รวมรถเข็นเด็กพับได้ ยี่ห้อไหนดี แข็งแรง เข็นง่าย ปี 2025

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหารถเข็นเด็กพับได้ที่ตอบโจทย์การใช้งานจริง ในปี 2025 มีตัวเลือกมากมายจนอาจทำให้เลือกลำบาก จากรุ่นพื้นฐานไปจนถึงรุ่นพรีเมียมที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยี การเลือกรถเข็นเด็กพับได้ที่เหมาะสมจึงต้องคำนึงถึงความแข็งแรง ความสะดวกในการเข็น และฟีเจอร์ที่ตรงกับความต้องการของครอบครัว มาดูกันว่ามีตัวเลือกไหนบ้างที่น่าสนใจและคุ้มค่าสำหรับการลงทุน
รถเข็นเด็กพับได้ ต่างจากรถเข็นเด็กทั่วไปอย่างไร
รถเข็นเด็กพับได้มีจุดเด่นที่แตกต่างจากรถเข็นเด็กทั่วไปอย่างชัดเจน คือ ความสะดวกในการพับเก็บและพกพา น้ำหนักที่เบากว่า และขนาดที่กะทัดรัดเมื่อพับแล้ว ทำให้เหมาะสำหรับครอบครัวที่ชอบเดินทางหรือมีพื้นที่จำกัด ในขณะที่รถเข็นทั่วไปมักเน้นความแข็งแรงและฟีเจอร์ครบครัน แต่ขนาดใหญ่และเคลื่อนย้ายยาก
วิธีการเลือกรถเข็นเด็กพับได้

การเลือกรถเข็นเด็กพับได้ให้เหมาะสมต้องพิจารณาหลายปัจจัยสำคัญ เพื่อให้ได้ตัวที่ตรงกับความต้องการและใช้งานได้ยาวนาน
เลือกให้เหมาะสมกับช่วงวัยของเด็ก
การเลือกรถเข็นเด็กพับได้ตามช่วงวัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะแต่ละวัยมีความต้องการที่แตกต่างกัน
- เด็กแรกเกิด – 6 เดือน: เลือกแบบเอนนอนราบได้ ขนาดเล็กกะทัดรัด เหมาะกับโครงสร้างกระดูกที่ยังพัฒนาไม่เต็มที่
- เด็กอายุ 6 – 18 เดือน: เลือกแบบทั่วไปที่มีพนักพิงและเบาะขนาดใหญ่ขึ้น รองรับการเจริญเติบโต
- เด็กอายุ 1.5 – 4 ปี: เลือกแบบที่มีล้อขนาดใหญ่ โครงแข็งแรง รองรับน้ำหนักได้ดี
เลือกวัสดุที่แข็งแรง
วัสดุที่ใช้ในการผลิตรถเข็นเด็กพับได้มีผลต่อความทนทานและความปลอดภัย ควรเลือกโครงอะลูมิเนียมผสมที่แข็งแรงทนต่อการบิดงอ เบาะที่มีสปริงและฟองน้ำคุณภาพดี ผ้าหุ้มเบาะที่ระบายอากาศได้ดี ล้อทำจากพลาสติก PU ที่ทนทานและลดแรงกระแทก และหลังคาที่ป้องกันแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกวัสดุคุณภาพจะช่วยให้รถเข็นเด็กพับได้ใช้งานได้นานและปลอดภัย
เลือกที่มีมาตรฐานระดับสากล
รถเข็นเด็กพับได้ที่ดีควรมีมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล พร้อมระบบความปลอดภัยที่รัดกุม ระบบล็อกโครงรถเข็นที่มั่นคง เข็มขัดนิรภัยที่ใช้งานง่าย และระบบล็อกล้อหลังที่ป้องกันการลื่นไถล การมีมาตรฐานเหล่านี้จะช่วยให้มั่นใจในความปลอดภัยของลูกน้อย
เลือกที่มีฟังก์ชันเพิ่มเติม
ฟีเจอร์พิเศษของรถเข็นเด็กพับได้ที่น่าสนใจ ได้แก่ การปรับเอนได้หลายระดับ ระบบเข็นแบบ 2 ทิศทาง หลังคาพร้อมหน้าต่างระบายอากาศ และช่องเก็บของขนาดใหญ่ ฟังก์ชันเหล่านี้จะเพิ่มความสะดวกสบายและประสิทธิภาพการใช้งาน ทำให้รถเข็นเด็กพับได้ตอบโจทย์การใช้งานได้มากขึ้น
แนะนำ 8 รถเข็นเด็กพับได้ คุณภาพดีจาก BabyGift

BabyGift ได้คัดสรรรถเข็นเด็กพับได้คุณภาพดี 8 รุ่นที่โดดเด่น ตั้งแต่รุ่นเบสิกไปจนถึงรุ่นพรีเมียม แต่ละรุ่นผ่านการทดสอบและมีมาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล
1. รถเข็นเด็ก Prince & Princess AUTOPACT Plus
รถเข็นเด็ก Prince & Princess AUTOPACT Plus เป็นนวัตกรรมใหม่ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับคุณแม่ที่รักการท่องเที่ยวและเดินทางบ่อย ด้วยน้ำหนักเบาเพียง 7 กิโลกรัม พร้อมระบบพับกางอัตโนมัติที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว รุ่นนี้มาพร้อมเสริมยางยืดใต้เบาะช่วยให้การพับเก็บทำได้ง่ายและสมูท รองรับน้ำหนักได้ถึง 22 กิโลกรัม จึงใช้ได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 3 ขวบ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวที่ต้องการความสะดวกสบายในทุกการเดินทาง
จุดเด่น
- ระบบพับอัตโนมัติล้ำสมัย เพียงกดปุ่มครั้งเดียวที่บริเวณด้ามจับ รถเข็นจะพับเก็บได้เองอัตโนมัติอย่างรวดเร็ว พร้อมถือขึ้น-ลงบันไดเลื่อนและขึ้นรถได้ง่าย
- กางเร็วใน 3 วินาที ระบบกางออกอัตโนมัติ เพียงจับด้ามเข็นยกขึ้น รถเข็นจะกางออกเองพร้อมใช้งานทันทีโดยไม่ต้องออกแรง
- เบาะหนานุ่มพิเศษ เบาะรองนั่งหนา 10 มิลลิเมตร ช่วยรองรับน้ำหนักและแผ่นหลังได้มั่นคง ลูกนั่งสบายแม้เป็นเวลานาน
- ที่วางเท้าขยายพิเศษ ออกแบบเพิ่มความยาว 21 ซม. เพื่อให้เด็กแรกเกิดนอนราบได้เต็มที่
2. รถเข็นเด็ก KINDERKRAFT รุ่น NUBI 2
รถเข็นเด็กพับได้จากเยอรมันที่โดดเด่นด้วยคุณภาพยุโรป ออกแบบเพื่อเด็กแรกเกิดโดยเฉพาะ ปรับเอนนอนราบได้ทารกนอนสบาย พร้อมพับกางได้ง่าย
จุดเด่น
- ปรับเอนนอนราบได้ 165 องศา เหมาะกับทารกแรกเกิด
- ล้อหน้าหมุนได้ 360 องศา เข็นได้คล่องตัวในที่แคบ
- หลังคาขนาดใหญ่ป้องกัน UPF50+ และกันน้ำได้
- มีมุ้งกันยุงในตัว พับเก็บและกางออกได้ตามต้องการ
3. รถเข็นเด็ก Foppapedretti รุ่น LIKE
รถเข็นเด็ก Foppapedretti LIKE เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดจากแบรนด์อิตาเลียนชื่อดัง ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองการใช้งานในชีวิตประจำวันของครอบครัวสมัยใหม่ ด้วยน้ำหนักเบาเพียง 7.8 กิโลกรัม ทำให้เหมาะสำหรับการพกพาและสามารถขึ้นเครื่องบินได้ (Cabin Friendly) รุ่นนี้โดดเด่นด้วยระบบพับง่ายด้วยมือเดียว พร้อมตั้งได้เองโดยไม่ต้องพิง ครบครันด้วยฟีเจอร์ที่จำเป็นสำหรับการใช้งานทุกวัน ตั้งแต่หลังคากันแดดกันน้ำไปจนถึงตะกร้าเก็บของขนาดใหญ่
จุดเด่น
- ระบบพับอัจฉริยะ พับง่ายด้วยมือเดียว พร้อมตั้งได้เองโดยไม่ต้องพิง ใช้งานสะดวกในทุกสถานการณ์
- เบาะนั่งปรับได้เต็มที่ ปรับเอนนอนได้มาก รองรับการนอนหลับได้อย่างเต็มที่ เหมาะสำหรับเด็กทุกช่วงวัย
- หลังคาป้องกันครบครัน กันแดด UPF50+ พร้อมซิปกันน้ำและช่องมองลูก ปกป้องลูกน้อยได้อย่างรอบด้าน
- เข็มขัดนิรภัยสุดสะดวก ระบบ EasyClose พร้อมหัวล็อกแม่เหล็ก ใช้งานง่ายและให้ความปลอดภัยสูง
4. รถเข็นเด็ก Foppapedretti รุ่น TicToc
รถเข็นเด็ก Foppapedretti TicToc เป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงจากประเทศอิตาลี ที่โดดเด่นด้วยโครงสร้างขนาดใหญ่ให้ความทนทาน แต่สามารถพับได้บางไม่กินพื้นที่ ด้วยน้ำหนักรวม 9.8 กิโลกรัม รุ่นนี้รองรับการใช้งานตั้งแต่เด็กแรกเกิดจนถึงอายุ 5 ขวบ น้ำหนักสูงสุด 22 กิโลกรัม ผ่านมาตรฐาน EN1888 พร้อมโครงสร้างอลูมิเนียมแข็งแรงทนทานสูง และสามารถขึ้นเครื่องบินได้ด้วยระบบ Gate Check รับประกันสินค้า 5 ปีโดย BabyGift ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรายเดียวในประเทศไทย
จุดเด่น
- โครงใหญ่พับเล็กอัจฉริยะ โครงสร้างใหญ่ทนทาน พับได้บางไม่กินพื้นที่ พับแล้วลากได้โดยไม่ต้องยก ออกแบบให้มั่นคง balance แม้แขวนของเยอะ
- เข็นได้ 2 ทิศทาง ล้อรองรับการเข็น 2 ทิศทาง เพียงยกสลับฝั่งที่นั่ง เหมาะสำหรับดูแลลูกแรกเกิดได้สบายใจ
- ปรับได้หลากหลาย เอนนอนราบถึง 170 องศา เอนนั่งตรงถึง 80 องศา เหมาะกับเด็กวัย 6 เดือนขึ้นไป ปรับได้ดีกว่ารถเข็นทั่วไป
- ระบายอากาศเยี่ยม โครงสร้างมีรูระบายอากาศตลอดช่วงหลัง หมดปัญหานั่งแล้วหลังแฉะ
5. รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Luxuna Cushion
รถเข็นเด็ก Aprica Luxuna Cushion เป็นผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงที่คิดค้นวิจัยโดยกุมารแพทย์จากประเทศญี่ปุ่น โดดเด่นด้วยโครงสร้างที่ดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ดีเยี่ยม พร้อมการออกแบบที่เลี้ยวง่ายในทางแคบ รุ่นนี้มาพร้อมหมอน Mamoru Support ที่รองรับสรีระศาสตร์ของทารก ให้ลูกน้อยนอนสบายในทุกการเดินทาง ด้วยน้ำหนักเพียง 5.6 กิโลกรัม ทำให้เคลื่อนย้ายสะดวก เหมาะสำหรับใช้ตั้งแต่เด็กแรกเกิดจนน้ำหนัก 18 กิโลกรัม
จุดเด่น
- ป้องกัน Baby Shaken Syndrome ด้วย Omega Cushion สปริงรูปตัว M ใต้เบาะ ดูดซับแรงสั่นสะเทือนได้ถึง 36% พร้อมโช้ค 4 ล้อลดแรงกระแทก
- ล้อหมุนอัตโนมัติครบครัน ทั้ง 4 ล้อหมุน 360 องศา บังคับทิศทางง่าย เลี้ยวสะดวกแม้ในทางแคบ
- หมอน Mamoru Support คู่ ประคองศีรษะและลำคอป้องกันคอพับ พร้อมหมอนรองสะโพกช่วยให้กระดูกสันหลังตั้งตรง
- High Seat ป้องกันมลพิษ เบาะนั่งสูงจากพื้น 55 ซม. พร้อมฉนวนสะท้อนความร้อนจดสิทธิบัตรเฉพาะ Aprica ป้องกันฝุ่นและความร้อน
6. รถเข็นเด็ก Copper รุ่น Crown
รถเข็นเด็ก Copper Crown เป็นผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมที่โดดเด่นด้วยวัสดุใหม่เฟรม PVD เงาสวยหรูทนทาน ออกแบบให้พับกางง่าย พับแล้วลากได้ไม่ต้องยก พร้อมขนาดกะทัดรัดที่พกขึ้นเครื่องบินได้สะดวก รุ่นนี้ใช้งานได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิดด้วยเบาะปรับนอนราบได้ และยังคงสบายสำหรับเด็กวัย 5-6 ขวบ มาพร้อมตะกร้าใหญ่จุใจที่สามารถพับได้แม้มีของอยู่ในตะกร้า พร้อมของแถม 15 รายการและเบาะให้เลือก 3 สี
จุดเด่น
- วัสดุเฟรม PVD ใหม่ เงาสวยหรูทนทานระดับพรีเมียม ให้ความรู้สึกหรูหราแตกต่างจากรถเข็นทั่วไป
- พับกางสุดสะดวก พับง่าย พับแล้วลากได้ไม่ต้องยก พับได้เล็กพกขึ้นเครื่องบินได้ พับได้แม้มีของในตะกร้า
- ล้อแข็งแรงครบครัน แบบลูกปืนมีโช๊คทั้ง 4 ล้อ ตะลุยได้ทุกพื้นผิว สามารถถอดล้อเปลี่ยนเป็น Big Wheels ได้
- ตะกร้าใหญ่จุใจ ใส่ได้ทุกสิ่ง แขวนของด้านหลังได้ถึง 8 กิโลกรัม ไม่มีเด็กนั่งก็ไม่ล้ม
7. รถเข็นเด็ก Keenz รุ่น Air Plus Pro
รถเข็นเด็กพับได้ที่โดดเด่นด้วยความจุสัมภาระสูงและการออกแบบที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด สามารถใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดถึงประมาณ 5 ปี
จุดเด่น
- รับน้ำหนักได้ถึง 60 กิโลกรัม รวมเด็กและสัมภาระ ใช้ได้ถึง 5 ปี
- ตะกร้าสัมภาระขนาดใหญ่มาก เบาะยาว 85 เซนติเมตร กว้าง 35 เซนติเมตร
- ล้อแบบตลับลูกปืนมีโช๊คทั้ง 4 ล้อ หลังคาแบบ Full Canopy
- เบาะปรับเอนได้ถึง 175 องศา พนักพิงปรับอัตโนมัติ
8. รถเข็นเด็ก Copper รุ่น Cruise
สรุปบทความ
การเลือกรถเข็นเด็กพับได้ที่เหมาะสมต้องพิจารณาถึงช่วงวัยของลูก วัสดุที่แข็งแรง มาตรฐานความปลอดภัย และฟีเจอร์ที่ตรงกับความต้องการ ทั้ง 8 รุ่นที่แนะนำล้วนผ่านการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน BabyGift เข้าใจดีว่าการเลือกซื้อรถเข็นเด็กพับได้เป็นการลงทุนสำคัญ จึงพร้อมให้คำปรึกษาและบริการทดลองใช้งานจริง เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่มั่นใจในทุกการตัดสินใจ และลูกรักได้รับความสะดวกสบายปลอดภัยสูงสุดในทุกการเดินทาง
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
เชื่อว่าคุณแม่หลายๆท่านเมื่อตั้งครรภ์ลูกน้อย มักมีคำถามมากมายที่อยากรู้ มีเรื่องให้กังวล ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างของคุณแม่ที่เปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ หรือพัฒนาการลูกน้อยในท้องที่กำลังค่อยๆเติบโต โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณแม่มือใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์มีลูกมาก่อน ไม่ต้องกังวลไปค่ะ วันนี้ BABYGIFT มาพร้อม แอพคนท้อง ที่เต็มไปด้วยความรู้แน่นๆ เกี่ยวกับคุณแม่และการเลี้ยงลูก แถมยังมีฟังก์ชั่นเลิศๆ ให้คุณแม่โหลดแอพพลิเคชั่นนี้ไว้ติดมือถือ รับรองได้ใช้ประโยชน์แน่นอน App : เพลงสำหรับการตั้งครรภ์แอพรวบรวมเพลงหลายสไตล์เปิดให้ลูกในครรภ์ฟังดาวน์โหลด ฟรี : Android เป็นแอพที่รวบรวมเพลงสำหรับการตั้งครรภ์ ฟรี! มีสไตล์เพลงดนตรีคลาสสิกหลากหลายที่จะช่วยให้คุณแม่และลูกน้อยในท้องอารมณ์ดี โดยดนตรีคลาสสิกนั้นได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นเพลงของปัญญา ที่จะช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองในการพัฒนาเด็กทารก ช่วยให้คุณแม่ลดความเครียดและความวิตกกังวลลงได้ รวมไปถึงภาวะซึมเศร้าที่หญิงตั้งครรภ์หลายคนนั้นมีอาการ เมื่อคุณแม่มีอารมณ์ที่ดีอยู่เสมอ ทุกๆวันร่างกายจะหลั่งสารแห่งความสุขออกมาผ่านไปยังสายสะดือสู่ทารก ทำให้ลูกน้อยมีพัฒนาการที่ดีทั้งสมอง (IQ) และอารมณ์ (EQ) อีกด้วย เมื่อรู้ถึงเหตุผลดีๆ ของการเปิดเพลงให้เจ้าตัวน้อยในท้องฟังแล้ว ลองตามไปโหลดแอพแล้วเปิดเพลงให้อารมณ์ดีทั้งแม่ทั้งลูกกันได้เลย App : Pregnancy yoga Exercisesแอพสอนโยคะออกกำลังกายที่บ้าน สำหรับคนท้องดาวน์โหลด ฟรี : Android เป็นแอพโยคะสำหรับคนตั้งครรภ์ ที่คุณแม่สามารถโยคะออกกำลังกายเบาๆที่บ้านตามได้ และรู้เทคนิคการผ่อนคลายอื่นๆที่ทำได้ระหว่างตั้งครรภ์ เพียงทำตามบทเรียนและแบบฝึกหัดโยคะที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะสำหรับสตรีมีครรภ์ หากคุณแม่พึ่งเริ่มออกกำลังกายใหม่ๆ ควรเริ่มจากการเคลื่อนไหวเล็กๆ น้อยๆ […]
คาร์ซีทนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับลูกน้อย และคุณพ่อคุณแม่ควรเตรียมพร้อมคาร์ซีทให้เรียบร้อยก่อนที่ลูกน้อยจะคลอด เพราะเมื่อออกจากโรงพยาบาลมาแล้วก็ต้องนั่งคาร์ซีทกลับบ้าน ทั้งเพื่อความปลอดภัยสำหรับลูกน้อยเอง และเพื่อปฏิบัติตามกฏหโมายเรื่องการกำหนดที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก (คาร์ซีท) ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม 2566 เป็นต้นไป สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกคาร์ซีท เด็กแรกเกิดอย่างไรดี ควรเลือกแบบไหน คาร์ซีทสำหรับเด็กมีกี่ประเภท เลือกอย่างไร BabyGift มีคำแนะนำดี ๆ มาฝากกันแล้วค่ะ เลือกคาร์ซีท เด็กแรกเกิด อย่างไรดี ? ต้องรู้อะไร ? เลือกยังไงดี หาคำตอบได้จากบทความนี้ ! คาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิด เป็นหนึ่งในสิ่งที่ต้องเตรียมไว้ให้กับลูกตั้งแต่ก่อนคลอด และควรที่จะให้ลูกได้ใช้ตั้งแต่วันแรกที่ออกจากโรงพยาบาล เนื่องจากร่างกายของเด็กทารกยังไม่แข็งแรง ยังไม่สามารถรับแรงกระแทกได้มากเท่าไหร่ อีกทั้งเราไม่รู้ว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ จึงควรป้องกันไว้ก่อนและเตรียมความพร้อมในทุกสถานการณ์ คาร์ซีท เด็กแรกเกิด จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ไม่รู้จะเลือกอย่างไรดี ต้องเลือกแบบไหน คาร์ซีท มีกี่แบบ ต้องเลือกอย่างไร ? ในบทความนี้ BabyGift มีเคล็ดลับดีๆ ในการเลือกซื้อคาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิดมาฝากกันค่ะ เรามารู้จักประเภทของคาร์ซีทกันก่อนเลย ซึ่งสามารถแบ่งประเภทของคาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิดได้ดังนี้ 1. New Born Only : หรือคาร์ซีทแบบกระเช้า คาร์ซีทประเภทนี้จะมีขนาดเล็ก […]
คาร์ซีทหมุนได้ จำเป็นต่อคุณพ่อ คุณแม่อย่างไร คุณพ่อและคุณแม่ทุกคน พยายามและสรรหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกน้อยเสมอ เพราะลูกน้อยคือแก้วตาดวงใจของคุณพ่อและคุณแม่ แต่จะดีกว่าไหมถ้าสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อยยังสร้างความสะดวกสบายสำหรับคุณพ่อและคุณแม่ไปพร้อมกัน การเลือกซื้อคาร์ซีทก็เหมือนกัน นอกจากจะดีที่สุด ปลอดภัยที่สุดแล้ว คุณพ่อคุณแม่ยังคงต้องคำนึงถึงความสะดวกสบายในการใช้งาน ต่อทั้งกับคุณพ่อ คุณแม่ และลูกน้อยอีกด้วย และหนึ่งในปัญหาชวนปวดหัวสำหรับคุณพ่อ คุณแม่ในการใช้คาร์ซีท อย่างปัญหาการอุ้มลูกน้อยเวลาขึ้นลงรถ หรือปัญหาที่จอดรถแคบเกินไป ที่ทำให้การอุ้มลูกน้อยขึ้นลงรถลำบาก อาจจะชนกับรถ หรือกำแพง ที่อาจเป็นอันตรายต่อทั้ง คุณพ่อ คูณแม่ และลูกน้อยได้ ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปถ้าคุณพ่อ และคุณแม่เลือกใช้คาร์ซีทแบบ Convertible Carseat คาร์ซีทหมุนได้ 2 ทิศทาง หรือคาร์ซีทที่หมุนได้ 360 องศา ที่นอกจากปกป้องลูกน้อยได้แล้ว ยังเพิ่มเติมความสะดวกสบายให้กับคุณพ่อคุณแม่ได้อีกด้วย นอกจากนี้คาร์ซีทหมุนได้ยังมีข้อดีอีกมากมาย ทาง Baby Gift จึงขอพา คุณพ่อ คุณแม่ มาเข้าใจถึงข้อดีของคาร์ซีทหมุนได้กันค่ะ ข้อดีของการใช้ คาร์ซีทหมุนได้ .คุณพ่อ และคุณแม่ สะดวกสบายในการอุ้มลูกน้อยขึ้นลงรถ […]
คุณแม่ท้องหรือคุณแม่หลังคลอด ที่อยากเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อยากสต็อกนมแม่ให้ได้เยอะ ๆ หลายคนเลยเกิดข้อสงสัยว่า นอกจากอาหารการกินที่ช่วยเพิ่มน้ำนมได้แล้ว วิธีนวดกระตุ้นน้ำนม การนวดเต้านม นวดเปิดท่อน้ำนม ที่ได้เห็นผ่านตาตามฟีดข่าวโซเชียลต่าง ๆ นั้น ช่วยเพิ่มน้ำนมได้จริงไหม แล้วมีเทคนิคอย่างอื่นช่วยกระตุ้นน้ำนมได้หรือเปล่า วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยให้คุณแม่และแชร์เทคนิคดี ๆ ให้คุณแม่ได้อ่านกันค่ะ การนวดเต้านม ช่วยกระตุ้นน้ำนมได้จริงไหม การนวดเต้านมให้ผ่อนคลายในท่าต่าง ๆ แบบนวดธรรมชาติทั่วไป ไม่ได้มีการรีดน้ำนมของคุณแม่ให้ออกมาแบบเกลี้ยงเต้า จะมีข้อดีคือจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของระบบต่าง ๆ ช่วยให้คุณแม่รู้สึกสบาย ผ่อนคลาย ลดปัญหาคัดตึงเต้านมได้ แต่การนวดแบบไม่ได้รีดน้ำนมออกมาให้เกลี้ยงเต้า ก็จะไม่ได้ช่วยกระตุ้นสร้างน้ำนมเท่าที่ควรนะคะ เพราะยังมีน้ำนมค้างเต้าอยู่ ร่างกายของคุณแม่ก็จะไม่สั่งผลิตน้ำนมเพิ่มค่ะ วิธีนวดกระตุ้นน้ำนม นวดแบบไหนช่วยเพิ่มน้ำนมได้ ? จากข้อมูลของคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านนมแม่ คุณหมอจะแนะนำให้บีบเต้านมในท่าที่ถูกวิธีด้วยมือ รีดน้ำนมของคุณแม่ให้ออกมาจนเกลี้ยงเต้า และการทำกระตุ้นจี๊ดนวดหัวนมไปด้วยเพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้น้ำนมเกลี้ยงเต้ามากขึ้น เมื่อน้ำนมเกลี้ยงเต้าแล้ว ร่างกายคุณแม่ก็จะสั่งผลิตน้ำนมใหม่มาทดแทน หากเอาลูกน้อยเข้าเต้าบ่อย ๆ ควบคู่ไปด้วย ร่างกายก็จะรับรู้ว่าลูกมีความต้องการ ก็จะรีบผลิตน้ำนมแม่เพิ่มอีก ก็จะทำให้มีน้ำนมมากขึ้นได้จริง ซึ่งคุณแม่ต้องรู้วิธีนวดเต้านมที่ถูกต้องก่อนนะคะ และต้องฝึกทำบ่อย ๆ ด้วยค่ะ 4 วิธีนวดกระตุ้นน้ำนม ให้เห็นผล คุณแม่ต้องใช้ขวดนม หรือ แก้ว […]
ความปรารถนาสูงสุดของคุณพ่อคุณแม่ คือการได้เห็นลูกน้อยเติบโตอย่างมีคุณภาพ มีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ พร้อมด้วยความเก่ง ฉลาด เป็นผู้ใหญ่ที่มีศักยภาพในอนาคต ดังนั้นเมื่อลูกน้อยลืมตาดูโลก คุณแม่ทุกท่านจึงตั้งใจเต็มที่ที่จะให้น้ำนมแม่แก่ลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิดและมอบนมแม่ให้เป็นสุดยอดอาหารของลูกรักไปนานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เราจึงเห็นว่าปัจจุบัน คุณแม่มีการเตรียมพร้อมเพื่อจะเป็นคุณแม่นักปั๊ม ทำนมแม่สต๊อกไว้ให้ลูกน้อยกันแต่เนิ่นๆ แต่คุณแม่รู้ไหมว่า…นอกจากการปั๊มนมที่ต้องพิถีพันใส่ใจในทุกรายละเอียดแล้ว วิธีการเก็บสต๊อกนมแม่ก็มีความสำคัญเช่นกัน เพราะหากคุณแม่เก็บไม่ถูกต้อง ไม่ถูกวิธี อาจทำให้นมแม่ก็เก็บบูดเสีย ลูกกินไม่ได้ รวมถึงหากเช่เย็นเก็บหรือละลายในอุณหภูมิไม่เหมาะสม ก็ทำให้นมแม่สูญเสียคุณค่าสารอาหารสำคัญและจำเป็นต่อสมองและร่างกายของลูกน้อยไปแบบน่าเสียดาย เสียทั้งกำลังกาย กำลังใจ นมแม่ที่โภชนาการดีๆมากมาย กลับเสียหายไปไร้ประโยชน์ ดังนั้นเราจึงขอแนะนำ วิธีการเก็บน้ำนมแม่สต๊อกที่ถูกต้อง พร้อมเคล็ดลับเรื่องการเก็บนมแม่ไว้ไม่ให้เหม็นหืน เพื่อให้ลูกน้อยกินนมแม่จากสต๊อกได้อย่างเต็มที่ และมีความสุข วิธีเก็บน้ำนมแม่สต๊อก ขั้นตอนการปั๊มและ วิธีเก็บน้ำนมแม่สต๊อก ระยะเวลาการเก็บน้ำนมแม่ วิธีเก็บนมแม่สต๊อก ระยะเวลาที่เก็บได้ ตั้งทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง ไม่เข้าตู้เย็น เก็บได้ 1 ชั่วโมง ตั้งทิ้งไว้ในห้องปรับอากาศ (ไม่เข้าตู้เย็น) เก็บได้ 4 ชั่วโมง ในกระติกน้ำแข็งที่มีน้ำแข็งตลอดเวลา เก็บได้ 1 วัน ใส่ตู้เย็น ช่อง/ชั้นธรรมดา เก็บได้ 3-5 วัน ใส่ตู้เย็นแบบ 1 […]
ตัวช่วยสำคัญที่จะช่วยให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้เต็มที่ตามความตั้งใจ เพื่อให้ลูกน้อยทารกได้กินน้ำนมแม่ตั้งแต่แรกเกิดและต่อเนื่องยาวนานที่สุด คือ เครื่องปั๊มนม เพราะเครื่องปั๊มนมที่ดีจะมีข้อดีและมีประโยชน์ต่อคุณแม่และลูกน้อยมากมาย ได้แก่ แต่การที่คุณแม่จะใช้ เครื่องปั๊มนม ให้ได้คุ้มค่า จำเป็นต้องศึกษาข้อมูล ปรึกษาผู้มีประสบการณ์และเลือกซื้อให้เหมาะสมกับการใช้งานของคุณแม่เอง เพราะปัจจุบันมีเครื่องปั๊มนมให้คุณแม่เลือกซื้อมากมาย หลายแบบ และมีราคาที่แตกต่าง คุณแม่จึงต้องพิจารณาเลือกถึงความจำเป็นที่จะต้องใช้ และเรียนรู้ว่าเลือกแบบไหนจะเหมาะกับเราและลูกน้อย ฉะนั้นเราจึงขอแนะนำให้คุณแม่ได้รู้จักกับเครื่องปั๊มนมแบบต่างๆ ที่มีขายในปัจจุบัน การทำงานที่น่าสนใจลักษณะการใช้งาน และคุณสมบัติที่น่ารู้ รวมถึงวิธีการเลือกซื้อในแบบที่ใช่มากที่สุด 1. เครื่องปั๊มนม แบบปั๊มมือ 2. เครื่องปั๊มนมแบบใช้แบตเตอรี่ 3. เครื่องปั๊มนมแบบใช้ไฟฟ้า เลือก เครื่องปั๊มนม แบบไหน? ที่ใช่สำหรับคุณแม่ เพราะเครื่องปั๊มนมเป็นตัวช่วยคู่ใจ ให้คุณแม่ทำสต๊อกน้ำนมแม่ให้ลูกน้อยได้เต็มที่ ดังนั้นคุณแม่จำเป็นต้องคำนึงถึงคุณภาพของเครื่องปั๊มนมเป็นสำคัญ โดยควรเลือกเครื่องปั๊มนมที่เหมาะกับครอบครัว และมีประสิทธิภาพต่างๆ ดังนี้






