม่แช่แข็ง ด้วยเครื่องอุ่นนม Baby Bottle Warmer
ถุงเก็บน้ำนม อลูมิเนียมฟอยล์ VS ถุงเก็บน้ำนมพลาสติก

ถุงเก็บน้ำนมอลูมิเนียมฟอยล์
- วางนมแม่แช่เเข็งลงในเครื่องอุ่นนม
- เลือกโหมดอุ่นนม (Warm) ตั้งอุณหภูมิของเครื่องไว้ที่ 37°C
- ใช้เวลาในการอุ่นนม 20 นาที ลูกน้อยพร้อมทานได้เลย
*อลูมิเนียมฟอยล์นำความร้อนได้ดี จะไม่ต้องใช้โหมดละลายน้ำแข็ง (Defrost) เพราะจะทำให้อุณหภูมิของน้ำนมสูงเกินไป*

ถุงเก็บน้ำนมพลาสติก
- วางนมแม่แช่เเข็งลงในเครื่องอุ่นนม
- เลือกโหมดละลายน้ำแข็ง (Defrost) ตั้งอุณหภูมิไว้ที่ 60 °C
*ความร้อน 60 °C เจอกับติดลบ 5-15 °C จะทำให้น้ำแข็งละลาย แต่ยังคงความเย็นอยู่*
- ให้เลือกโหมดอุ่นนม (Warm) ต่อ ตั้งอุณหภูมิของเครื่องไว้ที่ 37 °C ใช้เวลาในการอุ่น 45 นาที ก็จะได้น้ำนมให้ลูกน้อยทาน
สรุปผลการทดลองอุ่นนมแม่
ถุงเก็บเก็บน้ำนมอลูมิเนียมฟอยล์ อุ่นนมแม่ขั้นตอนเดียว ใช้เวลาเพียง 20 นาที ส่วนถุงเก็บน้ำนมพลาสติก อุ่นนมแม่หลายขั้นตอนมากว่า และใช้เวลาถึง 45 นาที ผลสรุปคือถุงเก็บน้ำนมอลูมิเนียมฟอยล์ อุ่นนมแม่แช่แข็งได้รวดเร็วกว่า ถุงเก็บน้ำนมแบบพลาสติกใส
การทดสอบการเปลี่ยนสีน้ำนมแม่ วัสดุอลูมิเนียมฟอยล์ VS วัสดุพลาสติกทั่วไป
จากการทดลองจะเห็นได้ว่า ถุงทึบแสง 100% จะเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นน้อย ลดการเปลี่ยนสีของน้ำนมแม่ได้ดี ส่วนถุงแบบพลาสติกใส จะเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นมากกว่า ทำให้สีของน้ำนมแม่เปลี่ยนค่อนข้างเยอะนั่นเอง

ถุงเก็บน้ำนม อลูมิเนียมฟอยล์ มีข้อดีอย่างไร
- ลดกลิ่นเหม็นหืน น้ำนมแม่สต็อก หากไม่เลือกถุงเก็บน้ำนมที่ใช้วัสดุลดการสัมผัสแสง ลดการสัมผัสอากาศ จะทำให้รสชาติและกลิ่นน้ำนมแม่เปลี่ยนไปได้ง่ายมาก การใช้อลูมิเนียมฟอยล์ จึงเป็นทางเลือกที่ดีในการเก็บรักษานมแม่
- เก็บความเย็นได้นานขึ้น เป็นคุณสมบัติของอลูมิเนียมฟอยล์อยู่แล้ว ที่เก็บความเย็นได้นานกว่าพลาสติก หากคุณแม่ปั๊มนมนอกบ้าน แล้วเก็บน้ำนมสต็อกใส่กระเป๋าเก็บความเย็น หรือ เจลเย็น การใช้ถุงนมอลูมิเนียมฟอยล์จะช่วยเก็บความเย็นได้นานขึ้นอีก ไม่ต้องห่วงเรื่องน้ำนมจะเสียไว
- อุ่นนมแม่ได้เร็วขึ้น เหมาะสำหรับคุณแม่ที่เวลาน้อย ด้วยคุณสมบัตินำความร้อนได้ดี จึงสามารถอุ่นนมแม่แช่แข็งได้เร็ว ใช้เวลาเพียง 20 นาที ต่างจากถุงนมแบบพลาสติกที่ใช้เวลาถึง 45 นาที
- ลดการเปลี่ยนสีน้ำนม ด้วยกระบวนการผลิตจากเทคโนโลยีการปิดกั้นออกซิเจน ลดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น จากผลการทดลอง ถุงนมอลูมิเนียมฟอยล์ลดการเปลี่ยนสีของน้ำนมได้ ต่างจากพลาสติกที่สีของน้ำนมเปลี่ยนไปมาก
- ถุงนมอลูมิเนียมฟอยล์แข็งแรง ด้วยการผลิตเสริมความแข็งแรงถึง 4 ชั้น Aluminium foil, Polyethylene, Polyamide และ Polyester ทำให้ไม่รั่วซึม ไม่แตกง่าย พร้อมทนอุณหภูมิได้ถึง -20 องศา สามารถแช่แข็งน้ำนมสต็อกได้นานโดยไม่ต้องกังวลว่าถุงนมเป็นน้ำแข็งแล้วปริแตก
ข้อเสียของถุงเก็บน้ำนมอลูมิเนียมฟอยล์
- ถุงแบบทึบแสง 100% ทำให้มองไม่เห็นน้ำนมในถุง สำหรับคุณแม่ที่กังวลเรื่องการรีดไล่อากาศ ไม่ว่าถุงทึบแสง หรือ ถุงพลาสติกแบบใส จะไล่อากาศแบบเดียวกัน แต่ทั้งสองแบบจะไม่สามารถไล่อากาศได้ 100% ส่วนใหญ่แล้ว จะเหลือฟองอากาศที่เป็นฟองเล็ก ๆ อยู่บ้าง ซึ่งไม่ส่งผลต่อน้ำนมแม่
- ไม่มีขีดระบุปริมาณน้ำนมต่อออนซ์ แต่จะระบุเป็นปริมาณ Max ที่ข้างถุงนม เช่น max 200 ml. สำหรับคุณแม่ที่กังวลเรื่องปริมาณน้ำนม สามารถดูขีดปริมาณที่ขวดนมของเครื่องปั๊มนมแทนได้ หรือถ้าปั๊มนมได้น้อย ไม่ถึงปริมาณ max แนะนำให้ใส่ขวดนมแช่เย็นแล้วอุ่นให้ลูกน้อยทานต่อวัน
- ถุงนมอลูมิเนียมฟอยล์นำความร้อนได้ดีมาก คุณแม่ที่ไม่มีเครื่องอุ่นนม Baby Bottle Warmer ที่ควบคุมอุณภูมิได้ที่ 37 องศา เวลาอุ่นนมอาจทำให้อุณหภูมินมสูงเกินไป กรณีนี้คุณแม่จึงจะต้องควบคุมเวลาด้วยตัวเอง หรือ ใช้เครื่องอุ่นนม เพื่อความสะดวกมากขึ้น

ถุงเก็บน้ำนม อลูมิเนียมฟอยล์ ใช้ดีไหม เหมาะกับใคร ?
- คุณแม่มือใหม่ มีเวลาน้อย ยังหยิบจับอะไรไม่ถูกในการดูแลลูกน้อย การเลือกใช้ถุงเก็บน้ำนมอลูมิเนียมฟอยล์ จะช่วยให้คุณแม่มีเวลามากขึ้น เพราะใช้เครื่องอุ่นนม กดโหมด Warm เพียง 20 นาที ลูกน้อยก็ได้ทานนมอย่างรวดเร็ว
- คุณแม่เวิคกิ้งวูแมน ที่ต้องไปทำงาน ยังปั๊มนมเก็บน้ำนมสต็อกให้ลูกน้อย แต่มีความกังวลเรื่องการรักษาความเย็น การใช้ถุงเก็บน้ำนมอลูมิเนียมฟอยล์คู่กับกระเป๋าเก็บความเย็น หรือ เจลเย็น จะช่วยให้เก็บความเย็นได้นานขึ้น ละลายช้ากว่าถุงนมพลาสติกทั่วไป
- คุณแม่ที่กังวลเรื่องสีน้ำนมจะเปลี่ยน การเลือกใช้ถุงเก็บน้ำนมอลูมิเนียมฟอยล์ จะช่วยป้องกันการเปลี่ยนสีของน้ำนมได้ เพราะผลิตด้วยเทคโนโลยีการปิดกั้นออกซิเจน ลดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น
มาถึงตรงนี้ คุณแม่หลายทานคงรู้จักถุงเก็บน้ำนมที่ทำจากอลูมิเนียมฟอยล์กันมากขึ้นแล้ว เป็นถุงนมที่น่าลองใช้ไม่น้อยกว่าถุงนมพลาสติกแบบเดิมเลย หากคุณสมบัติตอบโจทย์แล้ว อย่าลืมเลือกแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับ รวมถึงซื้อกับร้านขายสินค้าและแม่เด็กที่น่าเชื่อถือด้วยนะคะ
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
ได้เวลา “ป๋อมแป๋ม” กันแล้ว อีกหนึ่งช่วงเวลาแห่งความสุขของลูกน้อยที่จะได้ลงอ่างอาบน้ำให้สบายตัว ในช่วงเวลาสั้นๆ แบบนี้หากคุณพ่อคุณแม่รู้จักเพิ่มเติมองค์ประกอบบางอย่างลงไป ก็จะช่วยให้ช่วงเวลาอาบน้ำของลูกน้อยเต็มไปด้วยความสุข สนุก สะอาด ช่วยเสริมพัฒนาการของลูกน้อยไปได้พร้อมๆ กัน เสริมพัฒนาการของลูกขณะอาบน้ำ ระหว่างที่ลูกน้อยกำลังวุ่นอยู่กับการอาบน้ำ คุณพ่อคุณแม่อาจเสริมด้วยเทคนิคง่ายๆ ที่จะช่วยให้ลูกน้อยมีพัฒนาการที่ดีขึ้น ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาเล็กๆ ก็ตาม ด้วยวิธี 3ส. ดังนี้ ส.ที่ 1 = สุข เด็กกับน้ำเป็นของคู่กัน อยู่แล้ว เวลาที่เด็กได้เล่นอยู่กับน้ำจะทำให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุขหรือ “สารเอนดอร์ฟีน” ออกมา ซึ่งสารแห่งความสุขนี้จะส่งผลทางด้านบวกต่อการรับรู้และเรียนรู้ ช่วยให้ลูกพร้อมซึมซับประสบการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นตลอดการอาบน้ำซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถสร้างบรรยากาศในการอาบน้ำ ที่เอื้อต่อการเกิดความสุขได้ดังนี้ ส.ที่ 2 = สนุก เมื่อเด็กมีความสุขก็พร้อมที่จะเรียนรู้ และการเรียนรู้ของเด็กก็คือการที่เด็กได้เล่นสนุกนั่นเอง ดังนั้นเพื่อเพิ่มพัฒนาการให้กับลูกน้อยในระหว่างอาบน้ำให้คุณพ่อคุณแม่ เลือกสรรของเล่นลงอ่างอาบน้ำให้เหมาะสมด้วย ซึ่งของเล่นในอ่างอาบน้ำก็มีความแตกต่างกับดังนี้ ส.ที่ 3 = สะอาด คือความสดชื่นหลังอาบน้ำ การที่ลูกน้อยได้อาบน้ำอย่างสะอาดช่วยให้ลูกน้อยมีความสุขและรักการอาบน้ำ มากยิ่งขึ้น >>>ขอขอบคุณข้อมูลจาก : แคร์
เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ สิ่งแรกๆ ที่คุณแม่ส่วนใหญ่นึกถึงก็คือเรื่องของการคลอดใช่มั้ยล่ะคะ ส่วนวิธีการคลอดนั้น ก็อย่างที่คุณแม่ทราบกันดีว่ามีอยู่ด้วยกัน 2 วิธี ก็คือการคลอดธรรมชาติกับการผ่าคลอดค่ะ เราลองเปรียบเทียบกันดูดีกว่าว่าสองวิธีนี้ต่างกันยังไงบ้าง การคลอดธรรมชาติคืออะไร มีอะไรที่ต้องกังวลบ้าง? การคลอดธรรมชาติก็คือการที่คุณแม่เบ่งลูกน้อยออกมาทางช่องคลอด ซึ่งการคลอดแบบนี้คุณแม่จะต้องรอให้มีน้ำเดินหรือเจ็บท้องคลอด รวมถึงปากมดลูกเปิดมากพอที่จะทำการคลอดได้นั่นเอง ส่วนใหญ่แล้ว คุณแม่จะเจ็บท้องคลอดกันที่ช่วง 37-40 สัปดาห์ค่ะ การคลอดธรรมชาติมักเป็นที่นิยมเพราะคุณแม่ส่วนใหญ่ก็อยากมีประสบการณ์ อยากรับรู้ถึงความเจ็บปวดในการเบ่งคลอด แถมยังมีราคาถูกกว่าผ่าคลอดอีกด้วยนะ แม้ว่าการคลอดธรรมชาติจะเป็นวิธีที่ปลอดภัย แผลหายเร็ว และคุณแม่ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน แต่ก็มีหลายปัจจัยที่คุณแม่ควรทราบกันไว้ซักนิดนึงน้า ปัจจัยที่อาจทำให้การคลอดธรรมชาติไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีเสมอไป 1. ลูกไม่กลับหัว ปัจจัยนี้เป็นปัจจัยที่น่ากลัวที่สุดสำหรับการคลอดธรรมชาติ และมักจะจบลงด้วยการที่คุณหมอเปลี่ยนไปเป็นผ่าคลอดแทนค่ะ โดยปกติ เวลาที่จะคลอด ลูกน้อยจะต้องกลับหัวเพื่อใช้หัวดันออกมาจากช่องคลอด มีทารกบางรายที่ไม่ยอมกลับหัว หรืออาจจะกลับหัวผิดตำแหน่ง ทำให้คุณหมอไม่สามารถทำคลอดได้ 2. คุณแม่มีแรงเบ่งไม่พอ หรือเบ่งไม่เป็น แรงเบ่งนั้นมีความสำคัญกับการคลอดธรรมชาติมากๆ เลยล่ะค่ะ เพราะถ้าคุณแม่มีแรงเบ่งไม่พอ หรือเบ่งไม่เป็น ลูกน้อยก็จะไม่สามารถคลอดออกมาได้ แต่เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงนะ เพราะโรงพยาบาลส่วนใหญ่ที่คุณแม่ไปฝากครรภ์ เค้าจะมีการอบรม สอนวิธีการเบ่ง การหายใจ เพื่อให้คุณแม่สามารถเบ่งได้อย่างถูกวิธีค่ะ 3. คุณแม่มีโรคประจำตัว โรคประจำตัวก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างเช่น โรคเบาหวาน […]
ก่อนหน้านี้ก็เคยคิดว่าเรื่องพาหะธาลัสซีเมียนี่เป็นอะไรที่ไกลตัวมากๆ แต่พอตั้งท้องเท่านั้นแหละ การเป็นพาหะฯ นี่เรื่องใกล้ตัวสุดๆ แถมทำให้กังวลมากมายเลยล่ะค่ะ ถ้าคุณแม่กำลังอ่านบทความนี้อยู่ก็แสดงว่าคุณแม่อาจจะกำลังกังวลเรื่องนี้อยู่เหมือนกันใช่มั้ย สำหรับใครที่ยังไม่ค่อยเข้าใจว่าพาหะธาลัสซีเมียคืออะไร วันนี้เราก็นำความรู้มาฝากกันค่ะ เคยได้ยินผ่านๆ แต่ไม่เคยรู้เลยว่าพาหะธาลัสซีเมียคืออะไร? อันที่จริง การเป็นพาหะธาลัสซีเมียไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่สำหรับคนไทยเลยนะ เพราะมีคนไทยตั้งกว่า 24 ล้านคนที่เป็นพาหะโรคนี้ เผลอๆ เวลาเดินตามถนนเราอาจจะเจอคนที่เป็นพาหะอยู่เต็มไปหมด แถมเรายังอาจจะเป็นด้วยก็ได้นะ คนที่เป็นพาหะของโรคนี้ง่ายๆ ก็คือ คนที่มีเชื้อธาลัสซีเมีย “แฝง” อยู่ในร่างกาย เพราะงั้นคนที่เป็นพาหะจะมีสุขภาพที่แข็งแรงปกติเหมือนคนทั่วไปนี่แหละ ไม่ได้ออกอาการอะไร แต่อาจจะเลือดจางนิดหน่อย โรคธาลัสซีเมียนี้เป็นโรคที่ติดต่อได้ทางพันธุกรรม เพราะงั้น หากทั้งพ่อและแม่เป็นพาหะทั้งคู่ ลูกที่คลอดออกมาก็สามารถเป็นโรคธาลัสซีเมียได้ถึง 25% เลยนะ พูดง่ายๆ คือ พาหะก็เหมือนมีโรคอยู่ครึ่งนึง แม่มีครึ่ง พ่อมีครึ่ง พอมารวมกัน ลูกก็มีโอกาสที่จะได้รับโรคนี้ไปเต็มๆ เลยนั่นเอง แต่คุณแม่ก็อย่าเพิ่งกังวลเกินไปนะคะ เพราะหากคุณหมอตรวจพบว่าทั้งพ่อและแม่เป็นพาหะแล้ว ขั้นต่อไปคุณหมอจะดูว่าเป็นธาลัสซีเมียชนิดไหน เพราะถ้าเป็นคนละชนิดกัน ก็หายห่วง! พาหะธาลัสซีเมียมีกี่ชนิด แล้วต่างกันยังไง? พาหะธาลัสซีเมียมี 2 ชนิด ก็คือ อัลฟ่ากับเบตา อัลฟ่านี่จะค่อนข้างรุนแรง แต่มากน้อยก็แล้วแต่ยีนส์ที่แฝงอยู่นั่นแหละ ส่วนถ้าเป็นกลุ่มเบตาก็จะไม่ค่อยรุนแรงเท่าไหร่ […]
การดูแลตัวเองในช่วงให้นมเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้แม่มีสุขภาพแข็งแรง สามารถสร้างน้ำนมได้อย่างเพียงพอ ซึ่งนอกจากวิธีต่างๆ ที่จะช่วยกระตุ้นน้ำนมแม่แล้ว การดูแลตนเองอย่างเหมาะสมด้วยอาหารการกินก็จะทำให้แม่มีสุขภาพที่แข็งแรง สามารถให้นมลูกได้อย่างปลอดภัยและเต็มที่อีกด้วย ดังนั้นในบทความนี้ BabyGift จะชวนคุณแม่มาดูแลตัวเองในช่วงให้น้ำนม ตามมาดูกันค่ะ ว่าคุณแม่ให้นมควรกิน หรือไม่ควรกินอะไรบ้าง เช็กลิสต์ให้นมลูก ห้ามกินอะไรบ้าง ? ชวนคุณแม่เช็กกินอะไรได้บ้าง ช่วงให้นม ! นอกจากการดูแลตัวเองแบบพื้นฐาน เช่น การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำสะอาด พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายที่ไม่หนัก เช่น เดิน โยคะ ว่ายน้ำ ดูแลจิตใจให้ไม่เครียด รวมถึงการเลี่ยงสารเสพติดทุกชนิดแล้วนั้น คุณแม่ที่ให้นมลูก ห้ามกินอะไรอีกบ้าง ไม่ว่าจะเป็นอาหารหรือเครื่องดื่ม ลองมาดูรายละเอียดกันต่อดีกว่าค่ะ ให้นมลูก ห้ามกินอะไรบ้าง ? อาหารที่ควรหลีกเลี่ยงในช่วงให้นมมีอะไรกันบ้าง BabyGift เตรียมข้อมูลมาให้ด้วยกัน 7 ข้อ แต่ละข้อมีรายละเอียดยังไงมาดูกันค่ะ แล้วให้นมลูก ควรกินอะไร ? สำหรับคุณแม่ที่กำลังให้นมลูกนั้น นอกจากการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ กินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เพิ่มพวกโปรตีน ธัญพืช แป้งไม่ขัดสี กินผลไม้ และดื่มน้ำให้มากพอแล้วนั้น […]
วัย 0-3 ปี คือช่วงเวลามหัศจรรย์ของเด็กทุกคน ช่วงวัยนี้จะมีพัฒนาการอย่างรวดเร็วทั้งด้านร่างกาย สมอง และความคิด Aprica วิจัยมากว่า 70 ปี โดยการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กที่ดีเยี่ยม ให้คุณดูแลลูกน้อยได้อย่างปลอดภัยและมีความสุขที่สุด ตามหลัก 8.3.8 ซึ่งประกอบด้วย 8 พัฒนาการทางด้านร่างกายของเด็กทารก จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ เพื่อนำไปสู่ 3 พัฒนาการทางด้านจิตใจและอารมณ์ #เพราะเด็กทารกพูดไม่ได้ พ่อแม่จึงต้องเอาใจใส่ดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อพัฒนาการที่ดี ทั้งสมองและอวัยวะต่างๆ ในร่างกายให้แข็งแรงพร้อมเรียนรู้ในทุกๆ ด้าน จุดเริ่มต้นในการเคลื่อนไหวร่างกายของทารกในช่วงขวบปีแรกนั้น มาจาก กล้ามเนื้อคอ ไม่ว่าจะคว่ำ คลาน นั่ง ยืนไปจนกระทั่งเดินได้ในที่สุด และเพราะเด็กทารกในวัยแรกเกิดจะมีขนาดศีรษะเท่ากับ 1 ใน 4 ของร่างกาย ซึ่งถือได้ว่ามีน้ำหนักมากเมื่อเทียบกับ ขนาดของร่างกายโดยรวม จึงต้องใส่ใจดูแลต้นคอที่ต้องรับหนักศีรษะนี้เป็นพิเศษ เราควรจัดท่านอนให้ศีรษะและคอตั้งตรง และมีการประคองช่วงคอได้อย่างพอดี เพื่อพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวที่ดีของลูก ในทารกวัยแรกเกิดจะใช้ท้องเป็นอวัยวะส่วนหนึ่งที่ช่วยในการหายใจ และเพราะหลอดลมยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ จึงอาจเกิดสภาวะหายใจติดขัด หายใจแรง หากบริเวณท้องงอตัวหรือถูกกดทับ จึงควรจัดให้ลูกนอนในท่านอนราบ ให้ช่องท้องเหยียบตรง หายใจได้ทั่วท้อง เพื่ออ๊อกซิเจนจะได้ไปเลี้ยงสมมองได้มากขึ้น เพราะกระดูสันหลังและข้อต่อบริเวณสะโพกของทารกที่เชื่อมต่อกันแบบหลวมๆ […]
โยคะ ช่วยอะไรคุณแม่ได้บ้าง ชวนคุณแม่เริ่มฝึก 3 ท่าโยคะง่ายๆ ท่านอน ท่าไหว้พระอาทิตย์ ท่าภูเขา คุณแม่คววรู้หลังทำโยคะคุณแม่ไม่ควรอาบน้ำ หรือทานอาหารทันที ควรพัก 30–60นาที เพื่อให้ร่างกายช่วงหลังคลอดมีโอกาสปรับตัว เมื่อคุณแม่แข็งแรงดีแล้ว ค่อยเปลี่ยนจากการทำโยคะมาออกกำลังกายแบบแอโรบิก ขอบคุณข้อมูลจาก : Morther&care






