รถเข็นเด็กยี่ห้อไหนดี แนะนำรถเข็นเด็ก พร้อมวิธีการเลือกซื้อ

การเลือกซื้อรถเข็นคันแรกให้ลูกน้อย อาจจะเป็นปัญหาชวนปวดหัวสำหรับคุณพ่อคุณแม่ เพราะปัจจุบันรถเข็นเด็กมีหลากหลายรูปแบบให้เลือกเยอะมากมาย จนหลายคนตัดสินใจไม่ถูก ว่าจะเลือกรถเข็นเด็กยี่ห้อไหนดี ? ต้องดูที่อะไรบ้าง ให้เหมาะกับลูกน้อยในวัยแรกเกิด และตรงตามไลฟ์สไตล์คุณพ่อคุณแม่ วันนี้ Baby Gift มีคำตอบ . . .

“ เพราะ รถเข็นเด็ก ทุกคัน
ไม่ได้เหมาะกับเด็กแรกเกิดทุกคัน ”
หลายคนยังเข้าใจผิดว่า รถเข็นเด็ก แต่ละคัน ดูๆแล้วก็คล้ายๆกัน น่าจะใช้เหมือนๆ กันแต่ในความเป็นจริง แล้วเด็กแรกเกิดมีความบอบบางและต้องการการดูแลเป็นพิเศษ รถเข็นเด็กสำหรับเด็กแรกเกิดจึงต้องมีคุณสมบัติเฉพาะที่นอกจากจะช่วยปกป้องสรีระของลูกน้อย แล้วยังช่วยเสริมพัฒนาการรอบด้าน สร้างสุขอนามัยที่ดี และสร้างรอยยิ้มแห่งความสุขให้ทั้งคุณแม่และลูกน้อยได้อีกด้วย
เลือกรถเข็นเด็ก ให้เหมาะกับช่วงวัยแรกเกิด
นอกจากคาร์ซีทแล้ว รถเข็นเด็ก ก็เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ต้องคำนึงถึงเรื่องของอายุเด็กเป็นสำคัญ เพราะรถเข็นเด็กทุกคันไม่ได้เหมาะกับเด็กทุกคนโดยเฉพาะเด็กในช่วงวัยแรกเกิด หรือเด็กทารกที่ต้องการการดูแลใส่ใจมากเป็นพิเศษ เราจึงควรเลือกรถเข็นเด็กที่มีคุณสมบัติต่อไปนี้ จะช่วยให้เด็กนอนหลับในรถเข็นเด็กได้อย่างสบายและมีสุขภาพดี

1. มีชุดหมอน Newborn Support ที่บริเวณคอและสะโพก
เด็กแรกเกิดช่วงคอและกระดูกสันหลังยังไม่แข็งแรง และต้องการได้รับการปกป้องเป็นพิเศษ การมีชุดหมอน Newborn Support เสริมบริเวณคอและสะโพก จะช่วยประคองให้ศีรษะและหลังยืดเป็นเส้นตรง ให้ลูกนั่งรถเข็นได้อย่างปลอดภัย ไม่ทำให้ลูกคอพับโงนเงน หรือเอนไปมา และยังช่วยให้ลูกน้อยหายใจได้สะดวก เติมออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงสมองในขณะหลับได้อย่างเต็มที่
2. เลือกเบาะรถเข็นที่ปรับนอนได้ 170 องศา
ไม่ควรเลือกเบาะรองนอนที่ปรับนอนได้น้อยเกินไปหรือมากเกินได้ แต่ควรเลือกเบาะปรับได้ 170 องศา เพราะเด็กทารกมีกิจกรรมหลักคือ การทานนมและนอน เบาะที่ปรับให้ศีรษะสูงขึ้นเล็กน้อย (ในระดับ 170 องศา) จะช่วยลดโอกาสเกิดภาวะกรดไหลย้อนในเด็กได้ ยิ่งสมัยนี้มีการออกแบบเบาะรถเข็นเด็กตามหลัก Baby Ergonomic Design ทำให้เราสามารถปรับระดับองศาเบาะนอนแบบแยกส่วนตั้งแต่ศีรษะ กลางลำตัวและปลายเท้าได้ ตามพัฒนาการของลูกรัก ทำให้ช่วยปกป้องต้นคอ กระดูกสันหลัง และปลายเท้าได้อย่างสมบูรณ์มากขึ้น

3. เข็นได้นิ่ง ไม่สั่นสะเทือนจนทำให้ลูกน้อยสะดุ้งตกใจ
รถเข็นเด็กส่วนใหญ่ใช้เวลาเดินทางออกนอกบ้าน บางครั้งอาจเจอพื้นผิวถนนที่ขรุขระ ให้ลองจินตนาการว่าถ้าเราต้องนั่งรถไปในที่ขรุขระ รถที่เรานั่งจะเขย่าเราจนมืนและเวียนหัวได้เลยทีเดียว เด็กก็เช่นกัน ดังนั้นรถเข็นเด็กควรมีระบบกันกระแทกอย่างดี จะช่วยไม่ให้เกิดการสั่นสะเทือน ทำให้ลูกน้อยนอนหลับได้สนิท ไม่รู้สึกถูกเขย่าหรือสั่นตลอดเวลา ซึ่งปัจจุบันก็มีรถเข็นเด็กหลายๆรุ่นที่มีโช๊คบริเวณล้อ หรือเสริมระบบลดแรงสั่นสะเทือนใต้ที่นั่งเพื่อให้ลูกน้อยรู้สึกแฮปปี้ตลอดการเดินทาง
4. มีหลังคาที่ปกป้องลูกน้อยได้จาก รังสี UV
เพราะเด็กมีผิวบอบบาง และดวงตาที่ยังไม่พร้อมสู้แสงจ้า หลังคาบังแดดที่สามารถคลุมได้มิดชิดจะช่วยปกป้องผิวและดวงตาลูกน้อยจากแสง UV ได้ดี และแม้ไม่ได้อยู่กลางแดดหลังคา ก็ยังมีความสำคัญเพราะช่วยปกป้องดวงตาลูกน้อยที่กำลังนอนหงายมิให้ปะทะกับแสงจ้าจากหลอดไฟบนเพดานได้
5. รถเข็นมีความสูงจากพื้น ไม่น้อยกว่า 50 ซม.
นอกจากจะช่วยให้ลูกรักอยู่ไกลจากฝุ่นและสิ่งสกปรกบนพื้นถนนซึ่งเป็นแหล่งของเชื้อโรคได้แล้ว เบาะรองนอนที่สูงยังช่วยให้ลูกน้อยอยู่ห่างจากพื้นที่มีความร้อนสะสมได้อีกด้วย

6. รถเข็นที่สามารถปรับเข็นได้ 2 ทิศทาง
พ่อและแม่คือบุคคลที่เด็กให้ความไว้วางใจมากที่สุด เมื่อนำลูกลงนอนในรถเข็นเด็กคุณพ่อคุณแม่ควรอยู่ในตำแหน่งด้านหน้า เพื่อให้ลูกน้อยได้เห็นหน้าตลอดเวลา ซึ่งจะช่วยให้ลูกมั่นใจว่าแม้คุณพ่อคุณแม่ไม่ได้อุ้มอยู่แต่ก็ยังอยู่ใกล้ๆ เสมอ หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเด็กร้องไห้เพราะไม่ชอบนั่งรถเข็นเด็กโดยไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วเค้าแค่กำลังร้องเรียกหาคุณพ่อคุณแม่ที่หายไปจากสายตาเค้าต่างหาก
7. เลี้ยวได้ง่าย ล้อหมุนได้ดีเวลาเลี้ยว ไม่ใช้แรงเยอะจนเกินไป
ล้อรถเข็นเด็กทั่วไปจะหมุนได้ 360 องศาเฉพาะคู่หน้า ซึ่งถ้าคุณต้องเข็นลูกจากด้านหลังของลูกก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าในกรณีที่คุณพ่อคุณแม่ต้องดูแลลูกในวันแรกเกิด การเข็นลูกในตำแหน่งจากด้านหน้าของลูกจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก รถเข็นเด็กที่มีล้อสามารถหมุนได้ 360 องศาทั้ง 4 ล้อจะช่วยให้คุณสามารถควบคุมทิศทางการเข็นได้ง่ายมากๆ แต่ข้อควรระวังคือควรเลือกซื้อรถเข็นที่หมุนครั้งละ 2 ล้อเท่านั้น (เมื่อยืนอยู่ด้านหลัง ปล่อยให้ล้อหมุนเฉพาะคู่หน้า และเมื่อยืนอยู่ด้านหน้าก็ควรให้ล้อหมุนเฉพาะคู่หลัง) มิเช่นนั้นจะควบคุมทิศทางไม่ได้เลย
8. เบาะรถเข็นระบายอากาศได้ดี ลูกนั่งไม่ร้อน
เพราะเด็กทารกมีรูขุมขนเล็กและระบบการปรับอุณหภูมิในร่างกายยังทำงานได้ไม่เต็มที่ จึงทำให้การระบายเหงื่อเป็นไปได้ช้า ความร้อนในตัวถูกกักเก็บไว้ใต้ผิวหนังเด็กจึงเหงื่อออกได้มากโดยเฉพาะในเวลานอน บริเวณศีรษะและหลังจึงมักชุ่มเหงื่อตลอดเวลาแม้จะอยู่ในห้องแอร์ก็ตาม
รถเข็นเด็กทารกที่ดีควรจะมีช่องระบายอากาศที่หลังเบาะและแผ่นฉนวนกันความร้อนสีเงิน ที่นอกจากจะช่วยระบายเหงื่อจากหลังเด็กเพื่อระบายความอับชื้นแล้วยังช่วยสะท้อนความร้อนจากภายนอกไม่ให้สะสมที่หลังเด็กได้ดีอีกด้วย
วัสดุของเบาะรถเข็น ที่สัมผัสผิวหนังของเด็กโดยตรง ควรมีคุณสมบัติระบายอากาศได้ดี จะช่วยลดความอับชื้นช่วยให้ศีรษะและหลังของลูกไม่เปียกแฉะในเวลานอน

เลือกรถเข็นเด็ก ตามไลฟ์สไตล์พ่อแม่
นอกจากการเลือกรถเข็นเด็กตามวัยของลูกรักแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ ไลฟสไตล์ ของคุณพ่อคุณแม่ ซึ่งในปัจจุบันมีการออกแบบรถเข็นออกมาหลายรูปแบบให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมหลายแบบหลายสไตล์ จะมีอะไรบ้างไปดูกันค่ะ . . .



1. คุณพ่อคุณแม่ที่ชื่นชอบเดินทางท่องเที่ยว
คุณพ่อคุณแม่ ที่รักการเดินทางท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ เมื่อมีลูกน้อยก็อยากพาลูกน้อยไปเปิดประสบการณ์ใหม่ไปพร้อมๆกัน การที่มีรถเข็นที่มีขนาดไม่ใหญ่จนเกินไป ก็จะทำให้เก็บเข้าด้านหลังรถได้แม้จะเป็นรถเล็ก หรือนำขึ้นเครื่องได้อย่างสบาย ส่วนแม่ๆที่ตัวเล็กแถมสัมภาระของตัวเองก็เยอะแล้ว การมีรถเข็นที่น้ำหนักเบา ยกง่าย พับสะดวก ก็จะช่วยให้การเดินทางพาลูกเที่ยว สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นค่ะ
สำหรับบ้านไหนที่มีแพลนพาลูกขึ้นเครื่องบิน ไม่ต้องกังวลเรื่องรถเข็นใหญ่เกินไป เอาขึ้นเครื่องไม่ได้แล้วค่ะ เพราะปัจจุบันหลายๆสายการบินสามารถนำรถเข็นลงไปเก็บใต้ท้องเครื่องแ ละเมื่อถึงปลายทางก็ไปที่จุดรับคืนได้เลยสะดวกสบายมากๆ แต่ควรเลือกรถเข็นที่พับเก็บได้ง่าย และมีน้ำหนักเบา เพราะเวลาขึ้นเครื่องจะต้องพับและกางอยู่บ่อยครั้ง ตรงนี้ก็จะช่วยให้คุณแม่คล่องตัวในการเดินทางมากขึ้น




2. เลือกรถเข็นที่มีดีไซน์และสีสัน ถูกใจคุณพ่อคุณแม่
ปัจจุบันมีรถเข็นนอกจากจะมีฟังชั่นให้ความสะดวกสบายแล้ว ยังมีสีสันเยอะแยะมากมายให้คุณพ่อคุณแม่ได้เลือกตามความชอบ ไม่ว่าจะเป็น สีดำเทาเรียบหรูดูเท่ หรือสีชมพูที่ให้ความหวานๆ คุณพ่อคุณแม่สามารถเลือกรถเข็นตามสไตล์ที่ชอบ รวมถึงสีที่ถูกใจได้เลยค่ะ
ส่วนคุณสมบัติรถเข็นเด็กอื่นๆที่ คุณพ่อคุณแม่อาจพิจารณาเพิ่มเติม มีอะไรบ้าง ไปดูกันค่ะ . . .
- เบาะที่นั่ง สามารถถอดซักทำความสะอาดได้เองง่ายๆที่บ้าน หรือนำเข้าซักเครื่องซักผ้าได้
- พื้นที่ใส่ของด้านล่าง ขนาดใหญ่ ที่สามารถเก็บสัมภาระลูกน้อยและคุณแม่ได้ครบ
- ราคาขายต่อ เมื่อลูกน้อยโตพอที่จะไม่ใช้งานแล้ว
- การรับประกันสินค้า และการบริการหลังการขาย รวมถึงความพร้อมของทีมงานและอะไหล่ทดแทน
เป็นยังไงกันบ้างคะ กับเคล็ดลับวิธีการเลือกรถเข็นเด็ก ที่เบบี้กิ๊ฟนำมาฝาก บ้านไหนกำลังวางแผนซื้อรถเข็นให้ลูกสักคัน ลองเอาไปปรับใช้กันดูนะคะ หรือ พาลูกน้อยมาลองรถเข็นเด็ก ได้ที่ BabyGift ทั้ง 4 สาขา ใกล้บ้านคุณ เรายินดีให้คำแนะนำ พร้อมสาธิตการใช้รถเข็นเด็กอย่างถูกวิธี
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
ลดอาการแพ้ท้อง ตอนตั้งครรภ์ทำให้คุณแม่หลายคนคิดว่าการจะมีลูกซักคนไม่ใช่เรื่องง่ายเลยใช่ไหมคะ อาการแพ้ท้องส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในช่วง 3 เดือนแรก อาการหลัก ๆ ก็เลยจะมีวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ถ้าหากคุณแม่มีอาการนี้แบบนี้อยู่ หรืออยากลดอาการแพ้ท้อง เราเลยมีเคล็ดลับง่าย ๆ ที่มาช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องมาฝากกันค่ะ แพ้ท้อง เกิดจากอะไร? อาการแพ้ท้องเกิดจากฮอร์โมน HCG (Human Chorionic Gonadotropin) ในร่างกายของคุณแม่เพิ่มสูงขึ้น จนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางทางร่างกายและจิตใจ จนมีอาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน และอื่น ๆ 8 เคล็ดลับที่ช่วยลดอาการแพ้ท้อง 1. กลิ่นหอมสดชื่นเบา ๆ ช่วยได้ คุณแม่ที่ได้กลิ่นน้ำหอมฉุน กลิ่นเทียน กลิ่นธูป หรืออื่น ๆ แล้วมีอาการคลื่นไส้ ให้รีบออกมาจากตรงนั้นเลยค่ะ เพราะเรื่องกลิ่นก็มีผลกับอาการแพ้ท้อง คุณแม่ควรจะอยู่ในที่ที่มีอากาศถ่ายเท หากลิ่นสดชื่นธรรมชาติ ไม่ฉุน ก็จะช่วยให้คุณแม่อาการดีขึ้น รู้สึกเวียนหัวน้อยลง แล้วก็ช่วยให้ผ่อนคลายได้ด้วย 2. ดื่มน้ำลดอาการหน้ามืด อาการแพ้ท้องส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบของการอาเจียน การดื่มน้ำเปล่าอุณภูมิปกติหรือน้ำส้มคั้นสักแก้วก็จะช่วยให้คุณแม่สดชื่นขึ้นได้ ช่วยให้ร่างกายไม่ขาดน้ำด้วยค่ะ และที่สำคัญคุณแม่ต้องดื่มน้ำเปล่าเป็นประจำด้วยนะคะ […]
คำถามติดอันดับยอดฮิตของคุณแม่มือใหม่คือ “เลือดล้างหน้าเด็กคืออะไร และต่างจากประจำเดือนอย่างไร?” เพราะเจ้าเลือดตัวนี้จะเป็นตัวชี้ชะตาเลยว่า เรากำลังจะเป็นแม่คนหรือเปล่า เอาล่ะค่ะ เราจะไม่ปล่อยให้คุณแม่ต้องสงสัยกันนาน ลองมาดูกันดีกว่าว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคุณแม่นั้นเป็นเลือดล้างหน้าเด็กหรือประจำเดือนกันแน่ เลือดล้างหน้าเด็กคืออะไร? เลือดล้างหน้าเด็กนั้นเป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าคุณกำลังจะเป็นแม่คน แต่ก็ไม่ใช่ว่าแม่ท้องทุกคนจะมีเลือดล้างหน้าเด็กนะคะ เลือดล้างหน้าเด็กก็คืออาการที่มีเลือดออกมาจากทางช่องคลอด แต่ก็เป็นแค่แบบกะปริบกะปรอยเท่านั้นเอง เลือดล้างหน้าเด็กเกิดจากอะไร? เลือดล้างหน้าเด็กเกิดจากการที่ตัวอ่อนเข้าฝังตัวกับเยื่อบุโพรงมดลูกค่ะ เพราะบางครั้งการฝังตัวนี้อาจจะทำให้หลอดเลือดฝอยในโพรงมดลูกแตก ทำให้มีเลือดออกมาจากช่องคลอด แต่ไม่ได้เยอะอะไรเท่าไหร่นะ เลือดล้างหน้าเด็กมาแค่วันเดียวใช่หรือไม่? ส่วนใหญ่แล้วเลือดล้างหน้าเด็กจะมาประมาณ 2-3 วันค่ะ แต่จะมาไม่ตรงกับรอบเดือนของเรานะคะ โดยจะมาก่อนครบกำหนดรอบเดือนประมาณ 1 อาทิตย์ เลือดล้างหน้าเด็กกับประจำเดือนต่างกันอย่างไร? เลือดล้างหน้าเด็กกับประจำเดือนค่อนข้างแตกต่างกัน และแยกได้อย่างค่อนข้างง่ายเลยล่ะค่ะ อย่างหนึ่งคือเลือดล้างหน้าเด็กจะมีสีที่จางกว่าเลือดประจำเดือนค่ะ และมีปริมาณไม่เยอะเท่า นอกจากนี้ในบางคนที่มีอาการปวดท้องประจำเดือนเป็นประจำแล้ว จะยิ่งสังเกตง่ายกว่าเดิมอีกค่ะ เพราะเลือดล้างหน้าเด็กจะไม่มาพร้อมกับอาการปวดท้องค่ะ และที่สำคัญคือ เลือดล้างหน้าเด็กจะมาไม่ตรงรอบเดือนของเราด้วย แล้วอาการแท้งคุกคามคืออะไร? อาการหรือภาวะแท้งคุกคามคือการแท้งบุตรที่มีเลือดออกมาจากทางช่องคลอดก่อนครบกำหนดคลอด โดยมาจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นความผิดปกติของทารกในครรภ์ คุณแม่ที่ตั้งท้องตอนที่มีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป โรคเรื้อรัง หรือตำแหน่งการฝังตัวของตัวอ่อนที่ผิดไปจากปกติ อาการแท้งคุกคามนี่เกิดขึ้นได้ในทุกไตรมาสของการตั้งครรภ์เลยนะคะ เพราะงั้นคุณแม่ที่กำลังท้องอ่อนๆ หรือยังไม่รู้ตัวว่าท้อง การมีเลือดออกมาจากทางช่องคลอดก็สามารถเป็นได้ทั้งเลือดล้างหน้าเด็ก ประจำเดือน และแท้งคุกคามเลย ความแตกต่างระหว่างเลือดล้างหน้าเด็กกับแท้งคุกคาม? ถ้าคุณยังไม่รู้ตัวว่ากำลังจะเป็นแม่คน แต่มีเลือดไหลออกมาจากทางช่องคลอดที่ไม่ตรงกับการมารอบเดือนแล้วนั้น จะมีสาเหตุได้อยู่สองอย่างค่ะ ก็คืออาจจะเป็นเลือดล้างหน้าเด็ก หรือแท้งคุกคาม […]
หากคุณแม่กำลังตั้งครรภ์ นอกจากจะรู้สึกว่ามีการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ของร่างกายมากมาย จนตัวเองเปลี่ยนไปเป็นคุณแม่ท้องโตใหญ่อุ้ยอ้ายแล้ว ยังมีอาการต่างๆ ที่ทำให้คุณแม่รู้สึกไม่สบายตัวอื่นๆ อีก ซึ่งคุณแม่หลายท่านอาจจะคิดว่าอาการไม่สบาย ปวดโน่นนี่นั่นเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่ทว่า…อาการปวดในบางอย่างนั้น อาจเป็นสัญญาณอันตรายที่บอกถึงภาวะเสี่ยงและโรคแทรกซ้อนในระหว่างตั้งครรภ์ได้ โดยเฉพาะอาการปวดท้องผิดปกติ เราจึงชวนคุณแม่มาเรียนรู้ข้อมูลเกี่ยวกับอาการปวดท้องขณะตั้งครรภ์ที่ชวนน่าสงสัย เพื่อให้คุณแม่รู้ว่าอาการแบบไหนที่ผิดปกติ จะได้สังเกตและรู้ทันอันตราย รีบไปพบแพทย์ก่อนอาการจะรุนแรงลุกลามบานปลายจนเกิดการสูญเสียขึ้นได้ค่ะ สังเกตอาการปวดท้องขณะตั้งครรภ์ มาดูกันว่าอาการปวดท้องของคุณแม่ตั้งครรภ์ส่วนใหญ่ เกิดจากอะไรกันบ้าง 1. ปวดท้อง แน่นท้อง จุกเสียดกลางอก อาจเป็นอาการของ กรดไหลย้อน หรือกระเพาะอาหารอักเสบ มีสาเหตุเกิดจากการมีกรดในกระเพาะอาหารมาก อาหารไม่ย่อย ทำให้มีอาการแน่นท้อง หรือมีกรดไหลย้อนกลับไปที่หลอดอาหาร โดยมีอาการร่วมต่างๆ เช่น แสบร้อนกลางอก ลิ้นปี่ ลำคอ มีอาการคลื่นไส้ เรอ แน่นหน้าอก ที่มักเกิดขึ้นหลังจากทานอาหาร หรือในช่วงเวลากลางคืน สาเหตุของอาการจุกเสียดแน่นท้องของคุณแม่ตั้งครรภ์ เกิดได้ทั้งจากการกินอาหารมากเกินไป กินอาหารรสจัด รสเปรี้ยว รสเผ็ด กินผลไม้ที่มีกรด เช่น มะนาว กินอาหารที่ไขมันสูงทำให้ย่อยยาก สาเหตุจากฮอร์โมนขณะตั้งครรภ์ที่เปลี่ยนแปลงทำให้กล้ามเนื้อที่อยู่ระหว่างหลอดอาหารและกระเพาะอาหารเกิดการคลายตัว รวมถึงลูกในท้องที่ใหญ่ขึ้นไปดันท้องคุณแม่ทำให้กรดในกระเพาะไหลย้อนขึ้น ป้องกันดูแลได้ : ด้วยการกินอาหารทีละน้อยๆ แต่บ่อยมื้อ เลี่ยงอาหารรสเผ็ด […]
ขวดนมที่ผลิตจากพลาสติกทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นขวดที่ผลิตจากพลาสติกประเภท polypropylene (PP), polyethersulfone (PES), polyphenylsulfone (PPSU) ซึ่งไม่มีสาร BPA ในกระบวนการผลิต (สามารถตรวจสอบได้ที่ข้างกล่อง) สามารถใช้ตู้อบ UV ในการฆ่าเชื้อได้ และยังเป็นการชลอการเสื่อมของพลาสติกเพราะการฆ่าเชื้อด้วยแสง UV เป็นการใช้แสงและความร้อนต่ำแต่สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ถึง 99.99% ขวดนมที่ผลิตจากแก้ว สามารถใช้กับตู้อบ UV ในการฆ่าเชื้อได้ทุกแบรนด์ ขวดนมที่ผลิตจากซิลิโคนที่มีขอบเกลียวเป็นพลาสติกแบบถอดแยกชิ้นส่วนได้ สามารถใช้กับตู้อบ UV ในการฆ่าเชื้อได้ เพราะไม่ใช้สารเคมีในการเชื่อมขอบเกลียวพลาสติกให้ติดกับขวดซิลิโคน ขวดนมที่ไม่สามารถใช้กับตู้อบ UV ในการฆ่าเชื้อได้ ขวดนมที่ผลิตจากซิลิโคนที่มีขอบเกลียวเป็นพลาสติกแบบแยกชิ้นส่วนไม่ได้ ไม่สามารถใช้กับตู้อบ UV ในการฆ่าเชื้อได้ เพราะมีการเชื่อมต่อระหว่างขอบเกลียวพลาสติกและขวดซิลิโคนให้ยึดติดกันโดยใช้วัสดุ ที่ไม่สามารถระบุได้ เป็นตัวเชื่อม ซึ่งวัสดุที่ใช้เชื่อมนี้จะเสื่อมสภาพเมื่อได้รับแสง UV เป็นระยะเวลานาน คำแนะนำสำหรับการใช้ขวดนม : ควรเปลี่ยนขวดนมหลังจากการใช้งานแล้วทุกๆ 6-12 เดือน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
วันหยุดสัปดาห์นี้ คุณพ่อคุณแม่ท่านไหนอยู่บ้านกับเจ้าตัวเล็ก ยังไม่มีแพลนทำอะไรกันบ้าง?ลองมาดู กิจกรรมครอบครัว สนุกๆแม้อยู่ที่บ้าน ที่ Baby Gift นำมาฝากกันค่ะ รับรองว่าวันหยุดนี้ไม่เงียบเหงาแน่นอน ถ้าพร้อมแล้ว ตามมาดูกันเลย !! ทำอาหารเมนูพิเศษร่วมกัน สิ่งที่มีค่ามากกว่า การมอบของขวัญให้แก่กัน คือ การที่ครอบครัวพูดคุยและใช้เวลาดีๆด้วยกัน เชื่อว่าในวันจันทร์ถึงศุกร์ คนในครอบครัวก็ต่างมีหน้าที่การงานที่ต้องทำ จนอาจไม่มีเวลาว่างที่จะได้อยู่ร่วมกันมาก การทำอาหารเมนูพิเศษร่วมกันในวันหยุด จึงเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมครอบครัว ที่สามารถสร้างช่วงเวลาดีๆให้กับลูกน้อย และสร้างความสันพันธ์ในครอบครัวได้ดีเลยทีเดียว นอกจากจะช่วยฝึกทักษะด้านทำครัวให้กับเจ้าตัวเล็กแล้ว การได้เรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริง จะช่วยกระตุ้นพัฒนาการและกระบวนการคิดได้หลายๆด้าน เสริมสร้างจินตนาการได้ดี เด็กจะจดจำและเรียนรู้ได้ง่ายกว่าการมองเห็นเพียงภาพจากในหนังสือ หรือจากที่โรงเรียน รับรองว่าคุณพ่อคุณแม่จะได้เห็นแววตาที่ตื่นเต้น และมีความสุขของเขาอย่างแน่นอน แต่งานนี้ไม่ง่ายเลย คุณแม่อาจจะต้องเตรียมตัวรับมือกับความวุ่นวายของลูกๆเป็นพิเศษ วันหยุดสัปดาห์นี้ อย่าลืมลองถามเจ้าตัวเล็กว่าอยากทานเมนูอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า แล้วเตรียมของให้พร้อมเข้าครัวกันเลย จัดสวนปลูกต้นไม้กับเจ้าตัวเล็ก อีกหนึ่งกิจกรรมที่ทำได้ง่ายๆที่บ้านกับเจ้าตัวเล็ก สำหรับบ้านที่ชอบธรรมชาติและมีพื้นที่ว่างนอกตัวบ้าน วันหยุดนี้ลองจูงมือลูกน้อยของคุณและคนในครอบครัว มาจัดสวนปลูกต้นไม้ง่ายๆ คุณพ่อคุณแม่ทราบไหมคะ นอกจากของเล่นที่ซื้อให้เด็กๆจะช่วยเสริมพัฒนาการแล้ว ของเล่นจากธรรมชาติก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่สำคัญและเป็นประโยชน์มากๆเช่นกัน การที่เด็กได้คลุกคลีกับพื้นดิน ต้นไม้ หรือแมลง จะทำให้เด็กเข้าใกล้ธรรมชาติและรู้จักโลกนี้มากยิ่งขึ้น การปลูกต้นไม้เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้ลูกเรียนรู้การมีความรับผิดชอบและดูแลต้นไม้นั้นๆ นอกจากจะทำให้สนุกสนานเพลิดเพลินกับธรรมชาติแล้ว ยังช่วยทำให้คนในบ้านมีเวลาร่วมกันมากขึ้น เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้บ้านร่มรื่นน่าอยู่ ระหว่างปลูกต้นไม้นั้นคุณพ่อคุณแม่ยังสามารถสอนเจ้าตัวเล็กได้ ทั้งเรื่องดิน เรื่องพืช […]
พอใกล้คลอด คุณแม่หลายคนก็มองหาวิธีหรือเคล็ดลับที่จะทำให้คลอดลูกง่าย หรือคุณแม่บางคนก็อาจจะเริ่มหาข้อมูลตั้งแต่เริ่มท้องเลยก็ว่าได้ คุณแม่สมัยนี้ส่วนใหญ่มักจะเลือกผ่าคลอดกันอยู่เยอะ เพราะสามารถเลือกฤกษ์งามยามดี แถมไม่ต้องทนเจ็บท้อง หรือรอลุ้นว่าจะปวดท้องคลอดตอนไหน ส่วนคุณแม่ที่อยากคลอดธรรมชาติ ก็อาจจะเคยได้ยินมาว่าการเดินบ่อยๆ จะช่วยทำให้คลอดลูกได้ง่าย ความเชื่อนี้จริงหรือไม่ แล้วถ้าจริง มันเป็นไปได้ยังไง สำหรับในบทความนี้ เรานำความรู้ดีๆ มาฝากกันค่า ประโยชน์ของการเดิน 1.การเดินเป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่ง แน่นอนว่าคุณหมอต่างก็แนะนำให้คุณแม่ท้องทุกคนออกกำลังกายเบาๆ ไม่หักโหม หรือไม่ออกแรงมากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นเล่นโยคะ ว่ายน้ำ หรือแม้แต่การเดิน เพราะการออกกำลังกายจะทำให้คุณแม่และลูกน้อยมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง และรับออกซิเจนได้เต็มปอด 2. การเดินช่วยกระตุ้นฮอร์โมน การเดินจะช่วยหลั่งฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่มีชื่อเรียกว่าออกซิโตซิน ซึ่งสร้างมาจากต่อมใต้สมอง เจ้าฮอร์โมนตัวนี้เป็นฮอร์โมนที่จะหลั่งออกมากระตุ้นให้มดลูกหดบีบตัว และทำให้ลูกน้อยออกมาลืมตาดูโลกได้อย่างไม่นานเกินรอค่ะ 3.เรียนรู้จังหวะการหายใจ ในตอนที่คุณแม่เดิน ก็เหมือนกับคุณแม่ได้ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง เรียนรู้ลมหายใจ เรียนรู้การหายใจเข้า หายใจออก อย่าลืมว่าการหายใจเข้าออกแต่ละครั้งก็ควรทิ้งช่วงห่าง อย่าหายใจถี่เกินไป เพราะจะทำให้คุณแม่เหนื่อยมากขึ้นกว่าเดิม คุณแม่ที่คุ้นชินกับการหายใจจะช่วยให้สามารถบังคับแรงเบ่งได้ในตอนคลอดได้ด้วยนะ ข้อเสียของการเดินที่เยอะเกินไป […]






