เข้าไตรมาส 2 แล้ว มีอะไรที่เปลี่ยนไปบ้างนะ?

ท้องมาสามเดือนแต่ยังไม่เห็นรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงอะไรเลย ท้องก็ยังไม่ใหญ่ ลูกก็ยังไม่ดิ้น แถมขึ้นบีทีเอสก็ยังไม่มีคนลุกให้นั่งอีกต่างหาก ถ้าคุณแม่กำลังคิดแบบนี้อยู่ ก็ขอให้เตรียมตัวเตรียมใจเข้าสู่เดือนที่สี่ ห้าและหกให้ดีๆ เลยจ้า บอกก่อนเลยว่าช่วงไตรมาสนี้ นอกจากอารมณ์คุณแม่ๆ จะแปรปรวนเดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลงแล้ว เจ้าร่างกายก็น้อยหน้าซะที่ไหน เผลอๆ แปรปรวนหนักกว่าอารมณ์ซะอีก เราลองไปดูกันดีกว่า ว่าช่วงนี้คุณแม่จะต้องเจอกับอะไรบ้าง

  1. ไม่ค่อยแพ้ท้องแล้ว
    อันนี้เป็นเรื่องดี ขอปรบมือรัวๆ จากที่แพ้ท้องเช้า กลางวัน เย็น กินอะไรก็อาเจียน ได้กลิ่นอะไรก็ต้องวิ่งเข้าห้องน้ำ ขอบอกว่าพอเข้าช่วงไตรมาสสองอาการพวกนี้จะดีขึ้นเยอะ! คุณแม่บางคนอาจจะเหลือแค่แพ้ท้องเช้านิดหน่อย เย็นนิดหน่อย แต่บางคนก็หายเป็นปลิดทิ้งเลยค่ะ เหมือนร่างกายเริ่มปรับตัวได้แล้วอ่ะเนอะ ช่วงนี้ก็จะดีหน่อย คุณแม่จะทานอะไรได้เยอะขึ้น เผลอๆ เยอะกว่าเดิม อัดอั้นตันใจที่ทานอะไรไม่ได้เลยในช่วงแรกๆ แต่จริงๆ แล้วก็มีคุณแม่บางคนที่ยังแพ้ท้องอยู่ เราก็ขอแนะนำให้คุณแม่ดื่มน้ำอุ่นๆ ทานอาหารเบาๆ แต่ก็ไม่ใช่ขนมขบเคี้ยวนะ ขอแนะนำเป็นพวกอาหารเบาๆ ที่มีประโยชน์จะดีกว่า
  2. ตัวเริ่มหนัก พุงเริ่มออก
    ใครที่กำลังบ่นว่าท้องยังไม่เห็นใหญ่เลย ตอนนี้แหละค่ะของจริง! เจ้าจิ๋วในท้องของเราเริ่มโตขึ้นละ คนรอบข้างก็เริ่มสังเกตได้แล้วล่ะว่าคุณแม่กำลังท้องอยู่ คุณแม่บางคนอาจจะชะล่าใจคิดว่าไหนๆ คนท้องก็ต้องอ้วนอยู่แล้วกินๆ เข้าไปเถอะ แต่ขอบอกตรงนี้เลยว่าอย่าเพิ่งกินเพลินจนลืมไปนะคะว่าคนท้องเสี่ยงเป็นเบาหวานช่วงตั้งครรภ์ได้ ยิ่งถ้าคุณแม่ติดทานอะไรหวานๆ จนน้ำหนักขึ้นพรวดพราดนะ โดนคุณหมอจับตรวจเบาหวานแน่นอน
  3. ท้องแตกลาย หัวนมดำ
    พอพุงเริ่มออก ก็ไม่แปลกที่หน้าท้องจะเริ่มแตก ยิ่งคุณแม่ที่ท้องใหญ่ๆ หน้าท้องก็จะแตกลายเยอะหน่อย แต่จะไปซีเรียสกันทำไม สมัยนี้นวัตกรรมล้ำเลิศ มีครีมทาแก้ท้องแตกลายออกวางขายตามท้องตลาดทั่วไป หรือไม่ก็ใช้ครีมทาผิวปกติ แต่ขอเป็นสูตรอ่อนโยน ทาเบาๆ บริเวณที่แตกลายให้รู้สึกชุ่มชื้นก็พอแล้วล่ะค่ะ มันอาจจะไม่ได้ทาปุ๊ปหายปั๊ป แต่ก็ช่วยได้เยอะเลยล่ะ ส่วนเรื่องหัวนมดำนี่ยากที่จะหลีกเลี่ยง แต่พอคลอด พอ

ลูกได้ดูดนมไปสักพัก หัวนมคุณแม่ก็จะกลับมาเป็นสีชมพูเหมือนเดิม ช่วงก่อนคลอดนี่ร่างกายก็จะเตรียมพร้อมเพื่อลูกน้อย ท่อน้ำนมขยาย ลานนมกว้างขึ้น บางทีอาจจะเห็นน้ำใสๆ ไหลออกมาจากเต้า แต่อย่าได้ไปบีบหัวนมเลยเชียว เพราะอาจจะทำให้เสี่ยงคลอดก่อนกำหนดได้

  1. เป็นตะคริวยามหลับ
    เป็นตะคริวยามหลับนี่ไม่ใช่เรื่องตลกเพราะมันทรมานสุดๆ ไปเลย สาเหตุหลักๆ ก็มาจากการที่ร่างกายเราต้องแบกรับท้องที่มีขนาดใหญ่ขึ้น น้ำหนักมากขึ้น แถมมดลูกยังอาจไปกดทับเส้นเลือดใหญ่ทำให้เกิดอาการเกร็งแบบเฉียบพลันอีก ฮอร์โมนที่เปลี่ยนไปช่วงตั้งท้องนี่ก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดตะคริวด้วยก็ได้นะคะ สาเหตุอีกอย่างก็คือการที่โดนเจ้าตัวเล็กแย่งสารอาหารผ่านสายสะดือ คุณแม่ก็เลยขาดสารอาหารบางตัว อย่างพวกแคลเซียม แมกนีเซียม แล้วก็วิตามินต่างๆ จนทำให้เป็นตะคริว แต่ความทรมานไม่ได้อยู่ที่แค่การเป็นตะคริวอย่างเดียวนี่สิ การสะดุ้งตื่นกลางดึกเพราะตะคริวนี่น่ากลัวสุด เพราะกว่าจะข่มตาหลับได้มันช่างนานแสนนาน เหมือนต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่เลยล่ะ
  2. ริดสีดวงมาเยือนถึงที่
    เมื่อมดลูกมีขนาดใหญ่ขึ้นก็อาจจะไปกดทับเส้นเลือดดำที่ค่อนไปทางด้านขวาของร่างกาย เหมือนเวลาเราเหยียบสายยางรดน้ำ คุณแม่จะเห็นว่าน้ำจะไหลเอื่อยมากกก อันนี้ก็เช่นเดียวกันค่ะ พอมดลูกไปกดทับเส้นเลือดปุ๊ป การไหลเวียนของเลือดก็จะทำงานได้ไม่ปกติ เส้นเลือดดำที่อยู่บริเวณทวารหนักของคุณแม่ก็จะปูดโปนออกมา เหมือนเลือดมันคั่งอยู่ ไหลเวียนได้ไม่เต็มที่ ทำให้เกิดเป็นริดสีดวงได้ พอคุณแม่ทำธุระถ่ายหนัก เส้นเลือดดำที่ปูดออกก็อาจไปสีกับอุจาระทำให้เลือดไหล แต่ก็ไม่ต้องกังวลกันไปไกลหรอกนะ วิธีการแก้ก็คือ คุณแม่อาจจะต้องรับประทานผักเพื่อเพิ่มกากใย ดื่มน้ำเยอะๆ จะได้ขับถ่ายได้สะดวก อย่าให้ท้องผูกเป็นอันขาด แต่ถ้าทิ้งไว้หลายวันไม่ทุเลาลงก็ลองไปพบคุณหมอดูจะดีกว่า
  3. รู้สึกได้ถึงลูกดิ้น
    ข้อนี้คือฟินาเล่ของไตรมาสนี้เลยค่ะ เพราะจะเป็นไตรมาสแรกที่คุณแม่จะรู้สึกว่าลูกน้อยของเราเต้นดุ๊กดิ๊กอยู่ภายในท้อง แต่อย่างที่เคยมาเล่าให้ฟังไปก่อนหน้านี้ว่าคุณแม่แต่ละคนก็จะรู้สึกถึงลูกดิ้นเร็วช้าแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับผนังหน้าท้องว่าหนาหรือบาง แต่ก็จะรู้สึกภายในไตรมาสนี้แน่นอนแหละ ถ้าท้ายๆ ไตรมาสแล้วยังไม่รู้สึก คุณแม่ลองปรึกษาคุณหมอดูน้า อย่าปล่อยทิ้งไว้เด็ดขาดเลยนะคะ

ในช่วงไตรมาสนี้ก็ไม่มีอะไรมาก แค่ขนาดท้องที่ใหญ่ขึ้นเลยอาจจะทำให้เคลื่อนไหวช้าลงนิดหน่อย ช่วงนี้ร่างกายของคุณแม่จะต้องการพลังงานแค่ประมาณ 2,200 กิโลแคลอรีเท่านั้น คุณแม่บางคนอาจจะคิดว่าทานสำหรับสองคน ต้องเอาแคลมาบวกกันรึเปล่า…ไม่ต้องนะ เดี๋ยวน้ำหนักคุณแม่จะพุ่งทะลุเป้าเกินไปซะก่อน เราขอเน้นให้คุณแม่เลือกทานแต่อาหารที่มีประโยชน์ เช่นพวกผักใบเขียว ปลาที่มีโอเมกา 3 โปรตีนจากไก่ อะไรพวกนี้ดีกว่า ส่วนพวกอาหารฟาสต์ฟู้ดทั้งหลายก็ควรจะงดไปก่อนเนอะ เพราะไขมันเยอะมากกกก แถมของทอดๆ ยังอาจจะทำให้คุณแม่รู้สึกคลื่นไส้อีกต่างหาก สิ่งสำคัญที่สุดคืออย่าลืมทานยาบำรุงที่คุณหมอให้มา โดยเฉพาะแคลเซียม เพราะลูกจะแย่งแคลเซียมจากเราไปเยอะมากๆ เพราะงั้นควรจะทานเสริมเข้าไปให้ได้อย่างน้อย 1,000 มิลลิกรัมต่อวันนะคะ

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00

บทความแนะนำ

รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Optia สำหรับเด็กแรกเกิด – 3 ปี หรือน้ำหนัก 2.5 – 15 kg เพื่อความสุขแบบ Double ประสบการณ์ใหม่ในการเดินทางที่สบายกว่าช่วยให้การเดินทางสำหรับคุณแม่และลูกน้อยเป็นเรื่องง่าย สะดวก สบาย ด้วยนวัตกรรมที่เหนือกว่า Function 1 : ลดแรงสั่นสะเทือนแบบ Double ด้วยระบบรองรับแรงกระแทกถึง 2 จุดระบบรองรับแรงกระแทกใต้ที่นั่ง และระบบรองรับแรงกระแทกที่ล้อ ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนได้ถึง 40% Function 2 : ระบายอากาศแบบ Double ด้วยเบาะรองนอน Silky Air และผ้าระบายอากาศทุกชั้นเบาะรองนอน ถักทอด้วยเส้นใย Silky Air มีความอ่อนนุ่ม ระบายอากาศได้ดี ให้ความรู้สึกเบาสบายเมื่อสัมผัสกับผิวที่บอบบางของทารก Function 3 : ลดความอับชื้นแบบ Double ด้วยระบบ DoubleThermo Medical Sysem ช่วยระบายอากาศให้ความรู้สึกสบายตัวแผ่นฉนวนกันความร้อนพิเศษด้านหลัง ลดความร้อนสะสมบริเวณหลัง และลดอุณหภูมิของร่างกายลูกน้อยในขณะหลับได้ดี Function […]

ในความคิดหรือความเชื่อของคุณแม่ตั้งครรภ์หลายๆ ท่าน ยังมีความคิดและดูจากโฆษณาต่างๆ จนทำให้เชื่อว่า ตอนท้องแม่ต้องดื่มนมมากๆ  เพื่อบำรุงให้แม่และลูกแข็งแรง  ซึ่งความจริงแล้วข้อมูลนี้เป็นความเข้าใจที่ผิดค่ะ เพราะเรื่องของการกินอาหารและกินนมของแม่ท้องนั้น วิธีที่ดีและถูกต้องที่สุดคือกินอย่างเหมาะสม หลากหลายไม่ซ้ำและกินมากจนเกินไป โดยเฉพาะเรื่องการกินนมในแม่ท้อง ยิ่งเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจ เพราะมีข้อมูลออกมาบอกว่า การที่คุณแม่ตั้งครรภ์ดื่มนมวัวมากเกินไป จะเป็นสาเหตุให้ลูกแพ้นมวัวได้ตั้งแต่แรกเกิด  เราจึงขอนำความรู้ดีๆ เกี่ยวกับโภชนาการและการกินนมวัวมาอธิบายให้คุณแม่ตั้งครรภ์ได้เข้าใจ เพื่อให้กินอาหารและดื่มเครื่องดื่มต่างๆ ได้อย่างเหมาะสมมาฝากค่ะ แม่ท้องกินนมวัวมาก ลูกอาจแพ้ได้จริงหรือ? ข้อมูลนี้เป็นความจริงค่ะ เพราะการที่ร่างกายคุณแม่ได้รับสารอาหารอะไรมากจนเกินไป จะสามารถกระตุ้นให้ลูกน้อยมีอาการแพ้อาหารชนิดนั้นๆ ได้ตั้งแต่หลังคลอด  นั่นคือนมวัวที่กินมากไปนั้น จะไปทำให้เกิดการสะสมของแคลเซียมและโปรตีนนมวัว  เป็นหนึ่งในสารก่อภูมิแพ้ที่ส่งผลกับลูกน้อยในครรภ์ ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ จนกระตุ้นให้เกิดการแพ้  โดยจะมีอาการแสดงของการแพ้นมวัวได้แก่ ซึ่งปกติแล้วการที่ลูกน้อยจะแพ้นมวัว แพ้อาหาร หรือเป็นภูมิแพ้ได้นั้น สาเหตุใหญ่หลักๆ คือ นอกจากนี้ยังไม่รวมกับโปรตีนในนมวัวที่คุณแม่ได้รับจากอาหารอื่นๆ ที่แฝงไปด้วยนมอีก เช่น เบเกอรี่ ไอศกรีม เนย ชีส  ยิ่งทำให้คุณแม่ได้รับโปรตีนจากนมวัวมากเกินไป ทำให้ลูกน้อยแพ้นมวัวได้ตั้งแต่หลังคลอด นมอะไร? ที่คุณแม่ท้องดื่มได้บ้าง โดยนมวัวที่คุณแม่ดื่มได้ในปัจจุบัน มีหลายรูปแบบ ซึ่งนมสำหรับแม่ท้องที่แนะนำคือ นมนมสดพาสเจอไรส์ชนิดพร่องมันเนย เพราะได้คุณค่าสารอาหารที่ต้องการโดยที่ตัวแม่ตั้งครรภ์ไม่ต้องรับไขมันมากเกินไป แต่ข้อเสียคือนมชนิดนี้อายุสั้น เก็บไว้ได้ไม่นาน  กรณีที่คุณแม่ดื่มนมชนิดนี้ไม่ได้ก็อาจเลือกนมชนิดอื่นแทน เช่น […]

การนอนหลับให้เพียงพอต่อวันอย่างมีคุณภาพ เป็นสิ่งสำคัญสำหรับเด็กเล็กเลยนะคะ เพราะระหว่างที่ลูกน้อยนอนหลับร่างกายก็จะสร้าง “โกรทฮอร์โมน (Growth Hormone) หรือ ฮอร์โมนการเจริญเติบโต” ขึ้นมา ช่วยให้ลูกน้อยเติบโตสมวัย มีภูมิคุ้มกันโรค ช่วยเรื่องความจำและการเรียนรู้ของสมองด้วยค่ะ แต่หาก ลูกร้องงอแงไม่ยอมนอน คุณพ่อคุณแม่ก็จะต้องรู้วิธีดูแลนะคะ เพราะอาจส่งผลต่อพัฒนาการและอารมณ์ของลูกน้อยได้ แต่ก็ไม่ควรกังวลมากไปค่ะ เพราะทารกจะเริ่มมีวงจรการนอนที่เป็นปกติหลังจากเดือนที่ 6 เป็นต้นไป เด็กแต่ละวัย ควรนอนกี่ชั่วโมงต่อวัน ทารกแรกเกิด – 2 เดือน ทารกแรกเกิดจะนอนตอนกลางวันเหมือนกับนอนตอนกลางคืน จะนอนประมาณ 2 – 4 ครั้งต่อวัน ระยะเวลาการนอนประมาณ 4 – 16 ชั่วโมง ทารกวัย 3 เดือน – 5 เดือน เด็กเล็กวัยนี้สามารถฝึกให้หลับเวลาเดิมได้แล้ว เพราะวัยนี้จะเริ่มนอนเป็นเวลามากขึ้น จะนอนประมาณ 2 – 4 ครั้งต่อวัน ระยะเวลาการนอนประมาณ 4 – 13 ชั่วโมง เด็กวัย 6 เดือน – 11 เดือน วัยนี้จะนอนเป็นเวลาแล้ว เมื่อถึงเวลาเดิมที่เคยนอนก็จะหลับได้เอง […]

ของเล่นเด็ก เป็นไอเท็มที่มีส่วนช่วยในการส่งเสริมพัฒนาการ ให้กับลูกน้อยได้เป็นอย่างดี โดยของเล่นแต่ละแบบจะมีวิธีการเล่น การกระตุ้นให้ลูกน้อยใช้กล้ามเนื้อ ร่างกาย ประสาทสัมผัสที่ไม่เหมือนกัน การเลือกซื้อ ของเล่นเด็ก ให้ลูกน้อยได้ถูกต้องสมวัย จะช่วยให้เล่นได้สนุก และยังช่วยส่งเสริมพัฒนาการได้อย่างแท้จริง เบบี้กิ๊ฟ เข้าใจแม่ ในความสงสัย และสับสนว่า ควรเลือกซื้อของเล่นชิ้นไหนดี เพราะทุกวันนี้มีของเล่นในท้องตลาดมากมาย ทั้งราคาถูก ไปจนถึงราคาแพง แบบไหนถึงจะเหมาะกับลูกน้อยแต่ละวัย เบบี้กิ๊ฟ หาคำตอบมาให้แล้วในบทความนี้ ของเล่นเด็ก วัยแรกเกิด – 6 เดือน วัยนี้ลูกน้อยจะใช้เวลาไปกับการนอนมากเป็นพิเศษ สลับกับการตื่นมาทานนมทุกๆ 3 ชั่วโมง ในช่วงระหว่างที่ลูกน้อยตื่นนอน สามารถส่งเสริมพัฒนาการให้กับเด็กวัยนี้ได้ โดยเริ่มจาก การฝึกการมองเห็น ผ่านดวงตาโตใสแป๋ว โดยทารกวัยนี้มักจะชอบ มองสิ่งของที่ขยับไปมา เช่น โมบายหมุนได้ และดวงตาของทารกจะ มองเห็นสีที่ตัดกันชัดเจน เช่น สีดำ/ขาว เหลือง/แดง เพราะน้องๆจะยังไม่รู้จักสีพาสเทลเหมือนผู้ใหญ่ และการมองตัวเองแค่ในกระจก ก็เรียกเสียงหัวเราะจากน้องได้แล้วค่า โดยสามารถเลือกเป็น เพลเพน ที่มีโมบาย กระจก ตุ๊กตาห้อยให้ลูกน้อยนอนมองเล่นได้เพลินๆ ค่ะ ฉะนั้น การเลือกของเล่นที่มีสีสันฉูดฉาด บาดใจ จะเหมาะกับเด็กน้อยวันนี้มากๆ โดยวัสดุของเล่นนั้น ควรจะมีลักษณะเป็นผ้า อ่อนนุ่ม ซักทำความสะอาดได้ […]

อายุครรภ์คืออะไรกันนะ? เมื่อตั้งท้อง สิ่งหนึ่งที่เป็นคำถามยอดฮิตเลยก็คือ “ท้องกี่เดือน” หรือ “คลอดเมื่อไหร่” การที่เราจะตอบคำถามพวกนี้ได้นั้นเราจะต้องทราบอายุครรภ์ของเราก่อนค่ะ พูดง่าย ๆ อายุครรภ์ก็คือระยะเวลาที่ลูกของเราได้อยู่ในท้องของเรามา แต่ถ้าหากจะพูดให้ดูมีหลักการหน่อยแล้ว อายุครรภ์ก็คือระยะเวลาที่นับตั้งแต่วันแรกของรอบเดือนล่าสุดของเรามาจนถึงปัจจุบัน โดยทั่วไปแล้วนั้น อายุครรภ์ที่นับจนถึงกำหนดคลอดควรจะเท่ากับ 40 สัปดาห์โดยประมาณค่ะ เราจะรู้อายุครรภ์ของเราได้อย่างไร? 1. การตรวจภายในโดยวัดขนาดของมดลูก ฟังดูน่ากลัวนิดนึงใช่มั้ยคะ วิธีนี้สามารถกะอายุครรภ์โดยประมาณของคุณแม่ได้ แต่ก็ไม่ได้แม่นยำเท่าไหร่หรอกนะ เพราะว่าเด็กแต่ละคนตัวใหญ่เล็กไม่เท่ากัน อาจมีคลาดเคลื่อนบ้าง 2. การอัลตราซาวด์ วิธีการตรวจแบบนี้จะตรวจได้เมื่อตอนอายุครรภ์สัก 5-6 สัปดาห์ขึ้นไป ส่วนถ้าอยากได้ผลแม่น ๆ หน่อยก็อาจจะมาตรวจช่วง 8-18 สัปดาห์ก็ได้นะ สำหรับวิธีนี้คุณหมอก็จะใช้วิธีการวัดขนาดของมดลูกเช่นกัน แต่จะเป็นการวัดผ่านการทำอัลตราซาวด์ แม้จะไม่ได้ตรงเป๊ะแบบ 100% แต่ก็ไม่คลาดเคลื่อนมากค่ะ 3. การนับรอบเดือน การนับรอบเดือนจะสามารถใช้ได้กับคุณแม่ที่มีรอบเดือนแบบมาสม่ำเสมอ ตรงกันทุกเดือน สามารถนับได้โดยการนับจากวันแรกของการมีประจำเดือนครั้งล่าสุด ให้ถือว่าวันนั้นเป็นวันแรกของการตั้งครรภ์ค่ะ วันนี้คุณแม่ไปพบคุณหมอครั้งแรก คุณหมอจะประเมินวันคลอดคร่าว ๆ ด้วยการนับรอบเดือนแบบนี้แหละ เพราะงั้นทางที่ดี เราควรจะจดรอบเดือนของเราทุกเดือนนะ เราทราบอายุครรภ์กันเพื่ออะไร? การทราบอายุครรภ์นั้นมีประโยชน์แน่นอนค่ะ อย่างแรกคือเราก็จะทราบได้ว่าเราจะคลอดเมื่อไหร่หรือประมาณช่วงไหน จะได้เตรียมตัวได้ถูก […]

เลือก ถุงเก็บน้ำนม ยี่ห้อไหนดี ? ต้องดูที่อะไรบ้าง ? น้ำนมจะเหม็นหืนมั้ย ? คุณค่าน้ำนมแม่ยังอยู่ครบถ้วนรึเปล่า ? ? อีกคำถามที่แม่ๆมักสงสัย เพราะไม่ใช่แค่ถุงเก็บนมแม่ แต่นี่คือถุงใส่อาหารของลูก วันนี้ BabyGift มี 7 เทคนิค เลือกถุงเก็บน้ำนมที่คุณแม่นักปั๊มมือใหม่ ต้องชอบแน่นอน ? จะมีอะไรบ้าง ตามมาดูกันเลยค่า 1. พลาสติกหนา ทึบแสง ซิปล็อค 2 ชั้น ควรเลือก ถุงเก็บน้ำนมแม่ ที่ใช้วัสดุพลาสติกหนาทึบแสง มีความแข็งแรงไม่แตกหรือไม่รั่วซึมได้ง่าย และมีซิปล็อคแบบ 2 ชั้น เพื่อลดการรั่วซึมของน้ำนมแม่ออกจากถุง ช่วยลดกลิ่นเหม็นหืนในน้ำนมได้ และสามารถคงคุณค่าของน้ำนมแม่ได้เป็นอย่างดี 2. ขนาดที่เหมาะสมกับน้ำนมที่ปั๊มได้ช่วงเวลานั้น ถุงเก็บน้ำนมแม่ ควรมีขนาดที่เหมาะสมกับน้ำนมที่ปั๊มได้ช่วงในเวลานั้น อย่างช่วงแรกๆที่แม่อาจจะปั๊มได้ในไม่เยอะมากก็ควรเลือกใช้ขนาดเล็กลงมาหน่อย (4-5 ออนซ์) แล้วพอคุณแม่เริ่มปั๊มนมได้เยอะมากขึ้นค่อยขยับขนาดใหญ่ขึ้นไป การเลือกขนาดถุงพอดีกับน้ำนม จะช่วยให้แม่ๆประหยัดพื้นที่จัดเก็บในตู้แช่ได้ขนาดข้างเยอะ และยังไม่เปลืองถุง ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากเลยทีเดียวค่ะ 3. มีแถบบันทึก เขียนง่าย ชัดเจน ควรมีแถบเขียนเอาไว้จดรายละเอียดต่างๆ อย่างเช่น […]

Menu
All Categories
All Brands
All Ages
Promotions
Locations
BabyGift Family
BabyGift Care
Parents Guide
News & Event

All Categories

All Categories
All Brands
All Ages