ถุงเก็บน้ำนม อลูมิเนียมฟอยล์ คืออะไร ต่างจากพลาสติกอย่างไรบ้าง ?

สำหรับคนที่ชอบการเข้าครัว ทำอาหาร ถนอมอาหาร คงรู้จัก อลูมิเนียมฟอยล์ (Aluminium foil) กันอย่างแน่นอน เพราะเป็นอุปกรณ์ในการถนอมอาหารและใช้ในการนำความร้อนปรุงอาหาร ปัจจุบันได้มีนวัตกรรมใหม่ ๆ นำอลูมิเนียมฟอยล์ไปแปรรูปเป็น ถุงเก็บน้ำนม อลูมิเนียมฟอยล์ เพื่อช่วยในการเก็บรักษาน้ำนมแม่ ไม่ให้มีกลิ่นเหม็นหืน และยังช่วยให้อุ่นนมได้รวดเร็วขึ้น ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจมาก ๆ เราจึงได้หาข้อมูลคุณสมบัติทั้งข้อดีและข้อเสียมาบอกกัน จะน่าใช้หรือไม่ ตอบโจทย์คุณแม่นักปั๊มแค่ไหน ไปดูกันเลย

ถุงเก็บน้ำนม อลูมิเนียมฟอยล์ คืออะไร ? 

คือ การใช้แผ่นอลูมิเนียมฟอยล์ เป็นวัสดุหลักในการผลิตถุงเก็บน้ำนม แทนการใช้พลาสติก โดยการขึ้นรูปถุงนมด้วยอลูมิเนียมฟอยล์ ผ่านการเคลือบด้วย Polyethylene, Polyamide และ Polyester รวม 4 ชั้น ให้ถุงเก็บน้ำนมแข็งแรงทนทานกว่าถุงเก็บน้ำนมพลาสติกใสทั่วไป รวมถึงอลูมิเนียมฟอยล์จะมีคุณสมบัติทึบแสง 100% เพื่อรักษาคุณภาพของน้ำนมแม่ให้คงรสชาติ กลิ่นไม่เหม็นหืน แบบเดียวกันกับการห่ออาหาร ถนอมอาหารในครัวเรือน 

ทดลองอุ่นนมแม่แช่แข็ง ด้วยเครื่องอุ่นนม Baby Bottle Warmer
ถุงเก็บน้ำนม อลูมิเนียมฟอยล์ VS ถุงเก็บน้ำนมพลาสติก

ถุงเก็บน้ำนมอลูมิเนียมฟอยล์ 

  1. วางนมแม่แช่เเข็งลงในเครื่องอุ่นนม
  2. เลือกโหมดอุ่นนม (Warm) ตั้งอุณหภูมิของเครื่องไว้ที่ 37°C
  3. ใช้เวลาในการอุ่นนม 20 นาที ลูกน้อยพร้อมทานได้เลย 

*อลูมิเนียมฟอยล์นำความร้อนได้ดี จะไม่ต้องใช้โหมดละลายน้ำแข็ง (Defrost) เพราะจะทำให้อุณหภูมิของน้ำนมสูงเกินไป* 

ถุงเก็บน้ำนมพลาสติก 

  1. วางนมแม่แช่เเข็งลงในเครื่องอุ่นนม
  2. เลือกโหมดละลายน้ำแข็ง (Defrost) ตั้งอุณหภูมิไว้ที่ 60 °C

*ความร้อน 60 °C เจอกับติดลบ 5-15 °C จะทำให้น้ำแข็งละลาย แต่ยังคงความเย็นอยู่* 

  1. ให้เลือกโหมดอุ่นนม (Warm) ต่อ ตั้งอุณหภูมิของเครื่องไว้ที่ 37 °C ใช้เวลาในการอุ่น 45 นาที ก็จะได้น้ำนมให้ลูกน้อยทาน

สรุปผลการทดลองอุ่นนมแม่

ถุงเก็บเก็บน้ำนมอลูมิเนียมฟอยล์ อุ่นนมแม่ขั้นตอนเดียว ใช้เวลาเพียง 20 นาที ส่วนถุงเก็บน้ำนมพลาสติก อุ่นนมแม่หลายขั้นตอนมากว่า และใช้เวลาถึง 45 นาที ผลสรุปคือถุงเก็บน้ำนมอลูมิเนียมฟอยล์ อุ่นนมแม่แช่แข็งได้รวดเร็วกว่า ถุงเก็บน้ำนมแบบพลาสติกใส

การทดสอบการเปลี่ยนสีน้ำนมแม่ วัสดุอลูมิเนียมฟอยล์ VS วัสดุพลาสติกทั่วไป 

จากการทดลองจะเห็นได้ว่า ถุงทึบแสง 100% จะเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นน้อย ลดการเปลี่ยนสีของน้ำนมแม่ได้ดี ส่วนถุงแบบพลาสติกใส จะเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นมากกว่า ทำให้สีของน้ำนมแม่เปลี่ยนค่อนข้างเยอะนั่นเอง

ถุงเก็บน้ำนม อลูมิเนียมฟอยล์ มีข้อดีอย่างไร 

  • ลดกลิ่นเหม็นหืน น้ำนมแม่สต็อก หากไม่เลือกถุงเก็บน้ำนมที่ใช้วัสดุลดการสัมผัสแสง ลดการสัมผัสอากาศ จะทำให้รสชาติและกลิ่นน้ำนมแม่เปลี่ยนไปได้ง่ายมาก การใช้อลูมิเนียมฟอยล์ จึงเป็นทางเลือกที่ดีในการเก็บรักษานมแม่
  • เก็บความเย็นได้นานขึ้น เป็นคุณสมบัติของอลูมิเนียมฟอยล์อยู่แล้ว ที่เก็บความเย็นได้นานกว่าพลาสติก หากคุณแม่ปั๊มนมนอกบ้าน แล้วเก็บน้ำนมสต็อกใส่กระเป๋าเก็บความเย็น หรือ เจลเย็น การใช้ถุงนมอลูมิเนียมฟอยล์จะช่วยเก็บความเย็นได้นานขึ้นอีก ไม่ต้องห่วงเรื่องน้ำนมจะเสียไว
  • อุ่นนมแม่ได้เร็วขึ้น เหมาะสำหรับคุณแม่ที่เวลาน้อย ด้วยคุณสมบัตนำความร้อนได้ดี จึงสามารถอุ่นนมแม่แช่แข็งได้เร็ว ใช้เวลาเพียง 20 นาที ต่างจากถุงนมแบบพลาสติกที่ใช้เวลาถึง 45 นาที
  • ลดการเปลี่ยนสีน้ำนม ด้วยกระบวนการผลิตจากเทคโนโลยีการปิดกั้นออกซิเจน ลดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น จากผลการทดลอง ถุงนมอลูมิเนียมฟอยล์ลดการเปลี่ยนสีของน้ำนมได้ ต่างจากพลาสติกที่สีของน้ำนมเปลี่ยนไปมาก
  • ถุงนมอลูมิเนียมฟอยล์แข็งแรง ด้วยการผลิตเสริมความแข็งแรงถึง 4 ชั้น Aluminium foil, Polyethylene, Polyamide และ Polyester ทำให้ไม่รั่วซึม ไม่แตกง่าย พร้อมทนอุณหภูมิได้ถึง -20 องศา สามารถแช่แข็งน้ำนมสต็อกได้นานโดยไม่ต้องกังวลว่าถุงนมเป็นน้ำแข็งแล้วปริแตก

ข้อเสียของถุงเก็บน้ำนมอลูมิเนียมฟอยล์ 

  • ถุงแบบทึบแสง 100% ทำให้มองไม่เห็นน้ำนมในถุง สำหรับคุณแม่ที่กังวลเรื่องการรีดไล่อากาศ ไม่ว่าถุงทึบแสง หรือ ถุงพลาสติกแบบใส จะไล่อากาศแบบเดียวกัน แต่ทั้งสองแบบจะไม่สามารถไล่อากาศได้ 100% ส่วนใหญ่แล้ว จะเหลือฟองอากาศที่เป็นฟองเล็ก ๆ อยู่บ้าง ซึ่งไม่ส่งผลต่อน้ำนมแม่
  • ไม่มีขีดระบุปริมาณน้ำนมต่อออนซ์ แต่จะระบุเป็นปริมาณ Max ที่ข้างถุงนม เช่น  max 200 ml. สำหรับคุณแม่ที่กังวลเรื่องปริมาณน้ำนม สามารถดูขีดปริมาณที่ขวดนมของเครื่องปั๊มนมแทนได้ หรือถ้าปั๊มนมได้น้อย ไม่ถึงปริมาณ max แนะนำให้ใส่ขวดนมแช่เย็นแล้วอุ่นให้ลูกน้อยทานต่อวัน
  • ถุงนมอลูมิเนียมฟอยล์นำความร้อนได้ดีมาก คุณแม่ที่ไม่มีเครื่องอุ่นนม Baby Bottle Warmer ที่ควบคุมอุณภูมิได้ที่ 37 องศา เวลาอุ่นนมอาจทำให้อุณหภูมินมสูงเกินไป กรณีนี้คุณแม่จึงจะต้องควบคุมเวลาด้วยตัวเอง หรือ ใช้เครื่องอุ่นนม เพื่อความสะดวกมากขึ้น

ถุงเก็บน้ำนม อลูมิเนียมฟอยล์ ใช้ดีไหม เหมาะกับใคร ?  

  • คุณแม่มือใหม่ มีเวลาน้อย ยังหยิบจับอะไรไม่ถูกในการดูแลลูกน้อย การเลือกใช้ถุงเก็บน้ำนมอลูมิเนียมฟอยล์ จะช่วยให้คุณแม่มีเวลามากขึ้น เพราะใช้เครื่องอุ่นนม กดโหมด Warm เพียง 20 นาที ลูกน้อยก็ได้ทานนมอย่างรวดเร็ว
  • คุณแม่เวิคกิ้งวูแมน ที่ต้องไปทำงาน ยังปั๊มนมเก็บน้ำนมสต็อกให้ลูกน้อย แต่มีความกังวลเรื่องการรักษาความเย็น การใช้ถุงเก็บน้ำนมอลูมิเนียมฟอยล์คู่กับกระเป๋าเก็บความเย็น หรือ เจลเย็น จะช่วยให้เก็บความเย็นได้นานขึ้น ละลายช้ากว่าถุงนมพลาสติกทั่วไป
  • คุณแม่ที่กังวลเรื่องสีน้ำนมจะเปลี่ยน การเลือกใช้ถุงเก็บน้ำนมอลูมิเนียมฟอยล์ จะช่วยป้องกันการเปลี่ยนสีของน้ำนมได้ เพราะผลิตด้วยเทคโนโลยีการปิดกั้นออกซิเจน ลดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น 

 มาถึงตรงนี้ คุณแม่หลายทานคงรู้จักถุงเก็บน้ำนมที่ทำจากอลูมิเนียมฟอยล์กันมากขึ้นแล้ว เป็นถุงนมที่น่าลองใช้ไม่น้อยกว่าถุงนมพลาสติกแบบเดิมเลย หากคุณสมบัติตอบโจทย์แล้ว อย่าลืมเลือกแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับ รวมถึงซื้อกับร้านขายสินค้าและแม่เด็กที่น่าเชื่อถือด้วยนะคะ

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00

บทความแนะนำ

ทุกการเดินทางของเด็ก ความปลอดภัยคือสิ่งสำคัญที่สุด เราจึงร่วมส่งเสริมความปลอดภัยด้วยการมอบคาร์ซีทจาก AILEBEBE และ NEW SEAT, MORE SAFE จำนวน 24 ตัว ให้กับโครงการ “ธนาคารคาร์ซีท” ของสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล และโรงพยาบาลรามาธิบดี เพื่อส่งต่อให้ครอบครัวที่ต้องการใช้คาร์ซีทต่อไป โครงการนี้เปิดโอกาสให้ผู้ปกครองและบุคลากรของมหาวิทยาลัยมหิดลและโรงพยาบาลรามาธิบดี สามารถยืมคาร์ซีทไปใช้ได้ไม่มีค่าใช้จ่าย เพราะอุบัติเหตุบนท้องถนนสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเวลา การเตรียมพร้อมเพื่อปกป้องชีวิตน้อย ๆ ตั้งแต่วันแรกที่ออกจากโรงพยาบาลจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ เราจะร่วมเป็นแรงสนับสนุนความปลอดภัยสำหรับเด็กอย่างต่อเนื่อง เพราะเราเชื่อมั่นว่าทุกการเดินทางที่ปลอดภัย คือการสร้างอนาคตที่สดใสให้กับเด็กทุกคนค่ะ

 คาร์ซีทหมุนได้ จำเป็นต่อคุณพ่อ คุณแม่อย่างไร คุณพ่อและคุณแม่ทุกคน พยายามและสรรหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกน้อยเสมอ เพราะลูกน้อยคือแก้วตาดวงใจของคุณพ่อและคุณแม่ แต่จะดีกว่าไหมถ้าสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อยยังสร้างความสะดวกสบายสำหรับคุณพ่อและคุณแม่ไปพร้อมกัน การเลือกซื้อคาร์ซีทก็เหมือนกัน นอกจากจะดีที่สุด ปลอดภัยที่สุดแล้ว คุณพ่อคุณแม่ยังคงต้องคำนึงถึงความสะดวกสบายในการใช้งาน ต่อทั้งกับคุณพ่อ คุณแม่ และลูกน้อยอีกด้วย และหนึ่งในปัญหาชวนปวดหัวสำหรับคุณพ่อ คุณแม่ในการใช้คาร์ซีท อย่างปัญหาการอุ้มลูกน้อยเวลาขึ้นลงรถ หรือปัญหาที่จอดรถแคบเกินไป ที่ทำให้การอุ้มลูกน้อยขึ้นลงรถลำบาก อาจจะชนกับรถ หรือกำแพง ที่อาจเป็นอันตรายต่อทั้ง คุณพ่อ คูณแม่ และลูกน้อยได้ ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปถ้าคุณพ่อ และคุณแม่เลือกใช้คาร์ซีทแบบ Convertible Carseat คาร์ซีทหมุนได้ 2 ทิศทาง หรือคาร์ซีทที่หมุนได้ 360 องศา ที่นอกจากปกป้องลูกน้อยได้แล้ว ยังเพิ่มเติมความสะดวกสบายให้กับคุณพ่อคุณแม่ได้อีกด้วย นอกจากนี้คาร์ซีทหมุนได้ยังมีข้อดีอีกมากมาย ทาง Baby Gift จึงขอพา คุณพ่อ คุณแม่ มาเข้าใจถึงข้อดีของคาร์ซีทหมุนได้กันค่ะ ข้อดีของการใช้ คาร์ซีทหมุนได้ 1. คุณพ่อ และคุณแม่ สะดวกสบายในการอุ้มลูกน้อยขึ้นลงรถ อย่างที่บอกไปในตอนต้น ปัญหาที่จอดรถหายากและแคบ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งปัญหาใหญ่ที่คนใช้รถ ใช้ถนน ต้องได้พบเจอ และในกรณีคุณพ่อ คุณแม่ ที่ต้องการพาลูกน้อย […]

คุณอรุณศรี พิริยเลิศศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบบี้ กิ๊ฟ (ไทยแลนด์) จำกัด ได้รับเกียรติเชิญให้เป็นวิทยากรให้ความรู้แก่บุคลลากรทางการศึกษา จำนวน 70 ท่าน ภายใต้ชื่อ “ความจำเป็นของคาร์ซีทและการเลือกใช้คาร์ซีทอย่างไรให้ถูกวิธี” ณ โรงเรียนเลิศหล้า ทั้งนี้ความรู้เกี่ยวกับการเลือกใช้คาร์ซีทอย่างถูกวิธี เพื่อให้บุคลลากรทางการศึกษาได้มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับความจำเป็นของคาร์ซีท และสามารถนำมาปรับใช้กับนักเรียนในโรงเรียนได้ เพื่อให้สอดคล้องกับการบังคับใช้คาร์ซีทสำหรับเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 5 กันยายน 2565 นี้

เมื่อต้องพาเจ้าตัวน้อยเดินทางไกลขึ้นเครื่องบินครั้งแรก คุณแม่หลายท่านมักมีคำถามมากมาย เพื่อให้ทุกท่านเตรียมตัวเดินทางได้อย่างสนุกสนานพร้อมรถเข็นคันโปรดคู่ใจ Baby Gift ได้รวบรวมทุกคำตอบไว้ในที่เดียวจบ 1.รถเข็นแบบไหนสามารถนำขึ้นเครื่องบินได้บ้าง จำเป็นต้องพับเล็กๆ หรือมีข้อกำหนดเกี่ยวกับขนาดและน้ำหนักของรถเข็นหรือไม่? ตอบ เมื่อมีผู้โดยสารที่เป็นเด็กเดินทางไปพร้อมกัน รถเข็นเด็กทุกขนาด ไม่ว่าจะพับใหญ่พับเล็ก ทั้งหนักและเบา สามารถนำขึ้นเครื่องบินได้ทั้งหมดโดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องขนาดและน้ำหนัก แต่รถเข็นต้องสามารถพับได้ (ซึ่งรถเข็นทุกรุ่นทุกแบรนด์ที่จำหน่ายในปัจจุบันพับได้ทุกคัน) 2. ขั้นตอนการนำรถเข็นขึ้นเครื่องบินแบบ Gate Check ? ตอบ เมื่อนำกระเป๋าขนาดใหญ่ Check in เพื่อโหลดใต้ท้องเครื่องให้แจ้งเจ้าหน้าที่สายการบินว่ามีรถเข็นเด็กมาด้วย และต้องการเข็นไปโหลดที่หน้าประตูเครื่องบิน (หรือเรียกว่า Gate Check) เจ้าหน้าที่จะนำ Tag (หรือป้ายติดกระเป๋า) ติดให้ที่รถเข็นเพื่อป้องกันการสูญหาย เราสามารถเข็นลูกน้อยผ่านพิธีการต่างๆ ไปจนถึงหน้าประตูเครื่องบินตรงจุดที่มีแอร์โฮสเตสยืนต้อนรับ ให้พับรถเข็นให้เรียบร้อย หลังจากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่รอรับฝากรถเข็นเพื่อนำลงไปเก็บใต้เครื่อง (ในบางกรณีเจ้าหน้าที่จะจัดเตรียมถุงพลาสติกขนาดใหญ่คลุมให้อย่างดีเพื่อความสะอาดและปลอดภัย) ซึ่งเมื่อถึงที่หมายปลายทางเจ้าหน้าที่จะนำรถเข็นมาส่งคืนให้ที่หน้าประตูเครื่องบินเหมือนเดิม ในกรณีต่อเครื่อง (Transfer) ก็สามารถรับรถเข็นคืนได้ที่หน้าประตูเครื่องเช่นเดียวกัน 3. มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับนำรถเข็นเดินทางขึ้นเครื่องบินหรือไม่ ตอบ ทุกสายการบินอนุญาติให้นำรถเข็นขึ้นเครื่องได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย 4. ในกรณีที่รถเข็นมีขนาดเล็กและสามารถพับเก็บบนที่เก็บสัมภาระเหนือศีรษะ (Cabin) ได้ จะสามารถนำรถเข็นติดตัวขึ้นไปเก็บบน cabin ในเครื่องบินได้หรือไม่ ? ตอบ รถเข็นบางรุ่นสามารถพับและนำขึ้นเก็บบน Cabinได้ มีความเป็นไปได้ที่ทางสายการบินจะอนุญาติหรืออาจจะปฎิเสธไม่อนุญาติให้นำขึ้นไปเก็บบน Cabin […]

Q: ขวดนม อุปกรณ์ปั๊มนม ต้องต้ม หรือนึ่ง ให้ปราศจากเชื้อทุกวัน ? A: การนึ่ง หรือต้มฆ่าเชื้อขวดนมและจุกนมหลังใช้งานทุกวันจะทำให้ขวดนมพลาสติกและจุกนมเสื่อมสภาพเร็วขึ้นกว่าปกติ และไม่ได้ช่วยป้องกันโรคให้ทารกเพิ่มขึ้นมากไปกว่าล้างด้วยน้ำสบู่อุ่น ๆ หรือล้างด้วยน้ำร้อนผสมน้ำยาล้างขวดนมหลังใช้งาน การขยันทำให้ปลอดเชื้อมากเกินไป (over-sterilize) ไม่มีประโยชน์กลับเป็นการสร้างสิ่งแวดล้อมให้เชื้อที่ทนความร้อน และสร้างสปอร์ได้เพิ่มมากขึ้น (เพราะคุณไม่ได้ใช้หม้อความดัน หรือฉายรังสี) และทารกจะอาจได้สารพวกโพลีเมอร์ หรือฟอร์มัลดีไฮด์ปนเปื้อนออกมาจากพลาสติกที่เสื่อมสภาพแทน  สมาคมกุมารแพทย์อเมริกัน และ USFDA แนะนำให้ต้มหรือนึ่งฆ่าเชื้อขวดนม และอุปกรณ์ปั๊มนมเฉพาะครั้งแรกที่ใช้งานจากนั้นให้ล้างด้วยน้ำสบู่ หรือน้ำยาล้างขวดนมผสมน้ำอุ่น ทุกครั้งหลังใช้งานก่อนผึ่งให้แห้ง โดยไม่ให้้ใช้ผ้าเช็ด กรณีที่ต้องต้มหรือนึ่งฆ่าเชื้อทุกวันคือช่วงทารกป่วย เช่น ท้องร่วง หรือ เป็นฝ้าขาวในปาก คุณแม่ที่กังวลอาจนึ่งหรือต้ม ทุก 3-4 วัน สำหรับนมชง ทุก 1 สัปดาห์สำหรับนมแม่ทั้งนี้ จะต้องไม่มีการปล่อยให้นมบูดคาขวด (ถ้านมบูดคาขวดต้องต้มหรือนึ่งฆ่าเชื้อใหม่เสมอ) อย่างไรก็ตามไม่มีกฎตายตัว หากบ้านมีสภาพแวดล้อมที่ไม่สะอาด อยู่ใกล้แหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโรค อาจพิจารณาต้มหรือนึ่งให้บ่อยขึ้น สำหรับประเทศไทยที่มีภูมิอากาศร้อนชื้นมีโรคเขตร้อนที่เป็นโรคทางเดินอาหารมาก และประชากรมีสุขอนามัยไม่แน่นอน กุมารแพทย์ไทยหลายท่านอาจแนะนำให้คุณแม่ต้มหรือนึ่งขวดนมทุกวัน และกรณีที่ห้องครัวมีความสกปรกอับชื้นท่อน้ำไม่สะอาด หรือมีกระบะทรายแมวในห้องครัว (ซึ่งไม่ควรมี) คุณแม่อาจเลี่ยงไปตากขวดนม และจุกนมที่อื่นที่มีอากาศถ่ายเทคุณแม่ที่ปั๊มนมห้ามใช้สบู่เหลวในห้องน้ำที่ทำงานล้างขวดนม หรือ […]

เมื่อลูกน้อยของเราเริ่มโตขึ้นและมีอายุ 6 เดือนขึ้นไป นอกจากการให้นมแม่แล้ว คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คนอาจจะกำลังมองหาอาหารเสริมอื่น ๆ ให้กับเด็ก ๆ เพื่อรับประทานร่วมกับนมแม่ เป็นการเพิ่มคุณค่าทางโภชนการให้ลูกน้อย ให้ลูกน้อยได้รับสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากขึ้น และยังเป็นการฝึกให้เริ่ม  กินอาหารชนิดอื่นนอกจากนมแม่อีกด้วย โดยทั่วไปแล้วเรามักจะคุ้นเคยกับวิธีการเตรียมอาหารบดละเอียดให้ลูก แต่ปัจจุบันมีการกินที่เรียกว่า BLW (Baby-Led Weaning) ที่เป็นการฝึกให้ลูกน้อยของเราได้ช่วยเหลือตัวเองตั้งแต่เล็ก และยังส่งผลดีต่อการพัฒนาการของลูกอีกด้วย BLW คืออะไร มีความสำคัญอย่างไร ส่งผลดีต่อเด็กอย่างไร และคุณแม่จะต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง มาดูกันเลยค่ะ BLW คืออะไร ? ชวนรู้จักวิธีการฝึกลูกน้อยกินข้าวมื้อแรกด้วยตัวเอง ผู้ปกครองหลายคนอาจเกิดความสงสัยว่า BLW คืออะไร ? Baby – Led Weaning หรือ BLW คือการฝึกให้ลูกของเรากินอาหารได้ด้วยตัวเองตั้งแต่มื้อแรก โดยที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องเตรียมอาหารปั่นหรืออาหารบดให้ลูกน้อย แต่เป็นการให้ลูกน้อยใช้มือหยิบจับอาหารนิ่ม ๆ เป็นชิ้นเล็ก ๆ และกินด้วยตัวเอง ให้ลูกได้ฝึกหยิบจับอาหาร ฝึกเคี้ยว และช่วยเหลือตัวเองตั้งแต่เด็ก จะนั่งกินเองหรือนั่งกินไปพร้อมกับคุณพ่อคุณแม่ก็ได้เช่นกัน โดยสามารถฝึกให้ลูกกินแบบนี้ได้ตั้งแต่อายุ 6 […]

Menu
All Categories
All Brands
All Ages
Promotions
Locations
BabyGift Family
BabyGift Care
Parents Guide
News & Event

All Categories

All Categories
All Brands
All Ages