ไอเดียจัด Baby Shower แบบน่ารัก สนุกสนาน

มาช่วงหลัง ๆ นี้เราจะได้ยินคำว่า Baby Shower กันบ่อยมาก โดยเฉพาะในเหล่าดาราคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ก่อนจะไปดูไอเดียสนุก ๆ คุณแม่ทราบมั้ยคะว่า Baby Shower คืองานอะไรกันแน่?
Baby Shower คืออะไร?
พอได้ยินคำว่า Baby Shower ปุ๊ป คุณแม่บางบ้านอาจเห็นภาพฝักบัวลอยมาเลย ไม่แปลกค่ะ เพราะว่างานนี้ยังไม่ค่อยแพร่หลายในเมืองไทย แต่เป็นงานที่มีความนิยมมากในต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศทางฝั่งตะวันตก อธิบายง่าย ๆ ก็คือ Baby Shower เป็นงานรวมญาติสนิทมิตรสหายเพื่อมาร่วมเฉลิมฉลองให้กับลูกน้อยของเราที่กำลังจะลืมตามาดูโลก โดยหลัก ๆ แล้ว แขกแต่ละคนก็จะนำของติดไม้ติดมือมาให้เพื่อเป็นของขวัญรับขวัญหลาน หรือบางคนก็อาจจะให้เป็นเงินทอง ส่วนใหญ่แล้วงาน Baby Shower ก็จะจัดขึ้นในไตรมาสที่ 3 นะคะ ไม่ช้าไม่เร็ว มาค่ะ เรามาดูกันว่านอกจากจะแค่ชวนเพื่อน ๆ มาพบปะกันแล้วเราจะจัดงาน Baby Shower แบบไหนกันได้บ้าง
ไอเดียการจัด Baby Shower แบบคิวท์ ๆ
1. งานในสวน
การจัดงานในบ้านอาจจะทำกันบ่อยแล้ว ลองย้ายไปจัดในสวนกันดูบ้างดีมั้ย? ถ้าสวนบ้านคุณแม่ไม่เอื้อต่อการจัดงานแล้ว ตอนนี้ในไทยมีสถานที่จัดงานเล็ก ๆ ให้เช่ามากมาย บรรยากาศร่มรื่น ไม่ต้องห่วงเรื่องร้อน การจัดงานในสวนนี้มีประโยชน์ตรงที่คุณแม่จะไม่ต้องลงแรงตกแต่งอะไรมาก เพราะมีฉากที่สวยงามจากสีเขียวธรรมชาติอยู่แล้ว แถมพื้นที่ในสวนยังเปิดกว้าง อากาศถ่ายเท เหมาะกับการทำกิจกรรมต่าง ๆ อย่างมากเลยล่ะค่ะ

2. งานจิบน้ำพั้นซ์
หากคุณแม่ไม่อยากยุ่งยากต้องสั่งอาหารจำนวนมาก ๆ คุณแม่อาจจะเปลี่ยนงาน Baby Shower แบบที่ต้องมีบุฟเฟต์อาหารเป็นงานเลี้ยงจิบน้ำพันช์เล็ก ๆ แต่อบอุ่นที่ทำให้ญาติ ๆ และเพื่อน ๆ ได้มีโอกาสมาพบหน้าพูดคุยกันก็ได้นะ คุณแม่อาจจะงง ๆ ว่าทำไมต้องจิบน้ำพันช์ ปกติเคยได้ยินแต่จิบน้ำชา…ก็ประเทศเราร้อนซะขนาดนี้ จิบน้ำชาก็คงสดชื่นได้ไม่เท่าน้ำพันช์เย็น ๆ ซักแก้วหรอกใช่มั้ยคะ นอกจากนี้ คุณแม่อาจจะจัดเตรียมขนมนมเนย หรืออาจจะมีมุมบุฟเฟต์ขนมก็น่ารักดีนะ
3. งานแบบมี Dress Code
การจัดงานแล้วมี Dress Code จะดีมากสำหรับการถ่ายรูปค่ะ เพราะรูปจะออกมาน่ารักกุ๊กกิ๊ก แถมยังเป็นการทำให้แขกเหรื่อรู้สึกมีส่วนร่วมไปกับงานอีกด้วยน้า คุณแม่หลายคนอาจจะนึกออกแค่ธีมสีชมพู สีฟ้า ลองเปลี่ยนมาเป็นธีมพวกการ์ตูนอย่าง Frozen หรือ Lion King ก็เก๋อยู่นะ เพื่อให้สนุกยิ่งขึ้น อาจจะมีการแจกรางวัลให้กับคนที่จัดเต็มที่สุดด้วยก็ดีค่า
4. งานแบบมีเกม
คุณแม่บางท่านอาจจะแค่อยากจัดงานแบบให้ทุกคนมาพบหน้ากันเฉย ๆ แต่ไหน ๆ ก็เป็นงานพบปะสังสรรค์ทั้งที ถ้าหาเกมมาให้แขกร่วมงานได้สนุกกันก็เป็นไอเดียที่ดีนะ ลองหาเกมลุ้น ๆ อย่างทายเพศลูก ทายน้ำหนัก หรือใส่เงินลงขัน หรือไม่งั้นอาจจะเป็นเกมสนุก ๆ ที่คุณแม่คิดขึ้นมาเองก็ได้เพื่อให้ทุกคนเอนจอย และทำให้งานมีสีสันมากยิ่งขึ้นค่ะ
5. งานแบบมีรีเควสพิเศษ
เป็นเรื่องปกติที่แขกที่คุณพ่อคุณแม่เชิญมาจะมีของขวัญติดไม้ติดมือมากันคนละชิ้นสองชิ้น บางอย่างก็อาจจะซ้ำ ๆ กัน หรือบางอย่างก็อาจจะติดเรื่องว่าซื้อของไม่ถูก เพราะยังไม่รู้ว่าคุณแม่จะได้ลูกผู้หญิงหรือผู้ชาย แต่ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป ถ้าคุณแม่ระบุขอให้เปลี่ยนของขวัญเป็นหนังสือ หนังสือนิทาน ผ้าอ้อม หรืออาจจะมีไอเดียอยากให้ทุกคนร่วมทำบุญ คุณแม่ก็อาจจะขอให้ญาติ ๆ และเพื่อน ๆ ของคุณแม่หิ้วของที่ทำบุญได้มาให้แทน (เช่น เสื้อผ้า หนังสือ) เพื่อที่คุณแม่จะได้นำไปบริจาค การมีรีเควสพิเศษแบบนี้นอกจากจะได้ของที่คุณแม่อยากได้แล้ว ผู้ที่มาร่วมงานก็ไม่ต้องคิดหนักว่าจะซื้ออะไรให้อีกด้วยนะ
เป็นยังไงกันบ้างคะ ได้ไอเดียสนุก ๆ อะไรเพิ่มขึ้นมั้ย คุณแม่บางท่านอาจจะนำไอเดียที่เราแนะนำทั้งหมดมารวมไว้ในงานเดียวก็ได้นะ ทั้งนี้ทั้งนั้น อย่าลืมคำนึงเรื่องงบประมาณการจัดงานและความสะดวกในการเดินทางของผู้ร่วมงานด้วยนะค้า
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
เลือกรถเข็นเด็กไปเมืองนอก พับเล็กอย่างเดียวไม่พอ เอาที่ลูกนั่งสบายด้วยนะคะ เพราะรถเข็นเด็กคือที่พักผ่อนของเด็กๆ คุณสมบัติที่สำคัญและจำเป็นจริงๆ คือ แนะนำคุณพ่อคุณแม่ที่เลือกรถเข็นเด็กไปเมืองนอก แนะนำรถเข็นเด็ก Aprica Magical Air แบบน้องอลิน-อลัน คันนี้แม่โอปปลื้มมาก จนต้องบอกต่อใน IG พิสูจน์แล้วโดยคุณแม่เซเลปคนดัง มั่นใจในผลิตภัณฑ์เด็ก Aprica #แท็กสามี #แท็กเพื่อน แล้วจัดทริปเลยค่ะ Aprica รถเข็นเด็ก สำหรับวัยแรกเกิดอย่างแท้จริงๆ คิดค้นและวิจัยโดยกุมารแพทย์ จากประเทศญี่ปุ่น
เมื่อรู้ว่าตัวเองก้าวเข้าสู่สถานะคุณแม่ตั้งครรภ์เต็มตัวแล้ว สิ่งแรกที่บรรดาแม่ๆ ทั้งหลายแอบกังวลอยู่ไม่น้อย คงจะหนีไม่พ้นเรื่องอาหารการกิน ที่เป็นเรื่องใกล้ตัวเรามากที่สุด เพราะจากประสบการณ์ตรงของการเป็นคุณแม่ตั้งครรภ์แล้ว บรรดาเพื่อนสนิท คนใกล้ชิด มักจะวนเวียนมาถามว่า คุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ควรกินอะไร หรือสามารถกินอะไรได้บ้าง ยิ่งถ้าไม่มีอาการแพ้ท้อง ถือว่าโชคดีสองชั้น อยากกินทุกอย่างที่ขวางหน้าแน่นอน หรือแพ้ท้องแล้วก็ดันอยากจะกินอาหารที่ไม่ควรกินอีก เพราะโน้นก็อร่อย นี่ก็ของชอบ ไม่รู้ว่ากินเข้าไปแล้วจะมีผลกระทบต่อเจ้าตัวน้อยในครรภ์รึเปล่า วันนี้คุณแม่เลยอยากจะแนะนำอาหารคุณแม่ตั้งครรภ์ท้องใหม่ไม่ควรรับประทานให้ฟังว่า 1. อาหารที่มีรสจัดคุณแม่ตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสจัดมากๆ เพราะระบบย่อยอาหารจะผิดปกติไปจากเดิม การกินอาหารรสจัดๆ ไม่ว่าจะเผ็ดจัด เค็มจัด หวานจัด เปรี้ยวจัด จะทำให้มีโอกาสปวดท้อง ท้องอืด ท้องเฟ้อ นำไปสู่อาหารเป็นพิษได้ง่าย 2. อาหารที่ก่อโรคไหลย้อนในช่วงตั้งครรภ์ โอกาสที่คุณแม่จะเป็นโรคกรดไหลย้อนเกิดขึ้นได้ง่าย ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดกรดไหลย้อนโดยเฉพาะ อาหารทอด, อาหารจำพวกแป้งที่ต้องอุ่นซ้ำ, อาหารที่มีรสจัด, ชา, กาแฟ, น้ำอัดลม, เครื่องดื่มแอลกอฮอล์, ชีส รวมถึงยาบางชนิด เช่น ยาขยายหลอดลม เป็นต้น 3. อาหารที่กินแล้วท้องผูกต้องบอกไว้ก่อนเลยว่า อาการท้องผูกกลายเป็นของคู่กันของคุณแม่ตั้งครรภ์ไปแล้ว ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดริดสีดวงทวารได้ง่าย คุณแม่จึงควรหลีกเลี่ยงอาหารที่ย่อยยาก หรือลดปริมาณการกินให้น้อยลง แล้วหันมารับประทานอาหารที่มีกากใยสูง อย่างผักและผลไม้แทน […]
เพราะความปลอดภัยคือเหตุผลอันดับ 1 ที่พ่อแม่ต้องควักเงินซื้อคาร์ซีทให้ลูกน้อย ก็เพื่อปกป้องลูกจากการบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ปัจจัยที่รองลงมาคือ ลูกนอนสบาย ใช้งานง่าย และงบประมาณ มาตรฐานความปลอดภัยของคาร์ซีท จริงๆแล้ววัดจากอะไร ก็ต้องเป็นวัสดุที่รองรับแรงกระแทกด้านใน ซึ่งคาร์ซีทแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อใช้วัสดุภายในที่ไม่เหมือนกัน แบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ ดังนี้ 1. EPS Foam และ EPP Foam EPS Foam (Polystyrene Foam) เป็นวัสดุที่ช่วยลดแรงกระแทก ที่ใช้ใน หมวกกันน๊อค ช่วยปกป้องชีวิต ผู้สวมใส่ โฟมชนิดนึ้จึงถูกนำไว้ในคาร์ซีท ใช้รองรับแรงกระแทกสำหรับศีรษะและส่วนบนของร่างกายเด็ก ในกรณีที่เกิดการกระแทกโฟมจะแตกและจะกระจายแรงกระแทกออกไปโดยแทบไม่มีแรงสะท้อนกลับ จึงทำให้ได้เด็กปลอดภัย ดังนั้นผู้ผลิตคาร์ซีทระดับมาตรฐานสากลส่วนใหญ่ จึงนำโฟมชนิดนี้มาใช้ในคาร์ซีทเพื่อรองรับแรงกระแทกโดยเฉพาะ ส่วน EPP Foam (Polypropylene Foam) เป็นวัสดุที่คล้ายกับ EPS Foam แต่มีความยืดหยุ่น ไม่แตกหักง่าย และทนความร้อนดีกว่า จึงนำไปผลิตเป็นภาชนะบรรจุอาหาร ที่สามารถเข้าไมโครเวฟได้ ข้อมูลอ้างอิงจาก http://www.carseatsite.com/FAQ.htm 2. Urethane […]
ความเชื่อแรกที่ต้องมี..คาร์ซีทคือสิ่งสำคัญ เคยคิดไหมว่าถ้าวันหนึ่งคุณขับรถประสบอุบัติเหตุจนทำให้ลูกน้อยๆ ของคุณได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต คุณจะใช้ชีวิตต่อไปยังไง?? ผมถือว่าผมเป็นคนที่โชคดีคนหนึ่งที่ได้รับการปลูกฝังให้เห็นความสำคัญของคาร์ซีทสำหรับเด็กๆ ทั้งจากคุณหมอประจำตัวลูกๆ พี่สาว ภรรยา ตลอดจนเพื่อนๆของผมและภรรยาที่เคยมีลูกมาก่อน ที่พร่ำสอนว่า ต้องให้เด็กนั่งคาร์ซีททุกครั้งที่ขึ้นรถนะ… ทุกครั้งที่ผมเดินทางไม่ว่าจะใกล้หรือไกล ผมกับภรรยาจะให้ลูกๆนั่งคาร์ซีทตลอดเวลา ถึงแม้ช่วงแรกๆ (รวมถึงช่วงหลังๆด้วยบางเวลา) เค้าจะร้องไห้ฟูมฟายก็ตาม เราก็ต้องใจแข็งปล่อยให้ร้องไห้ไป เพราะถือคติว่า “safety first” พอนานๆเข้า เด็กๆก็จะเริ่มรู้เงื่อนไขเองว่า ถ้าไม่นั่งบนคาร์ซีทจะไม่ได้ขึ้นรถไปด้วย แม้แต่วันแรกที่พาลูกออกจากโรงพยาบาลหลังคลอด ผมและภรรยาก็ให้ลูกน้อยนั่งคาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิด …เชื่อว่าพ่อแม่หลายคนมักจะใจอ่อน และมักจะคิดว่านิดหน่อยคงไม่เป็นอะไร แต่อย่าลืมว่าอุบัติเหตุมันเกิดขึ้นได้ทุกวินาทีจริงๆ แข็งใจปล่อยให้ลูกร้องไห้ ดีกว่าไม่มีโอกาสให้เขาได้ร้องไห้นะครับ… กระนั้นก็ดี ด้วยความที่คาร์ซีทยี่ห้อดีๆมักจะมีราคาสูง(มาก) เดิมทีผมมีลูกชายคนเดียวก็มีสำหรับเด็กแรกเกิดถึงสองขวบ ต่อมาพอน้องปัณณ์โตขึ้นก็กัดฟันควักกระเป๋าซื้อสำหรับเด็ก 1-5 ขวบ มาอีกตัว จากนั้นพอผมมีน้องปุณณ์ ลูกสาวอีกคนที่อายุย่างเข้า 9 เดือน ภรรยาก็อยากได้ คาร์ซีทที่แข็งแรงๆ อีกอันไว้ให้น้องปัณณ์นั่ง ส่วนน้องปุณณ์จะขยับมานั่งอันที่สองแทน ผมก็คัดค้านเพราะเห็นว่าสิ้นเปลือง อันแรกยังใช้ได้อยู่เลย… แต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหว ยอมควักเงินอีกสองหมื่นกว่าซื้อมาอีกตัวอย่างเสียไม่ได้ หลังจากซื้อมาได้เพียงเดือนเดียว เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันและร้ายแรงที่สุดในชีวิตผมก็เกิดขึ้นจนได้ ผมกับครอบครัวเดินทางไป กทม. โดยลูกชายผมนั่งคาร์ซีทตัวใหม่อยู่ด้านข้างคนขับ (ขยับเบาะให้ไกลจาก […]
เด็กบางคนจะมีเหงื่อออกมาก ทั้งบนศีรษะ หน้า หน้าอก แผ่นหลัง จนหมอน และชุดนอนเปียกชื้น โดยเฉพาะเด็กที่ปกติมีเหงื่อมาก เมื่อนอนไปได้สักระยะหนึ่งอุณหภูมิของร่างกายจะสูงขึ้น ทำให้มีเหงื่อออกจนคุณพ่อคุณแม่ตกใจเกรงลูกจะเป็นโรคร้าย เพราะมีคนกล่าวว่า เหงื่อออกมากเวลากลางคืนอาจจะเป็นอาการระยะเริ่มต้นของโรคต่างๆ ดังนี้ >>>ขอบคุณข้อมูลจาก : เว็ปไซด์ maerakluke.com
ใครๆ ก็รู้ว่าน้ำนมแม่สำคัญต่อพัฒนาการของลูกน้อยมากแค่ไหน แต่น้ำนมของคุณแม่แต่ละคนไม่ได้มีเยอะเท่ากันใช่มั้ยหล่ะคะ บางคนก็เยอะ บางคนก็น้อย บางคนก็ไม่มี ดังนั้นการกระตุ้นน้ำนมอย่างถูกวิธีมีความสำคัญอย่างมากต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ซึ่งเป็นวิธีการเลี้ยงดูที่ดีที่สุดสำหรับทารกในช่วงแรกเกิด และในบทความนี้ BabyGift จะพาคุณแม่ไปรู้จักกับวิธีกระตุ้นน้ำนมกันค่ะว่าจะมีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยแม่ๆ ที่มีปัญหาเรื่องน้ำนมได้บ้าง แชร์วิธีกระตุ้นน้ำนมแม่ ทำยังไงให้คุณแม่มีน้ำนมเพียงพอ ส่งต่อสุขภาพดีๆ ให้ลูก การกระตุ้นน้ำนมแม่มีความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำนมให้เพียงพอต่อความต้องการของทารก เพราะน้ำนมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารกในช่วง 6 เดือนแรก ซึ่งจะช่วยให้ทารกได้รับสารอาหารครบถ้วน เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และช่วยให้ร่างกายทารกเจริญเติบโตอย่างเต็มที่และแข็งแรง แถมยังเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์แม่ลูกให้แน่นแฟ้น เพราะในขณะที่แม่ให้นมลูก จะเกิดการหลั่งฮอร์โมนความรักและผูกพันกัน ช่วยเสริมสร้างความรู้สึกอบอุ่น ความปลอดภัยให้แก่ทารกค่ะ เอาหล่ะค่ะ แล้ววิธีกระตุ้นน้ำนมแม่มีอะไรบ้าง เรามาดูกันต่อเลยค่ะ วิธีกระตุ้นน้ำนมแม่ มีอะไรบ้าง ? มีหลายวิธีในการกระตุ้นการไหลของน้ำนมแม่ค่ะ เป็นวิธีง่ายๆ ที่ทำได้จริง ซึ่งการทำตามวิธีเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอและถูกวิธี จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำนมได้อย่างเต็มที่ มาดูกันค่ะ 1. การดื่มน้ำ : และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ : วิธีง่ายๆ แต่ส่งผลต่อปริมาณและคุณภาพของน้ำนมแม่ คุณแม่ลองใส่ใจในการกินอาหารให้มากขึ้น เช่น ถั่วงอก ข้าวกล้อง น้ำผลไม้ กระเจี๊ยบเขียว […]






