วิธีกระตุ้นน้ำนม มีอะไรบ้าง ? ทำยังไงให้คุณแม่มีน้ำนมเพียงพอต่อลูกน้อย ?!

ใครๆ ก็รู้ว่าน้ำนมแม่สำคัญต่อพัฒนาการของลูกน้อยมากแค่ไหน แต่น้ำนมของคุณแม่แต่ละคนไม่ได้มีเยอะเท่ากันใช่มั้ยหล่ะคะ บางคนก็เยอะ บางคนก็น้อย บางคนก็ไม่มี ดังนั้นการกระตุ้นน้ำนมอย่างถูกวิธีมีความสำคัญอย่างมากต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ซึ่งเป็นวิธีการเลี้ยงดูที่ดีที่สุดสำหรับทารกในช่วงแรกเกิด และในบทความนี้ BabyGift จะพาคุณแม่ไปรู้จักกับวิธีกระตุ้นน้ำนมกันค่ะว่าจะมีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยแม่ๆ ที่มีปัญหาเรื่องน้ำนมได้บ้าง
แชร์วิธีกระตุ้นน้ำนมแม่ ทำยังไงให้คุณแม่มีน้ำนมเพียงพอ ส่งต่อสุขภาพดีๆ ให้ลูก
การกระตุ้นน้ำนมแม่มีความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำนมให้เพียงพอต่อความต้องการของทารก เพราะน้ำนมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารกในช่วง 6 เดือนแรก ซึ่งจะช่วยให้ทารกได้รับสารอาหารครบถ้วน เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และช่วยให้ร่างกายทารกเจริญเติบโตอย่างเต็มที่และแข็งแรง แถมยังเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์แม่ลูกให้แน่นแฟ้น เพราะในขณะที่แม่ให้นมลูก จะเกิดการหลั่งฮอร์โมนความรักและผูกพันกัน ช่วยเสริมสร้างความรู้สึกอบอุ่น ความปลอดภัยให้แก่ทารกค่ะ เอาหล่ะค่ะ แล้ววิธีกระตุ้นน้ำนมแม่มีอะไรบ้าง เรามาดูกันต่อเลยค่ะ

วิธีกระตุ้นน้ำนมแม่ มีอะไรบ้าง ?
มีหลายวิธีในการกระตุ้นการไหลของน้ำนมแม่ค่ะ เป็นวิธีง่ายๆ ที่ทำได้จริง ซึ่งการทำตามวิธีเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอและถูกวิธี จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำนมได้อย่างเต็มที่ มาดูกันค่ะ
1. การดื่มน้ำ : และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ : วิธีง่ายๆ แต่ส่งผลต่อปริมาณและคุณภาพของน้ำนมแม่ คุณแม่ลองใส่ใจในการกินอาหารให้มากขึ้น เช่น ถั่วงอก ข้าวกล้อง น้ำผลไม้ กระเจี๊ยบเขียว หรือผักใบเขียวอื่นๆ ถั่วเมล็ดแห้ง ข้าวกล้อง รวมถึงการดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว พวกนี้ล้วนแต่มีส่วนช่วยเพิ่มน้ำนมได้ค่ะ
2. การพักผ่อนและผ่อนคลาย : เมื่อร่างกายเครียดมากเกินไป จะมีผลให้ระดับฮอร์โมนโปรแลกตินที่กระตุ้นการสร้างน้ำนมลดลง ดังนั้นแม่จึงควรมีเวลาพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงความเครียดนะคะ
3. ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่นประคบที่เต้านม : การประคบผ้าชุบน้ำอุ่น ก่อนให้นมลูกหรือก่อนปั๊มนมจะช่วยกระตุ้นน้ำนมให้ไหลได้สะดวกขึ้น เพราะความอบอุ่นจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต และขยายหลอดน้ำนมให้เปิดออก จะทำให้น้ำนมไหลได้สะดวกมากขึ้น แต่ต้องระวังอุณหภูมิของน้ำนะคะ อย่าให้น้ำร้อนเกินไปจนลวกเต้านมค่ะ
4. การนวดเต้านม : เป็นการกระตุ้นจุดสร้างน้ำนมภายในเต้านมให้ทำงาน โดยใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ นวดวนเบาๆ รอบๆ เต้านม ทั้งด้านหน้าและข้างๆ เพื่อให้น้ำนมไหลออกมาได้สะดวกขึ้น ควรนวดประมาณ 5-10 นาทีก่อนให้นมลูก นวดอย่างนุ่มนวล เพื่อกระตุ้นการไหลของน้ำนม ให้น้ำนมออกมาได้ง่ายขึ้นค่ะ
5. การปั๊มนม : วิธีกระตุ้นน้ำนมวิธีสุดท้ายคือ การใช้เครื่องปั๊มนมไฟฟ้าหรือปั๊มนมแบบมือปั๊มก็ได้เช่นกันค่ะ วิธีนี้ก็จะช่วยกระตุ้น และดูดน้ำนมออกมาได้ดี และเก็บไว้ให้ลูกกินได้ต่อไปด้วยค่ะ (สามารถดูวิธีการใช้เครื่องปั๊มนมเพิ่มเติมได้อีก BabyGift เคยเขียนไว้แล้วค่ะ)

ทำไมการนวดถึงช่วยกระตุ้นน้ำนม ?
การนวดเต้านมด้วยวิธีถูกต้องและสม่ำเสมอ ร่วมกับการให้ลูกดูดนมจะเป็นการกระตุ้นร่างกายให้ผลิตน้ำนมได้มากขึ้น ซึ่งเป็นวิธีสำคัญในการเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่นอกเหนือจากการรับประทานอาหารเสริมต่างๆ มีข้อมูลเพิ่มเติมจากคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านนมแม่ BabyGift สรุปเป็นประเด็นสำคัญได้ดังนี้ค่ะ
1. การนวดเต้านมด้วยวิธีบีบน้ำนมออกจนเกลี้ยงเต้า จะกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำนมชุดใหม่มาทดแทน
2. การนวดจี๊ดหัวนม จะช่วยให้น้ำนมออกมาได้มากขึ้น
3. การนวดเต้านมที่ถูกวิธีและทำสม่ำเสมอ ควบคู่กับการให้ลูกดูดนมบ่อยๆ จะส่งสัญญาณให้ร่างกายรับรู้ความต้องการของลูกและผลิตน้ำนมเพิ่มขึ้น
วิธีการนวดกระตุ้นน้ำนม ทำยังไงบ้าง ?
การนวดกระตุ้นน้ำนมด้วยวิธีการเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอจะช่วยกระตุ้นการไหลของน้ำนมได้ดียิ่งขึ้น เมื่อคุณแม่ฝึกฝนบ่อยๆ ร่วมกับการให้ลูกดูดนมก็จะช่วยเพิ่มปริมาณน้ำนมได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ ลองมาดูวิธีนวดกันต่อนะคะ
ท่านวดที่ 1 บีบเต้านมด้วยมือ : ใช้มือสองข้างจับเต้านมข้างซ้ายไว้ แล้วบีบนวดเต้านมโดยไล่จากกลางเต้านมไล่ลงมายังปลายหัวนมให้คุณแม่บีบนวดลงไปซ้ำๆ ประมาณ 10-15 ครั้ง แล้วเปลี่ยนไปทำข้างขวาในวิธีเดียวกัน ซี่งระหว่างนวดจะมีน้ำนมไหลออกมาด้วย ไม่ต้องกังวลไปนะคะ
ท่านวดที่ 2 กระตุ้นจี๊ด ดึงหัวนม : เริ่มจากให้คุณแม่ใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้จับบริเวณหัวนมไว้ จากนั้นดึงหัวนมไปข้างหน้า ดึงให้มากที่สุดเท่าที่หัวนมจะยื่นออกไปได้ ทำอย่างสม่ำเสมอ ประมาณ 5-10 ครั้ง
ท่านวดที่ 3 กระตุ้นจี๊ด นวดหมุนหัวนม : ให้คุณแม่ใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้จับตรงหัวนม แล้วบีบนวดหัวนมในลักษณะหมุนๆ รอบหัวนมประมาณ 5-10 ครั้ง ซึ่งในขั้นนี้ระหว่างนวดควรจะมีน้ำนมไหลออกมาด้วยนะคะ
หลังจากการนวดเต้านมครบ 3 ขั้นตอนแล้ว ให้คุณแม่ผ่อนคลายเต้านม ด้วยการประคบอุ่นเพื่อผ่อนคลายให้กับเต้านม จะช่วยเรื่องการไหลเวียนระบบต่างๆ ให้คุณแม่ใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นแล้วพันรอบเต้านมไว้ 2-3 นาที แค่นี้ก็ช่วยให้ผ่อนคลายได้แล้วค่ะ สำหรับคุณแม่ที่ต้องการดูวิดีโอวิธีการนวดกระตุ้นน้ำนมที่ถูกต้องลองคลิกดูเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยค่ะ

คำแนะนำ และข้อควรระวังในการกระตุ้นน้ำนม
การกระตุ้นน้ำนมแม่นั้น มีข้อควรระวังและคำแนะนำดังต่อไปนี้ค่ะ
1. อย่าออกแรงมากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นการนวดหรือบีบเต้านม เพราะอาจทำให้เกิดอาการบอบช้ำและระคายเคืองได้ ควรใช้แรงพอประมาณอย่างนุ่มนวลค่ะ
2. หลีกเลี่ยงการดึงหรือบีบที่หัวนมแรงเกินไป เนื่องจากหัวนมค่อนข้างบอบบางและอาจทำให้เจ็บได้ค่ะ
3. หากรู้สึกปวดหรือระคายเคืองผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์หรือพยาบาลผู้เชี่ยวชาญ
ความพยายามและพลังใจเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการกระตุ้นน้ำนมแม่ก็จริง แต่อย่าลืมว่าคุณแม่ก็ต้องใส่ใจดูแลสุขภาพ และให้ความสำคัญกับการพักผ่อนด้วยเหมือนกันนะคะ เพื่อให้ร่างกายได้ผลิตน้ำนมอย่างเต็มประสิทธิภาพค่ะ
BabyGift แนะนำ ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับน้ำนมแม่

1. เครื่องปั๊มนม HAENIM 7X
ผลิตภัณฑ์กระตุ้นน้ำนมชิ้นแรกที่ BabyGift อยากแนะนำคือ สินค้า 1 ใน 10 อันดับเครื่องปั๊มนมน่าใช้ค่ะ HAENIM รุ่น 7X ตัวนี้จะปั๊มได้แบบนุ่มนวล เหมาะสำหรับคุณแม่ท้องแรก ที่เพิ่งเคยปั๊มนมครั้งแรก ตัวกรวยปั๊มมีให้เลือก 2 แบบ คือ กรวยเคลือบซิลิโคน NexusFit™ ให้ความรู้สึกนุ่มถนอมหัวนม ไม่เจ็บเต้า ไม่ย้วยแบบซิลิโคนทั่วไป แถมยังมีปุ่มนวดกระตุ้น เหมาะสำหรับคุณแม่ที่เนื้อหน้าอกเยอะ และกรวยซิลิโคนแบบบางพิเศษ NexusFit™ Basic ออกแบบให้ไม่มีปุ่มนวด เหมาะสำหรับคุณแม่ที่เนื้อหน้าอกน้อย
จุดเด่น
- ผลิตและนำเข้าจากประเทศเกาหลี ผ่านการตรวจสอบและได้รับการรับรองมาตรฐาน อย. ไทย
- กรวยเคลือบซิลิโคน NexusFit™ ได้รับการจดสิทธิบัตร ปลอดภัย ได้มาตรฐาน
- ปรับได้ทั้งความแรงและความเร็วรอบดูดในเครื่องเดียว เพิ่มทางเลือกให้ตรงใจแม่มากที่สุด ถึง 90 รูปแบบ
- มีโหมดจดจำ ไม่ต้องตั้งค่าใหม่ ปั๊มนมครั้งต่อไปสะดวก ประหยัดเวลา
- มีโหมด Mute เปิด-ปิด ไร้เสียง มีโคมไฟและหน้าจอมีแสงไฟ ปั๊มกลางคืนได้โดยไม่ต้องเปิดไฟห้อง ไม่รบกวนลูกน้อยและคนรอบข้าง
- มีขวดนม PA (Polyamide) ใสเหมือนแก้ว ช่วยให้มองเห็นความผิดปกติของน้ำนมได้ดี
- ระบบ 1 มอเตอร์ คุณแม่สามารถเลือกปั๊มเดี่ยวหรือปั๊มคู่ได้ตามต้องการ และมีระบบหยุดอัตโนมัติ หลังการปั๊มนม 30 นาที เพื่อความปลอดภัย

2. LAVIE อุปกรณ์กระตุ้นน้ำนม
นี่คืออุปกรณ์กระตุ้นน้ำนมเเม่ ตัวช่วยที่ให้คุณเเม่มือใหม่ได้แก้ปัญหาอาการคัดหน้าอก ท่อน้ำนมตัน ฯลฯ ได้ เพราะปัญหาเหล่านี้อาจทำให้เกิดอาการ เจ็บปวด เครียด จนทำให้คุณแม่หลายๆ คนหยุด เพราะกลัวการให้ลูกดูดนมจากเต้าได้นั่นเองค่ะ
จุดเด่น
- ช่วยกระตุ้นการเพิ่มการไหลเวียนของน้ำนม
- ตัวเครื่องกันน้ำได้
- ชาร์จแบตเตอรี่ได้ มีสายชาร์จ USB และกล่องสำหรับพกพา

3. MR.FOX ถุงเก็บน้ำนมแม่รุ่นพลัส ขนาด 8 ออนซ์
ถุงเก็บน้ำนมแม่ Mr.Fox ขนาด 8 ออนซ์ ผลิตจากพลาสติกหนา 2 ชั้น เหนียว หนา ไม่แตก ไม่รั่วซึม ขอบถุงซีลหนาถึง 5 มิลลิเมตร สามารถใช้ถุงต่อตรงจากเครื่องปั๊มลงถุงเก็บน้ำนมได้เลย และสามารถต่อจุกนมให้ลูกดื่มจากถุงได้เลยเช่นกันโดยไม่ต้องพึ่งขวดนม ลดการปนเปื้อน
จุดเด่น
- สามารถต่อตรงจากเครื่องปั๊มลงถุงเก็บน้ำนมได้เลย และสามารถต่อจุกนมให้ลูกดูดจากถุงได้เลยเช่นกัน จึงลดการปนเปื้อน จากการเทไปเทมาระหว่างขวดนมและถุงเก็บน้ำนม แล้วยังลดการปนเปื้อนจากการล้างขวดนมไม่สะอาดอีกด้วย
- Vitamin Protection ด้วยถุงนมทึบแสง และลดเหม็นหืนในน้ำนมแม่ได้
- เขียนด้วยปากกาลูกลื่นได้ ไม่ต้องยุ่งยากในการหาปากกา permanent

4. เครื่องอุ่นนม Baby Bottle Warmer & Sterilizer – PRINCE & PRINCESS
ใช้วิธีกระตุ้นน้ำนมที่เราแนะนำแล้วได้ผล ก็ต้องมีเครื่องอุ่นนมติดบ้านไว้ด้วยนะคะ เครื่องนี้สามารถอุ่นน้ำนมได้โดยไม่เสียคุณค่า มี 4 โหมดทำงานอัจฉริยะ ได้แก่ Warm โหมดอุ่นนม Defrost โหมดละลายน้ำแข็ง Food โหมดอุ่นอาหารเด็ก และ Sterilize โหมดนึ่งฆ่าเชื้อขวดนม สามารถสั่งงานด้วยระบบ Touch Screen แถมน้ำหนักเบา พกง่าย อุ่นนมให้ลูกได้ทุกที่
จุดเด่น
- ประหยัดเวลาแม่ อุ่นน้ำนมให้ลูกพร้อมกันได้ถึง 2 ขวด โดยไม่เสียคุณค่าน้ำนม
- BPA Free ปลอดภัย อุ่นนมให้ลูกอย่างมั่นใจ
- อุ่นใจ มีบริการหลังการขาย มีรับประกันสินค้า

5. MOTHERY หมอนรองให้นม เอียง 11 องศา
หมอนให้นมเป็นตัวช่วยสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่จะช่วยคุณแม่มือใหม่ให้เลี้ยงลูกได้อย่างสะดวก สบายมากขึ้น MOTHERY เป็นหมอนรองให้นมที่พัฒนาโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทำให้การเข้าเต้าเป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณแม่ มีหลายสีให้เลือก สีสันสวยงาม ใช้งานง่าย ถูกใจคุณแม่
จุดเด่น
- พัฒนาโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ออกแบบเอียง 11 องศา เข้าเต้าได้ในองศาที่ดีที่สุด
- ดีไซน์แบบ U-curve ช่วยให้ลูกเข้าเต้าได้ด้วยองศาที่ดีที่สุด
- Back Support ช่วยลดอาการปวดเมื่อยให้กับคุณแม่ถึง 5 จุด
การกระตุ้นน้ำนมแม่เป็นเรื่องสำคัญในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ หวังว่าวิธีกระตุ้นน้ำนมที่เราแนะนำจะช่วยคุณแม่ให้มีน้ำนมเพียงพอต่อการเลี้ยงเจ้าตัวน้อยนะคะ และถึงแม้ว่าจะต้องใช้ความพยายามและอดทน แต่หากคุณแม่ฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอและปฏิบัติตามวิธีการอย่างถูกต้อง ควบคู่กับการดูแลสุขภาพอย่างเหมาะสม เชื่อว่าปัญหาการขาดน้ำนมของคุณแม่จะดีขึ้นได้อย่างแน่นอนค่ะ และหากใครสนใจผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับการกระตุ้นน้ำนม หรือสินค้าแม่ และเด็กอื่นๆ ก็สามารถมาเยี่ยมชมสินค้าหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ BabyGift ร้านจำหน่ายสินค้าแม่และเด็กระดับคุณภาพ มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี คุณพ่อคุณแม่สามารถมาเยี่ยมมสินค้าได้ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ร้านเบบี้กิ๊ฟ ทั้ง 5 สาขา ใกล้บ้าน หรือ สอบถามผ่านช่องทาง Online ทีมงาน BabyGift ยินดีให้คำแนะนำค่ะ
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
การเดินทางด้วยรถยนต์เป็นสิ่งที่แม่มือใหม่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่การที่ลูกน้อยยังไม่สามารถนั่งในรถได้อย่างปลอดภัยด้วยเข็มขัดนิรภัยธรรมดา การเลือกซื้อคาร์ซีทที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อความปลอดภัยในทุกการเดินทางของลูกน้อย วันนี้เรามีคำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกคาร์ซีทอย่างไรให้เหมาะสมกับลูกน้อยและปลอดภัยที่สุดค่ะ 1. รู้จักประเภทของคาร์ซีท ก่อนที่จะเลือกคาร์ซีทให้ลูกน้อย สิ่งแรกที่ต้องทำความเข้าใจก็คือประเภทของคาร์ซีทที่มีในตลาด ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ดังนี้: คาร์ซีทสำหรับทารก (Rear-Facing Seat): เหมาะสำหรับเด็กที่อายุต่ำกว่า 1 ขวบ หรือมีน้ำหนักไม่เกิน 10 กิโลกรัม คาร์ซีทประเภทนี้จะติดตั้งหันหลังและรองรับศีรษะและคอของเด็กให้ดีเยี่ยม ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุ คาร์ซีทแบบหันหน้า (Forward-Facing Seat): ใช้ได้เมื่อเด็กมีอายุ 1 ปีขึ้นไป หรือมีน้ำหนักประมาณ 9-18 กิโลกรัม ตัวคาร์ซีทจะหันหน้าไปข้างหน้าและมีเข็มขัดนิรภัยในตัว คาร์ซีทแบบบูสเตอร์ (Booster Seat): เหมาะสำหรับเด็กที่มีอายุ 4 ปีขึ้นไป หรือมีน้ำหนัก 15 กิโลกรัมขึ้นไป เพื่อเสริมให้เข็มขัดนิรภัยของรถยนต์สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยกับเด็กที่โตขึ้น 2. เลือกคาร์ซีทที่เหมาะสมกับช่วงวัยของลูก การเลือกคาร์ซีทที่เหมาะสมกับวัยของลูกเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อให้ลูกน้อยได้รับการรองรับที่ดีในขณะนั่งในรถ หากเลือกคาร์ซีทผิดประเภทอาจทำให้ลูกไม่สามารถได้รับความปลอดภัยที่ดีที่สุดในกรณีเกิดอุบัติเหตุ 3. ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ ความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับหนึ่งเมื่อเลือกซื้อคาร์ซีท คาร์ซีทที่ดีจะต้องมีการทดสอบด้านความปลอดภัยผ่านมาตรฐานต่างๆ เช่น มาตรฐาน […]
หนาวนี้แม่ๆ มีแพลนพาลูกๆ ไปเที่ยวที่ไหนกันคะ… สำหรับบ้านนี้ เราจะไปญี่ปุ่นกันค่ะ เราแพลนและจองตั๋วกันไว้ตั้งแต่ พ.ย. ที่แล้ว เลือกไปช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี จุดหมายคือ อยากพาลูกสาว น้องเจเปค ไปดูภูเขาไฟภูจิและเดินเที่ยวในโตเกียว อยากให้เค้าเห็นการใช้ชีวิตที่เป็นระเบียบมากๆ ของคนญี่ปุ่นค่ะ (เพราะอยู่บ้านนางจะกรี๊ดกร๊าดหน่อยๆ) ควรพาลูกเที่ยวตอนอายุเท่าไหร่… เป็นคำถามที่แม่ๆ กังวล กลัวนู้นนี่ รวมถึงเสียงจากรอบข้างว่าน้องยังเล็ก เที่ยวไปก็จำอะไรไม่ได้ แต่บ้างบ้านก็อยากใช้สิทธิ์ค่าตั๋วราคาพิเศษสำหรับเด็ก 7 วัน – ไม่เกิน 2 ปี ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละสายการบิน สำหรับน้องเจเปค ครั้งนี้เป็นการไปญี่ปุ่นครั้งที่ 2 ขอเล่าย้อนหลังนิดนึงค่ะ ครั้งแรกของน้องไปตอน 1 ขวบ 1 เดือน เป็นช่วงใบไม้เปลี่ยนสีที่โอซาก้า อย่างที่บอกไปตอนต้น ว่าเสียงรอบ ๆ ตัวที่บอกว่าน้องยังเล็กไป พาไปก็ไม่รู้เรื่องหรอก จำอะไรไม่ได้หรอก แต่หลังจากกลับมาจากรอบแรก หลายครั้งที่น้องเจออะไรเกี่ยวกับที่ตัวเองเคยทำที่นู่น ไม่ว่าจะเป็นขึ้นรถไฟ โหนรถไฟ ใบไม้แดง อาหารญี่ปุ่น น้องจำได้เยอะจนทุกคนงงไปเหมือนกัน เราพ่อแม่ก็แฮปปี้สิคะ จริงๆแล้วลูกสามารถจดจำเรื่องราวต่างๆได้ แต่อาจจะจำได้ไม่ละเอียดเหมือนผู้ใหญ่ เด็กวัย […]
ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ เชื้อไวรัสโคโรน่า มีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง คนเป็นเพิ่มขึ้นวันละ 30 กว่าคนทุกวัน ลักษณะการแพร่ระบาดอยู่ในระยะที่ 2 และคนส่วนใหญ่ก็เพียงแค่ตามหาหน้ากากอนามัยที่ตอนนี้ราคาแพงขึ้นเป็นเท่าตัว หรือแม้แต่เจลแอลกอฮอล์ที่มีการทำปลอมแปลงออกมาอีกมากมายเพราะหวังกอบโกยเงิน ในช่วงวิกฤต แบบนี้ แต่บริษัทประกันต่างๆ กลับออกกรมธรรม์ประกัน เชื้อไวรัสโคโรน่า เพื่อช่วยเหลือสำหรับผู้ที่เกิดการติด เชื้อไวรัสโคโรน่า อย่างแท้จริง และทุกประกันก็ให้ความสะดวกสบายยิ่งขึ้น เมื่อตรวจพบเจอโรค ก็จ่ายทันที (Update 15/03/63) สินทรัพย์ประกันภัย แผน4 ** นอกจากนี้ ยังได้รับความคุ้มครองเพิ่ม กรณีประสบอุบัติเหตุ หากเสียชีวิต หรือ ทุพพลภาพ จะได้รับเงินประกัน และค่าปลงศพ 2,000-8,000 บาท ตามข้อกำหนดของแต่ละกรมธรรม์ โดยเงื่อนไขสำหรับผู้เอาประกันภัย ต้องมีอายุระหว่าง 1-99 ปี แต่จะไม่คุ้มครองสภาพที่เป็นมาก่อนการเอาประกันภัย (Pre-Existing Condition) ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต SCB แผน B – Covid 19 Plus แผน 3 สินมั่นคงประกันภัย ประกันภัยการติด เชื้อไวรัสโคโรน่า กรุงเทพประกันภัย ประกัน เชื้อไวรัสโคโรน่า วิริยะประกันภัย Covid Shield แผน […]
คาร์ซีทปลอดภัย สำหรับเด็กแรกเกิด จะต้องดูจากอะไรบ้าง วันนี้ BabyGift จะมาบอกวิธีดูคาร์ซีทที่ปลอดภัย แบบลึกซึ้งถึงโครงสร้างกันเลยค่ะ เพราะทุกวัสดุที่ประกอบอยู่ในคาร์ซีทนั้น มีผลต่อความปลอดภัยของลูกน้อยมาก และก่อนคุณพ่อคุณแม่จะตัดสินใจเลือกซื้อคาร์ซีทให้ลูกรัก นี่คือสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องรู้เลยค่ะ โครงคาร์ซีท ทำจากอะไร แบบไหนที่ปลอดภัย 1. โครงพลาสติกทั่วไป (PP) พลาสติกมีความแข็งแรง ทนต่อการกระแทก มีน้ำหนักเบา ส่วนใหญ่มักจะใช้ภายในห้องโดยสารรถยนต์ เช่น แผงประตู หรือ คอนโซลรถ เมื่อใช้พลาสติก 100% ทำเป็นโครงคาร์ซีทสำหรับเด็กโตโดยเฉพาะ ที่น้องมีสรีระแข็งแรงแล้ว ก็เพียงพอต่อการปกป้องน้องให้ปลอดภัยค่ะ แต่สำหรับเด็กแรกเกิด ที่สรีระบอบบาง ต้องการการปกป้องเป็นพิเศษ การใช้พลาสติก 100% เลย อาจจะไม่พียงพอ โครงคาร์ซีทควรจะเสริมด้วยวัสดุอื่น ๆ เพิ่มความแข็งแรงด้วย เช่น เสริมด้วยไฟเบอร์กลาส 2. โครงพลาสติก เสริมไฟเบอร์กลาส ไฟเบอร์กลาส หรือ เส้นใยแก้ว จะใช้เพื่อเสริมความแข็งแรงเป็นพิเศษ ใช้แทนโลหะได้เลย เช่น ทำชิ้นส่วนเครื่องบินเล็ก ทำชิ้นส่วนรถแข่ง เพราะทนต่อการถูกกระแทก ทนต่อการฉีกขาด มีน้ำหนักเบา และยังสามารถดัดโค้งจัดรูปทรงได้ ไม่เปราะง่าย ในการทำโครงคาร์ซีทเด็กแรกเกิด […]
จากเหตุการณ์ครั้งนี้ คุณนานาอยากฝากไปถึงคุณพ่อคุณแม่ทุกท่าน ให้ตระหนักถึงความสำคัญของการใช้คาร์ซีท ในทุกครั้งที่เดินทาง ไม่ว่าใกล้หรือไกล ก็ต้องให้ลูกนั่งคาร์ซีทเสมอ เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ขอปรบมือให้กับคุณนานาและคุณเวย์ ที่เป็นครอบครัวตัวอย่าง ฝึกให้น้องบีน่าและน้องบรู๊คลีน มีวินัยในการนั่งคาร์ซีททุกครั้งที่อยู่บนรถ คาร์ซีท หรือเบาะนั่งนิรภัยในรถยนต์สำหรับเด็ก ช่วยลดโอกาสการบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้ การใช้ คาร์ซีท จะช่วยรองรับศีรษะ คอ กระดูกสันหลัง ที่ยังไม่แข็งแรงของเด็กเล็ก ช่วยไม่ให้สมองและไขสันหลังถูกทำลายจากการกระแทกในขณะเกิดอุบัติเหตุ และสิ่งสำคัญควรติดตั้งคาร์ซีทอย่างถูกต้อง ให้ลูกคาดเข็มขัดนิรภัยที่ตัวคาร์ซีทด้วยทุกครั้ง และปรับสายให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้อง ไม่ให้ลูกอึดอัดและไม่หลวมเกินไป เพราะถ้าหลวมเกินไป เมื่อเกิดอุบัติเหตุที่ร้ายแรงและไม่คาดฝัน ก็อาจทำให้เด็กหลุดออกจากคาร์ซีท และหลุดออกนอกตัวรถไปจนเป้นอันตรายถึงชีวิต ครอบครัวตัวอย่างเดินทางอย่างปลอดภัย คุณพ่อคุณแม่คาดเบลล์ ลูกๆนั่งคาร์ซีท ว้าว เยี่ยมไปเลย !!! น้องบีน่าและน้องบรู๊คลิน เดินทางอย่างปลอดภัยและหลับสบ๊ายสบายด้วยค่ะ
คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ที่กำลังจัดเตรียมอุปกรณ์ของใช้ต่างๆ สำหรับลูกน้อย อาจได้รับคำแนะนำจากเพื่อนๆ หรือแพทย์ สำหรับการจัดเตรียมอุปกรณ์ ฆ่าเชื้อโรคของใช้ต่างๆ ให้พร้อมก่อนคลอด จากในอดีตหลายๆ บ้าน อาจคุ้นเคยกับการลวกด้วยน้ำร้อน 100 องศาขึ้นไป ในการฆ่าเชื้อขวดนม ภาชนะ ไปจนถึงเสื้อผ้า ปลอกหมอนผ้าปูที่นอน ของเด็กได้ แต่ด้วยสถานการณ์การระบาดของโควิดในปัจจุบัน ทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายบ้านอดห่วงไม่ได้ว่าเชื้อไวรัสนั้นจะหลุดรอดเข้ามาถึงตัวลูกน้อยของเราได้จากของใช้อื่นๆ ที่ไม่สามารถฆ่าเชื้อด้วยการ ลวก หรือการนึ่งได้ และมีบทความทางการแพทย์มากมาย ระบุว่า การนำพลาสติกไปลวกด้วยความร้อนสูง จะก่อให้เกิดการตกค้าง ปนเปื้อนของ ไมโครพลาสติก ที่สามารถเข้าสู่ร่างกายของลูกน้อยก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ จึงมีการผลิตคิดค้น และนำเข้า เครื่องอบยูวี สำหรับใช้ในบ้าน ซึ่งเป็นการใช้พลังงานจากรังสี UV-C ในการฆ่าเชื้อโรคร้ายที่อาจติดอยู่ตามข้าวของเครื่องใช้ของลูกน้อย และฆ่าเชื้อของใช้คุณพ่อคุณแม่ได้อีกด้วย ประโยชน์ของรังสี UV-C ส่วนประกอบสำคัญของ เครื่องอบ UV-C คือหลอด UV-C ซึ่งมีคุณสมบัติในการปล่อยรังสี UV-C มาใช้ในการฆ่าเชื้อโรคได้จริง แม้แต่เชื้อไวรัสโควิดก็ไม่รอด ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันทั่วโลก และมีผลวิจัยต่างๆ จากหลากหลายสถาบันยืนยันแล้วว่า รังสี UV-C สามารถฆ่าเชื้อไวรัสโควิดได้ 99.99% […]

ร้านสินค้าแม่และเด็กที่คัดสรรนวัตกรรมของใช้แม่และเด็กที่มี
คุณภาพให้คำปรึกษาและบริการ อย่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยให้การเลี้ยงลูกเป็นเรื่องง่าย ปลอดภัย และมีความสุข
Online Shopping
สาขา ปิ่นเกล้า ราชพฤกษ์
สาขา Mega บางนา
สาขา Central World
สาขา The Crystal รามอินทรา
สาขา BTS วงเวียนใหญ่ (Outlet)
Copyright 2024 © Baby Gift (Retail) Co., Ltd.