รวมไอเดียของเยี่ยมเด็กแรกเกิด ถูกใจคุณแม่ ลูกน้อยใช้งานได้จริง

เมื่อเพื่อนหรือคนรู้จักคลอดลูกน้อย การไปเยี่ยมเยียนพร้อมของเยี่ยมเด็กแรกเกิดที่มีประโยชน์ ถือเป็นการแสดงความยินดีและส่งกำลังใจที่ดีที่สุด แต่จะเลือกซื้ออะไรดีที่ไม่ซ้ำใครและได้ใช้งานจริง? BabyGift ได้รวบรวม 10 ของขวัญให้เด็กแรกเกิด ที่รับรองว่าคุณแม่ปลื้มปริ่ม ลูกน้อยได้ใช้แน่นอน พร้อมเคล็ดลับการเลือกซื้ออย่างผู้เชี่ยวชาญ
วิธีเลือกซื้อของเยี่ยมคนคลอดลูก ควรเลือกอย่างไร
การเลือกซื้อของเยี่ยมเด็กแรกเกิด หรือของขวัญให้เด็กแรกเกิด ควรพิจารณาจากความเหมาะสมและประโยชน์ใช้สอย เพื่อไม่ให้เป็นภาระแก่ผู้รับ
- เลือกสิ่งที่ใช้ได้จริงและหมดไป : เช่น ผ้าอ้อม, ทิชชู่เปียก, ผลิตภัณฑ์อาบน้ำ ซึ่งเป็นของเตรียมคลอดที่ต้องมีและใช้จำนวนมาก
- คำนึงถึงความปลอดภัยของเบบี๋ : ของใช้ทุกชิ้นต้องมีมาตรฐาน ปลอดสารเคมี และไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวบอบบาง
- สอบถามความต้องการของผู้รับ : หากสนิทกัน ลองถามคุณแม่ว่าขาดเหลือสินค้าแม่และเด็กชิ้นไหนเป็นพิเศษ หรือต้องการของขวัญให้เด็กแรกเกิดที่เป็นของชิ้นใหญ่หรือไม่
10 ไอเดียของเยี่ยมเด็กแรกเกิดมีอะไรบ้าง

การเลือกของเยี่ยมเด็กแรกเกิดที่ดีที่สุดคือการเลือกสิ่งที่ช่วยให้ชีวิตคุณแม่สะดวกสบายขึ้น และส่งเสริมพัฒนาการของลูก นี่คือ 10 ไอเดียที่คัดสรรมาแล้วว่าดีต่อใจและใช้งานได้จริงแน่นอน
1. ผ้าอ้อมเด็กแรกเกิด
ผ้าอ้อมเป็น ของเยี่ยมเด็กแรกเกิดที่ทุกคนต้องใช้และใช้ในปริมาณมากไม่ว่าจะเลือกแบบผ้าหรือสำเร็จรูป เพราะทารกแรกเกิดต้องเปลี่ยนผ้าอ้อมบ่อยถึง 6-10 ครั้งต่อวัน ควรเลือกผ้าอ้อมสำเร็จรูปที่มีขนาดเหมาะสมกับน้ำหนักของเด็กแรกเกิด มีวัสดุที่นุ่ม ระบายอากาศได้ดีเยี่ยม และมีแถบวัดความเปียกชื้นจะช่วยคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ได้มาก
2. โมบายเสริมพัฒนาการ
โมบายแขวนเตียงเป็นของขวัญให้เด็กแรกเกิดที่ช่วยกระตุ้นพัฒนาการด้านการมองเห็นและการได้ยินของทารก การมองตามการเคลื่อนไหวของโมบายช่วยฝึกการประสานงานของสายตาได้ดี ควรเลือกโมบายที่มีสีสันสดใสตัดกัน มีลวดลายน่ารักสมวัย และมีเสียงเพลงที่ไพเราะนุ่มนวล ไม่ดังจนเกินไป ควรตรวจสอบความแข็งแรงในการติดตั้งเพื่อความปลอดภัยของลูกน้อยด้วยนะคะ
3. ชุดของบำรุงหลังคลอด
มอบของขวัญให้เด็กแรกเกิดที่หันมาดูแลคุณแม่บ้างก็เป็นไอเดียที่ดี ชุดบำรุงหลังคลอด เช่น ครีมลดรอยแตกลาย ผลิตภัณฑ์บำรุงน้ำนม หรือน้ำมันนวดตัว เป็นการแสดงความใส่ใจในสุขภาพและความงามของคุณแม่ ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ปลอดภัยต่อคุณแม่ที่ให้นมบุตร ไม่มีสารเคมีอันตรายที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ต่อทั้งคุณแม่และลูกน้อย
4. เครื่องนอนเด็กแรกเกิด

ชุดเครื่องนอนที่ดีจะช่วยส่งเสริมให้ทารกได้นอนหลับสบายและปลอดภัย การนอนหลับสนิทส่งผลดีต่อพัฒนาการด้านร่างกายและสมองของลูกน้อย ควรเลือกชุดเครื่องนอนที่ผลิตจากผ้าฝ้าย (Cotton) หรือเส้นใยธรรมชาติที่นุ่มสบาย ระบายอากาศได้ดีเยี่ยม เพื่อป้องกันความร้อนสะสมและลดความเสี่ยงภาวะ SIDS (Sudden Infant Death Syndrome)
5. แผ่นรองคลาน
แผ่นรองคลานเป็นของเยี่ยมเด็กแรกเกิดที่สร้างพื้นที่ปลอดภัยและสะอาดสำหรับให้ลูกน้อยได้นอนกลิ้ง คลาน และเล่นได้อย่างอิสระโดยไม่ต้องกังวลเรื่องความเย็นจากพื้นหรือสิ่งสกปรก ควรเลือกแผ่นรองคลานที่ผลิตจากวัสดุปราศจากสารพิษ (Non-toxic) มีความหนาแน่นพอเหมาะ สามารถรองรับแรงกระแทกได้ดี และทำความสะอาดง่าย มีสีสันหรือลวดลายที่น่าสนใจเพื่อดึงดูดพัฒนาการ
6. ผ้าห่อตัวเด็ก
ผ้าห่อตัวเป็นของเยี่ยมเด็กแรกเกิดที่มีประโยชน์อย่างมากในช่วยแรกคลอด เพราะช่วยให้ลูกน้อยรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยเหมือนอยู่ในครรภ์มารดา อีกทั้งยังช่วยลดอาการผวา ทำให้ทารกนอนหลับได้ยาวนานขึ้น ควรเลือกผ้าห่อตัวที่ทำจากผ้านุ่มพิเศษ (เช่น ผ้าสำลี, ผ้าแบมบู) ที่ระบายอากาศได้ดี ไม่หนาหรือบางจนเกินไป และควรเลือกแบบที่มีการออกแบบให้ห่อตัวได้ง่าย (เช่น แบบตีนตุ๊กแกหรือแบบมีซิป)
7. ทิชชู่เปียก
แม้จะเป็นของเยี่ยมเด็กแรกเกิดที่ดูเรียบง่าย แต่ทิชชู่เปียกคือไอเทมจำเป็นที่ใช้บ่อยที่สุดในการทำความสะอาดก้น ผิวหนัง หรือแม้กระทั่งของเล่นของลูก ต้องเลือกทิชชู่เปียกที่ระบุชัดเจนว่าสำหรับผิวเด็กแรกเกิด ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือสารเคมีอันตราย ควรมีส่วนผสมของน้ำบริสุทธิ์สูงและอ่อนโยนต่อผิวบอบบางของทารก
8. เตียงนอนเด็ก
เตียงนอนเด็กเป็นของขวัญให้เด็กแรกเกิดชิ้นใหญ่ที่ใช้งานได้นานและมีประโยชน์ในระยะยาว ช่วยให้ลูกน้อยมีพื้นที่นอนที่ปลอดภัยแยกจากพ่อแม่ ควรเลือกเตียงที่ได้มาตรฐานความปลอดภัยสากล ราวกันตกมีความสูงที่เหมาะสม ช่องว่างระหว่างซี่กรงไม่กว้างจนเกินไป วัสดุที่ใช้ไม่เป็นอันตราย และที่นอนต้องแน่นไม่นุ่มยวบ เพื่อลดความเสี่ยงภาวะ SIDS
9. โต๊ะเปลี่ยนผ้าอ้อม

คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ต้องเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูกบ่อยครั้ง การต้องก้ม ๆ เงย ๆ อาจทำให้ปวดหลังได้ในระยะยาว โต๊ะเปลี่ยนผ้าอ้อมจึงเป็นของเยี่ยมเด็กแรกเกิดที่ช่วยลดภาระทางสุขภาพของคุณพ่อคุณแม่ได้ดี ควรเลือกโต๊ะที่มีความสูงพอเหมาะกับผู้ใช้งาน มีขอบกั้นรอบด้านเพื่อความปลอดภัย มีชั้นวางของสำหรับเก็บผ้าอ้อมและอุปกรณ์ต่าง ๆ และทำความสะอาดได้ง่าย เพื่อสุขอนามัยที่ดี
10. ผลิตภัณฑ์อาบน้ำลูก
ผลิตภัณฑ์อาบน้ำสำหรับเด็กแรกเกิดเป็นของขวัญให้เด็กแรกเกิดที่รับรองว่าได้ใช้ทุกวันอย่างแน่นอน และเป็น สินค้าแม่และเด็กพื้นฐานที่สำคัญมาก ควรเลือกสบู่ แชมพู หรือโลชั่นที่เป็นสูตรอ่อนโยน (Hypoallergenic) ปราศจากน้ำหอม แอลกอฮอล์ และพาราเบน ควรมีค่า pH เป็นกลาง ไม่ทำให้แสบตา และไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังและดวงตาที่บอบบางของทารก
สรุปบทความ
การเลือกของเยี่ยมเด็กแรกเกิด หรือของขวัญให้เด็กแรกเกิด ด้วยความตั้งใจและความใส่ใจในรายละเอียด ถือเป็นการมอบความสุขให้แก่ครอบครัวใหม่ ไม่ว่าจะเป็นของใช้ที่จำเป็นอย่างผ้าอ้อม หรือของชิ้นใหญ่อย่างเตียงนอน การเลือกสินค้าแม่และเด็กที่มีคุณภาพ ย่อมดีที่สุดสำหรับลูกเสมอ และหากคุณพ่อคุณแม่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกคาร์ซีทเด็กแรกเกิด หรือเป้อุ้มเด็กยี่ห้อไหนดี หรือต้องการเครื่องปั๊มนมที่ตอบโจทย์ BabyGift คือผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษาและคัดสรรนวัตกรรมที่ดีที่สุดเพื่อลูกรักของคุณเสมอ
คำถามที่พบบ่อย
ควรไปเยี่ยมเด็กแรกเกิดในช่วงเวลาไหน?
ควรไปเยี่ยมหลังจากคลอดแล้วประมาณ 2-3 สัปดาห์ เพื่อให้คุณแม่ได้พักฟื้นและปรับตัวเข้ากับลูกน้อยก่อน และควรโทรสอบถามช่วงเวลาที่สะดวกก่อนเข้าไปเยี่ยมเสมอ
ควรหลีกเลี่ยงของเยี่ยมเด็กแรกเกิดแบบไหน?
ควรหลีกเลี่ยงของเยี่ยมเด็กแรกเกิดที่มีขนาดเล็กเกินไป (เสี่ยงต่อการติดคอ) ของเล่นที่มีขนหรือฝุ่นมาก (เสี่ยงต่อภูมิแพ้) หรือของใช้ที่ไม่จำเป็นต่อการเลี้ยงดูในช่วงแรก
ควรให้ของขวัญเป็นเงินสดดีไหม?
การให้เงินสดเป็นของขวัญให้เด็กแรกเกิด ถือเป็นตัวเลือกที่ดีและได้รับความนิยม เพราะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถนำไปซื้อสินค้าแม่และเด็ก หรือของเตรียมคลอดมีอะไรบ้างที่ยังขาดเหลือได้ตามความต้องการจริง
ซื้อของขวัญเด็กแรกเกิดได้ที่ไหนบ้าง?
ที่ร้าน BabyGift หรือOnline เว็บไซต์(https://www.babygiftretail.com)
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
มือบวม-เท้าบวมเกิดจากอะไร? สำหรับคุณแม่หลายๆ ท่าน ไหนจะต้องรับมือกับท้องอันหนักอึ้งแล้ว ยังต่อเผชิญกับปัญหามือบวม-เท้าบวมอีกด้วย อาการบวมเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพราะว่าคุณแม่อ้วนขึ้นหรือน้ำหนักขึ้นหรอกนะคะ แต่เป็นเพราะระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนโพรเจสเตอโรนในร่างกายที่ไม่ยอมหยุดนิ่ง เอาแต่ขึ้นๆ ลงๆ อยู่ตลอดต่างหาก จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้การทำงานของหลอดเลือดและหลอดน้ำเหลืองผิดปกติ นอกจากนี้ยังมีน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมากดทับที่เส้นเลือดดำ เลือดก็เลยไหลเวียนลำบาก ทำให้มีการกักของเหลวไว้ในร่างกายเพิ่มขึ้น นำไปสู่อาการมือบวม-เท้าบวมนั่นเองค่ะ อาการที่มักจะมาด้วยกัน อาการมือบวม-เท้าบวมส่วนใหญ่แล้วจะไม่ได้มาเดี่ยวๆ นะ เพราะอาการนี้มักจะมาร่วมกับอาการชา ใช่แล้วค่ะ! สาเหตุก็เพราะเส้นเลือดของคุณแม่ถูกกดทับอยู่นั่นแหละ คุณแม่บางคนอาจจะรู้สึกปวดเมื่อย และยิ่งจะมีอาการแย่ลงถ้าคุณแม่โหมงาน หรือยืนนานเกินไป คำเตือนก่อนจะเจอกับอาการมือบวม-เท้าบวม คุณแม่ที่สวมเครื่องประดับโดยเฉพาะแหวน ขอแนะนำให้ถอดเก็บไว้ก่อนนะคะ เพราะถ้าคุณแม่มีอาการมือบวมแล้วอาจจะถอดแหวนลำบาก หรืออาจถึงขั้นถอดไม่ได้เลย และที่สำคัญ ตอนคุณแม่จะคลอดน้องแล้วเนี่ย ต้องถอดเครื่องประดับทุกชิ้นเลยค่ะ เพราะงั้น ถ้าคุณแม่ไม่ถอดเตรียมไว้ก่อน อาจจะต้องใช้เครื่องตัดออกแทน เสียดายแย่เลย อย่าเพิ่งท้อใจ ยังมีวิธีรับมือ จริงอยู่ว่าไม่ใช่คุณแม่ทุกคนจะเจอกับอาการนี้ แต่คุณแม่ที่ต้องเจอกับการมือบวม-เท้าบวม ก็อย่าเพิ่งน้อยใจไปค่ะ วิธีรับมือกับอาการนี้ก็ไม่ได้มีอะไรมาก ส่วนใหญ่ก็น่าจะเป็นเรื่องที่เดาๆ กันได้อยู่แล้ว ลองไปดูพร้อมๆ กันเลยดีกว่า 1. ไม่ยืน หรือฝืนยืนเป็นเวลานานๆ การยืนเป็นระยะเวลานานๆ จะทำให้อาการบวมนั้นแย่ยิ่งขึ้นนะคะ เพราะการยืนนานๆ จะทำให้คุณแม่ทิ้งน้ำหนักลงที่ขาข้างใดข้างหนึ่งโดยไม่รู้ตัว ทำให้เลือดไหลเวียนได้ไม่เต็มที่ 2. […]
เคล็ดลับการฝึกลูกนั่งคาร์ซีท car seat จากประสบการณ์จริงคุณแม่ลูกสอง โดย แม่ป่าน เพจ เลี้ยงลูกอย่างมีความสุข by mommy Arpan 1. ฝึกเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ : ถ้าเป็นไปได้จัดเตรียมคาร์ซีท car seat ไว้ก่อนคลอด และให้ลูกนั่งตั้งแต่วันแรกที่ออกจากโรงพยาบาล จะช่วยสร้างความคุ้นเคยให้กับทั้งตัวลูกและพ่อแม่ 2. ต่อเนื่อง และสม่ำเสมอจนกลายเป็น routine (กิจวัตร) : ไม่ว่าจะไปไหน ใกล้หรือไกลต้องให้เด็กนั่ง car seat ทุกครั้ง เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ ปฏิบัติจนคุ้นชิน และทุกอย่างจะง่ายขึ้นเองค่ะ 3. ปรับทัศนคติให้ตรงกัน (ปัญหาหลักที่หลายบ้านพบเจอ) : โดยเฉพาะผู้ใหญ่ในบ้านที่อาจจะยังไม่เข้าใจ หรือยังมองไม่เห็นความสำคัญ ลองนั่งพูดคุยบอกเล่าเหตุการณ์ๆต่างๆในข่าว ที่เวลาเกิดอุบัติเหตุและเด็กที่นั่ง car seat รอดชีวิต เปรียบเทียบกับเด็กที่ไม่ได้นั่งและเกิดความสูญเสียร้ายแรงตามมา และลองคุยปรับความเข้าใจกับท่านดู เชื่อว่าถ้าท่านรักและห่วงหลานๆเป็นทุน ยังไงวันหนึ่งท่านจะเข้าใจค่ะ อีกวิธีหนึ่งที่แนะนำคือลองหาวิดิโอใน Youtube สาธิตแรงกระแทกที่เกิดขณะรถชน (จะมีสาธิตเปรียบเทียบระหว่างมีคนอุ้มเด็ก กับเด็กนั่งคาร์ซีท ….หวังว่าภาพที่เห็นจะสามารถเปลี่ยนใจของบรรดาผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านได้นะคะ […]
เครื่องปั๊มนมเป็นตัวช่วยอันดับหนึ่งของคุณแม่ลูกอ่อน โดเฉพาะคุณแม่ที่ต้องการให้ลูกน้อยได้กินนมแม่อย่างต่อเนื่องยาวนานที่สุด เครื่องปั๊มนมจะช่วยให้คุณแม่ปั๊มนมได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่ทำให้เกิดอาการคัดเต้านม ซึ่งการที่คุณแม่ปั๊มนมอย่างสม่ำเสมอนั้น เป็นการช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำนมได้มากยิ่งขึ้น ทำให้คุณแม่สามารถสต็อกน้ำนมได้ตามความต้องการ ปัจจุบันในท้องตลาดมีเครื่องปั๊มนมหลากหลายยี่ห้อมากมาย และก็มีหลายประเภทให้เลือกซื้อ คุณแม่บางคนอาจสงสัยว่าควรเลือกแบบไหน จะเลือกเครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ? BabyGift มีเครื่องปั๊มนมน่าใช้ในปี 2025 มาแนะนำให้เหล่าคุณแม่ได้เลือกใช้ตามความเหมาะสมกันเลยค่ะ เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ? เครื่องปั๊มนมแบบไหนที่ถูกใจคุณแม่บ้าง ? เครื่องปั๊มนมนั้นจำเป็นสำหรับคุณแม่อย่างมาก โดยเฉพาะคุณแม่ที่เพิ่งคลอดลูกและต้องกลับไปทำงานหลังลาคลอดทำให้ไม่ได้ให้ลูกกินนมจากเต้าเหมือนตอนอยู่บ้าน เครื่องปั๊มนมนั้นก็มีประโยชน์มากมาย อย่างเช่น ทำให้คุณแม่ปั๊มนมเก็บลงสต็อกได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ช่วยกระตุ้นน้ำนม เสมือนว่ามีทารกดูดน้ำนมอย่างเสมอซึ่งช่วยให้ร่างกายคุณแม่ผลิตน้ำนมได้มากยิ่งขึ้น ทั้งช่วยบรรเทาอาการคัดเต้านม และทำให้คุณแม่ได้มีเวลาพักผ่อนหรือมีเวลาทำกิจกรรมส่วนตัวเพิ่มขึ้นในระหว่างที่ลูกดูดนมสต็อกในขวดแทนการดูดจากเต้า เรียกว่าเครื่องปั๊มนมนั้นมีความจำเป็นมากทีเดียวเลยค่ะ แล้วจะเลือกเครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ? ก็ต้องดูว่าแต่ละรุ่นแต่ละแบบนั้น ตอบโจทย์การใช้งานของคุณแม่ได้มากน้อยอย่างไร สำหรับคุณแม่ที่อาจจะกำลังสงสัยว่าเครื่องปั๊มนม มีกี่แบบ ? โดยหลัก ๆ แล้วจะมีอยู่ 2 แบบด้วยกันดังนี้ค่ะ BabyGift แนะนำเครื่องปั๊มนม 10 อันดับน่าใช้ประจำปี 2025 รู้กันแล้วว่ามีกี่ประเภท ตอนนี้เราลองมาดูยี่ห้อน่าใช้กันต่ะค่ะ ปัจจุบันตามท้องตลาดก็มีเครื่องปั๊มนมจำหน่ายมากมาย ทั้งแบบปั๊มมือ และแบบไฟฟ้า มีฟังก์ชั่นให้เลือกอย่างหลากหลาย […]
ลูกน้อยที่ทั้งฉลาดและอารมณ์ดี คือลูกน้อยที่คุณแม่ทุกๆ บ้านใฝ่ฝัน ว่าแต่คุณแม่ทราบมั้ยคะว่า ทั้งความฉลาดและความอารมณ์ดีนี้ ไม่ได้เป็นเรื่องของโชคหรือดวงหรอกนะ เพราะมันเป็นสิ่งที่คุณแม่สามารถปลูกฝังและฟูมฟักได้ตั้งแต่ลูกน้อยยังอยู่ในท้อง สำหรับบทความนี้ เรามีวิธีง่ายๆ ที่คุณแม่ท่านไหนก็ทำได้ที่บ้านมาฝากกัน ลองไปดูกันเลยค่ะ 1. อารมณ์ลูกเริ่มจากแม่ คุณแม่อาจจะเคยได้ยินมาว่าอารมณ์ของคุณแม่จะส่งผลต่อลูกน้อยในครรภ์ ถูกต้องแล้วล่ะค่ะ เพราะมีงานวิจัยหลายชิ้นเลยที่บอกว่าแม่ที่เครียดตอนตั้งครรภ์ หรือเป็นซึมเศร้านั้นจะส่งผลต่อบุคลิกภาพและอารมณ์ของลูกน้อย อันนี้ก็เพราะว่ามันจะมีฮอร์โมนตัวนึงที่เรียกว่าคอร์ติซอล ซึ่งมีผลอย่างมากต่อการพัฒนาสมองของลูกน้อยในท้องค่ะ ในทางกลับกัน ถ้าคุณแม่ทำอารมณ์ตัวเองให้ดีและสดใสอยู่เสมอ ร่างกายก็จะลดการหลั่งฮอร์โมนที่ส่งผลเสียตัวนี้ แล้วก็ไปเพิ่มฮอร์โมนตัวดี ที่ไปช่วยกระตุ้นการพัฒนาและการรับรู้ต่างๆ แทนนั่นเองค่ะ 2. อ่านนิทานให้ลูกน้อยฟัง ลูกน้อยจะเริ่มรับรู้สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้นรอบตัวคุณแม่ตั้งแต่ 2-3 เดือนเลยนะ แถมพอเข้าเดือนที่ 3-4 ประสาทหูก็จะทำงานดีขึ้นด้วยล่ะค่ะ เพราะฉะนั้นคุณแม่ก็เริ่มพูดคุยกับเค้าตอนนี้ได้เลย นอกจากนี้ คุณแม่ยังควรจะอ่านนิทานให้เค้าฟัง เพราะนอกจากจะเป็นการเสริมสร้างพัฒนาการด้านการได้ยินของลูกน้อยแล้ว ยังเป็นสิ่งที่สร้างความเพลิดเพลินให้กับคุณแม่อีกด้วยนะ 3. เลือกรับประทานอาหารให้เหมาะสม อาหารที่เหมาะสมจะช่วยในเรื่องของการเจริญเติบโตและการสร้างเซลล์ต่างๆ ส่วนอาหารที่คุณแม่ควรรับประทานก็อย่างเช่น 4. ส่องไฟกระตุ้นการมองเห็น ตอนอายุครรภ์ได้ประมาณ 7 เดือน ลูกน้อยจะเริ่มพัฒนาด้านการมองเห็น และจะสามารถเห็นแสงไฟส่องทะลุผนังหน้าท้องของคุณแม่เข้ามาได้ค่ะ เพราะฉะนั้นการส่องไฟที่หน้าท้องก็ถือว่าเป็นการช่วยกระตุ้นพัฒนาการและเซลล์สมองส่วนรับภาพได้เหมือนกันนะ วิธีการเล่นกับลูกน้อยด้วยการใช้ไฟส่องก็คือ ให้คุณแม่ใช้ไฟฉายมาวนเป็นวงกลมที่หน้าท้องรอบๆ สะดือ ลูกจะขยับตอบรับกับแสงไฟนั้นให้คุณแม่รู้สึกได้ […]
เสื้อผ้าสำหรับเด็กเล็กๆ นั้นมักจะมีแต่สีสันสดใส เพื่อให้ดูเหมาะสมกับวัย คุณแม่จึงไม่ค่อยจะมีเสื้อผ้าเด็กสีดำติดบ้านกันสักเท่าไหร่ บางบ้านไม่มีเสื้อผ้าเด็กสีดำเลยด้วยซ้ำ จึงใส่ชุดให้ลูกไปตามที่มี ซึ่งก็เกิดประเด็นทำให้คุณแม่เป็นกังวลอย่างมาก บ้างโดนต่อว่าด้วยคำพูด บ้างโดนตำหนิด้วยสายตา “ทำไมไม่ใส่ชุดดำให้ลูก” พลอยทำให้คุณแม่ไม่กล้าพาลูกออกจากบ้าน เพราะที่บ้านไม่มีเสื้อผ้าเด็กสีดำเลย แล้วอย่างนี้ เด็กเล็กแต่งกายไว้ทุกข์อย่างไรดี สำหรับชุดไว้ทุกข์ของเด็กๆ นั้น ไม่ได้เคร่งครัดอะไร คุณแม่ไม่ต้องกังวลจนเกินไปค่ะ ขอให้เป็นสีเรียบๆ ไม่ฉูดฉาด หากเป็นไปได้ก็คุมโทนเสียหน่อย ด้วยโทนดำ ขาว ไข่ไก่ ครีม เทา น้ำเงิน น้ำตาลเข้ม ตัวอย่างแบบเสื้อผ้าเด็กสำหรับใส่ไว้ทุกข์มาฝากให้คุณแม่ลองนำไปมิกซ์แอนด์แมทช์ดูนะคะ การแต่งกายไว้ทุกข์สำหรับเด็กผู้ชาย การแต่งกายไว้ทุกข์สำหรับเด็กผู้หญิง สำหรับบ้านไหนที่ไม่มีเสื้อผ้าลูกสีคุมโทนตามที่กล่าวมา การซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้ลูกเพื่อใส่ไว้ทุกข์อาจไม่ใช่คำตอบ ด้วยราคาเสื้อดำที่ตอนนี้ค่อนข้างแพง และเด็กๆ เขาก็โตเร็ว ใส่ไม่เท่าไหร่ก็คับต้องยกให้คนอื่น คำนวณแล้วอาจไม่คุ้มกับราคาที่ต้องจ่าย อาจใช้วิธีย้อมผ้าสีดำ แทนก็ได้ เพียงซื้อสีย้อมผ้าราคาย่อมเยา ก็แปลงโฉมเสื้อผ้าสีสันเป็นเสื้อผ้าที่ใส่ถวายอาลัยได้แล้ว ขอบคุณแหล่งที่มาจาก : เว็ปไซด์ amarinbabyandkids






