เครื่องปั๊มนม จำเป็นไหม? ควรซื้อเมื่อไหร่ดี?

น้ำนมแม่ คืออาหารที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อย องค์การอนามัยโลกหรือ WHO และยูนิเซฟ มีคำแนะนำเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ด้วยการให้นมแม่ทันทีในช่วง 1 ชั่วโมงแรกหลังคลอด และควรให้นมแม่แก่ลูกน้อยเพียงอย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรกหลังคลอด ตลอดจนให้นมแม่ต่อเนื่อง ควบคู่กับอาหารเสริมที่มีคุณค่า ปลอดภัยและเหมาะกับอายุ ตั้งแต่เดือนที่ 6 ไปจนถึงลูกอายุ 2 ปี หรือมากกว่า หรือนานที่สุดตราบเท่าที่ลูกและแม่ยังมีความต้องการนมแม่อยู่
ด้วยเพราะนมแม่มีคุณค่าสารอาหารครบถ้วนเพื่อพัฒนาลูกทุกด้านทั้งด้านสมอง ความฉลาด การเจริญเติบโต อารมณ์จิตใจ แถมการให้นมแม่ยังช่วยให้ครอบครัวประหยัด นมแม่สะอาด และสะดวกในการเลี้ยงลูกน้อย ทำให้คุณแม่ตั้งครรภ์และคุณแม่หลังคลอดทุกคนตั้งใจที่จะให้นมแม่หลังคลอดทันที ตลอดจนมองหาอุปกรณ์ช่วยในการให้นมแม่ได้สำเร็จ เพื่อให้ลูกรักได้ประโยชน์จากนมแม่อย่างเต็มที่และยาวนาน
“ เครื่องปั๊มนม ” ถือเป็นอุปกรณ์อย่างหนึ่งที่ช่วยให้คุณแม่ยุคใหม่ให้นมแม่ได้สะดวกมากขึ้น และเป็นตัวช่วยสำคัญในการปั๊มนมเพื่อทำสต๊อกนมแม่ไว้ในยามที่ต้องไปทำงาน ทำให้คุณแม่หลายๆ บ้านต้องซื้อเป็นของใช้ประจำตัว
แต่ก็มีคุณแม่หลายท่านมีคำถามว่าเครื่องปั๊มนมนั้นจำเป็นหรือไม่? เพราะลูกน้อยทารกสามารถดูดนมจากเต้าคุณแม่ได้ เราจึงมาชี้ให้เห็นถึงข้อดีของเครื่องปั๊มนมว่ามีความจำเป็นหรือช่วยคุณแม่ได้แค่ไหน พร้อมคำแนะนำว่าคุณแม่ควรซื้อเมื่อไร จึงจะใช้งานได้ดีและคุ้มค่าที่สุด

เครื่องปั๊มนม ช่วยแม่ให้นมลูกได้อย่างไรบ้าง?
- กระตุ้นให้น้ำนมแม่มีต่อเนื่อง ในยามที่ลูกไม่ได้ดูดกระตุ้น หรือต้องออกไปข้างนอก เพราะกระบวนการสร้างน้ำนมแม่ในร่างกาย จำเป็นต้องได้รับการกระตุ้นให้ระบายออกและผลิตใหม่ หมุนเวียนกันไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากคุณแม่ไม่ได้ให้ลูกดูดนม หรือปั๊มนมเพื่อกระตุ้นและระบายน้ำนมออกทุกๆ 2-3 ชั่วโมงสม่ำเสมอ น้ำนมแม่ก็จะผลิตน้อยลง จนหดหายไป ลูกก็จะไม่ได้กินนมแม่เต็มที่และยาวนาน
- ช่วยกระตุ้นเพิ่มปริมาณน้ำนมแม่ ให้มีมากเพียงพอต่อลูกน้อย การให้ลูกดูดนมแม่จากเต้าเป็นการกระตุ้นน้ำนม และช่วยสร้างน้ำนมได้ดีที่สุด แต่การใช้เครื่องปั๊มนมจะยิ่งช่วยกระตุ้นเสริ ม ให้ร่างกายคุณแม่มีการสร้างน้ำนมมาชดเชยเพิ่มมากขึ้น เช่นหลังจากให้ลูกดูดนมแม่จากเต้าเสร็จแล้ว อาจปั๊มนมต่ออีกนิด หรือปั๊มนมจากเต้านมอีกข้าง หรือให้ลูกน้อยดูดนมจากเต้า สลับกับการใช้เครื่องปั๊มนม และปั๊มนมอย่างมีวินัย จะยิ่งทำให้น้ำนมแม่มามาก และเพียงพอต่อความต้องการของลูกน้อยเสมอ
- เป็นตัวช่วยสร้างวินัยในการให้นมแม่ เนื่องจากการให้นมแม่ได้สำเร็จตั้งแต่หลังคลอด และให้นมแม่ได้นานที่สุด คุณแม่จำเป็นต้องให้ลูกน้อยดูดนมแม่เพื่อกระตุ้นและระบายน้ำนมออกจากเต้าสม่ำเสมอ โดยไม่ควรทิ้งช่วงไว้นาน แม้ลูกจะหลับยังต้องปลุกมาเพื่อดูดนมแม่กระตุ้นทุก 2-3 ชั่วโมง แต่หากคุณแม่มีเครื่องปั๊มนม จะทำให้คุณแม่ปั๊มนมได้สม่ำเสมอ กระตุ้นและระบายน้ำนมออกจากเต้าได้ตามเวลาที่ต้องการ หรือทำได้ทันทีเมื่อเต้านมคัด แม้เวลาที่ลูกหลับ
- ช่วยให้คุณแม่ทำสต๊อกนมแม่เก็บไว้ ไม่ต้องซื้อหานมใดๆ เสริม เพราะคุณแม่จะสามารถปั๊มนม เก็บน้ำนมแม่ แช่ตู้เย็น หรือตู้แช่แข็งไว้ให้ลูกกินได้ เมื่อต้องไปไปธุระนอกบ้าน หรือเมื่อต้องกลับไปทำงานหลังคลอด ทำให้ลูกได้กินนมแม่ต่อเนื่องยาวนาน สม่ำเสมอ โดยไม่จำเป็นต้องใช้นมผสมเสริม ลูกน้อยจึงได้คุณค่าสารอาหารเต็มที่ พร้อมๆ กับครอบครัวได้ประหยัดค่าใช้จ่ายไปด้วย
- แบ่งเบาภาระคุณแม่ เวลาเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย เมื่อต้องให้นมลูกตอนกลางคืน หรือในช่วงที่ต้องการพักผ่อน การใช้เครื่องปั๊มนมเพื่อปั๊มนมแม่เก็บไว้ล่วงหน้า จะทำให้คุณแม่ลดความอ่อนล้า ในการอดนอน หรือความเมื่อยเนื้อตัว เมื่อต้องอยู่ในท่าให้นมนานๆ ได้
- เพิ่มความมั่นใจ ว่าจะให้นมแม่ได้นานที่สุด เพราะเครื่องปั๊มนมจะอยู่คู่กายคุณแม่ ช่วยปั๊ม ช่วยกระตุ้น และช่วยทำสต๊อกนมแม่ให้คุณแม่ให้นมลูกได้สำเร็จและยาวนานที่สุด ตามที่ตั้งใจไว้ ยิ่งให้ลูกดูดเต้านมสลับกับการปั๊มนมได้สม่ำเสมอเท่าไร ลูกรักก็จะได้คุณค่าจากนมแม่เพื่อภูมิต้านทาน พัฒนาการสมองและเติบโตได้นานไปจนโต เพราะคุณแม่บางท่าน สามารถปั๊มนาทำสต๊อกนมแม่ และให้นมแม่กับลูกได้ไปจนถึงวัยอนุบาลเลยทีเดียว
- ใช้ได้คุ้มค่า และยาวนาน นอกจากเครื่องปั๊มนมจะช่วยกระตุ้นน้ำนมแม่ ในแบบที่ไม่ต้องเสียเงินไปซื้อนมอื่นใด มาเสริมให้ลูกน้อยแล้ว เครื่องปั๊มนมส่วนใหญ่จะใช้งานได้ยาวนานคุ้มค่า หากคุณแม่เลือกซื้อที่ผลิตมาได้มาตรฐาน มีความคงทน ดูแลรักษาอย่างถูกต้อง ใช้ถูกวิธี อาจต้องมีเปลี่ยนอะไหล่หรือชิ้นส่วนบ้างตามกาลเวลาหรือความเหมาะสม แต่ก็ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะซื้อเครื่องปั๊มนมแม่แค่ 1 ชิ้น แต่จะมีนมแม่ให้ลูกกินไปจนโต
เครื่องปั๊มนมได้ เลือกซื้อได้ตามทรัพย์และสไตล์ครอบครัว
สำหรับบางบ้านที่คุณแม่สะดวกและมีเวลาเต็มที่เพื่อให้ลูกน้อยได้ดูดนมจากเต้าตลอดเวลา ก็เป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะอาจไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องปั๊มนมได้ แต่จากสื่อและข้อมูลต่างๆ จะเห็นว่าเครื่องปั๊มนมในปัจจุบันมีให้เลือกมากมาย หลายราคา ทำให้คุณแม่สามารถเลือกซื้อหาได้หลายแบบหลายชนิดตามกำลังทรัพย์ของตัวเอง ดังนั้นเครื่องปั๊มนมจึงถือว่าไม่ได้เป็นของใช้ที่สิ้นเปลืองเท่าไร คุณแม่พอใจหรือสะดวกแบบไหนก็เลือกได้แบบนั้นเลยค่ะ
ซื้อเครื่องปั๊มนมเมื่อไรดี?
- วางแผนซื้อได้ตั้งแต่ตั้งครรภ์ หากคุณแม่วางแผนที่จะให้ลูกน้อยได้คุณค่านมแม่เต็มที่และนานที่สุด ควรเริ่มมองหาหรือศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเครื่องปั๊มนมตั้งแต่ในช่วงตั้งครรภ์ โดยควรเลือกและวางแผนดูว่าควรจะใช้เครื่องปั๊มนมแบบไหนให้เหมาะกับการเลี้ยงลูก ลองทดสอบ สอบถามผู้ที่มีประสบการณ์ อ่านข้อมูลความรู้ต่างๆ และไปดูด้วยตัวเองล่วงหน้าก่อนคลอดเพื่อให้ในช่วงหลังคลอด คุณแม่จะได้มีตัวช่วยในการปั๊มนมแม่กระตุ้น ร่วมกับให้ลูกทารกแรกเกิดดูดกระตุ้นได้ทันที ไม่ต้องหาซื้อในช่วงพักฟื้น หรือกำลังเลี้ยงลูกแรกเกิด ให้เกิดฉุกละหุก
- เลือกซื้อ เปรียบเทียบกันตอนหลังคลอด * แต่หากคุณแม่ไม่ได้วางแผน เตรียมไว้ หรือซื้อในช่วงตั้งครรภ์ หลังคลอดก็ยังสามารถเลือกซื้อได้ เพียงหาเวลาไปศึกษาหรือเลือกดูสักนิด ยิ่งในปัจจุบันคุณแม่สามารถเลือกซื้อ เปรียบเทียบสินค้า และสั่งซื้อได้ทางออนไลน์ ก็ยิ่งทำให้สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องเสียเวลาในการเลี้ยงลูกหรือออกไปข้างนอก ก็มีเครื่องปั๊มนมใช้ ทำสต๊อกนมแม่ หรือกระตุ้นการสร้างน้ำนมให้ลูกรักได้ง่ายดาย
ส่วนจะเลือกเครื่องปั๊มนมแบบไหนดี และมีความแตกต่างอย่างไร? เรามีบทความแนะนำเอาไว้ให้คุณแม่หาข้อมูลช่วยในการพิจารณาเลือกซื้อไว้ในเว็บนี้แล้วค่ะ
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
น้ำนมของแม่นั้นเป็นอาหารที่เปี่ยมคุณค่ามากที่สุดสำหรับลูกน้อย โดยเฉพาะในเด็กทารกที่อายุน้อยกว่า 6 เดือน ซึ่งจะต้องกินนมจากแม่เป็นหลัก สำหรับคุณแม่ที่อยู่บ้านเลี้ยงลูกเต็มเวลาก็อาจจะไม่ได้มีปัญหากับการสต็อกน้ำนมเอาไว้ เพราะเน้นการเอาลูกเข้าเต้าเป็นส่วนใหญ่ แต่สำหรับคุณแม่ที่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน การทำสต็อกน้ำนมเอาไว้นั้นเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะจะได้มีน้ำนมเอาไว้ให้ลูกน้อยอย่างเพียงพอ ในบทความนี้ BabyGift มีคำแนะนำดี ๆ เกี่ยวกับการเก็บรักษา นมแม่ มาฝากกันค่ะ จะเก็บน้ำนมอย่างไรให้ไม่เหม็นหืน ไม่บูด และคงคุณค่าทางอาหารเอาไว้ได้มากที่สุด มาดูกันเลยค่ะ ทำไมนมของแม่มีกลิ่นเหม็นหืน ? มีวิธีการเก็บรักษา นมแม่อย่างไรไม่ให้มีกลิ่นและคงคุณค่าได้นาน คุณแม่บางคนอาจพบว่านมที่ตนเองทำการสต็อกไว้นั้นมีกลิ่นเหม็นหืน ซึ่งมักจะเกิดกับนมที่เก็บไว้ในช่องแช่แข็งในตู้เย็นที่มีระบบละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ เนื่องจากในช่วงที่ระบบละลายน้ำแข็งทำงาน นมที่แช่แข็งเอาไว้ก็จะละลายไปด้วย และเมื่อช่องแช่แข็งกลับมาเย็นจัดใหม่ ก็ทำให้น้ำนมแข็งตัวอีกครั้ง กระบวนการนี้หากเกิดขึ้นซ้ำหลาย ๆ ครั้งก็จะทำให้ไขมันในน้ำนมมีการเปลี่ยนแปลงและทำให้นมมีกลิ่นเหม็นหืนได้นั่นเองค่ะ ดังนั้นแล้วการเก็บรักษานมแม่ ในตู้เย็นที่มีระบบละลายน้ำแข็งอัตโนมัติแบบนี้ ก็เสี่ยงจะทำให้น้ำนมที่เก็บเอาไว้มีกลิ่นเหม็นหืนได้ สาเหตุที่นมแช่แข็งละลายมาเป็นน้ำนมแล้วมีกลิ่นเหม็นหืน ก็เพราะว่าในน้ำนมของแม่มีเอ็นไซม์ไลเปส ที่จะช่วยย่อยไขมันในน้ำนมของแม่ให้แตกตัวเป็นโมเลกุลเล็กๆ เพื่อผสมกับโปรตีนเวย์ในน้ำนมได้ดี ทำให้ร่างกายของลูกน้อยดูดซึมวิตามิน A และวิตามิน D ได้มากขึ้น ถ้าในน้ำนมของแม่มีไลเปสมากก็จะย่อยไขมันได้มาก ทำให้น้ำนมมีกลิ่นหืนนั่นเองค่ะ ทั้งนี้ แม้ว่าจะมีกลิ่นหืนก็ไม่เป็นอันตรายต่อลูกน้อยแต่อย่างใด ยังสามารถกินได้ แต่ในเด็กบางคนอาจไม่ยอมกินนมที่มีกลิ่นหืน สามารถแก้ไขได้โดยการนำน้ำนมที่ปั๊มมาใหม่ๆ ผสมกับนมที่มีกลิ่น ก็จะช่วยเจือจางกลิ่นและลดความเหม็นหืนไปได้ […]
การเลี้ยงลูกให้มีสุขภาพดีเริ่มต้นจากการให้ลูกกินอาหารที่มีประโยชน์ แต่การที่ลูกไม่ยอมกินข้าวเป็นปัญหาที่แม่หลายคนต้องพบเจอ แม้ว่าจะเป็นเรื่องธรรมดาของเด็กในวัยทารกหรือวัยเด็กเล็ก แต่หากปล่อยไว้ อาจส่งผลกระทบต่อพัฒนาการและสุขภาพของลูกในระยะยาว ดังนั้นวันนี้เรามีวิธีจัดการลูกไม่ยอมกินข้าวที่ได้ผลจริงมาฝากค่ะ 1. สร้างสภาพแวดล้อมในการทานอาหารที่ดี บรรยากาศการทานอาหารที่ดีช่วยให้ลูกอยากทานมากขึ้น คุณแม่ควรสร้างบรรยากาศที่สนุกสนานและไม่กดดันขณะทานอาหาร เช่น การทานอาหารร่วมกันกับครอบครัว หรือการตั้งโต๊ะอาหารที่มีสีสันและดูน่าสนใจ เคล็ดลับ: 2. ให้ลูกมีส่วนร่วมในการเลือกอาหาร เด็กมักจะรู้สึกสนุกและมีความภาคภูมิใจเมื่อได้เลือกหรือช่วยเตรียมอาหารเอง คุณแม่สามารถให้ลูกมีส่วนร่วมในการเลือกเมนูอาหารหรือการจัดเตรียมอาหารบางอย่าง เพื่อให้พวกเขารู้สึกว่าการทานอาหารเป็นเรื่องสนุกและไม่น่าเบื่อ เคล็ดลับ: 3. หลีกเลี่ยงการบังคับให้กินอาหาร การบังคับให้ลูกทานอาหารอาจทำให้ลูกเกิดความเครียดและต่อต้านการทานอาหารมากขึ้น การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับอาหารจะช่วยให้ลูกมีทัศนคติที่ดีต่อการทานอาหาร เคล็ดลับ: 4. เปลี่ยนเมนูอาหารให้หลากหลาย เด็กมักเบื่ออาหารที่ซ้ำซาก ดังนั้นคุณแม่ควรเปลี่ยนเมนูอาหารให้หลากหลายและน่าสนใจ เช่น การทำอาหารในรูปแบบต่างๆ หรือการเพิ่มรสชาติใหม่ๆ เข้าไปในอาหาร เคล็ดลับ: 5. ไม่เสิร์ฟของหวานก่อนมื้ออาหาร การเสิร์ฟของหวานหรือขนมก่อนมื้ออาหารจะทำให้ลูกอิ่มท้องก่อนและไม่อยากทานข้าว ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงการให้ขนมก่อนมื้ออาหาร เคล็ดลับ: 6. ทานอาหารร่วมกับลูก การทานอาหารร่วมกับลูกจะช่วยให้ลูกเห็นแบบอย่างในการทานอาหารที่ดี และทำให้ลูกรู้สึกมีส่วนร่วมในการทานอาหารด้วยกัน เคล็ดลับ: 7. ควบคุมเวลาการทานอาหาร การมีเวลาทานอาหารที่ชัดเจนจะช่วยให้ลูกสร้างนิสัยการทานอาหารที่ดี ไม่ทานอาหารระหว่างมื้อซึ่งอาจทำให้ลูกไม่หิวเวลาทานข้าว เคล็ดลับ: 8. ให้รางวัลเมื่อทานอาหารเสร็จ การให้รางวัลเล็กๆ น้อยๆ เมื่อทานอาหารเสร็จแล้วเป็นวิธีหนึ่งที่จะกระตุ้นให้ลูกทานอาหารอย่างเต็มใจ โดยรางวัลไม่จำเป็นต้องเป็นขนมหรือของหวานเสมอไป […]
รีวิวลูกค้าที่น่ารักจาก Baby Gift Showroom นะคะ…^^ …วันนี้คุณแม่อารมณ์ดีจร้า อากาศเย็นสบายลูกชายก็อารมณ์ดี ไม่งอแง ให้กินก็กิน ให้นอนก็นอน คุณแม่เลยได้พักผ่อนนอนกลางวันอย่างเต็มอิ่ม หลับยาวๆไป พออารมณ์ดี แล้วอากาศก็ดี แดดอ่อนๆ ตอนเย็นๆ ก็เลยคิดว่าจะพาลูกออกมาเดินเล่นสักหน่อย แม่ลูกจะไปยังไงกันอะหรอ ถ้าอุ้มเดินไปคงไมไหว คุณแม่มีตัวช่วยที่ดีที่จะพาลูกออกไปเที่ยวนอกได้อย่างสบายๆ แอ่น แอน แอ๊น !!!! รถเข็นเด็ก Aprica รุ่นใหม่ล่าสุดจร้า รุ่น Optia เพิ่งไปถอยมาไม่กี่วันนี้เอง บอกเลยชอบมาก ใช้ทุกวันคร้า เข็นเดินเล่นในบ้านบ้าง ออกนอกบ้านบ้าง ไปช้อปปิ้งก็สบาย ก็เพราะคุณสมบัติที่สุดยอดไปเลย คุณสมบัติแบบ Double เลิศเล่อเพอร์เฟคที่สุด ไหนๆก็ต้องออกมาเดินเล่น ก็ขอรีวิวซ่ะหน่อยน๊า!!! ก่อนจะซื้อรถเข็นเด็กก็เลือกแล้วเลือกอีก ดูหลายๆยี่ห้อ มีทั้งราคาแพงเว่อวัง แต่คุณสมบัติก็ไม่ได้มีอะไรมาก ส่วนไอ้ที่ราคาถูกๆก็เหมือนจะพังง่าย และก็เข็นน่าลำบากเหลือเกิน โยกไปโยกมาทั้งคัน ลูกนั่งคงเวียนหัวแย่!!! แต่กับรถเข็นเด็ก Aprica รุ่นใหม่ล่าสุด รุ่น Optia ลองเข็นพื้นเรียบก็เข็นง่าย แต่พอลองเข็นกับสนมหญ้าแล้ว ว้าวเลยค่ะ […]
เมื่อลูกน้อยอายุ 1 เดือนขึ้นไป คุณพ่อคุณแม่ก็เริ่มต้องพาลูกออกจากบ้านมากขึ้น ไม่ว่าจะพาไปหาหมอ หรือพาไปทำธุระต่าง ๆ ซึ่งถ้าพูดถึงการพาเด็กเล็กออกไปนอกบ้าน นอกจากจะต้องมีรถเข็นเด็กที่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับลูกน้อยแล้ว คุณพ่อคุณแม่หลายๆ คนอาจจะกำลังมองหา เป้อุ้มทารก ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยให้เราอุ้มลูกได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น ไม่ทำให้เมื่อยจนเกินไปเพราะช่วยถ่ายเทน้ำหนักได้ดี สำหรับบทความนี้เราจะพูดถึงเรื่องของการเลือกซื้อเป้อุ้มทารกอย่างไรดีให้เหมาะกับลูกน้อยของเรา ตามไปดูกันเลยค่ะ BabyGift ชวนคุณแม่เลือก เป้อุ้มทารก 1 เดือน พร้อม 7 แบบเป้แนะนำ เป้อุ้มทารก 1 เดือน จำเป็นหรือไม่ ? มีประโยชน์อย่างไร ? ก่อนที่ BabyGift จะแนะนำแบบเป้ที่ดีกับลูกน้อยให้กับคุณแม่ ขอพาไปทำความรู้จักกับเป้อุ้มทารกกันก่อนนะคะ เป้อุ้มเด็ก หรือกระเป๋าอุ้มเด็กทารกเป็นอุปกรณ์ทุ่นแรงให้กับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ เพื่อสร้างความสะดวกสบายในการอุ้มลูกน้อยด้วยตัวเอง และยังสามารถทำกิจกรรมอื่นๆ ได้ โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีใครดูลูก เหมาะสำหรับการอุ้มเด็กเล็กตั้งแต่ช่วงแรกเกิดไปจนถึงอายุ 2 – 3 ขวบ ซึ่งเป้อุ้มเด็กจะมีประโยชน์อย่างมากโดยเฉพาะครอบครัวขนาดเล็ก เพราะมักจะไม่มีคนดูแลเด็กเมื่อคุณพ่อคุณแม่ต้องออกไปทำธุระอื่น ๆ นอกบ้าน หรือโดยเฉพาะคุณแม่ที่ต้องทำงานบ้านหรือทำธุระต่างๆ ซึ่งสามารถใช้เป้อุ้มเด็กเพื่อให้ลูกอยู่กับตัวเองได้ และสามารถทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้ไปพร้อม ๆ กัน ซึ่งคุณแม่สามารถใช้เป้อุ้มทารกได้ตั้งแต่ 1 เดือน ไปจนถึงอายุ 1 ขวบขึ้นไป เราไปดูประโยชน์ของเป้อุ้มเด็กกันต่อเลยค่ะ ซึ่งนอกจากประโยชน์ที่เล่าไปข้างต้นแล้ว ยังมีข้อดีอื่น ๆ ที่จะตอบคำถามคุณแม่อีกว่า ทำไมถึงควรใช้เป้อุ้มเด็ก ซึ่ง BabyGift เคยเขียนเอาไว้แล้ว ลองตามไปอ่านเพิ่มเติมกันดูนะคะ เลือกเป้อุ้มเด็ก อย่างไรดี ? ถึงจะดีต่อลูกน้อยมากที่สุด คุณแม่มือใหม่หลายคนอาจมีความกังวลว่าการใช้เป้อุ้มเด็ก […]
…แต่ก็ไม่ง่ายเลย ให้คาร์ซีทเป็นเก้าอี้วิเศษของเด็กๆ ประสบการณ์จากคุณแม่ท่านหนึ่ง ที่อยากแชร์ให้ทุกๆบ้านฝึกลูกนั่งคาร์ซีทเพื่อความปลอดภัยของลูกๆ วิธีนี้พิสูจน์แล้วได้ผลแน่นอนค่ะ แต่ช่วงแรกคุณพ่อคุณแม่ต้องใจแข็งหน่อยนะคะ อ่านจบแล้วนำไปฝึกกับลูกๆเราได้เลยค่ะ ไม่นานมานี้ดิฉันเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัดกับลูกๆทั้งสนุกสนานและปลอดภัยตั้งแต่ออกเดินทางจนถึงจุดมุ่งหมายเลยค่ะรู้สึกขอบใจตัวเองที่กัดฟันให้ลูกนั่งคาร์ซีท ตั้งแต่วันแรกที่ลืมตาดูโลก ทำให้ขับรถได้อย่างมีสมาธิ แต่กว่าจะถึงวันนี้ลูกก็เคยร้องไห้ประท้วงจนแหวะใส่เก้าอี้ตัวเองมาแล้ว ดิฉันใช้วิธีสงบสยบความเคลื่อนไหวร้องได้ร้องไป แค่ 15 นาทีเท่านั้น คลื่นลมก็สงบ ตั้งแต่นั้นมาลูกๆ เรียนรู้เลยว่า เวลาขึ้นรถต้องไปนั่งที่ “เก้าอี้วิเศษ” คาร์ซีทของตัวเองและนั่งทุกครั้งแม้ระยะทางจะใกล้หรือไกลเพราะอุบัติเหตุอาจเกิดจากภัยในรถ เช่น ลูกทะเลาะกันที่เบาะหลัง (เจอมาแล้ว) หรือปีนป่ายจนได้รับอันตราย คุณแม่ท่านไหนที่ยังไม่มั่นใจในคาร์ซีท carseat ว่าจะช่วยวันยุ่งๆของคุณแม่ได้มากน้อยแค่ไหน ลองเคล็ดลับต่อไปนี้ดูสิคะ แล้วลูกคุณจะรัก “เก้าอี้วิเศษ” ของตัวเองขึ้นเยอะเลย 1. สร้างความผูกพันกับคาร์ซีท อนุญาตให้ลูกเอาสติ๊กเกอร์มาตกแต่งคาร์ซีทของตัวเองได้ เอาให้ถูกใจเลยเพราะต้องนั่งไปอีกนาน 2. มอบรางวัล บอกลูกว่า เราจะออกเดินทางได้ก็ต่อเมื่อล็อกสายรัดนิรภัยเรียบร้อย แล้วลูกจะรีบทำตัวน่ารักเพราะอยากไปเที่ยว แต่ถ้ากำลังพาไปหาหมอ อาจให้ขนมเป็นรางวัลได้ 3. เบี่ยงเบนความสนใจ ถ้าโยเยนัก ชวนคุยเรื่องการ์ตูนที่ลูกกำลังอินดีกว่า แค่นี้ก็เผลอจดจ่อกับการโม้เรื่องเจ้าหญิงกับฮีโร่ จนไม่ทันสังเกตว่า ตัวเองถูกจับนั่งคาร์ซีทเรียบร้อยแล้ว (มุกนี้ไม่เหนื่อย แถมสนุกดีด้วย) 4. เตรียมของเล่นแก้เบื่อ ควรมีของเล่นชิ้นโปรดอยู่ในรถ แนะนำว่าควรเป็นของเบาๆ และไม่แข็ง เช่น หนังสือผ้า เพราะคุณอาจโดนลูกเอาของในมือปาใส่ขณะขับรถ […]
การเตรียมตัวสำหรับเด็กแรกเกิดนั้นมีสิ่งต่าง ๆ ที่ต้องเตรียมพร้อมอยู่หลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นคาร์ซีท เป้อุ้มเด็ก รถเข็นเด็ก เปลนอน ขวดนม ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ของใช้ประจำตัวลูก ฯลฯ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ เตียงนอนเด็กแรกเกิดซึ่งจำเป็นสำหรับลูกน้อยมาก ๆ ปัจจุบันมีคำแนะนำว่าควรมีเตียงนอนแยกจากเตียงพ่อแม่ โดยสามารถตั้งไว้ข้างๆ เตียงของพ่อแม่ได้ แต่ไม่ควรอุ้มทารกมานอนเตียงเดียวกับเรา เพื่อป้องกันการนอนทับลูกขณะหลับ ทั้งยังช่วยป้องกันลูกตื่นเวลาที่เราเผลอพลิกตัว ทำให้ลูกได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่ เตียงนอนสำหรับเด็กมีกี่แบบ จะเลือกอย่างไรดี มียี่ห้อไหนน่าใช้บ้าง BabyGift มีข้อมูลมาฝากแล้วค่ะ เตียงนอนเด็กแรกเกิดจำเป็นหรือไม่ นอนกับพ่อแม่ได้หรือเปล่า ? เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่หลายๆ คนอาจเกิดความสัยขึ้นมาว่า เตียงนอนเด็กแรกเกิดนั้นมีความจำเป็นหรือไม่ สามารถให้ลูกนอนเตียงเดียวกับเราได้หรือเปล่า ? ปัจจุบันมีคำแนะนำว่าไม่ควรให้เด็กทารกนอนเตียงเดียวกับพ่อแม่ เพราะมีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายกับลูก ข้อมูลจาก สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวไว้ว่า เด็กมีโอกาสเสียชีวิตจากการถูกทับโดยพ่อแม่จนขาดอากาศหายใจและเสียชีวิต เช่น ในคุณพ่อคุณแม่บางคนที่หลับลึก นอนหลับสนิทมาก หรือรับประทานยาบางชนิดที่ทำให้หลับลึก เช่น ยาแก้หวัด หรือยาชนิดอื่น ๆ ที่ทำให้หลับสนิทก็อาจเผลอพลิกตัวนอนทับลูกโดยไม่รู้ตัวจนทำให้ลูกขาดอากาศหายใจได้ หรือผ้าห่มของผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนักอาจไปคลุมศีรษะเด็ก ทำให้หายใจไม่สะดวก หรือมีโอกาสที่ลูกจะถูกหมอนทับหน้าทำให้ขาดอากาศหายใจได้เช่นกัน แม้กระทั่งคุณพ่อคุณแม่นอนดิ้นและอาจเบียดลูกตกเตียงได้ ดังนั้นแล้ว เตียงนอนเด็กแรกเกิดโดยเฉพาะที่แยกที่นอนลูกเป็นสัดส่วนจึงสำคัญและจำเป็นมาก ๆ […]

ร้านสินค้าแม่และเด็กที่คัดสรรนวัตกรรมของใช้แม่และเด็กที่มี
คุณภาพให้คำปรึกษาและบริการ อย่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยให้การเลี้ยงลูกเป็นเรื่องง่าย ปลอดภัย และมีความสุข
Online Shopping
สาขา ปิ่นเกล้า ราชพฤกษ์
สาขา Mega บางนา
สาขา Central World
สาขา The Crystal รามอินทรา
สาขา BTS วงเวียนใหญ่ (Outlet)
Copyright 2024 © Baby Gift (Retail) Co., Ltd.