9 วิธีสนุกๆ ทายเพศลูกน้อยตามแบบโบราณ

พอรู้ว่าตั้งท้อง สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่มักอยากจะทราบเป็นอันดับแรกก็คือเพศของลูกในท้องใช่มั้ยล่ะคะ วันนี้เราตั้งใจจะมาพูดถึงวิธีสนุกๆ ที่ไม่ต้องพึ่งวิทยาศาสตร์ เป็นวิธีที่อิงความเชื่อล้วนๆ ฮิตกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ แม่นไม่แม่น
ไม่รู้ แต่ก็สนุกดีค่ะ ถือว่าคลายเครียดกันเนอะ (เอ๊ะ หรือจะทำให้เครียดกว่าเดิม?)
9 วิธีสนุกๆ ทายเพศลูกน้อยตามแบบโบราณ
- ทายเพศลูกจากรสชาติที่แม่ชอบ
คุณแม่อาจจะเคยได้ยินว่าคนท้องมักจะชอบทานของเปรี้ยวๆ แต่ไม่ใช่ทั้งหมดหรอกนะเพราะคุณแม่บางท่านก็ชอบทานหวาน บางคนก็ชอบทานเค็มค่ะ โบราณเค้าว่าไว้ คุณแม่ชอบทานหวาน เช่นพวกขนมเค้กขนมหวานจะได้ลูกสาว แต่ถ้าชอบทานเค็มอย่างพวกอาหารคาวหรืออาหารที่มีรสเค็มนำจะได้ลูกชาย - ทายเพศลูกจากหน้าตาของแม่
โบราณเค้าเชื่อว่าถ้าคุณแม่หน้าโทรมแปลว่าจะได้ลูกสาวค่ะ เพราะลูกสาวได้แย่งความสวยไปจากแม่หมดเลย คุณแม่บางท่านจากที่หน้าขาวๆ เนียนๆ กลายเป็นหน้าคล้ำ สิวขึ้นซะงั้น ส่วนคุณแม่ท่านไหนที่สวยเด้งไม่มีตก ก็มักจะได้ลูกชายค่ะ - ทายเพศลูกจากความฝัน
คุณแม่หลายๆ ท่านมักจะฝันว่าได้มีค่าของก่อนตั้งท้องหรือก่อนที่จะรู้ว่าตัวเองตั้งท้อง เวลาฝันแบบนี้ โบราณเค้าว่าถ้าได้เครื่องประดับแก้วแหวนเงินทองจะได้ลูกสาว ส่วนถ้าฝันว่าได้ของที่เป็นสิริมงคล เช่น พระ จะได้ลูกชายค่ะ - ทายเพศลูกจากเมล็ดข้าวสาร
วิธีนี้หลายๆ คนเค้าบอกว่าแม่น แต่ก็หาหลักวิทยาศาสตร์มาอ้างอิงไม่ได้เลยจริงๆ ค่ะ วิธีทำก็ง่ายๆ ให้คุณแม่ใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้หยิบข้าวสารขึ้นมาหยิบนึงแล้วลองนับดู ถ้านับได้เลขคู่ก็ได้ลูกสาว ถ้าได้เลขคี่ก็ได้ลูกชายค่ะ - ทายเพศลูกจากรูปร่างของท้อง
หลังอาบน้ำคุณแม่ลองส่องกระจกดูท้องของตัวเองก็ได้ค่ะ ถ้าท้องคุณแม่มีลักษณะแหลมต่ำลงด้านล่างแสดงว่าคุณแม่อาจจะได้ลูกผู้ชาย แต่ถ้าท้องคุณแม่กลมขึ้นด้านบน คุณแม่ก็อาจจะได้ลูกผู้หญิง แต่เอาจริงตามหลักวิทยาศาสตร์ ลักษณะของท้องก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเพศของลูกเลยค่ะ - ทายเพศลูกจากการแกว่งเข็ม
คุณแม่ลองร้อยเข็มโดยใช้ด้ายยาวพอประมาณ ให้คุณแม่ถือที่ปลายสุดของด้ายแล้วถือไว้เหนือชีพจร ถ้าเข็มหมุนเป็นวงกลมจะได้ลูกชาย ส่วนถ้าแกว่งขึ้นลงจะได้ลูกสาวค่ะ - ทายเพศลูกจากการโยนแหวน
อันนี้อาจจะเชื่อมกับรูปร่างของท้อง เพราะถ้าท้องลูกสาวโบราณเค้าว่าท้องจะกลม เมื่อโยนแหวนให้ตกลงบนท้องแล้วแหวนจะกลิ้งลงด้านข้างค่ะ ส่วนถ้าเป็นลูกผู้ชาย แหวนจะตกบนหน้าท้องไม่กลิ้งออกค่ะ แต่คุณแม่ก็อย่าโยนสูงเกินนะ โยนสูงเสี่ยงแหวนหายน้า - ทายเพศลูกจากการแพ้ท้อง
ส่วนใหญ่คุณแม่ที่ตั้งท้องลูกสาวจะแพ้ท้องหนักมาก บางรายแพ้ยาวจนถึงตอนเกือบคลอดก็มีค่ะ ส่วนคุณแม่ที่ไม่ค่อยแพ้ท้องหรือไม่แพ้เลยก็มักจะได้ลูกชาย ถ้าว่ากันตามหลักวิทยาศาสตร์ก็คือการแพ้ท้องจะเกิดจากฮอร์โมนที่เปลี่ยนไปในช่วงของการตั้งท้องค่ะ เวลาได้ลูกสาวกับลูกชายฮอร์โมนที่สร้างออกมาก็จะต่างชนิดกัน อาการแพ้ท้องก็เลยต่างกันค่ะ - ทายเพศลูกจากลักษณะปัสสาวะ
เวลาเข้าห้องน้ำ คุณแม่ลองสังเกตลักษณะของปัสสาวะดูก็ได้นะ ถ้าปัสสาวะคุณแม่มีลักษณะใสแสดงว่าคุณแม่อาจจะได้ลูกชายค่ะ แต่ถ้าปัสสาวะมีลักษณะขุ่นจะได้ลูกสาว
อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าวิธีเหล่านี้เป็นความเชื่อของคนสมัยโบราณที่ตอนนั้นวิทยาการก็ยังไม่ค่อยจะล้ำสมัยซักเท่าไหร่ ถือว่าทำเอาเล่นๆ ขำๆ ละกันนะคะ ถ้าคุณแม่อยากทราบเพศลูกที่ชัวร์ๆ ก็ลองปรึกษาขอ
คุณหมอตรวจโครโมโซมหรือเจาะน้ำคร่ำดูก็ได้ค่ะ เพราะสองวิธีนี้ให้ผลแม่นยำถึง 99.4% เลยล่ะ แม่นยิ่งกว่าการบอกเพศจากการอัลตร้าซาวด์อีกนะ
แต่ต่อให้ลูกจะคลอดออกมาเป็นเพศไหน เราก็มั่นใจว่าคุณแม่ทุกท่านจะรักลูกจนหมดหัวใจแน่นอน
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
สวัสดีค่ะคุณแม่ทุกคนนะคะ สำหรับคุณแม่ทั้งหลายที่มีลูกน้อย คงจะเคยชินกับการล้างขวดนมเสร็จแล้ว ก็ฆ่าเชื้อขวดนมด้วยหม้อนึ่งความร้อนกันใช่ไม๊คะ วันนี้แม่อีฟ ขอแนะนำเครื่องมือชิ้นใหม่ ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์คุณแม่สมัยใหม่อย่างเราๆ ที่ต้องการความสะดวกสบายและการฆ่าเชื้อ โรคได้มากที่สุดสำหรับลูกน้อย มาทำความรู้จักกับตู้อบแห้งฆ่าเชื้อ UV แบรนด์ Prince&Princess สัญชาติเกาหลี เครื่องนี้เป็น Gen2 ที่มีการพัฒนาขึ้น ให้ใช้งานได้มีประสิทธิภาพดีขึ้น การใช้งาน ก็ง๊ายง่ายค่ะ ที่เครื่องจะมีแค่ 3 ปุ่ม เท่านั้น คือปุ่ม Auto, ปุ่ม UV และปุ่ม Dry ถ้าใช้สำหรับขวดนมหรือของใช้ที่ล้างมาเปียกๆ ก็ง่ายเลยค่ะ แค่กดปุ่ม Auto เพียงปุ่มเดียวแล้วรอแค่ 30 นาที ก็สามารถเอาขวดนมมาชงนมให้ลูกได้เลยค่ะ เริ่มน่าสนใจกันแล้วใช่ไหมหล่ะคะ และนี้ก็คือโฉมหน้าของเจ้าตู้อบฆ่าเชื้อ ด้วยUV ที่มีดีไซน์ แบบทันสมัย ใช้ง่าย และน้ำหนักเบาแค่ 5 kg. เองค่ะ คุณแม่ก็สามารถยกย้ายที่ใช้งานได้แบบง่ายๆเลยค่ะ ก่อนหน้าที่จะใช้เครื่องนี้ ก็เคยมีวิธีการทำความสะอาดของให้กับลูก โดยการล้างทำความสะอาด แล้วก็เอาไปนึ่งต่อต้องทำหลายขั้นตอน ตั้งแต่ตวงน้ำลงในถาด นึ่งเสร็จก็ต้องล้างหม้อนึ่งด้วย พอน้ำแห้งก็มักเป็นตะกรัน พอบ่อยๆ […]
การนอนกรนของแม่ท้อง เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางสรีระ เช่น ท้องโตขึ้น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย การสูบฉีดเลือด ระบบไหลเวียนของเลือด รวมทั้งการเต้นของหัวใจ ซึ่งการสูบฉีดไหลเวียนเลือดที่มากขึ้น จะไปกระตุ้นเส้นเลือดในโพรงจมูก ทำให้มีภาวะบวมน้ำส่งผลให้เวลานอน จะรู้สึกหายใจไม่สะดวก และเกิดเสียงกรนนั่นเอง ประกอบกับลักษณะการนอนของคุณแม่ตั้งครรภ์นั้น ช่วง 3 เดือนแรก ของการตั้งครรภ์ คุณแม่จะนอนมากกว่าปกติ แต่ประสิทธิภาพ การนอนลดลง ช่วงหลับลึกและหลับฝันน้อยลง ทำให้ง่วงบ่อยและงีบในตอนกลางวัน ต่อมาช่วงอายุครรภ์ 4-6 เดือน คุณแม่จึงจะเริ่มนอนเหมือนปกติ แต่ประสิทธิภาพการนอนจะยังไม่เหมือนเดิม ทำให้คุณแม่รู้สึกเหมือนนอนไม่เต็มอิ่ม พอเข้า 3 เดือนสุดท้ายก่อนคลอด อายุครรภ์ 6-9 เดือน คุณแม่จะนอนสั้นลง ประสิทธิภาพการนอนยิ่งแย่ลงไปอีกด้วย เพราะร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงเยอะ และเป็นช่วงที่คุณแม่นอนกรนมากขึ้น ทั้งนอนกรนผิดปกติ หรือภาวะหยุดหัวใจขณะหลับก็จะเกิดขึ้นในช่วงใกล้คลอดนี้ด้วย แม้โอกาสเกิดขึ้นจะมีน้อยก็ตาม 6 ปัจจัยเสี่ยงภาวะหยุดหายใจเพิ่ม หากคุณแม่เป็นหนึ่งในกลุ่มเสี่ยง ต้องติดตามและเฝ้าสังเกตอาการตัวเอง เพื่อป้องกันและรักษาต่อไป โดยกลุ่มเสี่ยงมีปัจจัยดังนี้ ขอบคุณข้อมูลสัมภาษณ์จาก : พ.อ.(พ).ดร.นพ.โยธิน ชินวลัญช์ ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบประสาทวิทยา โรคลมชักและการนอนหลับผิดปกติ โรงพยาบาลกรุงเทพ ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก […]
สวัสดีแม่ๆ แฟนเพจแม่ตูนนน์กับน้องต๊าตต์นะคะ วันนี้แวะมาเขียนรีวิวกันหน่อย เป็นไอเท็มประจำบ้านที่แม่ๆ ทุกคนต้องมีเลย เป็นเครื่องอบ และฆ่าเชื้อขวดนมและของใช้ ตู้อบแห้งฆ่าเชื้อ Prince&Princess Baby UV Mini มี 4 โหมดการใช้งาน หลายคนอาจจะเคยเห็นแบรนด์นี้มาบ้างแล้ว แบบที่เป็นตู้ใหญ่ ดูหรูหรา วันนี้เอาใจคุณแม่ที่อยู่บ้านหรือคอนโดที่มีขนาดไม่ใหญ่ แม่ตูนน์อยากแนะนำตู้อบรุ่น Baby UV mini จิ๋วแต่แจ๋วมากๆ ตะแกรงมาให้เพิ่มเติมในการวางเพิ่มพื้นที่การใช้งาน ถอดเข้าออกได้ สะดวก ด้านในสามารถวางขวดนมได้ 12 ขวด ด้วยวัสดุด้านในสามารถสะท้อนกระจายแสง UV ได้ทั่วถึง โหมด UV ที่แม่ชอบใช้ เพราะใช้ฆ่าเชื้อของเล่นน้องต๊าตต์ เพราะล่วงนี้น้องชอบเอามือเอาของเล่นเข้าปาก เลยต้องหมั่นดูแลความสะอาดและเชื้อโรค ความแตกต่างของตู้อบ UV กับเครื่องนึ่ง หลังจากที่แม่ใช้เครื่องนึ่งมาเดือนนึงมาเทียบกับเครื่องอบคือ ตอนนี้ลดราคาจาก 7,990.- เหลือ 5,990.- ราคาน่ารัก ขนาดกำลังดี คุณแม่คนไหนสนใจตามลิ้งค์นี้ค่า : ตู้อบBaby UV mini ติดตามอ่านฉบับเต็มได้ที่ : Tuniez Blog เพจแม่และเด็ก : Start […]
เครื่องผลิตน้ำเกลือฆ่าเชื้อโรค Blue Water นวัตกรรมการฆ่าเชื้อโรครูปแบบใหม่ ที่ใส่ใจในสุขภาพ และความคุ้มค่า จึงได้คิดค้นวิธีที่จะสามารถ “ผลิตน้ำเกลือฆ่าเชื้อโรค” เองได้ที่บ้านง่าย ๆ โดยเป็นสูตร Organic 100% เพียงมี “น้ำประปา เกลือ และเครื่อง Blue Water” ที่ทำหน้าที่ปล่อยประจุไฟฟ้า ส่งผ่านไปยังน้ำ ทำให้อะตอมของน้ำแตกตัว จนเกิดปฏิกิริยา Oxidation และเกิดเป็นสารประกอบใหม่ขึ้นมา นั่นก็คือ ไฮโปคลอรัส เอซิส HOCl และ ไฮโปคลอไรท์ ไอออน OCl- ซึ่งกรดไฮโปคลอรัส คือกรดชนิดเดียวกันกับที่ร่างกายมนุษย์ผลิตขึ้นมาได้เองในเม็ดเลือดขาว เพื่อฆ่าเชื้อโรคภายในร่างกายนั่นเอง ซึ่งเมื่อนำน้ำที่ผลิตจากเครื่อง Blue Water ไปตรวจวัดประสิทธิภาพที่สถาบันวิจัยนานาชาติ และได้ผลรับรองมาดังนี้ ผลวิจัยพิสูจน์แล้วว่า น้ำเกลือฆ่าเชื้อที่ผลิตจากเครื่อง Blue Water สามารถฆ่าเชื้อโรคต่าง ๆ ที่เป็นตัวต้นกำเนิดของโรคต่าง ๆ ได้ถึง 99.9% ภายในเวลา 30 วินาที นอกจากสามารถฆ่าเชื้อโรคได้แล้ว […]
ขวดนมที่ผลิตจากพลาสติกทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นขวดที่ผลิตจากพลาสติกประเภท polypropylene (PP), polyethersulfone (PES), polyphenylsulfone (PPSU) ซึ่งไม่มีสาร BPA ในกระบวนการผลิต (สามารถตรวจสอบได้ที่ข้างกล่อง) สามารถใช้ตู้อบ UV ในการฆ่าเชื้อได้ และยังเป็นการชลอการเสื่อมของพลาสติกเพราะการฆ่าเชื้อด้วยแสง UV เป็นการใช้แสงและความร้อนต่ำแต่สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ถึง 99.99% ขวดนมที่ผลิตจากแก้ว สามารถใช้กับตู้อบ UV ในการฆ่าเชื้อได้ทุกแบรนด์ ขวดนมที่ผลิตจากซิลิโคนที่มีขอบเกลียวเป็นพลาสติกแบบถอดแยกชิ้นส่วนได้ สามารถใช้กับตู้อบ UV ในการฆ่าเชื้อได้ เพราะไม่ใช้สารเคมีในการเชื่อมขอบเกลียวพลาสติกให้ติดกับขวดซิลิโคน ขวดนมที่ไม่สามารถใช้กับตู้อบ UV ในการฆ่าเชื้อได้ ขวดนมที่ผลิตจากซิลิโคนที่มีขอบเกลียวเป็นพลาสติกแบบแยกชิ้นส่วนไม่ได้ ไม่สามารถใช้กับตู้อบ UV ในการฆ่าเชื้อได้ เพราะมีการเชื่อมต่อระหว่างขอบเกลียวพลาสติกและขวดซิลิโคนให้ยึดติดกันโดยใช้วัสดุ ที่ไม่สามารถระบุได้ เป็นตัวเชื่อม ซึ่งวัสดุที่ใช้เชื่อมนี้จะเสื่อมสภาพเมื่อได้รับแสง UV เป็นระยะเวลานาน คำแนะนำสำหรับการใช้ขวดนม : ควรเปลี่ยนขวดนมหลังจากการใช้งานแล้วทุกๆ 6-12 เดือน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
พอใกล้จะสิ้นปีคุณพ่อคุณแม่ก็เริ่มวางแพลนเที่ยวกันแล้วใช่มั้ยล่ะคะ ก่อนจะเริ่มจองที่พัก คุณแม่ก็คงจะฉุกคิดว่า เอ๊ะ คนท้องขึ้นเครื่องบินได้มั้ยนะ? แล้วขึ้นได้ถึงกี่เดือน? สองคำถามนี้เป็นคำถามยอดฮิตสำหรับแม่ท้องทั้งหลายทุกช่วงวันหยุดยาวเลยค่ะ วันนี้เราก็มีคำตอบมาให้คุณแม่หายสงสัยกันนะคะ ขอบอกข่าวดี คุณแม่สามารถเดินทางโดยเครื่องบินได้นะ แต่จะขึ้นได้จนถึงอายุครรภ์ประมาณ 35-36 สัปดาห์เท่านั้นโดยขึ้นอยู่กับข้อบังคับของสายการบิน ความจริงแล้วการเดินทางโดยเครื่องบินก็ไม่ได้มีผลอะไรต่อลูกน้อยในท้องของคุณแม่เลยค่ะ ถ้าคุณแม่มีสุขภาพที่แข็งแรงแล้วก็ได้คอนเฟิร์มกับคุณหมอแล้วว่าไม่ได้มีภาวะเสี่ยงอะไร แต่สายการบินมักจะกลัวคุณแม่เจ็บท้องคลอดลูกบนเครื่องบินต่างหากล่ะ เพราะหากคุณแม่คลอดลูกบนเครื่องบินแล้วก็จะทำให้สายการบินมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น แถมอาจจะยังไม่ค่อยสะดวกอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าแม่ท้องทั้งหลายจะซื้อตั๋วแล้วก็เดินขึ้นเครื่องได้เลยนะ มีเอกสารนิดหน่อยที่คุณแม่จะต้องเตรียมแล้วก็แจ้งเจ้าหน้าที่ตามด้านล่างนี้เลยค่ะ สิ่งที่คุณแม่ต้องทำก่อนขึ้นเครื่อง 1. อย่าลืมพกใบรับรองแพทย์ คุณแม่ที่มีอายุครรภ์มากกว่า 27 สัปดาห์ ก่อนเดินทางคุณแม่อย่าลืมขอใบรับรองแพทย์ติดตัวไปด้วยนะคะ ใบรับรองแพทย์นี้จะเป็นสิ่งช่วยยืนยันว่าคุณแม่มีสุขภาพที่แข็งแรง คุณหมออนุญาตให้เดินทางได้ และคุณแม่มีอายุครรภ์ที่ไม่เกินจากที่ทางสายการบินกำหนด ดูดีๆ นะ ใบรับรองแพทย์อย่าให้เกิน 30 วันล่ะ ไม่งั้นอดขึ้นไม่รู้ด้วย 2. บอกเจ้าหน้าที่ว่าคุณแม่กำลังตั้งท้อง เมื่อเช็คอินที่เคาน์เตอร์ให้คุณแม่รีบแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่เลยค่ะว่าคุณแม่กำลังท้องอยู่ ทางเจ้าหน้าที่จะให้คุณแม่เซ็นเอกสารจำกัดขอบเขตความรับผิด พูดง่ายๆ ก็คือเป็นเอกสารที่บอกว่าคุณแม่จะไม่เอาผิดกับสายการบินหากมีอะไรเกิดขึ้นกับคุณแม่และลูกในท้องนั่นแหละ เอกสารนี้จะต้องนำไปยื่นให้กับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินด้วยตัวคุณแม่เอง นอกจากนี้ หากคุณแม่ไปเช็คอินแต่เนิ่นๆ คุณแม่ก็อาจจะรีเควสขอที่นั่งดีๆ มีพื้นที่กว้างๆ ด้านหน้าให้คุณแม่ยืดขาคลายเมื่อยด้วยนะ 3. ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล ก่อนจะเดินทางคุณแม่อย่าลืมค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสถานพยาบาลในที่ที่คุณแม่จะไปนะคะ เผื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นคุณแม่จะได้ถึงมือคุณหมอได้ทันเวลา นอกจากสถานพยาบาลแล้วคุณแม่ก็ควร จะหาข้อมูลเกี่ยวกับประกันการเดินทางที่ครอบคลุมการตั้งครรภ์ไว้ด้วยจะได้อุ่นใจขึ้นไปอีกระดับนึงค่ะ […]






