เป้อุ้มทารก ยี่ห้อไหนดี ? คุณภาพดี๊…ดี อัปเดตปี 2024 พร้อมคำแนะนำในการเลือกเป้อุ้มเด็กที่พ่อแม่ควรรู้ !

เป้อุ้มเด็กเป็นตัวช่วยอย่างหนึ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต่างให้ความสนใจไม่แพ้กับคาร์ซีทและรถเข็นเด็กที่เป็นของจำเป็นสำหรับการเลี้ยงลูกน้อย โดยเฉพาะพ่อแม่เด็กอ่อนที่ต้องอุ้มลูกแทบจะตลอดเวลา หากอุ้มลูกนาน ๆ ก็อาจจะทำให้เมื่อยล้า ปวดแขน ปวดไหล่ ปวดหลัง และมีปัญหาด้านสุขภาพตามมาได้ จึงมองหาเป้อุ้มเด็กแรกเกิดที่จะมาช่วยทุ่นแรงให้อุ้มลูกน้อยได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น ในบทความนี้ BabyGift จะขอแนะนำยี่ห้อเป้อุ้มทารกที่คุณภาพดี เป็นที่นิยมกันในตลาด พร้อมคำแนะนำในการเลือกให้กับคุณพ่อคุณแม่กันค่ะ 

BabyGift แนะนำยี่ห้อเป้อุ้มทารกคุณภาพดี พร้อมวิธีการเลือกที่พ่อแม่ต้องรู้ ! 

เป้อุ้มเด็ก หรือ เป้อุ้มทารก เป็นอุปกรณ์ทุ่นแรงให้กับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ เพื่อให้อุ้มลูกน้อยได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น ไม่เหนื่อยไม่เมื่อยจนเกินไปในเวลาที่ต้องอุ้มลูกนาน ๆ และยังสามารถทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้ในขณะเดียวกัน โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มีใครดูลูก หรือต้องปล่อยให้ลูกอยู่ห่างจากตัว เป้อุ้มเด็กนั้นเหมาะสำหรับการอุ้มเด็กเล็กตั้งแต่ช่วงแรกเกิดไปจนถึงอายุ 2 – 3 ขวบ ซึ่งเป้อุ้มเด็กจะมีประโยชน์อย่างมากในครอบครัวที่ไม่มีคนดูแลเด็กเมื่อคุณพ่อคุณแม่ต้องออกไปทำธุระอื่น ๆ นอกบ้าน หรือโดยเฉพาะคุณแม่ที่ต้องทำงานบ้านไปด้วยเลี้ยงลูกไปด้วย ก็สามารถใช้เป้อุ้มเด็กเพื่อให้ลูกอยู่กับตัวเองได้ และสามารถทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้ด้วย โดยสามารถใช้เป้อุ้มเด็กแรกเกิดไปจนถึง 1 ขวบขึ้นไป และบางรุ่นก็สามารถใช้ได้จนถึง 3 ขวบเลยทีเดียว ซึ่งเป้อุ้มเด็กในท้องตลาดก็มีอยู่มากมายหลายยี่ห้อด้วยกัน แล้วคุณพ่อคุณแม่จะเลือกยังไง วันนี้เรามียี่ห้อมาแนะนำกันค่ะ

1. Hugpapa 

แบรนด์ Hugpapa เป็นแบรนด์ดังจากประเทศเกาหลีใต้ ที่ทางแบรนด์เน้นการผลิตและจำหน่ายเป้อุ้มเด็กโดยเฉพาะ และขึ้นชื่อเรื่องนวัตกรรมเป้อุ้มเด็กที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ให้ได้มากที่สุด และนอกจากนี้ ก็มีอุปกรณ์เสริมอื่นๆ จำหน่ายแยกอีกด้วย 

สำหรับเป้อุ้มทารกจากแบรนด์ Hugpapa ที่ BabyGift อยากจะแนะนำก็คือ เป้อุ้ม Hugpapa รุ่น Dial-Fit Pro (3in1 Hip Seat Carrier) ที่มีเทคโนโลยี BOA ช่วยปรับให้เป้มีความกระชับตัวได้ง่ายมากขึ้นเพียงแค่หมุน ใช้งานได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และสามารถปรับได้พอดีกับสรีระของทุกคน ตัว Hipseat เป็น EPP Foam มีน้ำหนักเบาสบายเพียง 555 กรัม สามารถอุ้มลูกน้อยได้อย่างง่ายดาย 

 จุดเด่น  

  • วัสดุทำจาก Polyurethane มีความนุ่มพิเศษ ไม่เสียทรง คืนรูปรวดเร็ว  
  • ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ฮิปซีทที่นั่งเอียง 23 องศา ช่วยให้ลูกนั่งสบายมากขึ้น และเป็นแบบ M-Shape ที่ช่วยป้องกันข้อสะโพกหลุดในเด็ก 
  • ฮิปซีทเว้าโค้งช่วยให้เข่า และสะโพกเด็ก อยู่ในระดับเดียวกัน และโค้งรับหน้าท้อง ไม่กดแผลผ่าคลอดของคุณแม่ 
  • ได้รับการรับรองจากสถาบัน IHDI มั่นใจได้ว่าลูกนั่งสบายอย่างปลอดภัย ไม่ทำให้ขาโก่ง หลังงอ
  • มีหมวกคลุมศีรษะ ช่วงป้องกันแสงแดดให้ลูกน้อย  
  • มีผ้าซับน้ำลาย Organic ไม่ระคายเคืองผิว สามารถถอดซักได้  
  • มีแผ่นพยุงศีรษะลูกน้อย ช่วยป้องกันปัญหาคอพับ  
  • มีช่องตาข่ายระบายอากาศ สามารถเปิดระบายเหงื่อและความร้อนได้  
  • สายคาดเอวระบายอากาศได้ดี วัสดุเป็นตาข่ายแบบนุ่มพิเศษ ไม่ทำให้ร้อน  

การใช้งาน : ตั้งแต่แรกเกิดถึง 36 เดือน รองรับน้ำหนักได้สูงสุด 20 กิโลกรัม 

แบรนด์ : ประเทศเกาหลี

2. HAENIM 

HAENIM เป็นแบรนด์สินค้าแม่ และเด็กจากประเทศเกาหลีใต้ ที่มุ่งมั่นคิดค้นพัฒนาสินค้าแม่และเด็ก เพื่อมอบความสะดวกสบายและสุขภาพที่ดีให้พ่อแม่และลูกน้อย ด้วยผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กที่มีเทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ไม่เหมือนใคร จนสินค้ากลายเป็นที่นิยมในประเทศชั้นนำทั่วโลก นอกจากจะจำหน่ายเป้อุ้มเด็กแล้ว ยังมีสินค้าอื่นๆ เช่น เครื่องปั๊มนม ถุงเก็บน้ำนม และกรวยปั๊มนมจำหน่ายอีกด้วยนะคะ   

สำหรับเป้อุ้มทารกของ HAENIM ที่ BabyGift อยากแนะนำนั้น คือ HAENIM 9 Plus (Hipseat Carrier) ที่เป็นเป้อุ้มเด็กเพื่อสุขภาพ ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่อุ้มลูกได้อย่างสบาย ไม่ทำให้ปวดหลัง ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ซัพพอร์ตการอุ้มเด็กเล็กได้อย่างปลอดภัย สามารถปรับการใช้งานได้ถึง 9 รูปแบบ มี 3D Head Support ช่วยประคองศีรษะของลูกน้อยให้ตั้งตรง มั่นใจว่าปลอดภัยต่อลูกน้อย ดูแลรับประกันสินค้านาน 2 ปี  

 จุดเด่น 

  • ฐานนั่งแบบ M-Shaped ให้ลูกน้อยนั่งอย่างถูกสรีระ ป้องกันข้อต่อสะโพกอักเสบ  
  • ฮิปซีทมีความยืดหยุ่น และมีรูปทรงที่โค้งมนช่วยลดการกดทับบริเวณหน้าท้องของคุณแม่ 
  • มี Newborn Support ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ของทารก ช่วยซัพพอร์ตการอุ้มเด็กเล็กอย่างปลอดภัย  
  • สายคาดเอวสามารถคาดได้สูงสุดถึง 44 นิ้ว และสามารถเพิ่มขยายให้ใช้ได้ถึง 52 นิ้ว 
  • เนื้อผ้ามีคุณสมบัติเบา ระบายอากาศได้เป็นอย่างดี วัสดุภายนอกทำจากผ้า Melange ช่วยป้องกันละอองฝน และแสงแดดได้ดี  
  • ช่วยในเรื่องการกระจายน้ำหนักได้เป็นอย่างดี เหมาะกับคุณแม่ที่ต้องอุ้มลูกเป็นระยะเวลานาน 
  • หมอนประคองคอสำหรับเด็กถูกออกแบบมาพิเศษ เพื่อป้องกันกระดูกบริเวณคอเคลื่อนผิดรูป 
  • ผ้าซับน้ำลายทำจากผ้าฝ้ายออแกนิคแท้ 100% ปลอดภัยต่อสารเคมี
  • มีหมวกคลุมศีรษะที่ช่วยปกป้องแสงแดดให้ลูก สามารถถอดซักได้  

การใช้งาน : ตั้งแต่แรกเกิดถึง 36 เดือน รองรับน้ำหนักได้สูงสุด 20 กิโลกรัม 

แบรนด์ : ประเทศเกาหลี

3. BABY&Me  

แบรนด์ BABY&Me เป็นแบรนด์สินค้าแม่และเด็กที่มีชื่อเสียงในประเทศญี่ปุ่น โด่งดังในเรื่องสินค้ากลุ่มเป้อุ้มเด็กที่ถูกจัดอันดับให้เป็นแบรนด์เป้อุ้มเด็กอันดับ 1 ในญี่ปุ่นเลยทีเดียว นอกจากตัวเป้อุ้มเด็กแล้วก็ยังจำหน่าย Accessories ที่เกี่ยวกับเป้อุ้มเด็กอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นที่นั่งเสริม สายรัดตัวเด็ก ผ้ารองคอเด็กทารก และอื่นๆ  

BABY&Me เป็นแบรนด์เป้อุ้มเด็กในญี่ปุ่นที่ได้รับรางวัลมามากมาย เช่น Good Design Award / Kids Design Award / No.1 Parenting Award จึงรับรองได้ว่าเป็นเป้อุ้มเด็กที่มีคุณภาพดี ได้มาตรฐาน และเป็นที่ยอมรับในวงกว้าง ได้รับการออกแบบโดยการศึกษาวิจัยเรื่ององศาการลงน้ำหนักที่ถูกต้อง จะไม่ทำให้คุณพ่อคุณแม่ปวดไหล่ หลัง เข่า อุ้มลูกน้อยได้อย่างสบายตัวไม่มีเมื่อยเลยค่ะ  BabyGift จึงอยากแนะนำเป้อุ้มทารก BABY&Me ให้คุณพ่อคุณแม่ได้รู้จักกัน 

จุดเด่น

ได้รับการวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยโอซาก้าว่าขณะใช้เป้อุ้มนั้น น้ำหนักของเด็กจะะทำให้เบาลงไปได้ถึง 53% (ทดสอบกับเด็กช่วงน้ำหนัก 6.5 – 11.2 กิโลกรัม) 

  • ในส่วนของเบาะนั่งนั้น มีการทำส่วนที่ซัพพอร์ตก้นเด็ก ทำให้เวลาลูกนั่งจะไม่เมื่อย ไม่ปวดก้น นั่งสบาย ถูกสรีระ 
  • มีอุปกรณ์ซัพพอร์ตคอของเด็ก และซัพพอร์ตตัวลูก เหมือนถูกคุณพ่อคุณแม่กอดไว้  
  • เนื้อผ้าเป็น Waterproof Fabric ง่ายต่อการทำความสะอาด 
  • มีตาข่ายเปิดระบายอากาศ ไม่ทำให้ลูกร้อน แต่หากต้องการให้อบอุ่นขึ้นสามารถรูดซิปปิดได้ 

การใช้งาน : ตั้งแต่แรกเกิด – 3 ปี รองรับน้ำหนักได้สูงสุด 20 กิโลกรัม 

แบรนด์ : ประเทศญี่ปุ่น

4. POGNAE 

POGNAE เป็นแบรนด์จากประเทศเกาหลีใต้ที่จำหน่ายเป้อุ้มเด็ก และอุปกรณ์เสริมสำหรับเป้อุ้มเด็ก การันตีคุณภาพจากรางวัล BEST BABY CARRIER 5 ปีซ้อน ตั้งแต่ปี 2019 – 2023 และได้รับรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย ทั้งยังเป็นแบรนด์ยอดนิยมที่สุดในหลายประเทศทั้งเอเซีย ยุโรป และอเมริกา มียอดขายเป็นอันดับ 1 ในเกาหลีใต้ จึงมั่นใจในเรื่องของคุณภาพและความยอดนิยมจากแบรนด์นี้ได้เลยค่ะ 

สำหรับเป้อุ้มทารกของ POGNAE ที่ BabyGift อยากแนะนำคือ POGNAE เป้อุ้มเด็ก รุ่น No.5 Max ที่รวมทุกสิ่งที่ดีที่สุดไว้ในเป้รุ่นเดียว ทั้งผ้าอุ้มเด็ก Step One Shawl uv Air หรือผ้าอุ้มเด็กแรกเกิด พร้อมระบบ Safety Lock Upgrade ถอดเป้ได้เงียบกริบ ไม่ต้องกลัวลูกตื่น ได้รับการรับรองจากสถาบัน IHDI ว่าลูกใช้แล้วขาไม่โก่ง หลังไม่งอ ปลอดภัยทุกวินาทีที่อยู่บนเป้ 

จุดเด่น  

  • มี Baby Stay ที่ช่วยพยุงก้นลูก ออกแบบตามหลักสรีรวิทยา  
  • สามารถปรับการนั่งได้มากถึง 10 ท่า ตามการเจริญเติบโตของลูกน้อยอย่างถูกหลักสรีรศาสตร์  
  • มี Breathable Cool Mesh หรือระบบระบายอากาศรอบทิศทาง เหมาะกับอากาศประเทศไทย 
  • มีแกนพยุงสะบัก ไม่ก่อให้เกิดอาการปวดคอ บ่า ไหล่ ไม่กดทับแผลผ่าคลอดของคุณแม่ 
  • มีเหล็กเสริมพยุงหลัง 4 ชั้น ไม่ทำให้ปวดหลัง เอว สะโพก กระจายน้ำหนักได้ดี 
  • สามารถปรับเป็นแบบ M Shape / U Shape ได้ตามสรีระ และการเติบโตของลูก ไม่ทำให้ลูกมีปัญหาขาโก่งตามมา 
  • ทำจากผ้า Waterproof กันน้ำ ไม่เก็บความชื้น สามารถซักทำความสะอาดได้ 

การใช้งาน : ตั้งเเต่เเรกเกิดถึง 6 ขวบ รองรับน้ำหนักมาถึง 20 กิโลกรัม 

แบรนด์ : ประเทศเกาหลี

การอุ้มลูกนั้นดีอย่างไร ?  ทำไมการใช้เป้อุ้มเด็กแรกเกิดถึงจำเป็น ?

คุณพ่อคุณแม่บางท่านอาจจะเกิดความสงสัยว่า การที่เราใช้เป้อุ้มทารกและอุ้มลูกติดตัวเราเกือบจะตลอดเวลานั้น เป็นผลดีต่อตัวลูกน้อยหรือไม่ ลูกจะติดมือเราหรือเปล่า หรือจะทำให้ลูกงอแงหรือไม่ ขอบอกเลยว่าการอุ้มลูกน้อยนั้นดีต่อตัวเด็กมากๆ ค่ะ เพราะนอกจากจะช่วยให้เด็กรู้สึกอบอุ่นปลอดภัยเมื่อได้อยู่ใกล้ชิดพ่อแม่แล้ว การอุ้มลูกนั้นมีข้อดีอยู่หลายอย่างด้วยกัน ดังนี้ค่ะ 

  1. การอุ้มลูกจะช่วยให้ลูกปรับอุณหภูมิร่างกายได้ดีขึ้น
    ในเด็กแรกเกิดร่างกายจะอ่อนแอและบอบบางมาก ระบบการทำงานต่างๆ ของร่างกายยังไม่ถูกพัฒนาให้เทียบเท่ากับผู้ใหญ่ทั่วๆ ไป โดยเฉพาะระบบการปรับอุณภูมิของร่างกาย การอุ้มลูกแนบชิดกับตัวจึงช่วยทำให้ทารกได้รับรู้ถึงอุณภูมิของร่างกายคุณพ่อคุณแม่ ทำให้ลูกน้อยรู้สึกอบอุ่นมากขึ้นและร่างกายอุ่นขึ้นค่ะ 
  2. ช่วยส่งเสริมความมั่นคงทางอารมณ์
    จากการศึกษาของ Nationwide Children’s Hospital ในรัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา แสดงให้เห็นว่า เด็กจะรับรู้ได้ถึงความรักและความเอาใจใส่จากพ่อแม่ผ่านการสัมผัสหรืออุ้ม และจากภาษากายต่างๆ การที่พ่อแม่อยู่ใกล้ชิดกับลูก อุ้มลูกบ่อยๆ หรือแสดงความรักต่อลูก ไม่เพียงแต่จะทำให้ลูกมีความสุขหรือรู้สึกอบอุ่นปลอดภัยเท่านั้น แต่ยังเป็นการวางพื้นฐานการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับคนอื่นในอนาคตด้วย
  3. เด็กจะมีการพัฒนาการที่ดีขึ้น 
    เด็กที่ได้รับการสัมผัสมากพอ เซลล์สมองจะเติบโตและมีการขยายตัว ประสาทสัมผัสจะว่องไว และสามารถเรียนรู้ได้เร็วกว่าเด็กที่ไม่มีคนอุ้มหรือได้รับการสัมผัส ซึ่งจากการทดลองของ Nationwide Children’s Hospital ในรัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ที่ได้ศึกษาทดลองเกี่ยวกับเด็กที่คลอดก่อนกำหนด พบว่าเด็กที่มีพ่อแม่กับคนดูแลอุ้มบ่อยๆ จะตอบสนองกับการสัมผัสได้ดีมากกว่าเด็กที่ไม่ค่อยมีคนดูแลค่ะ 
  4. ปอดและหัวใจของลูกน้อยจะแข็งแรงขึ้น
    การอุ้มลูกน้อยไว้ในอกนั้น ความใกล้ชิดจะทำให้เจ้าตัวน้อยได้ยินเสียงหัวใจของคุณแม่เป็นจังหวะอย่างชัดเจน จึงทำให้ลูกมีจังหวะการหายใจที่พร้อมกับจังหวะการหายใจของคุณแม่ ส่งผลให้ปอดและหัวใจของลูกน้อยพัฒนาได้ดียิ่งขึ้นและมีความแข็งแรงมากขึ้นตามไปด้วย 
  5. สามารถปรับตัวต่อสถานการณ์ที่ตึงเครียดได้ดี
    จากการศึกษาวิจัยของนักวิทยาศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัย Columbia ที่ศึกษาถึง อิทธิพลของความรักและการเอาใจใส่จากแม่ลิงที่มีต่อพฤติกรรมของลูกลิงเมื่อโตขึ้น พบว่าลูกลิงที่ได้รับการสัมผัสดูแลจากแม่ลิงบ่อยๆ ในช่วงสัปดาห์แรกของชีวิต จะมีความสามารถในการปรับตัวต่อสถานการณ์ที่ตึงเครียดได้ดีกว่าลูกลิงที่ไม่ได้รับการสัมผัสจากแม่ ซึ่งการศึกษานี้สามารถนำมาอ้างอิงถึงการปรับตัวของมนุษย์ได้เช่นกัน 

ชวนดูประโยชน์ของเป้อุ้มทารก ตัวช่วยสำคัญของพ่อแม่ยุคใหม่  

ได้ทำความรู้จักแบรนด์คุณภาพกันไปแล้ว ได้รู้แล้วว่าการอุ้มเด็กไว้กับตัวนั้นมีข้อดีมากมายแค่ไหน ตอนนี้เราจะพาคุณพ่อคุณแม่มาดูข้อดีของการใช้เป้อุ้มเด็กกันต่อ จริงๆ แล้ว BabyGift เคยเขียนเรื่องนี้ไปแล้ว แต่จะขอเลือกมาบางส่วนเพื่อเป็นไอเดียให้คุณพ่อ คุณแม่นะคะ  

  1. ช่วยเซฟแรงของคุณพ่อคุณแม่ ทำให้คุณพ่อคุณแม่ไม่เมื่อยล้า เพราะเป้อุ้มเด็กจะช่วยรองรับน้ำหนักตัวของลูกและช่วยกระจายน้ำหนักได้ดี 
  2. สามารถทำกิจกรรมอื่นๆ ขณะอุ้มลูกได้ เช่น เดินซื้อของ หรือทำงานบ้าน โดยไม่ต้องพะวงว่าลูกจะหล่นหรือจะไม่มีใครดูลูก เพราะลูกอยู่ใกล้ชิดเราตลอดเวลา สร้างความสะดวกสบายในการเลี้ยงลูกให้กับคุณพ่อคุณแม่อย่างมาก   
  3. ทำให้ลูกน้อยรู้สึกอบอุ่นปลอดภัย เพราะได้อยู่ใกล้ชิดคุณพ่อคุณแม่ตลอดเวลา และจากการศึกษาของ Nationwide Children’s Hospital ในรัฐโอไฮโอ กล่าวว่า การอุ้มลูกบ่อยๆ นั้น จะทำให้เด็กมีความมั่นคงทางอารมณ์ และช่วยเสริมสร้างพัฒนาการที่ดีให้กับลูกน้อยด้วยค่ะ  
  4. ทำให้ลูกสงบ ไม่งอแง เมื่อลูกน้อยอยู่ในเป้อุ้มเด็กแรกเกิดนั้น จะได้ใกล้ชิดกับคุณแม่และได้ยินเสียงหัวใจของคุณแม่ คล้ายกับเวลาอยู่ในครรภ์ ทำให้ลูกน้อยรู้สึกสงบ หลับสบาย ไม่งอแงนั่นเองค่ะ  
  5. ช่วยลดภาวะซึมเศร้าหลังคลอดของคุณแม่ การได้ใกล้ชิดกับลูกน้อยนั้น จะทำให้สมองหลั่งฮอร์โมนออกซิโทซินออกมา ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการซึมเศร้าหลังคลอดได้ และนอกจากนี้ การที่คุณแม่พาลูกน้อยออกไปนอกบ้านโดยใช้เป้อุ้มเด็ก ได้ไปเดินเล่น ได้พบปะผู้คน หรือทำกิจกรรมต่างๆ จะช่วยให้คุณแม่ไม่เครียด ได้ผ่อนคลาย ช่วยคลายความวิตกกังวลไปได้  ซึ่งจะช่วยลดความตึงเครียดและอาการซึมเศร้าหลังคลอดลงได้ 

จะเลือกเป้อุ้มทารกอย่างไรดี ?  

คุณพ่อคุณแม่บางท่านอาจเคยได้ยินมาว่าการใช้เป้อุ้มเด็ก ใช้แล้วลูกขาโก่ง ต้องบอกเลยว่า การที่เด็กขาโก่งไม่ได้เป็นผลมาจากการใช้เป้อุ้มเด็กแต่อย่างใด แต่เกิดจากกรรมพันธ์ุและความผิดปกติของร่างกาย ซึ่งโดยปกติแล้ว กระดูกขาของเด็กเล็กนั้นจะมีความโค้งงอเล็กน้อย และจะค่อยๆ ยืดตรงขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเด็กโตขึ้น หรือบางคนอาจเคยได้ยินมาว่า การใช้เป้อุ้มเด็กแรกเกิดจะทำให้เกิดโรคข้อสะโพกหลุดในเด็กเล็ก ซึ่งความจริงแล้ว หากเลือกเป้อุ้มเด็กที่สอดคล้องกับสรีระของเด็กเล็กและปลอดภัยกับลูกน้อย มีการออกแบบที่ได้มาตรฐานและได้รับการรับรองว่าเมื่อใช้แล้วจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายกับอวัยวะและสรีระของลูก ก็สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัย ซึ่งมีวิธีเลือกดังนี้ค่ะ  

  1. เลือกเป็นเป้อุ้มทารกที่เด็กสามารถหันหน้าเข้าหาตัวคุณพ่อคุณแม่ได้ และช่วยรองรับกระดูกสันหลังและศีรษะของทารกได้ดี มีความยืดหยุ่นที่เด็กสามารถเอนตัวและขยับเคลื่อนไหวสะโพกได้ รวมถึงสามารถขยับแขนขาได้อย่างอิสระ 
  2. เลือกที่ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ลูกใช้แล้วไม่ทำให้เด็กขาโก่งหรือเสี่ยงต่อการเกิดโรคข้อสะโพกเคลื่อนหลุดในเด็ก ควรเลือกเป้อุ้มทารกที่ฐานนั่งเป็นแบบ M-Shaped ให้ลูกน้อยนั่งอย่างถูกสรีระ ป้องกันข้อต่อสะโพกเคลื่อนหลุดในเด็ก 
  3. เลือกให้เหมาะสมกับช่วงอายุและน้ำหนักของลูก บางรุ่นสามารถใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด – 1 ปี บางรุ่นก็สามารถใช้ได้ 3 – 6 ปีเลยทีเดียว ถ้าคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนวางแผนว่าอยากใช้งานได้ยาวๆ เพราะพาลูกออกไปข้างนอกบ่อย ก็ควรเลือกเป้อุ้มเด็กที่สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน และรองรับน้ำหนักได้มาก ตามช่วงวัยของลูกค่ะ  
  4. มีโครงสร้างที่ทำจากวัสดุแข็งแรงและทนทาน มีความปลอดภัย อาจพาลูกไปทดลองนั่งเป้ด้วย เพื่อที่จะได้รู้ว่าเหมาะกับลูกของเราหรือไม่ และควรกระจายน้ำหนักได้ดี คุณพ่อคุณแม่ใช้แล้วไม่เมื่อยไหล่ ไม่ดึงรั้งตัวคุณแม่ให้รู้สึกปวดเมื่อย เป็นต้น  
  5. เลือกเป้อุ้มเด็กที่มีสายสะพายไหล่บุนวมกว้างๆ มีที่พาดหลังและสายคาดเอวกว้างๆ ซึ่งจะช่วยกระจายน้ำหนักของเด็กได้อย่างสม่ำเสมอและช่วยลดแรงกดบนไหล่ของคุณพ่อคุณแม่ 
  6. เลือกเป้อุ้มเด็กที่สามารถระบายอากาศได้ดี ไม่ทำให้ลูกร้อนหรืออึดอัดจนเกินไป โดยเฉพาะในประเทศไทยที่มีอากาศร้อน จึงควรเลือกให้เหมาะกับสภาพอากาศ และควรเลือกวัสดุที่มีคุณภาพดีและทำให้ลูกอยู่ในเป้อุ้มเด็กได้อย่างสบายมากที่สุด  
  7. หลีกเลี่ยงเป้อุ้มทารกที่เด็กนั่งแล้วมีท่าทางคล้ายตัว C กล่าวคือ ทำให้เด็กอยู่ในท่าทางห่อตัวโค้งลง ซึ่งอาจทำให้เด็กทารกหายใจลำบากและอยู่ในท่าทางที่ผิดอิริยาบถได้ อาจส่งผลต่อกระดูกสันหลังของเด็ก จึงควรเลือกเป้ที่ช่วยพยุงหลังและสรีระของเด็กทารกได้เป็นอย่างดี และให้เด็กอยู่ในท่าทางที่ลำคอตั้งตรงและหายใจได้สะดวก  

เป้อุ้มเด็กเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเซฟแรงคุณพ่อคุณแม่ในการอุ้มลูกน้อยได้เป็นอย่างดี ทำให้อุ้มลูกได้สะดวกมากขึ้น สามารถทำกิจกรรมอื่นๆ ได้ในขณะอุ้มลูก ถ้าเลือกเป้อุ้มเด็กแรกเกิดที่มีคุณภาพดีก็สามารถใช้งานได้อย่างยาวนาน และถ้าเลือกเป้ที่ออกแบบมาถูกหลักสรีรศาสตร์ของเด็ก ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องความปลอดภัยเลยค่ะ เพราะไม่ทำให้ลูกขาโก่งหรือเสี่ยงต่อการเกิดโรคข้อสะโพกหลุดในเด็กแน่นอน ถ้าคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกเป้อุ้มทารกแบบไหนดี สามารถเข้ามาเยี่ยมชมสินค้าได้ที่ร้าน BabyGift ร้านจำหน่ายสินค้าแม่และเด็กระดับคุณภาพ มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี คุณพ่อคุณแม่สามารถพาลูกน้อยมาลองนั่งเป้อุ้มเด็กได้ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ร้านเบบี้กิ๊ฟทั้ง 5 สาขา ใกล้บ้าน หรือสอบถามผ่านช่องทาง Online ทีมงาน BabyGift ยินดีให้คำแนะนำค่ะ 

อ้างอิงที่มาข้อมูลบางส่วนจาก :  https://ergonomic-baby-carriers.com/blog/7_what-is-an-ergonomic-baby-carrier-.html 

https://raisingchildren.net.au/newborns/safety/equipment-furniture/baby-carrier-sling-safety

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00

บทความแนะนำ

หลายวันมานี้เราท่องโลกอินเทอร์เน็ตหนักมาก เพราะอยากรู้ว่าแม่ยุคใหม่เขาชอบอะไร ไอเทมไหนกำลังเป็นที่พูดถึงในกลุ่มแม่ๆ มากที่สุด จากการส่องพบว่าท็อปปิคที่ถูกพูดถึงมาก แต่ยังมีข้อมูลน้อยคือ “รถเข็นเด็ก” ไอเทมใหม่สำหรับแม่ลูกเล็กในยุคนี้นั่นเอง เราจึงไม่รอช้ารีบหาข้อมูลว่าคุณแม่ต้องการรถเข็นแบบไหนและพอจะสรุปได้ว่า คุณแม่ส่วนใหญ่ต้องการรถเข็นเด็กที่น้ำหนักเบา พับเก็บมือเดียวได้ เพราะส่วนมากไปกันสองคนแม่ลูก ต้องการระบบล้อที่ดี เข็นลื่นไหลไม่ต้องออกแรงมากส่วนใหญ่จะเข็นในสวนสาธารณะและทางเท้าซึ่งพื้นค่อนข้างขรุขระ สามารถปรับเอนได้เพราะลูกมักหลับตอนพาเที่ยว  วันนี้เลยไปคว้า รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น LUXUNA CTS มารีวิวเผื่อคุณพ่อคุณแม่จะเก็บไว้เป็นตัวเลือกเวลาต้องออกไปด้านนอกกับเจ้าตัวเล็กเพียงลำพัง รีวิวรถเข็นเด็ก Aprica” รุ่น LUXUNA CTS เห็นรูปลักษณ์ทะมัดทะแมงอย่างนี้แต่น้ำหนักเบานะจ๊ะ ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการใช้งานมากๆ มาสำรวจสิว่าอะไรเป็นอะไร พอใช้งานจริงจะได้ไม่ยืนงง เริ่มต้นที่ด้ามจับเลยล่ะกัน เราว่าตอบโจทย์มากนะ เพราะสามารถปรับที่จับให้อยู่ด้านหน้าหรือด้านหลังลูกก็ได้ คุณแม่ที่กังวลว่าจะไม่มีปฎิสัมพันธ์กับลูกสบายใจเรื่องนี้ได้เลยและเลิศได้อีกกับล้อแบบ Auto 4 wheels ที่จะล๊อคล้อและคลายล๊อคล้อแบบอัตโนมัติในเวลาเราเปลี่ยนที่จับให้มาอยู่ด้านหน้าหรือด้านหลังก็ได้ ถ้าใครเคยเข็นลูกแบบแม่อยู่ด้านหน้าจะนึกออกเลยว่าเวลาเราเข็นแบบนี้แล้วถ้าล้อหลังหมุนไม่ได้ พอจะเลี้ยวซ้ายที เลี้ยวขวาทีก็ต้องตีวงอ้อมกว้างไปอีก บังคับทิศทางก็ยากมาก มาเจอล้อแบบ Auto 4 Wheels สบายเลยขนาดเราลองเข็นในที่แคบ ๆ ก็ยังเข็นง่ายเรียกว่าโดนใจสุดๆ การปรับก้านเข็นไปด้านหลัง ช่วยให้เข็นได้ง่าย ปรับเอนนอนได้ 170 องศา เมื่อปรับก้านเข็นมาด้านหน้า ระบบล้อจะถูกปรับเปลี่ยนการล๊อคได้แบบอัตโนมัติ นอกจากเรื่องปรับล้อหมุนแบบ 360 องศา Auto 4 Wheels เรื่องรองรับแรงกระแทกที่ล้อก็โอเคเลย […]

ถ้าคุณเป็นพ่อแม่มือใหม่ที่กำลังเตรียมพร้อมสำหรับการมาของลูกน้อย นอกจากจะต้องตระเตรียมของใช้จำเป็นต่าง ๆ แล้ว อีกหนึ่งเรื่องสำคัญที่ละเลยไม่ได้เลยคือการแจ้งเกิดเพื่อขอสูติบัตร ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญทางกฎหมายที่เปรียบเสมือนใบเบิกทางแรกของลูกในโลกใบนี้ วันนี้เราจะมาเจาะลึกทุกขั้นตอนการขอสูติบัตรแบบละเอียด เพื่อให้คุณแม่คุณพ่อหมดกังวล และพร้อมต้อนรับสมาชิกใหม่ของครอบครัวอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ใบสูติบัตรคืออะไร ใบสูติบัตร หรือที่หลายคนคุ้นเคยในชื่อ ใบเกิด คือเอกสารทางราชการที่ออกให้เพื่อรับรองการเกิดของบุคคล โดยถือเป็นเอกสารหลักฐานสำคัญที่ยืนยันสถานะความเป็นคนไทย และยังใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการขอเอกสารสำคัญอื่น ๆ เช่น บัตรประชาชน หรือหนังสือเดินทาง อีกทั้งยังเป็นการนำเข้าข้อมูลสู่ทะเบียนราษฎรอย่างเป็นทางการ ซึ่งเกี่ยวข้องกับสิทธิต่าง ๆ ที่ลูกน้อยพึงได้รับตามกฎหมาย ทำไมต้องมีการแจ้งเกิด การแจ้งเกิดเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะถือเป็นการทำตามกฎหมาย และเป็นการสร้างตัวตนทางทะเบียนราษฎรให้กับลูกน้อยอย่างถูกต้องสมบูรณ์ การมี ใบสูติบัตรทำให้ลูกได้รับสิทธิ์และสวัสดิการต่าง ๆ จากรัฐ ไม่ว่าจะเป็นสิทธิ์ในการรักษาพยาบาล สิทธิ์ในการศึกษา หรือสิทธิ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสวัสดิการสังคม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับอนาคตของเด็ก นอกจากนี้ สูติบัตรยังเป็นหลักฐานยืนยันความสัมพันธ์ทางสายเลือดระหว่างพ่อแม่ลูกอีกด้วย เอกสารสำคัญที่พ่อและแม่ต้องเตรียม ก่อนจะไปแจ้งเกิด คุณพ่อคุณแม่ต้องเตรียมเอกสารให้พร้อม เพื่อความรวดเร็วและไม่เสียเวลาที่สำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอ เอกสารสำคัญที่ต้องใช้มีดังนี้ ขั้นตอนการแจ้งเกิดมีอะไรบ้าง ขั้นตอนการแจ้งเกิดนั้นไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด แต่มีข้อปลีกย่อยที่แตกต่างกันไปตามแต่ละกรณี ซึ่งสามารถสรุปได้ง่าย ๆ ดังนี้ กรณีเด็กเกิดในโรงพยาบาล ถือเป็นกรณีที่พบได้บ่อยและเป็นขั้นตอนที่ง่ายที่สุด เนื่องจากโรงพยาบาลจะออกหนังสือรับรองการเกิด (ท.ร. […]

ตัวช่วยสำคัญที่จะช่วยให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้เต็มที่ตามความตั้งใจ เพื่อให้ลูกน้อยทารกได้กินน้ำนมแม่ตั้งแต่แรกเกิดและต่อเนื่องยาวนานที่สุด คือ เครื่องปั๊มนม เพราะเครื่องปั๊มนมที่ดีจะมีข้อดีและมีประโยชน์ต่อคุณแม่และลูกน้อยมากมาย  ได้แก่ แต่การที่คุณแม่จะใช้ เครื่องปั๊มนม ให้ได้คุ้มค่า จำเป็นต้องศึกษาข้อมูล ปรึกษาผู้มีประสบการณ์และเลือกซื้อให้เหมาะสมกับการใช้งานของคุณแม่เอง เพราะปัจจุบันมีเครื่องปั๊มนมให้คุณแม่เลือกซื้อมากมาย หลายแบบ และมีราคาที่แตกต่าง  คุณแม่จึงต้องพิจารณาเลือกถึงความจำเป็นที่จะต้องใช้ และเรียนรู้ว่าเลือกแบบไหนจะเหมาะกับเราและลูกน้อย ฉะนั้นเราจึงขอแนะนำให้คุณแม่ได้รู้จักกับเครื่องปั๊มนมแบบต่างๆ ที่มีขายในปัจจุบัน   การทำงานที่น่าสนใจลักษณะการใช้งาน และคุณสมบัติที่น่ารู้ รวมถึงวิธีการเลือกซื้อในแบบที่ใช่มากที่สุด 1. เครื่องปั๊มนม แบบปั๊มมือ  2. เครื่องปั๊มนมแบบใช้แบตเตอรี่ 3. เครื่องปั๊มนมแบบใช้ไฟฟ้า เลือก เครื่องปั๊มนม แบบไหน? ที่ใช่สำหรับคุณแม่ เพราะเครื่องปั๊มนมเป็นตัวช่วยคู่ใจ ให้คุณแม่ทำสต๊อกน้ำนมแม่ให้ลูกน้อยได้เต็มที่ ดังนั้นคุณแม่จำเป็นต้องคำนึงถึงคุณภาพของเครื่องปั๊มนมเป็นสำคัญ โดยควรเลือกเครื่องปั๊มนมที่เหมาะกับครอบครัว และมีประสิทธิภาพต่างๆ ดังนี้  

หลังจากที่ได้เห็นข่าวที่เกี่ยวกับลูกน้อย วัยกำลังเริ่มแสบซน เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนเกี่ยวกับรถที่ผู้ปกครองขับ ไม่ว่าเค้าจะชนเรา หรือเราจะชนอะไรก็ตาม มีความเสี่ยงไปหมดดดดดด คาร์ซีท หรือเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็ก เป็นวิธีที่ดีที่สุดเพื่อความปลอดภัยในการเดินทางของเด็ก โดยเฉพาะเด็กเล็กและทารก เพราะคาร์ซีทช่วยลดความเสี่ยงการเสียชีวิตและการบาดเจ็บร้ายแรงอื่น ๆ จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้ ความเสี่ยงในที่นี้ คือ เจ้าตัวน้อยของเราสามารถกระเด็น พุ่งหลุดออกจากอ้อมอกอ้อมกอดเราได้ทุกเมื่อ เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ทุกเวลา ต่อให้ระวังแค่ไหนก็เกิดขึ้นได้ หากเด็กไม่ได้อยู่ในระบบยึดเหนี่ยวภายในรถอย่างเหมาะสมและเหตุนี้หลากหลายประเทศถึงมีกฎหมายออกมาเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ที่เดินทางโดยใช้รถ จำเป็นต้องติดตั้งคาร์ซีท ก่อนจะได้ออกจากโรงพยาบาล อ้อมกอดของคุณจะปลอดภัยไปทุกครั้ง เพราะเด็กน้อย จำเป็นต้องมีคาร์ซีท การเลือกคาร์ซีทให้ลูกน้อย มีมาฝากเพียง 5 ข้อ คือ 1. มาตรฐานความปลอดภัย2. เข็มขัดนิรภัย 5 จุด3. ความใหม่ของผลิตภัณฑ์4. ราคา5. ความเหมาะสมกับรถยนต์ อย่างไรก็ตาม ความสำคัญของคาร์ซีทก็มีมากมาย หากไปดูหลายๆ เคสหรือหลายๆ ข่าว ก็จะมีให้เราผู้เป็นพ่อเป็นแม่เห็น ครั้งต่อไปจะมาเล่าเรื่องฝึกการนั่งคาร์ซีทให้กับลูกน้อยให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ได้ลองศึกษาดูนะคะ ขอขอบคุณบทความจาก : monkeykids

ผ้าอ้อมเด็ก เป็นสิ่งที่อยู่คู่กายลูกน้อยแทบจะตลอด 24 ชั่วโมง การเลือกผ้าอ้อมเด็กที่ดีจึงไม่ใช่แค่เรื่องของการซึมซับเท่านั้น แต่ยังหมายถึงความสบายตัวของลูกน้อย สุขภาพผิว และความมั่นใจของคุณพ่อคุณแม่ในการดูแลลูกรัก วันนี้ BabyGift จะมาเผยเคล็ดลับวิธีเลือกผ้าอ้อมเด็กอย่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ลูกน้อยรู้สึกสบายตัวที่สุดในทุกการเคลื่อนไหว ทำไมการเลือกผ้าอ้อมเด็กจึงสำคัญ การเลือกผ้าอ้อมเด็กมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขอนามัยของลูกน้อย เพราะผิวทารกนั้นบอบบางและแพ้ง่าย การสัมผัสกับความเปียกชื้นหรือสิ่งสกปรกเป็นเวลานานอาจทำให้เกิดผื่นผ้าอ้อม การระคายเคือง และความไม่สบายตัว ซึ่งจะส่งผลให้ลูกน้อยงอแง การเลือกผ้าอ้อมเด็กที่มีคุณภาพดีจึงช่วยให้ผิวลูกแห้งสบาย ปราศจากเชื้อโรค และช่วยส่งเสริมให้ลูกมีอารมณ์ดี พร้อมเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ได้อย่างเต็มที่ ความแตกต่างระหว่างผ้าอ้อมคุณภาพดีและผ้าอ้อมทั่วไป ผ้าอ้อมเด็กคุณภาพดีจะถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน โดยเน้นที่วัสดุที่นุ่มพิเศษ มีการระบายอากาศที่ยอดเยี่ยม และมีนวัตกรรมการซึมซับที่รวดเร็วและกระจายตัวได้ดี ทำให้ผิวลูกแห้งสนิท ลดโอกาสเกิดผื่นผ้าอ้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ผ้าอ้อมทั่วไปอาจมีราคาที่ย่อมเยากว่า แต่มักใช้ใยสังเคราะห์ที่ระบายอากาศได้น้อยกว่า อาจก่อให้เกิดความอับชื้น และอาจมีการรั่วซึมได้ง่ายกว่า ซึ่งส่งผลให้ต้องเปลี่ยนบ่อยครั้งและอาจทำให้ผิวลูกระคายเคืองได้ง่าย ประเภทของผ้าอ้อมเด็กที่คุณแม่ควรรู้ เมื่อพูดถึงผ้าอ้อมเด็กที่ใช้กันทั่วไปในปัจจุบัน จะสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักตามรูปแบบการสวมใส่ ซึ่งมีข้อดีและการใช้งานที่แตกต่างกันไปตามช่วงวัยและกิจกรรมของลูกน้อย ผ้าอ้อมแบบกางเกง (Pant Type) ผ้าอ้อมเด็กแบบกางเกงเป็นตัวเลือกที่สะดวกอย่างยิ่งสำหรับคุณพ่อคุณแม่ เพราะสามารถสวมใส่ได้ง่ายและรวดเร็วเหมือนการใส่กางเกงทั่วไป จึงเหมาะสำหรับลูกน้อยที่เริ่มดิ้น เริ่มคลาน หรืออยู่ในวัยหัดเดินที่ไม่ชอบอยู่นิ่ง ๆ ผ้าอ้อมเด็กแบบกางเกงจะมีความยืดหยุ่นสูง กระชับรอบเอวและขอบขา ทำให้ลูกเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องตัว […]

คุณแม่มือใหม่ขอให้ยกมือขึ้น! ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับว่าที่คุณแม่ทุกคนด้วยนะคะ มั่นใจเลยว่า ตอนนี้คุณแม่ทั้งหลายต้องกำลังรู้สึกหัวหมุนติ้วๆ กับการเตรียมของให้ลูกน้อยอยู่แน่ๆ เพราะไอเท็มที่วางขายอยู่ในท้องตลาดนั้นมีเป็นล้านแปดพันเก้า อันนี้ก็น่ารัก อันนี้ก็ดูจำเป็น แต่ถ้าเราจะซื้อทุกอย่างก็คงไม่ไหว สำหรับบทความนี้ เราก็เลยนำเช็คลิสต์แบบครบถ้วนทุกหมวดมาฝากกันค่ะ มาดูกันดีกว่าว่าคุณแม่ยังขาดอะไรไปบ้าง 1. หมวดการนอน 2. หมวดให้นม 3. หมวดการกิน 4. หมวดอาบน้ำ/สุขอนามัย 5. หมวดการแต่งตัว 6. หมวดเดินทาง 7. หมวดฝึกพัฒนาการ 8. หมวดสุขภาพ/ดูแล 9. หมวดปกป้องลูกน้อย 10. หมวดทำความสะอาด และนี่ก็คือเช็คลิสต์ของสำคัญที่คุณแม่ขาดกันไม่ได้เลยค่า ทั้งนี้ทั้งนั้น อยากให้คุณแม่จำไว้เสมอว่า การซื้อสินค้าสำหรับลูกทุกครั้งนั้นควรคำนึงหลายๆ เรื่อง ไม่ใช่แค่เรื่องของราคา แต่เป็นเรื่องของคุณภาพ และการใช้งานในระยะยาวด้วยน้า

Menu
All Categories
All Brands
All Ages
Promotions
Locations
BabyGift Family
BabyGift Care
Parents Guide
News & Event

All Categories

All Categories
All Brands
All Ages