5 ปัญหาที่แม่มือใหม่เจอบ่อย และวิธีแก้ไขที่ได้ผลทันที

การเป็นแม่มือใหม่อาจจะเป็นเรื่องที่ทั้งสนุกและท้าทายอย่างมาก สำหรับแม่มือใหม่หลายๆ คนที่เพิ่งมีลูกคนแรก ย่อมต้องเผชิญกับปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นประจำ ซึ่งบางครั้งอาจทำให้รู้สึกเครียดและสับสน แต่ไม่ต้องกังวล เพราะทุกปัญหามีวิธีการจัดการที่สามารถทำได้ทันที วันนี้เรามี 5 ปัญหาที่แม่มือใหม่เจอบ่อย พร้อมวิธีแก้ไขที่ได้ผลทันทีมาฝากค่ะ
1. ลูกไม่ยอมนอนตอนกลางคืน

หนึ่งในปัญหาที่แม่มือใหม่มักเจอบ่อยคือ ลูกไม่ยอมนอนตอนกลางคืน ตื่นบ่อย หรือร้องไห้จนทำให้แม่ไม่ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ นี่อาจเกิดจากการที่เด็กยังไม่คุ้นเคยกับการนอนตอนกลางคืน หรือยังปรับตัวไม่ได้กับตารางเวลา
วิธีแก้ไข:
- สร้างกิจวัตรก่อนนอน: เช่น การอาบน้ำอุ่น หรือการอ่านนิทานให้ลูกฟัง เพื่อให้ลูกเชื่อมโยงการนอนกับกิจกรรมที่ผ่อนคลาย
- ปรับสภาพแวดล้อมห้องนอน: ห้องนอนควรเป็นที่เงียบสงบและมืด เพื่อให้ลูกรู้สึกปลอดภัยและสงบ
- ใช้เสียงสีขาว (White Noise): เสียงที่คุ้นเคย เช่น เสียงพัดลมหรือเสียงเครื่องดูดฝุ่น สามารถช่วยให้ลูกหลับสบายขึ้น
2. ลูกไม่ยอมกินนม/อาหารเสริม

หลายๆ แม่มือใหม่มักจะพบว่า ลูกไม่ยอมกินนมแม่หรือนมขวด หรือแม้กระทั่งปฏิเสธอาหารเสริม แม้จะพยายามหลายครั้งแล้วก็ตาม
วิธีแก้ไข:
- ปรับท่าหรือลักษณะการให้นม: ลองเปลี่ยนท่าหรือขวดนมใหม่เพื่อให้ลูกรู้สึกสะดวกและสบายขึ้น
- เสนออาหารหลากหลาย: สำหรับอาหารเสริม ค่อยๆ เสนออาหารที่มีรสชาติหลากหลาย เช่น ผักบด ข้าวบด โดยให้เวลาให้ลูกคุ้นเคย
- ให้ลูกช่วย: ให้ลูกมีส่วนร่วม เช่น ถือขวดนมหรือช้อนอาหารเสริม เพื่อกระตุ้นความสนใจ
3. ลูกร้องไห้ไม่หยุด

หนึ่งในปัญหาที่ท้าทายมากสำหรับแม่มือใหม่คือการที่ลูกร้องไห้ไม่หยุด ซึ่งบางครั้งอาจทำให้แม่รู้สึกวิตกกังวลและไม่รู้วิธีการช่วยลูก
วิธีแก้ไข:
- ตรวจสอบสาเหตุ: ลูกอาจจะหิว ง่วง หรือรู้สึกไม่สบายตัว ลองตรวจสอบปัจจัยเหล่านี้ก่อน
- อุ้มลูกหรือใช้เป้อุ้ม: การอุ้มและแกว่งลูกเบาๆ จะช่วยให้ลูกสงบลงได้
- ใช้เสียงดังเบา: บางครั้งการใช้เสียงขับร้องเพลงหรือเสียงเบาๆ จะช่วยให้ลูกสงบลงได้
- ปรึกษาแพทย์: หากการร้องไห้ไม่หยุดหรือดูเหมือนจะมีปัญหาทางร่างกาย ควรปรึกษาแพทย์
4. ปัญหาน้ำนมไม่พอ

แม่มือใหม่หลายคนจะมีความกังวลเรื่องน้ำนมไม่พอให้ลูกดื่ม ซึ่งอาจเกิดจากความเครียดหรือการให้นมไม่สม่ำเสมอ
วิธีแก้ไข:
- ให้นมบ่อยขึ้น: การให้นมบ่อยๆ จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำนมมากขึ้น
- ดื่มน้ำและอาหารที่ช่วยเพิ่มน้ำนม: การดื่มน้ำให้เพียงพอและรับประทานอาหารที่ช่วยเพิ่มน้ำนม เช่น ขิงและน้ำซุปกระดูก
- ใช้เครื่องปั๊มนม: เพื่อให้สามารถสะสมและเพิ่มปริมาณน้ำนม
5. รู้สึกเครียดหรือเหนื่อยล้าจากการเลี้ยงลูก

การเป็นแม่มือใหม่ที่ต้องดูแลลูกอย่างต่อเนื่องอาจทำให้เกิดความเครียดและรู้สึกเหนื่อยล้า ทำให้บางครั้งแม่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้ดีพอ
วิธีแก้ไข:
- แบ่งหน้าที่: ลองแบ่งหน้าที่การดูแลลูกกับคนในครอบครัวหรือเพื่อนๆ เพื่อลดความเครียด
- พักผ่อน: ใช้เวลาพักผ่อนหรือทำกิจกรรมที่ช่วยให้ผ่อนคลาย เช่น อาบน้ำอุ่น อ่านหนังสือ หรือออกกำลังกายเบาๆ
- ขอคำแนะนำ: การเข้าร่วมกลุ่มแม่มือใหม่สามารถช่วยให้ได้รับคำแนะนำและกำลังใจจากผู้ที่มีประสบการณ์
บทสรุป
ปัญหาที่แม่มือใหม่เจอบ่อยนั้นเป็นสิ่งที่สามารถจัดการได้ด้วยการมีความรู้และวิธีการที่ถูกต้อง อย่าลืมว่าการเลี้ยงลูกไม่ใช่การแข่งกับเวลา แต่คือการเรียนรู้และปรับตัวไปพร้อมๆ กัน ไม่ต้องกังวลหรือเครียดเกินไป ขอให้แม่มือใหม่ทุกคนมีความสุขกับการเลี้ยงดูลูกอย่างเต็มที่ และรู้สึกมั่นใจในการตัดสินใจที่ดีที่สุดเพื่อสุขภาพและความสุขของลูกค่ะ!
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
หมอเด็กเค้าเลือกคาร์ซีทแบบไหนให้ลูกตัวเอง….อยากรู้ต้องคลิ๊ก ก่อนซื้อคาร์ซีทให้ลูก ถ้าไปอ่านหนังสือ ก็จะรู้ว่าคาร์ซีท (carseat) มี 4 แบบ (ซึ่งเอาเข้าจริงรู้จริงๆ ตอนมีลูก 55555 ก่อนนั้นรู้แต่ทฤษฎี) คือ แน่นอนในตลาด มี option มากมายไว้หลอกลวงพ่อแม่ขาช้อป 5555 ทั้งแบบตระกร้าที่ยกเข้าออกได้เลย หรือ ประกอบลง stroller (รถเข็น) ได้เลย…. เอาที่สบายใจ 555 เอาหลักในการเลือกของพ่อหมอเลยแล้วกัน 555 ไม่ว่าอะไรก็ตาม เน้นใช้ได้ยาวๆ เป็นหลัก แน่นอน convertible เป็นแบบที่เลือกแบบไม่ต้องคิดเลย เพราะใช้ได้นานดี อย่างน้อยๆ ก็สามสี่ปี อีแบบตระกร้าเนี่ยใช้ได้ปีเดียวก็ต้องเปลี่ยนละ ไม่ไหว พ่อไม่ค่อยมีตังค์ (ต้องเอาไปซื้อของไร้สาระอื่นๆ อีก 55555) ยังๆ ยังไม่จบ เลือกชนิดแล้ว ต้องมาเลือก options อีก ตัวเลือกเรามีดังนี้ เน้นหลัก 3 ข้อในการใช้คาร์ซีท carseat โดย […]
เบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็กในรถยนต์ทุกที่นั่งจะต้องมีป้ายรับรองมาตรฐาน ECE R44/04 เป็น มาตรฐานความปลอดภัยคาร์ซีท เพื่อบ่งชี้ว่าเบาะตัวนั้นๆได้ผ่านตามข้อกำหนดมาตรฐานความปลอดภัย ป้ายรับรองมาตรฐาน ECE R44/04 จะเป็นป้ายสีส้ม มาตรฐานความปลอดภัยคาร์ซีท ECE 44/03 และ ECE R 44/04 แบ่งตาม Group และแบ่งแยกเป็นประเภทต่างๆ ทั้งหมด 4 ประเภท (4 Categories) ตามการติดตั้งและการใช้งาน ซึ่งจะช่วยให้เราทราบว่าเบาะนั้นๆออกแบบมาสำหรับรถเราหรือไม่ มาตรฐานความปลอดภัยคาร์ซีท ECE 44/03 และ ECE R 44/04 แบ่งตามภูมิภาค จากข้อมูลในหัวข้อนี้คงพอให้ท่านผู้อ่านเข้าใจความหมายและทราบถึงรายละเอียด ข้อมูลของเบาะนั้นจากป้ายมาตรฐาน ตลอดจนเป็นประโยชน์กับผู้ปกครองในการเลือกซื้อเบาะให้เหมาะกับลูกหลานและรถ ที่มีแนวทางการใช้งานเบาะนั่งนิรภัยสำหรับเด็ก ในครั้งแรกๆ เด็กๆอาจจะร้องเพราะกลัวการถูกล็อค แต่ถ้าเขาคุ้นเคยเสียก่อน ก็จะลดการร้องไม่ยอมของเด็กได้ การที่เด็กๆร้องก็จะทรมาณใจพ่อแม่เพราะสงสารลูกๆและเป็นสาเหตุทำให้ละเลยการใช้งานเบาะนิรภัยในครั้งต่อๆไป เพราะว่าเด็กที่นั่งอยู่ในเบาะนิรภัยจะมีการป้องกันการชนด้านข้างต่ำ การนั่งในตำแหน่งกลางจะช่วยเพิ่มพื้นที่ในการดูดซับแรงกระแทก แต่ทั้งนี้รถควรจะเป็นรถขนาดใหญ่ที่เบาะกลางมีเข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด อย่างไรก็ตามหากไม่สามารถติดตั้งตรงเบาะกลางได้ การติดตั้งทางฝั่งซ้ายหรือขวาก็สามารถทำได้ โดยที่ฝั่งตรงข้ามคนขับ (ฝั่งเดียวกับฟุตบาท) จะปลอดภัยกว่าฝั่งคนขับ สำหรับการใช้งานเบาะนิรภัยร่วมกับรถปิกอัพให้ติดตั้งด้านหน้าข้างคนขับและห้ามใช้ถุงลมในที่นั่งด้านข้างคนขับ 1. เด็กสูงเพียงพอที่ขาและเข่าของเขาสามารถนั่งห้อยขาได้เบาะนั่งรถได้พอดี2. เด็กโตพอที่จะสามารถนั่งตัวตรง หลังพิงพนักพิงได้ตรง3. เข็มขัดนิรภัยของรถส่วนล่างจะต้องรัดได้ตรงส่วนกระดูกเชิงกรานไม่ใช้รัดตรงท้อง4. เข็มขัดที่พาดส่วนบ่าจะต้องพาดผ่านมาตรงส่วนหน้าอก […]
เพราะความสวย หุ่นดี เป็นสิ่งที่คู่ควรกับผู้หญิงอย่างเราอยู่เสมอ… การเป็นคุณแม่ นอกจากต้องเสียสละ ความเป็นส่วนตัวไปแล้ว ยังต้องเสียสละการมีหุ่นที่สวยเป๊ะ เหมือนสาววัยแรกแย้มอีก เพราะต้องยอมรับก่อนเลยว่าการตั้งครรภ์นี่หุ่นของคุณแม่จะพังแน่นอน และยิ่งขณะตั้งครรภ์ไม่ดูแลรูปร่างตัวเอง น้ำหนักขึ้นมาเยอะอีกหล่ะก็ไม่ต้องพูดถึง หลังคลอดคุณแม่ต้องมานั่งกลุ้มใจเรื่องหุ่นแน่ๆ แต่สุดท้ายแล้วทุกปัญหามีทางออก ถ้าคุณแม่ให้ลูกกินนมแม่น้ำหนักก็จะลดเร็ว และยิ่งได้อยู่ไฟหลังคลอด ตามคำบอกเล่าโบราณอีก ก็พอทำให้หุ่นคุณแม่กลับมาเป๊ะเหมือนเดิมแน่นอน แถมบางคนยังมีผิวพรรณสดใสกว่าตอนก่อนตั้งครรภ์อีก…งานนี้แม่ๆ อยากจะรู้จักวิธีการอยู่ไฟแล้วใช่ไหม มันดียังไงกันนะ??? “อยู่ไฟ” หลังคลอด คงเป็นคำที่คุณแม่ทั้งหลายครุ่นคิดอยู่ในสมองว่า เราควรจะอยู่ไฟหลังคลอดดีไหม อยู่แล้วดีอย่างไร และควรทำที่ไหน วันนี้เราจะมาไขคำตอบคุณแม่ให้หายสงสัยกัน เพราะร่างกายของคุณแม่หลังคลอดจะเกิดการเปลี่ยนแปลงแทบจะทุกระบบ ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ไม่ว่าจะเป็นผมร่วง เกิดจากฮอร์โมนในร่างกายลดลงอย่างรวดเร็ว หน้าอกขยายขึ้น เพราะมีการสร้างน้ำนมขึ้นมา ไปจนถึงมดลูกขยายตัวมาก ซึ่งเป็นปัญหาหลักของคุณแม่หลังคลอด การอยู่ไฟ เป็นการฟื้นฟูสุขภาพอีกรูปแบบหนึ่งสำหรับแม่หลังคลอด ซึ่งในสมัยก่อนยังไม่มียาปฏิชีวนะ ไม่มียาหยุดเลือด ไม่มียากระตุ้นน้ำนม การอยู่ไฟสมัยก่อนจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อช่วยฟื้นฟูร่างกายจากความเหนื่อยล้าให้กลับคืนสภาพปกติ แต่ในปัจจุบัน การอยู่ไฟถูกลดบทบาทลง ถ้าไม่อยู่ไฟในปัจจุบัน ถือว่าไม่อันตรายเพราะมียาครบครันกว่าสมัยก่อน ดังนั้นการอยู่ไฟจำเป็นต้องได้รับการปฏิบัติอย่างถูกต้องและเหมาะสม จึงจะช่วยฟื้นฟูสุขภาพหลังคลอดให้กลับคืนสู่สภาวะปกติได้โดยเร็ว ประโยชน์ที่ได้จากการอยู่ไฟ คือร่างกายคุณแม่จะฟื้นตัวเร็ว รูปร่างจะกลับมาดีขึ้น, น้ำหนักตัวลดลง, น้ำนมไหลดีขึ้น, เลือดไหลเวียนดี มีเลือดฝาด, ผิวพรรณผ่องใส, มดลูกเข้าอู่เร็ว, […]
แม่ท้องร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย เนื่องฮอร์โมนฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน (Progesterone) เพิ่มสูงขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์ โดยการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนดังกล่าวจะส่งผลให้เส้นเอ็นและข้อต่อเกิดการคลายตัวมากขึ้น รวมทั้งทำให้โครงสร้างภายในร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลง เพื่อรองรับทารกในครรภ์ หนึ่งในนั้นการเปลี่ยนแปลของร่างกายก็คือสภาพผิวที่แห้งง่าย สีผิวเปลี่ยน คุณแม่บางคนเกิดกระได้ง่ายขึ้น รวมไปถึงขนาดท้องที่ขยายใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ผิวหนังบริเวณท้อง หน้าอก ต้นขา เกิดการยืดตึงจนเกิดรอยแตก การดูแลตัวเองขณะตั้งครรภ์จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ รวม ITEM ดูแลคุณแม่ตั้งครรภ์ BabyGift คัดสรรคุณภาพ 1. ผลิตภัณฑ์ป้องกันการแตกลาย ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของคุณแม่ว่าเป็นเนื้อครีมหรือเนื้อเซรั่ม ควรใช้ก่อนที่จะเกิดปัญหาเรื่องผิวแตกลายจะเป็นการดูและผิวได้ดีที่สุด 2. เข็มขัดพยุงครรภ์ รองรับน้ำหนักของครรภ์ที่ขยายใหญ่และมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น ที่สำคัญยังช่วยในการบรรเทาอาการปวดหลังของแม่ท้องได้อีกด้วย การเริ่มใช้ขึ้นอยู่กับคุณแม่แต่ละคนเลยว่ารู้สึกหนักหรือหน่วงท้องเมื่อไหร่ 3. คาร์ซีทสำหรับแม่ท้อง อุปกรณ์เสริมบนรถยนต์ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้แม่ท้องและลูกในครรภ์ คาร์ซีทแม่ท้อง แบรนด์ Tummy Shleid นวัตกรรมจากประเทศออสเตรเลีย เปลี่ยนจากการที่เข็มขัดนิรภัยรถรัดหน้าท้อง มารัดที่ต้นขาแทน 4. ผลิตภัณฑ์น้ำฆ่าเชื้อธรรมชาติ แม่ท้องอยู่ในช่วงฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง อาจทำให้ป่วยง่าย ไม่สบายบ่อย ติดเชื้อได้ง่าย การใช้แอลกอฮอล์เป็นอันตรายต่ออวัยวะภายใน การใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อจากธรรมชาติเพิ่มความปลอดภัยได้ 5. เครื่องอบ UV นวัตกรรมการฆ่าเชื้อขั้นสูงด้วยแสงยูวีหรือรังสีอัลตราไวโอเลตที่มีมาตรฐานใกล้เคียงกับการฆ่าเชื้อในวงการแพทย์ สามารถใช้ได้ทั้ง โทรศัพท์มือถือ ของใช้ต่างๆ
คุณอรุณศรี พิริยเลิศศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เบบี้ กิ๊ฟ (ไทยแลนด์) จำกัด ได้รับเกียรติเชิญให้เป็นวิทยากรให้ความรู้แก่บุคลลากรทางการศึกษา จำนวน 70 ท่าน ภายใต้ชื่อ “ความจำเป็นของคาร์ซีทและการเลือกใช้คาร์ซีทอย่างไรให้ถูกวิธี” ณ โรงเรียนเลิศหล้า ทั้งนี้ความรู้เกี่ยวกับการเลือกใช้คาร์ซีทอย่างถูกวิธี เพื่อให้บุคลลากรทางการศึกษาได้มีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับความจำเป็นของคาร์ซีท และสามารถนำมาปรับใช้กับนักเรียนในโรงเรียนได้ เพื่อให้สอดคล้องกับการบังคับใช้คาร์ซีทสำหรับเด็กอายุไม่เกิน 6 ปี ตาม พ.ร.บ. จราจรทางบก ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 5 กันยายน 2565 นี้
แผ่นรองคลาน ถือเป็นอีกหนึ่งไอเท็มจำเป็นที่ต้องมีในบ้าน ถึงแม้จะไม่อยู่ในลิสของใช้ลูกที่ต้องเตรียมไว้ก่อนคลอด แต่ก็ต้องทำความรู้จักกันไว้ล่วงหน้าซักนิด เพราะแผ่นรองคลาน ถือเป็นอีกอุปกรณ์หนึ่งที่จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการลูกน้อย ในวันที่เขาเริ่มคว่ำตัว และเริ่มที่อยากจะคลาน ซึ่งอยู่ในช่วงวัย 4 – 5 เดือน เป็นต้นไป แล้วแผ่นรองคลานแบบไหนที่ดีต่อลูกน้อยที่สุด วันนี้ Babygift เตรียมคำตอบไว้ให้คุณพ่อคุณแม่แล้วค่ะ แผ่นรองคลานที่ทำจากโฟม EVA วัสดุประเภทโฟม EVA นั้น จะมีน้ำหนักเบา และสามารถตัดเป็นชิ้นได้ง่าย แผ่นรองคลานประเภทนี้ จึงมักจะทำมาในรูปแบบของตัวต่อจิ๊กซอว์ แบบแยกชิ้นส่วน ทั้งแบบตัวเลข หรือตัวอักษรภาษาอังกฤษ เพื่อให้ลูกฝึกต่อเล่น เสริมสร้างพัฒนาการได้ เมื่อถอดเป็นชิ้น ๆ สามารถใส่กระเป๋าพกพาได้ง่าย และมีราคาถูกที่สุดในบรรดาแผ่นรองคลานทุกชนิด แต่เนื่องจากน้ำหนักที่เบาเกินไป ทำให้แผ่นรองคลานไม่ยึดติดกับพื้นบ้าน เมื่อลูกฝึกเดินอาจทำให้ลื่นติดกับเท้า อาจทำให้ลื่นล้มได้ / วัสดุมีกลิ่น และมีสี ที่อาจเป็นอันตรายหากลูกสัมผัสและนำมือเข้าปาก / วัสดุเป็นโฟม จึงไม่ทนทานต่อการขีดข่วน เมื่อเด็กเล็กที่มีเล็บยาว ข่วน หรือจิกเวลาที่พยุงตัว ก็อาจจะทำให้ฉีกขาดได้ง่าย จึงใช้งานได้เพียงระยะสั้น / แผ่นที่แยกกันทำให้อาจเกิดร่อง ซึ่งเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค และวัสดุชนิดนี้ไม่สามารถกันน้ำได้ […]






