10 โรงเรียนอนุบาลในฝัน ที่ไหนบ้างน่าสนใจ

คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมองหา โรงเรียนอนุบาลในฝัน ที่เหมาะสมให้กับลูกน้อยอยู่ เราเลยมีตัวเลือกโรงเรียนต่าง ๆ ที่อยู่ในกรุงเทพและปริมณฑลมาฝากกัน หลักสูตรจะน่าสนใจแค่ไหน และโดนใจคุณแม่กันบ้างหรือเปล่า มาดูกันเลยค่ะ
โรงเรียนอนุบาลในฝัน มีที่ไหนที่น่าสนใจบ้าง มาดูกันเลย

1. โรงเรียนรุ่งอรุณ
โรงเรียนตั้งอยู่บนพื้นที่สีเขียวประมาณ 50 ไร่ โดดเด่นด้านให้นักเรียนเรียนรู้อย่างเป็นองค์รวม เน้นความเป็นธรรมชาติเป็นพื้นฐาน เพื่อพัฒนาเด็ก ๆ ในแบบองค์รวมทั้งกาย ใจ สติปัญญา และสังคม เน้นลงมือทำจนเข้าถึงคุณค่าที่แท้จริงของทุกสิ่งที่เรียนรู้ สามารถนำความรู้มาประยุกต์ใช้อย่างสร้างสรรค์ มีจินตนาการ และโรงเรียนนี้ยังไม่มียูนิฟอร์ม เด็ก ๆ สามารถแต่งกายไปเรียนได้ตามความเหมาะสม ยกเว้นในวันกิจกรรมต่าง ๆ
โรงเรียนรุ่งอรุณ เริ่มรับเข้าเรียน :
- นักเรียนอนุบาล 1 รับสมัครนักเรียนชาย-หญิง ที่มีอายุ 3 ปี ถึง 3 ปี 11 เดือน นับจากวันเกิดจนถึงวันเปิดเรียน
- ระดับชั้น อนุบาล 1 เปิดจำหน่ายใบสมัครล่วงหน้า 1 ปี
- โรงเรียนรุ่งอรุณใช้ระบบการเรียนแบบ 3 ภาคเรียน คือ ภาคเรียนที่ 1 เปิดเรียน เดือนพฤษภาคม – สิงหาคม
ภาคเรียนที่ 2 เปิดเรียน เดือนกันยายน – ธันวาคม และภาคเรียนที่ 3 เปิดเรียน เดือนมกราคม – เมษายน
- เปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับอนุบาล จนถึง มัธยมศึกษาปีที่ 6
ข้อมูลติดต่อ : https://www.roong-aroon.ac.th
เบอร์โทรศัพท์ : 0 2870 7512 – 3, 0 2840 2501-4
สถานที่ตั้ง : เลขที่ 391 ถนนพระราม 2 ซอย 33 (ซอยวัดยายร่ม) แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ 10150

2. โรงเรียนราชินีบน
เป็นโรงเรียนสตรีที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับมาอย่างยาวนาน เน้นการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ ปลูกฝังความเป็นกุลสตรีไทยที่มีมารยาทและคุณธรรม พร้อมหลักสูตรวิชาการที่ครบถ้วน ทั้ง เทคโนโลยี ดิจิทัล คณิตศาสตร์ ภาษา และสังคม เพื่อฝึกฝนและพัฒนาเด็กผู้หญิงให้มุ่งมั่นพัฒนาตนเองให้มีคุณภาพ เติบโตได้เก่ง ดี และมีคุณค่า เพื่อสร้างสรรค์สังคมไทยในโลกที่เปลี่ยนแปลงไป
โรงเรียนราชินีบน เริ่มรับเข้าเรียน : เมื่อเด็กมีอายุ 4 ปีบริบูรณ์ เข้าเรียนในชั้นอนุบาล 2 มีการเรียนการสอนถึงระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6
ข้อมูลติดต่อ : http://www.rajinibon.ac.th/
เบอร์โทรศัพท์ : 0-2241-5925
สถานที่ตั้ง : เลขที่ 885 ถนนสามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กทม. 10300

3. โรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า
มีมาตรฐานการสอนระดับนานาชาติ ให้ความสำคัญกับการเรียนการสอนภาษาอังกฤษ และอีก 3 ภาษา โดดเด่นในการส่งเสริมพัฒนาการเด็กเล็ก วิชาการ การเรียนรู้ พร้อมการเล่น มีอุปกรณ์การสอนที่ก้าวหน้าทันสมัย เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกห้องเรียน ห้องกิจกรรม สื่อ เทคโนโลยี และนวัตกรรมล้ำหน้า นักเรียนส่วนใหญ่ที่จบออกไปแล้วจึงสามารถสอบเข้า ป.1 ในโรงเรียนชื่อดังต่าง ๆ ได้ในอัตราสูง
โรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า เริ่มรับเข้าเรียน :
ชั้นเตรียมอนุบาลรับเด็กตั้งแต่อายุ 1 ปีครึ่ง ระดับชั้นอนุบาล 1 รับเด็กอายุ 3 ปี และในบางสาขาเริ่มเปิดรับระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 แล้ว
ข้อมูลติดต่อ : https://www.denlaschool.ac.th, https://www.dbsbangkok.ac.th
– โรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า เพชรเกษม โทร. 02-809-1793
– โรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า พระราม 5 โทร. 02-459-5656
– โรงเรียนนานาชาติเด่นหล้าบริติช โทร. 0-2666-1933
สถานที่ตั้ง :
- โรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า เพชรเกษม เลขที่ 229/1-8 ปากทางเข้าหมู่บ้านเศรษฐกิจ ถนนเพชรเกษม 102 บางแค กทม. 10160 2)
- โรงเรียนอนุบาลเด่นหล้า พระราม 5 เลขที่ 8 ถนนนครอินทร์ อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี 11130
- โรงเรียนนานาชาติเด่นหล้าบริติช 58 หมู่ 2 ถ.ราชพฤกษ์ ต.อ้อมเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

4. โรงเรียนทอสี
เป็นโรงเรียนที่นำหลักพุทธปัญญามาใช้ในการเรียนการสอน มีวิถีพุทธปัญญาต้นแบบในการบ่มเพาะชีวิตเด็ก ครู และผู้ปกครอง ให้เด็ก ๆ สามารถพึ่งตนเองได้ เน้นเรื่องวิชาการ พร้อมกับเรียนรู้ธรรมชาติ สอนให้เด็กรู้จักและเข้าใจธรรมชาติ ให้ความสำคัญกับวิชาชีวิต พร้อมจะอยู่ร่วมกับสังคมโลกที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างยั่งยืน และมีสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ ร่มรื่น สงบ สะอาด เป็นระเบียบ เพื่อเอื้อต่อการเรียนรู้และพัฒนาชีวิต
เริ่มรับเข้าเรียน : เปิดสอนระดับอนุบาล รับสมัครอายุ 3 ปี และมีชั้นประถมศึกษา
ข้อมูลติดต่อ : http://thawsischool.com
เบอร์โทรศัพท์ : 0 -2713-0260
สถานที่ตั้ง : 1023/46 ซอย ปรีดี พนมยงค์ 41 แขวง คลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร

5. โรงเรียนวนิษา
โดดเด่นด้านการเน้นพัฒนาสมองและพัฒนาทุกด้านของกลุ่มเด็กเล็ก ด้วยหลักสูตรพัฒนาอัจฉริยภาพ 8 ประการ ของ Dr.Howard Gardner ให้ความสำคัญกับการสอนสื่อสาร 2 ภาษาไทย-อังกฤษ ผสมผสานวัฒนธรรมความเป็นไทยและอินเตอร์ตามสไตล์ Whole Language Approach อย่างลงตัว
เริ่มรับเข้าเรียน : เปิดรับเด็กเตรียมอนุบาลจนถึงอนุบาล 3 อายุตั้งแต่ 1.5 ปีจนถึง 6 ปี
ข้อมูลติดต่อ : https://vanessa.ac.th/
- โรงเรียนวนิษา สุขุมวิท โทรศัพท์ 02-262-0181, 093-626-3936
- โรงเรียนวนิษา รังสิต โทรศัพท์ 02-531-9696
สถานที่ตั้ง :
– โรงเรียนวนิษา สุขุมวิท เลขที่ 59/28 ซอยสุขิมวิท 26, ถ.สุขุมวิท, แขวง/เขตคลองเตย กรุงเทพ
– โรงเรียนวนิษา รังสิต เลขที่ 569 ซอยรังสิต-นครนายก 62 คลอง 2 ถนนรังสิต-นครนายกประชาธิปัตย์ ธัญบุรี

6. โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย
โรงเรียนสตรีที่พร้อมสร้างกุลสตรีที่มีคุณธรรม เอกลักษณ์ของโรงเรียนคือโรงเรียนแห่งความรักและการให้ พร้อมหลักสูตรที่เน้นรอบด้าน ทั้งวิชาการ ภาษา มารยาท การใช้ชีวิต เน้นสร้างคุณภาพของนักเรียนให้มีศักยภาพในสังคมและในอนาคต ส่งเสริมให้นักเรียนมีสุขภาพกาย สุขภาพจิตที่ดี มีความเป็นผู้นำและมีทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษใหม่
เริ่มรับเข้าเรียน : รับสมัครระดับอนุบาลเมื่อเด็กอายุ 3 ปี และเปิดการสอนจนถึงระดับมัธยมศึกษา
ข้อมูลติดต่อ : https://www.wattana.ac.th
เบอร์โทรศัพท์ : 0-2254-7991
สถานที่ตั้ง : เลขที่ 67 ซอย สุขุมวิท 19 แขวง คลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110

7. โรงเรียนอนุบาลเปล่งประสิทธิ์
แนวทางการสอนจะเน้นการเรียนรู้ด้วยวิธีการลงมือปฏิบัติ พัฒนาทักษะการคิด เพื่อให้เด็กรู้จักคิดเป็นและแก้ปัญหาเป็น ส่งเสริมให้เด็กได้สร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะ เพื่อให้เด็กเกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์จินตนาการ และเกิดความภาคภูมิใจในตนเอง มุ่งเน้นให้เด็กได้พัฒนาเต็มศักยภาพของตน โดยคำนึงถึงความสนใจ ความสามารถและความแตกต่างระหว่างบุคคล พร้อมปลูกฝังเรื่องมารยาทไทย วัฒนธรรมประเพณี ที่ดีงามของไทย และเรื่องคุณธรรม จริยธรรมตั้งแต่วัยเด็ก
อนุบาลเปล่งประสิทธิ์ เริ่มรับเข้าเรียน : เปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับเตรียมอนุบาล อายุประมาณ 2 ปี ถึงอนุบาล 3
สถานที่ตั้ง :
- โรงเรียนอนุบาลเปล่งประสิทธิ์ ศรีนครินทร์ เลขที่12/9 ซอยศรีนครินทร์ 55 ถนนศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ
- โรงเรียนอนุบาลเปล่งประสิทธิ์ สีลม เลขที่ 60 ซอยศรีเวียง ถนนสุรศักดิ์ แขวงสีลม เขตบางรัก
ข้อมูลติดต่อ :
- อนุบาลเปล่งประสิทธิ์ ศรีนครินทร์ โทร.0-2743-4047 https://www.plengprasiddhi.ac.th
- อนุบาลเปล่งประสิทธิ์ สีลม โทร. 0-2267-4264 http://www.ppskgschool.ac.th

8. โรงเรียนอนุบาลแสงโสม
เน้นการสอนรอบด้าน ทั้งวิชาการและแบบโครงงาน (Project Approach) ให้นักเรียนได้ฝึกการคิด การวางแผนเน้นการเรียนรู้อย่างมีความสุข และให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างสุขภาพ ความปลอดภัย การเตรียมความพร้อม ทั้งด้านสติปัญญา อารมณ์ สังคม และจิตใจ รวมถึงศีลธรรม คุณธรรม ให้เด็กให้มีความพร้อมในด้านการอ่าน เขียน คิดคำนวณ ตลอดจนศิลปะ ร้องรำทำเพลง พลศึกษา คอมพิวเตอร์ เพื่อส่งเสริมให้เด็กมีความคิดสร้างสรรค์ และมีการพัฒนาที่ดีต่อเนื่อง
อนุบาลแสงโสม เริ่มรับเข้าเรียน : เริ่มรับสมัครเข้าเรียนตั้งแต่ระดับเตรียมอนุบาล อายุประมาณ 2 ปี – ระดับประถมศึกษา
ข้อมูลติดต่อ :
- อนุบาลแสงโสม ประชาชื่น โทร. 0-2585-6433, 0-2585-5316 http://www.sangsomschool.com
- อนุบาลแสงโสม สัมมากร โทร. 02-954-4722 , 02-954-4723 http://kindergartensammakorn.sangsomschool.com/
สถานที่ตั้ง :
– อนุบาลแสงโสม ประชาชื่น เลขที่ 6 ซอย ประชาชื่น 32 ถนน ประชาชื่น เยื้องหมู่บ้านซิเมนต์ไทย
– อนุบาลแสงโสม สัมมากร เลขที่ 88/162 ซอยสัมมากร 2 ถนนเทศบาลสงเคราะห์ แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม.

9. โรงเรียนอนุบาลมณีรัตน์
ที่โรงเรียนอนุบาลมณีรัตน์ เด็ก ๆ ทุกคนคือผู้นำ โรงเรียนต้องการสร้างความใฝ่รู้ให้เด็ก ๆ รักในการค้นคว้า คิดหาเหตุผลอย่างถูกต้องโดยนำความสนใจของเด็กแต่ละคนมาสร้างสรรค์อย่างเป็นระบบโดยวิธีธรรมชาติและสนุกสนาน เพื่อปลูกฝังแนวทาง ที่ถูกต้องสู่ความเป็นเอกบุคคลในแนวทางต่าง ๆ ซึ่งมีอยู่ในตัวเด็กแต่ละคน ที่โรงเรียนอนุบาลมณีรัตน์ มิใช่แค่มาเรียน แต่เป็นการมารู้จักความสนใจของตนเอง และแลกเปลี่ยนความคิด เพื่อเป็นการเริ่มต้นค้นหาตัวตนของตนเอง เพื่อนำไปสู่ความเป็นบุคคลที่มีคุณภาพของสังคมในอนาคต
เริ่มรับเข้าเรียน : เปิดรับสมัครนักเรียนตั้งแต่ระดับเตรียมอนุบาล อายุ 1 ปี 8 เดือนขึ้นไป จนถึงอนุบาล 3
ข้อมูลติดต่อ : http://www.maneerut.com
โทรศัพท์ : 0-2678-4612
สถานที่ตั้ง : เลขที่ 2066/1 ซ.นราธิวาสราชนครินทร์ 18 ถ.นราธิวาสราชนครินทร์ ช่องนนทรี ยานนาวา กรุงเทพ

10. โรงเรียนอํานวยศิลป์
ปัจจุบันจัดการศึกษาระบบสองภาษาหลักสูตรไทยและอังกฤษ เป็นโรงเรียนที่ได้รับการรับรองมาตรฐานโรงเรียนการคิดแห่งแรกและแห่งเดียวในเอเชีย นักเรียนจะมีส่วนร่วมในกิจกรรมทางสังคมและโอกาสในการเรียนรู้ที่ตื่นเต้น น่าสนใจ ที่โรงเรียนจัดขึ้นตลอดทั้งปีการศึกษาระบบสองภาษา สองวัฒนธรรมของเราเป็นพลวัตที่มุ่งสู่การพัฒนาเด็กรอบด้านสร้างทัศนะมุมมองที่เป็นสากลและทัศนะของคนไทย
เริ่มรับเข้าเรียน : เปิดรับสมัครนักเรียนตั้งแต่ระดับเตรียมอนุบาล อายุ 3 ปีขึ้นไป
ข้อมูลติดต่อ : https://www.amnuaysilpa.ac.th/
โทรศัพท์ : 0- 2354 5267
สถานที่ตั้ง : เลขที่ 304/1 ถนนศรีอยุธยา เขตราชเทวี กทม 10400
โรงเรียนอนุบาลในฝัน แต่ละที่มีแนวทางการสอนที่แตกต่างกันออกไป คุณพ่อคุณแม่ควรไปเยี่ยมชมโรงเรียนและสอบถามข้อมูลจากคุณครูเพิ่มเติม หรือพาลูกน้อยไปเยี่ยมชมโรงเรียนด้วยนะคะ
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
คำถามที่พบบ่อย “คนท้องสามารถใส่รองเท้าส้นสูงได้รึเปล่า?” แต่แทบทุกครั้งที่มีภาพของดาราที่กำลังท้องใส่ส้นสูง ก็มักจะมีคนเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์และคอมเม้นกันไปในทางไม่ดีซะส่วนใหญ่ ซึ่งเราก็เข้าใจนะว่า อาจจะมีแฟนคลับหลายๆ คนที่เขาเป็นห่วง กลัวว่าจะมีอันตรายต่อเด็กในท้องอะไรก็ว่ากันไป เชื่อเถอะว่า การใส่รองเท้าส้นสูงไม่ได้ส่งผลเสียทางตรงต่อลูกในท้อง แต่ว่า “มันเป็นการเพิ่มความเสี่ยงให้คุณแม่หกล้มได้ง่ายขึ้น” และถึงตอนนั้นแหละที่จะส่งผลต่อลูกในท้องโดนตรง เพราะฉะนั้นถ้าคิดจะใส่ก็ควรระมัดระวังให้มาก ไม่ควรใส่ติดต่อกันเป็นเวลานาน” สำหรับคุณแม่ท้องที่จำเป็นต้องใส่เพื่อให้เกียรติกับงานนั้นๆ เรามี วิธีเลือกรองเท้าส้นสูงสำหรับคนท้องตามนี้เลยค่ะ…^^ 1. เลือกรองเท้าที่มีความสูงของส้นไม่ควรเกิน 2 นิ้ว เพราะถ้าสูงกว่านี้อาจจะเสี่ยงทำให้เท้าพลิกและตกส้นได้นั่นเอง2. รองเท้าส้นสูงแบบทรงเตารีด หรือส้นหนาจะใส่สบายกว่าส้นเข็มและมีพื้นที่รับน้ำหนักเยอะกว่า ความเสี่ยงที่จะล้มก็น้อยกว่าค่ะ3. เลือกรองเท้าที่ระบายอากาศได้ดี เช่น รองเท้าที่เปลือยโปร่งเพื่อความสบายเท้า4. น้ำหนักเบา และนุ่ม เพื่อช่วยรองรับแรงกระแทก พื้นรองเท้าควรเป็นยางที่ยึดเกาะพื้นได้ดี5. เลือกรองเท้าที่ถอดง่าย และสวมใส่ง่าย ไม่แนะนำแบบที่มีสายรัด …ใครบ้าง??? ที่เป็นคุณแม่สุดสตรอง แม้ท้องโตแต่เมื่อออกงานก็มั่นได้กับรองเท้าส้นสูงโดยที่ไม่เป็นอุปสรรค… กุ๊บกิ๊บ – สุมณทิพย์ เหลืองอุทัย ล่าสุดที่โดยหลายคอมเม้นเข้ามาต่อว่าสาวกุ๊บกิ๊บใส่ส้นสูงทั้งๆ ที่ท้องก็ไม่เล็กแล้ว แต่สามีสุดหล่ออย่างหนุ่มบี้ก็เข้ามาแก้ข่าวโดยให้เหตุผลว่า ตอนนี้ภรรยาสาวก็ใส่รองเท้าส้นสูงน้อยลง แต่ที่เห็นในรูปนั่นก็เพราะต้องไปออกงาน เดินพรมแดงซึ่งถือเป็นการให้เกียรติงานนั่นเอง ลิเดีย – ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา นักร้องสาวเสียงดีอย่างสาวลิเดียที่ตอนนี้กลายเป็นไอดอลของคุณแม่หลายๆ คนไปแล้ว โดยจะเห็นในอินสตาแกรมของสาวลิเดียว่าเธอเป็นคุณแม่ที่แข็งแรงมาก สามารถออกกำลังกาย และทำงานได้อย่างสบายๆ เลยล่ะ Chrissy Teigen […]
เมื่อลูกน้อยถึงวัยเริ่มกินอาหารเสริมนอกจากนมแม่ ซึ่งก็คือในช่วงอายุ 6 เดือนขึ้นไป หากลูกเริ่มนั่งได้เก่งขึ้น สามารถนั่งได้เองโดยที่ไม่ต้องประคอง และเริ่มชอบเอามือหยิบจับสิ่งต่าง ๆ เข้าปาก นั่นแสดงว่าลูกน้อยของเราพร้อมที่จะกินอาหารเสริมได้แล้ว ในบางบ้านอาจจะคุ้นเคยกับการเตรียมอาหารเด็กอ่อนโดยการปั่นหรือบดละเอียดและป้อนให้ลูก แต่หลาย ๆ บ้านก็อาจจะใช้วิธีฝึกให้ลูกกินอาหารด้วยตัวเองที่เรียกว่า BLW (Baby-Led Weaning) แต่ไม่ว่าจะเป็นวิธีไหนก็ตาม อุปกรณ์สำคัญอย่างโต๊ะกินข้าวเด็กก็เป็นของที่ต้องมี และถ้าเลือกให้ดีก็จะใช้งานได้อย่างยาวนานตั้งแต่เล็กจนโต แล้วจะมีวิธีการเลือกอย่างไร ควรเลือกแบบไหนดี ? BabyGift มีคำแนะนำดี ๆ มาฝากแล้วค่ะ โต๊ะกินข้าวเด็ก สำคัญอย่างไร ? ควรเลือกแบบไหนดี ? โต๊ะกินข้าวสำหรับเด็กนั้นมีความแตกต่างจากโต๊ะทั่ว ๆ ไป โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นโต๊ะที่เรียกว่า High Chair โดยเป็นชุดเก้าอี้กินข้าวเด็กที่มีโต๊ะพับมาให้แบบครบชุด สามารถใช้งานได้หลายแบบ บางรุ่นสามารถพกพาออกไปข้างนอกได้ด้วย และยังมีเข็มขัดนิรภัยเพื่อป้องกันเด็กพลัดตกเก้าอี้ ทำให้มีความปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งบางที่อาจเรียกว่าโต๊ะกินข้าวเด็ก หรือบางที่ก็เรียกว่าเก้าอี้กินข้าวเด็ก หรือ อาจเรียกรวม ๆ ว่าชุดโต๊ะเก้าอี้กินข้าวของเด็ก แต่จะเรียกแบบไหน ก็หมายถึง High Chair ที่นั่งกินข้าวของเด็กเล็กโดยเฉพาะนั่นเองค่ะ โต๊ะกินข้าวสำหรับเด็กนั้นเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นมาก โดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่ที่อยากฝึกลูกให้กินข้าวด้วยตัวเองแบบ BLW ซึ่งการฝึกลูกกินข้าวเอง […]
บ้านไหน ? กำลังวางแผนซื้อรถเข็นให้ลูกอยู่บ้างเอ่ยยย พ่อแม่หลายคนถาม หมอแอม เข้ามากันเยอะมาๆๆ ว่าเวลาซื้อรถเข็นให้ลูกควรดูเรื่องอะไรบ้าง เลือกรถเข็นให้ลูกยังไง? ให้เหมาะกับสถานการณ์โควิด และสภาพแดดบ้านเราแบบนี้ ?? วันนี้ หมอแอม มีหลักการเลือกรถเข็นเด็ก ง่ายๆ สไตล์คุณหมอมาฝากกันค่ะ จะมีเคล็ดลับอะไรบ้าง ตามมาดูกันเลยค่ะ ตั้งแต่ปี 2019 จนถึงช่วงนี้ที่มีสถานการณ์โควิดระบาด และคิดว่าน่าจะอยู่กับเราไปอีกสักพัก เด็กเล็ก 0-2 ขวบที่ยังใส่แมสก์เหมือนผู้ใหญ่ไม่ได้ คำแนะนำของสมาคมกุมารแพทย์สหรัฐอเมริกา และกรมอนามัย คือ แนะนำว่าเด็กเล็กๆให้หาผ้าคลุม หรือใช้รถเข็นเด็กแล้วคลุมผ้าไว้แทนการใส่แมสก์ได้ค่ะ ทีนี้จะเลือกรถเข็นยังไงล่ะ? ให้เหมาะกับลูก เหมาะกับบ้านเรา และเหมาะกับสถานการณ์โควิด หรือสารพัดโรคระบาดของเด็กเล็กได้ วันนี้หมอแอมมีหลักการเลือกรถเข็นเด็กมาฝากค่ะ หลักการเลือกรถเข็นเด็ก 5 ข้อ เพจเรื่องเด็กๆ by หมอแอม 1) อันดับแรกที่ หมอแอม ดู คือ โครงสร้างต้องแข็งแรง และมีระบบลดการสั่นสะเทือน […]
สวัสดีค่ะ ^_^ อุปกรณ์คู่ใจของแม่ ๆ สุดสตรองทุกท่านก็คงหนีไม่พ้น “รถเข็นเด็ก” จริงไหมคะ..? ส่วนตัวมดเอง ลองใช้รถเข็นมาหลายยี่ห้อ แต่ตอนนี้บ้านเรากำลังจะไปเที่ยวต่างจังหวัดกันหลายวัน รถเข็นคันเดิมเริ่มไม่ตอบโจทย์เรื่องการพกพาอีกต่อไปแล้ว เพราะแค่ของใช้ก็เต็มรถแล้วค่ะ เราจึงมีโจทย์ในการหารถเข็นคันใหม่ว่า ต้องมีน้ำหนักเบา พับเก็บง่าย และแน่นอนว่าต้องเป็นแบรนด์ดังที่แม่ ๆ ไว้ใจ เหมือนสวรรค์มีตา 555 เพราะไม่กี่วันต่อมา เราก็ไปเจอใน IG คุณโอปอล์ว่า เพิ่งถอยรถเข็นใหม่ให้น้องอลิน อลันเหมือนกัน แถมยังเชียร์ว่ามันเบา ใช้งานสะดวกมากกก คุณแม่ขาช็อปอย่างเราก็ไม่รอช้าค่ะ ไปซื้อตามด่วน ๆ คุณโอปอล์ซื้อรถเข็นจากร้าน BABYGIFT ค่ะ มดเองไม่มีเวลาไปที่ร้าน เลยสั่งซื้อออนไลน์ กดสั่งปุ๊บ รอไม่นานก็มีน้องเสียงสวยโทรมานัดวันจัดส่งทันที 2 วันก็ได้ของค่ะ สะดวกมากก แล้วเราก็ได้รถเข็นที่ตอบโจทย์การใช้งานมา 1 คัน และนี่คือ “Aprica Magical Air Plus Highseat” รุ่นนี้มีจุดเด่นตรงที่ เล็ก และน้ำหนักเบา ที่สุด ตัวนี้เค้าแนะนำสำหรับเด็กไม่เกิน 15 โล แต่ลูกบ้านนี้หนัก 16 โลก็ยังนั่งสบาย ๆ เลยค่ะ ราคาอยู่ที่ 10,335 บาท อย่างที่ทราบกันดีว่า “ถ้ารถเข็นต้อง Aprica” ดังนั้นเค้าจึงมีความพิเศษค่ะรุ่นนี้น้ำหนักเบาเพียง 3.3 kg ถือมือเดียวได้สบาย ๆ และที่นั่งเป็นแบบ High Seat สูงจากพื้นดิน 52 cm. ซึ่งจะทำให้ฝุ่นละอองและความร้อนจากพื้นนั้นห่างจากลูกยิ่งขึ้น แถมยังสามารถพับเก็บได้แบบ One Step และล้อทั้ง 4 ก็จะติดกับพื้น ลากได้สบาย ๆ […]
หลายคนอาจจะยังไม่ทราบว่าคาร์ซีทก็มีอายุการใช้งานไม่ต่างจากผลิตภัณฑ์ของใช้อื่น เพราะคาร์ซีททุกตัวมีโครงสร้างพลาสติกเป็นส่วนประกอบหลัก เมื่อผ่านการใช้งานเป็นเวลานาน ความร้อนจะทำให้พลาสติกเสื่อมสภาพ กรอบ แตกหักง่าย นอกจากนี้แสง UV ยังทำให้วัสดุรองรับแรงกระแทกและเบาะรองตัว หมอนรองศีรษะทารกที่เคยนุ่มกลับแข็งและขาดความยืดหยุ่นไม่สามารถใช้ปกป้องทารกได้ดีพอ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไร ว่าคาร์ซีทที่เลือกใช้เพื่อช่วยปกป้องลูกน้อยให้ปลอดภัยจากอุบัติเหตุผลิตขึ้นเมื่อไร และหมดอายุแล้วหรือยัง??? ในหลายๆ ประเทศชั้นนำอย่าง USA, Canada, ญี่ปุ่น, Australia รวมถึงประเทศในกลุ่มEurope มีการกำหนดกฎหมายบังคับให้ผู้ผลิตคาร์ซีททุกรายต้องระบุวันที่ผลิตไว้อย่างชัดเจนเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่สามารถตรวจสอบอายุของคาร์ซีทได้ โดยส่วนใหญ่จะแนะนำให้ใช้คาร์ซีทที่มีอายุไม่เกิน 7-10 ปี นับจากวันที่ผลิต แต่เนื่องจากคาร์ซีทแต่ละแบรนด์และแต่ละรุ่นมีจุดสังเกตุวันที่ผลิตต่างกัน จึงทำให้ยากต่อการตรวจสอบ วันนี้Baby Gift มีคำแนะนำที่ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถตรวจสอบวันที่ผลิตได้ด้วยตัวเอง Aprica แบรนด์ผลิตภัณฑ์เด็กอ่อนระดับ premium ยอดนิยมอันดับ 1 จากญี่ปุ่น กับคาร์ซีทรุ่น Fladea Grow ที่สามารถปรับใช้ได้ถึง 3 รูปแบบสำหรับวัยแรกเกิด – 4 ปีนี้มีจะมีวันเดือนปีที่ผลิตฉีดขึ้นบล๊อกอยู่ที่ฐานพลาสติกของคาร์ซีทเป็นแนวตั้ง โดยจะใช้สัญญลักษณ์วงกลมพร้อมลูกศรอยู่ข้างในชี้ตามตัวเลขเรียงตามลำดับ คาร์ซีทสำหรับเด็กวัย 9 เดือน – 12 ปี รุ่น Air Groove STD , Air […]
เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์ สิ่งแรกๆ ที่คุณแม่ส่วนใหญ่นึกถึงก็คือเรื่องของการคลอดใช่มั้ยล่ะคะ ส่วนวิธีการคลอดนั้น ก็อย่างที่คุณแม่ทราบกันดีว่ามีอยู่ด้วยกัน 2 วิธี ก็คือการคลอดธรรมชาติกับการผ่าคลอดค่ะ เราลองเปรียบเทียบกันดูดีกว่าว่าสองวิธีนี้ต่างกันยังไงบ้าง การคลอดธรรมชาติคืออะไร มีอะไรที่ต้องกังวลบ้าง? การคลอดธรรมชาติก็คือการที่คุณแม่เบ่งลูกน้อยออกมาทางช่องคลอด ซึ่งการคลอดแบบนี้คุณแม่จะต้องรอให้มีน้ำเดินหรือเจ็บท้องคลอด รวมถึงปากมดลูกเปิดมากพอที่จะทำการคลอดได้นั่นเอง ส่วนใหญ่แล้ว คุณแม่จะเจ็บท้องคลอดกันที่ช่วง 37-40 สัปดาห์ค่ะ การคลอดธรรมชาติมักเป็นที่นิยมเพราะคุณแม่ส่วนใหญ่ก็อยากมีประสบการณ์ อยากรับรู้ถึงความเจ็บปวดในการเบ่งคลอด แถมยังมีราคาถูกกว่าผ่าคลอดอีกด้วยนะ แม้ว่าการคลอดธรรมชาติจะเป็นวิธีที่ปลอดภัย แผลหายเร็ว และคุณแม่ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน แต่ก็มีหลายปัจจัยที่คุณแม่ควรทราบกันไว้ซักนิดนึงน้า ปัจจัยที่อาจทำให้การคลอดธรรมชาติไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีเสมอไป 1. ลูกไม่กลับหัว ปัจจัยนี้เป็นปัจจัยที่น่ากลัวที่สุดสำหรับการคลอดธรรมชาติ และมักจะจบลงด้วยการที่คุณหมอเปลี่ยนไปเป็นผ่าคลอดแทนค่ะ โดยปกติ เวลาที่จะคลอด ลูกน้อยจะต้องกลับหัวเพื่อใช้หัวดันออกมาจากช่องคลอด มีทารกบางรายที่ไม่ยอมกลับหัว หรืออาจจะกลับหัวผิดตำแหน่ง ทำให้คุณหมอไม่สามารถทำคลอดได้ 2. คุณแม่มีแรงเบ่งไม่พอ หรือเบ่งไม่เป็น แรงเบ่งนั้นมีความสำคัญกับการคลอดธรรมชาติมากๆ เลยล่ะค่ะ เพราะถ้าคุณแม่มีแรงเบ่งไม่พอ หรือเบ่งไม่เป็น ลูกน้อยก็จะไม่สามารถคลอดออกมาได้ แต่เรื่องนี้ไม่ต้องห่วงนะ เพราะโรงพยาบาลส่วนใหญ่ที่คุณแม่ไปฝากครรภ์ เค้าจะมีการอบรม สอนวิธีการเบ่ง การหายใจ เพื่อให้คุณแม่สามารถเบ่งได้อย่างถูกวิธีค่ะ 3. คุณแม่มีโรคประจำตัว โรคประจำตัวก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างเช่น โรคเบาหวาน […]






