รถเข็นเด็กยี่ห้อไหนดี แนะนำรถเข็นเด็ก พร้อมวิธีการเลือกซื้อ

การเลือกซื้อรถเข็นคันแรกให้ลูกน้อย อาจจะเป็นปัญหาชวนปวดหัวสำหรับคุณพ่อคุณแม่ เพราะปัจจุบันรถเข็นเด็กมีหลากหลายรูปแบบให้เลือกเยอะมากมาย จนหลายคนตัดสินใจไม่ถูก ว่าจะเลือกรถเข็นเด็กยี่ห้อไหนดี ? ต้องดูที่อะไรบ้าง ให้เหมาะกับลูกน้อยในวัยแรกเกิด และตรงตามไลฟ์สไตล์คุณพ่อคุณแม่ วันนี้ Baby Gift มีคำตอบ . . .

“ เพราะ รถเข็นเด็ก ทุกคัน
ไม่ได้เหมาะกับเด็กแรกเกิดทุกคัน ”

หลายคนยังเข้าใจผิดว่า รถเข็นเด็ก แต่ละคัน ดูๆแล้วก็คล้ายๆกัน น่าจะใช้เหมือนๆ กันแต่ในความเป็นจริง แล้วเด็กแรกเกิดมีความบอบบางและต้องการการดูแลเป็นพิเศษ รถเข็นเด็กสำหรับเด็กแรกเกิดจึงต้องมีคุณสมบัติเฉพาะที่นอกจากจะช่วยปกป้องสรีระของลูกน้อย  แล้วยังช่วยเสริมพัฒนาการรอบด้าน สร้างสุขอนามัยที่ดี และสร้างรอยยิ้มแห่งความสุขให้ทั้งคุณแม่และลูกน้อยได้อีกด้วย

เลือกรถเข็นเด็ก ให้เหมาะกับช่วงวัยแรกเกิด

นอกจากคาร์ซีทแล้ว รถเข็นเด็ก ก็เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ต้องคำนึงถึงเรื่องของอายุเด็กเป็นสำคัญ เพราะรถเข็นเด็กทุกคันไม่ได้เหมาะกับเด็กทุกคนโดยเฉพาะเด็กในช่วงวัยแรกเกิด หรือเด็กทารกที่ต้องการการดูแลใส่ใจมากเป็นพิเศษ เราจึงควรเลือกรถเข็นเด็กที่มีคุณสมบัติต่อไปนี้ จะช่วยให้เด็กนอนหลับในรถเข็นเด็กได้อย่างสบายและมีสุขภาพดี

1. มีชุดหมอน Newborn Support ที่บริเวณคอและสะโพก

เด็กแรกเกิดช่วงคอและกระดูกสันหลังยังไม่แข็งแรง และต้องการได้รับการปกป้องเป็นพิเศษ การมีชุดหมอน Newborn Support เสริมบริเวณคอและสะโพก จะช่วยประคองให้ศีรษะและหลังยืดเป็นเส้นตรง ให้ลูกนั่งรถเข็นได้อย่างปลอดภัย ไม่ทำให้ลูกคอพับโงนเงน หรือเอนไปมา และยังช่วยให้ลูกน้อยหายใจได้สะดวก เติมออกซิเจนเข้าไปเลี้ยงสมองในขณะหลับได้อย่างเต็มที่

2. เลือกเบาะรถเข็นที่ปรับนอนได้ 170 องศา

ไม่ควรเลือกเบาะรองนอนที่ปรับนอนได้น้อยเกินไปหรือมากเกินได้ แต่ควรเลือกเบาะปรับได้ 170 องศา เพราะเด็กทารกมีกิจกรรมหลักคือ การทานนมและนอน เบาะที่ปรับให้ศีรษะสูงขึ้นเล็กน้อย (ในระดับ 170 องศา) จะช่วยลดโอกาสเกิดภาวะกรดไหลย้อนในเด็กได้ ยิ่งสมัยนี้มีการออกแบบเบาะรถเข็นเด็กตามหลัก Baby Ergonomic Design ทำให้เราสามารถปรับระดับองศาเบาะนอนแบบแยกส่วนตั้งแต่ศีรษะ กลางลำตัวและปลายเท้าได้ ตามพัฒนาการของลูกรัก ทำให้ช่วยปกป้องต้นคอ กระดูกสันหลัง และปลายเท้าได้อย่างสมบูรณ์มากขึ้น

3. เข็นได้นิ่ง ไม่สั่นสะเทือนจนทำให้ลูกน้อยสะดุ้งตกใจ

รถเข็นเด็กส่วนใหญ่ใช้เวลาเดินทางออกนอกบ้าน บางครั้งอาจเจอพื้นผิวถนนที่ขรุขระ ให้ลองจินตนาการว่าถ้าเราต้องนั่งรถไปในที่ขรุขระ รถที่เรานั่งจะเขย่าเราจนมืนและเวียนหัวได้เลยทีเดียว เด็กก็เช่นกัน ดังนั้นรถเข็นเด็กควรมีระบบกันกระแทกอย่างดี จะช่วยไม่ให้เกิดการสั่นสะเทือน ทำให้ลูกน้อยนอนหลับได้สนิท ไม่รู้สึกถูกเขย่าหรือสั่นตลอดเวลา ซึ่งปัจจุบันก็มีรถเข็นเด็กหลายๆรุ่นที่มีโช๊คบริเวณล้อ หรือเสริมระบบลดแรงสั่นสะเทือนใต้ที่นั่งเพื่อให้ลูกน้อยรู้สึกแฮปปี้ตลอดการเดินทาง

4. มีหลังคาที่ปกป้องลูกน้อยได้จาก รังสี UV

เพราะเด็กมีผิวบอบบาง และดวงตาที่ยังไม่พร้อมสู้แสงจ้า หลังคาบังแดดที่สามารถคลุมได้มิดชิดจะช่วยปกป้องผิวและดวงตาลูกน้อยจากแสง UV ได้ดี และแม้ไม่ได้อยู่กลางแดดหลังคา ก็ยังมีความสำคัญเพราะช่วยปกป้องดวงตาลูกน้อยที่กำลังนอนหงายมิให้ปะทะกับแสงจ้าจากหลอดไฟบนเพดานได้

5. รถเข็นมีความสูงจากพื้น ไม่น้อยกว่า 50 ซม.

นอกจากจะช่วยให้ลูกรักอยู่ไกลจากฝุ่นและสิ่งสกปรกบนพื้นถนนซึ่งเป็นแหล่งของเชื้อโรคได้แล้ว เบาะรองนอนที่สูงยังช่วยให้ลูกน้อยอยู่ห่างจากพื้นที่มีความร้อนสะสมได้อีกด้วย

6. รถเข็นที่สามารถปรับเข็นได้ 2 ทิศทาง

พ่อและแม่คือบุคคลที่เด็กให้ความไว้วางใจมากที่สุด เมื่อนำลูกลงนอนในรถเข็นเด็กคุณพ่อคุณแม่ควรอยู่ในตำแหน่งด้านหน้า เพื่อให้ลูกน้อยได้เห็นหน้าตลอดเวลา ซึ่งจะช่วยให้ลูกมั่นใจว่าแม้คุณพ่อคุณแม่ไม่ได้อุ้มอยู่แต่ก็ยังอยู่ใกล้ๆ เสมอ หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเด็กร้องไห้เพราะไม่ชอบนั่งรถเข็นเด็กโดยไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วเค้าแค่กำลังร้องเรียกหาคุณพ่อคุณแม่ที่หายไปจากสายตาเค้าต่างหาก

7. เลี้ยวได้ง่าย ล้อหมุนได้ดีเวลาเลี้ยว ไม่ใช้แรงเยอะจนเกินไป

ล้อรถเข็นเด็กทั่วไปจะหมุนได้ 360 องศาเฉพาะคู่หน้า ซึ่งถ้าคุณต้องเข็นลูกจากด้านหลังของลูกก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าในกรณีที่คุณพ่อคุณแม่ต้องดูแลลูกในวันแรกเกิด การเข็นลูกในตำแหน่งจากด้านหน้าของลูกจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก รถเข็นเด็กที่มีล้อสามารถหมุนได้ 360 องศาทั้ง 4 ล้อจะช่วยให้คุณสามารถควบคุมทิศทางการเข็นได้ง่ายมากๆ แต่ข้อควรระวังคือควรเลือกซื้อรถเข็นที่หมุนครั้งละ 2 ล้อเท่านั้น (เมื่อยืนอยู่ด้านหลัง ปล่อยให้ล้อหมุนเฉพาะคู่หน้า และเมื่อยืนอยู่ด้านหน้าก็ควรให้ล้อหมุนเฉพาะคู่หลัง) มิเช่นนั้นจะควบคุมทิศทางไม่ได้เลย

8. เบาะรถเข็นระบายอากาศได้ดี ลูกนั่งไม่ร้อน

เพราะเด็กทารกมีรูขุมขนเล็กและระบบการปรับอุณหภูมิในร่างกายยังทำงานได้ไม่เต็มที่ จึงทำให้การระบายเหงื่อเป็นไปได้ช้า ความร้อนในตัวถูกกักเก็บไว้ใต้ผิวหนังเด็กจึงเหงื่อออกได้มากโดยเฉพาะในเวลานอน บริเวณศีรษะและหลังจึงมักชุ่มเหงื่อตลอดเวลาแม้จะอยู่ในห้องแอร์ก็ตาม

รถเข็นเด็กทารกที่ดีควรจะมีช่องระบายอากาศที่หลังเบาะและแผ่นฉนวนกันความร้อนสีเงิน ที่นอกจากจะช่วยระบายเหงื่อจากหลังเด็กเพื่อระบายความอับชื้นแล้วยังช่วยสะท้อนความร้อนจากภายนอกไม่ให้สะสมที่หลังเด็กได้ดีอีกด้วย

วัสดุของเบาะรถเข็น ที่สัมผัสผิวหนังของเด็กโดยตรง ควรมีคุณสมบัติระบายอากาศได้ดี จะช่วยลดความอับชื้นช่วยให้ศีรษะและหลังของลูกไม่เปียกแฉะในเวลานอน

เลือกรถเข็นเด็ก ตามไลฟ์สไตล์พ่อแม่

นอกจากการเลือกรถเข็นเด็กตามวัยของลูกรักแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ ไลฟสไตล์ ของคุณพ่อคุณแม่ ซึ่งในปัจจุบันมีการออกแบบรถเข็นออกมาหลายรูปแบบให้เลือกใช้ตามความเหมาะสมหลายแบบหลายสไตล์ จะมีอะไรบ้างไปดูกันค่ะ . . .

1. คุณพ่อคุณแม่ที่ชื่นชอบเดินทางท่องเที่ยว

คุณพ่อคุณแม่ ที่รักการเดินทางท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ เมื่อมีลูกน้อยก็อยากพาลูกน้อยไปเปิดประสบการณ์ใหม่ไปพร้อมๆกัน การที่มีรถเข็นที่มีขนาดไม่ใหญ่จนเกินไป ก็จะทำให้เก็บเข้าด้านหลังรถได้แม้จะเป็นรถเล็ก หรือนำขึ้นเครื่องได้อย่างสบาย ส่วนแม่ๆที่ตัวเล็กแถมสัมภาระของตัวเองก็เยอะแล้ว การมีรถเข็นที่น้ำหนักเบา ยกง่าย พับสะดวก ก็จะช่วยให้การเดินทางพาลูกเที่ยว สะดวกสบายมากยิ่งขึ้นค่ะ

สำหรับบ้านไหนที่มีแพลนพาลูกขึ้นเครื่องบิน ไม่ต้องกังวลเรื่องรถเข็นใหญ่เกินไป เอาขึ้นเครื่องไม่ได้แล้วค่ะ เพราะปัจจุบันหลายๆสายการบินสามารถนำรถเข็นลงไปเก็บใต้ท้องเครื่องแ ละเมื่อถึงปลายทางก็ไปที่จุดรับคืนได้เลยสะดวกสบายมากๆ แต่ควรเลือกรถเข็นที่พับเก็บได้ง่าย และมีน้ำหนักเบา เพราะเวลาขึ้นเครื่องจะต้องพับและกางอยู่บ่อยครั้ง ตรงนี้ก็จะช่วยให้คุณแม่คล่องตัวในการเดินทางมากขึ้น

2. เลือกรถเข็นที่มีดีไซน์และสีสัน ถูกใจคุณพ่อคุณแม่

ปัจจุบันมีรถเข็นนอกจากจะมีฟังชั่นให้ความสะดวกสบายแล้ว ยังมีสีสันเยอะแยะมากมายให้คุณพ่อคุณแม่ได้เลือกตามความชอบ ไม่ว่าจะเป็น สีดำเทาเรียบหรูดูเท่ หรือสีชมพูที่ให้ความหวานๆ คุณพ่อคุณแม่สามารถเลือกรถเข็นตามสไตล์ที่ชอบ รวมถึงสีที่ถูกใจได้เลยค่ะ

ส่วนคุณสมบัติรถเข็นเด็กอื่นๆที่ คุณพ่อคุณแม่อาจพิจารณาเพิ่มเติม มีอะไรบ้าง ไปดูกันค่ะ . . .

  • เบาะที่นั่ง สามารถถอดซักทำความสะอาดได้เองง่ายๆที่บ้าน หรือนำเข้าซักเครื่องซักผ้าได้
  • พื้นที่ใส่ของด้านล่าง ขนาดใหญ่ ที่สามารถเก็บสัมภาระลูกน้อยและคุณแม่ได้ครบ
  • ราคาขายต่อ เมื่อลูกน้อยโตพอที่จะไม่ใช้งานแล้ว
  • การรับประกันสินค้า และการบริการหลังการขาย รวมถึงความพร้อมของทีมงานและอะไหล่ทดแทน

เป็นยังไงกันบ้างคะ กับเคล็ดลับวิธีการเลือกรถเข็นเด็ก ที่เบบี้กิ๊ฟนำมาฝาก บ้านไหนกำลังวางแผนซื้อรถเข็นให้ลูกสักคัน ลองเอาไปปรับใช้กันดูนะคะ หรือ พาลูกน้อยมาลองรถเข็นเด็ก ได้ที่ BabyGift ทั้ง 4 สาขา ใกล้บ้านคุณ เรายินดีให้คำแนะนำ พร้อมสาธิตการใช้รถเข็นเด็กอย่างถูกวิธี

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00

บทความแนะนำ

1.การรู้จักใช้เงิน 2.การรู้จักนับถือความรู้ 3.การมีเสรีภาพ 4.การคิดก่อนพูด 5.ความพอเพียง 6.คนดี 7.ความสามัคคี 8.คนเราต้องรับและจะต้องให้ 9.พูดจริงทำจริง 10.ความซื่อสัตย์

เปลนอนทารก ถือเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญมาก ๆ สำหรับทารก ที่ต้องเตรียมซื้อตั้งแต่ก่อนคลอด เพราะทารกวัย 0-9 เดือน จะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการนอนและอยู่บนที่นอน ดังนั้น ก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะเลือกเปลนอนทารกให้ลูกน้อย ควรเลือกดูจากหลาย ๆ ด้าน เช่น ความปลอดภัย การระบายอากาศ ฟังก์ชั่นการใช้งาน รวมถึงอายุการใช้งาน เพราะการเลือก เปลนอนทารก ที่ไม่เหมาะสมกับทารกอาจส่งผลถึงเสียถึงชีวิตของลูกน้อยได้ วิธีเลือกเปลนอนทารกให้ลูกน้อย  เปลนอนทารกมีกี่แบบ มีข้อดี ข้อเสีย อะไรบ้าง ?  1. เปลนอนทารก BEDSIDE CRIB แบบชิดเตียงแม่ เป็นเตียงสำหรับทารกแรกเกิด ที่มีฟังก์ชั่นเปิดด้านข้างเตียงเพื่อต่อชิดกับเตียงของคุณพ่อคุณแม่ได้ ทำให้สะดวกในการดูแลลูกน้อยมากขึ้น  ข้อดีเตียง Bedside Crib  ข้อเสียเตียง Bedside Crib  2. เตียงไม้ เป็นเตียงที่ถูกออกแบบมาเพื่อความแข็งแรง เน้นการใช้งานแบบคุ้มค่า ใช้ได้ในระยะยาวหลายปี สามารถรองรับน้ำหนักได้มาก  ข้อดีเตียงไม้  ข้อเสียเตียงไม้  3. เปลนอนทารกแบบ PLAYPEN เตียงนอนทารกปรับฟังก์ชั่นเป็นคอกกั้นให้ลูกน้อยได้ ฝึกพัฒนาการคลาน ยืน เป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับคุณแม่ ข้อดี Playpen  ข้อเสีย Playpen  4. เปลไกวไฟฟ้า เป็นเตียงที่ได้ความนิยมมาก เพราะปรับการใช้งานได้หลายแบบ พร้อมไกวอัตโนมัติกล่อมลูกหลับได้ง่ายและสนิทมากขึ้น ถือว่าเป็นตัวช่วยในการเลี้ยงลูกน้อยได้ดี ข้อดีเปลไกวไฟฟ้า  ข้อเสียเปลไกวไฟฟ้า  เมื่อคุณพ่อคุณแม่ทราบถึงข้อดีและข้อแตกต่างของเปลทารกแต่ละประเภทแล้ว เบบี้ กิ๊ฟ มีเปลนอนทารกรุ่นขายดีที่สุด มาแนะนำคุณพ่อคุณแม่กันค่ะ  […]

ใช้เครื่องปั๊มนม ดียังไงนะ? คุณแม่รู้ไหมว่า การปั๊มนมมีส่วนช่วยคุณแม่และลูกน้อยได้มากมายกว่าที่คิด แต่เชื่อว่าสำหรับคุณแม่มือใหม่ การปั๊มนมครั้งแรกอาจไม่ใช่เรื่องง่าย อาจมีความกังวลใจต่างๆ นาๆ  ว่าจะเริ่มยังไง ต้องทำอะไรบ้าง  เราจึงอยากจะมาแนะนำวิธีการปั๊มนมครั้งแรก พร้อมกับเทคนิคการปั๊มนมให้เกลี้ยงเต้า เพื่อให้คุณแม่ได้ ใช้เครื่องปั๊มนมได้เก่ง คุ้มค่าอย่างมืออาชีพ ลูกน้อยก็มีน้ำนมแม่กินอิ่มอยู่เสมอค่ะ สอนคุณแม่ ใช้เครื่องปั๊มนม แม้คุณแม่จะลองปั๊มนมแล้ว น้ำนมจะยังไม่มี ก็ไม่ควรเครียด หรือตกใจ คิดว่าตัวเองไม่มีน้ำนม เพราะการปั๊มนมช่วงนี้เป็นการปั๊มนมเพื่อกระตุ้น และฝึก ใช้เครื่องปั๊มนมให้คุ้นเคย เมื่อคุณแม่ได้ใช้เครื่องปั๊มนมร่วมกับให้ลูกดูดกระตุ้นบ่อยๆ น้ำนมแม่จะมาเร็วขึ้น เมื่อ ใช้เครื่องปั๊มนม ปั๊มนมแบบไหน? ให้เกลี้ยงเต้า  การปั๊มนมให้เกลี้ยงเต้า คือการระบายน้ำนมให้หมดจากเต้านมคุณแม่ในครั้งนั้นๆ เพื่อให้เต้านมคุณแม่ได้มีพื้นที่สำหรับการผลิตน้ำนมขึ้นใหม่อยู่เสมอ เพราะน้ำนมแม่จะมีรอบของการผลิตใหม่ๆ ในเต้านมตลอดเวลา เมื่อน้ำนมผลิตจนเต็มเต้า เต็มพื้นที่เก็บน้ำนม จะทำให้เต้านมคุณแม่คัดตึง ต้องให้ลูกน้อยดูดหรือปั๊มนมระบายออกมา  ซึ่งการปั๊มนมออกมานั้น ยิ่งระบายน้ำนมออกได้เกลี้ยงเต้ามากเท่าไร ก็จะยิ่งช่วยให้นมแม่ผลิตออกมาสม่ำเสมอได้มากขึ้นเท่านั้นค่ะ เทคนิคปั๊มเกลี้ยงเต้า คุณแม่จะรู้ได้ว้าน้ำนมที่ปั๊มนั้นเกลี้ยงเต้าแล้ว เมื่อรู้สึกได้ว่าเต้านมอ่อนนุ่มนิ่มลง อาการคัดตึงเต้านมก่อนที่จะปั๊มนม (เพราะมีน้ำนมอยู่เต็มเต้านม) ก็จะหายไปด้วย

เพราะนมแม่ คือสุดยอดอาหารมื้อแรกและเป็นอาหารที่ดีที่สุดของลูกน้อย   คุณแม่ทุกท่านจึงตั้งใจมอบคุณค่าน้ำนมแม่นี้ให้แก่ลูกรักได้นานที่สุดและมากที่สุดเท่าที่จะทำได้  โดยส่วนใหญ่มักจะเตรียมพร้อมตั้งแต่ตั้งครรภ์ และหลังคลอดก็ให้นมแม่จากเต้าทันทีและเต็มที่  และเชื่อว่าคุณแม่ทุกคนยอ่มวางแผนที่จะ ทำสต๊อกน้ำนมแม่ เพื่อให้ลูกได้กินนมแม่ในช่วงที่ต้องไปทำงาน และมีน้ำนมเก็บไว้ให้ลูกได้กินต่อเนื่องยาวนาน แต่การ ทำสต๊อกน้ำนมแม่ นอกจากคุณแม่ต้องมีวินัยในการปั๊มนมสม่ำเสมอทุกๆ 2-3 ชั่วโมงอย่างต่อเนื่องแล้ว  คุณแม่จำเป็นเรียนรู้ข้อมูลและอุปกรณ์ต่างๆ ในการเก็บน้ำนมแม่ เพื่อให้น้ำนมแม่ที่นำมาให้ลูกกินในภายหน้ายังมีคุณค่าครบถ้วนเต็มที่  ให้ลูกรักมีพัฒนาการดีทุกด้าน  เก่ง ฉลาด และสุขภาพแข็งแรงอยู่เสมอ ฉะนั้นมาดูกันว่า วิธีการทำสต๊อกน้ำนมแม่ต้องทำอย่างไร อุปกรณ์ ทำสต๊อกน้ำนมแม่ เครื่องปั๊มนม  เป็นผู้ช่วยสำคัญที่ทำให้คุณแม่ได้ปั๊มนมเก็บไว้ และกระตุ้นให้น้ำนมมาได้มากอย่างต่อเนื่อง และสามารถปั๊มนมแม่ได้ ตั้งแต่ที่บ้านไปจนถึงเมื่อต้องกลับไปทำงาน ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องปั๊มนมให้เลือกมากมาย หาซื้อได้ง่ายทั้งทางออนไลน์และห้างสรรพสินค้าต่างๆ โดยคุณแม่ควรพิถีพิถันหาข้อมูล และเลือกซื้อเครื่องปั๊มนมที่ถูกใจ เหมาะสมกับชีวิตประจำวัน รวมถึงการใช้งานเมื่อต้องไปทำงานนอกบ้านหรือออกข้างนอก เช่น คุณแม่ที่ต้องทำงานนอกบ้าน กับคุณแม่ที่อยู่บ้านเลี้ยงลูก อาจจะต้องเลือกเครื่องปั๊มนมที่ให้ความสะดวก และมีระบบการทำงานที่แตกต่างกันนั่นเอง เครื่องปั๊มนมยุคใหม่ ก็มีให้คุณแม่ได้เลือกมากมายหลายแบบ หลายการใช้งานและหลายราคา อาทิ เครื่องปั๊มนมชนิดปั๊มมือ  เครื่องปั๊มนมชนิดใช้แบตเตอรี่ และ เครื่องปั๊มนมชนิดใช้ไฟฟ้า  แถมยังมีทั้งแบบที่ปั๊มนมเดี่ยวข้างเดียว แบบปั๊มนมได้คู่พร้อมกันสองข้าง รวมถึงสามารถชาร์จไฟจากพาวเวอร์ได้อีกด้วย สิ่งสำคัญคือการเลือกเครื่องปั๊มนมที่ได้มาตรฐาน มีแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับหรือได้รับความนิยมจากคุณแม่ทั่วไป ราคาเหมาะสม […]

การเป็นแม่มือใหม่อาจจะเป็นเรื่องที่ทั้งสนุกและท้าทายอย่างมาก สำหรับแม่มือใหม่หลายๆ คนที่เพิ่งมีลูกคนแรก ย่อมต้องเผชิญกับปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นประจำ ซึ่งบางครั้งอาจทำให้รู้สึกเครียดและสับสน แต่ไม่ต้องกังวล เพราะทุกปัญหามีวิธีการจัดการที่สามารถทำได้ทันที วันนี้เรามี 5 ปัญหาที่แม่มือใหม่เจอบ่อย พร้อมวิธีแก้ไขที่ได้ผลทันทีมาฝากค่ะ 1. ลูกไม่ยอมนอนตอนกลางคืน หนึ่งในปัญหาที่แม่มือใหม่มักเจอบ่อยคือ ลูกไม่ยอมนอนตอนกลางคืน ตื่นบ่อย หรือร้องไห้จนทำให้แม่ไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ นี่อาจเกิดจากการที่เด็กยังไม่คุ้นเคยกับการนอนตอนกลางคืน หรือยังปรับตัวไม่ได้กับตารางเวลา วิธีแก้ไข: 2. ลูกไม่ยอมกินนม/อาหารเสริม หลายๆ แม่มือใหม่มักจะพบว่า ลูกไม่ยอมกินนมแม่หรือนมขวด หรือแม้กระทั่งปฏิเสธอาหารเสริม แม้จะพยายามหลายครั้งแล้วก็ตาม วิธีแก้ไข: 3. ลูกร้องไห้ไม่หยุด หนึ่งในปัญหาที่ท้าทายมากสำหรับแม่มือใหม่คือการที่ลูกร้องไห้ไม่หยุด ซึ่งบางครั้งอาจทำให้แม่รู้สึกวิตกกังวลและไม่รู้วิธีการช่วยลูก วิธีแก้ไข: 4. ปัญหาน้ำนมไม่พอ แม่มือใหม่หลายคนจะมีความกังวลเรื่องน้ำนมไม่พอให้ลูกดื่ม ซึ่งอาจเกิดจากความเครียดหรือการให้นมไม่สม่ำเสมอ วิธีแก้ไข: 5. รู้สึกเครียดหรือเหนื่อยล้าจากการเลี้ยงลูก การเป็นแม่มือใหม่ที่ต้องดูแลลูกอย่างต่อเนื่องอาจทำให้เกิดความเครียดและรู้สึกเหนื่อยล้า ทำให้บางครั้งแม่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ดีพอ วิธีแก้ไข: บทสรุป ปัญหาที่แม่มือใหม่เจอบ่อยนั้นเป็นสิ่งที่สามารถจัดการได้ด้วยการมีความรู้และวิธีการที่ถูกต้อง อย่าลืมว่าการเลี้ยงลูกไม่ใช่การแข่งกับเวลา แต่คือการเรียนรู้และปรับตัวไปพร้อมๆ กัน ไม่ต้องกังวลหรือเครียดเกินไป ขอให้แม่มือใหม่ทุกคนมีความสุขกับการเลี้ยงดูลูกอย่างเต็มที่ และรู้สึกมั่นใจในการตัดสินใจที่ดีที่สุดเพื่อสุขภาพและความสุขของลูกค่ะ!

เคล็ดลับการฝึกลูกนั่งคาร์ซีท car seat จากประสบการณ์จริงคุณแม่ลูกสอง โดย แม่ป่าน เพจ เลี้ยงลูกอย่างมีความสุข by mommy Arpan 1. ฝึกเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ : ถ้าเป็นไปได้จัดเตรียมคาร์ซีท car seat ไว้ก่อนคลอด และให้ลูกนั่งตั้งแต่วันแรกที่ออกจากโรงพยาบาล จะช่วยสร้างความคุ้นเคยให้กับทั้งตัวลูกและพ่อแม่ 2. ต่อเนื่อง และสม่ำเสมอจนกลายเป็น routine (กิจวัตร) : ไม่ว่าจะไปไหน ใกล้หรือไกลต้องให้เด็กนั่ง car seat ทุกครั้ง เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ ปฏิบัติจนคุ้นชิน และทุกอย่างจะง่ายขึ้นเองค่ะ 3. ปรับทัศนคติให้ตรงกัน (ปัญหาหลักที่หลายบ้านพบเจอ) : โดยเฉพาะผู้ใหญ่ในบ้านที่อาจจะยังไม่เข้าใจ หรือยังมองไม่เห็นความสำคัญ ลองนั่งพูดคุยบอกเล่าเหตุการณ์ๆต่างๆในข่าว ที่เวลาเกิดอุบัติเหตุและเด็กที่นั่ง car seat รอดชีวิต เปรียบเทียบกับเด็กที่ไม่ได้นั่งและเกิดความสูญเสียร้ายแรงตามมา และลองคุยปรับความเข้าใจกับท่านดู เชื่อว่าถ้าท่านรักและห่วงหลานๆเป็นทุน ยังไงวันหนึ่งท่านจะเข้าใจค่ะ อีกวิธีหนึ่งที่แนะนำคือลองหาวิดิโอใน Youtube สาธิตแรงกระแทกที่เกิดขณะรถชน (จะมีสาธิตเปรียบเทียบระหว่างมีคนอุ้มเด็ก กับเด็กนั่งคาร์ซีท ….หวังว่าภาพที่เห็นจะสามารถเปลี่ยนใจของบรรดาผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านได้นะคะ […]

Menu
All Categories
All Brands
All Ages
Promotions
Locations
BabyGift Family
BabyGift Care
Parents Guide
News & Event

All Categories

All Categories
All Brands
All Ages