Baby Checklist เตรียมให้พร้อมก่อนคลอด ของใช้ทารก ต้องมีอะไรบ้าง

วันกำหนดคลอดเริ่มใกล้เข้ามาทุกที เบบี้กิ๊ฟมั่นใจว่าคุณแม่หลาย ๆ ท่าน ต้องมีแอบเล็งของใช้ทารกไว้ให้ลูกน้อยตั้งแต่วันแรกที่เริ่มรู้เพศกันแน่ ๆ เลยใช่ไหมคะ ซึ่งการเตรียมของใช้ทารกไว้ล่วงหน้าก็เป็นเรื่องปกติที่สามารถทำได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความเชื่อต่าง ๆ อีกต่อไป แถมยังมีข้อดีคือทำให้มีเวลาให้คิด เลือกซื้อ เปรียบเทียบคุณภาพต่าง ๆ ได้ และยังช่วยให้คุณพ่อคุณแม่มีเวลาในการทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโรค ก่อนลูกน้อยต้องสัมผัสอีกด้วย

BabyGift เข้าใจแม่ว่าของใช้ทารกมีมากมายเหลือเกินในปัจจุบัน เราจึงรวบรวมผลิตภัณฑ์ของใช้ทารกที่จะต้องเตรียมให้พร้อมก่อนคลอดมาให้เลือก ซึ่งแบ่งตามหมวดหมู่ไว้ให้ดังนี้ค่ะ

หมวดให้นม

การทานนมถือเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับทารกในช่วงวัยแรกเกิด โดยเฉพาะช่วง 6 เดือนแรก ที่ทารกไม่สามารถกินอย่างอื่นได้นอกจากนม การเตรียมอุปกรณ์เกี่ยวกับการทานนม จึงสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง และโดยเฉพาะอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการทานนมนั้น เป็นจุดที่ลูกได้รับสัมผัสเข้าไปโดยตรง จึงควรพิจารณาเลือกวัตดุ อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน ทนต่อความร้อน และสามารถฆ่าเชื้อโรคได้

เครื่องปั๊มนม

ตัวช่วยกระตุ้นให้คุณแม่มีน้ำนมอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้เก็บน้ำนมของคุณแม่ไว้ให้ลูกน้อยทานได้เรื่อย ๆ การปั๊มนมตามรอบนอกจากจะให้คุณแม่มีน้ำนมในปริมาณที่พอเพียงแล้ว ยังช่วยลดอาการเจ็บปวดเต้านมได้อีกด้วย โดยเครื่องปั๊มนมมีหลากหลายรูปแบบมาก ทั้งแบบปั๊มนมไฟฟ้า หรือปั๊มมือ แบบปั๊มเดี่ยว หรือปั๊มคู่ และแต่ละเครื่องยังมีฟังก์ชั่นที่แตกต่างไปอีก ทั้งระบบการปรับแรงดูด รอบดูด ปั่นจี๊ด นวดกระตุ้น เคลียร์เต้า ต่างๆ ซึ่งคุณแม่สามารถศึกษาและเลือกแบบที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคุณแม่ได้ค่ะ

กรวยปั๊มนมสุญญากาศ

สำหรับบางบ้านที่ให้ลูกเข้าเต้า หรือใช้เครื่องปั๊มนมแบบทีละข้าง อาจทำให้มีน้ำนมไหลออกมาจากนมอีกข้างขณะลูกดูดหรือปั๊มได้ ปัจจุบันนี้มี กรวยปั๊มนมแบบซิลิโคน ที่สามารถใช้ติดแนบกับเต้านมอีกข้างเพื่อรองรับน้ำนมไว้ แทนการปล่อยซึมผ่านแผ่นซับน้ำนม ช่วยให้คุณแม่เก็บน้ำนมทุกหยดไว้ให้ลูกดื่มได้เลยค่ะ

ถุงเก็บน้ำนม

สำหรับเก็บน้ำนมหลังจากปั๊มเสร็จแล้ว เพื่อสต๊อกเก็บไว้ให้ลูกน้อยทานได้เรื่อยๆ โดยถุงเก็บน้ำนมจะมีตั้งแต่ขนาด 4 Oz. ไปจนถึง 8 Oz. โดยแนะนำให้เลือกเก็บน้ำนม ในถุงตามขนาดที่ลูกน้อยทาน เพื่อสะดวกในการนำมาอุ่นก่อนป้อน ทานได้หมดเป็นรอบๆ และไม่ต้องเททิ้งหากทานเหลือ

ขวดนม และจุกนม

สำหรับบ้านที่ไม่เน้นเข้าเต้า คุณแม่ที่ต้องทำงานไปด้วย มีคนคอยช่วยเลี้ยงลูกให้ แน่นอนว่าขวดนมเป็นไอเท็มที่ต้องมีติดบ้านไว้อย่างแน่นอน โดยหลักการเลือกขวดนมนั้น นอกจากจะต้องคำนึงถึงขนาดแล้ว วัสดุขวดนม ควรจะต้องทนความร้อนได้ รองรับการฆ่าเชื้อโรคได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะด้วยการนึ่งด้วยเครื่องนึ่งขวดนม หรือการฆ่าเชื้อด้วย เครื่องอบUV จะต้องเป็นขวดนมที่มีสัญลักษณ์ BPA FREE และการเลือกจุกนม ควรเลือกจุกที่เหมาะสมกับการดูดของลูก มีจุกทั้งแบบรูกากบาทไม่ดูไม่ไหล และแบบรูกลมนมไหลได้ง่าย ที่สำคัญจุกนมต้องมีคุณภาพดี นิ่ม คล้ายกับนมแม่ เพื่อให้ลูกน้อยรู้สึกคุ้นเคย ไม่ปฏิเสธการทานจากขวดนมด้วยนะคะ

ตู้แช่ถุงเก็บน้ำนม

การเก็บน้ำนมจะต้องคำนึงถึงอุณหภูมิเป็นสำคัญ สำหรับคุณแม่นักปั๊มแพลนจะปั๊มนมให้ลูกทานให้ได้นานที่สุด หรือคุณแม่ที่มีน้ำนมปริมาณมาก การเก็บในตู้เย็นธรรมดาอาจไม่เพียงพอ และการเก็บในตู้เย็นที่ใช้เก็บกับข้าว ยิ่งไม่เหมาะสม นอกจากจะเปิดเข้า-เปิดออกบ่อยๆ เสียอุณหภูมิในตู้เย็นแล้ว กลิ่นอาหารอาจไปติดในน้ำนมของแม่ ทำให้ลูกน้อยไม่อยากทานได้จนอาจต้องเททิ้ง หากมีงบประมาณเพียงพอ สามารถวางแผนซื้อตู้แช่ถุงเก็บน้ำนมไว้ได้เลย

ผ้าคลุมให้นม

การออกไปปั๊มนมหรือให้นมลูกนอกบ้าน บางครั้งอาจอยู่ในสถานที่ ๆ ไม่มีห้องปั๊มนม ห้องสะอาด ๆ ให้คุณแม่หลบมุม การมีผ้าคลุมให้นมซักชิ้น จะช่วยบังสายตา สะดวกแก่การให้นมลูกหรือปั๊มนมนอกบ้านในเวลาจำเป็นได้ดีเลยค่ะ โดยแนะนำให้เลือกที่เนื้อผ้าบางเบา สัมผัสอ่อนนุ่ม ไม่ระคายเคืองผิว

กระเป๋าเก็บอุณหภูมิ

การปั๊มนมนอกบ้านนั้นจะต้องพกพาเครื่องปั๊มนม อุปกรณ์กรวยปั๊ม ผ้าคลุมปั๊มนม ถุงเก็บน้ำนม สารพัดอุปกรณ์ต่าง ๆ ไปด้วย ซึ่งการใช้กระเป๋าทั่วไปอาจใส่สิ่งเหล่านี้ได้หมด แต่ขาดฟังก์ชั่นการเก็บรักษาอุณหภูมิ การเลือกซื้อกระเป๋าที่สามารถพกพาของใช้คุณแม่ไปด้วย พร้อมกับการเก็บรักษาอุณหภูมิของถุงเก็บน้ำนมได้นาน 4-6 ชั่วโมง จะช่วยรักษาน้ำนมของคุณแม่ก่อนกลับบ้านได้ ไม่ต้องปั๊มทิ้งไป โดยแนะนำให้เลือกรุ่นที่มีช่องจัดเก็บเยอะ ๆ มีช่องเก็บอุณหภูมิ มีที่สำหรับเสียบเจลเย็น ช่วยให้คุณแม่จัดระเบียบ หยิบของใช้ได้สะดวกขึ้น

เครื่องอุ่นนม

การจะนำนมแม่ออกมาจากตู้แช่มาให้ลูกทานนั้น หากวางไว้ด้านนอกตู้เพื่อรอให้ละลาย จะต้องใช้เวลารอนานมากร่วมชั่วโมง ทั้งเสียเวลา และทำให้คุณแม่คำนวณเวลาค่อนข้างลำบาก แถมหากเผลอวางทิ้งไว้อาจทำให้น้ำนมเสียได้ด้วย และแน่นอน การนำถุงเก็บน้ำนมไปแกว่งในน้ำร้อน ถึงจะเร็วกว่า แต่ไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิความร้อนได้ อาจทำให้น้ำนมได้รับความร้อนสูงเกิน เสียคุณค่าน้ำนมแม่ไปอีก เครื่องอุ่นนม จึงเป็นไอเท็มที่คุณแม่ยุคใหม่เลือกใช้ โดยเลือกรุ่นที่สามารถกำหนดอุณหภูมิในการอุ่นนม ละลายน้ำนมได้ ทำให้ควบคุมเวลาได้ และยังอุ่นใจแม่ด้วย

เครื่องอบยูวี

อุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการให้นม ซึ่งลูกน้อยจะได้สัมผัสโดยตรงนั้นควรผ่านการฆ่าเชื้อโรคอย่างถูกต้อง เพื่อลดอาการป่วยต่าง ๆ เช่น อาการท้องเสีย ที่มักเกิดจากการล้างขวดนม และฆ่าเชื้อไม่สะอาดเพียงพอ ในอดีตผู้คนมักนิยมฆ่าเชื้อแบบง่าย ๆ ด้วยการลวกน้ำร้อนเดือด 90-100 องศา แต่มีผลวิจัยมาแล้วว่าขวดนมพลาสติกนั้นต่อให้ทนความร้อนได้สูง แต่ก็มีโอกาสเกิดการปนเปื้อนจากไมโครพลาสติก ที่ตกค้างอยู่และเข้าสู่ร่างกายของลูกได้ เพราะมีขนาดเล็กมากกว่าเส้นผม

การฆ่าเชื้อขวดนมอย่างปลอดภัย จึงไม่ควรใช้ความร้อนที่สูงเกินไป จึงมีนวัตกรรมการฆ่าเชื้อขวดนม ด้วย เครื่องอบ UV ที่สามารถอบแห้งด้วยลมร้อนไม่เกิน 45 องศา เพื่อทำให้ขวดนมแห้ง ก่อนฉายแสงฆ่าเชื้อด้วยรังสี UV-C ซึ่งไม่ได้ใช้ความร้อน และยังมีผลวิจัยรับรองการฆ่าเชื้อโรคประเภทนี้ สามารถฆ่าเชื้อไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา สปอร์ต่าง ๆ ได้มากถึง 99.9%

นอกจากการใช้ฆ่าเชื้อขวดนมให้ลูกได้แล้ว ยังใช้ฆ่าเชื้ออุปกรณ์อื่น ๆ ได้อีกด้วย ทั้งกรวยปั๊มนม ยางกัด จุกหลอก ของใช้ต่าง ๆ รอบตัวลูก สามารถนำเข้าอบฆ่าเชื้อในเครื่องอบ UV ได้ จึงเป็นที่นิยมในคุณแม่ยุคใหม่ ซื้อครั้งเดียว ใช้ได้ยาวนานจนลูกโต และใช้ฆ่าเชื้อของใช้ทุกคนในครอบครัวได้อีกด้วย

อุปกรณ์ล้างขวดนม แปรงล้างขวดนม น้ำยาล้างขวดนม

ก่อนจะนำขวดนม เข้าฆ่าเชื้อด้วยเครื่องอบ UV หรือ เครื่องนึ่งขวดนม จะต้องผ่านการล้างให้สะอาดก่อน โดยการล้างให้สะอาดด้วยน้ำยาล้างขวดนม ที่เป็นสูตร Organic ไม่ทิ้งสารตกค้าง ปลอดภัยต่อของใช้ทารก และแปรงที่จับได้ถนัดมือ ล้างได้สะอาดทุกซอกมุม หลังล้างเสร็จหากใช้เครื่องอบ UV เพียงสะบัดให้หมาดๆ แล้วนำเข้าเครื่องอบ UV ก็สามารถฆ่าเชื้อแล้วจัดเก็บไว้ในเครื่องได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องซื้อที่ตากขวดนมเพิ่มเติม

หมอนให้นม

ฟังก์ชั่นเสริมสำหรับการให้นมลูก หากคุณแม่มือใหม่ยังไม่คล่องในการอุ้มลูกให้นม การมีหมอนที่ออกแบบมาให้สามารถจัดท่าให้ลูกน้อยให้นมได้อย่างสะดวก ในองศาที่ทานนมได้ถูกต้อง และยังช่วยให้คุณแม่ลดอาการปวดเมื่อยหลังได้อีกด้วย

หมวดการนอน

ทารกแรกเกิดใช้เวลามากกว่า 18 ชั่วโมงต่อวัน ในการนอนหลับ การนอนที่ต่อเนื่องยาวนานของทารกจะช่วยส่งเสริมให้ Growth Hormone ทำงานได้ดี ส่งผลให้มีพัฒนาการเจริญเติบโตทั้งร่างกาย น้ำหนัก ส่วนสูง สมอง รวมไปถึงอารมณ์ลูกก็จะดีไปด้วย การเลือกอุปกรณ์การนอน จึงสำคัญเป็นอันดับสอง และต้องใส่ใจมากกว่าที่หลายคนคิดค่ะ

เปลนอนทารก เตียงนอนทารก

ทารกควรมีเตียงนอนเป็นของตัวเอง ไม่ควรนอนร่วมเตียงเดียวกับผู้ใหญ่ เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ การเผลอนอนทับลูกจนขาดอากาศหายใจ และยังช่วยให้ทั้งพ่อแม่และลูกสามารถนอนหลับได้อย่างสบายใจ ควรให้ลูกได้นอนบนเตียงของทารกที่ออกแบบมาสำหรับการนอนของทารกโดยเฉพาะ ทั้งเรื่องของวัสดุเบาะนอนที่จะไม่อ่อนนุ่มจนเกินไป แตกต่างจากเตียงของผู้ใหญ่ วัสดุที่ระบายอากาศได้ดีกว่า ลดโอกาสเกิดโรค SIDS หรือสภาวะไหลตาย

และยังมีฟังก์ชั่นอื่น ๆ ที่เหมาะแก่การเลี้ยงดูลูกน้อย ได้แก่ เตียงแบบชิดข้างเตียงคุณแม่ได้เลย สะดวกต่อการให้นม ฟังก์ชั่นการปรับเอนยกศีรษะสูงลดกรดไหลย้อน ฟังก์ชั่นการปรับโยกกล่อมได้ในตัว ล้อเข็นเคลื่อนย้ายได้ รวมไปถึงการประกอบได้ง่ายพับเก็บสะดวกในการพกพา

เบาะนอนทารก

สำหรับบ้านที่สะดวกนอนใกล้ลูก หรือมีพื้นที่จำกัดไม่พอวางเปลนอนด้านข้างเตียง สามารถเลือกซื้อเป็น เบาะนอนทารก ที่มีลักษณะขอบด้านข้างสูง เพื่อป้องกันการนอนทับของพ่อแม่ และเป็นบริเวณปลอดภัยให้ลูกนอนได้อย่างอบอุ่น โดยวัสดุจะต้องระบายอากาศได้ดี หายใจผ่านได้สะดวก ลดโอกาสเกิดโรค SIDS หรือสภาวะไหลตาย เคลื่อนย้ายได้สะดวก ใช้ได้หลากหลายพื้นที่ เป็นเบาะนอนตอนกลางคืน หรือเบาะนอนในบริเวณส่วนอื่นของบ้านได้ในเวลากลางวัน

เปลไกวไฟฟ้า เปลโยก

ทารกวัยแรกเกิดอาจนอนหลับยาก คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ ท่าน ต้องใช้เวลานานมากในการอุ้มกล่อมให้ลูกนอนหลับ จนเกิดอาการข้อมืออักเสบ การมีตัวช่วยในการกล่อมลูกน้อยนอนหลับ จะช่วยแบ่งเบาการเลี้ยงดูลูกให้ง่ายยิ่งขึ้น การใช้เปลไกวไฟฟ้า เปลโยก ครั้งละไม่เกิน 30 นาที จะช่วยกล่อมให้ลูกหลับได้ง่าย ไม่ช่วยให้ทารกติดเปล และปลอดภัย เพราะทารกควรนอนยาวในลักษณะท่านอนราบถูกต้องตามหลักสรีระศาสตร์มากที่สุด และหากกล่อมไกวไปพร้อมกับมีเสียงดนตรีขับกล่อม จะช่วยให้หลับได้ดียิ่งขึ้น เจริญเติบโตได้เร็ว ตามผลวิจัยทดลองของ สมาคมพยาบาลแห่งประเทศไทย

หมอนหนุน หรือ หมอนหัวทุย

หมอนทารกมีหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบหนุนธรรมดา และหมอนหัวทุย บทความทางการแพทย์สรุปไว้ว่า จริง ๆ แล้ว ทารกไม่จำเป็นต้องนอนหนุนหมอนในช่วงวัยแรกเกิด เพราะโครงกะโหลกของทารกมีขนาดใหญ่กว่าลำตัว เมื่อนอนหงายจะพอดีกัน โดยไม่จำเป็นต้องหนุนหมอน แต่ทั้งนี้ หากต้องการเลือกหมอนหนุนให้ลูก ให้เลือกที่มีลักษณะเป็นหลุม เพื่อช่วยประคองให้ศีรษะตั้งตรง ไม่พับงอ อยู่ในท่าที่ถูกต้อง ไม่ต้องหนาสูงจนเกินไป

หมอนข้าง หรือ หมอนดันหลัง

หากเปลนอนของลูกมีขนาดกว้างเกินไป สามารถมีหมอนข้าง หรือหมอนที่มีลักษณะยาว ๆ  ไว้เพื่อวางชิดกับลำตัว หรือเวลาตะแคงข้างสามารถวางไว้ด้านหลังได้เพิ่มความอบอุ่นใกล้ชิด โดยไม่จำเป็นต้องมีตุ๊กตาอีกมากมายวางไว้เยอะบนเตียงจนอันตรายเกินไป เสี่ยงต่อการอุดกั้นทางเดินหายใจนั่นเอง

ผ้าห่ม

การเลือกผ้าห่มที่ดีควรเป็นเนื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี ไม่หนา และไม่ใหญ่จนเกินไป และต้องมั่นใจว่าผ้าห่มนั้นจะไม่พันรอบร่างกายลูก จนเสี่ยงต่อการขาดอากาศหายใจอย่างที่เป็นข่าวบ่อยๆ ได้

แผ่นรองซับปัสสาวะทารก

คุณแม่ที่มีประสบการณ์จะรู้กันดีว่าผ้าอ้อมสำเร็จรูป ในหลาย ๆ ครั้งก็ไม่สามารถซับปัสสาวะ และอุจจาระของลูกน้อยไว้ได้หมด และอาจมีหลุดเล็ดลอดออกมาเปื้อนที่นอนสวย ๆ ของลูกได้ การเตรียมพร้อมผ้าปู หรือแผ่นรองซับปัสสาวะไว้ จะช่วยปกป้องเตียงนอนไว้ได้อีกชั้น ทั้งนี้ควรเลือกวัสดุที่ซึมซับได้ดี ไม่อับชื้น ลดอาการเกิดผื่นแพ้

หมอนกันกรดไหลย้อน

การนอนทันทีหลังทานนมเสร็จจะส่งผลให้เกิดอาการ “แหวะนม” และ “กรดไหลย้อน” ตามมาได้ หลังจากการอุ้มเรอเสร็จแล้วยังไม่ควรให้ลูกน้อยนอนราบในทันที การใช้ที่นอนกันกรดไหลย้อน หมอนกันกรดไหลย้อน หรือเตียงนอนที่ปรับเอียงองศาด้านศีรษะให้ชันสูงกว่าปลายเท้า ก็จะช่วยให้ลดกรดไหลย้อนได้ หลังจากผ่านไป 30 นาที ค่อยให้ลูกน้อยนอนราบบนเปลนอนทารก

กล้องเบบี้มอนิเตอร์

ไอเท็มสำหรับพ่อแม่ยุคใหม่ ช่วยให้เฝ้าดูลูกนอนหลับได้ตลอดเวลาในวันที่เราต้องไปทำธุระนอกบ้านหรือฝากคนอื่นเลี้ยง โดยกล้องเบบี้มอนิเตอร์นี้ สามารถติดตั้งไว้ใกล้ ๆ กับที่นอนได้ ด้วยฟังก์ชั่นที่สามารถแจ้งเตือน ตรวจจับความเคลื่อนไหว ตรวจจับเสียงร้องไห้ มองเห็นได้ไกล คมชัด ดูย้อนหลังได้ และยังสามารถส่งเสียงสื่อสารผ่านลำโพงและไมค์บนตัวกล้อง ต่อให้อยู่ไกลจากลูกแค่ไหน ก็พูดคุยกับลูกได้ตลอดเวลา แบบที่นิยมใช้คือแบบเชื่อมต่อผ่านระบบอินเทอร์เนต เพราะไม่จำกัดบริเวณในการดูลูก และยังสามารถดูผ่านโทรศัพท์มือถือพร้อมกันหลายๆ คนได้ด้วย

เครื่องฟอกอากาศ

ยุคปัจจุบันนอกจากเชื้อไวรัสที่ระบาดแล้ว ยังมีฝุ่น PM2.5 อีกภัยร้ายที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพของลูกน้อย คุณพ่อคุณแม่สามารถเลือกซื้อ เครื่องฟอกอากาศ ช่วยสร้างอากาศบริสุทธิ์ภายในห้องนอนของลูกได้ตามงบประมาณที่ต้องการ

หมวดการอาบน้ำ

ตั้งแต่ก่อนคลอดหลักสูตรสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ต้องมีโอกาสได้เรียนรู้เลยคือ การหัดอาบน้ำให้ทารก เพราะผิวทารกต้องการการดูแลทำความสะอาดทุกวัน และยังบอบบางแพ้ง่ายกว่าผิวของผู้ใหญ่หลายเท่า และยังมีอีกหลาย ๆ อย่างเกี่ยวกับร่างกายลูกที่ต้องดูแลทำความสะอาด การเลือกวัสดุที่มีความอ่อนโยนต่อส่วนต่าง ๆ ของลูกน้อยจึงเป็นปัจจัยหลัก ๆ ในการพิจารณาเลือกซื้อของในหมวดอาบน้ำ

อ่างอาบน้ำ ขาตั้งวางอ่าบอาบน้ำ

อ่างอาบน้ำสำหรับทารกควรมีสัมผัสที่ไม่แข็งจนเกินไป เพื่อป้องกันการกระแทกไปโดนขณะอาบน้ำ หลาย ๆ รุ่นในปัจจุบันจะมาพร้อมกับฟังก์ชั่นการวัดอุณหภูมิน้ำที่อาบได้ด้วย รวมถึงบางรุ่นจะมีขาตั้งวางอ่างเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาปวดหลังจากการก้มอาบน้ำให้น้อง ขาตั้งยังสามารถแขวนผ้าเช็ดตัวหรือแขวนชั้นวางของได้ด้วยนะคะ

ที่รองอาบน้ำ

การอุ้มลูกอาบน้ำสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ อาจเป็นเรื่องยาก เพราะลูกน้อยตัวเล็กมาก ทำให้กะน้ำหนักกะแรงในการอุ้มจับไม่ถูก การเกร็งแขนไว้นานจนทำให้ปวดข้อมือ การมีที่รองอาบน้ำ จะช่วยให้ลูกน้อยนั่งอยู่บนที่รองได้อย่างปลอดภัย ประคองบริเวณลำคอได้ดี ไม่ต้องกลัวลื่นหลุดออกจากมือขณะอาบน้ำ โดยมีทั้งแบบที่นั่งซิลิโคนกันลื่น หรือแบบตาข่าย

ฟองน้ำ

ฟองน้ำควรเลือกที่ทำจากธรรมชาติ นอกจากจะซึมซับน้ำได้ดีแล้ว ยังมีความอ่อนโยน นุ่มฟู แห้งง่าย ไม่มีสารเคมีปนเปื้อน และคุณสมบัติของฟองน้ำยังลดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียได้ดีกว่าแบบฟองน้ำสังเคราะห์

โฟม-เจล อาบน้ำสระผมสำหรับทารก

ผิวทารกบอบบางแพ้ง่าย ในช่วงวัยแรกเกิดควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่เป็น Organic ไม่มีส่วนประกอบของสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อผิวลูก และควรมีคุณสมบัติเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว

โลชั่น เบบี้ออยล์

เบบี้ออยล์ช่วยทำให้ผิวชุ่มชื้น เคลือบผิวเพื่อลดการสัมผัสฝุ่นหรือสิ่งสกปรก ปกปิดร่องรอยหรือรอยขุย ลดอาการคันหรือระคายเคืองที่ส่งผลให้เกิดการติดเชื้อ จึงควรทาเพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิวของลูกน้อยหลังอาบน้ำ โดยเลือกจากผลิตภัณฑ์ที่เป็น Organic สูตรอ่อนโยนต่อผิวลูก และไม่ควรทาเยอะจนเกินไปในแต่ละวัน

ผ้าเช็ดตัว

ผ้าเช็ดตัวสำหรับเบบี๋ ควรมีความพิเศษกว่าผ้าเช็ดตัวของผู้ใหญ่ทั่วไป เลือกที่เนื้อขนผ้าละเอียด เพิ่มความอ่อนโยนในการรสัมผัสผิวลุกน้อย ซึมซับน้ำได้ดี และจะดีมากถ้าเป็นวัสดุที่ช่วยลดการสะสมของแบคทีเรีย ลดกลิ่นอับชื้นบนผ้าได้ เช่น ผ้าผสมใยไผ่

ผ้าอ้อมสำเร็จรูป โต๊ะเปลี่ยนผ้าอ้อม

ผ้าอ้อมสำเร็จรูปทารก ต้องออกแบบพิเศษสำหรับเด็กแรกเกิดโดยเฉพาะ ให้ไม่บาดผิวลูกน้อย ไม่ลำบากเวลาสวมใส่ และควรจะมีโต๊ะเปลี่ยนผ้าอ้อม เพราะโต๊ะได้ออกแบบมาเพื่อการวางลูกน้อยนอนลงเปลี่ยนได้อย่างปลอดภัย สะอาดแล้ว ขนาดความสูงของโต๊ะเปลี่ยนผ้าอ้อม ก็มีผลในการยืนเปลี่ยนผ้าอ้อมของคุณแม่ได้อย่างสะดวกสบาย และยังมีฟังก์ชั่นเสริมอื่น ๆ ได้แก่ ที่เก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดของลูกน้อย รวมไปถึงล้อที่สามารถเข็นเคลื่อนย้ายได้

สำลี ผ้าก๊อซ คอตตอนบัด ทิชชู่เปียก

หลาย ๆ ส่วนของลูกน้อย ที่มีขนาดเล็กมากและต้องได้รับการเช็ดอย่างระมัดระวัง จึงต้องใช้สำลีหลากหลายขนาดกันไป โดยส่วนใหญ่ที่ต้องเตรียมไว้ให้พร้อม ได้แก่ สำลีแผ่นใหญ่ สำลีแผ่นรีดข้าง สำลีก้อนหลายขนาด คอตตอนบัดก้านเล็ก ผ้าก๊อซฆ่าเชื้อ และทิชชู่เปียกสำหรับทารก เช็ดตามจุดต่าง ๆ หลังอาบน้ำเสร็จอีกครั้ง

ตะไบตัดเล็บทารก

เล็บของทารกยาวไวมากในช่วงวัยแรกเกิด และหากไม่ตัดเป็นประจำจะทำให้ลูกน้อยเผลอข่วนใบหน้า ดวงตา จนเกิดเป็นรอยแผลได้ คุณแม่สามารถเลือกกรรไกรตัดเล็บธรรมดาได้ แต่อาจต้องระมัดระวังสูงในการตัดเพราะมีโอกาสเสี่ยงในการเข้าเนื้อ เลือดออกได้ เบบี้กิ๊ฟขอแนะนำ ตะไบตัดเล็บอัตโนมัติ ที่ค่อย ๆ ตะไบลบคมเล็บออก ปลอดภัย ไม่เข้าเนื้อ ใช้งานได้ง่ายอีกด้วย

หวีขนอ่อน

การหวีผมลูกน้อย ถึงแม้เส้นผมจะยังไม่ขึ้นแต่ขนแปรงอันอ่อนนุ่มนั้น มีส่วนช่วยในการกระตุ้นให้เลือดบริเวณศีรษะของลูกไหลเวียนได้ดี ช่วยเร่งให้เส้นผมยาวได้ไวขึ้นด้วย โดยส่วนใหญ่จะทำจากขนแพะเพราะอ่อนนุ่มเป็นพิเศษ

หมวดการดูแลรักษาสุขภาพ

เด็กเล็กวัยแรกเกิดมีความบอบบางมาก การเตรียมอุปกรณ์ดูแลสุขภาพ เปรียบเสมือนเครื่องปฐมพยาบาลชุดแรกของลูกที่จำเป็นต้องมีไว้ติดบ้าน เตรียมไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีมาก และได้ใช้แน่นอนค่ะ

มหาหิงค์

เป็นสมุนไพรชนิดหนึ่ง มีสรรพคุณในการช่วยลดอาการปวด บวม โดยใช้ทาบริเวณหน้าท้อง จะช่วยบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และขับลมสำหรับลูกน้อย โดยสามารถทาตอนปวด หรือทาหลังอาบน้ำก็ได้

ปรอทวัดไข้

ทารกป่วยง่ายและต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างรวดเร็ว หากลูกน้อยเริ่มมีอาการตัวร้อน คุณแม่จะได้รีบวัดไข้ และช่วยลดอุณหภูมิ หรือพาไปพบแพทย์ได้ทันเวลา ซึ่งปัจจุบันมีปรอทวัดไข้แบบดิจิตอล ที่ช่วยให้วัดผลได้แม่นยำใน 8 วินาที

ที่ดูดน้ำมูก

จมูกของลูกมีขนาดเล็กมาก และทารกไม่สามารถสั่งน้ำมูกเองได้ ที่ดูดน้ำมูกจะช่วยให้ลูกน้อยหายใจได้สะดวกคล่องมากขึ้น โดยมีเครื่องดูดน้ำมูก ทั้งแบบปกติแบบสูบลม ไปจนถึงแบบอัตโนมัติ ที่สามารถปรับระดับการดูดได้ แบบมีเสียงเพลงให้ลูกผ่อนคลาย และยังทำความสะอาดได้ง่าย

น้ำเกลือล้างจมูก

การล้างจมูกจะช่วยให้โพรงจมูกโล่งหายใจได้ง่ายขึ้น เพิ่มความชุ่มชื้นในจมูก ชะล้างเชื้อโรคออกไปได้ หลังจากใช้ที่ดูดน้ำมูกแล้ว โดยต้องทำอย่างระมัดระวัง ตามวิธีที่ถูกต้อง
อ่านเพิ่มเติม https://www.thairath.co.th/lifestyle/health-and-beauty/2038899

ครีมทาผดผื่น

เมื่อลูกน้อยมีอาการผดผื่นขึ้นใบหน้าและตามลำตัว เนื่องจากอากาศร้อน หรือที่เรียกว่า ผื่นร้อน หรือผื่นผ้าอ้อม หรืออาการแพ้ต่าง ๆ คุณแม่สามารถเลือกใช้ครีมที่มีคุณสมบัติลดอาการผดผื่น ซึ่งมีส่วนผสม Organic สำหรับทารก

ยาทากันยุง แผ่นแปะกันยุง

การพาลูกน้อยออกไปนอกบ้าน หรือเตียงนอนที่ไม่มีมุ้งกันแมลง อาจทำให้ลูกน้อยโดนยุงกัด เป็นรอยแดง หรือบวมคันได้ แน่นอนว่าไม่ควรฉีดสเปรย์กันยุงทั่วไปภายในห้องเด็กการใช้ยาทากันยุง ออยล์กันยุง ใช้สติ๊กเกอร์แปะกันยุง ที่มีส่วนผสม Organic กลิ่นสมุนไพร ก็จะช่วยไล่ยุงได้

เครื่องชั่งน้ำหนักทารก

น้ำหนักตัวของทารกบ่งบอกได้ถึงสุขภาพของลุกน้อย รวมถึงพัฒนาการตามวัยได้ ซึ่งโดยปกติคุณแม่จะมีโอกาสได้ชั่งน้ำหนักลูกแค่ตอนไปฉีดวัคซีนเท่านั้น ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาห่างกันมากกว่าจะได้ไปพบคุณหมออีกครั้ง หากลูกน้อยทานนมได้น้อยลงหรือมากเกินไป อาจส่งผลกระทบกับน้ำหนักตัว Overfeeding โดยไม่รู้ตัว และต้องใช้เวลาในการควบคุมน้ำหนักนาน การมีเครื่องชั่งน้ำหนักทารกติดไว้เลยที่บ้าน จะช่วยให้คุณแม่สบายใจคลายกังวลได้มากขึ้น

ซึ่งปัจจุบันนี้ มีทั้งแบบชั่งน้ำหนักได้อย่างเดียว ไปจนถึงชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง ได้เหมือนโรงพยาบาลใช้ การบันทึกผลผ่าน Application บนมือถือ เปรียบเทียบผลการเจริญเติบโตได้อัตโนมัติ ช่วยลดความยุ่งยากในการคำนวณการเจริญเติบโตของลูกน้อยได้ด้วย

หมวดการเดินทาง

การเดินทางของลูกน้อยเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่วันแรกที่ออกจากโรงพยาบาล และการพาลูกน้อยออกไปนอกบ้าน ไม่ว่าจะใกล้หรือไกล ย่อมต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยเสมอ อุปกรณ์การเดินทางของทารก จึงออกแบบมาเพื่อความปลอดภัยของลูก ความสะดวกสบายของคุณพ่อคุณแม่ มีอะไรจำเป็นต้องใช้บ้าง มาดูกันค่ะ

คาร์ซีท

อุปกรณ์เพิ่มความปลอดภัยของทารก ที่ในหลาย ๆ ประเทศมีกฎหมายออกมาแล้วว่า จำเป็นต้องใช้ทุกครั้งที่เดินทาง ตั้งแต่แรกเกิด ไปจนถึง 12 ขวบ จนกว่าลูกน้อยจะมีความสูง และโตพอที่จะคาดเข็มขัดนิรภัยบนรถได้เหมือนผู้ใหญ่ ซึ่งคาร์ซีทจะได้ใช้ตั้งแต่วันแรกที่เดินทางออกจากโรงพยาบาลกลับไปบ้าน หลาย ๆ ท่านอาจคิดว่าไม่จำเป็นต้องรีบซื้อก็ได้ อุ้มลูกแปบเดียวก็ถึงบ้าน แต่มีข่าวเศร้านับไม่ถ้วนที่เกิดจากความประมาท อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ โดยไม่มีใครคาดคิดไว้ก่อน การให้ลูกได้เดินทางอย่างปลอดภัย บนคาร์ซีทที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องทุกส่วนสรีระของลูกน้อย รับรองว่าได้ใช้คุ้มค่าอย่างแน่นอนค่ะ

คาร์ซีทแรกเกิด มีให้เลือกหลากหลายแบบมาก ทั้งแบบกระเช้า คาร์ซีทหมุนได้ คาร์ซีทปรับนอนราบได้ และมีหลายวัสดุ หลากหลายแบรนด์ ไม่ว่าจะรุ่นไหน คุณพ่อคุณแม่จะต้องมั่นใจว่า ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล ติดตั้งได้อย่างถุกต้องแน่นหนา และให้ลูกนั่งในตำแหน่งที่ถูกต้อง เพื่อความปลอดภัยทุกครั้งที่เดินทาง

สายรัดเพื่อความปลอดภัยสำหรับเด็ก

หนึ่งในปัญหาของการใช้คาร์ซีท ที่ทำให้เด็กไม่เกิดความปลอดภัยเท่าที่ควร คือเด็กมักจะดันแขนเข้าไปใต้สายรัด และถอดสายสะพายไหล่ออกจากไหล่ ทำให้เด็กเป็นอันตรายถึงแม่จะนั่งคาร์ซีทที่ดีขนาดไหนก็ตาม ทำให้ 5 Point Plus ที่ยึดเพิ่มความปลอดภัยสำหรับเด็ก เป็นสิ่งจำเป็น เพราะจะช่วยลดช่องว่าง และป้องกันการที่เด็กถอด หรือดันสายเข็มขัดนิรภัยออกมาเองได้ ทำให้ตัวเด็กสามารถนั่งคาร์ซีทได้ถูกต้อง และได้รับความปลอดภัยมากที่สุด

แผ่นรองติดตั้งคาร์ซีท

การติดตั้งคาร์ซีทบนเบาะรถยนต์ เนื่องจากมีน้ำหนักเยอะ ทั้งน้ำหนักคาร์ซีท และน้ำหนักของลูกน้อยที่กดทับลงไป หากไม่มีวัสดุรองด้านล่าง มีโอกาสทำให้เบาะรถยนต์เป็นรอย หรือฉีกขาดได้ การใช้แผ่นรองติดตั้งคาร์ซีทจะช่วยลดการกดทับได้ดี และยังช่วยให้ติดตั้งคาร์ซีทได้แน่นยิ่งขึ้น ซึ่งคุ้มค่าในการลงทุนมาก ๆ ประหยัดกว่าการเปลี่ยนหรือซ่อมเบาะรถยนต์มาก ๆ เลยค่ะ

รถเข็นเด็ก

สำหรับทารกแรกเกิดที่บอบบาง และอวัยวะต่าง ๆ กระดูกยังเจริญเติบโตได้ไม่เต็มที่ การได้รับการกระทบกระเทือนขณะเดินทางอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกาย ไปจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ การให้ลูกนั่งรถเข็นเด็ก ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับสรีระ ปกป้องประคองบริเวณศีรษะ ลำคอ กระดูกสันหลัง สะโพกต่าง ๆ และมีฟังก์ชั่นป้องกันการสั่นสะเทือน การระบายอากาศลดอุณหภูมิร่างกายของลูก และปรับนอนราบได้มาก ใกล้เคียงกับท่านอนตามธรรมชาติของลูก จะช่วยให้ลูกน้อยเดินทางได้อย่างปลอดภัยและพักผ่อนระหว่างอยู่นอกบ้านได้ และยังเป็นอีกอุปกรณ์หนึ่งที่จะช่วยทุ่นแรงคุณพ่อคุณแม่ในการอุ้ม แถมยังใช้แขวนของ หรือเก็บสัมภาระของใช้ลูกได้อีกด้วย

พลาสติกคลุมกันฝนกันละอองน้ำ

รถเข็นเด็กราคาสูง มักไม่มีอุปกรณ์เสริม เช่น พลาสติกคลุมกันฝนมาให้ หากคุณแม่อยู่ในสถานการณ์ที่ต้องพาลุกน้อยไปเดินเล่นนอกบ้าน หรือการไปในที่พลุกพล่าน ต้องการปกป้องลูกน้อยจากละอองน้ำต่าง ๆ สามารถเลือกใช้พลาสติกคลุมกันฝน ที่มีรูระบายอากาศเยอะ ๆ พกติดรถเข็นไว้อุ่นใจค่ะ

เป้อุ้ม

ในหลาย ๆ สถานที่ รถเข็นเด็ก อาจใหญ่เกินไปที่จะเข้าถึง หรือการเดินเล่นกับลูกน้อยในระยะใกล้ ๆ การใช้เป้อุ้มเด็ก ก็ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่อุ้มลูกน้อยได้สะดวก โดยเป้อุ้มที่ดีจะต้องช่วยลดอาการปวดบริเวณหลัง ไหล่ และไม่กดทับหน้าท้องของผู้อุ้ม และต้องออกแบบมาให้ถุกตามสรีระท่านั่งแบบ M-Shaped ของลูกน้อยด้วย

หมวดของใช้คุณแม่

เสื้อชั้นในให้นม

เสื้อชั้นในให้นม หรือ ชุดชั้นในให้นมบุตร เป็นตัวช่วยจำเป็นมาก ๆ สำหรับคุณแม่ยุคใหม่ ในการให้นมลูกน้อยได้สะดวกเพียงปลดตะขอ มีฟังก์ชั่นการเสียบกรวยเต้านมขณะปั๊มให้แนบเต้าโดยไม่ต้องคอยถือด้วยมือ และยังมีดีไซน์ที่สวยงาม เก็บทรงให้เต้านมไม่หย่อนคล้อย

แผ่นซับน้ำนม

ในขณะที่คุณแม่มีน้ำนมเยอะ ๆ นั้น บางเวลา อาจมีน้ำนมซึมออกมาได้ตามธรรมชาติค่ะ จึงมีผลิตภัณฑ์สำหรับการซับน้ำนมไว้ ไม่ให้เสื้อผ้าเลอะขณะเราต้องออกไปทำธุระนอกบ้าน โดยให้เลือกจากรุ่นที่สามารถซึมซับได้ดี ไม่ไหลย้อนกลับ ระบายอากาศได้ดี ลดความอับชื้นค่ะ

เครื่องฟังเสียงหัวใจทารกในครรภ์

คุณแม่ที่ตั้งครรภ์ตั้งแต่ 14-16 สัปดาห์ขึ้นไป อยากฟังเสียงหัวใจลูกน้อยในครรภ์ อยากนับว่าหัวใจลูกเต้นกี่ครั้ง ไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาลอย่างเดียวแล้วค่ะ เพราะทุกวันนี้สามารถซื้อมาใช้เองได้ทุกวัน  แนะนำให้คุณแม่เลือกแบบพกพาได้สะดวก มีจอ LCD แสดงอัตราการเต้นของหัวใจ มีโหมดบันทึกเสียงพร้อมเปิดฟังได้ในตัวเครื่อง จะสะดวกมาก ๆ เลยค่ะ

เข็มขัดพยุงครรภ์

เมื่ออายุครรภ์เริ่มมากขึ้น ท้องเริ่มโต คุณแม่สามารถเริ่มใช้เข็มขัดพยุงครรภ์ได้ตั้งแต่ 4  สัปดาห์ขึ้นไป เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวดหลังหน่วงท้องเมื่อท้องของคุณแม่ตั้งครรภ์มีขนาดใหญ่ขึ้น ช่วยรองรับ พยุงท้อง ลดแรงกดบริเวณหน้าท้องและสะโพก
ปรับสมดุลย์อิริยาบทต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันระหว่างตั้งครรภ์ ทำให้แม่ตั้งครรภ์เคลื่อนไหวได้สะดวก

ผ้าอนามัยหลังคลอด

หลังคลอดใหม่ ๆ ช่วงแรก คุณแม่จะต้องใส่ผ้าอนามัยหลังคลอด เพื่อซับน้ำคาวปลา ซึ่งเป็นเลือดที่ไหลออกมาตามธรรมชาติหลังคลอดลูก ซึ่งเป็นระยะเวลาตั้งแต่ 2 – 6 สัปดาห์ โดยควรเลือกผ้าอนามัยที่ออกแบบมาสำหรับคุณแม่หลังคลอด มีทั้งแบบติดด้วยกระดุม และแบบสายรัด ควรเลือกที่ซึมซับได้ดี ไม่อับชื้น เพื่อป้องกันการอักเสบติดเชื้อของแผลหลังคลอดด้วยค่ะ

กางเกงชั้นในรักษาแผลผ่าคลอด

คุณแม่ที่ผ่าคลอดจะมีอาการเจ็บระบมริเวณแผลผ่าคลอด และยังขยับตัวลำบาก การเลือกใช้กางเกงชั้นในที่ออกแบบพิเศษเพื่อลดการเสียดสีบริเวณแผลผ่าคลอด และช่วยให้แผลสมานตัวได้เร็วขึ้น และยังช่วยกระชับบริเวณหน้าท้องให้กลับคืนสัดส่วนได้เร็วยิ่งขึ้นได้อีกด้วย

ผ้ารัดหน้าท้องหลังคลอด & เข็มขัดรัดสะโพกหลังคลอด

ช่วยกระชับรูปร่างหลังคลอดให้กลับมาหุ่นดีเหมือนก่อนคลอดได้อีกครั้ง ด้วยผ้ารัดหน้าท้อง และเข็มขัดรัดสะโพก ที่ออกแบบมาให้มีความกระชับ แต่ระบายอากาศได้ดี ช่วยลดการขยับของผิวหนังบริเวณที่ผ่าคลอด

ครีมทาหน้าท้องลาย & ครีมทาหัวนมแตก

90% ในกลุ่มผู้หญิงตั้งครรภ์ จะเกิดรอยแตกลายทั้งบริเวณหน้าท้อง หน้าอก สะโพก และต้นขา รอยผิวแตกลาย  ถ้าไม่ได้รับการบำรุงด้วยสารที่มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นและฟื้นฟูความยืดหยุ่นในชั้นผิว อาจเปลี่ยนเป็นรอยแตกลายสีขาวขุ่นที่ยากต่อการรักษาได้ ซึ่งอาจต้องบำบัดด้วยการใช้ยาหรือเลเซอร์ผิวหนังเฉพาะทางเท่านั้น ฉะนั้นคุณแม่ ๆ ควรเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์ตั้งแต่ตั้งครรภ์เดือนที่ 4 จนกระทั่งหลังคลอดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดการเกิดปัญหารอยแตกลาย

รวมไปถึงบริเวณหัวนม ที่มีการเปลี่ยนรูปทรง และอาจเกิดรอยแตก หรือแห้งกร้านจากการดูดนมของลูก การใช้ครีมหรือบาล์มทาหัวนม จะช่วยถนอมหัวนม ลดอาการเจ็บหัวนมได้

ของใช้ทารกยังมีอีกมากมายที่คุณแม่สามารถเลือกซื้อได้เองตามความจำเป็น ได้แก่ เสื้อผ้า ชุดหมี หมวก อุปกรณ์ฆ่าเชื้อต่าง ๆ รวมไปถึงของเล่นเสริมพัฒนาการสำหรับทารกแรกเกิด เช่น คอกกั้น แผ่นรองคลาน เพลยิม เพลเพน

BabyGift คัดสรรผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ใส่ใจในความปลอดภัย มาตรฐานการผลิตจากหลากหลายประเทศ มาให้คุณพ่อคุณแม่เลือกซื้อได้อย่างครบวงจร พร้อมให้คำแนะนำในการเลือกซื้อสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อลูก สามารถแวะมาเลือก ของใช้ทารกได้ที่ร้าน BabyGift 4 สาขา ใกล้บ้านคุณ หรือสอบถามผ่านช่องทาง Online ทีมงาน BabyGift ยินดีให้คำแนะนำค่ะ

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00

บทความแนะนำ

ลูกไม่ยอมกินข้าว เป็นปัญหาที่พบเป็นประจำของหลาย ๆ บ้านเลยนะคะ สำหรับเรื่องการกินข้าวยากของลูกน้อย โดยเฉพาะคุณหนูวัย 1 ปีขึ้นไป ที่เริ่มเดินได้คล่อง เริ่มวิ่งได้บ้าง พอถึงเวลากินข้าวเมื่อไหร่ ก็ทำให้คุณพ่อคุณแม่หนักใจไม่น้อยเลย ทั้งกินข้าวน้อย อมข้าว ห่วงเล่นจนใช้เวลานานเกินไปสำหรับอาหาร 1 มื้อ แต่ปัญหาการกินของลูกรับมือได้ไม่ยากเลยค่ะ เพียงแต่ต้องให้เวลา ให้ความเข้าใจ และต้องใจแข็งนิดหน่อย คุณพ่อคุณแม่ก็จะช่วยให้ลูกมีวินัยในการกินมากขึ้นได้ มาลองฝึกลูกน้อยไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ ฝึกให้ลูกทานข้าวเป็นเวลา ให้คุณแม่ทำข้อตกลงกับลูกว่า เข็มนาฬิกาชี้เลขนี้ เวลานี้ คือเวลาทานอาหาร ลูกควรจะหยุดเล่น แล้วมาทานข้าวด้วยกัน หลังทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้วลูกค่อยกลับไปเล่นต่อ หรือ จะบอกลูกว่าเวลานี้ต้องทานอาหาร ลูกคือคนสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่อยากทานข้าวด้วย เราต้องทานพร้อมกัน เพื่อฝึกให้ลูกรู้จักเวลาของมื้ออาหาร และรู้ว่าทุก ๆ คนในบ้านก็ทำเหมือนกัน สร้างบรรยากาศการทานอาหารให้ลูก การทานอาหารร่วมกันก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สร้างวินัยการทานอาหารให้ลูกได้ พ่อ แม่ ลูก ร่วมโต๊ะทานอาหารด้วยกัน ไม่ปล่อยให้ลูกทานคนเดียว หรือ แยกโต๊ะลูกออกไป ก็จะช่วยสร้างบรรยากาศการทานอาหารให้ลูก ให้ลูกรู้สึกว่าเขาเป็นคนสำคัญในบ้าน เป็นเหมือนผู้ใหญที่ได้นั่งโต๊ะกินข้าวด้วยกัน ฝึกให้ลูกนั่งเก้าอี้ทานข้าวสำหรับเด็ก คุณพ่อคุณแม่ห้ามตามป้อนข้าว […]

มือบวม-เท้าบวมเกิดจากอะไร? สำหรับคุณแม่หลายๆ ท่าน ไหนจะต้องรับมือกับท้องอันหนักอึ้งแล้ว ยังต่อเผชิญกับปัญหามือบวม-เท้าบวมอีกด้วย อาการบวมเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพราะว่าคุณแม่อ้วนขึ้นหรือน้ำหนักขึ้นหรอกนะคะ แต่เป็นเพราะระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนโพรเจสเตอโรนในร่างกายที่ไม่ยอมหยุดนิ่ง เอาแต่ขึ้นๆ ลงๆ อยู่ตลอดต่างหาก จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้การทำงานของหลอดเลือดและหลอดน้ำเหลืองผิดปกติ นอกจากนี้ยังมีน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมากดทับที่เส้นเลือดดำ เลือดก็เลยไหลเวียนลำบาก ทำให้มีการกักของเหลวไว้ในร่างกายเพิ่มขึ้น นำไปสู่อาการมือบวม-เท้าบวมนั่นเองค่ะ อาการที่มักจะมาด้วยกัน อาการมือบวม-เท้าบวมส่วนใหญ่แล้วจะไม่ได้มาเดี่ยวๆ นะ เพราะอาการนี้มักจะมาร่วมกับอาการชา ใช่แล้วค่ะ! สาเหตุก็เพราะเส้นเลือดของคุณแม่ถูกกดทับอยู่นั่นแหละ คุณแม่บางคนอาจจะรู้สึกปวดเมื่อย และยิ่งจะมีอาการแย่ลงถ้าคุณแม่โหมงาน หรือยืนนานเกินไป คำเตือนก่อนจะเจอกับอาการมือบวม-เท้าบวม คุณแม่ที่สวมเครื่องประดับโดยเฉพาะแหวน ขอแนะนำให้ถอดเก็บไว้ก่อนนะคะ เพราะถ้าคุณแม่มีอาการมือบวมแล้วอาจจะถอดแหวนลำบาก หรืออาจถึงขั้นถอดไม่ได้เลย และที่สำคัญ ตอนคุณแม่จะคลอดน้องแล้วเนี่ย ต้องถอดเครื่องประดับทุกชิ้นเลยค่ะ เพราะงั้น ถ้าคุณแม่ไม่ถอดเตรียมไว้ก่อน อาจจะต้องใช้เครื่องตัดออกแทน เสียดายแย่เลย อย่าเพิ่งท้อใจ ยังมีวิธีรับมือ จริงอยู่ว่าไม่ใช่คุณแม่ทุกคนจะเจอกับอาการนี้ แต่คุณแม่ที่ต้องเจอกับการมือบวม-เท้าบวม ก็อย่าเพิ่งน้อยใจไปค่ะ วิธีรับมือกับอาการนี้ก็ไม่ได้มีอะไรมาก ส่วนใหญ่ก็น่าจะเป็นเรื่องที่เดาๆ กันได้อยู่แล้ว ลองไปดูพร้อมๆ กันเลยดีกว่า 1. ไม่ยืน หรือฝืนยืนเป็นเวลานานๆ การยืนเป็นระยะเวลานานๆ จะทำให้อาการบวมนั้นแย่ยิ่งขึ้นนะคะ เพราะการยืนนานๆ จะทำให้คุณแม่ทิ้งน้ำหนักลงที่ขาข้างใดข้างหนึ่งโดยไม่รู้ตัว ทำให้เลือดไหลเวียนได้ไม่เต็มที่ 2. […]

ห้องนอนเด็กอ่อน เป็นเรื่องสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ หากกำลังวางแผนที่จะมีลูกน้อย หรือบางครอบครัวคุณแม่อาจกำลังตั้งครรภ์ และเตรียมพร้อมที่จะจัดบ้าน จัดห้องนอนเพื่อต้อนรับลูกน้อย เพราะห้องนอนที่ดีของลูกน้อยวัยทารกจะส่งผลต่อทั้งสุขภาพ พัฒนาการและอารมณ์จิตใจในอนาคต ด้วยเพราะลูกน้อยทารกต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนอน และการนอนเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ทำให้โกร๊ธฮอร์โมน หรือฮอร์โมนเพื่อการเจริญเติบโตหลั่งเต็มที่ ทำให้ลูกเติบโตอย่างมีพัฒนาการที่ดีและสุขภาพแข็งแรง ซึ่งหากลูกน้อยนอนหลับไม่เต็มที่ หรือมีสิ่งต่างๆ รบกวนเวลานอน ทำให้นอนไม่เพียงพอ ลูกจะงอแง หงุดหงิดง่าย เติบโตได้ไม่ดี แถมยังส่งผลต่ออารมณ์จิตใจ ทำให้เป็นเด็กเลี้ยงยากและอารมณ์ไม่ดี  ยิ่งหากห้องนอนไม่มีการเตรียมพร้อมป้องกันอุบัติเหตุไว้อย่างดี  ลูกก็อาจจะมีอันตรายในขณะนอนจนถึงชีวิตได้อีกด้วย ฉะนั้นการเตรียมพร้อมเรื่องนอนให้ลูกทารก จึงเป็นเรื่องที่ทุกบ้านต้องพิถีพิถันใส่ใจ ควรเลือกซื้อ จัดวางและเตรียมพร้อมให้ลูกในแบบที่ถูกต้อง เหมาะสม ปลอดภัย จะดีที่สุด 5 เรื่องต้องคิด ก่อนเตรียม ห้องนอนเด็กอ่อน ก่อนเลือกซื้อและจัดเตรียมอุปกรณ์ของใช้ในห้องเด็กอ่อนให้ลูกน้อย มีเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ควรพิจารณาเป็นสำคัญนั่นคือ การเลือกห้องนอนให้ลูก ซึ่งจะต้องให้ความสำคัญกับ 5 เรื่อง นั่นคือ Checklist ห้องนอนเด็กอ่อน ต้องมีอะไรบ้าง เตียงนอน   ควรเป็นเตียงนอนที่ออกแบบมาสำหรับเด็กเล็กโดยเฉพาะ ซึ่งเตียงนอนเด็กอ่อน ควรเป็นเตียงที่มีความมั่นคงแข็งแรง และเป็นเตียงใหญ่พอที่จะใช้สำหรับให้ลูกเวลาโตได้อีกระยะหนึ่ง เตียงไม่มีมุมหรือเหลี่ยมแหลมคมที่เป็นอันตราย  หากเป็นเตียงที่มีซี่กรง ควรมีความถี่ของซี่กรงรอบเตียงหรือราวกันตกห่างกันไม่เกิน 6 […]

พัฒนาการของเด็ก แบ่งได้หลายแบบ โดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 4 ด้านใหญ่ๆ คือ เด็กปกติทั่วไปจะมีลำดับขั้นของพัฒนาการใกล้เคียงกัน ถ้าเด็กมีพัฒนาการล่าช้าเกิน 6 เดือนขึ้นไป ถือว่ามีความผิดปกติบางอย่างที่ต้องรีบช่วยเหลือ และกระตุ้นพัฒนาการอย่างเร็วที่สุด พัฒนาการปกติในแต่ละช่วงวัยเป็นดังนี้ พัฒนาการด้านกล้ามเนื้อมัดใหญ่ (Gross Motor Development) ช่วงวัย พัฒนาการ แรกเกิด  งอแขนขา, เคลื่อนไหวเท่ากัน 2 ด้าน  1 เดือน  หันหน้าซ้ายขวา  2 เดือน  ชันคอ  4 เดือน  ยกแขนดันตัวชูขึ้นในท่าคว่ำ  6 เดือน  คว่ำหงายได้เอง  9 เดือน  นั่งได้มั่นคง, คลาน, เกาะยืน  12 เดือน  เกาะเดิน  15 เดือน  เดินเองได้  18 เดือน  วิ่ง, ยืนก้มเก็บของ  2 ปี  เตะลูกบอล, กระโดด 2 เท้า  3 ปี  ขึ้นบันไดสลับเท้า, ถีบรถ 3 ล้อ  4 ปี  ลงบันไดสลับเท้า, กระโดดขาเดียว  5 […]

โดยส่วนใหญ่แล้ว หากต้องการพาทารก ขึ้นเครื่องบิน เพื่อความปลอดภัยคุณพ่อคุณแม่ควรพาไปเมื่อทารกอายุ 4-8 สัปดาห์ขึ้นไปค่ะ เนื่องจากว่าทารกมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อจากการเดินทางได้ง่ายกว่าผู้ใหญ่ เพราะระบบภูมิคุ้มกันของทารกยังไม่แข็งแรงมากพอ อีกทั้งสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยๆ บนเครื่องบินยังทำให้ทารกเกิดความเครียดได้ง่าย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ในหลายๆ สายการบินมีการอนุญาติให้ขึ้นได้ตั้งแต่อายุ 7 วัน และในบทความนี้ BabyGift จะพาคุณพ่อคุณแม่ไปทำความเข้าใจเรื่องราวของการพาเด็ก ขึ้นเครื่องบินอย่างปลอดภัย พร้อมคำแนะนำต่างๆ ก่อนการพาลูกขึ้นเครื่องบินีกันค่ะ  ชวนเตรียมพร้อมก่อนพา เด็ก ขึ้นเครื่องบิน ต้องเตรียมอะไร ? ต้องรู้อะไรบ้าง ?  ในแต่ละสายการบินมักจะมีข้อกำหนดที่แตกต่างกันในการพาทารก ขึ้นเครื่องบินค่ะ บางที่ก็อนุญาติให้โดยสารได้ตั้งแต่ 7 วัน แต่บางที่ก็ต้องอายุ 14 วันก่อนถึงจะอนุญาติให้เดินทางได้ ซึ่งเอกสารที่ใช้สำหรับการเดินทางหลักๆ ก็จะเป็นใบสูติบัตร กับพาสปอร์ตนั่นเองค่ะ ซึ่งหากมีเด็กโดยสารไปด้วย ผู้ปกครองจำเป็นต้องติดต่อสายการบิน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้เตรียมความพร้อมในการดูแลในวันเดินทางได้นั่นเอง ซึ่ง BabyGift ได้เช็กข้อมูลกับสายการบินที่อนุญาติให้ทารกเดินทางมาให้ประมาณ 3 สายการบิน พร้อมคำแนะนำต่างๆ เพื่อเป็นข้อมูล เป็นไอเดียให้คุณพ่อคุณแม่ที่ต้องการพาเจ้าตัวจิ๋วขึ้นเครื่องบิน ดังนี้ค่ะ พาเด็ก ขึ้นเครื่องบิน การบินไทย  การบินไทยอนุญาติให้ทารก […]

คลอดก่อนกำหนด เกิดขึ้นได้ ถ้าไม่ทำตาม 5 ข้อนี้ ปกติแล้วคุณแม่จะอุ้มท้องลูกน้อยทั้งหมด 40 สัปดาห์ อันที่จริงส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยมีใครถึงหรอกนะคะ เพราะว่าคุณหมอจะอนุญาตให้คลอดได้ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 37 เป็นต้นไปแล้วล่ะ เพราะฉะนั้นช่วงก่อนสัปดาห์ที่ 37 นี้ คุณแม่ก็ต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษ คอยระแวดระวังสัญญาณเตือน ถ้าพบก็รีบไปหาคุณหมอ อย่าชะล่าใจเลยนะคะ ส่วนในระหว่างนี้มาดูกันว่ามีอะไรที่คุณแม่จะสามารถเลี่ยงได้บ้างเพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด 1. เซย์โนกับบุหรี่และแอลกอฮอล์กันดีกว่า แน่นอนว่าบุหรี่และแอลกอฮอล์ไม่ใช่สิ่งที่ดีสำหรับแม่ท้อง ก็ขนาดกับคนธรรมดายังไม่ดีเลยใช่มั้ยล่ะ เหตุผลนึงก็เพราะ ทั้งบุหรี่และแอลกอฮอล์มีสารที่จะไปยับยั้งหรือชะลอการเติบโตของลูกน้อยค่ะ นอกจากนี้คุณแม่ก็อย่าได้ไปอยู่ใกล้คนที่สูบบุหรี่เลยเชียว เพราะสารนิโคตินในบุหรี่สามารถซึมผ่านผิวหนังได้แม้คุณแม่จะไม่ใช่คนที่สูบก็ตาม อ่านมาถึงตรงนี้คุณแม่อาจจะเริ่มกังวล เมื่อตอนเย็นเดินผ่านคนสูบบุหรี่ ลูกจะเป็นอะไรมั้ยนะ? คุณแม่ทำจิตใจให้สบายค่ะ เราแอบไปถามคุณหมอมาให้แล้ว คุณหมอบอกว่าถ้าเจอก็ให้เดินหนี เจอผ่านๆ ก็ไม่เป็นไร แต่อย่าไปนั่งใกล้ๆ แถวนั้นเด็ดขาดเลยนะคะ 2. ขอแค่แม่อย่าเครียด เพราะความเครียดจะทำให้มดลูกขอคุณแม่บีบตัวค่ะ ซึ่งเอาจริงๆแล้ว ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 24 เป็นต้นไป คุณแม่ก็จะรู้สึกถึงอาการที่มดลูกบีบตัวนี้ หรือที่เราเรียกกันง่ายๆว่า อาการท้องแข็ง แต่ว่าอาการท้องแข็งเนี่ย ไม่ควรจะเกิดถี่ๆ ติดกัน ถ้าพูดเป็นตัวเลขก็คือ ไม่ควรถึง 6 ครั้งภายในหนึ่งชั่วโมง […]

Menu
All Categories
All Brands
All Ages
Promotions
Locations
BabyGift Family
BabyGift Care
Parents Guide
News & Event

All Categories

All Categories
All Brands
All Ages