5 เมนูอาหารเด็ก 8 เดือน ลูกกินได้อย่างอร่อย คุณแม่แฮปปี้ ไม่กังวล

คุณแม่อาจป้อนอาหารบดละเอียดให้ลูกเสริมกับการกินนมแม่เป็นหลัก หรือถ้าคุณพ่อคุณแม่คนไหนอยากฝึก BLW ให้ลูกกินข้าวด้วยตัวเองเป็นก็อาจให้ลูกหยิบจับอาหารนิ่ม ๆ กินเองโดยที่ไม่ต้องป้อนซึ่งอาจเป็นอาหารที่ไม่ผ่านการปรุงมาก อย่างเช่น ผักต้มนิ่มๆ ผลไม้นิ่มๆ เนื้อปลาต้มนิ่มๆ และเมื่อลูกย่างเข้าสู่เดือนที่ 8 เป็นต้นไป ลูกก็จะเริ่มกินอาหารได้หลากหลายมากขึ้น คุณพ่อคุณแม่ก็อาจมองหาเมนูอาหารใหม่ๆ ให้กับลูกน้อย ซึ่งในบทความนี้ BabyGift มีเมนูอาหารเด็ก 8 เดือน 5 เมนูอร่อยมาแนะนำกัน จะมีอะไรบ้างนั้น ลองไปดูกันค่ะ 

ชวนเข้าครัวเตรียมเมนูอาหารเด็ก 8 เดือนให้ลูกน้อย เด็ก 8 เดือนกินอะไรได้บ้าง ? 

พอลูกของเราอายุ 6 เดือนขึ้นไป ก็จะสามารถกินอาหารเสริมนอกเหนือจากนมแม่เพิ่มเติมได้ และถ้าเป็นไปได้ คุณแม่ก็ควรให้นมแม่ควบคู่กับการเพิ่มมื้ออาหารให้ลูก ซึ่งอาหารสำหรับเด็กอ่อนนั้น สามารถใช้วัตถุดิบได้หลากหลาย และเมื่อลูกอายุ 8 เดือนก็จะเริ่มมีฟันน้ำนม สามารถกินอาหารได้อย่างหลากหลายมากขึ้น เนื้อสัมผัสอาหารมีความหยาบได้มากขึ้น รวมถึงกินผลิตภัณฑ์จากนมอย่าง เนย ชีส และโยเกิร์ตได้ สำหรับเมนูอาหารเด็ก 8 เดือนที่เราจะแนะนำกันนั้น สามารถใช้วัตถุดิบอะไรได้บ้าง มาดูกันค่ะ 

  • ไข่ : สามารถกินได้ทั้งไข่ไก่ และไข่เป็ด แต่ควรทำให้สุก ไม่ควรให้ลูกกินไข่ดิบ ไข่ยางมะตูม หรือไข่ลวก เพราะอาจปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรียและเป็นอันตรายต่อลูกได้ สำหรับเมนูเด็ก 8 เดือน สามารถเพิ่มไข่ขาวลงไปได้ เพราะถึงวัยที่เริ่มกินไข่ขาวได้แล้วค่ะ
  • ตับ : ให้ลูกน้อยกินได้ทั้งตับหมู และตับไก่ แต่ต้องทำให้สุกก่อนให้ลูกกิน ไม่ควรให้ลูกกินแบบสุกๆ ดิบๆ เป็นอันขาด 
  • เนื้อสัตว์ต่างๆ : สามารถกินได้ทั้งเนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อปลา ซึ่งต้องผ่านการปรุงสุกทั้งหมด 
  • ถั่ว และธัญพืช : หากต้องการให้ลูกหัดกินถั่ว และธัญพืช ควรต้มให้สุกและบดให้ละเอียด เพื่อให้ย่อยได้ง่าย และไม่ทำให้ท้องอืด ห้ามให้ลูกหยิบกินเป็นเมล็ดเด็ดขาดเพราะอาจทำให้ติดคอหรือสำลักได้ รวมถึงสามารถให้ลูกกินผลิตภัณฑ์แปรรูปจากถั่วอย่างเต้าหู้ได้ด้วย 
  • อาหารประเภทแป้ง : กินได้ทั้งข้าว ไม่ว่าจะเป็นข้าวขาว ข้าวโอ๊ต ข้าวฟ่าง เส้นพาสต้า รวมถึงฟักทอง มันฝรั่ง มันเทศ เป็นต้น 
  • ผักต่าง ๆ : เลือกผักที่หาได้ง่ายตามท้องตลาด เน้นผักหลากหลายชนิด โดยเฉพาะผักใบเขียว สีส้ม และสีเหลืองอย่างผักบุ้ง ตำลึง หน่อไม้ฝรั่ง บล็อกโคลี ผักโขม แครอท ฟักทอง โดยต้ม หรือนึ่งให้สุก 
  • ผลไม้ : ควรเป็นผลไม้นิ่มๆ อย่าง มะละกอสุก มะม่วงสุก กล้วยน้ำว้า อะโวคาโด ส้มเขียวหวาน กีวี สตรอว์เบอร์รี่ หลีกเลี่ยงผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่เป็นผลเล็กๆ รวมถึงมะเขือเทศราชินีเป็นลูกเล็ก ๆ เพราะอาจทำให้สำลักหรือติดคอได้เช่นกัน

แนะนำ 5 เมนูอาหารเด็ก 8 เดือน อร่อย และได้ประโยชน์แบบจัดเต็ม

จะเห็นว่าเด็กในวัย 8 เดือนนั้นสามารถกินอาหารได้อย่างหลากหลายทีเดียวค่ะ การเลือกวัตถุดิบที่แตกต่างกันในแต่มื้อจะทำให้ลูกน้อยได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน ทั้งเกลือแร่ วิตามินจากผักผลไม้ต่างๆ รวมถึงสิ่งที่สำคัญอย่างโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน ซึ่งในแต่ละมื้อนั้นควรเตรียมเมนูเด็ก 8 เดือนที่มีสารอาหารครบ 5 หมู่และมีคุณค่าทางโภชนาการ เพื่อให้ลูกน้อยเจริญเติบโตตามเกณฑ์ มาดูเมนูอาหารของลูกน้อยกันเลยค่ะ

1. ข้าวบดตับไก่ เต้าหู้ และตำลึง

เริ่มต้นแนะนำเมนูเด็ก 8 เดือนอย่างแรกกันด้วย เมนูข้าวบดที่สามารถย่อยได้ง่าย แต่เพิ่มวัตถุดิบให้มากขึ้น เพื่อให้ลูกเริ่มปรับตัวกับการกินอาหารที่หลากหลายมากขึ้น เมนูนี้มีครบทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน เกลือแร่ วิตามิน หลังจากกินข้าวเสร็จแล้ว อาจเสริมด้วยผลไม้ตบท้ายก็ได้ค่ะ 

วัตถุดิบ 

  1. ข้าวสวยหรือข้าวตุ๋น 4 ช้อนโต๊ะ 
  2. น้ำซุป ½ ถ้วย
  3. ตับไก่ ¼ ช้อนโต๊ะ
  4. เต้าหู้หลอดไข่ไก่ 2 ช้อนโต๊ะ
  5. ผักตำลึง 1 ½ ช้อนโต๊ะ
  6. น้ำมันพืช ½ ช้อนชา 

วิธีทำ 

  1. ต้มน้ำซุปให้เดือด ใส่ข้าวลงไป คนให้เข้ากัน
  2. จากนั้นนำตับไก่ที่ลวกสุกแล้วบดให้หยาบ ใส่ลงไปต้มกับข้าว
  3. ตามด้วยเต้าหู้หลอดไข่ไก่ บดให้เข้ากัน ตามด้วยตำลึงต้มสุก
  4. บดทุกอย่างให้เข้ากัน โดยไม่ต้องบดละเอียดจนเป็นอาหารเหลว สามารถเป็นเนื้อสัมผัสหยาบๆ ได้เพื่อให้ลูกได้ฝึกเคี้ยว 
  5. ตัดขึ้นพักให้หายร้อน พร้อมเสิร์ฟให้ลูกน้อย

2. ไข่ตุ๋นผักรวม

เมนูอาหารเด็ก 8 เดือนที่ประโยชน์จัดเต็ม ทำได้ไม่ยาก อย่างเมนูไข่นั้นเป็นแหล่งโปรตีนสำคัญมากเลยค่ะ โดยเฉพาะโคลีนในไข่แดงที่ช่วยบำรุงสมองให้กับลูกน้อย นำมาทำเป็นไข่ตุ๋นเนื้อนุ่มที่กินง่าย เพิ่มคุณค่าทางโภชนาการด้วยผักหลากสีสันอย่างฟักทอง แครอท และตำลึง ให้ลูกกินคู่กับข้าวต้มหรือข้าวสวยหุงนิ่มๆ ก็ได้ค่ะ 

วัตถุดิบ 

  1. ไข่ไก่ 1 ฟอง 
  2. ฟักทองหั่นสี่เหลี่ยมเล็ก 1 ช้อนโต๊ะ
  3. แครอทหั่นบางๆ  3 – 4 แว่น
  4. ตำลึงสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
  5. น้ำซุป 3 ช้อนโต๊ะ
  6. เกลือป่นเล็กน้อย

วิธีทำ 

  1. นำแครอทไปลวกจนสุกนิ่ม
  2. ตีไข่ไก่กับน้ำซุปให้เข้ากัน แล้วกรองผ่านกระชอน 
  3. ใส่ฟักทอง แครอท และตำลึงลงไป คนให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยเกลือเล็กน้อย
  4. เทส่วนผสมใส่ในถ้วยกระเบื้องหรือถ้วยทนความร้อน นึ่งด้วยไฟอ่อนจนสุก

3. พาสต้าสามสหาย

มากันที่เมนูพาสต้าบ้างค่ะ เมนูนี้มีสีสันสวยงามน่ากิน หากเลือกเส้นพาสต้าเป็นรูปทรงต่างๆ ก็จะช่วยดึงดูดความสนใจได้ดี ซึ่งการจัดแต่งจานอาหารให้สวยงามและมีความน่าสนใจมากขึ้นนั้นก็เป็นหนึ่งในเทคนิคแก้ปัญหา ลูกไม่ยอมกินข้าวที่ค่อนข้างได้ผล แถมเมนูนี้ยังมีรสชาติอร่อย มีความเปรี้ยวหวานจากซอสมะเขือเทศ รับรองว่าถูกใจคุณหนูแน่นอน และยังเป็นเมนูที่เหมาะกับการ BLW ฝึกให้ลูกหยิบจับอาหารเข้าปากด้วยตัวเองอีกด้วยนะคะ 

วัตถุดิบ 

  1. พาสต้ารูปทรงต่างๆ เช่น รูปใบไม้ รูปสัตว์ ต้มจนสุกนิ่ม 1 ถ้วย 
  2. แครอท และฟักทองหั่นสี่เหลี่ยมเป็นชิ้น (หั่นยาวประมาณนิ้วก้อย) ต้มจนสุก 2 ช้อนโต๊ะ
  3. มะเขือเทศลูกใหญ่หั่นเป็นแว่น 1 ช้อนโต๊ะ 
  4. เนยสดชนิดจืด ½ ช้อนโต๊ะ
  5. ซอสมะเขือเทศ 1 ช้อนโต๊ะ 
  6. เกลือป่นเล็กน้อย 

วิธีทำ

  1. ตั้งกระทะ ใส่เนยลงไป ใส่มะเขือเทศลงไปผัดจนสุกนิ่ม 
  2. ตามด้วยแครอท และฟักทอง ผัดให้เข้ากัน 

ใส่พาสต้าลงไปผัดตาม ปรุงรสด้วยเกลือ และซอสมะเขือเทศ คนให้เข้ากัน ตักใส่จาน


4. ข้าวไข่คลุก 

เมนูอาหารเด็ก 8 เดือน ที่อยากแนะนำเมนูนี้ ยังคงใช้ไข่เป็นตัวชูโรงอยู่ค่ะ แต่จะเพิ่มผักที่มีกลิ่นฉุนอย่างต้นหอมและหอมหัวใหญ่ลงไปด้วย เพื่อให้ลูกได้รับรู้รสชาติอาหารอย่างหลากหลายมากขึ้น เสิร์ฟพร้อมข้าวสวยหุงนิ่มๆ ทำได้ไม่ยาก ขั้นตอนไม่เยอะ แต่อร่อยและได้ประโยชน์ค่ะ

วัตถุดิบ 

  1. ไข่ไก่ 1 ฟอง
  2. มันฝรั่งต้มสุกจนนิ่มแล้วนำมาขูดฝอย 1 ช้อนโต๊ะ 
  3. ต้นหอมซอย 1 ช้อนชา 
  4. หอมหัวใหญ่สับ 1 ช้อนชา
  5. เกลือเล็กน้อย
  6. น้ำมันพืช 1 ช้อนชา

วิธีทำ 

  1. ตอกไข่ใส่ชาม ใส่มันฝรั่งต้มสุกขูดฝอย และหอมหัวใหญ่ลงไป
  2. ปรุงรสด้วยเกลือเล็กน้อย
  3. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไป จากนั้นนำเอาไข่ลงไปผัดจนสุก
  4. โรยต้นหอมซอยลงไป ปิดไฟ
  5. ตักราดหน้าบนข้าวสวย พักไว้ให้อุ่น พร้อมเสิร์ฟ


5. ปลาปั้นสามสี

เมนูอาหารเด็ก 8 เดือนจานสุดท้ายที่อยากให้ลองเอาไปทำตามก็คือ เมนูปลาปั้น 3 สี อัดแน่นไปด้วยโปรตีนจากเนื้อปลา เพิ่มเนื้อสัมผัสด้วยแครอท ฟักทอง และผักโขม ปั้นเป็นก้อนกลมให้ลูกหยิบกินได้สะดวก และให้ลูกได้ฝึกกัด ฝึกเคี้ยวด้วยตัวเอง เป็นอีกหนึ่งเมนูที่เหมาะกับการ BLW ฝึกให้ลูกกินข้าวด้วยตัวเองอีกเมนูหนึ่งเลยค่ะ

วัตถุดิบ 

  1. ปลาเนื้ออ่อนขูด (หรือปลาน้ำจืด) 1 ถ้วย
  2. ฟักทองหั่นสี่เหลี่ยมเล็ก 2 ช้อนโต๊ะ
  3. แครอทหั่นสี่เหลี่ยมเล็ก 2 ช้อนโต๊ะ
  4. ผักโขมลวกสุกสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ 
  5. เกลือป่นเล็กน้อย 


วิธีทำ 

  • สับเนื้อปลาให้ละเอียด และนำไปผสมกับฟักทอง แครอท และผักโขมสับละเอียด
  • ปรุงรสด้วยเกลือเล็กน้อย คลุกเคล้าให้เข้ากัน 
  • ปั้นเป็นก้อนกลมให้มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 นิ้ว หรือพอให้ลูกหยิบได้เอง แต่ไม่ควรปั้นเป็นก้อนเล็กจนเกินไปเพราะเสี่ยงต่อการสำลักและอาจทำให้ติดคอได้ 
  • นำไปนึ่งในน้ำเดือดจนสุก พักให้อุ่นก่อนให้ลูกรับประทาน

เด็ก 8 เดือน ควรกินอาหารปริมาณเท่าไหร่ ?

กรมอนามัยได้ระบุไว้ว่า เด็กเล็กวัย 8 เดือนควรกินข้าวเสริมวันละ 2 มื้อ ควบคู่ไปกับการกินนมแม่ และมื้อว่างช่วงบ่ายสามารถเสริมเป็นผลไม้นิ่ม ๆ ได้ ประมาณ 3 ชิ้น หรืออาจเป็นกล้วยน้ำว้าสุก 1 ลูก เป็นต้น และควรกินธาตุเหล็กเสริมสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เด็กเล็กในวัยนี้จะต้องการพลังงานประมาณ 750 – 900 กิโลแคลอรี่ต่อวัน ซึ่งแบ่งเป็นพลังงานจากการกินนมแม่ประมาณ 400 – 500 กิโลแคลอรี่ และพลังงานที่เหลือควรได้รับจากอาหารตามวัยนั่นเองค่ะ เพื่อให้ลูกน้อยเจริญเติบโตตามเกณฑ์และมีพัฒนาการตามวัยอย่างเหมาะสม ทั้งนี้ คุณพ่อคุณแม่บางคนอาจเจอปัญหาลูกกินได้น้อย ลูกไม่ยอมกินข้าว ติดเล่น ไม่สนใจอาหาร หากเป็นแบบนี้ก็อาจลองเลือกซื้อเก้าอี้กินข้าวเด็ก ให้ลูกน้อยนั่งกินข้าวกับที่เป็นสัดส่วน เพื่อเป็นการฝึกวินัยในการกินของลูกตั้งแต่เนิ่นๆ จะได้เสริมสร้างนิสัยการกินที่ดีในระยะยาวค่ะ 

BabyGift แนะนำตัวช่วยสำคัญ ให้มื้ออาหารของลูกน้อยเป็นเรื่องง่ายมากขึ้น 

1. PRINCE & PRINCESS เก้าอี้ฝึกกินข้าวรุ่น Fairy Plus

เก้าอี้ฝึกกินข้าวสำหรับเด็กเล็กเป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้การป้อนข้าวลูกเป็นเรื่องง่ายมากขึ้น และยิ่งจำเป็นสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่อยากฝึกให้ลูกกินข้าวด้วยตัวเอง สำหรับเก้าอี้กินข้าวเด็กจากแบรนด์ PRINCE & PRINCESS รุ่น Fairy Plus มาในดีไซน์น่ารักน่าใช้ มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย ให้ลูกน้อยนั่งกินข้าวเองได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย ตอบโจทย์ความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ในยุคปัจจุบัน

จุดเด่น 

  • สามารถปรับความสูงได้ 7 ระดับ ตั้งแต่ 25 เซนติเมตร – 60 เซนติเมตร 
  • รองรับน้ำหนักได้มาก มีความแข็งแรงปลอดภัยด้วยรางล็อคเหล็กแบบตะขอเกี่ยว ลูกน้อยไม่เสี่ยงร่วงจากเก้าอี้ 
  • พนักพิงเก้าอี้สามารถปรับเอนนอนได้ 3 ระดับ เหมาะกับการใช้นั่งพักหลังมื้ออาหาร ป้องกันไม่ให้ลูกน้อยเป็นกรดไหลย้อนหรือแหวะนม เมื่อเทียบกับการพาลูกนอนราบบนที่นอน
  •  มีล้อหน้า – หลัง และตัวล็อคล้อเพื่อความปลอดภัย เคลื่อนย้ายได้สะดวก พับเก็บง่ายภายใน 1 วินาที
  • ถาดอาหารมีขนาดใหญ่ มี 2 ชั้น ปราศจากสาร BPA ( สาร Bisphenol A ที่เป็นอันตรายต่อร่างกาย) และเป็นวัสดุ Food Grade ปลอดภัยไม่มีสารตกค้าง สามารถถอดแยกไปทำความสะอาดได้ 
  • พนักพิงเก้าอี้กว้างรองรับช่วงสรีระของลูกน้อยได้จนโต มีสายรัดนิรภัยเพื่อป้องกันลูกร่วงตกจากเก้าอี้ 
  • เบาะรองนั่งเป็นนวัตกรรม Cotton Cushion เสริมความหนานุ่มนั่งสบาย สามารถถอดซักได้ และเบาะ PU ที่เป็นวัสดุกันน้ำไม่ซึม เช็ดทำความสะอาดได้

2. TIDY TOT เสื้อกันเปื้อนแขนสั้น

ในมื้ออาหารของลูกน้อยนั้น มาพร้อมกับความเลอะเทอะอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ไม่ใช่เรื่องน่ากังวลใจอะไรหากมีผ้ากันเปื้อนที่ทำความสะอาดได้ง่าย แนะนำเป็นเสื้อกันเปื้อนแขนสั้นจากแบรนด์ TIDY TOT ที่นำเข้าจากประเทศอังกฤษ มีดีไซน์ที่ไม่เหมือนใคร แถมเป็น “เสื้อกันเปื้อนดูดโต๊ะ” เพราะตัวเสื้อสามารถยึดติดได้กับทุกพื้นผิวที่มีความเรียบ เพื่อรับมือกับวัยที่กำลังเริ่มเรียนรู้ฝึกการกินด้วยตัวเอง ซึ่งบอกเลยว่าช่วยป้องกันการเลอะเทอะบนเสื้อผ้าของลูกได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ 

จุดเด่น 

  • ใช้ได้กับเก้าอี้กินข้าวทุกรุ่น ทุกแบบ ทุกทรง 
  • แขนเสื้อยาว 20 เซนติเมตร ตัวเสื้อยาว 50 เซนติเมตร ป้องกันการเลอะได้อย่างครอบคลุม 
  • ป้องกันการเปรอะเปื้อนบนเสื้อผ้า บนโต๊ะอาหาร และที่นั่ง
  • วัสดุกันน้ำ ผลิตจากเส้นใยที่นุ่มสบายต่อการสวมใส่ (Super soft frabic) 
  • ง่ายต่อการทำความสะอาด เพียงแค่เช็ดออก หรือซักด้วยเครื่องซักผ้า 
  • ใส่แล้วไม่ร้อน ระบายอากาศได้ดี 

สำหรับไอเดีย เมนูอาหารเด็ก 8 เดือน ที่ BabyGift แนะนำนั้นสามารถพลิกแพลงและปรับเปลี่ยนวัตถุดิบกันได้นะคะ โดยเน้นที่การใช้วัตถุดิบที่มีความสดใหม่ ปราศจากสารเคมีและสารตกค้างต่างๆ ที่สำคัญคือ ควรปรุงให้สุก โดยเฉพาะวัตถุดิบประเภทไข่ เนื้อสัตว์ เต้าหู้ และผักต่างๆ ให้ปรุงรสน้อยๆ หรือไม่ปรุงเลย สามารถเสริมผลไม้เป็นของว่างระหว่างวันได้ ทั้งนี้ ไม่ควรละเลยการกินนมแม่ ควรให้ลูกกินนมแม่ควบคู่ไปด้วยเสมอ เพื่อที่ลูกจะได้มีสุขภาพแข็งแรงและมีภูมิต้านทาน ไม่เจ็บป่วยง่ายค่ะ 

และถ้าคุณพ่อคุณแม่คนไหนสนใจสินค้าเกี่ยวกับแม่และเด็ก ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์สำหรับการกินข้าวของลูกน้อยอย่างโต๊ะกินข้าวเด็ก ผ้ากันเปื้อน ภาชนะใส่อาหาร หรือสินค้าอื่นๆ ก็สามารถมาเยี่ยมชมสินค้าได้ที่ BabyGift ร้านจำหน่ายสินค้าแม่และเด็กระดับคุณภาพ มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี คุณพ่อคุณแม่สามารถมาเยี่ยมชมสินค้าต่างๆ ได้ โดยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ร้านเบบี้กิ๊ฟทั้ง 5 สาขาใกล้บ้าน หรือสอบถามผ่านช่องทาง Online ทีมงาน BabyGift ยินดีให้คำแนะนำค่ะ 

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00

บทความแนะนำ

การทำความสะอาดและ ฆ่าเชื้อขวดนม เป็นเรื่องสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ต้องให้ความสำคัญและใส่ใจมาก ๆ ไม่แพ้ขั้นตอนการ “เลือกขวดนม” และเลือกน้ำยาสำหรับ “ล้างขวดนม” เลยค่ะ เพราะลูกน้อยเบบี๋วัยแรกเกิดยังไม่มีภูมิต้านทานต่อเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อโรคต่าง ๆ เหมือนผู้ใหญ่ การละเลย ไม่ใส่ใจในขั้นตอนการฆ่าเชื้อขวดนมนี้ อาจส่งผลให้ลูกน้อยเจ็บป่วยจากเชื้อโรคที่เรามองไม่เห็นได้ จากแต่เดิมวิธี ฆ่าเชื้อขวดนม ที่คุ้นเคยกันตั้งแต่สมัยรุ่นคุณปู่คุณย่าคือวิธีการ “ฆ่าเชื้อด้วยการต้ม” ซึ่งต้องใช้เวลานานเกินครึ่งชั่วโมง เพื่อรอให้น้ำร้อนถึงจุดเดือดที่จะสามารถฆ่าเชื้อได้ ซึ่งวิธีนี้ก็ยังทำให้ขวดนมเสื่อมสภาพเร็วอีกด้วย ปัจจุบันจึงมีนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาอำนวยความสะดวกคุณแม่ในการฆ่าเชื้อขวดนม ช่วยลดขั้นตอนการทำงาน และเพิ่มความมั่นใจในเรื่องของการทำความสะอาดฆ่าเชื้อขวดนมได้มากขึ้น มีวิธีใดบ้างนั้นเรามาดูกันค่ะ 1.การฆ่าเชื้อด้วยเครื่องนึ่งไฟฟ้า การฆ่าเชื้อด้วยการนึ่ง ถือเป็นวิธีการที่ง่าย และใช้ระยะเวลาสั้นกว่าการต้ม เพียงแค่เติมน้ำตามปริมาณที่กำหนด วางฐานรองนึ่งให้เข้าที่ นำขวดนมที่ถอดชิ้นส่วนล้างอย่างสะอาดแล้ว มาวางคว่ำลง แล้วปิดฝากดปุ่มให้เครื่องทำงาน เครื่องจะทำให้น้ำที่เราเติมไปเดือดและละเหยไอน้ำให้ลอยขึ้นไปฆ่าเชื้อ หลังจากเครื่องทำงานเสร็จ เพียงนำที่คีบขวดนมออกมามาผึ่งให้แห้งก็สามารถนำไปใช้งานต่อได้อย่างสบายใจค่ะ ข้อดี  – สะดวก ใช้งานง่าย และเป็นวิธีที่ไม่ยุ่งยาก และเป็นวิธีที่ผู้ใหญ่ในบ้านน่าจะคุ้นเคยกันดีข้อเสีย  – ต้องหมั่นล้างคราบตระกรันบริเวณถาดใส่น้ำด้านล่างให้สะอาดอยู่เสมอ เพราะอาจเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดเชื้อรา และเชื้อโรคบางชนิดแอบแฝงได้ 2.การฆ่าเชื้อด้วยไมโครเวฟ วิธีนี้ถือเป็นหลักการเดียวกับเครื่องนึ่งไฟฟ้า คือเป็นการทำให้น้ำเดือดและละเหยเป็นไอน้ำขึ้นมาฆ่าเชื้อ เหมาะสำหรับบ้านที่มีเครื่องไมโครเวฟอยู่แล้ว หรือผู้ที่ต้องเดินทางเป็นประจำ เนื่องจากมีน้ำหนักเบา […]

สำหรับครอบครัวที่มีลูกเล็กๆ ส่วนใหญ่การทำความสะอาดขวดนม จะใช้วิธีการต้ม หรือนึ่ง โดยเป็นการฆ่าเชื้อโรคด้วยความร้อนสูง ซึ่งเหมาะกับพาชนะที่เป็นแก้ว หรือซิลิโคน ส่วนขวดนมแบบพลาสติกการใช้ความร้อนสูงมากๆ ทุกวันจะทำให้ขวดนมพลาสติกและจุกนมเสื่อมสภาพเร็วขึ้นกว่าปกติ และเกิดการปล่อยสารต่างๆ ออกมาจากพลาสติกนั้น เช่น สารพวกโพลีเมอร์ หรือฟอร์มัลดีไฮด์ปนเปื้อนออกมาจากพลาสติกที่เสื่อมสภาพ แถมยังทิ้งไอน้ำไว้ที่ก้นขวด ซึ่งไอน้ำนี้อาจมีเชื้อแบคทีเรียแฝงอยู่ ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ ได้มีการคิดค้นการฆ่าเชื้อโรค โดยรังสี UV ที่สามารถฆ่าเชื้อโรคได้กับหลากหลายผลิตภัณฑ์ เช่น ขวดนมพลาสติก ยางกัด จานชาม หรือแม้แต่อุปกรณ์อเลกทรอนิก มาทำความรู้จักกับ หลอดรังสี UV-C ที่หลายคนสงสัยว่า ฆ่าเชื้อโรคได้จริงไหม? รังสี UV คืออะไร แสงสว่างจากดวงอาทิตย์ประกอบด้วยรังสี 2 ส่วนคือ รังสีที่มองเห็นได้และมองไม่เห็นรังสีที่มองเห็นได้ จะมี 7 สี แต่จะสามารถเห็นต่อเมื่ออากาศมีความชื้นสูง รังสีจากดวงอาทิตย์ตกกระทบกับน้ำในอากาศ เราจะสามารถมองเห็นสีทั้ง 7 ได้ ที่เรียกว่า “รุ้งกินน้ำ” นั่นเอง รังสีที่มองไม่เห็น คือพลังงานในรูปคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่แผ่ออกมาจากดวง อาทิตย์ มี 2 ส่วนคือ สำหรับครอบครัวที่มีลูกเล็กๆ […]

1.เลือกจากประเภทการใช้งานให้เหมาะสมกับสรีระและน้ำหนักของเด็กค่ะโดยทั่วไปรถเข็นจะแบ่งออกเป็นสองประเภทคือ 2. วัสดุโครงสร้างของรถเข็นเด็กต้องแข็งแรงและที่สำคัญน้ำหนักต้องเบาเพราะว่าบางครั้งคุณแม่อาจจะต้องเดินทางโดยลำพังกับลูกน้อย นอกจากนี้เบาะที่สัมผัสของตัวน้องควรทำจากวัสดุที่นุ่มสบายเพื่อให้เด็กนั่งได้นาน อีกทั้งยังต้องมีคุณสมบัติในการระบายความร้อนที่ดีเนื่องจากอากาศที่เมืองไทยค่อนข้างร้อนและระบบปรับอุณหภูมิในเด็กเล็กนั้นยังทำงานได้ไม่ดีนักทำให้เด็กจะร้อนและเหงื่อออกได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่ 3. ล้อต้องเป็นล้อที่สามารถหมุนได้สะดวกและแข็งแรง เพราะจะทำให้การเคลื่อนตัวของรถเข็นคล่องตัวขึ้นแม้ว่าคุณแม่จะต้องเข็นรถในที่ที่แคบ 4. โครงสร้างของผลิตภัณฑ์ต้องออกแบบมาเพื่อรักษาให้ขาและข้อต่อสะโพกอยู่ในรูปทรงตามธรรมชาติโดยประคองขาและข้อต่อสะโพกในอยู่ในรูปทรงตัว“M” ซึ่งเป็นท่าที่จะทำให้ขาและสะโพกของลูกน้อยมั่นคงที่สุดรวมทั้งจะส่งเสริมการเจริญเติบโตของกระดูกทั้งสองส่วนให้เป็นไปตามธรรมชาติที่ดีที่สุด 5. มีหลังคาที่สามารถปกป้องลูกน้อยจากแสงแดดและรังสียูวีเพราะผิวหนังของเด็กนั้นยังบอบบางโดยที่บังแดดควรจะปรับได้ตามทิศทางของแสงแดดที่ปรับเปลี่ยนตามช่วงเวลาในแต่ละวัน นอกจากนี้ที่บังแดดยังช่วยบังลมให้ลูกน้อยได้อีกด้วย 6. โครงสร้างของรถเข็นเด็ก ต้องออกแบบมาเพื่อปกป้องระบบการหายใจในกรณีที่เด็กอาจจะเผลอหลับบนรถเข็น โดยมีเบาะที่จะทำให้ศีรษะเด็กไม่เคลื่อนที่และป้องกันการบิดของลำคอจึงช่วยป้องกันภาวะหยุดหายใจขณะหลับเนื่องจากทางเดินหายใจอุดกั้น 7. ข้อสำคัญอีกประการก็คือหากคุณใช้รถเข็นเด็กแรกเกิด ควรจะเลือกประเภทที่สามารถหันที่นั่งรถเอาหาตัวคุณแม่ได้ เนื่องจากเด็กเล็กต้องการความเอาใจใส่จากแม่เป็นพิเศษ เมื่อน้องออกไปข้างนอกเขาต้องการจะมองเห็นคุณแม่เพื่อความอุ่นใจค่ะ แต่ถ้าเป็นเด็กโตแล้ว เด็กจะให้ความสนใจกับสิ่งรอบตัวซึ่งในวัยนี้คุณแม่อาจจะปรับที่นั่งรถเข็นให้มองออกไปข้างนอกได้ค่ะ หากมีข้อสงสัย สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้จากผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำปรึกษาและคำแนะนำอย่างถูกต้อง

ในช่วงแรกของการเป็นคุณพ่อ คุณแม่มือใหม่ คำถามที่มักจะเกิดขึ้นก็คือ “ทำไมต้องใช้หมอนสำหรับทารก หรือหมอนหัวทุย” แท้จริงแล้วหมอนเหล่านี้มีประโยชน์มากมายสำหรับเจ้าตัวน้อย เนื่องจากช่วยป้องกันปัญหาหัวแบน กระดูกสันหลังบิดเบี้ยว ช่วยเพิ่มความสบายในการนอนหลับ ระบายอากาศได้ดี ดังนั้นในบทความนี้ BabyGift จะชวนมาเรียนรู้เหตุผลสำคัญที่คุณพ่อ คุณแม่ทุกคนไม่ควรมองข้ามในการเลือกหมอนสำหรับทารกแรกเกิด เพื่อเตรียมห้องนอนเด็กอ่อนให้พร้อมก่อนคลอดกันค่ะ  เลือกหมอนทารกใบแรกให้ลูก ต้องเลือกยังไง ? หมอนหัวทุยจำเป็นหรือเปล่า ?  หมอนสำหรับทารกถือเป็นสิ่งจำเป็นในการดูแลเจ้าตัวน้อย แม้จะดูเป็นสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ แต่การเลือกหมอนที่เหมาะกับทารกจะส่งผลต่อสุขภาพและความปลอดภัยของลูกน้อยอย่างมาก คุณพ่อ คุณแม่คนไหนที่กำลังสงสัยว่าจะเลือกหมอนสำหรับทารก หรือหมอนหัวทุยยังไงดี ไปหาคำตอบพร้อมกันในบทความนี้พร้อมๆ กันเลยค่ะ  หมอนทารก คืออะไร ?  หมอนสำหรับทารก เป็นหมอนขนาดเล็กที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับทารก ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักดังนี้   ควรใช้หมอนทารก เมื่อไหร่ ?  ตามคำแนะนำจากกุมารแพทย์ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ได้มีการสรุปว่า ท่านอนที่ดีและปลอดภัยที่สุดสำหรับทารก คือการนอนหงายบนพื้นผิวแบนราบโดยไม่มีสิ่งของใดๆ อยู่บนเตียงนอน เช่น ผ้าห่ม ตุ๊กตา หมอน เป็นต้น เนื่องจากอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ หรือโรคไหลตายในทารก (SIDS) ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตในเด็กอายุไม่เกิน 4 เดือน การใช้หมอนอาจเพิ่มความเสี่ยงจากการอุดกั้นทางเดินหายใจของทารก เมื่อทารกพลิกตัว หรือคว้าวัตถุเหล่านั้นโดยไม่รู้ตัว […]

เมื่อพี่ตู่เตรียมคาร์ซีท พาน้องริสาออกไปเที่ยวครั้งแรก… แต่มะลิ (แม่บ้าน) ดันถอดเบาะคาร์ซีทไปซักซะงั้น งานนี้พี่ตู่ต้องใส่ผ้าหุ้มกลับเข้าไปเหมือนเดิม เบาะทั้งหมดแบ่งออกเป็น 3 ชิ้น ที่เข้าใจง่ายๆ พี่ตู่บอกว่าง่ายมาก ทำครั้งแรกก็ได้เลย #แท็กสามี #ซักคาร์ซีทให้หน่อย เพราะคุณแม่นุชออกไปทำธุระข้างนอก การพาน้องริสาออกไปเที่ยวครั้งนี้มีแค่สองพ่อลูกเท่านั้น คาร์ซีทจึงจำเป็นมาก พี่ตู่เลือกคาร์ซีท Ailebebe รุ่น  Kurutto 4 Grance ผ้าหุ้มตาข่ายระบายอากาศได้ดี น้องริสานั่งแล้วสบายตัว ไม่อึดอัด ไม่งอแง สบายจังเลย…ปะป๋า ของีบแป๊บบบบนะคะ หมุนได้ 360 องศา อุ้มน้องริสาขึ้นลงคาร์ซีทได้ง่าย คาร์ซีท Ailebebe ปลอดภัยแน่นอน เพราะทุกตัวผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวด จากประเทศญี่ปุ่น รีวิวคาร์ซีท Ailebebe รุ่น Kurutto4

ในช่วงที่คุณแม่เริ่มตั้งครรภ์มักมีการท้องผูก เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ทำให้ระบบการขับถ่ายเริ่มเปลี่ยนไปด้วย วิธีแก้ท้องผูกสำหรับคนท้องกับ 7 อาหารช่วยให้คุณแม่ท้อง หมดปัญหาเรื่องท้องผูกอีกต่อไป ตำลึงเป็นผักไม้เลื้อยที่ปลูกง่ายมีขายทั่วไปที่สำคัญนำมาปรุงอาหารจานอร่อยก็แสนจะง่าย เช่น แกงจืดตำลึง ตำลึงผัด น้ำมันหอย เป็นต้น และอย่างที่รู้ดีว่า ผักใบเขียวเป็นแหล่งสารอาหารสำคัญอย่างเบต้าแคโรทีนที่มีส่วนในการบำรุงสายตาและมีเส้นใยอาหารอยู่มากด้วยค่ะ กุยช่ายเพราะเป็นผักที่มีกลิ่นแรงคะแนนความนิยมอาจไม่มากแต่ประโยชน์ทางสารอาหารสิ่งที่ได้เรียกว่ามากโขค่ะ ไม่ว่าเบต้าแคโรทีน แคลเซียม คาร์โบไฮเดรต และฟอสฟอรัส มีเส้นใยอาหารที่ดีต่อระบบการย่อยอาหาร ฉะนั้นถ้าไม่ฝืนความรู้สึกเกินไปกับการกินก็ไม่น่าพลาดกับเมนูกุยช่ายผัดกับเนื้อสัตว์ ลูกพรุนไม่ว่าพรุนสด พรุนเมล็ด หรือน้ำลูกพรุนสกัดแบบสำเร็จรูป เป็นทางเลือกหนึ่งในการกินแก้อาการท้องผูกที่ช่วยให้คุณแม่ขับถ่ายได้สะดวกยิ่งขึ้น เพราะผลไม้ประเภทนี้อุดมไปด้วยไฟเบอร์มีสรรพคุณเป็นยาระบายอ่อนๆ ค่ะ กล้วยผลไม้ดีๆ ที่กินได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่มีให้เลือกหลายชนิดตามความชอบไม่ว่าจะเป็น กล้วยหอม กล้วยน้ำว้า กล้วยไข่ ที่สำคัญกินได้ทั้งปี ราคาไม่แพง ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายช่วยใช้ขับถ่ายสะดวก มะละกอสุกอีกหนึ่งผลไม้หากินง่ายราคาเบาๆ มากด้วยคุณค่าด้านโภชนาการไม่ว่าวิตามินบี1 บี2 และเบต้าแคโรทีน รวมถึงประโยชน์ทางยา แก้เรื่องท้องผูก เหมาะเป็นผลไม้มื้ออาหารว่างของแม่ท้องทีเดียว น้ำนอกจากร่างกายมีความจำเป็นต้องได้รับน้ำอย่างพอเพียงเพื่อซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายโดยผ่านการดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ8 แก้ว การดื่มน้ำยังเป็นวิธีที่ช่วยให้ระดับขับถ่ายทำงานได้ดีเป็นปกติด้วยค่ะ ข้าวกล้องบางครั้งก็เรียกว่าข้าวแดง ข้าวซ้อมมือ ข้าวอนามัย ที่มีความต่างทางสีสัน ด้านคุณค่าทางสารอาหารแบบข้าวหอม เพราะอุดมด้วยสารอาหารมีสรรพคุณเป็นยาอาหารสุภาพของใครหลายๆ คน โดยเฉพาะเรื่อองกากใยอาหารในข้าวกล้องนั้นถูกค้นพบว่า มีส่วนช่วยป้องกันอาการท้องผูก เป็นข้อเสนอดีๆ ในการเลือกกินค่ะ ขอขอบคุณข้อมูลจาก : mother&care

Menu
All Categories
All Brands
All Ages
Promotions
Locations
BabyGift Family
BabyGift Care
Parents Guide
News & Event

All Categories

All Categories
All Brands
All Ages