เข้าไตรมาส 2 แล้ว มีอะไรที่เปลี่ยนไปบ้างนะ?

ท้องมาสามเดือนแต่ยังไม่เห็นรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงอะไรเลย ท้องก็ยังไม่ใหญ่ ลูกก็ยังไม่ดิ้น แถมขึ้นบีทีเอสก็ยังไม่มีคนลุกให้นั่งอีกต่างหาก ถ้าคุณแม่กำลังคิดแบบนี้อยู่ ก็ขอให้เตรียมตัวเตรียมใจเข้าสู่เดือนที่สี่ ห้าและหกให้ดีๆ เลยจ้า บอกก่อนเลยว่าช่วงไตรมาสนี้ นอกจากอารมณ์คุณแม่ๆ จะแปรปรวนเดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลงแล้ว เจ้าร่างกายก็น้อยหน้าซะที่ไหน เผลอๆ แปรปรวนหนักกว่าอารมณ์ซะอีก เราลองไปดูกันดีกว่า ว่าช่วงนี้คุณแม่จะต้องเจอกับอะไรบ้าง
- ไม่ค่อยแพ้ท้องแล้ว
อันนี้เป็นเรื่องดี ขอปรบมือรัวๆ จากที่แพ้ท้องเช้า กลางวัน เย็น กินอะไรก็อาเจียน ได้กลิ่นอะไรก็ต้องวิ่งเข้าห้องน้ำ ขอบอกว่าพอเข้าช่วงไตรมาสสองอาการพวกนี้จะดีขึ้นเยอะ! คุณแม่บางคนอาจจะเหลือแค่แพ้ท้องเช้านิดหน่อย เย็นนิดหน่อย แต่บางคนก็หายเป็นปลิดทิ้งเลยค่ะ เหมือนร่างกายเริ่มปรับตัวได้แล้วอ่ะเนอะ ช่วงนี้ก็จะดีหน่อย คุณแม่จะทานอะไรได้เยอะขึ้น เผลอๆ เยอะกว่าเดิม อัดอั้นตันใจที่ทานอะไรไม่ได้เลยในช่วงแรกๆ แต่จริงๆ แล้วก็มีคุณแม่บางคนที่ยังแพ้ท้องอยู่ เราก็ขอแนะนำให้คุณแม่ดื่มน้ำอุ่นๆ ทานอาหารเบาๆ แต่ก็ไม่ใช่ขนมขบเคี้ยวนะ ขอแนะนำเป็นพวกอาหารเบาๆ ที่มีประโยชน์จะดีกว่า - ตัวเริ่มหนัก พุงเริ่มออก
ใครที่กำลังบ่นว่าท้องยังไม่เห็นใหญ่เลย ตอนนี้แหละค่ะของจริง! เจ้าจิ๋วในท้องของเราเริ่มโตขึ้นละ คนรอบข้างก็เริ่มสังเกตได้แล้วล่ะว่าคุณแม่กำลังท้องอยู่ คุณแม่บางคนอาจจะชะล่าใจคิดว่าไหนๆ คนท้องก็ต้องอ้วนอยู่แล้วกินๆ เข้าไปเถอะ แต่ขอบอกตรงนี้เลยว่าอย่าเพิ่งกินเพลินจนลืมไปนะคะว่าคนท้องเสี่ยงเป็นเบาหวานช่วงตั้งครรภ์ได้ ยิ่งถ้าคุณแม่ติดทานอะไรหวานๆ จนน้ำหนักขึ้นพรวดพราดนะ โดนคุณหมอจับตรวจเบาหวานแน่นอน - ท้องแตกลาย หัวนมดำ
พอพุงเริ่มออก ก็ไม่แปลกที่หน้าท้องจะเริ่มแตก ยิ่งคุณแม่ที่ท้องใหญ่ๆ หน้าท้องก็จะแตกลายเยอะหน่อย แต่จะไปซีเรียสกันทำไม สมัยนี้นวัตกรรมล้ำเลิศ มีครีมทาแก้ท้องแตกลายออกวางขายตามท้องตลาดทั่วไป หรือไม่ก็ใช้ครีมทาผิวปกติ แต่ขอเป็นสูตรอ่อนโยน ทาเบาๆ บริเวณที่แตกลายให้รู้สึกชุ่มชื้นก็พอแล้วล่ะค่ะ มันอาจจะไม่ได้ทาปุ๊ปหายปั๊ป แต่ก็ช่วยได้เยอะเลยล่ะ ส่วนเรื่องหัวนมดำนี่ยากที่จะหลีกเลี่ยง แต่พอคลอด พอ
ลูกได้ดูดนมไปสักพัก หัวนมคุณแม่ก็จะกลับมาเป็นสีชมพูเหมือนเดิม ช่วงก่อนคลอดนี่ร่างกายก็จะเตรียมพร้อมเพื่อลูกน้อย ท่อน้ำนมขยาย ลานนมกว้างขึ้น บางทีอาจจะเห็นน้ำใสๆ ไหลออกมาจากเต้า แต่อย่าได้ไปบีบหัวนมเลยเชียว เพราะอาจจะทำให้เสี่ยงคลอดก่อนกำหนดได้
- เป็นตะคริวยามหลับ
เป็นตะคริวยามหลับนี่ไม่ใช่เรื่องตลกเพราะมันทรมานสุดๆ ไปเลย สาเหตุหลักๆ ก็มาจากการที่ร่างกายเราต้องแบกรับท้องที่มีขนาดใหญ่ขึ้น น้ำหนักมากขึ้น แถมมดลูกยังอาจไปกดทับเส้นเลือดใหญ่ทำให้เกิดอาการเกร็งแบบเฉียบพลันอีก ฮอร์โมนที่เปลี่ยนไปช่วงตั้งท้องนี่ก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดตะคริวด้วยก็ได้นะคะ สาเหตุอีกอย่างก็คือการที่โดนเจ้าตัวเล็กแย่งสารอาหารผ่านสายสะดือ คุณแม่ก็เลยขาดสารอาหารบางตัว อย่างพวกแคลเซียม แมกนีเซียม แล้วก็วิตามินต่างๆ จนทำให้เป็นตะคริว แต่ความทรมานไม่ได้อยู่ที่แค่การเป็นตะคริวอย่างเดียวนี่สิ การสะดุ้งตื่นกลางดึกเพราะตะคริวนี่น่ากลัวสุด เพราะกว่าจะข่มตาหลับได้มันช่างนานแสนนาน เหมือนต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่เลยล่ะ - ริดสีดวงมาเยือนถึงที่
เมื่อมดลูกมีขนาดใหญ่ขึ้นก็อาจจะไปกดทับเส้นเลือดดำที่ค่อนไปทางด้านขวาของร่างกาย เหมือนเวลาเราเหยียบสายยางรดน้ำ คุณแม่จะเห็นว่าน้ำจะไหลเอื่อยมากกก อันนี้ก็เช่นเดียวกันค่ะ พอมดลูกไปกดทับเส้นเลือดปุ๊ป การไหลเวียนของเลือดก็จะทำงานได้ไม่ปกติ เส้นเลือดดำที่อยู่บริเวณทวารหนักของคุณแม่ก็จะปูดโปนออกมา เหมือนเลือดมันคั่งอยู่ ไหลเวียนได้ไม่เต็มที่ ทำให้เกิดเป็นริดสีดวงได้ พอคุณแม่ทำธุระถ่ายหนัก เส้นเลือดดำที่ปูดออกก็อาจไปสีกับอุจาระทำให้เลือดไหล แต่ก็ไม่ต้องกังวลกันไปไกลหรอกนะ วิธีการแก้ก็คือ คุณแม่อาจจะต้องรับประทานผักเพื่อเพิ่มกากใย ดื่มน้ำเยอะๆ จะได้ขับถ่ายได้สะดวก อย่าให้ท้องผูกเป็นอันขาด แต่ถ้าทิ้งไว้หลายวันไม่ทุเลาลงก็ลองไปพบคุณหมอดูจะดีกว่า - รู้สึกได้ถึงลูกดิ้น
ข้อนี้คือฟินาเล่ของไตรมาสนี้เลยค่ะ เพราะจะเป็นไตรมาสแรกที่คุณแม่จะรู้สึกว่าลูกน้อยของเราเต้นดุ๊กดิ๊กอยู่ภายในท้อง แต่อย่างที่เคยมาเล่าให้ฟังไปก่อนหน้านี้ว่าคุณแม่แต่ละคนก็จะรู้สึกถึงลูกดิ้นเร็วช้าแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับผนังหน้าท้องว่าหนาหรือบาง แต่ก็จะรู้สึกภายในไตรมาสนี้แน่นอนแหละ ถ้าท้ายๆ ไตรมาสแล้วยังไม่รู้สึก คุณแม่ลองปรึกษาคุณหมอดูน้า อย่าปล่อยทิ้งไว้เด็ดขาดเลยนะคะ
ในช่วงไตรมาสนี้ก็ไม่มีอะไรมาก แค่ขนาดท้องที่ใหญ่ขึ้นเลยอาจจะทำให้เคลื่อนไหวช้าลงนิดหน่อย ช่วงนี้ร่างกายของคุณแม่จะต้องการพลังงานแค่ประมาณ 2,200 กิโลแคลอรีเท่านั้น คุณแม่บางคนอาจจะคิดว่าทานสำหรับสองคน ต้องเอาแคลมาบวกกันรึเปล่า…ไม่ต้องนะ เดี๋ยวน้ำหนักคุณแม่จะพุ่งทะลุเป้าเกินไปซะก่อน เราขอเน้นให้คุณแม่เลือกทานแต่อาหารที่มีประโยชน์ เช่นพวกผักใบเขียว ปลาที่มีโอเมกา 3 โปรตีนจากไก่ อะไรพวกนี้ดีกว่า ส่วนพวกอาหารฟาสต์ฟู้ดทั้งหลายก็ควรจะงดไปก่อนเนอะ เพราะไขมันเยอะมากกกก แถมของทอดๆ ยังอาจจะทำให้คุณแม่รู้สึกคลื่นไส้อีกต่างหาก สิ่งสำคัญที่สุดคืออย่าลืมทานยาบำรุงที่คุณหมอให้มา โดยเฉพาะแคลเซียม เพราะลูกจะแย่งแคลเซียมจากเราไปเยอะมากๆ เพราะงั้นควรจะทานเสริมเข้าไปให้ได้อย่างน้อย 1,000 มิลลิกรัมต่อวันนะคะ
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
การทำความสะอาดของเล่นเด็ก ฆ่าเชื้อของเล่นเด็ก ถือเป็นเรื่องสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่อย่างเราต้องใส่ใจ โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่มีการแพร่ระบาดของโรคต่าง ๆ อยู่เรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็น ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ COVID-19 โรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันร้ายแรง (SARS) และไข้หวัดนก การใช้วิธีแบบเดิม ๆ ที่ได้ผลในอดีต อาจไม่เพียงพอในการป้องกันเชื้อโรคสายพันธุ์ใหม่ที่แฝงตัวอยู่รอบตัวได้ รวมไปถึงปัญหามลพิษในอากาศ เช่น ฝุ่น PM 2.5 ที่ทวีความรุนแรงขึ้นทุกปี การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ ฆ่าเชื้อโรคของใช้ลูก จึงต้องเลือกที่สามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ และใช้ได้กับทุกคนภายในครอบครัว เพื่อความคุ้มค่าสูงสุด ความต้องการทีเปลี่ยนไปของผู้บริโภคทำให้มีการคิดค้นผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ ๆ ที่นำเอาเทคโนโลยีเชิงวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้มากขึ้น โดยเฉพาะในประเทศแถบเอเชีย เช่น เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และประเทศจีน โดยผลิตภัณฑ์เหล่านี้เกิดขึ้นมาเพื่อเป็นตัวเสริมจากการป้องกันตนพื้นฐาน เช่น การสวมหน้ากากอนามัย การพกพาเจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือ หรือการใช้สารฟอกขาวในการฆ่าเชื้อ ได้แก่ เทคโนโลยีเครื่องปล่อยโอโซน เครื่องผลิตไอออนประจุลบ เครื่องผลิตน้ำอิเล็กโทรไลต์ เครื่องฆ่าเชื้อด้วยรังสี UV เป็นต้นแต่อย่างไรก็ตามมีผลิตภัณฑ์มากมาย ที่ผลิตโดยไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัย หรือไม่ได้ประสิทธิภาพตามคำโฆษณา จึงก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี หรือไม่ได้ผลในการฆ่าเชื้อโรค ฉะนั้นเพื่อความปลอดภัยสูงสุด คุณแม่จึงต้องทำความเข้าใจรูปแบบของการ […]
รถเข็นเด็กยี่ห้อไหน ที่หมอเด็กเลือกให้ลูกตัวเอง โดยหมอวิน เพจ เลี้ยงลูกตามใจหมอ #รถเข็นเด็ก และ #สิ่งพึงกระทำ#อุปกรณ์ยังชีพสำหรับแม่สายชิล บอกก่อนเลยว่า รถเข็นเด็ก นั้นเป็นอุปกรณ์ที่ไม่ได้จำเป็นครับ หากมองในแง่ของการเลี้ยงดูและความปลอดภัย ไม่เหมือนคาร์ซีท ที่จำเป็นมาก ๆ ๆ (ไม้ยมก … ล้านตัว) แต่ “รถเข็นเด็ก” ก็เป็น gadget ที่ยากจะปฏิเสธ เพราะมันทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้นเยอะมากครับ แต่ถ้าใครเป็นสายอุ้ม … อุ้มโลดจ้ะ แต่มันก็จะเมื่อยถึงเมื่อยมาก จริง ๆ… ดังนั้นเลือกรถเข็นเด็กที่เหมาะกับเงินในกระเป๋า และความสบายตัวของลูกละกันครับ รถเข็นเด็ก …ประโยชน์ แต่อย่างไรก็ตาม … มีการรายงานว่า สามารถเกิดอุบัติเหตุได้หากใช้รถเข็นเด็กแบบไม่เหมาะสมครับ มีหลายเคสที่มาด้วยรถคว่ำหรือไหลจากที่สูงจนคว่ำทำให้หัวลูกกระแทกพื้นได้ครับ … จน AAP หรือสมาคมกุมารเวชศาสตร์ของประเทศสหรัฐอเมริกาต้องออกมาแนะนำรถเข็นเด็ก ว่าสิ่งที่พ่อแม่พึงกระทำยามใช้รถเข็นเด็กครับ……นั่นคือ และทิ้งท้ายครับ ปัจจุบันพ่อแม่หลายคนนิยม รถเข็นเด็กแบบพับเล็ก ๆ ที่จับเป็นแบบก้าน ซึ่งดีในแง่การเดินทางและเอาขึ้นเครื่องเนอะ แต่หมอขอแนะนำแบบนี้ครับ รถเข็นเด็กพับเล็กไม่เหมาะกับเด็กแรกเกิดครับ เพราะไม่มีที่รองคอ และที่นั่งมักทำให้เด็ก fix กับที่ไม่ค่อยได้ครับ รอโตกว่านี้ตอนจะไปเที่ยวต่างประเทศค่อยว่ากันครับ แต่หากลูกยังเล็กแนะนำอันที่แข็งแรงมีที่รองคอดีกว่าเนอะ … ร้าน Baby Gift ตัวแทนจำหน่ายรถเข็นเด็ก Aprica แบรนด์ดังจากญี่ปุ่นที่เหมาะกับคนเอเชียอย่างเรา ๆ […]
เชื่อว่าคุณแม่ร้อยทั้งร้อยที่อ่านบทความนี้อยู่อยากให้ลูกน้อยคลอดออกมามีผิวสวยสุขภาพดีอย่างแน่นอน ถึงเราจะอยากให้ลูกออกมาผิวขาวใสแค่ไหน ก็อย่าไปเชื่อคำโฆษณาอาหารเสริมต่าง ๆ นะคะ เพราะอาหารเสริมบางตัวไม่เหมาะกับคุณแม่ตั้งครรภ์อย่างยิ่ง คุณแม่บ้านไหนอยากให้ลูกผิวดี ลองมาดูอาหารง่าย ๆ ไม่ต้องจ่ายเงินแพง ๆ แถมยังหาซื้อได้ทั่วไปกันดีกว่า 1. ถั่วเหลือง ถั่วเหลืองนั้น นอกจากจะแหล่งโปรตีนที่ทรงคุณค่าไม่แพ้นมวัวแล้ว นมถั่วเหลืองยังเป็นอาหารที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่มีชื่อว่า “ไอโซฟลาโวน” ซึ่งเจ้าสารต้านอนุมูลอิสระตัวนี้นี่แหละค่ะที่จะไปช่วยกำจัดอนุมูลอิสระภายในร่างกาย ชะลอความเสื่อมของเซลล์ต่าง ๆ ซึ่งไม่ได้มีผลแค่กับคุณแม่นะ แต่ยังส่งผลไปถึงคุณลูกด้วย อาหารที่ประกอบด้วยถั่วเหลืองง่าย ๆ ก็เช่น น้ำเต้าหู้ เต้าหู้ หรือนมถั่วเหลืองที่คุณแม่สามารถหาซื้อได้ทั่วไปเลย นอกจากนี้ถั่วเหลืองยังมีกรดอะมิโนที่มีส่วนช่วยทำให้มีผิวกระจ่างใสอีกด้วย 2. ผลไม้สดและน้ำผลไม้ ข้อนี้เดาได้ง่าย ๆ เลยใช่มั้ยล่ะคะ ก็แน่นอนว่าเมื่อพูดถึงเรื่องผิวสวยแล้ว สิ่งที่เราขาดไม่ได้เลยก็คือผลไม้ รวมถึงน้ำผลไม้ (ขอแบบแท้ 100% ไม่ผสมน้ำตาลด้วยนะ) และถ้าจะให้ดีกว่าเดิม เราขอแนะนำให้คุณแม่ทานผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น สับปะรด ส้ม เพราะเจ้าพวกผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวเหล่านี้จะมีกรดซิตริกที่ค่อนข้างสูง แถมยังอุดมด้วยวิตามินซี ซึ่งเป็นวิตามินที่จะมาช่วยเรื่องผิวโดยตรงเลยค่ะ ยิ่งไปกว่านั้น! นอกจากผลไม้และน้ำผลไม้รสเปรี้ยวจะช่วยบำรุงให้ผิวลูกน้อยคุณแม่แล้ว สารอาหารในผลไม้พวกนี้ยังช่วยฟื้นฟูผิวของตัวคุณแม่ด้วย คุณแม่บ้านไหนที่นอนไม่หลับ สิวขึ้น ผดขึ้น ลองมาทานผลไม้กันดูนะ […]
การเป็นแม่มือใหม่อาจจะเป็นเรื่องที่ทั้งสนุกและท้าทายอย่างมาก สำหรับแม่มือใหม่หลายๆ คนที่เพิ่งมีลูกคนแรก ย่อมต้องเผชิญกับปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นประจำ ซึ่งบางครั้งอาจทำให้รู้สึกเครียดและสับสน แต่ไม่ต้องกังวล เพราะทุกปัญหามีวิธีการจัดการที่สามารถทำได้ทันที วันนี้เรามี 5 ปัญหาที่แม่มือใหม่เจอบ่อย พร้อมวิธีแก้ไขที่ได้ผลทันทีมาฝากค่ะ 1. ลูกไม่ยอมนอนตอนกลางคืน หนึ่งในปัญหาที่แม่มือใหม่มักเจอบ่อยคือ ลูกไม่ยอมนอนตอนกลางคืน ตื่นบ่อย หรือร้องไห้จนทำให้แม่ไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ นี่อาจเกิดจากการที่เด็กยังไม่คุ้นเคยกับการนอนตอนกลางคืน หรือยังปรับตัวไม่ได้กับตารางเวลา วิธีแก้ไข: 2. ลูกไม่ยอมกินนม/อาหารเสริม หลายๆ แม่มือใหม่มักจะพบว่า ลูกไม่ยอมกินนมแม่หรือนมขวด หรือแม้กระทั่งปฏิเสธอาหารเสริม แม้จะพยายามหลายครั้งแล้วก็ตาม วิธีแก้ไข: 3. ลูกร้องไห้ไม่หยุด หนึ่งในปัญหาที่ท้าทายมากสำหรับแม่มือใหม่คือการที่ลูกร้องไห้ไม่หยุด ซึ่งบางครั้งอาจทำให้แม่รู้สึกวิตกกังวลและไม่รู้วิธีการช่วยลูก วิธีแก้ไข: 4. ปัญหาน้ำนมไม่พอ แม่มือใหม่หลายคนจะมีความกังวลเรื่องน้ำนมไม่พอให้ลูกดื่ม ซึ่งอาจเกิดจากความเครียดหรือการให้นมไม่สม่ำเสมอ วิธีแก้ไข: 5. รู้สึกเครียดหรือเหนื่อยล้าจากการเลี้ยงลูก การเป็นแม่มือใหม่ที่ต้องดูแลลูกอย่างต่อเนื่องอาจทำให้เกิดความเครียดและรู้สึกเหนื่อยล้า ทำให้บางครั้งแม่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ดีพอ วิธีแก้ไข: บทสรุป ปัญหาที่แม่มือใหม่เจอบ่อยนั้นเป็นสิ่งที่สามารถจัดการได้ด้วยการมีความรู้และวิธีการที่ถูกต้อง อย่าลืมว่าการเลี้ยงลูกไม่ใช่การแข่งกับเวลา แต่คือการเรียนรู้และปรับตัวไปพร้อมๆ กัน ไม่ต้องกังวลหรือเครียดเกินไป ขอให้แม่มือใหม่ทุกคนมีความสุขกับการเลี้ยงดูลูกอย่างเต็มที่ และรู้สึกมั่นใจในการตัดสินใจที่ดีที่สุดเพื่อสุขภาพและความสุขของลูกค่ะ!
คุณแม่ฉีดวัคซีนกันหรือยังงงงง อย่ามัวแต่รีรอนะ เพราะว่าวัคซีนนั้นสำคัญมาก แต่ใครที่ฝากท้องกับคุณหมอแล้วก็ไม่ต้องห่วงค่ะ เดี๋ยวคุณหมอก็จะนัดฉีดเอง คุณแม่บางคนอาจจะสงสัยว่าเวลาท้องแล้วจะต้องฉีดวัคซีนอะไรบ้าง วันนี้เราเลยนำความรู้เกี่ยวกับวัคซีนที่สำคัญสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์มาฝากกันค่ะ ปกติแล้วการได้รับวัคซีนของคุณแม่ท้องจะแบ่งเป็น 2 ช่วง ก็คือช่วงก่อนตั้งครรภ์กับช่วงระหว่างตั้งครรภ์ ด้านล่างคือวัคซีนต่างๆ ที่สำคัญสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ค่ะ 1. วัคซีนป้องกันโรคหัดเยอรมัน (Rubella Vaccine) ใครเตรียมตัวเป็นคุณแม่ก็ไปฉีดวัคซีนตัวนี้ล่วงหน้าสัก 3 เดือนเป็นอย่างน้อยนะคะ อ๊ะๆ คนที่ยังไม่ได้ฉีดกำลังตกใจกันอยู่ใช่มั้ย อย่าเพิ่งตกใจไปค่ะ ถ้าคุณแม่ไม่เคยฉีดวัคซีนตัวนี้ก่อนท้อง คุณแม่ก็แค่ต้องดูแลตัวเองให้ดีๆ ในช่วงที่ท้องสามเดือนแรก หลักๆ คืออย่าไปที่ที่มีคนพลุกพล่าน เพราะมันเป็นแหล่งรวมเชื้อโรคเลยล่ะ ยิ่งถ้าไปเจอคนที่ไอหรือจามหรือเป็นไข้อะไรพวกนี้ด้วยแล้วก็ยิ่งเสี่ยงเข้าไปใหญ่เลย เพราะถ้าหากคุณแม่ติดเชื้อไวรัสหัดเยอรมันตัวนี้เข้าในช่วงที่ท้องสามเดือนแรก มันจะส่งผลให้ลูกในท้องมีความพิการที่อวัยวะต่างๆ เช่น ตา หู หัวใจ แขน ขาหรือสมองได้ค่ะ คุณแม่ที่เป็นหัดเยอรมันจะมีอาการเหมือนเป็นไข้หวัดธรรมนี่แหละ แต่จะแถมด้วยผื่นขึ้นตามตัว แต่ว่าถ้าคุณแม่ติดเชื้อไวรัสนี้ในช่วงเดือนท้ายๆ ก็ไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะลูกของเราจะไม่ได้รับผลกระทบจากเชื้อนี้เนื่องจากเค้าเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว 2. วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบบี (Hepatitis B Vaccine) ไวรัสตัวนี้พบเยอะมากได้ประเทศไทยค่ะ คนที่เป็นก็จะแสดงอาการไม่เหมือนกันหรอก แต่ถ้าเป็นขั้นรุนแรงแล้วล่ะก็สามารถเสียชีวิตได้เลยค่ะ คนที่เป็นโรคนี้หนักๆ ตัวจะเหลือง อ่อนเพลียมากตลอดเวลาแล้วตับก็จะถูกทำลาย เจ้าเชื้อตัวนี้สามารถติดจากแม่สู่ลูกในท้องได้ แต่ก็ไม่ได้มีผลร้ายแรงอะไรนะคะ ที่บอกว่าติดต่อก็คือว่า ถ้าเกิดคุณแม่มีเชื้อนี้ […]
สวัสดีค่ะคุณแม่ทุกคนนะคะ สำหรับคุณแม่ทั้งหลายที่มีลูกน้อย คงจะเคยชินกับการล้างขวดนมเสร็จแล้ว ก็ฆ่าเชื้อขวดนมด้วยหม้อนึ่งความร้อนกันใช่ไม๊คะ วันนี้แม่อีฟ ขอแนะนำเครื่องมือชิ้นใหม่ ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์คุณแม่สมัยใหม่อย่างเราๆ ที่ต้องการความสะดวกสบายและการฆ่าเชื้อ โรคได้มากที่สุดสำหรับลูกน้อย มาทำความรู้จักกับตู้อบแห้งฆ่าเชื้อ UV แบรนด์ Prince&Princess สัญชาติเกาหลี เครื่องนี้เป็น Gen2 ที่มีการพัฒนาขึ้น ให้ใช้งานได้มีประสิทธิภาพดีขึ้น การใช้งาน ก็ง๊ายง่ายค่ะ ที่เครื่องจะมีแค่ 3 ปุ่ม เท่านั้น คือปุ่ม Auto, ปุ่ม UV และปุ่ม Dry ถ้าใช้สำหรับขวดนมหรือของใช้ที่ล้างมาเปียกๆ ก็ง่ายเลยค่ะ แค่กดปุ่ม Auto เพียงปุ่มเดียวแล้วรอแค่ 30 นาที ก็สามารถเอาขวดนมมาชงนมให้ลูกได้เลยค่ะ เริ่มน่าสนใจกันแล้วใช่ไหมหล่ะคะ และนี้ก็คือโฉมหน้าของเจ้าตู้อบฆ่าเชื้อ ด้วยUV ที่มีดีไซน์ แบบทันสมัย ใช้ง่าย และน้ำหนักเบาแค่ 5 kg. เองค่ะ คุณแม่ก็สามารถยกย้ายที่ใช้งานได้แบบง่ายๆเลยค่ะ ก่อนหน้าที่จะใช้เครื่องนี้ ก็เคยมีวิธีการทำความสะอาดของให้กับลูก โดยการล้างทำความสะอาด แล้วก็เอาไปนึ่งต่อต้องทำหลายขั้นตอน ตั้งแต่ตวงน้ำลงในถาด นึ่งเสร็จก็ต้องล้างหม้อนึ่งด้วย พอน้ำแห้งก็มักเป็นตะกรัน พอบ่อยๆ […]






