วัคซีนกับแม่ท้องเป็นของคู่กัน

คุณแม่ฉีดวัคซีนกันหรือยังงงงง อย่ามัวแต่รีรอนะ เพราะว่าวัคซีนนั้นสำคัญมาก แต่ใครที่ฝากท้องกับคุณหมอแล้วก็ไม่ต้องห่วงค่ะ เดี๋ยวคุณหมอก็จะนัดฉีดเอง คุณแม่บางคนอาจจะสงสัยว่าเวลาท้องแล้วจะต้องฉีดวัคซีนอะไรบ้าง วันนี้เราเลยนำความรู้เกี่ยวกับวัคซีนที่สำคัญสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์มาฝากกันค่ะ
ปกติแล้วการได้รับวัคซีนของคุณแม่ท้องจะแบ่งเป็น 2 ช่วง ก็คือช่วงก่อนตั้งครรภ์กับช่วงระหว่างตั้งครรภ์ ด้านล่างคือวัคซีนต่างๆ ที่สำคัญสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ค่ะ
1. วัคซีนป้องกันโรคหัดเยอรมัน (Rubella Vaccine)
ใครเตรียมตัวเป็นคุณแม่ก็ไปฉีดวัคซีนตัวนี้ล่วงหน้าสัก 3 เดือนเป็นอย่างน้อยนะคะ อ๊ะๆ คนที่ยังไม่ได้ฉีดกำลังตกใจกันอยู่ใช่มั้ย อย่าเพิ่งตกใจไปค่ะ ถ้าคุณแม่ไม่เคยฉีดวัคซีนตัวนี้ก่อนท้อง คุณแม่ก็แค่ต้องดูแลตัวเองให้ดีๆ ในช่วงที่ท้องสามเดือนแรก หลักๆ คืออย่าไปที่ที่มีคนพลุกพล่าน เพราะมันเป็นแหล่งรวมเชื้อโรคเลยล่ะ ยิ่งถ้าไปเจอคนที่ไอหรือจามหรือเป็นไข้อะไรพวกนี้ด้วยแล้วก็ยิ่งเสี่ยงเข้าไปใหญ่เลย เพราะถ้าหากคุณแม่ติดเชื้อไวรัสหัดเยอรมันตัวนี้เข้าในช่วงที่ท้องสามเดือนแรก มันจะส่งผลให้ลูกในท้องมีความพิการที่อวัยวะต่างๆ เช่น ตา หู หัวใจ แขน ขาหรือสมองได้ค่ะ คุณแม่ที่เป็นหัดเยอรมันจะมีอาการเหมือนเป็นไข้หวัดธรรมนี่แหละ แต่จะแถมด้วยผื่นขึ้นตามตัว แต่ว่าถ้าคุณแม่ติดเชื้อไวรัสนี้ในช่วงเดือนท้ายๆ ก็ไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะลูกของเราจะไม่ได้รับผลกระทบจากเชื้อนี้เนื่องจากเค้าเจริญเติบโตเต็มที่แล้ว
2. วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบบี (Hepatitis B Vaccine)
ไวรัสตัวนี้พบเยอะมากได้ประเทศไทยค่ะ คนที่เป็นก็จะแสดงอาการไม่เหมือนกันหรอก แต่ถ้าเป็นขั้นรุนแรงแล้วล่ะก็สามารถเสียชีวิตได้เลยค่ะ คนที่เป็นโรคนี้หนักๆ ตัวจะเหลือง อ่อนเพลียมากตลอดเวลาแล้วตับก็จะถูกทำลาย เจ้าเชื้อตัวนี้สามารถติดจากแม่สู่ลูกในท้องได้ แต่ก็ไม่ได้มีผลร้ายแรงอะไรนะคะ ที่บอกว่าติดต่อก็คือว่า ถ้าเกิดคุณแม่มีเชื้อนี้ ลูกก็จะมีเชื้อนี้เหมือนกันค่ะ ปกติแล้วคนที่จะเตรียมตัวเป็นคุณแม่ก็จะไปให้คุณหมอฉีดเจ้าวัคซีนตัวนี้ก่อนตั้งครรภ์ประมาณ 6 เดือน แต่ถ้าคุณแม่ยังไม่ได้ฉีดก็ไม่ต้องเครียดไปค่ะ เพราะคุณหมอจะฉีดให้ลูกๆ ของเราอยู่แล้วตอนคลอด โดยจะฉีดประมาณ 24 ชั่วโมงหลังคลอดค่ะ
3. วัคซีนไข้หวัดใหญ่ (Flu Vaccine)
คงจะไม่มีใครไม่รู้จักไข้หวัดใหญ่เพราะระบาดบ่อยเหลือเกินในประเทศไทยเนี่ย แต่สำหรับคุณแม่ท้องทั้งหลาย ไข้หวัดใหญ่นี่อันตรายมากกว่าคนทั่วไปนะคะ เพราะว่าถ้าเราติดเชื้อเข้าแล้วจะมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนได้มากกว่าค่ะ อย่างพวกเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ หัวใจวาย ปอดบวม อะไรแบบนี้ สำหรับวัคซีนตัวนี้ ความจริงจะฉีดเมื่อไหร่ก็ได้นะคะ ไม่ว่าจะท้องอ่อนหรือท้องแก่ คุณแม่ลองปรึกษาคุณหมอได้เลยค่ะ โดยที่วัคซีน 1 เข็ม จะป้องกันเชื้อได้ 1 ปีค่ะ
4. วัคซีนคอตีบ (Diphtheria Vaccine)
โรคนี้อันตรายถึงชีวิตเลยนะ แถมยังส่งผลต่อลูกในท้องของเราโดยตรงอีกด้วย คนที่เป็นโรคนี้จะมีอาการหายใจไม่ออกเหมือนมีอะไรมาอุดตันทางเดินหายใจค่ะ แล้วก็จะมีอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ คุณหมอจะฉีดวัคซีนตัวนี้ให้คุณแม่ในช่วงที่คุณแม่ท้องเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกที่จะคลอดออกมาเป็นโรคนี้ค่ะ
5. วัคซีนป้องกันบาดทะยัก (Tetanus Vaccine)
วัคซีนป้องกันบาดทะยักเป็นวัคซีนที่สำคัญกับคุณแม่ท้องมากๆ เลยค่ะ อาการของบาดทะยักโดยทั่วไปคือ ผู้ที่ติดเชื้อจะตัวเกร็ง หน้าเขียว หรือร้ายแรงที่สุดคืออาจเสียชีวิตได้ สำหรับวัคซีนตัวนี้ คุณหมอจะฉีดให้ตอนที่คุณแม่ท้องจำนวน 2 เข็ม โดยเข็มแรกจะเว้นระยะห่างจากเข็มที่ 2 ประมาณ 1 เดือน ส่วนเข็มที่ 2 จะฉีดก่อนคลอดประมาณ 3 เดือน และจะมีเข็มที่สามเมื่อคลอดแล้วค่ะ แต่ว่าถ้าหากคุณแม่เคยฉีดแล้วก็ไม่ต้องฉีดซ้ำอีกนะ เพราะว่ามีภูมิอยู่แล้วค่ะ
6. วัคซีนไอกรน (Pertussis Vaccine)
วัคซีนตัวนี้คุณหมอจะฉีดให้คุณแม่ที่ท้องอยู่เพื่อไม่ให้ลูกที่คลอดออกมาเป็นโรคไอกรนค่ะ เพราะถ้าหากลูกติดเชื้อตัวนี้ภายใน 3 เดือนแรกที่คลอดออกมาแล้วอาจจะทำให้ลูกเสียชีวิตได้ วัคซีนที่ลูกรับไปนี้จะทำให้ลูกปลอดภัยจากโรคไอกรนถึง 6 เดือน เจ้าโรคนี้เป็นโรคทางระบบทางเดินหายใจค่ะ ผู้ที่เป็นโรคนี้จะไอถี่ๆ จนทำให้ระบบหายใจล้มเหลวและเสียชีวิตได้ค่ะ
การฉีดวัคซีนนั้นมีแต่ได้กับได้นะคะ บางคนกลัวเข็มมากแต่เพื่อลูกก็ต้องทนเนอะ เพราะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ตัวคุณแม่แล้วก็ลูกน้อยของเราด้วย คุณแม่บางคนอาจจะจำไม่ได้ว่าเคยฉีดวัคซีนตัวไหนไปบ้างแล้วก่อนท้อง อันนี้ไม่เป็นไรนะคะ เดี๋ยวคุณหมอจะเช็คดูแล้วบอกคุณแม่เองค่ะ ว่าคุณแม่ต้องฉีดอะไรเพิ่มบ้าง เพราะงั้นตอนนี้แค่ทำจิตใจให้สบาย ลูกน้อยของเราจะได้แข็งไรค่า
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
ห้องนอนเด็กอ่อน เป็นเรื่องสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ หากกำลังวางแผนที่จะมีลูกน้อย หรือบางครอบครัวคุณแม่อาจกำลังตั้งครรภ์ และเตรียมพร้อมที่จะจัดบ้าน จัดห้องนอนเพื่อต้อนรับลูกน้อย เพราะห้องนอนที่ดีของลูกน้อยวัยทารกจะส่งผลต่อทั้งสุขภาพ พัฒนาการและอารมณ์จิตใจในอนาคต ด้วยเพราะลูกน้อยทารกต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนอน และการนอนเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ทำให้โกร๊ธฮอร์โมน หรือฮอร์โมนเพื่อการเจริญเติบโตหลั่งเต็มที่ ทำให้ลูกเติบโตอย่างมีพัฒนาการที่ดีและสุขภาพแข็งแรง ซึ่งหากลูกน้อยนอนหลับไม่เต็มที่ หรือมีสิ่งต่างๆ รบกวนเวลานอน ทำให้นอนไม่เพียงพอ ลูกจะงอแง หงุดหงิดง่าย เติบโตได้ไม่ดี แถมยังส่งผลต่ออารมณ์จิตใจ ทำให้เป็นเด็กเลี้ยงยากและอารมณ์ไม่ดี ยิ่งหากห้องนอนไม่มีการเตรียมพร้อมป้องกันอุบัติเหตุไว้อย่างดี ลูกก็อาจจะมีอันตรายในขณะนอนจนถึงชีวิตได้อีกด้วย ฉะนั้นการเตรียมพร้อมเรื่องนอนให้ลูกทารก จึงเป็นเรื่องที่ทุกบ้านต้องพิถีพิถันใส่ใจ ควรเลือกซื้อ จัดวางและเตรียมพร้อมให้ลูกในแบบที่ถูกต้อง เหมาะสม ปลอดภัย จะดีที่สุด 5 เรื่องต้องคิด ก่อนเตรียม ห้องนอนเด็กอ่อน ก่อนเลือกซื้อและจัดเตรียมอุปกรณ์ของใช้ในห้องเด็กอ่อนให้ลูกน้อย มีเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ควรพิจารณาเป็นสำคัญนั่นคือ การเลือกห้องนอนให้ลูก ซึ่งจะต้องให้ความสำคัญกับ 5 เรื่อง นั่นคือ Checklist ห้องนอนเด็กอ่อน ต้องมีอะไรบ้าง เตียงนอน ควรเป็นเตียงนอนที่ออกแบบมาสำหรับเด็กเล็กโดยเฉพาะ ซึ่งเตียงนอนเด็กอ่อน ควรเป็นเตียงที่มีความมั่นคงแข็งแรง และเป็นเตียงใหญ่พอที่จะใช้สำหรับให้ลูกเวลาโตได้อีกระยะหนึ่ง เตียงไม่มีมุมหรือเหลี่ยมแหลมคมที่เป็นอันตราย หากเป็นเตียงที่มีซี่กรง ควรมีความถี่ของซี่กรงรอบเตียงหรือราวกันตกห่างกันไม่เกิน 6 […]
พอรู้ว่าตั้งท้อง สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่มักอยากจะทราบเป็นอันดับแรกก็คือเพศของลูกในท้องใช่มั้ยล่ะคะ วันนี้เราตั้งใจจะมาพูดถึงวิธีสนุกๆ ที่ไม่ต้องพึ่งวิทยาศาสตร์ เป็นวิธีที่อิงความเชื่อล้วนๆ ฮิตกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ แม่นไม่แม่น ไม่รู้ แต่ก็สนุกดีค่ะ ถือว่าคลายเครียดกันเนอะ (เอ๊ะ หรือจะทำให้เครียดกว่าเดิม?) 9 วิธีสนุกๆ ทายเพศลูกน้อยตามแบบโบราณ อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าวิธีเหล่านี้เป็นความเชื่อของคนสมัยโบราณที่ตอนนั้นวิทยาการก็ยังไม่ค่อยจะล้ำสมัยซักเท่าไหร่ ถือว่าทำเอาเล่นๆ ขำๆ ละกันนะคะ ถ้าคุณแม่อยากทราบเพศลูกที่ชัวร์ๆ ก็ลองปรึกษาขอ คุณหมอตรวจโครโมโซมหรือเจาะน้ำคร่ำดูก็ได้ค่ะ เพราะสองวิธีนี้ให้ผลแม่นยำถึง 99.4% เลยล่ะ แม่นยิ่งกว่าการบอกเพศจากการอัลตร้าซาวด์อีกนะ แต่ต่อให้ลูกจะคลอดออกมาเป็นเพศไหน เราก็มั่นใจว่าคุณแม่ทุกท่านจะรักลูกจนหมดหัวใจแน่นอน
รีวิวลูกค้าที่น่ารักจาก Baby Gift Showroom นะคะ…^^ …วันนี้คุณแม่อารมณ์ดีจร้า อากาศเย็นสบายลูกชายก็อารมณ์ดี ไม่งอแง ให้กินก็กิน ให้นอนก็นอน คุณแม่เลยได้พักผ่อนนอนกลางวันอย่างเต็มอิ่ม หลับยาวๆไป พออารมณ์ดี แล้วอากาศก็ดี แดดอ่อนๆ ตอนเย็นๆ ก็เลยคิดว่าจะพาลูกออกมาเดินเล่นสักหน่อย แม่ลูกจะไปยังไงกันอะหรอ ถ้าอุ้มเดินไปคงไมไหว คุณแม่มีตัวช่วยที่ดีที่จะพาลูกออกไปเที่ยวนอกได้อย่างสบายๆ แอ่น แอน แอ๊น !!!! รถเข็นเด็ก Aprica รุ่นใหม่ล่าสุดจร้า รุ่น Optia เพิ่งไปถอยมาไม่กี่วันนี้เอง บอกเลยชอบมาก ใช้ทุกวันคร้า เข็นเดินเล่นในบ้านบ้าง ออกนอกบ้านบ้าง ไปช้อปปิ้งก็สบาย ก็เพราะคุณสมบัติที่สุดยอดไปเลย คุณสมบัติแบบ Double เลิศเล่อเพอร์เฟคที่สุด ไหนๆก็ต้องออกมาเดินเล่น ก็ขอรีวิวซ่ะหน่อยน๊า!!! ก่อนจะซื้อรถเข็นเด็กก็เลือกแล้วเลือกอีก ดูหลายๆยี่ห้อ มีทั้งราคาแพงเว่อวัง แต่คุณสมบัติก็ไม่ได้มีอะไรมาก ส่วนไอ้ที่ราคาถูกๆก็เหมือนจะพังง่าย และก็เข็นน่าลำบากเหลือเกิน โยกไปโยกมาทั้งคัน ลูกนั่งคงเวียนหัวแย่!!! แต่กับรถเข็นเด็ก Aprica รุ่นใหม่ล่าสุด รุ่น Optia ลองเข็นพื้นเรียบก็เข็นง่าย แต่พอลองเข็นกับสนมหญ้าแล้ว ว้าวเลยค่ะ […]
แผ่นรองคลาน ถือเป็นอีกหนึ่งไอเท็มจำเป็นที่ต้องมีในบ้าน ถึงแม้จะไม่อยู่ในลิสของใช้ลูกที่ต้องเตรียมไว้ก่อนคลอด แต่ก็ต้องทำความรู้จักกันไว้ล่วงหน้าซักนิด เพราะแผ่นรองคลาน ถือเป็นอีกอุปกรณ์หนึ่งที่จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการลูกน้อย ในวันที่เขาเริ่มคว่ำตัว และเริ่มที่อยากจะคลาน ซึ่งอยู่ในช่วงวัย 4 – 5 เดือน เป็นต้นไป แล้วแผ่นรองคลานแบบไหนที่ดีต่อลูกน้อยที่สุด วันนี้ Babygift เตรียมคำตอบไว้ให้คุณพ่อคุณแม่แล้วค่ะ แผ่นรองคลานที่ทำจากโฟม EVA วัสดุประเภทโฟม EVA นั้น จะมีน้ำหนักเบา และสามารถตัดเป็นชิ้นได้ง่าย แผ่นรองคลานประเภทนี้ จึงมักจะทำมาในรูปแบบของตัวต่อจิ๊กซอว์ แบบแยกชิ้นส่วน ทั้งแบบตัวเลข หรือตัวอักษรภาษาอังกฤษ เพื่อให้ลูกฝึกต่อเล่น เสริมสร้างพัฒนาการได้ เมื่อถอดเป็นชิ้น ๆ สามารถใส่กระเป๋าพกพาได้ง่าย และมีราคาถูกที่สุดในบรรดาแผ่นรองคลานทุกชนิด แต่เนื่องจากน้ำหนักที่เบาเกินไป ทำให้แผ่นรองคลานไม่ยึดติดกับพื้นบ้าน เมื่อลูกฝึกเดินอาจทำให้ลื่นติดกับเท้า อาจทำให้ลื่นล้มได้ / วัสดุมีกลิ่น และมีสี ที่อาจเป็นอันตรายหากลูกสัมผัสและนำมือเข้าปาก / วัสดุเป็นโฟม จึงไม่ทนทานต่อการขีดข่วน เมื่อเด็กเล็กที่มีเล็บยาว ข่วน หรือจิกเวลาที่พยุงตัว ก็อาจจะทำให้ฉีกขาดได้ง่าย จึงใช้งานได้เพียงระยะสั้น / แผ่นที่แยกกันทำให้อาจเกิดร่อง ซึ่งเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค และวัสดุชนิดนี้ไม่สามารถกันน้ำได้ […]






