วิธีเลือก เป้อุ้มทารก

รวมสุดยอดวิธี เลือกเป้อุ้มทารก

เพราะเป้อุ้มเด็ก  เป็นเครื่องทุ่นแรงที่สำคัญยิ่งสำหรับคุณแม่  ที่เรียกได้ว่าคืออุปกรณ์คู่กายคู่ใจที่พาคุณแม่และลูกน้อยไปทำกิจวัตรด้วยกันได้เสมอ เป้อุ้มลูกนี้จึงเป็นหนึ่งในสิ่งอำนวยความสะดวกประจำบ้านที่กำลังเลี้ยงลูกอ่อน ยิ่งเป็นครอบครัวเล็กที่คุณแม่ต้องเลี้ยงลูกคนเดียวไม่มีคนมาช่วยเลี้ยงลูก ในช่วงเวลาที่คุณพ่อไปทำงานนอกบ้าน  ยิ่งถือเป็นของใช้ที่จะช่วยให้คุณแม่ทำงานและกิจกรรมอื่นๆได้ พร้อมเลี้ยงลูกได้แบบเบ็ดเสร็จ

ซึ่งในยุคสมัยที่การหาเงินได้ฝืดเคือง และข้าวของใช้ราคาสูงเช่นนี้ การเลือกซื้อเป้อุ้มลูกทั้งที เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่จะต้องพิจารณาอย่างถ้วนถี่ และเลือกใช้ให้คุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่าย แต่จะรู้ได้อย่างไร? ว่าเป้อุ้มเด็กแบบไหนดี ทนทานปลอดภัย ใช้งานได้นานจนลูกโต ลองมาอ่านเทคนิคดีๆ เหล่านี้กันเลย

1. ตอบโจทย์การใช้งาน การเลี้ยงลูกของครอบครัว

นั่นคือการเลือกให้ตรงกับสไตล์การเลี้ยงลูกของครอบครัว การทำงานของคุณพ่อคุณแม่และการเดินทางของคนในบ้าน ซึ่งต้องคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ  ได้แก่ 

ขนาดของครอบครัวและคนช่วยเลี้ยงลูก เพราะหากเป็นครอบครัวเล็ก คุณแม่ต้องเลี้ยงลูกคนเดียว คุณพ่อไปทำงาน จำเป็นต้องใช้เป้อุ้มลูก สำหรับเวลาทำงานบ้าน ทำธุระหรือจำเป็นต้องออกไปซื้อของนอกบ้าน   แม้แต่เป็นครอบครัวใหญ่ อาจจะได้ใช้เวลาคุณแม่ต้องทำธุระ ผลัดกันใช้เวลาเดินทางไปข้างนอก 

สิ่งของที่ใช้กับลูก เวลาที่ต้องพาลูกออกนอกบ้าน เพราะหากคุณพ่อคุณแม่มีข้าวของเครื่องใช้ที่ไม่ต้องพกไปมาก การใช้เป้อุ้มเด็กก็จะทำให้สะดวก พ่อแม่ถือของใช้ และซื้อของได้สบาย ไม่ต้องใช้มืออุ้มหรือเข็นลูก หรือหากเวลาไปไหนที่ต้องใช้พื้นที่จำกัดการใช้เป้อุ้มเด็กก็จะไม่ต้องเปลืองพื้นที่เพราะพับเก็บได้ พกพาง่ายกว่ารถเข็น   

การเดินทางของครอบครัว หมายถึงสังเกตการใช้ชีวิตของครอบครัวว่า ต้องออกไปต่างจังหวัด หรือไปเยี่ยมญาติบ่อยหรือเปล่า ใช้เวลาพาลูกออกนอกบ้านนานแค่ไหน หากต้องไปที่ไหนไม่นานนัก การใช้เป้อุ้มเด็กจะมีความคล่องตัวสะดวกกว่ารถเข็น  แต่หากต้องใช้เวลาเดินหรือยืน เดินทางนานเป็นชั่วโมง อาจเลือกใช้รถเข็นจะดีกว่า  

พาหนะของบ้านที่ใช้ในการเดินทาง รถที่บ้านเล็ก-ใหญ่แค่ไหน หากเป็นรถที่มีขนาดไม่ใหญ่ การใช้รถเข็นเด็กบางรุ่นหรือรุ่นที่พับไม่ได้ มีขนาดใหญ่ อาจจะไม่สะดวกเท่าใช้เป้อุ้มเด็ก  รวมถึงหากต้องเดินทางด้วยรถสาธารณะก็ควรใช้เป้อุ้มเด็ก เพราะจะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่เดินทางได้คล่องตัวรวดเร็ว 

ราคาเหมาะสม เลือกเป้อุ้มเด็กที่มีราคาเหมาะสมกับฐานะครอบครัว  และจะดีมากหากใช้ได้ยาวนานและรักษาสภาพให้ดีจนสามารถขายต่อมือสอง หรือส่งต่อให้ญาติพี่น้องที่มีลูกต่อไปได้

2. คุณสมบัติรองรับน้ำหนักได้ดี มีวัสดุปลอดภัย

ควรเลือกซื้อเป้อุ้มเด็กที่มีคุณสมบัติรองรับน้ำหนักลูกได้ดี ดูคำแนะนำว่าใช้ได้สำหรับเด็กน้ำหนักเท่าไร? ใช้ได้จนถึงลูกอายุโตแค่ไหน  ควรมีเนื้อผ้าหรือวัสดุที่นุ่ม เนื้อผ้าบริเวณที่ต้องสัมผัสกับใบหน้าของลูกน้อย เบาะรองนั่งและหลัง ควรมีผิวสัมผัสที่นุ่ม ไม่บาดผิว หากผลิตจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้าย Organic ใช้สีธรรมชาติ 100%  ก็จะยิ่งมั่นใจได้ว่าปลอดภัยต่อลูกน้อย เหมาะกับลูกเบบี๋ทารกที่ผิวบอบบางแพ้ง่าย

3. ต้องได้มาตรฐาน ออกแบบตรงสรีรศาสตร์ ดีต่อสุขภาพแม่และลูก

คุณแม่ต้องเลือกเป้อุ้มเด็ก ที่มีการออกแบบตรงสรีรศาสตร์ คำนึงถึงสุขภาพที่ดีทั้งต่อคุณแม่และลูกน้อย เพื่อป้องกันอาการปวดหลัง ปวดแขนของคุณแม่ และป้องกันลูกขาโก่ง หรือโรคข้อสะโพกแคลื่อนหลุดในเด็ก  คือเป้ควรจะช่วยกระจายน้ำหนักไปยังบริเวณบ่า และมีแถบคาดเอวที่หนาพิเศษ ช่วยพยุงหลัง ลดอาการปวดเมื่อย

หากเป็นเป้ที่ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด ควรมีการออกแบบฐานที่นั่งของลูกให้กว้าง เพื่อรองรับท่านั่งที่ถูกต้องของลูกน้อยได้ตั้งแต่วัยแรกเกิดจนโตขึ้น รองรับการเคลื่อนไหวของช่วงข้อต่อสะโพก และขา ป้องกันปัญหากระดูกข้อต่อเคลื่อนที่  ให้ลูกได้นั่งในท่าที่สบายแกว่งขาได้ในท่าที่เป็นธรรมชาติ ไม่กดทับบริเวณขาและแขน รวมถึงหากมี Head Support จะยิ่งดีเพราะจะช่วยประคองศีรษะลูกและคอไปได้พร้อมกัน 

4. ความคุ้มค่า ทนทาน ใช้ได้ยาวนานจนลูกโต

ควรเลือกซื้อเป้อุ้มลูกที่ปรับการใช้งานได้หลายระดับ มีขนาดที่พอเหมาะ กว้างพอให้ลูกน้อยและคุณแม่ปรับใช้ให้ลูกได้จนอายุประมาณ 3 ขวบ หรือในบางแบบเป้อุ้มเด็กสามารถใช้ได้จนลูกอายุ 4-5 ขวบ  เป้อุ้มต้องมีความทนทาน วัสดุเหนียวแน่น คงทน มีอายุการใช้งานยาวนาน  ยิ่งมีส่วนเสริมสำหรับลูกน้อยแรกเกิด หรือ New Born Support คุณแม่ก็จะสามารถใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด โดยไม่ต้องซื้ออุปกรณ์เสริมเพิ่ม เมื่อลูกโตขึ้นก็เพียงปรับขนาดของตัวเป้ให้เหมาะสมกับช่วงอายุของลูก 

  ในเป้อุ้มลูกบางรุ่น ยังมีการออกแบบให้มีซิปหรือตัวปลดล็อกเข็มขัดแบบไร้เสียง Noiseless Waist Belt หรือ Noiseless Zipper เพื่อให้เวลาที่ลูกหลับ คุณแม่สามารถปลดล็อกแล้วอุ้มลูกลงนอนได้ โดยไม่มีเสียงดังจนทำให้ลูกตื่นอีกด้วย

5. ลูกใส่สบาย แม่ใส่ง่าย ปรับได้หลายแบบ 

เลือกเป้อุ้มลูกทั้งที ต้องเป็นเป้ที่ลูกใส่สบาย หันหน้าออกได้ทั้งหน้า-หลัง  ควรเป็นเป้ที่ปรับได้หลายรูปแบบ คุณแม่อุ้มด้านหน้าบ้าง หรืออาจสะพายเป็นเป้ด้านหลังก็ได้  สามารถปรับการอุ้มได้หลายแบบหลายท่า เช่น เป็นเป้อุ้มหรือหิ้วลูกได้  (Baby Carrier) เป็นที่นั่งอุ้มเด็ก (Hipseat) หรือชุดที่นั่งอุ้มเด็กได้ (Hipseat Carrier) เพราะมีอุปกรณ์ที่นั่งเสริมสำหรับเด็ก เบาะบริเวณหน้าท้องและหลังควรมีความหนา เพราะจะช่วยทำให้กระจายน้ำหนักได้ดีกว่า ลดอาการปวดเมื่อยจากการอุ้มเป็นเวลานาน  ทำให้คุณแม่อุ้มลูกได้สบายขึ้น 

นอกจากนี้ควรเป็นเป้อุ้มลูกที่คุณแม่ใส่ง่ายและถอดง่าย ไม่ต้องใช้เวลายุ่งยากหลากขั้นตอน แต่เมื่อใส่แล้วต้องหลุดหรือเลื่อนยาก เพื่อความปลอดภัยของลูกรัก

6. กระชับ ระบายอากาศได้ดี

เป้อุ้มลูกที่ดีต้องมีความกระชับพอดีตัว สำหรับทั้งคุณแม่และลูกน้อย สามารถอุ้มลูกทารกเบบี๋แรกเกิดได้กระชับ มั่นคงปลอดภัย ช่วยพยุงไม่ให้ลูกหลังงอ ด้วยการพยุง ประคองศีรษะ คอ หัวไหล่ หลังและเอว อีกคุณสมบัติคือควรเป็นผ้าที่นิ่ม หรือเป็นผ้าตาข่าย ที่ช่วยระบายอากาศได้ดีนอกจากนี้เป้อุ้มเด็กหลายรุ่นหลายยี่ห้อ ยังเลือกใช้วัสดุที่สามารถช่วยป้องกันแสงแดด และละอองฝนได้ด้วย 

7. พกพาง่าย ทำความสะอาดสะดวก 

  สุดท้ายคือแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่เลือกเป้อุ้มลูกที่ม้วนหรือพับเก็บได้ง่าย พกพาได้สะดวก มีน้ำหนักเบา ขนาดกะทัดรัดไม่เทอะทะ เพื่อการหยิบใช้ได้แสนง่ายในทุกการเดินทาง  และคุณแม่ต้องอย่าลืมเลือกเป้ที่สามารถถอดซักทำความสะอาดได้ง่าย ไม่ให้มีเชื้อโรคสะสมเพื่อสุขอนามัยที่ดีของลูกน้อย

สนใจเลือกซื้อเป้อุ้มเด็ก สามารถเข้ามา ลองเป้อุ้มเด็กด้วยตัวคุณเองได้ที่ BabyGift ทั้ง 5 สาขา ใกล้บ้านคุณ
ยินดีให้คำแนะนำ พร้อมสาธิตการใช้งานเป้อุ้มเด็กอย่างถูกวิธี

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00

บทความแนะนำ

เปลนอนทารก ถือเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมาก ๆ สำหรับทารก ที่ต้องเตรียมซื้อตั้งแต่ก่อนคลอด เพราะทารกวัย 0-9 เดือน จะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนอนและอยู่บนที่นอน ดังนั้น ก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะเลือกเปลนอนทารกให้ลูกน้อย ควรเลือกดูจากหลาย ๆ ด้าน เช่น ความปลอดภัย การระบายอากาศ ฟังก์ชั่นการใช้งาน รวมถึงอายุการใช้งาน เพราะการเลือก เปลนอนทารก ที่ไม่เหมาะสมกับทารกอาจส่งผลถึงเสียถึงชีวิตของลูกน้อยได้ วิธีเลือกเปลนอนทารกให้ลูกน้อย  เปลนอนทารกมีกี่แบบ มีข้อดี ข้อเสีย อะไรบ้าง ?  1. เปลนอนทารก BEDSIDE CRIB แบบชิดเตียงแม่ เป็นเตียงสำหรับทารกแรกเกิด ที่มีฟังก์ชั่นเปิดด้านข้างเตียงเพื่อต่อชิดกับเตียงของคุณพ่อคุณแม่ได้ ทำให้สะดวกในการดูแลลูกน้อยมากขึ้น  ข้อดีเตียง Bedside Crib  ข้อเสียเตียง Bedside Crib  2. เตียงไม้ เป็นเตียงที่ถูกออกแบบมาเพื่อความแข็งแรง เน้นการใช้งานแบบคุ้มค่า ใช้ได้ในระยะยาวหลายปี สามารถรองรับน้ำหนักได้มาก  ข้อดีเตียงไม้  ข้อเสียเตียงไม้  3. เปลนอนทารกแบบ PLAYPEN เตียงนอนทารกปรับฟังก์ชั่นเป็นคอกกั้นให้ลูกน้อยได้ ฝึกพัฒนาการคลาน ยืน เป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับคุณแม่ ข้อดี Playpen  ข้อเสีย Playpen  4. เปลไกวไฟฟ้า เป็นเตียงที่ได้ความนิยมมาก เพราะปรับการใช้งานได้หลายแบบ พร้อมไกวอัตโนมัติกล่อมลูกหลับได้ง่ายและสนิทมากขึ้น ถือว่าเป็นตัวช่วยในการเลี้ยงลูกน้อยได้ดี ข้อดีเปลไกวไฟฟ้า  ข้อเสียเปลไกวไฟฟ้า  เมื่อคุณพ่อคุณแม่ทราบถึงข้อดีและข้อแตกต่างของเปลทารกแต่ละประเภทแล้ว เบบี้ กิ๊ฟ มีเปลนอนทารกรุ่นขายดีที่สุด มาแนะนำคุณพ่อคุณแม่กันค่ะ  […]

ลูกควรเลิกใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปเมื่อไหร่? อยากฝึกให้ลูกนั่งกระโถน นั่งชักโครกขับถ่ายเองได้เริ่มเมื่อไหร่ดี? คงเป็นคำถามที่คุณพ่อคุณแม่มักสงสัยกันใช่ไหมคะ เพราะการฝึกลูกให้เลิกใส่ผ้าอ้อม ฝึกลูกนั่งกระโถน ไปจนฝึกให้เข้าห้องน้ำเองได้ก่อนที่จะเข้าโรงเรียน ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าลูกพร้อมที่จะเลิกใส่ผ้าอ้อม พร้อมนั่งกระโถนแล้ว มาเช็กกันเลยค่ะ ทำไมต้องฝึกลูกเรื่องขับถ่าย  การฝึกลูกขับถ่ายให้เหมาะสม จะช่วยส่งเสริมให้ลูกมีพัฒนาการทางร่างกาย อารมณ์ ที่เหมาะสมตามวัย รวมถึงเป็นการปลูกฝังด้านสุขอนามัย ความสะอาด รู้จักร่างกายตัวเอง และรู้จักการช่วยเหลือตัวเองในเบื้องต้นได้ หากพ่อแม่ไม่สอนลูกเรื่องการขับถ่าย ปล่อยให้ขับถ่ายในผ้าอ้อมไปจนโต จะทำให้ลูกมีการขับถ่ายที่ไม่เหมาะสมตามวัย เมื่อลูกต้องไปโรงเรียน จะทำให้มีปัญหาในการดูแลความสะอาด อาจเกิดการขับถ่ายเล็ดราด หรือยังต้องใส่ผ้าอ้อมจนอึดอัด  ส่งผลเสียต่อการเรียนรู้ ส่งผลต่อพัฒนาการตามวัยได้ ฝึกลูกนั่งชักโครก เลิกใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปได้ตอนไหน? วัยที่มีพัฒนาการและพฤติกรรมพร้อมพี่จะเริ่มฝึกได้ ควรเริ่มเมื่ออายุ 1 ปี – 1 ปี 6 เดือน และมักจะทำได้ดีตอนอายุ 2 ปี หรือเด็กบางคนอาจจะมาฝึกตอนอายุ  2 ปี และนั่งกระโถนได้เองตอนอายุ 3 ปี หรือบางคนอาจทำได้เมื่อโตกว่านั้น ขึ้นอยู่กับความพร้อมและสัญญาณต่าง ๆ ที่แสดงออกมาทั้งทางร่างกาย การสื่อสาร และความต้องการของลูก ไม่ควรเกิดจากการบังคับลูก 8 สัญญาณที่บอกว่าลูกพร้อมนั่งกระโถนเองได้แล้ว 7 เทคนิคฝึกลูกขับถ่าย […]

Kids Item 2018-2019 ของเพจ Daddy’s day ได้แก่ แท่น แทน แท่น แท๊นนนนนน Aprica Nano smart คันนี้เลย หลายคนถามมาเรื่องรถเข็นเด็ก ว่าใช้รุ่นไหนยังไงดี ทาง Daddy’s Day ขอเลือกคันนี้เลย เอาจริงๆ รถเข็นที่บ้านมี 3 คัน ตั้งแต่ไฮเทคสุดแต่หนักมาก  ไม่ไฮเทค พับง่ายแต่น้ำหนักยังหนักอยู่ จนมาลงตัวกับ Nano smart ที่สุด ชอบมากสุด ใช้ดีต้องบอกต่อเลย บ้านเราได้ทดลองใช้พาไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วย เพราะต้องเดินเยอะ แถมทางที่ไปหลายที่ มีทั้งทางเรียบ ขรุขระ ขึ้นเขาลงห้วยสารพัด รถเข็นคันนี้เอาอยู่หมด ตอบโจทย์มาก #พับเล็กพร้อมเดินทาง แบบสุดๆ 1. ที่ชอบที่สุดคือน้ำหนักเบา พกพาสะดวก เพราะรถเข็นน้ำหนักแค่ 5.6 kg เท่านั้น แบกสบาย ( มีกระเป๋าใส่มาให้ด้วยนะคะ แต่ทางเราไม่ได้ใช้เพราะรีบ ต้องแบกของเยอะ ) Daddy แบกของคนเดียวสบายๆเลย […]

วิตามินมีความสำคัญต่อร่างกายของเราเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะตอนท้อง เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่วิตามินที่เราได้รับเป็นปกตินั้นจะต้องแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งสำหรับเราเอง และอีกส่วนหนึ่งสำหรับลูกน้อย วิตามินส่วนใหญ่ก็จะสามารถพบได้ในอาหารทั่วไปเลยนะคะ หรือคุณแม่บางท่านอาจจะเลือกที่จะเสริมวิตามินเพิ่มเติมก็ได้อยู่ แต่ก่อนที่เราจะมองหาอาหารที่อุดมด้วยวิตามินมาทานนั้น เรามาดูกันก่อนดีกว่าว่าแม่ท้องควรจะเน้นวิตามินตัวไหนเป็นพิเศษกันบ้าง 1. วิตามินบี 1 วิตามินบี 1 เป็นวิตามินที่จะช่วยไม่ให้คุณแม่เกิดอาการเหน็บชา และมีความจำเป็นต่อร่างกายในการสร้างและการทำงานของเนื้อเยื่อ นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยในการพัฒนาระบบประสาทต่างๆ ของทารก สำหรับคุณแม่ที่ได้รับวิตามินตัวนี้น้อยเกินไปก็อาจจะทำให้เกิดผลกระทบต่อหัวใจและปอดของลูกน้อยได้ค่ะ อาหารที่มีวิตามินบี 1 ไข่ไก่ ข้าวซ้อมมือ แป้งสาลี 2. วิตามินบี 2 และบี 6 สำหรับวิตามินตัวนี้นั้นจะมีประโยชน์ต่อการพัฒนาสมองรวมถึงระบบประสาทของทารกเป็นอย่างยิ่ง เพราะฉะนั้น ถ้าได้รับวิตามินตัวนี้น้อยเกินไป ก็อาจจะทำให้สมองของลูกน้อยพัฒนาได้อย่างไม่เต็มที่นะคะ อาหารที่มีวิตามินบี 2 และบี 6 เช่น ตับและไข่แดง 3. กรดโฟลิก กรดโฟลิกเป็นวิตามินที่ช่วยเรื่องของการสร้างอวัยวะให้แก่ลูกน้อย ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในเรื่องของสมองพิการและความพิการของร่างกายส่วนอื่น ๆ อาหารที่มีกรดโฟลิก เช่น ผักโขม อาโวคาโด ข้าวโพด 4. วิตามินบี 12 วิตามินบี 12 ก็เป็นวิตามินที่ช่วยในเรื่องของการทำงานระบบประสาทเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีส่วนในเรื่องของการช่วยสร้างเม็ดเลือดแดงอีกด้วยนะ และเม็ดเลือดแดงก็มีความสำคัญในการนำออกซิเจนไปเลี้ยงสมองของลูกน้อยของเรานั่นเอง อาหารที่มีวิตามินบี 12 เช่น ไข่ ตับ และผลิตภัณฑ์จากนม 5. วิตามินซี วิตามินซีจะมาช่วยคุณแม่ในเรื่องของภูมิคุ้มกัน […]

การใช้ชีวิตของคุณแม่ทุกคนจะเปลี่ยนไปแน่นอนเมื่อเริ่มตั้งท้อง เพราะฮอร์โมนในร่างกายของเราเปลี่ยนไป ทำให้ทั้งร่างกาย สุขภาพ และอารมณ์ของเราไม่เหมือนเดิม คุณแม่ที่ตั้งท้องมาถึงไตรมาส 2 จะต้องเจอกับปัญหาสุขภาพอะไรกันบ้าง เราไปดูกันค่ะ 1. ตะคริว ขอบอกเลยค่ะ ว่าอาการตะคริวนี่ถือว่าเป็นเพื่อนที่คุ้นเคยของแม่ท้องเลยทีเดียว เพราะมดลูกที่ใหญ่ขึ้นไปกดทับบริเวณเส้นเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนได้ไม่ดีพอ โดยอาการนี้มักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลากลางคืน ในช่วงที่คุณแม่นอนราบนั่นเอง 2. ตกขาว อาการตกขาวก็เป็นอาการหนึ่งที่คุณแม่ต้องเจอเช่นเดียวค่ะ ถ้าตกขาวเป็นสีขาวปกติก็เป็นเรื่องทั่วไปนะ ไม่ได้มีปัญหาหรือน่าห่วงอะไร แต่เมื่อใดที่ตกขาวมีสีเปลี่ยนไป หรือมีกลิ่นเหม็นแล้วล่ะก็ คุณแม่จะต้องรีบไปพบคุณหมอนะคะ เพราะนั่นอาจจะเป็นสัญญาณว่าคุณแม่กำลังติดเชื้อทางช่องคลอดค่ะ 3. ฟันผุและปัญหาทางช่องปาก แม่ท้องจะต้องการแคลเซียมมากกว่าปกติ เพราะจะต้องแบ่งกับลูกน้อยด้วย และคุณแม่ที่รับแคลเซียมไม่เพียงพอจะพบกับปัญหาฟันผุ เนื่องจากโดนลูกแบ่งแคลเซียมไปนั่นเองค่ะ ส่วนสำหรับปัญหาทางช่องปากนั้น คุณแม่ส่วนใหญ่จะพบกับปัญหาเลือดออกตามไรฟันค่ะ เพราะฉะนั้นคุณแม่ควรจะไปพบทันตแพทย์เป็นประจำนะคะ 4. เลือดกำเดา ฮอร์โมนที่เปลี่ยนไปนำไปสู่ปัญหาในโพรงจมูกของคุณแม่ค่ะ เพราะฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้น จะทำให้ร่างกายของคุณแม่ผลิตเลือดเพิ่มขึ้นไปด้วย เส้นเลือดฝอยภายในจมูกจึงบวมและแตกออกมาได้ง่าย เพราะอย่างนั้นถ้าคุณแม่รู้สึกระคายเคืองในจมูก ขอแนะนำให้คุณแม่ใช้น้ำเกลือที่หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปล้างจมูกนะคะ และห้ามใช้ของแข็งแหย่เข้าไปในโพรงจมูกโดยเด็ดขาดเลยค่ะ 5. ผิวแตกลาย เนื่องจากท้องที่ใหญ่ขึ้น ผิวของคุณแม่จึงแตกเป็นลายทางค่ะ โดยผิวที่แตกลายนี้เราสามารถหาครีมมาทาเพื่อบรรเทาได้นะคะ แต่ในคุณแม่บางคนอาจจะเจออาการคันร่วมด้วย ซึ่งถ้าคุณแม่เผลอเกาแล้วนั้น ก็อาจจะทำให้เกิดบาดแผลและนำไปสู่การติดเชื้อได้ค่ะ 6. เส้นเลือดขอด น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น […]

แม่ใบเตย-พ่อแมน ปลื้มใจ ที่ได้ตัวช่วยดีๆอย่างรถเข็น Aprica เข็นพาลูกออกไปไหนมาไหนก็ลื่นสมูทไม่มีสะดุด ช้อปปิ้งนานแค่ไหน น้องเวทมนต์ ก็นอนสบายหลับสนิทไม่งอแง การมีรถเข็นเด็กแรกเกิดดีๆสักคันที่แม่ไว้วางใจ การพาลูกออกไปเดินเล่นนอกบ้าน ก็ไม่ใช่เรื่องยากคุณแม่ใบเตยเลือก รถเข็น Aprica รุ่น Optia Cushion Premuim พา น้องเวทมนต์ ไปข้างนอกแบบสบายๆ ปรับเป็นแบบเข็นไปเห็นหน้าลูกไปก็ได้ สบายใจหายห่วงสุดๆ ตามมาส่องความน่ารัก ” น้องเวทมนต์ “ ลูกสาวตัวน้อยของแม่ใบเตย-พ่อแมนสุดน่ารักกันเลยค่า BabyGift ยินดีแนะนำรถเข็นที่เหมาะกับลูกน้อยและไลฟ์สไตล์คุณพ่อคุณแม่ ทักมาปรึกษาได้เลยค่า

Menu
All Categories
All Brands
All Ages
Promotions
Locations
BabyGift Family
BabyGift Care
Parents Guide
News & Event

All Categories

All Categories
All Brands
All Ages