5 แบบ 10 ตัวเลือก เบาะนอนเด็ก หายใจผ่านได้ ที่คุณแม่วางใจ อัปเดตปี 2024

เบาะนอนเด็ก เรียกว่ามีความสำคัญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับทารก และเด็กเล็ก เนื่องจากเหตุผลหลายอย่าง เช่น ความปลอดภัย ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคไหลตายในเด็ก (SIDS) และป้องกันการติดขัดหรือหายใจไม่ออก เบาะที่มีความแน่นพอเหมาะจะช่วยสนับสนุนกระดูกสันหลังที่กำลังพัฒนาของเด็ก ป้องกันปัญหาสรีระในอนาคต ช่วยให้เด็กนอนหลับได้ลึกและยาวนานขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อพัฒนาการทางร่างกายและสมอง อีกทั้งเบาะเด็กที่ได้มาตรฐาน ปราศจากสารเคมีอันตรายยังส่งผลต่อสุขภาพของเด็กด้วย ดังนั้น การเลือกเบาะนอนสำหรับเด็กที่เหมาะสม และได้มาตรฐานจึงเป็นเรื่องสำคัญมากเพื่อความปลอดภัยและพัฒนาการที่ดีของเด็กนั่นเองค่ะ
รวม 10 ตัวเลือก เบาะนอนเด็ก ที่คุณแม่วางใจ เบาะนอนทารกหายใจผ่านได้ มียี่ห้อไหนบ้าง ?
BabyGift เชื่อว่าคุณพ่อ คุณแม่ หลายคนที่เข้ามาอ่านบทความนี้ คงจะให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อเบาะนอนทารกกันมาก เพราะฉะนั้นในบทความนี้เราจะมาแนะนำ 10 ตัวเลือกเบาะนอนสำหรับเด็กคุณภาพดี หายใจผ่านได้ ราคาไม่แรง มาให้ได้เลือกกันค่ะ แต่ก่อนจะไปแนะนำยี่ห้อกัน เราขอแนะนำวิธีการเลือกซื้อให้เบื้องต้น ดังนี้ค่ะ

คำแนะนำในการเลือกซื้อเบาะนอนเด็ก
- เลือกวัสดุที่นุ่มนวล และระบายอากาศได้ดี จะช่วยรองรับการนอนของทารกได้อย่างเหมาะสม
- ใส่ใจเรื่องความปลอดภัย หลีกเลี่ยงเบาะนอนที่มีชิ้นส่วนเล็กๆ ที่อาจหลุดออกมาได้ รวมถึงเลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานความปลอดภัย
- เลือกเบาะที่สามารถซักได้ง่าย เพื่อรักษาสุขอนามัย และความสะอาดซึ่งจะส่งผลต่อลูกของเรา
BabyGift แนะนำเบาะนอนเด็ก 5 แบบ 10 ตัวเลือก ที่คุณแม่ไว้ใจประจำปี 2024

1. เบาะนอนทารก Baby Crown Nest – PRINCE & PRINCESS
เบาะนอนเด็กยี่ห้อแรกที่ BabyGift อยากแนะนำก็คือ Baby Crown Nest ของ PRINCE & PRINCESS ค่ะ แบรนด์นี้ออกแบบด้วยความใส่ใจ นอนแล้วไม่ยุบตัว ไม่แข็งไม่นุ่มเกินไป กระจายน้ำหนักได้ดี ทำให้ทารกรู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่ในท้องของแม่ ทำจากเส้นใยฝ้ายธรรมชาติ Cotton 80% ผสมกับเส้นใย Dracon 20% ที่มีความเหนียวนุ่ม ยืดหยุ่น ทักทอด้วยเทคนิคพิเศษ Breathable 3D Air Mesh ทำให้ช่วยให้ระบายอากาศ หายใจผ่านได้ และความร้อนชื้นได้ดี
จุดเด่น
- ตัวเบาะนอนทารกสามารถปรับขนาดได้ ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 9 เดือน และรับน้ำหนักได้ 2.5 กิโลกรัม
- ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ สามารถใช้วางบนที่นอนกับผู้ใหญ่ ป้องกันการพลิกตัวไปโดนลูกน้อยขณะนอนหลับ หรือวางบนเปลนอนทารกได้อย่างลงตัว และใช้กับเตียงเด็กแรกเกิดได้ วางบนโซฟาได้
- ผ้าปูนอนชั้นบนสุดทำจากโพลีเอสเตอร์ 100% ที่ออกแบบให้มีรูระบายอากาศตลอดทั้งผืน ช่วยให้ลูกน้อยสามารถหายใจผ่านได้ ลดโอกาสการเกิดโรค SIDS หรือการเสียชีวิตเฉียบพลันในเด็กทารก
- มาพร้อมบาร์ของเล่น โมบายผ้านุ่มนิ่ม สีสันน่ารักสดใส ช่วยกระตุ้นพัฒนาการของลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิดไปจนถึง 4 เดือน
- ผ้าปูที่นอนโดยรอบเบาะนอน สามารถถอดซักได้

2. OXY BABY Mattress เบาะนอนหายใจผ่านได้แบบมีขอบกั้น
OXY BABY Mattress เป็นอีกหนึ่งยี่ห้อของเบาะนอนเด็กที่เหล่าคุณแม่ไว้ใจ รุ่นนี้สามารถหายใจผ่านได้ รุ่นนี้จะมีขอบกั้นกันน้องกลิ้งตก กันคุณแม่นอนทับ ทำให้สามารถนอนบนเตียงเดียวกับคุณแม่ได้ มีความนุ่มแน่น แต่ยืดหยุ่นเพื่อความสบายสูงสุด และช่วยรักษารูปทรงธรรมชาติของกระดูกสันหลังให้กับทารกได้ ระบายอากาศได้รอบทุกด้าน หายใจผ่านได้ ทำให้อากาศไหลเวียนได้สะดวกจึงช่วยลดผดผื่นที่เกิดจากความร้อน และชื้นได้
จุดเด่น
- นอนสบายกว่า ด้วยโครงสร้าง รูปตัวX มีจุดรองรับน้ำหนักที่สม่ำเสมอ ป้องกันปัญหาเกี่ยวกับกระดูกสันหลังในระยะยาวได้
- รองรับน้ำหนักได้ดี ไม่เสียรูปทรงเมื่อใช้งานในระยะยาว
- ใช้วัสดุ Tencel 3D Air Mesh Cover และ Polyester Mattress ปลอดภัยจากสารเคมี
- ซักล้างทำความสะอาดได้ ไม่เสียรูปทรง (ซักมือ หรือ ซักเครื่องใส่ถุงซัก)

3. OXY BABY Mattress เบาะนอนหายใจผ่านได้
เบาะนอนเด็กอีกหนึ่งรุ่นของ OXY BABY Mattress รุ่นนี้ไม่ได้มีขอบกั้น แต่แถมผ้าปูที่นอนให้ค่ะ ตัวเบาะใช้วัสดุที่ปลอดภัยจากสารเคมี มีจุดรองรับน้ำหนักที่สม่ำเสมอ ป้องกันปัญหาเกี่ยวกับกระดูกสันหลังในระยะยาวได้เช่นกัน หายใจผ่านได้ ระบายอากาศรอบด้าน อากาศไหลเวียนได้สะดวก จะวางบนพื้น วางบนเตียงนอนเด็กแรกเกิด หรือเตียงนอนแม่ก็สามารถทำได้ค่ะ มีให้เลือกด้วยกัน 2 ขนาด ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน และความชอบค่ะ
จุดเด่น
- ตัวเบาะมีความนุ่มแน่น แต่ยืดหยุ่น นอนสบายด้วยโครงสร้าง รูปตัว X
- รองรับน้ำหนักได้ดี ไม่เสียรูปทรงเมื่อใช้งานในระยะยาว
- ตัวเบาะทำความสะอาดง่ายเพียงแค่ฉีดล้าง และแห้งไว ส่วนผ้าปูที่นอนสามารถซักล้างทำความสะอาดได้ ไม่เสียรูปทรง (ซักมือ หรือ ซักเครื่องใส่ถุงซัก)

4. AIRY เบาะนอนหายใจผ่านได้สำหรับทารก, ไซส์ L/70 (รุ่น DUO)
เบาะนอนเด็ก Duo ของ Airy ตัวนี้เป็นไซส์ L ค่ะ สามารถใช้นอนได้ 2 ด้าน ทั้งด้านแน่น เหมาะสำหรับแรกเกิดเป็นต้นไป และด้านนุ่มเหมาะสำหรับช่วงวัย 6 เดือน – 1ปี ขึ้นไป โดยแบ่งตามสรีระของแต่ละช่วงวัย ไม่ยวบง่าย ตัวไส้เบาะใช้วัสดุพิเศษ (EVA) ชนิดเดียวกับที่ใช้ทำยางกัดของทารก มาพร้อมโครงสร้างแบบรังนก 3 มิติ มีความยืดหยุ่นแต่ไม่ยวบ ผลิตจากวัสดุปลอดสารพิษระดับ food grade เนื้อเบาะ นุ่มแน่น รองรับสรีระของทารกได้อย่างเหมาะสม อากาศถ่ายเทได้ดี หายใจผ่านได้ มีให้เลือกด้วยกัน 3 ขนาด ทั้ง S, M, L
จุดเด่น
- หายใจผ่านได้ดีเยี่ยม ผ่านการทดสอบจากสถาบันวิจัยประเทศเบลเยี่ยมว่าหายใจได้ “จริง” และดีกว่าเบาะทั่วไปถึง 7 เท่า
- เนื้อเบาะนุ่ม รองรับสรีระที่เปลี่ยนแปลงไปของลูก ได้แก่ ลำคอ ช่วงบ่า รวมถึง น้ำหนักที่มากขึ้นด้วย
- ตัวเบาะสามารถหายใจผ่านได้ ลดความเสี่ยง การขาดอากาศหายใจในทารก ล้างทำความสะอาดง่าย ไม่สะสมไรฝุ่น ลดการเกิดภูมิแพ้
- เนื้อเบาะแน่นไม่ยวบ เหมาะสำหรับการทำ Tummy Time ฝึกกล้ามเนื้อและพัฒนาการ

5. AIRY O2 เบาะนอนหายใจผ่านได้สำหรับทารก ไซส์ L/70
เบาะนอนเด็ก Duo ของ Airy ตัวนี้เป็นไซส์ L ค่ะ สามารถใช้นอนได้ 2 ด้าน ทั้งด้านแน่น เหมาะสำหรับแรกเกิดเป็นต้นไป และด้านนุ่มเหมาะสำหรับช่วงวัย 6 เดือน – 1ปี ขึ้นไป โดยแบ่งตามสรีระของแต่ละช่วงวัย ไม่ยวบง่าย ตัวไส้เบาะใช้วัสดุพิเศษ (EVA) ชนิดเดียวกับที่ใช้ทำยางกัดของทารก มาพร้อมโครงสร้างแบบรังนก 3 มิติ มีความยืดหยุ่นแต่ไม่ยวบ ผลิตจากวัสดุปลอดสารพิษระดับ food grade เนื้อเบาะ นุ่มแน่น รองรับสรีระของทารกได้อย่างเหมาะสม อากาศถ่ายเทได้ดี หายใจผ่านได้ มีให้เลือกด้วยกัน 3 ขนาด ทั้ง S, M, L
จุดเด่น
- หายใจผ่านได้ดีเยี่ยม ผ่านการทดสอบจากสถาบันวิจัยประเทศเบลเยี่ยมว่าหายใจได้ “จริง” และดีกว่าเบาะทั่วไปถึง 7 เท่า
- เนื้อเบาะนุ่ม รองรับสรีระที่เปลี่ยนแปลงไปของลูก ได้แก่ ลำคอ ช่วงบ่า รวมถึง น้ำหนักที่มากขึ้นด้วย
- ตัวเบาะสามารถหายใจผ่านได้ ลดความเสี่ยง การขาดอากาศหายใจในทารก ล้างทำความสะอาดง่าย ไม่สะสมไรฝุ่น ลดการเกิดภูมิแพ้
- เนื้อเบาะแน่นไม่ยวบ เหมาะสำหรับการทำ Tummy Time ฝึกกล้ามเนื้อและพัฒนาการ
เบาะนอนที่ดีจะช่วยให้ลูกน้อยของคุณนอนหลับสบาย ปลอดภัย และมีการพัฒนาการที่ดี ดังนั้น การลงทุนซื้อเบาะนอนคุณภาพสูงจึงคุ้มค่าอย่างแน่นอนค่ะ และถ้าหากใครสนใจผลิตภัณฑ์เบาะนอนเด็ก หรือสินค้าแม่ และเด็กอื่นๆ ก็สามารถมาเยี่ยมชมสินค้าหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ BabyGift ร้านจำหน่ายสินค้าแม่และเด็กระดับคุณภาพ มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี คุณพ่อคุณแม่สามารถมาเยี่ยมมสินค้าได้ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ร้านเบบี้กิ๊ฟ ทั้ง 4 สาขา ใกล้บ้าน หรือ สอบถามผ่านช่องทาง Online ทีมงาน BabyGift ยินดีให้คำแนะนำค่ะ
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
เค้าว่ากันว่าท้องอ่อนเป็นช่วงที่เสี่ยงต่อการแท้งมากที่สุด เพราะฉะนั้นคุณแม่ส่วนใหญ่จึงกลัวที่จะออกกำลังกายมากโดยเฉพาะการวิ่ง อันที่จริงแล้ว การแท้งส่วนใหญ่นั้นจะเกิดขึ้นกับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ตอนที่มีอายุมาก โดยจะมีอัตราความเสี่ยงที่สูงกว่าคุณแม่ที่มีอายุน้อยค่ะ สาเหตุของการแท้งส่วนใหญ่มาจากความผิดปกติของทารกในครรภ์ หรือความผิดปกติของตัวคุณแม่เอง อย่างผู้ที่มีภาวะรกเกาะต่ำ หรือมีโรคประจำตัว นอกจากนี้ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือคาเฟอีนมากเกินไป หรือแม้แต่การใช้สารเสพติดก็นำไปสู่การแท้งได้เช่นเดียวกัน ส่วนคุณแม่ที่เคยแท้งมาก่อนหน้านี้ ก็มีโอกาสแท้งซ้ำได้สูงมากเหมือนกันเลยล่ะค่ะ เอาล่ะ มาเข้าเรื่องของการออกกำลังกายกันดีกว่าค่ะ จากที่เล่าไปก่อนหน้านี้ การออกกำลังกายไม่ได้เป็นหนึ่งในสาเหตุของการแท้งที่สำคัญ ถ้าการออกกำลังกายนั้นไม่ใช่การออกกำลังกายที่ต้องใช้แรงมากเกินไป เราลองมาดูกันค่ะว่าการออกกำลังกายที่เหมาะกับคุณแม่ท้องอ่อนนั้นได้แก่อะไรบ้าง 1. การเดิน การออกกำลังกายด้วยการเดินเป็นอะไรที่ง่ายที่สุดแล้วเนอะ แต่การเดินที่ถูกต้องนั้นควรจะเป็นการเดินที่ไม่เร็วจนเกินไป ไม่ลงน้ำหนักที่ส้นเท้ามากเกินไป และไม่เดินต่อเนื่องกันเป็นเวลานานมากเกินไปนะคะ นอกจากนี้ คุณแม่ยังควรที่จะต้องเดินในสถานที่ที่มีอากาศปลอดโปร่ง เพราะอากาศที่ปลอดโปร่งจะทำให้คุณแม่หายใจสะดวกขึ้น 2. โยคะ โยคะเป็นการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับคนท้องเป็นอย่างยิ่งค่ะ เพราะโยคะนั้นเป็นการออกกำลังกายที่ค่อยเป็นค่อยไป ไม่หักโหม หากคุณแม่เล่นท่าที่ถูกต้องและหายใจเข้าออกอย่างถูกวิธี นอกจากจะช่วยให้คุณแม่แข็งแรงแล้ว ยังเป็นการช่วยให้คุณแม่รู้สึกผ่อนคลายอีกด้วยค่ะ 3. ว่ายน้ำ การออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่แนะนำมากๆ เลยค่ะ เพราะในการว่ายน้ำนั้น คุณแม่จะมีตัวช่วยพยุงเป็นน้ำนั่นเองค่ะ นอกจากนี้ การว่ายน้ำยังเป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่งที่จะทำให้คุณแม่ได้ใช้ร่างกายทุกส่วนอีกด้วยนะ 4. การเต้นแอโรบิก การเต้นแอโรบิกที่ไม่หักโหมมากเกินไปนั้นเป็นการออกกำลังกายที่เราแนะนำสำหรับคุณแม่ท้องอ่อนเลยค่ะ แต่คุณแม่ก็ควรจะเลือกจังหวะเพลงที่ไม่เร็วเกินไป และไม่ควรออกท่าที่มีการกระโดด หรือมีการกระทบกระเทือนด้วยนะคะ ประโยชน์ของการออกกำลังกาย คุณแม่ท่านไหนที่กำลังกลัวการออกกำลังกายอยู่ก็อย่าเพิ่งกลัวไปนะคะ เพราะการออกกำลังกายที่ถูกต้องนั้นมีประโยชน์กับคุณแม่มากๆ เลย […]
คาร์ซีทนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับลูกน้อย และคุณพ่อคุณแม่ควรเตรียมพร้อมคาร์ซีทให้เรียบร้อยก่อนที่ลูกน้อยจะคลอด เพราะเมื่อออกจากโรงพยาบาลมาแล้วก็ต้องนั่งคาร์ซีทกลับบ้าน ทั้งเพื่อความปลอดภัยสำหรับลูกน้อยเอง และเพื่อปฏิบัติตามกฏหโมายเรื่องการกำหนดที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก (คาร์ซีท) ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม 2566 เป็นต้นไป สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกคาร์ซีท เด็กแรกเกิดอย่างไรดี ควรเลือกแบบไหน คาร์ซีทสำหรับเด็กมีกี่ประเภท เลือกอย่างไร BabyGift มีคำแนะนำดี ๆ มาฝากกันแล้วค่ะ เลือกคาร์ซีท เด็กแรกเกิด อย่างไรดี ? ต้องรู้อะไร ? เลือกยังไงดี หาคำตอบได้จากบทความนี้ ! คาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิด เป็นหนึ่งในสิ่งที่ต้องเตรียมไว้ให้กับลูกตั้งแต่ก่อนคลอด และควรที่จะให้ลูกได้ใช้ตั้งแต่วันแรกที่ออกจากโรงพยาบาล เนื่องจากร่างกายของเด็กทารกยังไม่แข็งแรง ยังไม่สามารถรับแรงกระแทกได้มากเท่าไหร่ อีกทั้งเราไม่รู้ว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ จึงควรป้องกันไว้ก่อนและเตรียมความพร้อมในทุกสถานการณ์ คาร์ซีท เด็กแรกเกิด จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ไม่รู้จะเลือกอย่างไรดี ต้องเลือกแบบไหน คาร์ซีท มีกี่แบบ ต้องเลือกอย่างไร ? ในบทความนี้ BabyGift มีเคล็ดลับดีๆ ในการเลือกซื้อคาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิดมาฝากกันค่ะ เรามารู้จักประเภทของคาร์ซีทกันก่อนเลย ซึ่งสามารถแบ่งประเภทของคาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิดได้ดังนี้ 1. New Born Only : หรือคาร์ซีทแบบกระเช้า คาร์ซีทประเภทนี้จะมีขนาดเล็ก […]
การทำความสะอาดของเล่นเด็ก ฆ่าเชื้อของเล่นเด็ก ถือเป็นเรื่องสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่อย่างเราต้องใส่ใจ โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่มีการแพร่ระบาดของโรคต่าง ๆ อยู่เรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็น ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ COVID-19 โรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันร้ายแรง (SARS) และไข้หวัดนก การใช้วิธีแบบเดิม ๆ ที่ได้ผลในอดีต อาจไม่เพียงพอในการป้องกันเชื้อโรคสายพันธุ์ใหม่ที่แฝงตัวอยู่รอบตัวได้ รวมไปถึงปัญหามลพิษในอากาศ เช่น ฝุ่น PM 2.5 ที่ทวีความรุนแรงขึ้นทุกปี การเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ ฆ่าเชื้อโรคของใช้ลูก จึงต้องเลือกที่สามารถใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ และใช้ได้กับทุกคนภายในครอบครัว เพื่อความคุ้มค่าสูงสุด ความต้องการทีเปลี่ยนไปของผู้บริโภคทำให้มีการคิดค้นผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ ๆ ที่นำเอาเทคโนโลยีเชิงวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้มากขึ้น โดยเฉพาะในประเทศแถบเอเชีย เช่น เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น และประเทศจีน โดยผลิตภัณฑ์เหล่านี้เกิดขึ้นมาเพื่อเป็นตัวเสริมจากการป้องกันตนพื้นฐาน เช่น การสวมหน้ากากอนามัย การพกพาเจลแอลกอฮอล์ทำความสะอาดมือ หรือการใช้สารฟอกขาวในการฆ่าเชื้อ ได้แก่ เทคโนโลยีเครื่องปล่อยโอโซน เครื่องผลิตไอออนประจุลบ เครื่องผลิตน้ำอิเล็กโทรไลต์ เครื่องฆ่าเชื้อด้วยรังสี UV เป็นต้นแต่อย่างไรก็ตามมีผลิตภัณฑ์มากมาย ที่ผลิตโดยไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัย หรือไม่ได้ประสิทธิภาพตามคำโฆษณา จึงก่อให้เกิดผลเสียมากกว่าผลดี หรือไม่ได้ผลในการฆ่าเชื้อโรค ฉะนั้นเพื่อความปลอดภัยสูงสุด คุณแม่จึงต้องทำความเข้าใจรูปแบบของการ […]
Ailebebe รุ่น Kurutto R The First 1 และ Kurutto R The First 2 เป็นคาร์ซีทเด็กแรกเกิดที่ผลิตจากประเทศญี่ปุ่น ที่มีนวัตกรรมความปลอดภัยล้ำสมัย ช่วยให้การเดินทางของลูกน้อยทั้งปลอดภัยและสะดวกสบาย และทั้ง 2 รุ่น มีคุณสมบัติที่เด่นและแตกต่างกัน ซึ่งสามารถตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย เราจะพาคุณพ่อคุณแม่มาทำความรู้จักกับความแตกต่างเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่เลือกคาร์ซีทที่เหมาะสมกับความต้องการของครอบครัวได้ค่ะ เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจเลือกซื้อคาร์ซีท Ailebebe รุ่น Kurutto R ได้อย่างเหมาะสมกับลูกน้อยมากที่สุด มาเริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจกันก่อนว่าทำไมรุ่นนี้ถึงเป็นที่นิยมและมีจุดเด่นอะไรบ้างนะคะ ทำไมต้องเลือก Ailebebe รุ่น Kurutto R ? 1. มาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงสุด : ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากสหภาพยุโรป R129 (i-Size) 2. การทดสอบที่แม่นยำ : ใช้เซ็นเซอร์วัดแรงกระแทกสูงสุดถึง 32 จุดบนหุ่นจำลอง และหุ่นไม่ได้รับการบาดเจ็บ 3. ทดสอบการชนที่เข้มงวด : ทดสอบการชนที่ความเร็ว 70-100 กม./ชม. เพื่อความปลอดภัยสูงสุด […]
ไหนๆ คุณแม่ท่านไหนกำลังแพ้ท้องบ้าง ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับคุณแม่ที่ไม่แพ้ท้องด้วยนะคะ เพราะคุณแม่โชคดีมาก การแพ้ท้องเป็นอะไรที่ทรมานมากๆ เลยค่ะ แต่คุณแม่ที่แพ้ท้องก็ไม่ต้องกลัวเหงานะ เพราะมีคุณแม่อีกกว่า 80% ที่ต้องเผชิญกับอาการนี้เช่นกัน อาการแพ้ท้องนี้มักจะเกิดขึ้นในช่วง 1-3 เดือนแรก แต่คุณแม่บางคนอาจจะต้องเผชิญกับอาการแพ้ท้องจนถึงไตรมาสสุดท้ายเลยก็ได้ค่ะ อาการแพ้ท้องเกิดจากอะไรกันนะ? รกที่เชื่อมระหว่างคุณแม่กับลูกน้อยนั้นจะสร้างฮอร์โมนตัวหนึ่งขึ้นมาชื่อว่า Human Chorionic Gonadotropin (HCG) ค่ะ ซึ่งเจ้าฮอร์โมนตัวนี้มีไว้เพื่อกระตุ้นให้รังไข่สร้างฮอร์โมนอื่นๆ ในช่วงระยะแรกของการตั้งครรภ์ค่ะ ระดับฮอร์โมน HCG ที่สูงขึ้นจะทำให้ประสาทรับกลิ่นของคุณแม่สูงขึ้นตามไปด้วย ในขณะที่ประสาทการรับรสชาติจะเปลี่ยนไป นอกจากนี้ เจ้า HCG ยังจะไปกระตุ้นศูนย์ควบคุมการอาเจียน ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางร่างกายต่างๆ คุณแม่จึงรู้สึกคลื่นไส้ เวียนหัว หรืออ่อนเพลียอยู่ตลอดเวลาค่ะ อาการแพ้ท้องเป็นยังไงหนอ?






