อาบน้ำเด็กแรกเกิดอย่างไรให้ถูกวิธี ? และปลอดภัยต่อลูกน้อยมากที่สุด

เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่มือใหม่หลาย ๆ คนคงเคยฝึกการอาบน้ำเด็กอ่อนจากคลินิกฝากครรภ์ หรือ จากโรงพยาบาลมาก่อน ซึ่งเป็นทักษะสำคัญที่ต้องเรียนรู้อย่างหนึ่งสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ เพื่อที่จะได้อาบน้ำสระผมให้กับลูกน้อยของเราอย่างถูกวิธีและมีความปลอดภัย ซึ่งการอาบน้ำเด็กแรกเกิดนั้น ก็มีขั้นตอนและวิธีการที่ไม่ยากจนเกินไป เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่มือใหม่สามารถทำตามได้อย่างแน่นอน อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมมีอะไรบ้าง มีขั้นตอนอย่างไร ต้องระวังเรื่องไหนเป็นพิเศษบ้าง ในบทความนี้เรามีข้อมูลดีๆ มาฝากค่ะ  

ชวนคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ มาดูขั้นตอนการอาบน้ำเด็กแรกเกิดยังไง ให้ถูกวิธี

คุณพ่อคุณแม่มือใหม่บางคนอาจจะมีความกังวลในเรื่องของการอาบน้ำให้เด็กอ่อนหรือ เด็กแรกเกิด เพราะว่าเด็กเล็กนั้นมีร่างกายบอบบาง ยังไม่แข็งแรง หากอาบน้ำไม่ถูกวิธีก็อาจจะทำให้ลูกน้อยของเราไม่สบายได้ อย่างไรก็ตาม การทำความสะอาดชำระร่างกาย และดูแลสุขอนามัยของเด็กแรกเกิดนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะ เพียงแต่ว่าเด็กเล็กมีผิวที่บอบบาง จึงเสี่ยงต่อการระคายเคืองได้ง่าย ทั้งนี้ เด็กเล็กยังมีภูมิคุ้มกันต่ำ จึงอาจไม่สบายได้ง่าย คุณพ่อคุณแม่มือใหม่จึงจำเป็นที่จะต้องรู้วิธีอาบน้ำเด็กแรกเกิด ที่ถูกต้องและเหมาะสมกับวัยของลูกน้อย แล้วจะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง อุปกรณ์ที่ต้องใช้มีอะไรบ้าง มีวิธีการอย่างไร มาดูกันเลยค่ะ 

อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมสำหรับการอาบน้ำเด็กแรกเกิด 

  1. อ่างอาบน้ำ 
  2. แผ่นกันลื่น 
  3. ผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่และผืนเล็ก 
  4. ฟองน้ำถูตัวแบบนุ่ม 
  5. สบู่เหลวอาบน้ำชนิด Head to Toe 
  6. สำลีชุบน้ำต้มสุกสำหรับเช็ดตา 
  7. กระดาษเปียก 
  8. สำลี และแอลกอฮอล์สำหรับเช็ดสะดือ 
  9. ผ้าอ้อม และเสื้อผ้าที่สะอาด  
  10. ที่รองนอนสำหรับถอดเสื้อผ้า และแต่งตัวลูกน้อย ควรหุ้มด้วยพลาสติกเพื่อกันน้ำ หรือปูด้วยผ้าขนหนูเพื่อซับน้ำ

วิธีอาบน้ำเด็กแรกเกิดอย่างเป็นขั้นเป็นตอน ทำตามได้ไม่ยาก  

1. ให้คุณแม่ หรือ คนที่จะอาบน้ำให้เด็ก เตรียมตัวให้พร้อม
ผู้ที่จะอาบน้ำให้เด็กเล็กควรถอดเครื่องประดับออกให้หมด ทั้งนาฬิกา แหวน สร้อยข้อมือ เพื่อป้องกันไม่ให้ไปขีดข่วนโดนตัวเด็ก พร้อมกับล้างมือถูสบู่ให้สะอาดก่อนอาบน้ำให้เด็กทุกครั้ง ทั้งนี้ คุณพ่อคุณแม่ หรือ ผู้ดูแลควรตัดเล็บให้สั้นอยู่เสมอ เพื่อป้องกันการข่วนผิวหนังของเด็กด้วยค่ะ

2. เตรียมน้ำที่ใช้อาบ 
เตรียมน้ำอุ่นใส่อ่างอาบน้ำ ซึ่งน้ำไม่ควรอุ่นหรือร้อนจนเกินไป อาจอยู่ที่ประมาณ 30 – 37 องศาเซลเซียส หรือ เป็นน้ำที่อุณหภูมิห้อง หากน้ำร้อนเกินไปอาจทำให้เด็กผิวแห้งได้ ทั้งนี้ควรเตรียมสภาพแวดล้อมให้มีอุณหภูมิเหมาะสมด้วย เช่น ถ้าอยู่ในห้องแอร์ก็ควรปิดแอร์ก่อน เพราะเมื่ออาบน้ำเสร็จ ลูกจะสัมผัสกับอากาศเย็นอาจทำให้หนาวสั่น และไม่สบายได้

3. สระผมให้ลูก
วิธีอาบน้ำเด็กแรกเกิด ในกรณีที่ต้องการสระผมให้ลูก ให้ประคองลูกโดยการใช้ฝ่ามือข้างที่ถนัดช้อนประคองตรงต้นคอ และศีรษะของลูกไว้ พร้อมกับใช้แขนข้างที่ไม่ถนัดอุ้มลูกหันลำตัวเข้าหาเรา อาจห่อตัวลูกด้วยผ้าขนหนูขณะสระผมก่อนก็ได้ เพื่อป้องกันเด็กหนาว จากนั้นใช้นิ้วโป้ง และนิ้วกลางของมือด้านเดียวกันกดพับหูลูกไว้ เพื่อป้องกันน้ำเข้าหู และจัดท่าทางให้ศีรษะเด็กอยู่ต่ำกว่าลำตัวเล็กน้อย เพื่อให้น้ำไหลย้อนไปทางศีรษะ ไม่ไหลมาทางลำตัว การสระผมสามารถใช้ฟองน้ำนุ่มๆ หรือใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำบีบน้ำลงบริเวณเส้นผมของลูกเพื่อทำความสะอาดแทนการตักน้ำราด เพราะอาจทำให้น้ำกระเด็นเข้าตาลูกได้ หลังจากนั้นให้เช็ดผมลูกให้แห้งก่อน แล้วจึงค่อยพาไปอาบน้ำต่อ

4. อาบน้ำให้ลูกน้อย 
สำหรับการอาบน้ำเด็กแรกเกิดนั้น ให้ประคองลูกน้อยโดยใช้ฝ่ามือประคองที่ท้ายทอยของลูก และใช้นิ้วที่เหลือล็อคบริเวณใต้รักแร้ของเด็ก ใช้มืออีกข้างล็อคบริเวณก้นของลูกเอาไว้ และนำลงอ่างอาบน้ำ สำหรับการถูสบู่นั้น ให้ใช้มือและแขนของเราประคองตัวของลูกอยู่ตลอดเวลา ส่วนมืออีกข้างนั้นให้ใช้ถูสบู่และล้างตัวให้ลูกน้อย ในระหว่างอาบน้ำ คุณแม่อาจร้องเพลงเบาๆ เพื่อให้ลูกรู้สึกผ่อนคลาย หรือสบตากับลูกน้อยเพื่อให้ลูกรู้สึกอุ่นใจ หรือพูดคุยกับลูกไปด้วย ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมพัฒนาการของลูกน้อยอีกทางหนึ่ง โดยพัฒนาการของเด็กในด้านต่างๆ สำหรับช่วง 1 – 2 เดือนแรกนั้น จะเป็นการมองจ้องหน้า สบตา ฟังเสียงคนคุยด้วย และแยกเสียงแม่จากผู้หญิงคนอื่นได้ เป็นต้น  

5. อุ้มลูกขึ้นจากอ่างอาบน้ำ
เมื่อล้างสบู่ออกเรียบร้อยแล้ว ให้อุ้มลูกขึ้นจากอ่างอาบน้ำให้ไว การอาบน้ำเด็กแรกเกิดไม่ควรอาบน้ำเกิน 5 – 7 นาที เพราะจะทำให้ลูกน้อยไม่สบายได้ เมื่อขึ้นจากอ่างอาบน้ำให้ห่อตัวลูกน้อยด้วยผ้าขนหนูเพื่อความอบอุ่น และอุ้มลูกไปวางบนเบาะที่รองนอน จากนั้นเช็ดตัวลูกน้อยให้แห้ง โดยเฉพาะตามบริเวณข้อพับต่างๆ  

6. เช็ดทำความสะอาดส่วนอื่นๆ
เตรียมสำลีชุบน้ำต้มสุก เพื่อเช็ดตาให้กับลูกน้อยของเรา ควรใช้สำลีแผ่นใหม่เสมอสำหรับเช็ดดวงตาแต่ละข้าง โดยเช็ดจากหัวตาไปหางตา และใช้ผ้าขนหนูนุ่ม ๆ เช็ดรอบปาก และจมูกให้ทั่วใบหน้าของลูก รวมถึงบริเวณคอ และหลังหู จากนั้นเช็ดสะดือลูกด้วยสำลีชุบแอลกอฮอล์ ซึ่งสายสะดือจะค่อยๆ แห้งและหลุดออกภายใน 2 สัปดาห์ รวมถึงการเช็ดอวัยวะเพศของลูกน้อยให้สะอาดด้วยการใช้กระดาษเปียกหรือสำลีแผ่นใหญ่ชุบน้ำต้มสุก (ควรแยกส่วนระหว่างสำลีเช็ดตากับสำลีเช็ดส่วนอื่น ๆ ให้ชัดเจนนะคะ) 

7. แต่งตัวให้ลูกน้อย 
เมื่อเช็ดทำความสะอาดส่วนต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาใส่เสื้อผ้าให้ลูก ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวให้ลูกน้อยอย่างโลชั่นหรือเบบี้ออยล์ที่ได้รับรองมาตรฐานความปลอดภัยต่อเด็กเล็ก หรือ ใช้เป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกก็ได้ค่ะ จากนั้นใส่ผ้าอ้อมและใส่เสื้อผ้าให้ลูกน้อย ควรเลือกเป็นเสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้านุ่มนวล ระบายอากาศได้ดี โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อน หรือถ้าอากาศเย็นก็ควรใส่เสื้อผ้าหนาขึ้นเล็กน้อย เพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้กับลูกน้อยค่ะ  

ข้อควรระวังในการอาบน้ำเด็กแรกเกิด

  • ควรอาบน้ำในเวลาสาย ๆ หรือบ่าย ๆ ไม่ควรอาบตอนเช้าตรู่ หรือตอนค่ำเพราะอากาศเย็น อาจทำให้ลูกน้อยไม่สบายได้ 
  • ไม่ควรปล่อยให้ลูกน้อยอยู่เพียงลำพังอย่างเด็ดขาด ไม่ว่าจะกรณีใดก็ตาม 
  • ห้ามใช้สบู่ของผู้ใหญ่อาบน้ำเด็กแรกเกิดเด็ดขาด เพราะอาจทำให้ระคายเคืองได้  
  • ห้ามใช้สบู่ทุกชนิดล้างหน้าลูกน้อย แม้ว่าจะเป็นสบู่เด็กก็ตาม เพราะอาจเข้าตาลูกและทำให้แสบระคายเคือง เป็นอันตรายต่อดวงตาได้  
  • เมื่อต้องอาบน้ำเด็กทารก ควรเช็กอุณหภูมิของน้ำก่อนอาบน้ำให้ลูกน้อยทุกครั้ง  
  • ไม่ควรปล่อยให้ลูกหนาวสั่น ควรใช้ผ้าขนหนูห่อตัวขณะสระผม จากนั้นเช็ดผมให้แห้งก่อนพาลูกไปอาบน้ำเป็นลำดับต่อไป  

BabyGift แนะนำตัวช่วยสำหรับการอาบน้ำเด็กแรกเกิด  

1. โต๊ะอาบน้ำเปลี่ยนผ้าอ้อมพับได้ Tub a puff​ – PRINCE & PRINCESS

ตัวช่วยที่ทำให้การอาบน้ำเปลี่ยนผ้าอ้อมลูกน้อยเป็นเรื่องง่ายขึ้นก็คือ โต๊ะอาบน้ำเปลี่ยนผ้าอ้อมพับได้ Tub a puff จากแบรนด์ PRINCE & PRINCESS ปรับใช้งานได้แบบ 3 in 1 ยืนอาบน้ำให้ลูกน้อยได้สะดวก ไม่ปวดหลัง ดีต่อคุณแม่ผ่าคลอด มีเบาะเปลี่ยนผ้าอ้อมเพื่อใช้สำหรับเช็ดตัวและแต่งตัวให้ลูก แถมยังมีอ่างอาบน้ำตั้งพื้น ใช้งานได้นาน 2 ปี ทั้งนี้ มีสิ่งที่คุณแม่จะต้องใส่ใจมาก ๆ ก็คือ หากเช็ดตัวหรืออาบน้ำให้ลูกบนโต๊ะ ควรระมัดระวังลูกพลัดตกจากโต๊ะเป็นพิเศษ ไม่ควรปล่อยให้ลูกอยู่บนโต๊ะเพียงลำพังอย่างเด็ดขาด เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้นะคะ

จุดเด่น  

  • วัสดุและโครงสร้างออกแบบได้มาตรฐาน มีผลการทดสอบรับรองความปลอดภัยระดับสากล  
  • โครงอลูมิเนียมแข็งแรง ปลอดภัยมั่นคง  
  • ข้อต่อแข็งแรงพิเศษ รับน้ำหนักได้ถึง 15 กิโลกรัม  
  • พับแล้ววางตั้งได้ พร้อมลากได้ เคลื่อนย้ายสะดวกสบาย ประหยัดพื้นที่  
  • ล้อเข็นมีระบบล็อค ยืนอาบน้ำลูกได้อย่างปลอดภัย  
  • มีช่องวางสบู่ แชมพู และชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำด้านล่าง หยิบใช้ได้สะดวก คุณแม่ไม่ห่างจากตัวลูกน้อย  
  • มีสายยางระบายน้ำทิ้ง สะดวกในการทำความสะอาด  
  • ติดตามพัฒนาการลูกได้ทุกวัน ด้วยเบาะเปลี่ยนผ้าอ้อมพร้อมแถบวัดส่วนสูงลูก 0 – 60 เซนติเมตร  
  • ตากผ้าเช็ดตัวและเสื้อผ้าของลูกได้ในตัว เป็นมากกว่าอ่างอาบน้ำลูกน้อย

2. BELLINI SPONGE ฟองน้ำธรรมชาติ รุ่น Honeycomb No.12

ฟองน้ำธรรมชาติจากทะเลเมดิเตอเรเนียน เป็นฟองน้ำเนื้อละเอียดนำเข้าจากประเทศอิตาลี ผ่านการทดสอบจากมหาวิทยาลัยเซียน่า (University of Siena) สามารถใช้ได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่มีผิวแพ้ง่าย ซึ่งฟองน้ำแบบ Honeycomb เป็นฟองน้ำธรรมชาติที่สามารถดูดซับ และอุ้มน้ำได้ดี อีกทั้งยังให้สัมผัสที่นุ่มละมุน อาบน้ำลูกน้อยได้อย่างสบายตัว ไม่ต้องกังวลว่าจะทำให้เกิดการระคายเคือง  

จุดเด่น  

  • เป็นฟองน้ำธรรมชาติจากทะเลเมติเตอร์เรเนียน 100% 
  • ฟองน้ำมีการซึมซับดีเยี่ยมมากกว่าฟองน้ำสังเคราะห์ และสามารถคลายตัวได้รวดเร็วกว่า 
  • ฟองน้ำมีความนุ่มพิเศษ มีผิวสัมผัสอ่อนโยนเหมาะสำหรับเด็กเล็ก  
  • ฟองน้ำมีความยืดหยุ่น ทนทาน ไม่เปื่อยหรือยุ่ยง่าย สามารถใช้งานได้ยาวนาน 
  • สามารถล้างทำความสะอาดได้อย่างทั่วถึง ถ้ามีการทำความสะอาดอย่างถูกวิธี จากสภาพโครงสร้างภายในจากธรรรมชาติที่มีช่องทางการไหลผ่านของน้ำและอากาศต่อเนื่องกัน ปราศจากสารตกค้าง เช่น สบู่ โฟม ภายในฟองน้ำ 
  • ผ่านการทดสอบว่าไม่ระคายเคืองผิวหนัง และได้รับการรับรองจากสถาบันผู้เขี่ยวชาญด้านผิวหนังของมหาวิทยาลัย Siena 
  • ผลิตภัณฑ์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม  
  • สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ 100% 

3. Soft แปรงสีฟันไฟฟ้า รุ่น Baby Smile 0-3 ขวบ

สำหรับลูกน้อยที่เริ่มมีฟันขึ้นแล้ว อุปกรณ์สำคัญอย่างหนึ่งในการดูแลสุขอนามัยที่ดีก็คือ แปรงฟันสำหรับเด็ก ซึ่งแปรงสีฟันไฟฟ้าของแบรนด์ Soft รุ่น Baby Smile สามารถใช้ได้ตั้งแต่อายุ 0 – 3 ขวบ เป็นแปรงสีฟันที่ออกแบบมาเพื่อเด็กเล็กโดยเฉพาะ เพื่อให้ลูกน้อยของเรามีสุขภาพในช่องปากที่แข็งแรง 

จุดเด่น 

  • มีสีสันที่สดใส กระตุ้นให้ลูกน้อยสนุกกับการแปรงฟัน 
  • สั่น 17,000 ครั้งต่อนาที ด้วยระบบโซนิคไม่ทำให้เหงือนร่น 
  • ขนแปรงดูปองท์หนานุ่ม หน้าตัดโค้งเพื่อความนุ่มนวล 
  • ขนาดพอเหมาะกับปากเด็กเล็ก มีไฟ LED สีขาวเพื่อมองเห็นช่องปากได้ชัดเจน 
  • ด้ามแปรงออกแบบมาพิเศษเพือให้เด็กเล็กจับได้ถนัดมือและไม่ลื่น 
  • มี Safety lock สกรูเพิ่มความปลอดภัยกันเด็กเปิดที่ใส่ถ่าน 
  • กันน้ำด้วยมาตรฐาน IPX7 
  • มีถ้วยดูดสูญญากาศด้านล่างแปรง สามารถตั้งวางได้ ลดพื้นที่จัดเก็บและช่วยให้ขนแปรงไม่สัมพัสกับสิ่งสกปรก 
  • ด้ามแปรงรับประกัน 1ปี 

4. แปรงสีฟันซิลิโคน แบบสวมนิ้ว  Finger Toothbrush – PRINCE & PRINCESS 

สำหรับทารกแรกเกิด หรือ เด็กเล็ก ที่ลิ้นเป็นคราบนมสีขาว แนะนำให้ใช้แปรงซิลิโคนทำความสะอาดได้ เพราะขนแปรงนุ่มพิเศษ มาตรฐาน Food Grade ปลอดสาร BPA Free อีกด้วย ทั้งนี้ทันตแพทย์เด็กแนะนำให้ใช้ทำความสะอาดลิ้น เหงือกและฟันของลูกน้อยเป็นประจำเพื่อสุขภาพฟันที่ดีค่ะ 

จุดเด่น 

  • แปรงสีฟันทำจากซิลิโคนคุณภาพสูง Food Grade 
  • ไร้สาร BPA Free ปลอดภัยต่อทารก 
  • ขนแปรงซิลิโคนกลมมน อ่อนนุ่มพิเศษ ไม่ระคายเคืองเหงือกและช่องปาก 
  • ไม่มีกลิ่น ไม่มีสี ไม่มีรสชาติ ปลอดภัยต่อสุขภาพทารก 
  • ขึ้นรูปแปรงแบบชิ้นเดียว เพื่อความปลอดภัย 
  • ขนาดออกแบบให้เหมาะต่อช่องปากของทารก 
  • ด้านปุ่มนูนสามารถนวดเหงือกทารกได้ ทำให้เหงือกแข็งแรง 
  • มีกล่องเก็บแปรง ป้องกันฝุ่นและสิ่งสกปรก พร้อมพกพาสะดวก 
  • เหมาะสำหรับเด็ก 6 เดือน+ 

เป็นยังไงบ้างคะ วิธีอาบน้ำเด็กแรกเกิดนั้นไม่ได้ยากจนเกินไปใช่มั้ยคะ เพียงแต่ว่ามีรายละเอียดที่ต้องใส่ใจหลายข้อหน่อย ซึ่งถ้าหากอาบน้ำอย่างถูกวิธีก็จะทำให้ลูกน้อยปลอดภัย สบายตัว และมีสุขอนามัยที่ดี ทั้งนี้ หากลูกโตขึ้น จนสามารถนั่งในอ่างอาบน้ำได้แล้ว อาจเสริมพัฒนาการของลูกขณะอาบน้ำโดยสร้างบรรยากาศในการอาบน้ำที่ทำให้ลูกน้อยมีความสุข เช่น การเพิ่มของเล่นลอยน้ำอย่างเป็ดลอยน้ำหรือตุ๊กตาลอยน้ำเพื่อเสริมพัฒนาการด้านการหยิบจับ หรือของเล่นเสริมพัฒนาการอื่นๆ ที่จะช่วยสร้างความสุข สนุกสนานขณะที่ลูกอาบน้ำได้ดี ทำให้ลูกสนุกกับการอาบน้ำและมีสุขอนามัยที่ดีค่ะ 

ถ้าหากต้องการตัวช่วยในการอาบน้ำให้ลูกน้อย สามารถเข้ามาเยี่ยมชมสินค้าได้ที่ร้าน BabyGift ร้านจำหน่ายสินค้าแม่และเด็กระดับคุณภาพ มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ร้านเบบี้กิ๊ฟทั้ง 6 สาขาใกล้บ้าน หรือสอบถามผ่านช่องทาง Online ทีมงาน BabyGift ยินดีให้คำแนะนำค่ะ 

อ้างอิงที่มาข้อมูลบางส่วนจาก :  https://www.youtube.com/watch?v=0yrgitV9vY8
https://www.babycenter.com/baby/bathing-body-care/when-can-my-baby-go-in-the-shower_1368466

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00

บทความแนะนำ

การฝึกเด็กทารกให้นั่งมีผลต่อพัฒนาการของเด็กน้อยค่ะ แต่ว่าจะให้เด็กเริ่มหัดใช้เก้าอี้หัดนั่ง ใช้ตอนกี่เดือนดี จะฝึกเด็กน้อยของเราให้นั่งยังไง จะเริ่มให้เด็กหัดนั่งตอนไหนถึงจะดี ในบทความนี้ BabyGift มีเคล็ดไม่ลับมาฝากคุณพ่อคุณแม่กันค่ะ  เด็กหัดนั่งกี่เดือนถึงจะดี ? แนะนำเคล็ดลับพร้อมตอบคำถาม และแนะนำยี่ห้อเก้าอี้เด็กน่าใช้ ! เก้าอี้หัดนั่งเป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยเด็กทารกฝึกนั่งอย่างปลอดภัย มีโครงสร้างที่มั่นคง และปลอดภัย ช่วยพยุงตัวเด็ก ใช้วัสดุที่นุ่มสบาย มีสายรัดนิรภัยเพื่อความปลอดภัย ซึ่งบางรุ่นก็ออกแบบมาให้มีถาดวางของด้านหน้าให้ด้วย เก้าอี้หัดนั่งจะช่วยให้เด็กได้ฝึกทรงตัว ฝึกกล้ามเนื้อ เตรียมความพร้อมสำหรับการนั่งด้วยตัวเอง สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับการหัดนั่งจะเป็นยังไงบ้างนั้น ตามมาเรียนรู้เพิ่มเติมไปพร้อมๆ กันค่ะ พัฒนาการของเด็ก ก่อนจะไปดูว่าเก้าอี้หัดนั่ง ใช้ตอนกี่เดือน เราลองมาทำความรู้จักกับตัวอย่างพัฒนาการของเด็กกันก่อนดีกว่าค่ะ ซึ่งพัฒนาการของเด็กแต่ละคนอาจแตกต่างกันไปตามปัจจัยต่างๆ ซึ่งถ้ามีข้อสงสัย หรือกังวลเกี่ยวกับพัฒนาการของเด็ก ควรปรึกษากับแพทย์นะคะ สำหรับผู้ปกครองที่สนใจเรื่องพัฒนาการของเด็กในด้านต่างๆ อีก ลองอ่านเพิ่มเติมได้อีกนะคะ BabyGift เคยเขียนไว้ในเว็บไซต์แล้วค่ะ เก้าอี้หัดนั่ง ใช้ตอนกี่เดือน ? โดยทั่วไป เด็กจะพร้อมหัดนั่งเมื่ออายุประมาณ 6-8 เดือน ซึ่งในช่วงนี้ กล้ามเนื้อคอและหลังของเด็กจะแข็งแรงพอที่จะรองรับการนั่งได้ดีขึ้นค่ะ แต่ถึงแม้ว่าพัฒนาการของเด็กในช่วง 4-6 เดือนนั้น จะเริ่มควบคุมศีรษะได้ดี และอาจเริ่มพลิกตัวได้แล้ว ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการนั่ง แต่ก็ยังไม่ใช่ช่วงที่เหมาะสมที่สุดในการฝึกนั่ง ซึ่งการเริ่มฝึกหัดนั่งในเด็กอายุ 6-8 เดือนนั้น […]

น้ำนมของแม่นั้นเป็นอาหารที่เปี่ยมคุณค่ามากที่สุดสำหรับลูกน้อย โดยเฉพาะในเด็กทารกที่อายุน้อยกว่า 6 เดือน ซึ่งจะต้องกินนมจากแม่เป็นหลัก สำหรับคุณแม่ที่อยู่บ้านเลี้ยงลูกเต็มเวลาก็อาจจะไม่ได้มีปัญหากับการสต็อกน้ำนมเอาไว้ เพราะเน้นการเอาลูกเข้าเต้าเป็นส่วนใหญ่ แต่สำหรับคุณแม่ที่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน การทำสต็อกน้ำนมเอาไว้นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะจะได้มีน้ำนมเอาไว้ให้ลูกน้อยอย่างเพียงพอ ในบทความนี้ BabyGift มีคำแนะนำดี ๆ เกี่ยวกับการเก็บรักษา นมแม่ มาฝากกันค่ะ จะเก็บน้ำนมอย่างไรให้ไม่เหม็นหืน ไม่บูด และคงคุณค่าทางอาหารเอาไว้ได้มากที่สุด มาดูกันเลยค่ะ ทำไมนมของแม่มีกลิ่นเหม็นหืน ? มีวิธีการเก็บรักษา นมแม่อย่างไรไม่ให้มีกลิ่นและคงคุณค่าได้นาน คุณแม่บางคนอาจพบว่านมที่ตนเองทำการสต็อกไว้นั้นมีกลิ่นเหม็นหืน ซึ่งมักจะเกิดกับนมที่เก็บไว้ในช่องแช่แข็งในตู้เย็นที่มีระบบละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ เนื่องจากในช่วงที่ระบบละลายน้ำแข็งทำงาน นมที่แช่แข็งเอาไว้ก็จะละลายไปด้วย และเมื่อช่องแช่แข็งกลับมาเย็นจัดใหม่ ก็ทำให้น้ำนมแข็งตัวอีกครั้ง กระบวนการนี้หากเกิดขึ้นซ้ำหลาย ๆ ครั้งก็จะทำให้ไขมันในน้ำนมมีการเปลี่ยนแปลงและทำให้นมมีกลิ่นเหม็นหืนได้นั่นเองค่ะ ดังนั้นแล้วการเก็บรักษานมแม่ ในตู้เย็นที่มีระบบละลายน้ำแข็งอัตโนมัติแบบนี้ ก็เสี่ยงจะทำให้น้ำนมที่เก็บเอาไว้มีกลิ่นเหม็นหืนได้  สาเหตุที่นมแช่แข็งละลายมาเป็นน้ำนมแล้วมีกลิ่นเหม็นหืน ก็เพราะว่าในน้ำนมของแม่มีเอ็นไซม์ไลเปส ที่จะช่วยย่อยไขมันในน้ำนมของแม่ให้แตกตัวเป็นโมเลกุลเล็กๆ เพื่อผสมกับโปรตีนเวย์ในน้ำนมได้ดี ทำให้ร่างกายของลูกน้อยดูดซึมวิตามิน A และวิตามิน D ได้มากขึ้น ถ้าในน้ำนมของแม่มีไลเปสมากก็จะย่อยไขมันได้มาก ทำให้น้ำนมมีกลิ่นหืนนั่นเองค่ะ ทั้งนี้ แม้ว่าจะมีกลิ่นหืนก็ไม่เป็นอันตรายต่อลูกน้อยแต่อย่างใด ยังสามารถกินได้ แต่ในเด็กบางคนอาจไม่ยอมกินนมที่มีกลิ่นหืน สามารถแก้ไขได้โดยการนำน้ำนมที่ปั๊มมาใหม่ๆ ผสมกับนมที่มีกลิ่น ก็จะช่วยเจือจางกลิ่นและลดความเหม็นหืนไปได้ […]

สำหรับคนที่ชอบการเข้าครัว ทำอาหาร ถนอมอาหาร คงรู้จัก อลูมิเนียมฟอยล์ (Aluminium foil) กันอย่างแน่นอน เพราะเป็นอุปกรณ์ในการถนอมอาหารและใช้ในการนำความร้อนปรุงอาหาร ปัจจุบันได้มีนวัตกรรมใหม่ ๆ นำอลูมิเนียมฟอยล์ไปแปรรูปเป็น ถุงเก็บน้ำนม อลูมิเนียมฟอยล์ เพื่อช่วยในการเก็บรักษาน้ำนมแม่ ไม่ให้มีกลิ่นเหม็นหืน และยังช่วยให้อุ่นนมได้รวดเร็วขึ้น ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจมาก ๆ เราจึงได้หาข้อมูลคุณสมบัติทั้งข้อดีและข้อเสียมาบอกกัน จะน่าใช้หรือไม่ ตอบโจทย์คุณแม่นักปั๊มแค่ไหน ไปดูกันเลย ถุงเก็บน้ำนม อลูมิเนียมฟอยล์ คืออะไร ?  คือ การใช้แผ่นอลูมิเนียมฟอยล์ เป็นวัสดุหลักในการผลิตถุงเก็บน้ำนม แทนการใช้พลาสติก โดยการขึ้นรูปถุงนมด้วยอลูมิเนียมฟอยล์ ผ่านการเคลือบด้วย Polyethylene, Polyamide และ Polyester รวม 4 ชั้น ให้ถุงเก็บน้ำนมแข็งแรงทนทานกว่าถุงเก็บน้ำนมพลาสติกใสทั่วไป รวมถึงอลูมิเนียมฟอยล์จะมีคุณสมบัติทึบแสง 100% เพื่อรักษาคุณภาพของน้ำนมแม่ให้คงรสชาติ กลิ่นไม่เหม็นหืน แบบเดียวกันกับการห่ออาหาร ถนอมอาหารในครัวเรือน  ทดลองอุ่นนมแม่แช่แข็ง ด้วยเครื่องอุ่นนม Baby Bottle Warmerถุงเก็บน้ำนม อลูมิเนียมฟอยล์ VS ถุงเก็บน้ำนมพลาสติก ถุงเก็บน้ำนมอลูมิเนียมฟอยล์  *อลูมิเนียมฟอยล์นำความร้อนได้ดี จะไม่ต้องใช้โหมดละลายน้ำแข็ง (Defrost) เพราะจะทำให้อุณหภูมิของน้ำนมสูงเกินไป*  ถุงเก็บน้ำนมพลาสติก  *ความร้อน 60 […]

เมื่อต้องเดินทางหรือท่องเที่ยวพร้อมกับลูกวัยเบบี๋ อาจทำให้คุณแม่หลายๆ บ้านกังวลใจในการ พาลูกขึ้นเครื่อง ไม่ว่าจะเรื่องสุขภาพอนามัยความปลอดภัย ลูกน้อยจะเดินทางไหวไหม? ต้องเตรียมของใช้อะไรไปบ้าง? ลูกเดินทางได้อายุเท่าไร? มีอะไรที่เอาขึ้นเครื่องบินไปได้หรือไม่ได้บ้าง?  จะนั่งตรงไหนให้ปลอดภัยเลี้ยงลูกได้สะดวก? ลูกหิวหรือร้องงอแงจะทำอย่างไรได้บ้างนะ? ทุกเรื่องที่คุณแม่กังวลใจจัดการได้ไม่ยาก แค่เพียงทำตามข้อมูลและคำแนะนำเหล่านี้ค่ะ 4 เรื่องต้องรู้ก่อน พาลูกขึ้นเครื่องบิน เมื่อคุณแม่รู้ว่าจะต้องเพินทางพร้อมลูกวัยเบบี๋ สิ่งแรกที่ต้องทำคือการหาข้อมูล สอบถามกฎและรายละเอียดจากสายการบิน และวางแผนการเดินทางและอุปกรณ์ของใช้ให้ครบถ้วน อาทิ » หาข้อมูลก่อนเดินทาง ตรวจสอบกับสายการบิน ว่าอายุเด็กทารกที่เดินทางได้คือเท่าไร เพราะแต่ละสายการบินอาจมีข้อกำหนดที่ไม่เหมือนกัน ซึ่งตามความจริงและพัฒนาการของเบบี๋แล้ว ควรให้ลูกอายุประมาณ 3-4 เดือนขึ้นไปจึงเดินทางได้เพื่อสุขภาพ สุขอนามัยและความปลอดภัย แต่หากมีความจำเป็นก็สามารถพาลูกเล็กขึ้นเครื่องบินได้ โดยบางสายการบินเด็กทารกที่เดินทางได้ต้องอายุไม่น้อยกว่า 7 วัน หรือบางสายการบินอาจให้ทารกอายุตั้งแต่ 14 วันขึ้นไป  หรืออาจอนุญาตให้อายุน้อยกว่านั้นขึ้นอยู่กับคำแนะนำของแพทย์ สอบถามหาข้อมูลเรื่องการจองตั๋ว การเลือกที่นั่ง และค่าโดยสารสำหรับเด็กเล็ก  แจ้งสายการบินล่วงหน้า สอบถามเรื่องเอกสารที่ต้องใช้สำหรับเด็ก   ศึกษาข้อบังคับและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ บนเครื่องบิน สอบถามหรือหาข้อมูลข้อกำหนดต่างๆ ในการขึ้นเครื่องบิน ว่าสามารถนำอุปกรณ์ของใช้อะไรบ้าง ที่ขึ้นเครื่องบินเพื่อดูแลลูกทารกระหว่างการเดินทางได้ เช่น » เตรียมพร้อมอุปกรณ์ของใช้ในการเดินทางให้ลูกทารก รถเข็นเด็ก […]

เมื่อเริ่มตังครรภ์ มีเจ้าตัวเล็กเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย คุณแม่ทุกคนก็ต้องตื่นเต้นอยากเจอหน้าลูกและสงสัยว่า พัฒนาการทารกในครรภ์ ไปถึงไหนแล้วใช่ไหมคะ เราจึงนำพัฒนาการของลูกน้อยตลอดเก้าเดือนที่อยู่ในท้องของคุณแม่มาให้ชมกัน เบบี้กิ๊ฟขอแสดงความยินดีกับคุณแม่ทุกท่านด้วยนะคะ ลูกน้อยตัวโตแค่ไหนแล้ว เราลองเทียบกับผลไม้ให้ดูค่ะ พัฒนาการทารกในครรภ์ ที่คุณแม่มือใหม่ต้องรู้ พัฒนาการทารกในครรภ์ เดือนที่ 1 พัฒนาการทารกในครรภ์เดือนที่ 1 คุณแม่ส่วนใหญ่จะรู้ตัวว่าตั้งครรภ์ก็เข้าเดือนที่สองไปแล้ว เพราะว่าในเดือนแรกนี้จะเป็นช่วงที่ไข่กับอสุจิเข้าผสมกัน มีการแบ่งเซลล์แล้วก็ฝังตัวของเอ็มบริโอ ซึ่งในระยะนี้เจ้าหนูน้อยก็จะเล็กจิ๋วมาก ๆ เลยล่ะค่ะ มีขนาดไม่ถึงหนึ่งเซนติเมตรเท่านั้นเอง ส่วนการพัฒนาหลัก ๆ ก็จะเป็นการพัฒนาในส่วนของรก เพื่อเตรียมพร้อมรอรับสารอาหารจากคุณแม่ พัฒนาการทารกในครรภ์ เดือนที่ 2  พัฒนาการทารกในครรภ์เดือนที่ 2 เดือนนี้แหละที่คุณแม่หลาย ๆ ท่านจะเริ่มรู้ตัว มีอาการแพ้ท้อง แล้วก็ไปหาคุณหมอเพื่อการฝากครรภ์กันแล้ว ในช่วงเดือนนี้ลูกน้อยจะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมมาก ประมาณ 2-3 เซนติเมตร แต่ก็จะยังไม่ได้รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของรูปร่างอะไรมากมาย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการพัฒนาของระบบประสาท เนื้อเยื่อเส้นใยประสาท แล้วก็ไขสันหลัง คุณแม่สามารถทำอัลตราซาวด์เพื่อฟังเสียงหัวใจของลูกน้อยเต้นได้แล้วนะคะ พัฒนาการทารกในครรภ์เดือนที่ 3 ทารกในครรภ์จะมีน้ำหนักประมาณ 28 กรัม และมีความยาวประมาณ 7.6 ซ.ม. แล้วค่ะ […]

หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าคาร์ซีทก็มีอายุการใช้งานไม่ต่างจากผลิตภัณฑ์ของใช้อื่น เพราะคาร์ซีททุกตัวมีโครงสร้างพลาสติกเป็นส่วนประกอบหลัก เมื่อผ่านการใช้งานเป็นเวลานาน ความร้อนจะทำให้พลาสติกเสื่อมสภาพ กรอบ แตกหักง่าย นอกจากนี้แสง UV ยังทำให้วัสดุรองรับแรงกระแทกและเบาะรองตัว หมอนรองศีรษะทารกที่เคยนุ่มกลับแข็งและขาดความยืดหยุ่นไม่สามารถใช้ปกป้องทารกได้ดีพอ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร ว่าคาร์ซีทที่เลือกใช้เพื่อช่วยปกป้องลูกน้อยให้ปลอดภัยจากอุบัติเหตุผลิตขึ้นเมื่อไร และหมดอายุแล้วหรือยัง??? ในหลายๆ ประเทศชั้นนำอย่าง USA, Canada, ญี่ปุ่น, Australia รวมถึงประเทศในกลุ่มEurope มีการกำหนดกฎหมายบังคับให้ผู้ผลิตคาร์ซีททุกรายต้องระบุวันที่ผลิตไว้อย่างชัดเจนเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่สามารถตรวจสอบอายุของคาร์ซีทได้ โดยส่วนใหญ่จะแนะนำให้ใช้คาร์ซีทที่มีอายุไม่เกิน 7-10 ปี นับจากวันที่ผลิต แต่เนื่องจากคาร์ซีทแต่ละแบรนด์และแต่ละรุ่นมีจุดสังเกตุวันที่ผลิตต่างกัน จึงทำให้ยากต่อการตรวจสอบ วันนี้Baby Gift มีคำแนะนำที่ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถตรวจสอบวันที่ผลิตได้ด้วยตัวเอง Aprica แบรนด์ผลิตภัณฑ์เด็กอ่อนระดับ premium ยอดนิยมอันดับ 1 จากญี่ปุ่น กับคาร์ซีทรุ่น Fladea Grow ที่สามารถปรับใช้ได้ถึง 3 รูปแบบสำหรับวัยแรกเกิด – 4 ปีนี้มีจะมีวันเดือนปีที่ผลิตฉีดขึ้นบล๊อกอยู่ที่ฐานพลาสติกของคาร์ซีทเป็นแนวตั้ง โดยจะใช้สัญญลักษณ์วงกลมพร้อมลูกศรอยู่ข้างในชี้ตามตัวเลขเรียงตามลำดับ คาร์ซีทสำหรับเด็กวัย 9 เดือน – 12 ปี รุ่น Air Groove STD , Air […]

Menu
All Categories
All Brands
All Ages
Promotions
Locations
BabyGift Family
BabyGift Care
Parents Guide
News & Event

All Categories

All Categories
All Brands
All Ages