วิธีเลือกผ้าอ้อมเด็ก ให้ลูกน้อยสบายตัว คุณแม่มั่นใจทุกครั้งที่ใช้งาน

ผ้าอ้อมเด็ก เป็นสิ่งที่อยู่คู่กายลูกน้อยแทบจะตลอด 24 ชั่วโมง การเลือกผ้าอ้อมเด็กที่ดีจึงไม่ใช่แค่เรื่องของการซึมซับเท่านั้น แต่ยังหมายถึงความสบายตัวของลูกน้อย สุขภาพผิว และความมั่นใจของคุณพ่อคุณแม่ในการดูแลลูกรัก วันนี้ BabyGift จะมาเผยเคล็ดลับวิธีเลือกผ้าอ้อมเด็กอย่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ลูกน้อยรู้สึกสบายตัวที่สุดในทุกการเคลื่อนไหว
ทำไมการเลือกผ้าอ้อมเด็กจึงสำคัญ
การเลือกผ้าอ้อมเด็กมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขอนามัยของลูกน้อย เพราะผิวทารกนั้นบอบบางและแพ้ง่าย การสัมผัสกับความเปียกชื้นหรือสิ่งสกปรกเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดผื่นผ้าอ้อม การระคายเคือง และความไม่สบายตัว ซึ่งจะส่งผลให้ลูกน้อยงอแง การเลือกผ้าอ้อมเด็กที่มีคุณภาพดีจึงช่วยให้ผิวลูกแห้งสบาย ปราศจากเชื้อโรค และช่วยส่งเสริมให้ลูกมีอารมณ์ดี พร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้อย่างเต็มที่
ความแตกต่างระหว่างผ้าอ้อมคุณภาพดีและผ้าอ้อมทั่วไป
ผ้าอ้อมเด็กคุณภาพดีจะถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน โดยเน้นที่วัสดุที่นุ่มพิเศษ มีการระบายอากาศที่ยอดเยี่ยม และมีนวัตกรรมการซึมซับที่รวดเร็วและกระจายตัวได้ดี ทำให้ผิวลูกแห้งสนิท ลดโอกาสเกิดผื่นผ้าอ้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ผ้าอ้อมทั่วไปอาจมีราคาที่ย่อมเยากว่า แต่มักใช้ใยสังเคราะห์ที่ระบายอากาศได้น้อยกว่า อาจก่อให้เกิดความอับชื้น และอาจมีการรั่วซึมได้ง่ายกว่า ซึ่งส่งผลให้ต้องเปลี่ยนบ่อยครั้งและอาจทำให้ผิวลูกระคายเคืองได้ง่าย
ประเภทของผ้าอ้อมเด็กที่คุณแม่ควรรู้
เมื่อพูดถึงผ้าอ้อมเด็กที่ใช้กันทั่วไปในปัจจุบัน จะสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักตามรูปแบบการสวมใส่ ซึ่งมีข้อดีและการใช้งานที่แตกต่างกันไปตามช่วงวัยและกิจกรรมของลูกน้อย

ผ้าอ้อมแบบกางเกง (Pant Type)

ผ้าอ้อมเด็กแบบกางเกงเป็นตัวเลือกที่สะดวกอย่างยิ่งสำหรับคุณพ่อคุณแม่ เพราะสามารถสวมใส่ได้ง่ายและรวดเร็วเหมือนการใส่กางเกงทั่วไป จึงเหมาะสำหรับลูกน้อยที่เริ่มดิ้น เริ่มคลาน หรืออยู่ในวัยหัดเดินที่ไม่ชอบอยู่นิ่ง ๆ ผ้าอ้อมเด็กแบบกางเกงจะมีความยืดหยุ่นสูง กระชับรอบเอวและขอบขา ทำให้ลูกเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องตัว และช่วยลดปัญหาการรั่วซึมได้ดีกว่าในขณะที่ลูกมีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา
ผ้าอ้อมแบบเทป (Tape Type)

ผ้าอ้อมเด็กแบบเทปเป็นผ้าอ้อมแบบดั้งเดิมที่เหมาะสำหรับทารกแรกเกิดที่ยังนอนนิ่ง ๆ เป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากสามารถปรับความกระชับบริเวณรอบเอวได้ง่ายและละเอียดกว่า โดยเฉพาะการปรับไม่ให้ผ้าอ้อมไปรบกวนบริเวณสะดือที่ยังไม่แห้งของทารกแรกเกิด นอกจากนี้ ผ้าอ้อมเด็ก แบบเทปยังมีข้อดีคือ สามารถเปิดเพื่อตรวจสอบของเสียได้ง่ายและไม่ต้องถอดออกทั้งหมด ซึ่งช่วยให้การทำความสะอาดและการดูแลผิวลูกเป็นไปอย่างสะดวกในวัยนี้
ปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาก่อนเลือกผ้าอ้อมเด็ก
การเลือกผ้าอ้อมเด็กไม่ควรตัดสินใจจากราคาเพียงอย่างเดียว แต่ควรพิจารณาจากปัจจัยด้านคุณภาพและความเหมาะสมต่อลูกน้อยเป็นหลัก เพื่อให้ลูกน้อยของคุณได้รับสิ่งที่ดีที่สุด
1. ความนุ่มและอ่อนโยนต่อผิวลูกน้อย
ผิวของทารกแรกเกิดมีความบอบบางและไวต่อการแพ้สูง ดังนั้นควรเลือกผ้าอ้อมเด็กที่มีผิวสัมผัสนุ่มนวลเป็นพิเศษ ไม่แข็งกระด้าง และทำจากวัสดุที่ปราศจากสารเคมี น้ำหอม หรือสารฟอกขาวที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง การเลือกผ้าอ้อมที่ผ่านการทดสอบว่าไม่ก่อให้เกิดการแพ้ (Hypoallergenic) และมีส่วนผสมของสารบำรุงผิวตามธรรมชาติจะช่วยปกป้องผิวที่บอบบางของลูกน้อยได้ดีที่สุด
2. การซึมซับและระบายอากาศ
คุณสมบัติการซึมซับที่รวดเร็วและการระบายอากาศที่ดีเป็นหัวใจสำคัญของการเลือกผ้าอ้อมเด็กคุณภาพดี ผ้าอ้อมที่ดีต้องสามารถดูดซับความเปียกชื้นได้อย่างรวดเร็วและกักเก็บของเหลวไว้ด้านใน ไม่ให้ไหลย้อนกลับมาสัมผัสผิวลูก และมีรูพรุนที่ช่วยระบายความอับชื้นออกไปได้ดี เพื่อให้ผิวลูกแห้งสนิทอยู่เสมอ ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันการเกิดผื่นผ้าอ้อม
3. ขนาดและความกระชับที่พอดีกับรูปร่าง
ผ้าอ้อมเด็กที่ดีต้องมีขนาดที่พอดีกับรูปร่างและน้ำหนักของลูกน้อย โดยไม่รัดแน่นจนเกินไปจนทำให้เกิดรอยแดงหรือรอยกดทับรอบขอบขาและรอบเอว และไม่หลวมจนเกินไปจนทำให้เกิดปัญหาการรั่วซึม การเลือกขนาดตามน้ำหนักตัวของลูกเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี แต่คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตสรีระของลูกแต่ละคนประกอบด้วย เพราะหากเลือกขนาดไม่กระชับพอดี จะส่งผลให้ผ้าอ้อมซึมซับได้ไม่ดีเท่าที่ควร
4. ความสะดวกในการใช้งานของคุณแม่และคุณพ่อ
การใช้งานที่ง่ายและรวดเร็วก็เป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกผ้าอ้อมเด็ก โดยเฉพาะสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ การเลือกผ้าอ้อมแบบกางเกงสำหรับลูกที่ดิ้นเก่ง หรือการเลือกผ้าอ้อมแบบเทปที่มีแถบกาวที่ติดและแกะได้หลายครั้ง จะช่วยลดความยุ่งยากในการเปลี่ยนผ้าอ้อมได้อย่างมาก นอกจากนี้ ผ้าอ้อมที่มีแถบแสดงความเปียกชื้น (Wetness Indicator) ก็เป็นตัวช่วยที่ดีที่ทำให้ทราบเวลาที่ควรเปลี่ยนผ้าอ้อมโดยไม่ต้องเปิดดู
5. ความคุ้มค่าด้านราคาและคุณภาพ
แม้ว่าผ้าอ้อมเด็กคุณภาพดีมักจะมีราคาสูงกว่า แต่หากพิจารณาถึงความถี่ในการเปลี่ยนผ้าอ้อมและปัญหาสุขภาพผิวที่ลดลง อาจทำให้เกิดความคุ้มค่าในระยะยาวมากกว่า คุณพ่อคุณแม่ควรพิจารณาถึงประสิทธิภาพในการซึมซับและการป้องกันผื่นผ้าอ้อมประกอบกับราคาต่อชิ้น เพื่อเปรียบเทียบความคุ้มค่า และลองซื้อผ้าอ้อมขนาดทดลองมาใช้ก่อนตัดสินใจซื้อในปริมาณมากจะช่วยให้มั่นใจได้มากขึ้น
วิธีเลือกผ้าอ้อมเด็กตามช่วงวัยและพฤติกรรมลูกน้อย

พฤติกรรมและการเคลื่อนไหวของลูกน้อยจะเปลี่ยนไปตามช่วงวัย การเลือกผ้าอ้อมเด็กให้เหมาะสมกับพัฒนาการจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม
เด็กแรกเกิด – เน้นความนุ่มและความอ่อนโยนสูงสุด
สำหรับเด็กแรกเกิดที่ผิวบอบบางมาก ควรเลือกผ้าอ้อมเด็กแบบเทป (Tape Type) ที่มีผิวสัมผัสที่นุ่มนวลที่สุด และมีขนาด New Born (NB) ที่มีขอบเว้าบริเวณสะดือเพื่อป้องกันการเสียดสี และเน้นการซึมซับของของเหลวในปริมาณที่ไม่มากนัก แต่ต้องสามารถระบายอากาศได้ดี เพื่อลดความอับชื้น และช่วยให้สะดือแห้งและหายดีได้เร็วขึ้น
เด็กเริ่มคลาน – เน้นความกระชับและคล่องตัว
เมื่อลูกน้อยเข้าสู่วัย 6 เดือนขึ้นไปและเริ่มดิ้นหรือเริ่มคลาน คุณพ่อคุณแม่ควรเปลี่ยนมาใช้ผ้าอ้อมเด็กแบบกางเกง (Pant Type) ที่มีความยืดหยุ่นสูงบริเวณรอบเอวและขอบขา เพื่อให้ผ้าอ้อมกระชับพอดีกับรูปร่างเมื่อมีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้ลูกน้อยเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระและคล่องตัว โดยไม่เกิดปัญหารั่วซึมมากวนใจ
เด็กวัยหัดเดิน – เน้นการซึมซับและความแข็งแรง
สำหรับเด็กวัยหัดเดินที่ดื่มน้ำและทานอาหารได้มากขึ้น ปริมาณปัสสาวะและอุจจาระจะมากขึ้นตามไปด้วย ควรเลือกผ้าอ้อมเด็กแบบกางเกงที่มีคุณสมบัติการซึมซับที่รวดเร็วและปริมาณการกักเก็บสูงเป็นพิเศษ เพื่อรองรับการใช้งานได้นานขึ้น และมีขอบขาที่แข็งแรงทนทานต่อการเคลื่อนไหวและการวิ่งเล่นตลอดวัน
สรุปบทความ
การเลือกผ้าอ้อมเด็กที่ดี คือการลงทุนในความสบายตัวและสุขภาพผิวของลูกน้อย ซึ่งส่งผลต่อความสุขของทั้งครอบครัว การใส่ใจในคุณสมบัติต่าง ๆ ทั้งความนุ่ม การซึมซับ การระบายอากาศ และการเลือกให้เหมาะสมกับช่วงวัยของลูก จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่มั่นใจในทุกการใช้งาน และนอกจากการเลือกผ้าอ้อมเด็กแล้ว การมี สินค้าแม่และเด็ก ที่มีคุณภาพอย่าง เครื่องปั๊มนม ที่ดี ก็ช่วยให้ชีวิตการเป็นพ่อแม่มือใหม่ง่ายขึ้น BabyGift พร้อมเป็นผู้ช่วยส่วนตัวที่รู้จริงเรื่องแม่และเด็ก เข้าใจลึก พูดง่าย และคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อช่วยให้การเลี้ยงลูกของคุณเป็นช่วงเวลาที่ดีและมีความสุขที่สุด
คำถามที่พบบ่อย
ผ้าอ้อมผ้ากับผ้าอ้อมสำเร็จรูป แบบไหนดีกว่ากัน ควรเลือกใช้อะไร?
ผ้าอ้อมสำเร็จรูป สะดวก ซึมซับดี เหมาะสำหรับกลางคืนและเดินทาง ส่วนผ้าอ้อมผ้าประหยัดกว่า ระบายอากาศได้ดี แต่ต้องใช้เวลาซักทำความสะอาดบ่อยครั้งและอาจต้องเปลี่ยนบ่อยกว่า
ควรเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูกบ่อยแค่ไหน เพื่อป้องกันผื่นผ้าอ้อม?
ควรเปลี่ยนผ้าอ้อมทุก 2-3 ชั่วโมง หรือทันทีที่ลูกขับถ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการถ่ายอุจจาระ เพื่อลดความชื้นและโอกาสที่ผิวลูกจะสัมผัสกับสิ่งสกปรก ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของผื่นผ้าอ้อม
จะรู้ได้อย่างไรว่าถึงเวลาเปลี่ยนขนาดผ้าอ้อมให้ลูกแล้ว?
สังเกตเมื่อผ้าอ้อมเริ่มรัดแน่นบริเวณขอบขาหรือขอบเอว ทำให้เกิดรอยแดง หรือมีปัสสาวะ/อุจจาระรั่วซึมออกมาบ่อยครั้ง หากพบอาการเหล่านี้ แสดงว่าผ้าอ้อมขนาดเดิมเริ่มเล็กเกินไปและควรเปลี่ยนไปใช้ไซซ์ที่ใหญ่ขึ้น
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
ไขข้อสงสัยที่สาวๆอยากรู้ “แม่เสริมหน้าอก ให้นมลูกได้ไหม?” วันนี้ Baby Gift มีคำตอบค่ะ ปัจจุบันการศัลยกรรมเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่มาแรงและเข้าถึงทุกเพศทุกวัยทั่วโลก โดยเฉพาะการอัพไซส์ แม่เสริมหน้าอก เรียกได้ว่าเป็นที่นิยมในหมู่สาวๆ เพราะผลลัพธ์ที่ได้นั้นสาวๆจะมีหน้าอกที่สวยงามและขนาดใหญ่ขึ้นตามความต้องการ รวมถึงมีร่องอกที่ชิดและชัดเจนกว่าเดิม ส่งผลให้สาวๆเกิดความมั่นใจในรูปร่างตัวเองมากยิ่งขึ้น เมื่อสาวๆนิยมหันมาเสริมหน้าอก กันมากขึ้นจนเริ่มมีการตั้งคำถามว่า คุณแม่เสริมหน้าอก ให้นมลูกได้ไหม? คำตอบคือ ได้ค่ะ คุณแม่ที่เสริมหน้าอกมาแล้ว สามารถให้นมลูกได้ตามปกติและไม่มีผลข้างเคียงใดๆ เพราะปัจจุบันการเสริมหน้าอกใช้เทคนิคใส่ถุงซิลิโคนเข้าไปใต้หรือเหนือกล้ามเนื้อเต้านม ซึ่งอยู่คนละส่วนกับที่ใช้ผลิตน้ำนม และไม่ได้มีการตัดท่อน้ำนมหรือตกแต่งบริเวณหัวนม ส่วนในกรณีที่คุณแม่เสริมหน้าอกลังเลเรื่อง คุณแม่เสริมหน้าอก สามารถปั๊มนมได้ไหม? คำตอบคือ ทำได้ค่ะ คุณแม่ที่เสริมหน้าอกมาแล้ว สามารถปั๊มนมได้ตามปกติ โดยเลือกใช้เครื่องปั๊มนมที่มีคุณภาพ รองรับการปั๊มนมสำหรับคนที่เสริมหน้าอก อย่างไรก็ตาม การเสริมหน้าอกควรคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก และเพื่อความสบายใจของคุณแแม่ควรปรึกษาคุณหมอในการวางแผนมีลูกเพื่อรับคำแนะนำเพิ่มเติมเป็นกรณีไป ได้คำตอบแบบนี้แล้วคุณแม่มั่นใจหายห่วง เตรียมพร้อมรับมือเตรียมตัวเป็นคุณแม่กันดีกว่าค่ะ
รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Optia สำหรับเด็กแรกเกิด – 3 ปี หรือน้ำหนัก 2.5 – 15 kg เพื่อความสุขแบบ Double ประสบการณ์ใหม่ในการเดินทางที่สบายกว่าช่วยให้การเดินทางสำหรับคุณแม่และลูกน้อยเป็นเรื่องง่าย สะดวก สบาย ด้วยนวัตกรรมที่เหนือกว่า Function 1 : ลดแรงสั่นสะเทือนแบบ Double ด้วยระบบรองรับแรงกระแทกถึง 2 จุดระบบรองรับแรงกระแทกใต้ที่นั่ง และระบบรองรับแรงกระแทกที่ล้อ ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนได้ถึง 40% Function 2 : ระบายอากาศแบบ Double ด้วยเบาะรองนอน Silky Air และผ้าระบายอากาศทุกชั้นเบาะรองนอน ถักทอด้วยเส้นใย Silky Air มีความอ่อนนุ่ม ระบายอากาศได้ดี ให้ความรู้สึกเบาสบายเมื่อสัมผัสกับผิวที่บอบบางของทารก Function 3 : ลดความอับชื้นแบบ Double ด้วยระบบ DoubleThermo Medical Sysem ช่วยระบายอากาศให้ความรู้สึกสบายตัวแผ่นฉนวนกันความร้อนพิเศษด้านหลัง ลดความร้อนสะสมบริเวณหลัง และลดอุณหภูมิของร่างกายลูกน้อยในขณะหลับได้ดี Function […]
สอนดูแลลูกตั้งแต่แรกเกิดแบบจับมือทำ โดยผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพที่มีประสบการณ์มากกว่า 20 ปี เพราะการเลี้ยงลูกไม่ใช่เรื่องง่าย..#BabyGift เข้าใจและมองเห็นถึงความสำคัญ จึงได้ร่วมกับ พี่กัลนมแม่ กลุ่มแม่และเด็ก คลินิกนมแม่ สรุปเทคนิคดูแลทารกแรกเกิด โดยผู้เชี่ยวชาญ #พี่กัลนมแม่ จากในงาน 𝐌𝐨𝐦𝐦𝐲’𝐬 𝐋𝐨𝐯𝐞 𝐌𝐚𝐠𝐢𝐜 จะมีอะไรบ้าง ? ตามมาดูกันเลยค่ะ 1. ดูแลการกินของทารก #นมแม่ดีที่สุด ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทาน ลดความเสี่ยงติดเชื้อต่างๆ ได้ ถ้าลูกไม่ยอมดูดเต้าให้แม่ใช้เครื่องปั๊มนม และขวดนมแรกเกิดป้อนนมแม่ให้กับลูกน้อยแทน 2. หมั่นสังเกตการเจริญเติบโตลูกน้อย ปกติแล้วประมาณ 2 สัปดาห์ น้ำหนักลูกน้อยจะเพิ่มขึ้น วันละ 30 กรัม หากน้ำหนักเพิ่มน้อยกว่านี้ ควรรับคำแนะนำจากแพทย์ค่ะ 3. สังเกตการขับถ่ายของลูก อุจจาระแต่ละสีบอกสุขภาพลูกได้ หากมีสีขาวหรือแดงเข้ม หรือหากมีปัสสาวะขุ่น มีตะกอน อาจมีการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะได้ ควรปรึกษาแพทย์ทันที 4. การนอนของทารก ท่านอนที่ดีที่สุดของทารก คือ การนอนหงาย เด็กแรกเกิดควรนอน 16-18 ชั่วโมง/วัน เพื่อให้ Growth Hormone […]
ฝึกลูกกินข้าวเอง หรือคำที่คุ้นหูกันในปัจจุบันอย่าง BLW (Baby Led Weaning) คือวิธีการที่ให้ลูกรู้จักหยิบอาหารกินเอง โดยอาหารจะไม่ใช่พวกอาหารปั่น อาหารบด แต่เป็นอาหารที่หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ มีความนุ่ม และหยิบจับได้ วิธีการนี้จะทำให้ลูกได้รู้จักและคุ้นเคยกับอาหารที่เป็นของแข็งมากยิ่งขึ้น โดยวิธีนี้เหมาะกับเด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป และสามารถนั่งได้เอง โดยที่ไม่ต้องมีคนช่วย ฝึกลูกกินข้าวเอง มีประโยชน์อย่างไร การให้ลูกกินข้าวเองนั้น นอกจากจะช่วยให้ลูกรู้จักอาหารที่เป็นของแข็งมากขึ้นแล้ว ยังมีส่วนในการช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางด้านร่างกาย และด้านความคิดอีกด้วย 1. สร้างทัศนคติที่ดีต่อการกินของลูก ฝึกให้ลูกกินข้าวเอง ช่วยให้ลูกมีความสุขกับการทานอาหารมากยิ่งขึ้น เพราะลูกได้สนุกกับการกิน สนุกกับการเลียนแบบท่าทางระหว่างการกินอาหาร ทำให้ไม่ต้องคอยหลอกล่อให้ลูกกินข้าว 2. ฝึกพัฒนาการการใช้กล้ามเนื้อมือ การให้ลูกได้หยิบจับอาหาร ทำให้ได้ฝึกการใช้แรงของมือ แรกๆอาหารอาจจะมีร่วงหล่นจากมือบ้าง หรืออาหารเละคามือบ้าง แต่ก็เป็นการให้ลูกได้ฝึกการควบคุมกล้ามเนื้อมือและน้ำหนักของมือ 3. ฝึกพัฒนาการการเคี้ยวและความคิด […]
เป็นเรื่องธรรมดาค่ะ ที่เมื่อรู้ตัวว่าตั้งครรภ์แล้วคุณแม่จะรู้สึกวิตกกังวลเกี่ยวกับอาหารการกิน ก็เพราะทุกอย่างที่คุณแม่ทานเข้าไปจะมีผลต่อลูกน้อยในท้องโดยตรงนี่เนอะ ของบางอย่างที่คุณแม่ทานเป็นปกติทุกวันอาจจะไม่ได้ปลอดภัยอีกต่อไป ส่วนของบางอย่างที่เจอทีไรก็ต้องเบ้ปากอาจจะมีประโยชน์มากกว่าก็ได้ อาหารการกินนั้นเป็นเรื่องสำคัญเพราะจะมีผลต่อน้ำหนักและความครบถ้วนสมบูรณ์ของร่างกาย รวมถึงสมองของลูกน้อย แต่เราควรจะเลือกรับประทานอาหารแบบไหนดีล่ะ แล้วขนาดไหนถึงจะเรียกว่าพอดี ลองมาดูกัน! 1. โฟเลตโฟเลตหรือกรดโฟลิกเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับคุณแม่มาก ๆ เลยล่ะค่ะ โดยปกติแล้วสาว ๆ บ้านไหนที่เตรียมตัวจะเป็นคุณแม่ คุณหมอก็จะแนะนำให้ซื้อโฟเลตมาทานเพื่อเตรียมตัวไว้ตั้งแต่ยังไม่ท้องเลย เพราะเจ้าตัวโฟเลตนี้เป็นสารอาหารสำคัญที่ร่างกายจะนำมาใช้ในการสร้างระบบประสาท เซลล์สมอง และไขสันหลังของทารกในครรภ์ ถ้ารับสารอาหารตัวนี้เข้าไปไม่เพียงพอแล้วล่ะก็ อาจจะส่งผลให้ทารกมีความพิการทางสมองได้ค่ะ ส่วนคุณแม่บ้านไหนที่ไม่ได้เตรียมตัวตั้งแต่ก่อนท้องก็ไม่ต้องกลัวนะ ยังไงคุณหมอก็จะสั่งโฟเลตให้ทานทุกวันเพื่อบำรุงอยู่แล้ว บำรุงตอนท้องก็ไม่ได้สายเกินไปค่ะ อีกอย่างอาหารหลาย ๆ อย่างที่เรารับประทานกันในชีวิตประจำวันก็มีโฟเลตอยู่บ้างค่ะ ไม่ว่าจะเป็น ผักใบเขียวเข้มอย่างคะน้า ไข่แดง ตับ ฟักทอง แครอท ฯลฯ ที่สำคัญคือคุณแม่ควรจะทานโฟเลตให้ได้วันละ 400-800 ไมโครกรัมกันนะคะ 2. เนื้อสัตว์ต่าง ๆส่วนใหญ่แล้วเนื้อสัตว์ที่มีประโยชน์สำหรับคนท้องจะเป็นจำพวกเนื้อแดงอย่าง “เนื้อวัว” เพราะว่าอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก ช่วยเรื่องโลหิตจางของคุณแม่ได้ แล้วก็เป็นสารอาหารที่สำคัญต่อทารกเช่นกัน แต่เนื้อวัวที่คุณแม่ทานควรจะเป็นแบบไร้มัน หรือมันน้อยที่สุดนะคะ เพราะการที่คุณแม่ทานมันเข้าไปมาก ๆ ก็อาจทำให้คลื่นไส้หรือท้องอืดได้นะ เนื้อไก่นี่ก็เป็นอะไรที่แนะนำ เพราะมีโปรตีนสูงและจะช่วยเรื่องน้ำหนักของลูกน้อยด้วยค่ะ ส่วนเนื้อสัตว์ที่คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงในช่วงนี้ก่อนก็เป็นพวกอาหารทะเล เพราะมีการตรวจพบสารปรอทในสัตว์ทะเลที่จับมาจากบางที่ค่อนข้างสูงเลยล่ะ […]






