ทำไม? ลูกไม่กินนมสต๊อก และวิธีฝึกลูกน้อยกินได้สำเร็จ

เพราะลูกน้อยคือที่สุดของความรักจากใจแม่ไม่มีอะไรเทียบได้ คุณแม่ทุกท่านจึงต้องเลือกและหาสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกน้อยเสมอ และ “น้ำนมแม่” คือหนึ่งในอาหารที่มีคุณค่ามากที่สุด และดีที่สุดต่อลูกน้อย เป็นอาหารที่ไม่ต้องไปซื้อหาที่ไหน ด้วยเพราะน้ำนมนั้นกลั่นมาจากอกจากธรรมชาติในร่างกายแม่ที่มุ่งมั่นตั้งใจจะให้ลูกน้อยได้รับคุณค่าสารอาหารเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการอย่างครบถ้วน
ซึ่งการให้นมแม่ได้ยาวนานที่สุด และเต็มที่ที่สุดแก่ลูกน้อย นอกจากจะส่งผลดีเยี่ยมต่อพัฒนาการในทุกด้าน สร้างเสริมภูมิต้านทานทำให้ลูกกินนมแม่ไม่ป่วยง่าย ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากมาย รวมถึงการให้นมแม่ยังดีต่อสุขภาพแม่ในแง่มุมต่างๆ ทั้งการช่วยให้มดลูกเข้าอู่เร็ว มีส่วนช่วยคุมกำเนิดได้ในช่วงหนึ่ง พร้อมกับทำให้สุขภาพและรูปร่างของคุณแม่กลับคืนมาหุ่นดีได้เร็วและง่ายขึ้นด้วย
ดังนั้นเพื่อให้ลูกน้อยได้รับพลังคุณค่าสารอาหารจากน้ำนมนมแม่ให้ยาวนานเต็มที่ คุณแม่ทุกท่านจึงมุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำสต๊อกน้ำนมสะสมไว้ให้ลูกมากๆ และหลายๆ ท่านก็เป็นคุณแม่นักปั๊มได้สำเร็จ มีน้ำนมแม่ให้ลูกเต็มที่ เต็มตู้แช่ แต่ทว่าปัญหาที่คุณแม่กลับต้องพบเจอ คือ ลูกไม่กินนมสต๊อก ที่ทำไว้ จึงมีคำถามมากมายว่าทำไม? ลูกจึงไม่ยอมกิน เพราะเป็นนมแม่เหมือนกัน
เราจึงชวนมาดูสาเหตุที่ลูกน้อยไม่ยอมกินนมสต๊อก พร้อมกับวิธีการฝึกลูกน้อยกินนมแม่จากสต๊อกว่าต้องทำอย่างไร เพื่อแก้ปัญหาให้สำเร็จ ให้ลูกน้อยกินนมได้แม่ยาวนาน ได้รับที่สุดของโภชนาการนมแม่นี้อย่างเต็มที่ไปจนโตค่ะ

สาเหตุที่ ลูกไม่กินนมสต๊อก
- ลูกติดกินนมแม่จากเต้า ด้วยเพราะความอบอุ่นจากเต้า การได้อิงแอบแนบชิดกับคุณแม่ตลอดเวลา ทำให้ลูกน้อยมีความสุข มีความมั่นคงปลอดภัย ดังนั้นเมื่อคุณแม่นำนมแม่สต๊อกใส่ขวดมาให้ลูก ลูกจึงไม่ยอมกิน รวมถึงอาจไม่รู้ว่าการดูดนมจากขวดจะช่วยทำให้อิ่มได้เพราะไม่เคยกินมาก่อน
- ลูกติดกินนมแม่อุ่นๆ เพราะน้ำนมแม่จากเต้ามีอุณหภูมิอุ่นพอเหมาะพอดี ซึ่งการกินนมสต๊อก บางครั้งคุณแม่อาจละลายน้ำนมหรืออุ่นนมแม่ได้ไม่ดี ไม่พอเหมาะแบบที่ลูกเคยกิน จึงทำให้ลูกปฏิเสธน้ำนมสต๊อกนั่นเอง
- ลูกติดวิธีการดูดนมแม่จากเต้า ไม่คุ้นเคยกับการดูดนมจากขวด ทำให้สับสนระหว่างการดูดนมจากเต้า กับดูดนมสต๊อกจากขวดนม เนื่องจากวิธีการดูดนมจากทั้งสองแบบไม่เหมือนกัน โดยการดูดนมแม่จากเต้าลูกน้อยจะต้องอมหัวนมและลานนมให้มิด ลึกและกว้างเพียงพอ และใช้ลิ้น ร่วมกับขากรรไกรช่วยในการดูดนมแม่ทั้งหมด แต่การดูดนมจากขวด จะใช้เพียงปากและลิ้นช่วยในการดูดเท่านั้น ไม่ต้องอ้าปากกว้างเพื่อดูดนมให้น้ำนมไหลออกมาเหมือนดูดจากเต้าแม่
- นมสต๊อกมีกลิ่นแรง รสชาติเปลี่ยนไป ทำให้ลูกน้อยที่ติดรสชาติน้ำนมสดๆ จากเต้าคุณแม่ ไม่ยอมกินนมสต๊อก แม้คุณแม่จะนำนมสต๊อกนั้นมาละลายให้หายเย็นหรืออุ่นแล้วก็ตาม เนื่องจากมีกลิ่นเหม็นหืนบ้าง และรสชาติ หรืออุณหภูมิน้ำนมก็เปลี่ยนไป ลูกจึงไม่ยอมกิน

วิธีฝึกลูกน้อยกินนมสต๊อก
เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาลูกน้อยไม่กินนมสต๊อก คุณแม่จะต้องเตรียมตัวหรือฝึกลูกน้อยให้กินนมแม่สต๊อกจากขวดล่วงหน้า และแก้ปัญหาด้วยวิธีการต่างๆ ดังนี้
- เริ่มฝึกให้ลูกกินนมสต๊อกให้เร็ว ก่อนคุณแม่ต้องกลับไปทำงาน โดยคุณแม่ควรฝึกให้ลูกกินนมสต๊อกได้หลังคลอดประมาณ 1 เดือน หรือก่อนกลับไปทำงานประมาณ 2 สัปดาห์ ซึ่งน่าจะเป็นเวลาใกล้เคียงที่คุณแม่จะเริ่มปั๊มนมทำสต๊อกหลังจากที่ช่วงแรกต้องให้ลูกน้อยวัยทารกกินนมจากเต้าเป็นส่วนใหญ่ เพื่อให้คุ้นเคยและกินต่อเนื่อง รวมถึงหากป้อนนมขวดให้ลูกเร็วเกินไป อาจทำให้ลูกติดใจการดูดนมขวดที่ดูดง่ายและไหลคล่องกว่าได้ ด้วยวิธีการคือ- ฝึกให้ลูกกินนมสต๊อกจากขวดวันละครั้ง โดยใช้จุกนมไซส์เล็กสุด เพื่อไม่ให้น้ำนมไหลเร็วเกินไปจนลูกสำลัก และหากใช้จุกนมที่ไซส์ใหญ่เกินไป จะทำให้ลูกติดการกินนมที่ไหลเร็วไหลง่าย จนทำให้ลูกไม่ยอมกลับมากินนมจากเต้าคุณแม่ได้อีก– อาจเลือกใช้จุกนมที่คล้ายนมแม่ที่มีฐานกว้างใหญ่และมีความนุ่ม เพื่อเลียนแบบการดูดนมให้ใกล้เคียงกับการดูดนมจากเต้า ป้องกันลูกน้อยสับสนและสร้างความคุ้นเคย นอกจากนี้จุกนมที่คล้ายนมแม่หรือเสมือนนมแม่ มักจะออกแบบมาเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกน้อยดูดลมเข้าไปในท้อง จนเกิดแก๊สในท้อง จึงมีส่วนช่วยทำให้ลูกสบายท้อง ป้องกันอาการปวดท้อง แน่นท้องได้
- ผสมนมแม่ที่ปั๊มสดจากเต้า กับน้ำนมสต๊อกที่ละลายแล้ว หมายถึงให้คุณแม่ผสมนมแม่ที่ปั๊มสดจากเต้า กับน้ำนมสต๊อกที่นำมาทำละลายแล้ว ในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นทีละนิดทีละหน่อยทุกๆ 3 วัน เช่น- 1-3 วันแรก หากลูกดื่มนมครั้งละ 4 ออนซ์ ให้ใช้นมแม่ปั๊มสด 3 ออนซ์ ผสมนมสต๊อก 1 ออนซ์– วันที่ 4-6 ให้ผสมนมแม่ปั๊มสดเพิ่มเป็น 2 ออนซ์ ผสมนมสต๊อก 2 ออนซ์(สัดส่วนเท่ากับ 50:50) แล้วพอวันที่ 7-9 ให้เพิ่มนมสต๊อกขึ้นเรื่อยๆ เป็น 3 ออนซ์ ผสมนมแม่ปั๊มสด 1 ออนซ์ จนวันที่ 10 เป็นต้นไป คุณแม่ก็สามารถให้ลูกกินนมสต๊อกได้ทั้งขวด หรือตามปริมาณที่ลูกดื่ม
- ละลายหรืออุ่นนมสต๊อก ไม่ให้มีความเย็น นั่นคือการนำนมสต๊อกที่แช่แข็งมาทำให้ละลายและมีเนื้อน้ำนมที่เข้ากันดี ป้องกันปัญหาลูกไม่กินเพราะนมเย็นหรืออุณหภูมิผิดไป ลูกติดกินนมอุ่นๆ หรือนมจากเต้าคุณแม่ด้วยวิธีการอุ่นนมต่างๆ เช่น นำนมแม่จากช่องฟรีซมาทิ้งไว้ในช่องล่างของตู้เย็นธรรมดาให้นมละลายก่อน 1 วัน แล้ว ทำให้หายเย็น ด้วยการแช่ในน้ำอุ่น แต่วิธีการนี้อาจทำให้คุณแม่ลืมทิ้งไว้ หรือน้ำที่แช่ร้อนเกินไปจนทำนมแม่เสียคุณค่าอาหารดังนั้นจึงแนะนำวิธีการใช้เครื่องอุ่นนม เพื่อความรวดเร็วและสะดวก ซึ่งปัจจุบันมีให้เลือกหลายหลาย ราคาย่อมเยาและมีการทำงานหลายฟังก์ชั่น ทั้งอุ่นนม อุ่นอาหารและละลายน้ำแข็งได้ เนื่องจากจะช่วยให้คุณแม่สามารถนำนมสต๊อกแช่งแข็งมาอุ่นในเครื่องอุ่นนมได้ทันที สามารถตั้งอุณหภูมิได้ตามความเหมาะสม เพื่อไม่ให้น้ำนมร้อนหรือเย็นเกินไป ถือเป็นตัวช่วยที่ดีที่จะทำให้ลูกน้อยกินนมแม่จากสต๊อกได้ง่ายขึ้น
- หากลูกอายุเกิน 12 เดือน อาจเติมรสชาติเพิ่มเติม ในนมสต๊อกได้ เพราะด้วยวัยที่โตขึ้นลูกจะรับรู้และคุ้นเคยกับรสชาติต่างๆ จนทำให้ติดรสชาติและกินนมแม่จากสต๊อกที่มีกลิ่นและรสที่แตกต่างได้ยากมากขึ้น คุณแม่จึงอาจเติมรสชาติที่ลูกชอบลงไปในนมแม่สต๊อกนิดหน่อย เพื่อเปลี่ยนกลิ่นหืนและรสในนมแม่สต๊อก เช่น การเติมน้ำผลไม้ อาทิ น้ำส้มคั้น น้ำแอปเปิ้ล หรือน้ำหวาน แต่ต้องระวังไม่ใส่เยอะหรือหวานมากเกินไป เพราะลูกจะอ้วนและฟันผุได้ หรืออาจนำนมแม่สต๊อกนั้นไปเป็นอาหารที่ไม่ผ่านความร้อน เช่น ทำไอศกรีม กินนมผสมผลไม้ ทำนมปั่นสมูทตี้ เพราะลูกวัย 1 ปีสามารถกินอาหารได้หลากหลายมากขึ้น
- ไม่ให้ลูกกินนมอื่นๆ ควบคู่กับนมแม่ที่ทำสต๊อกไว้ เพราะหากลูกได้เคยกินรสชาติหรือกลิ่นจากนมผสมหรือนมอื่นๆ จะยิ่งทำให้ลูกกินนมสต๊อกได้ยากขึ้น หรือไม่ยอมกินเลย แต่หากลูกไม่เคยลิ้มรสชาติของนมอื่นเลย เมื่อถึงวันที่ต้องกินนมสต๊อก ก็จะยอมกินนมได้หมดหรือกินนมแม่จากสต๊อกได้มากขึ้น
เมื่อคุณแม่รู้สาเหตุของการปฏิเสธนมสต๊อกของลูกแล้ว ก็สามารถแก้ไขและฝึกลูกได้ โดยขอเพียงหมั่นฝึกฝนตามวิธีการต่างๆ ที่แนะนำ พร้อมกับใช้ตัวช่วยต่างๆ เช่น เครื่องอุ่นนม จุกนมที่ดี ร่วมกับการละลายนมสต๊อกที่ถูกต้อง และเทคนิคอื่นๆ โดยที่ไม่ให้ลูกกินนมอื่นๆ เด็ดขาด ก็มั่นใจได้ว่าลูกน้อยจะยอมกินนมแม่ที่สต๊อกไว้ได้ต่อเนื่อง เติบโตแข็งแรงด้วยพลังคุณค่าจากน้ำนมแม่ยาวนานแน่นอนค่ะ
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
แข็งแรง ทนทาน พับ-กางง่าย ลูกน้อยนอนสบาย นี่แหละคุณสมบัติรถเข็นเด็กที่แม่ๆต้องการ 1. รถเข็นเด็กที่แข็งแรง ทนทาน ต้องไม่มีรอยต่อหรือพับเล็กมากเกินไป โครงสร้างควรเชื่อมเป็นชิ้นเดียวกัน เพราะเมื่อผ่านการใช้งาน มักมีการขยับของข้อต่อ เป็นสาเหตุให้โครงสร้างไม่แข็งแรงและเกิดการสั่นสะเทือนเมื่อเข็นในที่ขรุขระ รถเข็นเด็กที่ดีควรมีการเชื่อมต่อส่วนที่สำคัญเป็นชิ้นเดียว จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงแม้ผ่านการใช้งานที่ยาวนาน 2. พับ-กางง่าย ด้วยมือเดียว เพราะต้องพาลูกเดินทางคนเดียวบ่อยๆ แน่นอนว่าแม่ๆ ที่ต้องเลี้ยงลูกเองไปไหนมาไหนกับลูกลำพัง เช่น ไปเดินห้าง เดินสวนสาธารณะ ต้องเลือกรถเข็นเด็กที่ให้ความคล่องตัว ใช้งานง่าย พับกางง่าย ไม่ซับซ้อน คุณแม่สามารถพับรถเข็นเด็กได้เองด้วยมือเพียงข้างเดียวได้ เพราะมืออีกข้างหนึ่งต้องอุ้มลูก พับแล้วตั้งกับพื้นได้โดยไม่ล้มกองบนพื้น จะช่วยให้คุณสามารถลากไปมาสะดวกและยังปลอดจากสิ่งสกปรกบนพื้นที่อาจเป็นอันตรายต่อลูกน้อยได้ 3. ชุด Support สำหรับเด็กแรกเกิด ชุดเบาะรองนอนสำหรับเด็กทารกเป็นสิ่งจำเป็นมาก รถเข็นเด็กแรกเกิด ควรมีหมอนรองรับสรีระเด็กทั้งศีรษะ คอ และหลัง เพราะเด็กทารกจะมีกระดูกสันหลังและคอที่ยังไม่แข็งแรง จึงต้องนอนบนเบาะที่ช่วยรองรับสรีระตั้งแต่ศีรษะ ต้นคอ หลัง และสะโพกเพื่อให้ท่านทนที่ถูกต้องหลังไม่โค้งงอผิดรูป และไม่เกิดการปิดกั้นทางเดินทางหายใจ Aprica รถเข็นเด็ก สำหรับวัยแรกเกิดอย่างแท้จริงๆ คิดค้นและวิจัยโดยกุมารแพทย์ จากประเทศญี่ปุ่น
คาร์ซีท AILEBEBE กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศไทย เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่มั่นใจว่าได้รับคาร์ซีทของแท้และนำเข้าถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมบริการหลังการขายที่ใส่ใจเหมือนครอบครัว เราขอแนะนำให้ตรวจสอบ 2 ขั้นตอนง่าย ๆ นี้เลยค่ะ วิธีตรวจสอบคาร์ซีท AILEBEBE ของแท้ 1. ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์ว่ามีคำแนะนำเป็นภาษาไทยหรือไม่ ? คาร์ซีท Ailebebe ของแท้จะมีฉลากและคำแนะนำการใช้งานเป็นภาษาไทย เช่น ชื่อผลิตภัณฑ์, ข้อมูลผู้ผลิต, วิธีการใช้งาน, และคำเตือนด้านความปลอดภัย ตามที่กฎหมายประเทศไทยกำหนด การมีฉลากภาษาไทยนี้ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่มั่นใจในการใช้งานอย่างถูกต้องและปลอดภัย 2. ตรวจสอบว่ามีสติกเกอร์ BabyGift ตัวแทนนำเข้า Offical หรือไม่ ? คาร์ซีท Ailebebe ของแท้ จะมีการรับประกันและใช้อะไหล่แท้จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งสามารถหาได้เฉพาะจากตัวแทน Official เท่านั้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากสินค้าที่อาจไม่ได้มาตรฐานและไม่ปลอดภัยสำหรับลูกน้อย เพียงแค่นี้คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถมั่นใจได้ว่ากำลังซื้อสินค้าของแท้นำเข้ามาถูกต้อง ใช้ได้อย่างถูกวิธีช่วยให้ลูกน้อยปลอดภัยทุกการเดินทาง หยุดเสี่ยง หยุดใช้คาร์ซีท Ailebebe นำเข้าผิดกฎหมาย การซื้อคาร์ซีท Ailebebe จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของลูกน้อยดังนี้ค่ะ 1.ความเสี่ยงจากการใช้งานคาร์ซีทไม่ถูกต้อง ผู้ลักลอบจำหน่ายมักขาดความรู้และความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับสินค้า วิธีการใช้งาน และคำแนะนำตามมาตรฐานที่แบรนด์กำหนด เนื่องจากไม่ได้รับการอบรมจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญของ Ailebebe […]
เคล็ดลับการฝึกลูกนั่งคาร์ซีท car seat จากประสบการณ์จริงคุณแม่ลูกสอง โดย แม่ป่าน เพจ เลี้ยงลูกอย่างมีความสุข by mommy Arpan 1. ฝึกเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ : ถ้าเป็นไปได้จัดเตรียมคาร์ซีท car seat ไว้ก่อนคลอด และให้ลูกนั่งตั้งแต่วันแรกที่ออกจากโรงพยาบาล จะช่วยสร้างความคุ้นเคยให้กับทั้งตัวลูกและพ่อแม่ 2. ต่อเนื่อง และสม่ำเสมอจนกลายเป็น routine (กิจวัตร) : ไม่ว่าจะไปไหน ใกล้หรือไกลต้องให้เด็กนั่ง car seat ทุกครั้ง เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ ปฏิบัติจนคุ้นชิน และทุกอย่างจะง่ายขึ้นเองค่ะ 3. ปรับทัศนคติให้ตรงกัน (ปัญหาหลักที่หลายบ้านพบเจอ) : โดยเฉพาะผู้ใหญ่ในบ้านที่อาจจะยังไม่เข้าใจ หรือยังมองไม่เห็นความสำคัญ ลองนั่งพูดคุยบอกเล่าเหตุการณ์ๆต่างๆในข่าว ที่เวลาเกิดอุบัติเหตุและเด็กที่นั่ง car seat รอดชีวิต เปรียบเทียบกับเด็กที่ไม่ได้นั่งและเกิดความสูญเสียร้ายแรงตามมา และลองคุยปรับความเข้าใจกับท่านดู เชื่อว่าถ้าท่านรักและห่วงหลานๆเป็นทุน ยังไงวันหนึ่งท่านจะเข้าใจค่ะ อีกวิธีหนึ่งที่แนะนำคือลองหาวิดิโอใน Youtube สาธิตแรงกระแทกที่เกิดขณะรถชน (จะมีสาธิตเปรียบเทียบระหว่างมีคนอุ้มเด็ก กับเด็กนั่งคาร์ซีท ….หวังว่าภาพที่เห็นจะสามารถเปลี่ยนใจของบรรดาผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านได้นะคะ […]
เพราะความปลอดภัยคือเหตุผลอันดับ 1 ที่พ่อแม่ต้องควักเงินซื้อคาร์ซีทให้ลูกน้อย ก็เพื่อปกป้องลูกจากการบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ปัจจัยที่รองลงมาคือ ลูกนอนสบาย ใช้งานง่าย และงบประมาณ มาตรฐานความปลอดภัยของคาร์ซีท จริงๆแล้ววัดจากอะไร ก็ต้องเป็นวัสดุที่รองรับแรงกระแทกด้านใน ซึ่งคาร์ซีทแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อใช้วัสดุภายในที่ไม่เหมือนกัน แบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ ดังนี้ 1. EPS Foam และ EPP Foam EPS Foam (Polystyrene Foam) เป็นวัสดุที่ช่วยลดแรงกระแทก ที่ใช้ใน หมวกกันน๊อค ช่วยปกป้องชีวิต ผู้สวมใส่ โฟมชนิดนึ้จึงถูกนำไว้ในคาร์ซีท ใช้รองรับแรงกระแทกสำหรับศีรษะและส่วนบนของร่างกายเด็ก ในกรณีที่เกิดการกระแทกโฟมจะแตกและจะกระจายแรงกระแทกออกไปโดยแทบไม่มีแรงสะท้อนกลับ จึงทำให้ได้เด็กปลอดภัย ดังนั้นผู้ผลิตคาร์ซีทระดับมาตรฐานสากลส่วนใหญ่ จึงนำโฟมชนิดนี้มาใช้ในคาร์ซีทเพื่อรองรับแรงกระแทกโดยเฉพาะ ส่วน EPP Foam (Polypropylene Foam) เป็นวัสดุที่คล้ายกับ EPS Foam แต่มีความยืดหยุ่น ไม่แตกหักง่าย และทนความร้อนดีกว่า จึงนำไปผลิตเป็นภาชนะบรรจุอาหาร ที่สามารถเข้าไมโครเวฟได้ ข้อมูลอ้างอิงจาก http://www.carseatsite.com/FAQ.htm 2. Urethane […]
ใครกำลังคิดว่ากระเป๋าใส่ของแม่ ไม่ได้จำเป็นอะไร ใช้อะไรก็ได้ ลองแวะมาอ่านบทความนี้กันก่อนค่ะ พอเป็นคุณแม่แล้วก็มีของใช้มากมายต่างๆ ทั้งของเรา ของลูกเยอะแยะไปหมดใช่มั้ยคะ เพราะฉะนั้นการมีกระเป๋าใส่ของลูกก็จะทำให้คุณแม่มีความสะดวก หยิบของง่าย เป็นระเบียบมากขึ้น และในบทความนี้ BabyGift จะพาคุณแม่มาทำความรู้จักกระเป๋าของคุณแม่กันให้มากขึ้นค่ะ จำเป็นแค่ไหน ? กระเป๋าคุณแม่ ต่างจากกระเป๋าปกติยังไง ? กระเป๋าใส่ของคุณแม่มีความแตกต่างจากกระเป๋าทั่วไปในหลายๆ อย่างค่ะ ไม่ว่าจะเป็นขนาดและความจุ ซึ่งโดยมากมักมีขนาดใหญ่ และมีช่องเก็บของหลายช่อง เพื่อบรรจุของใช้สำหรับทั้งคุณแม่และลูกน้อย มีฟังก์ชันการใช้งานที่ถูกออกแบบมาให้สามารถบรรจุของที่จำเป็นต่อการดูแลลูกได้อย่างครบครัน เช่น มีช่องสำหรับใส่ขวดนม ผ้าอ้อม แผ่นรองเปลี่ยนผ้าอ้อม เป็นต้นค่ะ แล้วเราจะเลือกกระเป๋าใส่ของลูกยังไงให้เหมาะกับเรา ใช้ได้นาน มาดูรายละเอียดกันต่อค่ะ เลือก กระเป๋าคุณแม่ ยังไงดี ? การเลือกกระเป๋าที่เหมาะกับตัวคุณแม่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งาน คุณแม่จึงควรเลือกให้เหมาะกับพฤติกรรมและความต้องการใช้งาน เรามาดูวิธีการเลือกซื้อกันค่ะ 1. ขนาด และความจุ : ควรเลือกขนาดที่เหมาะสมกับความต้องการ ไม่ใหญ่หรือเล็กเกินไป รวมถึงมีช่องเก็บของเพียงพอสำหรับใส่ของใช้ของคุณแม่และลูกของเรา 2. น้ำหนัก ความสะดวกในการพกพา และความปลอดภัย : ให้เลือกวัสดุที่แข็งแรงแต่มีน้ำหนักเบา และมีสายสะพายที่นุ่ม และปรับความยาวได้ […]
ด้วยนวัตกรรมที่ถูกวิจัยและคิดค้นโดยกุมารแพทย์จากญี่ปุ่น จึงทำให้มี 10 คุณสมบัติพิเศษ จากรถเข็นเด็ก Aprica นี้ ที่ช่วยให้คุณแม่มั่นใจได้ ว่าลูกน้อยปลอดภัยตลอดการเดินทางแน่นอนค่ะ Sofa Cushion ที่สุดของความนุ่มสบายด้วยนวัตกรรมใหม่ ยกโซฟามาไว้ในรถเข็นเด็ก ช่วยรองรับแรงกระแทก เข็นได้กับทุกพื้นผิวให้ลูกน้อยเพลดเพลินนุ่มสบายในทุกการเดินทาง Double Shock ลดแรงสั่นสะเทือนได้ถึง 40% ด้วยระบบรองรับแรงกระแทกได้ถึง 2 จุด ใต้ที่นั่ง และที่ล้อ Ergonomic Design ที่รองรับการเจริญเติบโต 3 ช่วงวัย ได้อย่างลงตัว Multi-Shockless โครงสร้างแบบลดรอยต่อ โครงสร้างของรถเข็นเด็กถูกเชื่อมต่อส่วนต่างๆเป็นชิ้นเดียวกัน จึงช่วยเพิ่มความแข็งแรงและลดการสั่นสะเทือนได้ดี แม้ผ่านการใช้งานที่ยาวนาน Double Thermo System ลดความอับชื้นแบบ Double ลูกน้อยรู้สึกปลอดโปร่ง สบายตัวช่วยปรับอุณหภูมิในร่างกายให้เหมาะสมด้วยฉนวนกับความร้อนพิเศษ ช่วยสะท้อนความร้อนจากพื้นพร้อมช่องระบายอากาศที่ด้านหลัง ช่วยระบายความร้อนได้ดี ลดความร้อนสะสมบริเวณหลังของลูกน้อย ให้ความรู้สึกสบายตัว เบาะรองนอนทรงนาฬิกาทราย เหมาะกับสรีระของลูกน้อยวัยแรกเกิด เพราะเด็กทารกจะนอนในท่ากางแขนกางขา เบาะรองนอนทรง WM สามารถรับสรีระได้อย่างเหมาะสม ช่วยให้เคลื่อนไหวขยับแขนขาได้อย่างเป้นธรรมชาติ High Seat […]

ร้านสินค้าแม่และเด็กที่คัดสรรนวัตกรรมของใช้แม่และเด็กที่มี
คุณภาพให้คำปรึกษาและบริการ อย่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยให้การเลี้ยงลูกเป็นเรื่องง่าย ปลอดภัย และมีความสุข
Online Shopping
สาขา ปิ่นเกล้า ราชพฤกษ์
สาขา Mega บางนา
สาขา Central World
สาขา BTS วงเวียนใหญ่ (Outlet)
Copyright 2024 © Baby Gift (Retail) Co., Ltd.