พัฒนาการทารกในครรภ์ ที่คุณแม่ตั้งท้องต้องรู้ – BabyGift

เมื่อเริ่มตังครรภ์ มีเจ้าตัวเล็กเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย คุณแม่ทุกคนก็ต้องตื่นเต้นอยากเจอหน้าลูกและสงสัยว่า พัฒนาการทารกในครรภ์ ไปถึงไหนแล้วใช่ไหมคะ เราจึงนำพัฒนาการของลูกน้อยตลอดเก้าเดือนที่อยู่ในท้องของคุณแม่มาให้ชมกัน เบบี้กิ๊ฟขอแสดงความยินดีกับคุณแม่ทุกท่านด้วยนะคะ
ลูกน้อยตัวโตแค่ไหนแล้ว เราลองเทียบกับผลไม้ให้ดูค่ะ

พัฒนาการทารกในครรภ์ ที่คุณแม่มือใหม่ต้องรู้
พัฒนาการทารกในครรภ์ เดือนที่ 1
พัฒนาการทารกในครรภ์เดือนที่ 1 คุณแม่ส่วนใหญ่จะรู้ตัวว่าตั้งครรภ์ก็เข้าเดือนที่สองไปแล้ว เพราะว่าในเดือนแรกนี้จะเป็นช่วงที่ไข่กับอสุจิเข้าผสมกัน มีการแบ่งเซลล์แล้วก็ฝังตัวของเอ็มบริโอ ซึ่งในระยะนี้เจ้าหนูน้อยก็จะเล็กจิ๋วมาก ๆ เลยล่ะค่ะ มีขนาดไม่ถึงหนึ่งเซนติเมตรเท่านั้นเอง ส่วนการพัฒนาหลัก ๆ ก็จะเป็นการพัฒนาในส่วนของรก เพื่อเตรียมพร้อมรอรับสารอาหารจากคุณแม่

พัฒนาการทารกในครรภ์ เดือนที่ 2
พัฒนาการทารกในครรภ์เดือนที่ 2 เดือนนี้แหละที่คุณแม่หลาย ๆ ท่านจะเริ่มรู้ตัว มีอาการแพ้ท้อง แล้วก็ไปหาคุณหมอเพื่อการฝากครรภ์กันแล้ว ในช่วงเดือนนี้ลูกน้อยจะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมมาก ประมาณ 2-3 เซนติเมตร แต่ก็จะยังไม่ได้รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของรูปร่างอะไรมากมาย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการพัฒนาของระบบประสาท เนื้อเยื่อเส้นใยประสาท แล้วก็ไขสันหลัง คุณแม่สามารถทำอัลตราซาวด์เพื่อฟังเสียงหัวใจของลูกน้อยเต้นได้แล้วนะคะ

พัฒนาการทารกในครรภ์เดือนที่ 3
ทารกในครรภ์จะมีน้ำหนักประมาณ 28 กรัม และมีความยาวประมาณ 7.6 ซ.ม. แล้วค่ะ เป็นช่วงที่ทารกกำลังพัฒนาต่อมรับรส เรียนรู้รสชาติจากอาหารที่คุณแม่ทาน อวัยวะภายในเริ่มทำงานแล้ว คุณแม่จะได้เห็นอวัยวะอย่างชัดเจน เช่น เล็บ ตา ปาก หู จมูก แขนขา และผมขึ้น นอกจากนี้อวัยวะเพศลูกน้อยก็จะเริ่มพัฒนาขึ้น แต่อาจจะเห็นได้ไม่ชัดเจนมาก ในเดือนนี้เสียงหัวใจเต้นของลูกน้อยจะชัดมาก คุณแม่สามารถใช้เครื่องเครื่องฟังเสียงหัวใจทารกในครรภ์ แบบพกพาได้นะคะ เช่น แบรนด์ Jumper AngelSounds ที่มีวางขายอย่างแพร่หลายทั่วยุโรปและอเมริกา ถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่าย สามารถใช้เองได้ที่บ้านค่ะ

พัฒนาการทารกในครรภ์เดือนที่ 4
เดือนที่ 4 น่าจะเป็นเดือนที่คุณแม่หลาย ๆ คนรอคอย เพราะคุณหมอจะสามารถอัลตร้าซาวด์เห็นเพศของลูกน้อยได้ชัดเจนและแม่นยำแล้ว ลูกน้อยจะมีความยาวของตัวได้มากถึง 18 เซนติเมตร และช่วงนี้ระบบประสาทต่าง ๆ ก็จะเริ่มทำงานแล้ว ลูกน้อยจะสามารถทำสีหน้าต่าง ๆ ได้ สามารถขยับแขนขาได้คล่องแคล่วกว่าเดิม แล้วบางทีคุณแม่ก็อาจจะเห็นเขาดูดนิ้วอยู่เวลาอัลตราซาวด์ด้วย เดือนนี้รู้เพศลูกแล้วคุณแม่สามารถเตรียมของใช้ให้ลูกได้นะคะ เตรียมอะไรบ้างเช็กได้เลยค่ะ Baby Checklist

พัฒนาการทารกในครรภ์เดือนที่ 5
เดือนนี้ลูกน้อยจะพัฒนาประสาทสัมผัสต่าง ๆ ได้ดีขึ้น อาจมีการตอบสนองต่อแสงหรือเสียงรอบตัว คุณพ่อคุณแม่สามารถเล่านิทานหรือเปิดเพลงเบา ๆให้ลูกน้อยในครรภ์ฟังได้ และเดือนนี้ลูกน้อยจะเริ่มดิ้นแล้วนะคะ แต่ถ้าคุณแม่คนไหนยังไม่รู้สึกถึงการดิ้นก็อย่าเพิ่งเป็นกังวล เพราะบางทีคุณแม่อาจจะมีผนังหน้าท้องที่หนา ทำให้ยังไม่รู้สึกถึงการดิ้นของเจ้าตัวจิ๋ว ตอนนี้ลูกน้อยจะมีขนาดตัวยาวประมาณไม่เกิน 25 เซนติเมตร น้ำหนักก็จะเพิ่มขึ้นกว่าเดือนที่แล้วเท่าตัว หากคุณแม่มีอาหารปวดหลังหรือไม่สบายตัว ก็สามารถใช้เข็มขัดพยุงครรภ์ได้นะคะ เช่น แบรนด์ Ministry of mama, Mammy Village ที่สวมใส่สบาย ลดแรงกดบริเวณหน้าท้องและสะโพกได้ดี

พัฒนาการทารกในครรภ์เดือนที่ 6
ในเดือนนี้ลูกน้อยจะคุ้นเคยกับเสียงของคุณแม่แล้วค่ะ เพราะประสาททางการได้ยินของลูกพัฒนามากแล้วคุณแม่อย่าเสียงดังทะเลาะกับใครนะคะ เพราะลูกน้อยได้ยินค่ะ ยิ่งเวลาคุณแม่พูดคุยกับลูก ลูกก็จะมีการตอบสนอง มีการดิ้นหรือขยับไปมาด้วยค่ะ ช่วงเดือนนี้จะมีอาการนึงเรียกว่า “ทารกสะอึก” เกิดจากการที่ทารกเริ่มสามารถหายใจในน้ำคร่ำได้ เพราะว่าในช่วงเดือนนี้ลูกจะสามารถผลิตสารมาช่วยทำให้ปอดสามารถทำงานได้ดีขึ้น คุณแม่ก็จะรู้สึกเหมือนลูกน้อยกระตุกเป็นจังหวะอยู่ในท้องนั่นเอง ช่วงเดือนนี้อวัยวะเพศของลูกน้อยก็จะพัฒนาขึ้นมากกว่าเดิมด้วยนะคะ

พัฒนาการทารกในครรภ์เดือนที่ 7
พัฒนาการทารกในครรภ์เดือนที่ 7 ตอนนี้ไขมันใต้ชั้นผิวหนังของลูกน้อยจะหนาขึ้นทั่วทั้งตัว ซึ่งจะช่วยทำให้ทารกรู้สึกอบอุ่น มาถึงเดือนนี้เราขอแนะนำให้คุณแม่ลองใช้ไฟฉายอันเล็ก ๆ ที่ไฟไม่แรงมาก ส่องไปที่ท้องดู ลูกจะสามารถเริ่มกระพริบตา ลืมตา แล้วก็ตอบสนองต่อแสงที่ทะลุผ่านหน้าท้องของคุณแม่ได้ค่ะ การใช้ไฟส่องก็เป็นการช่วยกระตุ้นประสาทส่วนรับภาพของลูกน้อยได้อย่างดีเลยทีเดียว ส่วนน้ำหนักตัวของลูกน้อยตอนนี้ก็ประมาณ 1 กิโลกรัมเป็นที่เรียบร้อยแล้วค่ะ

พัฒนาการทารกในครรภ์เดือนที่ 8
เดือนนี้ลูกน้อยจะดิ้นแรงขึ้นกว่าเดิมมาก คุณแม่อาจจะเห็นที่รอยปูด ๆ ที่ท้องได้ชัดเลย เพราะว่าความยาวทารกจะอยู่ที่ประมาณ 40 กว่า ๆ เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 2 กิโลกรัม ทำให้ท้องของคุณแม่ดูแคบไปเลย ลูกน้อยเลยขอดิ้น ๆ หมุน ๆ เปลี่ยนท่าซะหน่อย และคุณแม่ควรนับด้วยนะคะว่าลูกดิ้นกี่ครั้งต่อวันในช่วงเดือนนี้สมองของลูกน้อยก็จะพัฒนาเร็วมาก ๆ มีรอยหยักแล้วก็ประสาทสัมผัสต่าง ๆ ทำงานได้ไวมากขึ้นอีกด้วยค่ะ คุณแม่สามารถดื่มน้ำหัวปลี น้ำขิง หรือเครื่องดื่มเพื่อเตรียมน้ำนมให้ลูกน้อยได้นะคะ

พัฒนาการทารกในครรภ์เดือนที่ 9
สำหรับพัฒนาการทารกในครรภ์เดือนที่ 9 เดือนแห่งการรอคอยมาถึงแล้ว เดือนนี้ปอดของลูกน้อยก็จะพัฒนาได้เต็มที่ที่สุดแล้วค่ะ พร้อมจะออกมาดูโลกได้อย่างหายห่วง สังเกตได้จากว่าลูกน้อยจะกลับหัว โดยศีรษะจะมาอยู่บริเวณช่องคลอดเป็นที่เรียบร้อย ทารกที่คลอดช่วงนี้ก็จะมีความยาวอยู่ที่ประมาณ 42-50 เซนติเมตร น้ำหนัก 2,800-3,500 กรัม ส่วนถ้าลูกของคุณแม่ท่านไหนตัวใหญ่มาก ๆ ก็อาจจะหนักไปถึง 3,600-4,000 กรัมได้เลยนะคะ คุณแม่เตรียมเก็บกระเป๋าไปคลอดได้เลยค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ อ่านสปอยล์การเติบโตของลูกน้อยกันไปเรียบร้อย อย่างไรก็แล้วแต่คุณแม่ท้องอย่าลืมดูแลสุขภาพกาย สุขภาพใจ ออกกำลังกายเบา ๆ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ด้วยนะคะ เพื่อสุขภาพที่แข็งแรงของทั้งคุณแม่และลูกน้อยค่ะ
หากอยากเตรียมของใช้ลูกน้อย BabyGift ยินดีให้คำแนะนำนะคะ เราคัดสรรผลิตภัณฑ์คุณภาพที่ใส่ใจในความปลอดภัย มาตรฐานการผลิตจากหลากหลายประเทศ มาให้คุณพ่อคุณแม่เลือกซื้อได้อย่างครบวงจร สามารถแวะมาเลือกของใช้ทารกได้ที่ร้าน BabyGift 4 สาขา ใกล้บ้านคุณ หรือสอบถามผ่านช่องทาง Online ได้นะคะ
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
ไม่นานมานี้ดิฉันเดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัดกับลูกๆทั้งสนุกสนานและปลอดภัยตั้งแต่ออกเดินทางจนถึงจุดมุ่งหมายเลยค่ะรู้สึกขอบใจตัวเองที่กัดฟันให้ลูกนั่งคาร์ซีท ตั้งแต่วันแรกที่ลืมตาดูโลก ทำให้ขับรถได้อย่างมีสมาธิ แต่กว่าจะถึงวันนี้ลูกก็เคยร้องไห้ประท้วงจนแหวะใส่เก้าอี้ตัวเองมาแล้ว ดิฉันใช้วิธีสงบสยบความเคลื่อนไหวร้องได้ร้องไป แค่ 15 นาทีเท่านั้น คลื่นลมก็สงบ ตั้งแต่นั้นมาลูกๆเรียนรู้เลยว่า เวลาขึ้นรถต้องไปนั่งที่ “เก้าอี้วิเศษ” ของตัวเองและนั่งทุกครั้งแม้ระยะทางจะใกล้หรือไกลเพราะอุบัติเหตุอาจเกิดจากภัยในรถ เช่น ลูกทะเลาะกันที่เบาะหลัง (เจอมาแล้ว) หรือปีนป่ายจนได้รับอันตราย คุณแม่ท่านไหนที่ยังไม่มั่นใจในคาร์ซีท carseat ว่าจะช่วยวันยุ่งๆของคุณแม่ได้มากน้อยแค่ไหน ลองเคล็ดลับต่อไปนี้ดูสิคะ แล้วลูกคุณจะรัก “เก้าอี้วิเศษ” ของตัวเองขึ้นเยอะเลย เคล็ดลับก่อนตัดสินใจเลือกซื้อคาร์ซีท อายุ ประเภทของคาร์ซีท คำแนะนำทั่วไป เด็กอ่อน คาร์ซีทสำหรับเด็กอ่อน เด็กอายุน้อยกว่า 1 ปี และมีน้ำหนักน้อยกว่า 9 kg.– ต้องนั่งคาร์ซีทแบบหันหน้าเข้าหาเบาะ เพราะคอยังไม่แข็งพอรับแรงกระแทกขณะรถวิ่ง เด็กก่อนวัยเรียน เก้าอี้แบบหันหน้าออก เด็กอายุ 1 ปี ขึ้นไป หรือหนัก 9 kg. ขึ้นไป เด็กเล็กวัยเรียน เบาะรองนั่ง เด็กควรสูงอย่างน้อย 120 cm.และต้องมั่นใจว่าเข็มขัดนิรภัยพาดที่ไหล่และต้นขาของเด็กอย่างพอดี เด็กโต เข็มขัดนิรภัย […]
หลาย ๆ คนที่เคยไปฝึกอบรมเข้าคอร์สคุณพ่อคุณแม่มือใหม่มานั้น นอกจากการสาธิตวิธีการอุ้ม วิธีการอาบน้ำเด็กแรกเกิด และวิธีดูแลเด็กเล็กในเรื่องต่างๆ แล้ว การฝึกห่อตัวทารกก็เป็นทักษะที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ควรรู้เช่นกัน การห่อตัวเด็กเล็กนั้นจะช่วยให้เด็กรู้สึกสบายตัว และรู้สึกปลอดภัย คล้ายกับยังอยู่ในครรภ์ของคุณแม่ การห่อตัวเด็กเล็กจึงช่วยให้ลูกนอนหลับได้ง่าย ทั้งยังรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น ทั้งนี้ก็ต้องมี วิธีห่อตัวเด็ก อย่างถูกต้องด้วย ทำได้อย่างไร มาดูกันเลยค่ะ แชร์ วิธีห่อตัวเด็ก ที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ทำตามได้จริง นอกจากความสำคัญของการห่อตัวเด็กแล้ว ในบทความนี้ BabyGift จะพามารู้จักวิธีห่อตัวทารกในแบบต่าง ๆ รวมถึงตอบคำถามเกี่ยวกับการห่อตัวเด็ก และแนะนำผ้าห่อตัวเด็กคุณภาพดีให้กับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่กันค่ะ ตามมาอ่านเรื่องนี้กันได้ในบทความนี้เลยนะคะ ทำไมถึงต้องห่อตัวเด็กเล็ก ? การห่อตัวเด็กจำเป็นหรือไม่ ? การห่อตัวเด็กแรกเกิดนั้นจะช่วยให้เด็กสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมภายนอกได้ ทั้งยังช่วยกระชับแขนขา ช่วยลดอาการสะดุ้งตกใจจากเสียงดัง และยังช่วยรักษาความอบอุ่นให้กับลูกน้อย ทำให้ลูกไม่หนาวและนอนหลับได้นานขึ้น ทั้งยังทำให้ลูกรู้สึกอบอุ่นปลอดภัย เสมือนอยู่ในครรภ์ของคุณแม่ ให้ความรู้สึกว่ากำลังถูกโอบกอดอยู่ ในเด็กบางคนที่ผวาตื่นได้ง่ายหรือนอนสะดุ้งบ่อย ๆ วิธีห่อตัวเด็กอย่างถูกวิธีก็จะทำให้นอนหลับได้นานขึ้น ร่วมกับการกล่อมลูกนอนด้วย White noise อย่างเสียงน้ำไหล เสียงฝนตก เสียงลมธรรมชาติ ก็จะทำให้ลูกหลับสนิทและผ่อนคลายได้มากขึ้น ส่งผลให้ลูกนอนหลับพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ค่ะ อย่างไรก็ตาม คุณพ่อคุณแม่เองก็ต้องรู้วิธีห่อตัวเด็กอย่างถูกต้องด้วยเหมือนกัน เพราะถ้าห่อตัวผิดวิธี ก็อาจส่งผลเสียต่อลูกน้อยได้ ซึ่งการห่อตัวเด็กทารกโดยหลัก ๆ แล้ว มีอยู่ 3 วิธีด้วยกัน แต่ละวิธีจะนั้นจะเป็นอย่างไร ไปดูกันเลยค่ะ วิธีห่อตัวทารก แบบต่าง ๆ มีอะไรบ้าง ? ก่อนจะไปดูวิธีห่อตัวเด็กเล็ก อันดับแรกที่จำเป็นต้องมีก็คือ ผ้าสำหรับห่อตัวลูกนั่นเอง ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งผ้าอ้อมหรือผ้าขนหนู […]
การเดินทางโดยรถยนต์เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของหลาย ๆ ครอบครัว การเลือกใช้คาร์ซีทที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการปกป้องความปลอดภัยของลูกน้อยในทุกการเดินทาง และหนึ่งในนวัตกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบันคือ คาร์ซีทหมุนได้ หรือ คาร์ซีทหมุนได้ 360 องศา ซึ่งมาพร้อมกับฟังก์ชันการหมุน ที่ช่วยให้การติดตั้งและการย้ายลูกน้อยเข้า-ออกจากคาร์ซีททำได้ง่ายยิ่งขึ้น คาร์ซีทหมุนได้คืออะไร ? คาร์ซีทหมุนได้ คือ คาร์ซีทที่สามารถหมุนตัวได้รอบทิศทาง 360 องศา ทำให้คุณพ่อคุณแม่สามารถหมุนคาร์ซีทไปทางด้านข้าง หรือ หันไปทางประตูรถได้อย่างสะดวกสบาย ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการติดตั้งคาร์ซีทและการย้ายลูกน้อยเข้า-ออกจากคาร์ซีทได้ง่ายขึ้นมาก คาร์ซีทหมุนได้จำเป็นไหม ช่วยให้สะดวกขึ้นอย่างไรบ้าง ? 1. คาร์ซีทหมุนได้ เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งาน : การหมุนได้ 360 องศาช่วยให้อุ้มลูกน้อยเข้า-ออกจากคาร์ซีทได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยไม่ต้องมุดตัวหรือเอี้ยวตัวในพื้นที่แคบ ๆ ของรถ ช่วยลดความเสี่ยงที่ศีรษะจะไปกระแทกกับขอบประตูหรือพาลูกน้อยหกล้มได้เป็นอย่างดี 2. คาร์ซีทหมุนได้ รองรับการใช้งานในระยะยาว : คาร์ซีทหมุนได้สามารถปรับเปลี่ยนตำแหน่งการนั่งจากหันไปข้างหลัง (Rear-facing) เพื่อเพิ่มความปลอดภัยสำหรับเด็กเล็ก ไปจนถึงการหมุนหันไปข้างหน้า (Forward-facing) เมื่อเด็กโตขึ้นได้ โดยไม่ต้องติดตั้งใหม่ 3. สะดวกในการดูแลลูก : การหมุนคาร์ซีทไปทางด้านข้างจะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถดูแลลูกน้อยได้ง่ายขึ้น เช่น การเปลี่ยนผ้าอ้อม หรือการปลอบโยนเมื่อลูกร้องไห้งอแงได้เลย […]
สวัสดีค่ะคุณแม่ทุกคนนะคะ สำหรับคุณแม่ทั้งหลายที่มีลูกน้อย คงจะเคยชินกับการล้างขวดนมเสร็จแล้ว ก็ฆ่าเชื้อขวดนมด้วยหม้อนึ่งความร้อนกันใช่ไม๊คะ วันนี้แม่อีฟ ขอแนะนำเครื่องมือชิ้นใหม่ ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์คุณแม่สมัยใหม่อย่างเราๆ ที่ต้องการความสะดวกสบายและการฆ่าเชื้อ โรคได้มากที่สุดสำหรับลูกน้อย มาทำความรู้จักกับตู้อบแห้งฆ่าเชื้อ UV แบรนด์ Prince&Princess สัญชาติเกาหลี เครื่องนี้เป็น Gen2 ที่มีการพัฒนาขึ้น ให้ใช้งานได้มีประสิทธิภาพดีขึ้น การใช้งาน ก็ง๊ายง่ายค่ะ ที่เครื่องจะมีแค่ 3 ปุ่ม เท่านั้น คือปุ่ม Auto, ปุ่ม UV และปุ่ม Dry ถ้าใช้สำหรับขวดนมหรือของใช้ที่ล้างมาเปียกๆ ก็ง่ายเลยค่ะ แค่กดปุ่ม Auto เพียงปุ่มเดียวแล้วรอแค่ 30 นาที ก็สามารถเอาขวดนมมาชงนมให้ลูกได้เลยค่ะ เริ่มน่าสนใจกันแล้วใช่ไหมหล่ะคะ และนี้ก็คือโฉมหน้าของเจ้าตู้อบฆ่าเชื้อ ด้วยUV ที่มีดีไซน์ แบบทันสมัย ใช้ง่าย และน้ำหนักเบาแค่ 5 kg. เองค่ะ คุณแม่ก็สามารถยกย้ายที่ใช้งานได้แบบง่ายๆเลยค่ะ ก่อนหน้าที่จะใช้เครื่องนี้ ก็เคยมีวิธีการทำความสะอาดของให้กับลูก โดยการล้างทำความสะอาด แล้วก็เอาไปนึ่งต่อต้องทำหลายขั้นตอน ตั้งแต่ตวงน้ำลงในถาด นึ่งเสร็จก็ต้องล้างหม้อนึ่งด้วย พอน้ำแห้งก็มักเป็นตะกรัน พอบ่อยๆ […]
ได้เวลา “ป๋อมแป๋ม” กันแล้ว อีกหนึ่งช่วงเวลาแห่งความสุขของลูกน้อยที่จะได้ลงอ่างอาบน้ำให้สบายตัว ในช่วงเวลาสั้นๆ แบบนี้หากคุณพ่อคุณแม่รู้จักเพิ่มเติมองค์ประกอบบางอย่างลงไป ก็จะช่วยให้ช่วงเวลาอาบน้ำของลูกน้อยเต็มไปด้วยความสุข สนุก สะอาด ช่วยเสริมพัฒนาการของลูกน้อยไปได้พร้อมๆ กัน เสริมพัฒนาการของลูกขณะอาบน้ำ ระหว่างที่ลูกน้อยกำลังวุ่นอยู่กับการอาบน้ำ คุณพ่อคุณแม่อาจเสริมด้วยเทคนิคง่ายๆ ที่จะช่วยให้ลูกน้อยมีพัฒนาการที่ดีขึ้น ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาเล็กๆ ก็ตาม ด้วยวิธี 3ส. ดังนี้ ส.ที่ 1 = สุข เด็กกับน้ำเป็นของคู่กัน อยู่แล้ว เวลาที่เด็กได้เล่นอยู่กับน้ำจะทำให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุขหรือ “สารเอนดอร์ฟีน” ออกมา ซึ่งสารแห่งความสุขนี้จะส่งผลทางด้านบวกต่อการรับรู้และเรียนรู้ ช่วยให้ลูกพร้อมซึมซับประสบการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นตลอดการอาบน้ำซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถสร้างบรรยากาศในการอาบน้ำ ที่เอื้อต่อการเกิดความสุขได้ดังนี้ ส.ที่ 2 = สนุก เมื่อเด็กมีความสุขก็พร้อมที่จะเรียนรู้ และการเรียนรู้ของเด็กก็คือการที่เด็กได้เล่นสนุกนั่นเอง ดังนั้นเพื่อเพิ่มพัฒนาการให้กับลูกน้อยในระหว่างอาบน้ำให้คุณพ่อคุณแม่ เลือกสรรของเล่นลงอ่างอาบน้ำให้เหมาะสมด้วย ซึ่งของเล่นในอ่างอาบน้ำก็มีความแตกต่างกับดังนี้ ส.ที่ 3 = สะอาด คือความสดชื่นหลังอาบน้ำ การที่ลูกน้อยได้อาบน้ำอย่างสะอาดช่วยให้ลูกน้อยมีความสุขและรักการอาบน้ำ มากยิ่งขึ้น >>>ขอขอบคุณข้อมูลจาก : แคร์
คาร์ซีทนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับลูกน้อย และคุณพ่อคุณแม่ควรเตรียมพร้อมคาร์ซีทให้เรียบร้อยก่อนที่ลูกน้อยจะคลอด เพราะเมื่อออกจากโรงพยาบาลมาแล้วก็ต้องนั่งคาร์ซีทกลับบ้าน ทั้งเพื่อความปลอดภัยสำหรับลูกน้อยเอง และเพื่อปฏิบัติตามกฏหโมายเรื่องการกำหนดที่นั่งนิรภัยสำหรับเด็ก (คาร์ซีท) ที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม 2566 เป็นต้นไป สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกคาร์ซีท เด็กแรกเกิดอย่างไรดี ควรเลือกแบบไหน คาร์ซีทสำหรับเด็กมีกี่ประเภท เลือกอย่างไร BabyGift มีคำแนะนำดี ๆ มาฝากกันแล้วค่ะ เลือกคาร์ซีท เด็กแรกเกิด อย่างไรดี ? ต้องรู้อะไร ? เลือกยังไงดี หาคำตอบได้จากบทความนี้ ! คาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิด เป็นหนึ่งในสิ่งที่ต้องเตรียมไว้ให้กับลูกตั้งแต่ก่อนคลอด และควรที่จะให้ลูกได้ใช้ตั้งแต่วันแรกที่ออกจากโรงพยาบาล เนื่องจากร่างกายของเด็กทารกยังไม่แข็งแรง ยังไม่สามารถรับแรงกระแทกได้มากเท่าไหร่ อีกทั้งเราไม่รู้ว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ จึงควรป้องกันไว้ก่อนและเตรียมความพร้อมในทุกสถานการณ์ คาร์ซีท เด็กแรกเกิด จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ไม่รู้จะเลือกอย่างไรดี ต้องเลือกแบบไหน คาร์ซีท มีกี่แบบ ต้องเลือกอย่างไร ? ในบทความนี้ BabyGift มีเคล็ดลับดีๆ ในการเลือกซื้อคาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิดมาฝากกันค่ะ เรามารู้จักประเภทของคาร์ซีทกันก่อนเลย ซึ่งสามารถแบ่งประเภทของคาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิดได้ดังนี้ 1. New Born Only : หรือคาร์ซีทแบบกระเช้า คาร์ซีทประเภทนี้จะมีขนาดเล็ก […]

ร้านสินค้าแม่และเด็กที่คัดสรรนวัตกรรมของใช้แม่และเด็กที่มี
คุณภาพให้คำปรึกษาและบริการ อย่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยให้การเลี้ยงลูกเป็นเรื่องง่าย ปลอดภัย และมีความสุข
Online Shopping
สาขา ปิ่นเกล้า ราชพฤกษ์
สาขา Mega บางนา
สาขา Central World
สาขา The Crystal รามอินทรา
สาขา BTS วงเวียนใหญ่ (Outlet)
Copyright 2024 © Baby Gift (Retail) Co., Ltd.