วิธีเก็บน้ำนมแม่สต๊อก ทำอย่างไรไม่ให้เหม็นหืน

ความปรารถนาสูงสุดของคุณพ่อคุณแม่ คือการได้เห็นลูกน้อยเติบโตอย่างมีคุณภาพ มีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ พร้อมด้วยความเก่ง ฉลาด เป็นผู้ใหญ่ที่มีศักยภาพในอนาคต ดังนั้นเมื่อลูกน้อยลืมตาดูโลก คุณแม่ทุกท่านจึงตั้งใจเต็มที่ที่จะให้น้ำนมแม่แก่ลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิดและมอบนมแม่ให้เป็นสุดยอดอาหารของลูกรักไปนานที่สุดเท่าที่จะทำได้
เราจึงเห็นว่าปัจจุบัน คุณแม่มีการเตรียมพร้อมเพื่อจะเป็นคุณแม่นักปั๊ม ทำนมแม่สต๊อกไว้ให้ลูกน้อยกันแต่เนิ่นๆ
แต่คุณแม่รู้ไหมว่า…นอกจากการปั๊มนมที่ต้องพิถีพันใส่ใจในทุกรายละเอียดแล้ว วิธีการเก็บสต๊อกนมแม่ก็มีความสำคัญเช่นกัน เพราะหากคุณแม่เก็บไม่ถูกต้อง ไม่ถูกวิธี อาจทำให้นมแม่ก็เก็บบูดเสีย ลูกกินไม่ได้ รวมถึงหากเช่เย็นเก็บหรือละลายในอุณหภูมิไม่เหมาะสม ก็ทำให้นมแม่สูญเสียคุณค่าสารอาหารสำคัญและจำเป็นต่อสมองและร่างกายของลูกน้อยไปแบบน่าเสียดาย เสียทั้งกำลังกาย กำลังใจ นมแม่ที่โภชนาการดีๆมากมาย กลับเสียหายไปไร้ประโยชน์
ดังนั้นเราจึงขอแนะนำ วิธีการเก็บน้ำนมแม่สต๊อกที่ถูกต้อง พร้อมเคล็ดลับเรื่องการเก็บนมแม่ไว้ไม่ให้เหม็นหืน เพื่อให้ลูกน้อยกินนมแม่จากสต๊อกได้อย่างเต็มที่ และมีความสุข

วิธีเก็บน้ำนมแม่สต๊อก
ขั้นตอนการปั๊มและ วิธีเก็บน้ำนมแม่สต๊อก
- เริ่มจากคุณแม่ล้างมือให้สะอาด เตรียมเครื่องปั๊มนม และภาชนะที่ใช้เก็บน้ำนมที่ผ่านการทำความสะอาดฆ่าเชื้อเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็น กรวยปั๊มนม ขวดเก็บน้ำนม ถุงเก็บน้ำนม โดยควรเลือกภาชนะเก็บน้ำนมที่มีฝาปิดมิดชิด ไม่มีสารอันตราย
- เมื่อปั๊มนมเสร็จแล้วให้เขียนวันที่และเวลากำกับที่ข้างภาชนะหรือถุงเก็บน้ำนม เพื่อจะได้นำนมแม่กลับมาใช้ตามลำดับได้ถูกต้อง เสร็จแล้ววางเรียงถุงเก็บน้ำนมสต๊อกในตู้แช่หรือตู้เย็นในบ้าน
- หากคุณแม่ปั๊มนมนอกบ้าน หรือที่ทำงาน จำเป็นต้องเตรียมกระติกน้ำแข็งที่มีน้ำแข็งตลอดเวลา หรือมีอุปกรณ์ที่เก็บความเย็นได้ดี เช่น Ice Pack โดยต้องมั่นใจว่าความเย็นมีเพียงพอที่จะเก็บรักษาคุณค่าน้ำนมแม่ก่อนที่จะนำกลับมาแช่เย็นที่บ้าน
ระยะเวลาการเก็บน้ำนมแม่
วิธีเก็บนมแม่สต๊อก | ระยะเวลาที่เก็บได้ |
ตั้งทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง ไม่เข้าตู้เย็น | เก็บได้ 1 ชั่วโมง |
ตั้งทิ้งไว้ในห้องปรับอากาศ (ไม่เข้าตู้เย็น) | เก็บได้ 4 ชั่วโมง |
ในกระติกน้ำแข็งที่มีน้ำแข็งตลอดเวลา | เก็บได้ 1 วัน |
ใส่ตู้เย็น ช่อง/ชั้นธรรมดา | เก็บได้ 3-5 วัน |
ใส่ตู้เย็นแบบ 1 ประตู ในช่องแช่แข็ง | เก็บได้ 1-2 สัปดาห์ |
ตู้เย็นแบบ 2 ประตู ในช่องแช่แข็ง | เก็บได้ 3-6 เดือน |
ตู้แช่เย็นจัด (-20 องศาเซลเซียส) | เก็บได้ 6-12 เดือน |
ข้อควรระวังและใส่ใจในการสต๊อกน้ำนมแม่
ไม่เก็บน้ำนมแม่บริเวณประตูตู้เย็น เพราะความเย็นจะไม่คงที่ ทำให้นมแม่เสียได้ง่าย และแม้คุณแม่จะเก็บนมแม่แช่แข็งไว้ในตู้แช่แข็งที่เก็บรักษานมแม่ได้ถึง 12 เดือน แต่ก็ควรนำนมแม่สต๊อกออกมาให้ลูกกินภายใน 6 เดือนจะดีที่สุด เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนของเชื้อโรค รวมถึงนมแม่ที่สต๊อกเก็บไว้เกิน 1 ปีแล้ว ต้องทิ้งให้หมด แม้ว่าจะไม่มีกลิ่นเสียหรือมีรสชาติเปรี้ยวก็ตาม เพราะอาจส่งผลร้ายต่อร่างกายลูกจากการเก็บที่นานเกินไป และความไม่คงที่ของอุณหภูมิในต็เย็น

10 วิธีเก็บนมแม่ได้ แบบไม่เหม็นหืน
อีกหนึ่งปัญหาของคุณแม่นักปั๊มที่ทำให้กังวลและไม่มั่นใจ เพราะน้ำนมที่สต๊อกไว้มักมีกลิ่นหืน จนบางครั้งลูกไม่ยอมกิน ซึ่งความจริงแล้วน้ำนมแม่ที่แช่แข็งทำสต๊อกไว้ เมื่อนำมาละลายแล้ว สามารถเกิดกลิ่นหืนได้จากเอนไซน์ที่ชื่อไลเปซ (Lipase) ที่ช่วยย่อยให้ไขมันในน้ำนมแม่แตกตัว แม้นมแม่จะมีกลิ่นหืนลูกน้อยก็สามารถกินได้ไม่มีอันตราย (ยกเว้นกรณีคุณแม่ชิมแล้วมีรสเปรี้ยว มีกลิ่นแรงมากนั่นคือนมเสียห้ามให้ลูกกิน แต่หากคุณแม่ไม่อยากให้น้ำนมสต๊อกมีกลิ่นหืน อาจลองทำตามวิธีการดังต่อไปนี้
- ตรวจเช็กดูแลความสะอาดของเครื่องปั๊มนม อุปกรณ์เก็บนมแม่สต๊อกให้ปราศจากเชื้อโรคทุกครั้ง
- เวลาเก็บนมแม่ใส่ถุงเมื่อปั๊มเสร็จ พยายามไล่อากาศออกจากถุงให้ได้มากที่สุด ก่อนแช่เย็น
- หลังจากปั๊มนมเสร็จ ให้นำถุงเก็บน้ำนมเข้าตู้เย็นแช่ให้เร็วที่สุด และควรวางเรียงถุงเก็บน้ำนมในแนวนอนราบ
- หากต้องการให้ลูกกินนมแม่ที่ปั๊มภายในไม่เกิน 3 วัน หรือปั๊มนมให้ลูกกินวันต่อวัน ไม่ต้องเก็บในช่องแช่แข็ง ให้เก็บในตู้เย็นช่องธรรมดาไว้ เพราะจะเก็บได้ 2-3 วัน โดยมักจะไม่มีกลิ่นหืน
- เวลาจะใช้น้ำนมแม่สต๊อก ให้เปลี่ยนช่องเก็บจากช่องฟรีสแช่แข็งลงมาที่ช่องแช่เย็นธรรมดาตอนกลางคืน ประมาณ 12 ชม.หรือ 1 คืน เพื่อให้ละลาย จากนั้นเทใส่ขวดให้ลูกกินแล้วเขย่าแบบเย็นๆได้เลย มักจะไม่มีกลิ่นหืน และไม่ทำให้ลูกปวดท้องหรือท้องเสีย หากลูกไม่ชอบกินเย็นให้แช่ในน้ำอุ่น ห้ามแช่นมในน้ำร้อนหรือใส่ไมโครเวฟเพราะความร้อนจะไปทำลายสารอาหารสำคัญในนมแม่
- หลังปั๊มนม อาจทำให้น้ำนมร้อนก่อน เพื่อยับยั้งการย่อยของไลเปสก่อนนำไปแช่แข็ง นั่นคือหลังจากคุณแม่ปั๊มนมเสร็จแล้ว ให้นำไปต้ม ให้นานพอที่จะเห็นฟองอากาศเล็กๆ ปุดๆอยู่ด้านรอบข้างหม้อ แล้วจึงดับไฟ ห้ามปล่อยให้ถึงจุดเดือด จากนั้นนำนมไปเข้าตู้เย็นแช่แข็งทันที วิธีนี้จะทำให้น้ำย่อยไขมันทำงานไม่ได้ จึงไม่เกิดกลิ่นเหม็นหืน ถึงแม้ว่าจะเก็บไว้นานเพียงใดก็ตาม ซึ่งการต้มนมอาจทำลายภูมิคุ้มกันในนมแม่บางส่วน และสารอาหารบางอย่างในน้ำนมแม่ให้ลดน้อยลงได้ แต่ก็ยังดีกว่าการเทนมแม่ที่สต๊อกไว้ทิ้งไป เพราะลูกไม่ยอมกินนมหืน
- ให้ลูกกินนมแม่ที่ละลายจากการแช่แข็งแล้ว ภายใน 24 ชม. และไม่ควรนำนมที่ละลายจากการแช่แข็งแล้ว กลับไปแช่แข็งใหม่
- ไม่เก็บนมแม่ใกล้ส่วนของช่องแข็งหรือช่องแช่ที่มีระบบละลายน้ำแข็งอัตโนมัติ เพราะความเย็นจะไม่คงที่
- หากคุณแม่เก็บนมแม่สต๊อกไว้ในถุงพลาสติกแล้วมีกลิ่น ให้ลองเปลี่ยนไปใส่ภาชนะที่เป็นแก้วที่มีฝาปิดมิดชิดแทน
- ไม่ควรเก็บนมสต๊อกปะปนกับอาหารอื่นๆ หากคุณแม่แช่นมแม่สต๊อกไว้รวมกับอาหารชนิดอื่นๆ ในตู้เย็น ควรเก็บและใส่อาหารในภาชนะที่มิดชิดมีฝาปิด หรือมัดถุงให้แน่น เพื่อป้องกันกลิ่นอาหารอื่นมาปะปน ทำให้นมแม่ดูดกลิ่นอาหารเข้ามา จนน้ำนมมีกลิ่นอื่นติดมาด้วยได้
จากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นได้ว่า การเก็บนมสต๊อกไม่ให้มีกลิ่นหืนอาจมีความยุ่งยากบ้าง ดังนั้นเพื่อป้องกันปัญหาลูกไม่กินนมหืน และให้ลูกสามารถกินนมแม่ที่มีกลิ่นหืนเป็น คุณแม่อาจต้องฝึกให้ลูกกินนมเย็นหรือนมที่มีกลิ่นหืนได้บ้างตั้งแต่เนิ่นๆ ฝึกให้ลูกทานทุกวัน วันละ 1-2 ครั้ง เริ่มฝึกตั้งแต่ลูกอายุ 1-2 เดือน (หากเริ่มเร็วก่อน 1 เดือน ลูกอาจเสี่ยงติดขวด แต่หากเริ่มช้ากว่า 2 เดือนลูกจะฝึกยากขึ้น) ลูกจะได้กินเป็นทั้งนมจากเต้าและนมแม่ที่สต๊อกเอาไว้ ไม่ต้องทิ้งนมแม่ไปอย่างน่าเสียดายเพียงเพราะมีกลิ่นหืนนั่นเอง
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
Ailebebe รุ่น Kurutto R The First 1 และ Kurutto R The First 2 เป็นคาร์ซีทเด็กแรกเกิดที่ผลิตจากประเทศญี่ปุ่น ที่มีนวัตกรรมความปลอดภัยล้ำสมัย ช่วยให้การเดินทางของลูกน้อยทั้งปลอดภัยและสะดวกสบาย และทั้ง 2 รุ่น มีคุณสมบัติที่เด่นและแตกต่างกัน ซึ่งสามารถตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย เราจะพาคุณพ่อคุณแม่มาทำความรู้จักกับความแตกต่างเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่เลือกคาร์ซีทที่เหมาะสมกับความต้องการของครอบครัวได้ค่ะ เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจเลือกซื้อคาร์ซีท Ailebebe รุ่น Kurutto R ได้อย่างเหมาะสมกับลูกน้อยมากที่สุด มาเริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจกันก่อนว่าทำไมรุ่นนี้ถึงเป็นที่นิยมและมีจุดเด่นอะไรบ้างนะคะ ทำไมต้องเลือก Ailebebe รุ่น Kurutto R ? 1. มาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงสุด : ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากสหภาพยุโรป R129 (i-Size) 2. การทดสอบที่แม่นยำ : ใช้เซ็นเซอร์วัดแรงกระแทกสูงสุดถึง 32 จุดบนหุ่นจำลอง และหุ่นไม่ได้รับการบาดเจ็บ 3. ทดสอบการชนที่เข้มงวด : ทดสอบการชนที่ความเร็ว 70-100 กม./ชม. เพื่อความปลอดภัยสูงสุด […]
Renolux บริษัทผู้ผลิตสินค้าเพื่อแม่และเด็ก มานานกว่า 40 ปี สัญชาติฝรั่งเศส ก่อตั้งขึ้นในเมือง Nord-Isère ใกล้กับเมือง Lyon เป็นผู้นำนวัตกรรมด้านความปลอดภัยของเด็ก โดยเฉพาะในด้านการผลิตคาร์ซีท จนในปัจจุบันมีการพัฒนากระบวนการผลิตโฟมโพลียูรีเทนแบบพิเศษ ที่เป็นเอกสิทธ์เฉพาะของบริษัท ทำให้จากความเชี่ยวชาญและความรู้ที่สั่งสมมาช่วยให้เราสามารถคิดสร้างสรรค์และควบคุมแต่ละขั้นตอนของการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลเด็กของเราทุกขั้นตอนภายในไซต์ 17,000 ตารางเมตรที่ตั้งอยู่ใน Nord-Isère ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันความรู้ทางอุตสาหกรรมของ Renolux ช่วยให้เราเชี่ยวชาญในเทคนิคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เทคนิคพอลิเมอไรเซชันผ่านกระบวนการจดสิทธิบัตรของเรา (โฟมโพลียูรีเทน) งานโลหะ (การเจาะการตัดการรัดการเชื่อม) สิ่งทอ (การเคลือบการตัดการทำ) และการประกอบในที่สุด มุ่งมั่นที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกวัน เพราะฉะนั้น การใช้ผลิตภัณฑ์ของ Renolux จะไม่ใช่แค่ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กทั่วไปเท่านั้น แต่ยังได้ความเชี่ยวชาญมากกว่า 40 ปี ในการให้บริการผลิตภัณฑ์ดูแลเด็กที่มีคุณภาพของ Renolux คาร์ซีท Renolux Renofix คาร์ซีทเด็กโตที่สามารถใช้ได้ตั้งแต่เด็กน้ำหนัก 15 – 36 KG. […]
คาร์ซีทเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องมีสำหรับลูกน้อยของเราตั้งแต่ช่วงแรกเกิดไปจนถึงอายุ 6 ปี เพื่อความปลอดภัยขณะนั่งรถยนต์ ประกอบกับมีการออกกฏหมายจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 สิงหาคม 2566 ให้ใช้คาร์ซีทในเด็กที่อายุไม่เกิน 6 ปี ยกเว้นรถรับจ้างหรือรถสาธารณะ ดังนั้นทุกบ้านควรจะต้องเตรียมคาร์ซีทให้พร้อมตั้งแต่ก่อนคลอด เพราะต้องให้ลูกน้อยนั่งตั้งแต่วันแรกที่ออกจากโรงพยาบาล ปัจจุบันคาร์ซีทก็มีหลายแบบมาก คุณพ่อคุณแม่หลายท่านอาจจะยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกแบบไหนดี หรือจะเลือกคาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี ที่มีคุณภาพดี ปลอดภัยได้มาตรฐาน และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในบทความนี้ BabyGift มีมาแนะนำแล้วค่ะ จะเลือกคาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี ? แนะนำวิธีเลือกคาร์ซีทเด็กแรกเกิด มั่นใจได้ในเรื่องคุณภาพและความปลอดภัย ผู้ปกครองบางท่านอาจเกิดคำถามขึ้นมาว่า ทำไมต้องใช้คาร์ซีทสำหรับลูกน้อย ขอบอกว่า คาร์ซีทนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ ค่ะ คาร์ซีทเป็นอุปกรณ์เสริมที่ติดตั้งในรถยนต์ของคุณพ่อคุณแม่เพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับเด็กๆ ในขณะที่นั่งรถยนต์ เพื่อป้องกันหากเกิดอุบัติเหตุไม่คาดคิด คาร์ซีทจะช่วยลดโอกาสบาดเจ็บรุนแรง หรือลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตได้ ซึ่งคาร์ซีทก็มีหลายแบบมาก มีตั้งแต่คาร์ซีทเด็กแรกเกิด คาร์ซีทแบบกระเช้า คาร์ซีทสำหรับเด็กเล็ก และคาร์ซีทสำหรับเด็กโต นอกจากจะมีหลากหลายแบบแล้วก็ยังมีหลายยี่ห้อด้วย แล้วจะเลือกอย่างไรดี จะเลือกคาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี ? ให้กับลูกรักของเรา มารู้จักกับแต่ละประเภทของคาร์ซีทให้มากขึ้นก่อน ไปดูยี่ห้อที่ BabyGift แนะนำกันค่ะ คาร์ซีทเด็กแรกเกิด […]
แม่ๆ ดาราเซเลบคนดังร่วมแสดงความยินดีกับงานฉลองเปิดร้าน BabyGift สาขา เซ็นทรัลเวิลด์แบรนด์ผู้นำเข้า คาร์ซีท, รถเข็นเด็ก, เก้าอี้ทานข้าว, เป้อุ้มเด็ก และผลิตภัณฑ์สำหรับลูกน้อยที่ดีที่สุดทั้งจากประเทศญี่ปุ่น, เกาหลี และ สหรัฐอเมริกาอย่าง #APRICA #AILEBEBE #PRINCEANDPRINCESS #REALKIDS และอีกมากมาย และในงานยังเปิดตัวสินค้านวัตกรรม 3 รุ่นใหม่ได้แก่ รถเข็นเด็กพับเล็ก #Aprica #NanoSmart, คาร์ซีท #Ailebebe #Kurutto4Grance และ #Ecowell เครื่องผลิตสเปรย์ฆ่าเชื้ออเนกประสงค์ #BabyGift #CentralWorld #BabyBestItems #BabyProducts BabyGift สาขา Central World ชั้น 2 โซนลานไอซ์สเก็ตเปิดบริการ 10.00 – 22.00 น. ทุกวันโทร. 095-851-8521LINE ID : bbg_ctw
เบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็กในรถยนต์ทุกที่นั่งจะต้องมีป้ายรับรองมาตรฐาน ECE R44/04 เป็น มาตรฐานความปลอดภัยคาร์ซีท เพื่อบ่งชี้ว่าเบาะตัวนั้นๆได้ผ่านตามข้อกำหนดมาตรฐานความปลอดภัย ป้ายรับรองมาตรฐาน ECE R44/04 จะเป็นป้ายสีส้ม มาตรฐานความปลอดภัยคาร์ซีท ECE 44/03 และ ECE R 44/04 แบ่งตาม Group และแบ่งแยกเป็นประเภทต่างๆ ทั้งหมด 4 ประเภท (4 Categories) ตามการติดตั้งและการใช้งาน ซึ่งจะช่วยให้เราทราบว่าเบาะนั้นๆออกแบบมาสำหรับรถเราหรือไม่ มาตรฐานความปลอดภัยคาร์ซีท ECE 44/03 และ ECE R 44/04 แบ่งตามภูมิภาค จากข้อมูลในหัวข้อนี้คงพอให้ท่านผู้อ่านเข้าใจความหมายและทราบถึงรายละเอียด ข้อมูลของเบาะนั้นจากป้ายมาตรฐาน ตลอดจนเป็นประโยชน์กับผู้ปกครองในการเลือกซื้อเบาะให้เหมาะกับลูกหลานและรถ ที่มีแนวทางการใช้งานเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็ก ในครั้งแรกๆ เด็กๆอาจจะร้องเพราะกลัวการถูกล็อค แต่ถ้าเขาคุ้นเคยเสียก่อน ก็จะลดการร้องไม่ยอมของเด็กได้ การที่เด็กๆร้องก็จะทรมาณใจพ่อแม่เพราะสงสารลูกๆและเป็นสาเหตุทำให้ละเลยการใช้งานเบาะนิรภัยในครั้งต่อๆไป เพราะว่าเด็กที่นั่งอยู่ในเบาะนิรภัยจะมีการป้องกันการชนด้านข้างต่ำ การนั่งในตำแหน่งกลางจะช่วยเพิ่มพื้นที่ในการดูดซับแรงกระแทก แต่ทั้งนี้รถควรจะเป็นรถขนาดใหญ่ที่เบาะกลางมีเข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด อย่างไรก็ตามหากไม่สามารถติดตั้งตรงเบาะกลางได้ การติดตั้งทางฝั่งซ้ายหรือขวาก็สามารถทำได้ โดยที่ฝั่งตรงข้ามคนขับ (ฝั่งเดียวกับฟุตบาท) จะปลอดภัยกว่าฝั่งคนขับ สำหรับการใช้งานเบาะนิรภัยร่วมกับรถปิกอัพให้ติดตั้งด้านหน้าข้างคนขับและห้ามใช้ถุงลมในที่นั่งด้านข้างคนขับ 1. เด็กสูงเพียงพอที่ขาและเข่าของเขาสามารถนั่งห้อยขาได้เบาะนั่งรถได้พอดี2. เด็กโตพอที่จะสามารถนั่งตัวตรง หลังพิงพนักพิงได้ตรง3. เข็มขัดนิรภัยของรถส่วนล่างจะต้องรัดได้ตรงส่วนกระดูกเชิงกรานไม่ใช้รัดตรงท้อง4. เข็มขัดที่พาดส่วนบ่าจะต้องพาดผ่านมาตรงส่วนหน้าอก […]
คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหา โรงเรียนอนุบาลในฝัน ที่เหมาะสมให้กับลูกน้อยอยู่ เราเลยมีตัวเลือกโรงเรียนต่าง ๆ ที่อยู่ในกรุงเทพและปริมณฑลมาฝากกัน หลักสูตรจะน่าสนใจแค่ไหน และโดนใจคุณแม่กันบ้างหรือเปล่า มาดูกันเลยค่ะ โรงเรียนอนุบาลในฝัน มีที่ไหนที่น่าสนใจบ้าง มาดูกันเลย 1. โรงเรียนรุ่งอรุณ โรงเรียนตั้งอยู่บนพื้นที่สีเขียวประมาณ 50 ไร่ โดดเด่นด้านให้นักเรียนเรียนรู้อย่างเป็นองค์รวม เน้นความเป็นธรรมชาติเป็นพื้นฐาน เพื่อพัฒนาเด็ก ๆ ในแบบองค์รวมทั้งกาย ใจ สติปัญญา และสังคม เน้นลงมือทำจนเข้าถึงคุณค่าที่แท้จริงของทุกสิ่งที่เรียนรู้ สามารถนำความรู้มาประยุกต์ใช้อย่างสร้างสรรค์ มีจินตนาการ และโรงเรียนนี้ยังไม่มียูนิฟอร์ม เด็ก ๆ สามารถแต่งกายไปเรียนได้ตามความเหมาะสม ยกเว้นในวันกิจกรรมต่าง ๆ โรงเรียนรุ่งอรุณ เริ่มรับเข้าเรียน : ภาคเรียนที่ 2 เปิดเรียน เดือนกันยายน – ธันวาคม และภาคเรียนที่ 3 เปิดเรียน เดือนมกราคม – เมษายน ข้อมูลติดต่อ : https://www.roong-aroon.ac.th เบอร์โทรศัพท์ : 0 2870 7512 […]

ร้านสินค้าแม่และเด็กที่คัดสรรนวัตกรรมของใช้แม่และเด็กที่มี
คุณภาพให้คำปรึกษาและบริการ อย่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยให้การเลี้ยงลูกเป็นเรื่องง่าย ปลอดภัย และมีความสุข
Online Shopping
สาขา ปิ่นเกล้า ราชพฤกษ์
สาขา Mega บางนา
สาขา Central World
สาขา BTS วงเวียนใหญ่ (Outlet)
Copyright 2024 © Baby Gift (Retail) Co., Ltd.