9 เทคนิค แก้ปัญหา ลูกไม่ยอมกินข้าว

ลูกไม่ยอมกินข้าว เป็นปัญหาที่พบเป็นประจำของหลาย ๆ บ้านเลยนะคะ สำหรับเรื่องการกินข้าวยากของลูกน้อย โดยเฉพาะคุณหนูวัย 1 ปีขึ้นไป ที่เริ่มเดินได้คล่อง เริ่มวิ่งได้บ้าง พอถึงเวลากินข้าวเมื่อไหร่ ก็ทำให้คุณพ่อคุณแม่หนักใจไม่น้อยเลย ทั้งกินข้าวน้อย อมข้าว ห่วงเล่นจนใช้เวลานานเกินไปสำหรับอาหาร 1 มื้อ แต่ปัญหาการกินของลูกรับมือได้ไม่ยากเลยค่ะ เพียงแต่ต้องให้เวลา ให้ความเข้าใจ และต้องใจแข็งนิดหน่อย คุณพ่อคุณแม่ก็จะช่วยให้ลูกมีวินัยในการกินมากขึ้นได้ มาลองฝึกลูกน้อยไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ

ฝึกให้ลูกทานข้าวเป็นเวลา
ให้คุณแม่ทำข้อตกลงกับลูกว่า เข็มนาฬิกาชี้เลขนี้ เวลานี้ คือเวลาทานอาหาร ลูกควรจะหยุดเล่น แล้วมาทานข้าวด้วยกัน หลังทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้วลูกค่อยกลับไปเล่นต่อ หรือ จะบอกลูกว่าเวลานี้ต้องทานอาหาร ลูกคือคนสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่อยากทานข้าวด้วย เราต้องทานพร้อมกัน เพื่อฝึกให้ลูกรู้จักเวลาของมื้ออาหาร และรู้ว่าทุก ๆ คนในบ้านก็ทำเหมือนกัน

สร้างบรรยากาศการทานอาหารให้ลูก
การทานอาหารร่วมกันก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สร้างวินัยการทานอาหารให้ลูกได้ พ่อ แม่ ลูก ร่วมโต๊ะทานอาหารด้วยกัน ไม่ปล่อยให้ลูกทานคนเดียว หรือ แยกโต๊ะลูกออกไป ก็จะช่วยสร้างบรรยากาศการทานอาหารให้ลูก ให้ลูกรู้สึกว่าเขาเป็นคนสำคัญในบ้าน เป็นเหมือนผู้ใหญที่ได้นั่งโต๊ะกินข้าวด้วยกัน
ฝึกให้ลูกนั่งเก้าอี้ทานข้าวสำหรับเด็ก
คุณพ่อคุณแม่ห้ามตามป้อนข้าว เพราะการเดินป้อนจะทำให้ลูกไม่มีวินัยในการทานอาหาร ซึ่งการนั่งเก้าอี้ทานข้าวนอกจากช่วยเรื่องมีวินัยแล้ว ยังช่วยเสริมสร้าง EF ให้ลูกด้วย (Executive Function คือ กระบวนการทำงานของสมองส่วนหน้าที่ควบคุมอารมณ์ ความคิด การวางแผน) เพราะหลังจากลูกนั่งเก้าอี้แล้วลูกจะรู้ได้ทันทีว่าถึงเวลาทานอาหารแล้ว ลูกจะรู้หน้าที่ว่าต้องทานอาหาร การที่ลูกเข้าใจแบบนี้เป็นจุดเริ่มต้นในการทานอาหารที่ดี
ขณะทานอาหารไม่ควรดูทีวี แท็บเล็ต หรือเล่นของเล่นไปด้วย
ลูกควรจะทานข้าวโดยไม่ดูทีวีหรือดูแท็บเล็ตไปด้วย เพราะจะทำให้ลูกทานอาหารช้า อมข้าว หรือไม่ยอมกินข้าวได้ และควรนำของเล่นออกจากบริเวณโต๊ะอาหารด้วย เพราะหากลูกเห็นของเล่น ก็จะทำให้ลูกไม่สนใจเรื่องอาหารที่อยู่ตรงหน้า คุณพ่อคุณแม่จะต้องพูดให้ลูกสนใจเมนูที่อยู่ตรงหน้า เช่น อาหารหน้าตาคล้ายอะไรคะ สีอะไรบ้าง เพื่อให้ลูกโฟกัสอาหารที่จะต้องทาน
มื้ออาหารต้องผ่อนคลาย
คุณพ่อคุณแม่จะต้องเข้าใจก่อน ว่าการฝึกลูกให้มีวินัยในทานอาหารจะต้องค่อยไปค่อยไป ลูกทำได้บางข้อก็ต้องอดทนฝึกไป และต้องเชื่อมั่นในตัวลูกว่าจะทำข้อต่อไปได้แน่นอน ฉะนั้น ต้องไม่ดุ ไม่ตี ไม่บังคับให้ลูกต้องกิน หากลูกยังไม่ให้ความร่วมมือในการกินข้าว ก็ควรใช้วิธีดึงความสนใจ เช่น “มาดูสิข้าวหนูหน้าตาเหมือนตัวการ์ตูนเลย” “มาเลือกช้อนกินข้าวกัน เอาสีอะไรดีคะ” หรือชื่นชมสิ่งที่ลูกทำได้วันนี้ เช่น “วันนี้หนูระบายสีได้ดูดีมากเลย” “หนูเดินลากรถเก่งมากเสียพลังงานไปหนูต้องกินข้าวเยอะ ๆ นะคะ” หรือ “กินข้าวแล้วเรามาอ่านนิทานกันนะ” หากลูกสนใจและตอบคำถาม อย่าลืมชื่นชมลูกด้วย บรรยากาศการทานอาหารจะได้ดีไปด้วย

ตกแต่งเมนูอาหารให้น่ารับประทาน
อาหารหน้าตาดี ก็ดึงดูดลูกให้สนใจทานอาหารได้ดีเลย และเพื่อไม่ให้ลูกรู้สึกเบื่อกับเมนูเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ก็ตกแต่งข้าวลูกให้เป็นตัวการ์ตูนที่ลูกรู้จักในนิทาน ปั้นข้าวให้เป็นลูกบอล ทอดไข่ดาวให้จากพิมพ์ ตัดผักให้คล้ายต้นไม้แบบธรรมชาติ จะช่วยให้ลูกหยิบทานได้ง่ายและรู้สึกสนุกไปด้วย อย่าลืมสังเกตชนิดและลักษณะอาหารที่ลูกชอบด้วย ครั้งหน้าจะได้เตรียมเพิ่มให้ และที่สำคัญอย่าลืมเรื่องรสชาติ ต้องอร่อยถูกใจลูกจะได้ทานไปเพลิน ๆ เลย
กำหนดเวลามื้ออาหาร
การทานอาหารของลูกควรจะอยู่ที่ประมาณ 30 – 45 นาที เมื่อถึงเวลาที่กำหนด ให้เก็บจานข้าว แม้ว่าลูกจะยังกินไม่หมดหรือกินได้น้อยก็ตาม เพื่อเป็นการฝึกให้ลูกได้รู้เวลาว่า หากเขาไม่กินภายในช่วงเวลานี้ เขาก็จะไม่ได้กินอีก ต้องรอมื้อต่อไป โดยช่วงแรกคุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องแข็งใจทนลูกงอแงอยู่บ้าง แต่หากลูกเห็นผู้ใหญ่ทำ เขาก็จะเริ่มทำตามและปรับตัวได้มากขึ้น นอกจากนี้พ่อแม่ไม่ควรแสดงความวิตกกังวลหรือโกรธ แต่ให้งดของหวาน ขนม หรืออาหารว่างต่าง ๆ ทั้งหมดก่อนจะถึงมื้อถัดไปเพื่อให้ลูกเกิดความหิว ซึ่งจะกระตุ้นให้ลูกเจริญอาหารและรับผิดชอบเรื่องการกินได้ดีขึ้น

มีจานชามช้อนที่ดึงดูดใจ
ชุดทานอาหารสุดโปรด จะช่วยให้ลูกรู้สึกสนุกกับการกินอาหารด้วยตัวเองในทุกมื้อ คุณแม่จึงควรเตรียมอุปกรณ์ฝึกหัดกินอาหารให้ลูก โดยเลือกที่มีคุณภาพ ผลิตจากวัสดุที่ปลอดภัย มีสีสันสดใส ไม่มีเหลี่ยมแหลมคม เหมาะสมกับวัย และยังช่วยให้ลูกมีความสุขที่ได้กินอาหารกับอุปกรณ์ที่เป็นของเขาเอง แบรนด์สำหรับเด็กที่แนะนำ เช่น Grosmimi , Twistshake, Ange Baby เป็นต้น

เลือกเก้าอี้ทานข้าวเด็กที่มีคุณภาพดี
เก้าอี้ทานข้าวเด็กที่มีคุณภาพดีก็สำคัญ ลูกจะได้นั่งทานอาหารอย่างสะดวกสบาย ดังนั้นเก้าอี้ทานข้าวเด็กต้องเบาะนุ่ม มีถาดอาหาร มีวางแก้วกันตก พร้อมปรับระดับความสูงของเก้าอี้ได้ เพื่อที่จะได้นั่งระดับเดียวกับโต๊ะอาหารของคุณพ่อคุณแม่ และที่วางขาก็ต้องต้องปรับระดับขึ้น – ลงได้ตามความสูงของลูกด้วย ส่วนการใช้ประโยชน์ได้ยาวนานคุ้มค่า แนะนำให้เลือกแบบที่ปรับเอนได้ เช่น Prince & Princess เก้าอี้กินข้าวเด็ก Fairy High Chair II, Idawin เก้าอี้ทานข้าวเด็ก รุ่น Wooden High Chair, Kinderkraft เก้าอี้นั่งกินข้าวรุ่น Fini Chair
คุณพ่อคุณแม่ลองนำวิธีเหล่านี้ไปปรับและฝึกวินัยลูกดูนะคะ แต่อย่าเครียดมากไปหากลูกยังทำไมได้ เพราะวินัยในการทานอาหารจะต้องค่อย ๆ ฝึกฝนกันไป สุดท้ายลูกเราก็จะทำได้เองค่ะ
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
ใครกำลังคิดว่ากระเป๋าใส่ของแม่ ไม่ได้จำเป็นอะไร ใช้อะไรก็ได้ ลองแวะมาอ่านบทความนี้กันก่อนค่ะ พอเป็นคุณแม่แล้วก็มีของใช้มากมายต่างๆ ทั้งของเรา ของลูกเยอะแยะไปหมดใช่มั้ยคะ เพราะฉะนั้นการมีกระเป๋าใส่ของลูกก็จะทำให้คุณแม่มีความสะดวก หยิบของง่าย เป็นระเบียบมากขึ้น และในบทความนี้ BabyGift จะพาคุณแม่มาทำความรู้จักกระเป๋าของคุณแม่กันให้มากขึ้นค่ะ จำเป็นแค่ไหน ? กระเป๋าคุณแม่ ต่างจากกระเป๋าปกติยังไง ? กระเป๋าใส่ของคุณแม่มีความแตกต่างจากกระเป๋าทั่วไปในหลายๆ อย่างค่ะ ไม่ว่าจะเป็นขนาดและความจุ ซึ่งโดยมากมักมีขนาดใหญ่ และมีช่องเก็บของหลายช่อง เพื่อบรรจุของใช้สำหรับทั้งคุณแม่และลูกน้อย มีฟังก์ชันการใช้งานที่ถูกออกแบบมาให้สามารถบรรจุของที่จำเป็นต่อการดูแลลูกได้อย่างครบครัน เช่น มีช่องสำหรับใส่ขวดนม ผ้าอ้อม แผ่นรองเปลี่ยนผ้าอ้อม เป็นต้นค่ะ แล้วเราจะเลือกกระเป๋าใส่ของลูกยังไงให้เหมาะกับเรา ใช้ได้นาน มาดูรายละเอียดกันต่อค่ะ เลือก กระเป๋าคุณแม่ ยังไงดี ? การเลือกกระเป๋าที่เหมาะกับตัวคุณแม่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งาน คุณแม่จึงควรเลือกให้เหมาะกับพฤติกรรมและความต้องการใช้งาน เรามาดูวิธีการเลือกซื้อกันค่ะ 1. ขนาด และความจุ : ควรเลือกขนาดที่เหมาะสมกับความต้องการ ไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป รวมถึงมีช่องเก็บของเพียงพอสำหรับใส่ของใช้ของคุณแม่และลูกของเรา 2. น้ำหนัก ความสะดวกในการพกพา และความปลอดภัย : ให้เลือกวัสดุที่แข็งแรงแต่มีน้ำหนักเบา และมีสายสะพายที่นุ่ม และปรับความยาวได้ […]
เมื่อลูกน้อยอายุตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ ท่านก็อาจมีความจำเป็นที่จะต้องพาลูกออกจากบ้านไปทำธุระต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการไปหาหมอ หรือ พาไปเดินเล่นเปลี่ยนบรรยากาศตามสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งนอกจากจะใช้รถเข็นเด็กเพื่อความสะดวกสบายของคุณพ่อคุณแม่แล้วนั้น ตัวช่วยอีกอย่างหนึ่งที่มักจะเป็นตัวเลือกของคุณพ่อคุณแม่ก็คือ เป้อุ้มเด็ก เพราะสามารถพาลูกน้อยไปได้ทุกที่ เรียกว่าเป็นตัวช่วยทุ่นแรงให้กับคุณพ่อคุณแม่ได้เป็นอย่างดี แต่คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจกำลังกังวลว่า เป้อุ้มลูกนั้น จะทำให้ เด็กขาโก่ง หรือเปล่า มีความปลอดภัยขนาดไหน ควรเลือกอย่างไรดี ในบทความนี้ BabyGift มีข้อมูลดี ๆ มาฝากกันแล้วค่ะ ตอบข้อสงสัย เป้อุ้มลูก ใช้แล้วเด็กขาโก่งไหม ? พร้อม 3 ยี่ห้อแนะนำ เป้อุ้มทารก จำเป็นหรือไม่ มีประโยชน์อย่างไร ? เป้สำหรับอุ้มเด็ก เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยทุ่นแรงกายในการอุ้มลูกน้อยวัยทารก เพราะช่วยทำให้คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องอุ้มลูกน้อยด้วยมือตัวเองตลอดเวลา และไม่ต้องหาคนช่วยอุ้ม ด้วยเพราะลูกยังเล็ก ยังเดินไม่ได้ ดังนั้นการทำกิจวัตรประจำวันส่วนใหญ่ของคุณแม่จึงจำเป็นต้องอุ้มลูกไว้บ่อย ๆ ทั้งการอุ้มไล่ลม อุ้มกล่อมนอน อุ้มปลอบโยน อุ้มเดินเล่น อุ้มขณะออกไปทำธุระนอกบ้าน ซึ่งเป็นเวลาหลายชั่วโมงต่อวัน แถมยังต้องอุ้มลูกตั้งแต่แรกเกิดหรือวัยทารกไปจนถึงวัยประมาณเกือบ 2 ขวบ จนเมื่อลูกเดินได้เก่ง ดังนั้นการใช้เป้อุ้มลูกก็จะช่วยคุณพ่อคุณแม่ได้มาก ทำให้สามารถพาลูกน้อยไปกับเราได้ทุกที่ ทำกิจกรรมต่าง ๆ […]
การเดินทางด้วยรถยนต์เป็นสิ่งที่แม่มือใหม่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่การที่ลูกน้อยยังไม่สามารถนั่งในรถได้อย่างปลอดภัยด้วยเข็มขัดนิรภัยธรรมดา การเลือกซื้อคาร์ซีทที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อความปลอดภัยในทุกการเดินทางของลูกน้อย วันนี้เรามีคำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกคาร์ซีทอย่างไรให้เหมาะสมกับลูกน้อยและปลอดภัยที่สุดค่ะ 1. รู้จักประเภทของคาร์ซีท ก่อนที่จะเลือกคาร์ซีทให้ลูกน้อย สิ่งแรกที่ต้องทำความเข้าใจก็คือประเภทของคาร์ซีทที่มีในตลาด ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ ดังนี้: คาร์ซีทสำหรับทารก (Rear-Facing Seat): เหมาะสำหรับเด็กที่อายุต่ำกว่า 1 ขวบ หรือมีน้ำหนักไม่เกิน 10 กิโลกรัม คาร์ซีทประเภทนี้จะติดตั้งหันหลังและรองรับศีรษะและคอของเด็กให้ดีเยี่ยม ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุ คาร์ซีทแบบหันหน้า (Forward-Facing Seat): ใช้ได้เมื่อเด็กมีอายุ 1 ปีขึ้นไป หรือมีน้ำหนักประมาณ 9-18 กิโลกรัม ตัวคาร์ซีทจะหันหน้าไปข้างหน้าและมีเข็มขัดนิรภัยในตัว คาร์ซีทแบบบูสเตอร์ (Booster Seat): เหมาะสำหรับเด็กที่มีอายุ 4 ปีขึ้นไป หรือมีน้ำหนัก 15 กิโลกรัมขึ้นไป เพื่อเสริมให้เข็มขัดนิรภัยของรถยนต์สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยกับเด็กที่โตขึ้น 2. เลือกคาร์ซีทที่เหมาะสมกับช่วงวัยของลูก การเลือกคาร์ซีทที่เหมาะสมกับวัยของลูกเป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อให้ลูกน้อยได้รับการรองรับที่ดีในขณะนั่งในรถ หากเลือกคาร์ซีทผิดประเภทอาจทำให้ลูกไม่สามารถได้รับความปลอดภัยที่ดีที่สุดในกรณีเกิดอุบัติเหตุ 3. ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ ความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับหนึ่งเมื่อเลือกซื้อคาร์ซีท คาร์ซีทที่ดีจะต้องมีการทดสอบด้านความปลอดภัยผ่านมาตรฐานต่างๆ เช่น มาตรฐาน […]
ในช่วงแรกของการเป็นคุณพ่อ คุณแม่มือใหม่ คำถามที่มักจะเกิดขึ้นก็คือ “ทำไมต้องใช้หมอนสำหรับทารก หรือหมอนหัวทุย” แท้จริงแล้วหมอนเหล่านี้มีประโยชน์มากมายสำหรับเจ้าตัวน้อย เนื่องจากช่วยป้องกันปัญหาหัวแบน กระดูกสันหลังบิดเบี้ยว ช่วยเพิ่มความสบายในการนอนหลับ ระบายอากาศได้ดี ดังนั้นในบทความนี้ BabyGift จะชวนมาเรียนรู้เหตุผลสำคัญที่คุณพ่อ คุณแม่ทุกคนไม่ควรมองข้ามในการเลือกหมอนสำหรับทารกแรกเกิด เพื่อเตรียมห้องนอนเด็กอ่อนให้พร้อมก่อนคลอดกันค่ะ เลือกหมอนทารกใบแรกให้ลูก ต้องเลือกยังไง ? หมอนหัวทุยจำเป็นหรือเปล่า ? หมอนสำหรับทารกถือเป็นสิ่งจำเป็นในการดูแลเจ้าตัวน้อย แม้จะดูเป็นสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ แต่การเลือกหมอนที่เหมาะกับทารกจะส่งผลต่อสุขภาพและความปลอดภัยของลูกน้อยอย่างมาก คุณพ่อ คุณแม่คนไหนที่กำลังสงสัยว่าจะเลือกหมอนสำหรับทารก หรือหมอนหัวทุยยังไงดี ไปหาคำตอบพร้อมกันในบทความนี้พร้อมๆ กันเลยค่ะ หมอนทารก คืออะไร ? หมอนสำหรับทารก เป็นหมอนขนาดเล็กที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับทารก ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักดังนี้ ควรใช้หมอนทารก เมื่อไหร่ ? ตามคำแนะนำจากกุมารแพทย์ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ได้มีการสรุปว่า ท่านอนที่ดีและปลอดภัยที่สุดสำหรับทารก คือการนอนหงายบนพื้นผิวแบนราบโดยไม่มีสิ่งของใดๆ อยู่บนเตียงนอน เช่น ผ้าห่ม ตุ๊กตา หมอน เป็นต้น เนื่องจากอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ หรือโรคไหลตายในทารก (SIDS) ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตในเด็กอายุไม่เกิน 4 เดือน การใช้หมอนอาจเพิ่มความเสี่ยงจากการอุดกั้นทางเดินหายใจของทารก เมื่อทารกพลิกตัว หรือคว้าวัตถุเหล่านั้นโดยไม่รู้ตัว […]
ผ้าฆ่าเชื้อ AG Pure เป็นนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นเพื่อส่งเสริมความสะอาดและสุขอนามัยที่ดีสำหรับเด็กทารกและเด็กเล็ก ที่มีภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง ผ้าชนิดนี้จึงถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์เด็กหลายประเภท โดยเฉพาะในผ้าหุ้มคาร์ซีทแบรนด์ Ailebebe ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ผ้า AG Pure ในคาร์ซีทฆ่าเชื้อโรคได้จริงไหม ปลอดภัยสำหรับผิวบอบบางของทารกหรือไม่ มาทำความรู้จักกันเลยค่ะ AG Pure คืออะไร ? ผ้าฆ่าเชื้อแบคทีเรียปลอดภัยต่อทารกไหม ? AG Pure คือผ้าฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ที่จดสิทธิบัตรโดย Ailebebe มีคุณสมบัติพิเศษในการฆ่าเชื้อด้วยเส้นใย Agreza® ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยสถาบัน Toyobo STC Co., Ltd. จากประทศญี่ปุ่น โดยมีการผสมซิลเวอร์ไอออน ทำให้สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ถึง 99% ผ้าชนิดนี้ได้รับการทดสอบความปลอดภัยจากสถาบัน Boken Quality Efracing Organization และผ่านมาตรฐาน EN71-3 ของยุโรป ซึ่งเป็นมาตรฐานสำหรับของเล่นเด็ก ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าปลอดภัยต่อผิวหนังของทารกและเด็กเล็ก แม้ในกรณีที่เด็กเอาเข้าปากก็ไม่มีอันตราย กลไกการฆ่าเชื้อของเส้นใย Agreza® ด้วยพลัง Silver ion กลไกการฆ่าแบคทีเรียจะใช้ […]
ไขข้อข้องใจที่ใครๆหลายๆคน พูดกันว่า ทำไม คาร์ซีท Ailebebe แพง ! มาดูกันสิว่าแพงเพราะอะไร แล้วที่ว่าแพงจริงหรือไม่ คาร์ซีท Ailebebe ทุกตัว จะถูกผลิตขึ้นจากโรงงานผู้ผลิตที่ญี่ปุ่นโดยตรง โดยมีแรงงานซึ่งเป็นคนญี่ปุ่นที่มีความชำนาญและเชี่ยวชาญสูง จึงทำให้ประสิทธิภาพในการใช้งานและค่าแรงสูงตามไปด้วย คาร์ซีท เหมือนกัน…แต่วัสดุภายในไม่เหมือนกันAilebebe เราไม่ได้เลือกใช้วัสดุอย่างใดอย่างหนึ่ง แต่เราเลือกใช้วัสดุที่หลากหลาย มาช่วยรองรับแรงกระแทกที่ต่างกัน…อ่านซักนิดก่อนซื้อ คาร์ซีท ให้ลูก ส่วนประกอบของ คาร์ซีท มาตรฐานความปลอดภัย การผลิต คาร์ซีท ไม่ได้มองเพียงแค่เรื่องตวามสะดวกหรือความถูกต้องในการติดตั้งเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการลดการเคลื่อนที่หน้า-หลังของ คาร์ซีท ในขณะเกิดอุบัติเหตุ ที่ส่งผลให้เด็กได้รับบาดเจ็บได้อีกด้วย จึงมีการคิดค้นการติดตั้งด้วยระบบ ISOFIX และ Belt ที่ต้องสามารถตอบโจทย์ได้ทั้ง 2 ข้อ จึงเป็นที่มาของการแยกออกเป็น 2 รุ่นย่อย ดังนั้น คาร์ซีท Ailebebe ถึงราคาจะแพง แต่คุ้มค่า คุ้มเกินราคา เมื่อเปรียบเทียบกับนวัตกรรมด้านการปกป้อง ทั้งโครงสร้าง วัสดุรองรับแรงกระแทก และการติดตั้งมาตรฐานสากล กับความปลอดภัยในการเดินทางอย่างปลอดภัยของลูกน้อยที่คุณรัก

ร้านสินค้าแม่และเด็กที่คัดสรรนวัตกรรมของใช้แม่และเด็กที่มี
คุณภาพให้คำปรึกษาและบริการ อย่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยให้การเลี้ยงลูกเป็นเรื่องง่าย ปลอดภัย และมีความสุข
Online Shopping
สาขา ปิ่นเกล้า ราชพฤกษ์
สาขา Mega บางนา
สาขา Central World
สาขา The Crystal รามอินทรา
สาขา BTS วงเวียนใหญ่ (Outlet)
Copyright 2024 © Baby Gift (Retail) Co., Ltd.