ลูกติดเต้า ไม่เอาขวดนม รับมืออย่างไร

” ลูกติดเต้า ไม่ยอมใช้ขวดนมเลย ทำอย่างไรดี ? เริ่มให้ลูกหย่านมจากเต้า มาฝึกใช้ขวดนมเมื่อไหร่ดี ? ” อีกคำถามที่แม่ๆหลายคนมักเจอตอนลูกน้อยอายุ 1 ขวบ โดยเฉพาะคุณแม่ที่เลี้ยงลูกน้อยด้วยนมจากเต้าเพียงอย่างเดียว วันนี้ BabyGift มีเคล็ดไม่ลับมาฝากแม่ๆกันค่ะ

ต้องขอเกริ่นก่อนว่า ความจริงแล้วการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เป็นสิ่งที่ดีที่สุดอยู่แล้ว ด้วยคุณค่าของน้ำนมความอบอุ่นและอื่นๆ แต่เมื่อลูกรักโตขึ้น หลายคนที่ดูดนมแม่จากเต้าจนติด หรือที่เรียกว่า ” ลูกติดเต้า “  งอแงไม่ยอมกินนมจากขวด เวลาที่คุณแม่ต้องออกไปทำงานหรืออยู่นอกบ้าน การให้นมแม่จากขวดนม หรือการเริ่มหย่านมแม่ มักจะเกิดปัญหาตามมาเพราะลูกไม่ยอมกินนมจากขวด งอแงร้องไห้  จนเกิดปัญหาการกินกับลูกได้ และปัญหาการใช้ชีวิตของคุณแม่เอง

ฉะนั้นมาดูกันเลยค่ะว่าจะมีเทคนิคแบบไหน ที่สามารถทำให้ลูกได้ฝึกกินนมจากขวดได้ โดยไม่หักดิบ ไม่ทำให้ลูกร้องไห้งอแง หงุดหงิดเสียใจ คุณแม่เองก็ไม่ต้องเครียดไปด้วย ตามมาดูกันเลยค่ะ

8 ทริค ฝึกลูกดูดนมขวดแบบแฮปปี้

1 )  ค่อยๆ ฝึก ไม่บังคับลูก
เพราะการดูดขวดคือทักษะใหม่ของลูกรักที่เคยแต่ดูดนมแม่จากเต้ามาตลอด จนกลายเป็นว่า ลูกติดเต้า รวมถึงวิธีการดูดนมจากขวดกับการดูดนมจากเต้าก็มีความแตกต่าง  จึงต้องอาศัยเวลาให้ลูกปรับตัวและฝึกฝน

รวมถึงลูกรักเองก็ต้องใช้สมาธิในการดูดมากขึ้นในช่วงแรก ฉะนั้นการทำความเข้าใจไม่บังคับ และให้ลูกได้ลองฝึกในสิ่งแวดล้อมที่เงียบและสงบค่อย ๆ ป้อนไป จะช่วยทำให้ลูกรู้สึกผ่อนคลายและยอมกินได้มากขึ้น

2 )  เริ่มใช้ขวดตอนลูกไม่งอแง
นั่นคือหลีกเลี่ยงการให้ลูกลองทำอะไรใหม่ในช่วงเวลาที่เขาอาจจะงอแงได้ง่าย นั่นคือ ช่วงที่ลูกง่วงนอนจัด และช่วงที่ลูกหิวจัดนั่นเอง เพราะลูกจะโวยวายร้องไห้ไม่ยอมให้ความร่วมมือแน่นอน

3 )  การสลับมื้อนมจากเต้าและนมจากขวด
เป็นวิธีการค่อยๆ สลับมื้อนมให้ลูกคุ้นเคยมากขึ้น ด้วยการจากที่เคยให้นมจากเต้าทั้งวัน คุณแม่ก็อาจจะนำนมแม่ที่ปั๊มไว้มาให้ลูกกินสลับบ้างในบางมื้อ เช่น หากใน 1 วันให้กิน 5 ครั้ง ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นนมจากเต้า 4 ครั้ง นมจากขวดสัก 1 ครั้ง พอวันที่ 2 ก็ให้นมจากเต้า 2 ครั้ง นมจากขวด 2 ครั้ง ค่อยๆ ทำ แบบนี้สัก 3-4 วัน ให้ลูกรู้ว่าจะมีสลับกันบ้าง พอลูกเริ่มยอมรับได้ ค่อยเพิ่มจำนวนมื้อนมจากขวดให้มากขึ้น  หรือจะใช้สูรการสลับมื้อนม ดังนี้

  • วันที่ 1-3 : มื้อแรก ให้นมจากขวด 1 ขวด แทนนมแม่จากเต้า มื้ออื่นๆ ที่เหลือเป็นนมจากเต้าเหมือนเดิม
  • วันที่ 4-6 : ให้นมจากขวด 2 ขวด อาจเป็นมื้อแรก หรือมื้อบ่าย นอกนั้นมื้ออื่นๆ สลับเป็นนมแม่จากเต้า
  • วันที่ 7-9 : ให้นมจากขวด  3 ขวด  ในมื้อแรก มื้อที่สอง และมื้อเย็น ที่เหลือเป็นนมแม่จากเต้า
  • วันที่ 10 : ให้นมจากขวดทั้งหมดทุกมื้อ

4 )  ฝึกลูกดูดนมจากขวดก่อนเวลาหิวจริง
ควรเริ่มให้ดูดนมจากขวด ก่อนมื้อนมประมาณ 10-15 นาที หรือช่วงเวลาที่ลูกใกล้ตื่นจากนอน  โดยไม่ควรฝึกให้ลูกดูดนมแม่จากขวดตอนที่ลูกร้องหิว เพราะลูกจะมีอาการหงุดหงิด จนไม่ยอมกินนมแม่ที่อยู่ในขวดได้

5 )  ให้คนอื่นป้อน
เพราะลูกรักติดนมจากเต้าคุณแม่มานาน รวมถึงมีความผูกพันและอาจติดกลิ่น ติดความรู้สึกที่ได้กินนมแม่จากเต้า ดังนั้นเวลาที่ลูกเห็นหรือได้กลิ่นแม่อยู่ด้วย ลูกอาจจะไม่ยอมดูดนมจากขวดได้

ฉะนั้นบางครั้งอาจจะต้องให้คนอื่นเป็นคนป้อนขวดให้ลูก แล้วคุณแม่ก็แยกตัวไปอยู่ที่อื่นก่อน  เพื่อเป็นการฝึกซ้อมตอนแม่ต้องไปทำงาน หรือออกไปนอกบ้านให้ลูกได้ค่อยๆ คุ้นเคย  โดยคุณแม่ควรหลบไปอยู่นอกสายตาไม่ให้ลูกมองเห็น และอยู่ห่างๆ เพราะสัญชาตญานของลูกจะจำกลิ่นแม่ได้ ทำให้ลูกไม่ยอมกินนมจากขวด

6 )  เปลี่ยนจุกให้เหมาะสม
การเลือกจุกนมเป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่ง สำหรับการฝึกลูกกินนมจากขวด  เพื่อไม่ให้ลูกสับสนหัวนมระหว่างหัวนมจากเต้าแม่และหัวนมจากขวด  ดังนั้นคุณแม่จึงควรเลือกหัวนมที่มีลักษณะและความนิ่มพอ ๆ กับหัวนมแม่   เลือกใช้จุกนมเสมือนนมแม่ เพื่อให้ลูกรู้สึกคล้ายการดูดนมจากเต้านมแม่  ดยปัจจุบันมีให้เลือกมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นจุกนมที่มีความนิ่ม มีฐานกว้าง ที่ลูกจะต้องใช้วิธีการดูดทั้งปากคล้ายนมแม่

Tommee Tippee  ราคา 355.- บาท (2 ชิ้น/แพค)

  • จุกนมสำหรับเด็ก ที่มีฐานกว้าง
  • ใช้งานได้กับขวดนมชนิด PP PES
    แก้ว ถุงเก็บน้ำนม Express and Go
  • ผลิตจากซิลิโคนที่เลียนแบบเต้านมของแม่
    จึงให้ผิวสัมผัสนุ่ม ยืดหยุ่น น้ำนมไหลอย่างธรรมชาติ
  • ทนความร้อนได้ 120 องศาเซลเซียส
  • น้ำหนักเบา มีความยืดหยุ่นสูง
  • คุ้มค่าระยะเวลาการใช้งาน 2-3 เดือน
  • สามารถฆ่าเชื้อได้ด้วยการต้ม หรือเครื่องนึ่งฆ่าเชื้อได้
  • ปราศจาก BPA (สารก่อมะเร็ง)

PUR จุกนม รุ่น Gentle Touch ราคา 215.- บาท  (2 ชิ้น/แพค)

  • คอกว้าง ขนาดใหญ่ สำหรับเด็ก 6 เดือนขึ้นไป แพ็ค 2 ชิ้น
  • มีแอร์วาว์ล ช่วยให้อากาศไหลผ่านจุกนมได้สะดวก ระดับการไหลของน้ำนมให้เป็นไปอย่างสม่ำเสมอ จุกนมไม่ฟีบแบนแม้ดูดอย่างต่อเนื่อง (คล้ายดูดนมแม่)
  • แอร์วาว์ล จะช่วยทำให้ไม่เกิดสุญญากาศที่ขวดนม จึงช่วยลดอาการสำลักซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งของอาการโคลิก
  • ช่วยให้ลูกน้อยไม่ต้องกลืนอากาศในขณะดูดนม หมดกังวลเรื่องปัญหาท้องอืด ท้องเฟ้อ ไม่สบายท้อง
  • จุกนมซิลิโคน สามารถฆ่าเชื้อโดยวิธีการต้ม / แช่ในน้ำเดือด / นึ่งในเครื่องนึ่งไฟฟ้า หรือไมโครเวฟ

7 )  ใช้ขวดนมป้องกันลมเข้า ป้องกันท้องอืด
เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาลูกกินนมจากเต้าคุณแม่ มักจะไม่มีอาการท้องอืดแน่นท้อง ไม่เคยดูดลมเข้าในท้อง แต่การเปลี่ยนมาดูดนมขวด อาจทำให้ลูกมีอาการแน่นท้องได้ พ่อแม่จึงควรต้องป้องกันไม่ให้ลูกมีอาการไว้ก่อน เนื่องจากหากลูกปวดท้อง ไม่สบายท้องเพราะดูดขวด เขาจะไม่ยอมดูดขวดอีกเลย  คุณแม่จึงควรฝึกลูกกินนมจากขวด ด้วยการเลือกซื้อขวดนมที่มีคุณภาพในการป้องกันลมเข้า ป้องกันโคลิก และให้ลูกได้หยิบจับได้สะดวก

Mummom PPSU Feeding bottle Anti-Colic
ขวดนมป้องกันอาการโคลิค ขนาด 6 oz.  ราคา 490.- บาท

  • ผลิตจากพลาสติ PPSU ที่ทนต่อความร้อนสูงถึง 180 องศา ใช้งานนานถึง 2 ปี
  • วัสดุทุกชิ้นปราศจากสาร BPA และหมึกที่ใช้พิมพ์ลายขวดนม ผลิตจากพืช ปลอดภัยต่อลูกน้อย (100% Safe: BPA Free, Non-toxic plant ink)
  • มีจุกนมที่ออกแบบให้เหมือนเต้านมแม่ ฐานกว้างนมไม่รั่ว
  • มีรูระบายอากาศ แบบเข้าทางเดียว ทำให้น้ำนมไหลสม่ำเสมอ จุกนมไม่ฟีบแม้ดูดต่อเนื่อง
  • จุกยางต่อกับสายยางทำให้ไม่มีลมเข้าเวลาดูด ทำให้ไม่เกิดลมเข้าสู่ปากลูก ไม่มีอาการท้องอืด หรือท้องเฟ้อ
  • ผ่านการรับรองมาตรฐาน , มอก.

Tommee Tippee ขวดนม รุ่น Anti-colic 9 ออนซ์ ราคา – บาท

  • มีส่วนช่วยลดการเกิดอาการโคลิค ปวดท้อง แน่นท้อง
  • ผลิตจากพลาสติก ชนิด PP (โพลีโพลไพลิน) ขวดใส น้ำหนักเบา
  • สามารถทนความร้อนได้ 110-120 องศาเซลเซียส
  • คุ้มค่า สามารถใช้งานขวดนมได้นาน 6 เดือน
  • สามารถฆ่าเชื้อได้ด้วยการต้ม หรือเครื่องนึ่งฆ่าเชื้อได้
  • ปราศจาก BPA (สารก่อมะเร็ง)

Nanobebe ขวดนม รุ่น Flexy Silicone 9 ออนซ์  ราคา 695.- บาท

  • ทำจากซิลิโคนเกรดพรีเมียม เป็นฟู้ดเกรดที่ดีที่สุด BPA-Free, phthalate-free, lead-free, and PVC-free. 100% silicone interior
  • จุกนมรุ่นระบายอาการพิเศษที่ลดอาการโคลิค มีรูระบายอากาศ 3 รู อยู่ตัวไม่ยุบลงง่าย ทำให้ลูกสามารถดูดได้ดี ไม่เกิดอาการหงุดหงิดหรือไม่สบายตัวหลังการดูดขวด
  • ผิวสัมผัสนิ่ม ให้ความรู้สึกเสมือนเต้านมแม่ ทำให้ลูกสามารถเปลี่ยนจากเต้านมแม่สู่ขวดได้อย่างสบาย หรือสามารถใช้สลับเต้าขวดโดยไม่เกิดการสับสนของเต้านมแม่
  • มีฐานขวดนมกว้างทรงคล้ายเต้านมแม่ ทำให้ขวดตั้งได้อยู่ตัวไม่ล้มลงง่าย และมีระดับวัดปริมาตรที่ชัดเจน
  • คอขวดกว้างทำให้ล้างทำความสะอาดได้ทุกซอกมุม สามารถล้างในเครื่องล้างจาน และฆ่าเชื้อได้ในเครื่องอบ UV เครื่องนึ่ง และไมโครเวฟได้
  • ใช้ได้กับลูกน้อยตั้งแต่วัยแรกเกิด ไปจนถึงวัย Toddler

Dr.Betta ขวดนมคอกว้าง Brain WS2 240 ml. ราคา 1,490 บาท 

  • ออกแบบให้มีรูปทรงโค้ง ตอบโจทย์การดื่มนมของลูกได้ดี ป้องกันโคลิค
  • ลูกดื่มนมในท่านั่งตรงเสมือนดูดนมจากเต้ามารดา กลืนนมได้ง่ายยิ่งขึ้น
  • ลดโอกาสการเกิดโรคหูชั้นกลางอักเสบอัน จากการที่น้ำนมไหลเข้าสู่หูชั้นกลาง
  • ถูกออกแบบมาให้มีอากาศในขวดน้อยที่สุด ลดการกลืนลมของลูกน้อย
  • จุกนมเป็นแบบน้ำนมไหลตามแรงดูดของลูกน้อย มีความนิ่ม ปลายจุกกลมผิวสัมผัสมีความด้าน มีรอยหยักช่วงปลายจุกเสมือนนมแม่
  • ใช้สลับกับการเข้าเต้าได้ รูปทรงโค้ง ให้ลูกจับเองได้ง่าย
  • วัสดุของขวดนม ทำมาจากพลาสติก PPSU (สีชา)
  • แข็งแรงทนทาน ตกไม่แตก ไม่ดูดซับสีและกลิ่น
  • ทนความร้อนสูงสุด 180 องศา นึ่งและอบ UV ได้
  • มีอายุการใช้งานสูงสุด 2 ปี

8 ) การฝึกให้ลูกเริ่มใช้ถ้วยหรือแก้วหัดดื่ม
นอกจากการฝึกให้ลูกใช้ขวดนมดูดน้ำนมแทนกินนมแม่จากเต้าแล้ว หากเป็นไปได้ อาจลองฝึกให้ลูกดื่มน้ำ หรือดื่มน้ำผลไม้ด้วยถ้วยหัดดื่ม เพราะลูกวัย 1 ปีขึ้นไปสามารถดื่มน้ำผลไม้ และน้ำปั่นอื่นๆ ได้บ้างแล้ว

ฉะนั้นหากลูกได้ดื่มนม ดื่มน้ำ  หรือน้ำผลไม้อื่นๆ ได้อย่างมีความสุขหรือหลากหลายมากขึ้น การใช้ถ้วยหัดดื่มสำหรับเด็กที่มีสีสันสดใส ให้ลูกได้หยิบจับถือได้เอง จะทำให้ลูกรู้สึกสนุก และค่อยๆ เลิกกินนมจากเต้า หรือหัดใช้ถ้วยแทนการดูดนมจากขวดได้อีกด้วย มาดูกันว่า ถ้วยหัดดื่มที่น่าสนใจมีแบบไหนบ้าง

Bbox แก้วหัดดื่ม Disney/Sippy Cup 240 ml. ราคา 590.- บาท

  • ผลิตมาจากวัสดุ ซิลิโคนนิ่ม, สเตนเลสคุณภาพสูง, PP-BPA, Phthalates and PVC free ที่มีความปลอดภัยสูง
  • ออกแบบมาสุดพิเศษ โดยมีซิลิโคนลูกบอลเหล็กถ่วงน้ำหนัก
  • ลูกรักสามารถดื่มได้ในทุกอิริยาบถ ไม่ว่าจะนั่งหรือนอน ด้วยนวัตกรรมการออกแบบ ที่ทำให้ปลายหลอดภายในแก้วจมอยู่ในของเหลว ตลอดเวลา
  • ตัวแก้วออกแบบให้มีหูจับถนัดมือ ฝาเปิด-ปิดง่าย ไม่รั่วไม่หก ไม่สำลัก
  • สามารถถอดล้างทำความสะอาดได้ทุกชิ้น ปลอดภัยจากการสะสมของเชื้อรา
  • ปราศจาก BPA, Phthalates และ PVC
  • เหมาะสำหรับลูกรักวัย 6 เดือนขึ้นไป มีสีสันสดใสให้เลือกหลากหลาย

PUR แก้วหัดดื่มพร้อมหลอดดูด Go’in Out 8 ออนซ์ ราคา 225.- บาท

  • ผลิตจากวัสดุปลอดจากสาร BPA จึงมั่นใจในความปลอดภัยต่อลูกน้อย
  • ขวดรูปทรงเว้าจึงจับขวดได้สะดวกยิ่งขึ้น พร้อมสีสันที่ช่วยดึงดูดความสนใจของลูกน้อยนำไปสู่พัฒนาการการเรียนรู้ที่มากขึ้น
  • เก็บรักษาหลอดให้สะอาดด้วยหลอดซิลิโคนไม่รั่วซึม ทำความสะอาดง่ายและถูกสุขอนามัย
  • ให้ลูกน้อยจับและถือได้ถนัดมือ เพราะออกแบบมาให้สามารถล๊อกมือจับหรือแกว่งได้ตามต้องการ
  • สามารถล๊อกมือจับได้ที่ตัวขวด เพื่อใช้เป็นขวดนมแบบปกติระหว่างมื้ออาหารได้
  • เสริมสร้างพัฒนาการ ทำให้ลูกน้อยรู้สึกสนุกสนานและเพลิดเพลินไปกับการดื่มน้ำกับแก้วน้ำสีสันสดใส

เป็นยังไงกันบ้างคะ กับเทคนิคที่ BabyGift นำมาฝาก ขอเพียงหมั่นฝึกฝนตามวิธีการต่างๆ ที่แนะนำ พร้อมกับใช้ตัวช่วยต่างๆ อย่างขวดนมที่เหมาะกับเจ้าตัวเล็ก และมีจุกนมที่ดี เพียงเท่านี้ ก็มั่นใจได้ว่าลูกน้อยจะยอมดูดขวดนมได้อย่างเพลิดเพลินแน่นอนค่ะ

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00

บทความแนะนำ

เมื่อเริ่มตังครรภ์ มีเจ้าตัวเล็กเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย คุณแม่ทุกคนก็ต้องตื่นเต้นอยากเจอหน้าลูกและสงสัยว่า พัฒนาการทารกในครรภ์ ไปถึงไหนแล้วใช่ไหมคะ เราจึงนำพัฒนาการของลูกน้อยตลอดเก้าเดือนที่อยู่ในท้องของคุณแม่มาให้ชมกัน เบบี้กิ๊ฟขอแสดงความยินดีกับคุณแม่ทุกท่านด้วยนะคะ ลูกน้อยตัวโตแค่ไหนแล้ว เราลองเทียบกับผลไม้ให้ดูค่ะ พัฒนาการทารกในครรภ์ ที่คุณแม่มือใหม่ต้องรู้ พัฒนาการทารกในครรภ์ เดือนที่ 1 พัฒนาการทารกในครรภ์เดือนที่ 1 คุณแม่ส่วนใหญ่จะรู้ตัวว่าตั้งครรภ์ก็เข้าเดือนที่สองไปแล้ว เพราะว่าในเดือนแรกนี้จะเป็นช่วงที่ไข่กับอสุจิเข้าผสมกัน มีการแบ่งเซลล์แล้วก็ฝังตัวของเอ็มบริโอ ซึ่งในระยะนี้เจ้าหนูน้อยก็จะเล็กจิ๋วมาก ๆ เลยล่ะค่ะ มีขนาดไม่ถึงหนึ่งเซนติเมตรเท่านั้นเอง ส่วนการพัฒนาหลัก ๆ ก็จะเป็นการพัฒนาในส่วนของรก เพื่อเตรียมพร้อมรอรับสารอาหารจากคุณแม่ พัฒนาการทารกในครรภ์ เดือนที่ 2  พัฒนาการทารกในครรภ์เดือนที่ 2 เดือนนี้แหละที่คุณแม่หลาย ๆ ท่านจะเริ่มรู้ตัว มีอาการแพ้ท้อง แล้วก็ไปหาคุณหมอเพื่อการฝากครรภ์กันแล้ว ในช่วงเดือนนี้ลูกน้อยจะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมมาก ประมาณ 2-3 เซนติเมตร แต่ก็จะยังไม่ได้รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงของรูปร่างอะไรมากมาย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการพัฒนาของระบบประสาท เนื้อเยื่อเส้นใยประสาท แล้วก็ไขสันหลัง คุณแม่สามารถทำอัลตราซาวด์เพื่อฟังเสียงหัวใจของลูกน้อยเต้นได้แล้วนะคะ พัฒนาการทารกในครรภ์เดือนที่ 3 ทารกในครรภ์จะมีน้ำหนักประมาณ 28 กรัม และมีความยาวประมาณ 7.6 ซ.ม. แล้วค่ะ […]

เป้อุ้มเด็กเป็นตัวช่วยอย่างหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต่างให้ความสนใจไม่แพ้กับคาร์ซีทและรถเข็นเด็กที่เป็นของจำเป็นสำหรับการเลี้ยงลูกน้อย โดยเฉพาะพ่อแม่เด็กอ่อนที่ต้องอุ้มลูกแทบจะตลอดเวลา หากอุ้มลูกนาน ๆ ก็อาจจะทำให้เมื่อยล้า ปวดแขน ปวดไหล่ ปวดหลัง และมีปัญหาด้านสุขภาพตามมาได้ จึงมองหาเป้อุ้มเด็กแรกเกิดที่จะมาช่วยทุ่นแรงให้อุ้มลูกน้อยได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น ในบทความนี้ BabyGift จะขอแนะนำยี่ห้อเป้อุ้มทารกที่คุณภาพดี เป็นที่นิยมกันในตลาด พร้อมคำแนะนำในการเลือกให้กับคุณพ่อคุณแม่กันค่ะ  BabyGift แนะนำยี่ห้อเป้อุ้มทารกคุณภาพดี พร้อมวิธีการเลือกที่พ่อแม่ต้องรู้ !  เป้อุ้มเด็ก หรือ เป้อุ้มทารก เป็นอุปกรณ์ทุ่นแรงให้กับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ เพื่อให้อุ้มลูกน้อยได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น ไม่เหนื่อยไม่เมื่อยจนเกินไปในเวลาที่ต้องอุ้มลูกนาน ๆ และยังสามารถทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้ในขณะเดียวกัน โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีใครดูลูก หรือต้องปล่อยให้ลูกอยู่ห่างจากตัว เป้อุ้มเด็กนั้นเหมาะสำหรับการอุ้มเด็กเล็กตั้งแต่ช่วงแรกเกิดไปจนถึงอายุ 2 – 3 ขวบ ซึ่งเป้อุ้มเด็กจะมีประโยชน์อย่างมากในครอบครัวที่ไม่มีคนดูแลเด็กเมื่อคุณพ่อคุณแม่ต้องออกไปทำธุระอื่น ๆ นอกบ้าน หรือโดยเฉพาะคุณแม่ที่ต้องทำงานบ้านไปด้วยเลี้ยงลูกไปด้วย ก็สามารถใช้เป้อุ้มเด็กเพื่อให้ลูกอยู่กับตัวเองได้ และสามารถทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้ด้วย โดยสามารถใช้เป้อุ้มเด็กแรกเกิดไปจนถึง 1 ขวบขึ้นไป และบางรุ่นก็สามารถใช้ได้จนถึง 3 ขวบเลยทีเดียว ซึ่งเป้อุ้มเด็กในท้องตลาดก็มีอยู่มากมายหลายยี่ห้อด้วยกัน แล้วคุณพ่อคุณแม่จะเลือกยังไง วันนี้เรามียี่ห้อมาแนะนำกันค่ะ 1. Hugpapa  แบรนด์ Hugpapa เป็นแบรนด์ดังจากประเทศเกาหลีใต้ ที่ทางแบรนด์เน้นการผลิตและจำหน่ายเป้อุ้มเด็กโดยเฉพาะ และขึ้นชื่อเรื่องนวัตกรรมเป้อุ้มเด็กที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ให้ได้มากที่สุด และนอกจากนี้ ก็มีอุปกรณ์เสริมอื่นๆ จำหน่ายแยกอีกด้วย  สำหรับเป้อุ้มทารกจากแบรนด์ Hugpapa ที่ BabyGift อยากจะแนะนำก็คือ เป้อุ้ม Hugpapa รุ่น Dial-Fit Pro (3in1 Hip Seat Carrier) ที่มีเทคโนโลยี BOA ช่วยปรับให้เป้มีความกระชับตัวได้ง่ายมากขึ้นเพียงแค่หมุน ใช้งานได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และสามารถปรับได้พอดีกับสรีระของทุกคน ตัว Hipseat เป็น EPP […]

เชื่อว่าปัญหาที่หลายๆ บ้านจะต้องเจอก็คือ การที่ลูกรักไม่ยอมกินข้าว โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่อายุ 1 ขวบขึ้นไป เมื่อเริ่มเดินได้คล่อง เริ่มวิ่งได้บ้าง ก็จะติดเล่น ไม่ค่อยยอมกินข้าวหรือกินได้น้อย บางคนก็อมข้าว ไม่ยอมเคี้ยว หรือหันหน้าหนี กว่าจะป้อนหมดชามก็ใช้เวลานานเกินไป ซึ่งทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายๆ คนเป็นกังวล เพราะการที่ลูกเราไม่ยอมกินข้าวก็อาจส่งผลต่อสุขภาพและการเติบโตของลูกได้ แต่ปัญหาการกินของลูกรับมือได้ไม่ยากเลยค่ะ เพียงแค่ต้องให้เวลา ใช้ความเข้าใจ และต้องใจแข็งนิดหน่อย ก็จะทำให้ลูกมีวินัยในการกินมากขึ้น ลูกไม่ยอมกินข้าว 1 ขวบ จะแก้ปัญหาอย่างไรดี ? มาลองฝึกลูกน้อยไปพร้อม ๆ กันกับ BabyGift ได้เลยค่ะ ลูกไม่ยอมกินข้าว 1 ขวบ ทำยังไงดี ? ชวนดูเทคนิคดีๆ ที่ทำให้ลูกกินได้มากขึ้น การได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอในปริมาณที่เหมาะสมนั้นเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากสำหรับลูกน้อย เพราะส่งผลต่อการเจริญเติบโตตามวัย หากได้รับสารอาหารไม่เพียงพอนั้นอาจทำให้ลูกมีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์และสุขภาพไม่แข็งแรงได้ โดยทั่วไปแล้ว เมื่อเด็กอายุครบ 1 ขวบจะเริ่มเรียนรู้การปฏิเสธอาหารหรือคายอาหาร เนื่องจากมีพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวร่างกาย สามารถหยิบจับอาหารเข้าปากได้เอง การปฏิเสธ หรือคายอาหารจึงเป็นสัญชาตญาณอย่างหนึ่งที่ช่วยป้องกันไม่ให้ตัวเองกินสิ่งที่เป็นพิษหรือสิ่งแปลกปลอมเข้าไป โดยส่วนใหญ่แล้ว การที่ลูกไม่ยอมกินข้าว 1 ขวบนั้นจะเกิดขึ้นไม่นานและหายไปได้เอง แต่เด็กบางคนอาจมีพฤติกรรมกินยาก […]

เมื่อพี่ตู่เตรียมคาร์ซีท พาน้องริสาออกไปเที่ยวครั้งแรก… แต่มะลิ (แม่บ้าน) ดันถอดเบาะคาร์ซีทไปซักซะงั้น งานนี้พี่ตู่ต้องใส่ผ้าหุ้มกลับเข้าไปเหมือนเดิม เบาะทั้งหมดแบ่งออกเป็น 3 ชิ้น ที่เข้าใจง่ายๆ พี่ตู่บอกว่าง่ายมาก ทำครั้งแรกก็ได้เลย #แท็กสามี #ซักคาร์ซีทให้หน่อย เพราะคุณแม่นุชออกไปทำธุระข้างนอก การพาน้องริสาออกไปเที่ยวครั้งนี้มีแค่สองพ่อลูกเท่านั้น คาร์ซีทจึงจำเป็นมาก พี่ตู่เลือกคาร์ซีท Ailebebe รุ่น  Kurutto 4 Grance ผ้าหุ้มตาข่ายระบายอากาศได้ดี น้องริสานั่งแล้วสบายตัว ไม่อึดอัด ไม่งอแง สบายจังเลย…ปะป๋า ของีบแป๊บบบบนะคะ หมุนได้ 360 องศา อุ้มน้องริสาขึ้นลงคาร์ซีทได้ง่าย คาร์ซีท Ailebebe ปลอดภัยแน่นอน เพราะทุกตัวผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวด จากประเทศญี่ปุ่น รีวิวคาร์ซีท Ailebebe รุ่น Kurutto4

เชื่อว่าคุณแม่หลายๆคนคงอยากให้ลูกน้อยปลอดภัยโชคดีกันทั้งนั้น วันนี้ Baby Gift ขอเอาใจคุณแม่สายมู หยิบข้อมูลเครื่องรางยอดฮิตสำหรับลูกน้อยมาฝากค่ะ เราลองไปดูพร้อมๆกันเลยว่า Lucky item เพิ่มสีสันให้ลูกน้อยแถมยังคุ้มครองทางใจคุณแม่ ไปดูกันเลย ตาข่ายดักฝัน หรือที่เรารู้จักกันในนามว่า Dreamcatcher ในสมัยก่อนชาวอินเดียนแดงสร้างเครื่องรางชิ้นนี้ขึ้นมา เพราะเชื่อว่าจะช่วยป้องกันฝันร้ายให้สลายหายไป จึงหันมานิยมห้อยไว้เหนือเปลเด็กเพราะหวังว่าจะช่วยทำให้ลูกน้อยปลอดภัยและนอนหลับฝันดี ซึ่งยังเป็นการช่วยส่งเสริมพัฒนาการของลูกน้อยได้เป็นอย่างดี เพราะสายตาเด็กที่จับจ้องมองการแกว่งไกวของตาข่ายดักฝันนั้น จะช่วยทำให้ลูกน้อยมีพัฒนาการการเรียนรู้ทางสายตาและกล้ามเนื้อมัดเล็กได้เป็นอย่างดี ในขณะเดียวกันยังทำให้คุณแม่อุ่นใจเมื่อมีเครื่องรางช่วยคุ้มครองให้ลูกน้อยปลอดภัยอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย อเมทิสต์หินนำโชค ตามความเชื่อของหินนำโชคนั้น หินสีม่วงจะช่วยปกป้องให้ลูกน้อยปลอดภัย ปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายออกไป เสริมพลังบวกและดึงดูดสิ่งดีๆนำความโชคดีมาให้เด็กๆ อีกทั้งยังช่วยทำให้ลูกน้อยหลับสบาย เพราะเชื่อว่าหินจะมีคลื่นพลังงานแห่งความสุขปล่อยออกมาช่วยทำให้ลูกน้อยนอนหลับฝันดีหรือมีความสุขนั่นเอง แต่อย่างไรก็ตามเพื่อ คุณแม่ควรวางไว้ในจุดที่ลูกน้อยไม่สามารถหยิบจับหรือเอื้อมถึงได้ เพื่อลดความเสี่ยงที่ลูกน้อยจะเผลอหยิบเข้าปาก และอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ ถุงนำโชค อีกหนึ่งเครื่องรางจากวัดดังที่ฮอกไกโด เครื่องรางชิ้นนี้เป็นถุงผ้าสีชมพู ปักตัวอักษรด้วยดิ้นสีทอง และปักรูปแมว 2 ตัว พกเพื่อนำโชค เพราะเชื่อกันว่าจะช่วยปกป้องสิ่งชั่วร้ายจากลูกน้อย สุขภาพแข็งแรง และยังช่วยให้เด็กเติบโตมีสุขภาพที่แข็งแรงในอนาคตด้วย นอกจากจะคุ้มครองให้ลูกน้อยปลอดภัยแล้วยังช่วยคุ้มครองคุณแม่อีกด้วย กำไลข้อเท้า คนไทยสมัยก่อนมักซื้อมาไว้รับขวัญหลาน เพราะเชื่อกันว่าการใส่กำไลข้อเท้าให้เด็กนั้นจะช่วยคุ้มครองให้ลูกน้อยปลอดภัย สุขภาพแข็งแรง แต่ความจริงนั้นอาจเป็นเพียงกุศโลบายในการเลี้ยงเด็ก เพราะกำไลข้อเท้าเด็กส่วนมากจะมีกระดิ่งห้อยอยู่ด้วย เมื่อพ่อแม่ได้ยินเสียงจะทำให้รู้ว่าลูกนอนอยู่หรือตื่นแล้ว อีกทั้งยังสามารถตามหาลูกน้อยว่าอยู่ที่ไหนได้จากเสียงกระดิ่งอีกด้วย เรียกได้ว่า ทั้งเสริมดวงให้ลูกน้อยปลอดภัยแล้วยังได้ใช้ประโยชน์ไปพร้อมๆกัน ถึงอย่างไรก็ตาม กำไลข้อเท้าควรทำมาจากวัสดุที่มีคุณภาพ […]

หนึ่งอุปกรณ์สำคัญเพื่อการเลี้ยงลูกที่คุณแม่ขาดไม่ได้คือ ขวดนม ที่คุณแม่ตั้งครรภ์หลายท่านอาจมองข้าม เพราะคิดและตั้งใจไว้แล้วว่าจะให้นมแม่ล้วนหลังคลอด ซึ่งอาจลืมไปว่าแม้จะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ แต่ขวดนมก็ยังมีความสำคัญและเป็นผู้ช่วยชั้นดีของการให้นมแม่ได้แน่นอน » ขวดนมจำเป็นแค่ไหน ? » ขวดนม มีกี่แบบ ? ปัจจุบันขวดนมสำหรับเด็กผลิตขึ้นจากวัสดุที่หลากหลาย มีหลายประเภทและหลายรูปทรงให้เลือก วัสดุของขวดนม ขวดนมสำหรับเด็ก มีทั้งขวดแก้ว ขวดพลาสติก และขวดที่ใช้แล้วทิ้ง(Disposable Liners)ที่ใส่ลงในขวดนมอีกที  แต่ปัจจุบันขวดนมส่วนใหญ่ที่นิยมใช้มักผลิตจากพลาสติกเพราะน้ำหนักเบา ตกไมแตก ทนความร้อนและหาซื้อง่าบ โดยมีทั้งขวดพลาสติกใส ขวดพลาสติกขาวขุ่น และขวดสีชา ที่ผลิตจากพลาสติกที่ต่างชนิดกัน 1. ขวดนม PP วัสดุ POLYPROPYLENE เป็นขวดนมที่มีสีโปร่งใส หรือสีขาวขุ่น มีน้ำหนักเบา ทนทาน โดยทนอุณหภูมิได้ตั้งแต่ -20 –110˚c มีอายุการใช้งานประมาณ 6 เดือน และอาจเหลือน้อยลงหากผ่านความร้อนจากการต้มหรือนึ่งบ่อยๆ 2. ขวดนม PES วัสดุ POLYETHERSULFONE เป็นขวดพลาสติกสีชาหรือน้ำผึ้ง สามารถทนอุณหภูมิได้ที่ -50–180˚c มีอายุการใช้งานยาวนานประมาณ 6 เดือน […]

Menu
All Categories
All Brands
All Ages
Promotions
Locations
BabyGift Family
BabyGift Care
Parents Guide
News & Event

All Categories

All Categories
All Brands
All Ages