เลือกรถเข็นเด็กตามนิสัยและไลฟ์สไตล์คุณแม่

เพราะแม่แต่ละคนมีความเป็นตัวของตัวเองที่แตกต่าง Aprica จึงสรรสร้างนวัตกรรมที่รองรับทุกความต้องการด้วยรถเข็นเด็กหลากหลายรุ่นเพื่อตอบโจทย์ที่ไม่เหมือนกัน แล้วรถเข็นเด็ก Aprica รุ่นไหน เหมาะกับคุณไปดูกันเลย

แม่ที่ใส่ใจทุกรายละเอียด ทุ่มเททุกความสุขเพื่อลูกและคนในครอบครัวเป็นสำคัญ

ถ้าคำว่า “ที่สุด” คือนิยามของรถเข็นเด็กที่ดีที่สุดสำหรับลูก คือคำตอบเดียวที่คุณต้องการ

รถเข็นเด็ก Aprica โดดเด่นในเรื่องนวัตกรรมใหม่ล่าสุดมอบความสบาย นุ่มนวล ปกป้องลูกน้อยแบบ 360 องศา ใส่ใจในสุขภาพและเสริมสร้างพัฒนาการ เพื่อเทวดานางฟ้าตัวน้อย

รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Optia

  • น้ำหนักรถเข็น 6.8 kg.
  • สำหรับเด็กวัยแรกเกิด – 3 ปี (น้ำหนัก 2.5 – 15 kg.)
  • ปรับนอนราบได้ 170 องศา
  • ล้อหมุน 360 องศา ทั้ง 4 ล้อ แบบอัตโนมัติ
  • ระบบโช๊คใต้ที่นั่งและบริเวณล้อ ลดแรงสั่นสะเทือนลง 40%
  • ระบบระบายอากาศแบบ Double พร้อมฉนวนกันความร้อนพิเศษด้านหลัง
  • หลังคากัน UV 99% ปิดได้มิดชิด ปกป้องดวงตาและผิวอันบอบบาง
  • ที่นั่งสูงจากพื้น 54 cm. ช่วยลดระดับอุณหภูมิในรถเข็นได้ถึง 2 องศา และระดับความหนาแน่นของฝุ่นละอองในอากาศลดลงได้ถึง 10-20 %
  • เบาะรองนอน Silky Air และผ้าระบายอากาศทุกชั้น สัมผัสนุ่ม สบายตัว ลดความอับชื้นDouble Head&Hip Support ด้วยชุดหมอนรองศีรษะและสะโพก และโครงสร้างเบาะรองนอนรูปนาฬิกาทราย ช่วยรองรับสรีระได้อย่างเหมาะสม
  • สามารถพับและกางได้ด้วยมือเดียว
  • เพิ่มขนาดตะกร้าใส่ของขนาดใหญ่
  • สามารถถอดซักได้ทุกชิ้นส่วน ซักกับเครื่องซักผ้าได้

รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Soraria Magic basket

  • น้ำหนักรถเข็น 7.5 kg.
  • สำหรับเด็กวัยแรกเกิด – 3 ปี (น้ำหนัก 2.5 – 15 kg.)
  • ปรับนอนราบได้ 170 องศา
  • ล้อหมุน 360 องศา ทั้ง 4 ล้อ แบบอัตโนมัติ
  • ช่องระบายอากาศด้านหลัง พร้อมฉนวนกันความร้อนพิเศษ
  • หลังคากัน UV 99% ปิดได้มิดชิด ปกป้องดวงตาและผิวอันบอบบาง
  • ที่นั่งสูงจากพื้น 56 cm. ช่วยลดระดับอุณหภูมิในรถเข็นได้ถึง 2 องศา และระดับความหนาแน่นของฝุ่นละอองในอากาศลดลงได้ถึง 10-20 %
  • เบาะรองนอน CoolMax All Season ที่ช่วยปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมกับเจ้าตัวน้อย ไม่ว่าอากาศจะร้อนหรือเย็น ด้วยการดูดซับเหงื่อในวันที่ร้อนจัดและให้ความอบอุ่นในวันที่อากาศหนาวเย็น ช่วยให้เทวดาตัวน้อยรู้สึกสบายได้ทุกฤดู
  • ชุดหมอนรองศีรษะและสะโพก และโครงสร้างเบาะรองนอนรูปนาฬิกาทราย ช่วยรองรับสรีระได้อย่างเหมาะสม
  • สามารถพับและกางได้ด้วยมือเดียว
  • โครงสร้างแบบลดรอยต่อ ที่เชื่อมต่อส่วนต่างๆ เป็นชิ้นเดียวช่วยเพิ่มความแข็งแรงแม้ผ่านการใช้งานที่ยาวนาน

คุณแม่ทรงพลัง คล่องแคล่ว ขี้เล่น

ถ้าคุณและลูกน้อยต้องการความคล่องตัว พร้อมทุกสถานการณ์

รถเข็นเด็กน้ำหนักเบาแต่ครบทุกฟังชันท์ที่เหนือกว่า พร้อมเติมความคล่องตัวด้วยการใช้รถเข็นสลับกับเป้อุ้มเด็กได้ง่าย เป็นตัวช่วยที่ดี ไม่ว่าสถานการณ์ไหนๆ คุณแม่ก็พร้อม

รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Luxuna CTS

  • น้ำหนักรถเข็น 5.3 kg.
  • สำหรับเด็กวัยแรกเกิด – 3 ปี (น้ำหนัก 2.5 – 15 kg.)
  • ปรับนอนราบได้ 170 องศา
  • ล้อหมุน 360 องศา ทั้ง 4 ล้อ แบบอัตโนมัติ
  • ระบบล้อแบบ 3D Suspension ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นรองรับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นผิวถนนขรุขระได้อย่างนุ่มนวล
  • ระบบระบายอากาศแบบ Double พร้อมฉนวนกันความร้อนพิเศษด้านหลัง
  • หลังคากัน UV 99% ปิดได้มิดชิด ปกป้องดวงตาและผิวอันบอบบาง
  • ที่นั่งสูงจากพื้น 53 cm. ช่วยลดระดับอุณหภูมิในรถเข็นได้ถึง 2 องศา และระดับความหนาแน่นของฝุ่นละอองในอากาศลดลงได้ถึง 10-20 %
  • เบาะรองนอน Silky Air และผ้าระบายอากาศทุกชั้น สัมผัสนุ่ม สบายตัว ลดความอับชื้น
  • โครงสร้างเบาะรองนอนรูปนาฬิกาทราย ช่วยรองรับสรีระได้อย่างเหมาะสม
  • สามารถพับและกางได้ด้วยมือเดียว
  • สามารถถอดซักได้ทุกชิ้นส่วน ซักกับเครื่องซักผ้าได้

รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Luxuna Light

  • น้ำหนักรถเข็น 4.9 kg.
  • สำหรับเด็กวัยแรกเกิด – 3 ปี (น้ำหนัก 2.5 – 15 kg.)
  • ปรับนอนราบได้ 170 องศา
  • หลังคากัน UV 99% ปิดได้มิดชิด ปกป้องดวงตาและผิวอันบอบบาง
  • ที่นั่งสูงจากพื้น 53 cm. ช่วยลดระดับอุณหภูมิในรถเข็นได้ถึง 2 องศา และระดับความหนาแน่นของฝุ่นละอองในอากาศลดลงได้ถึง 10-20 %
  • เบาะรองนอน Silky Air และผ้าระบายอากาศทุกชั้น สัมผัสนุ่ม สบายตัว ลดความอับชื้น
  • โครงสร้างเบาะรองนอนรูปนาฬิกาทราย ช่วยรองรับสรีระได้อย่างเหมาะสม
  • สามารถพับและกางได้ด้วยมือเดียว
  • สามารถถอดซักได้ทุกชิ้นส่วน ซักกับเครื่องซักผ้าได้

คุณแม่เด็กแนว กิ๊บเก๋ทันสมัย ไม่ชอบตามใคร

สนใจทางเลือกใหม่ๆ รักอิสระและความแปลกใหม่

รถเข็นเด็ก แบบ 3 ล้อเท่ห์ๆ ไม่เหมือนใครที่ผสมผสานทุกฟังก์ชั่นอย่างลงตัว และที่โดนใจยิ่งกว่าคือ ความแข็งแรง ทนทาน ไม่ว่าจะไปไหนก็พร้อมลุยทุกสภาพพื้นผิว ใช้ง่ายพับกางสะดวกและขนาดกระทัดรัด

รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Smooove

  • น้ำหนักรถเข็น 9 kg.
  • สำหรับเด็กวัยแรกเกิด – 3 ปี (น้ำหนัก 2.5 – 15 kg.)
  • ปรับนอนราบได้ 170 องศา
  • ล้อแบบสูบลม ลดการสั่นสะเทือนได้ถึง 80% เข็นได้ในทุกพื้นผิว
  • ระบบระบายอากาศแบบ Double พร้อมฉนวนกันความร้อนพิเศษด้านหลัง
  • หลังคากัน UV 99% ขนาดใหญ่ ปกป้องดวงตาและผิวอันบอบบาง
  • ที่นั่งสูงจากพื้น 58 cm. ช่วยลดระดับอุณหภูมิในรถเข็นได้ถึง 2 องศา และระดับความหนาแน่นของฝุ่นละอองในอากาศลดลงได้ถึง 10-20 %
  • เบาะรองนอนแบบBREATHAIR ระบายอากาศลดความอับชื้นได้ดี
  • โครงสร้างเบาะรองนอนรูปนาฬิกาทราย ช่วยรองรับสรีระได้อย่างเหมาะสม
  • การพับแบบ One step เมื่อพับแล้วสามารถตั้งรถเข็นได้ จึงไม่ทำให้รถเข็นเปื้อนฝุ่น
  • สามารถถอดซักได้ทุกชิ้นส่วน ซักกับเครื่องซักผ้าได้

คุณแม่นักเดินทาง ชอบท่องเที่ยวไปกะลูกสองคนก็ลุยเองได้ หรือไปทั้งครอบครัวก็ยิ่งสนุกดี

ถ้าการเดินทางท่องเที่ยวคือ กิจกรรมที่คุณต้องการทำร่วมกันกับลูก

รถเข็นเด็กแบบ Lightweight น้ำหนักเบาเพียง2.9 kg. คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์คุณแม่ได้ดีที่สุด ไม่ว่าจะหิ้วขึ้นบันไดรถไฟฟ้าซักกี่ขั้น ขึ้นเครื่องบินไปอีกกี่จุดหมายปลายทางก็หมดปัญหา เพราะการเดินทางไปไหนมาไหนกับลูกน้อยเพียงลำพัง คุณต้องรับมือกับสัมภาระมากเป็นพิเศษ รถเข็นน้ำหนักเบาพับกางง่ายด้วยมือเดียวภายใน 1 วินาที ช่วยให้คุณไม่ต้องปล่อยมือจากลูกน้อยวัยซนที่ต้องการการดูแลตลอดเวลา

รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Karoon

  • น้ำหนักรถเข็น 3.6 kg.
  • สำหรับเด็กวัยแรกเกิด – 3 ปี (น้ำหนัก 2.5 – 15 kg.)
  • ปรับนอนราบได้ 170 องศา
  • ระบบล้อแบบ 3D Suspension ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นรองรับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นผิวถนนขรุขระได้อย่างนุ่มนวล
  • หลังคาบังแดดกัน ปกป้องดวงตาและผิวอันบอบบาง
  • โครงสร้างเบาะรองนอนรูปนาฬิกาทราย ช่วยรองรับสรีระได้อย่างเหมาะสม
  • สามารถพับและกางได้ด้วยมือเดียว

รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Karoon Plus Highseat

  • น้ำหนักรถเข็น 4.8 kg.
  • สำหรับเด็กวัยแรกเกิด – 3 ปี (น้ำหนัก 2.5 – 15 kg.)
  • ปรับนอนราบได้ 170 องศา
  • ระบบล้อแบบ 3D Suspension ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นรองรับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นผิวถนนขรุขระได้อย่างนุ่มนวล
  • ช่องระบายอากาศ พร้อมฉนวนกันความร้อนพิเศษด้านหลัง
  • หลังคากัน UV 99% ปิดได้มิดชิด ปกป้องดวงตาและผิวอันบอบบาง
  • ที่นั่งสูงจากพื้น 53 cm. ช่วยลดระดับอุณหภูมิในรถเข็นได้ถึง 2 องศา และระดับความหนาแน่นของฝุ่นละอองในอากาศลดลงได้ถึง 10-20 %
  • โครงสร้างเบาะรองนอนรูปนาฬิกาทราย ช่วยรองรับสรีระได้อย่างเหมาะสม
  • สามารถพับและกางได้ด้วยมือเดียว

รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น Magicalair Plus Highseat

  • น้ำหนักรถเข็น 3.3 kg.
  • สำหรับเด็กวัย 7 เดือน – 3 ปี (น้ำหนัก 15 kg.)
  • ปรับเอนได้เพื่อความผ่อนคลาย
  • ระบบล้อแบบ 3D Suspension ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นรองรับแรงสั่นสะเทือนจากพื้นผิวถนนขรุขระได้อย่างนุ่มนวล
  • ระบบระบายอากาศแบบ Double พร้อมฉนวนกันความร้อนพิเศษด้านหลัง
  • หลังคาบังแดดกัน ปกป้องดวงตาและผิวอันบอบบาง
  • ที่นั่งสูงจากพื้น 52 cm. ช่วยลดระดับอุณหภูมิในรถเข็นได้ถึง 2 องศา และระดับความหนาแน่นของฝุ่นละอองในอากาศลดลงได้ถึง 10-20 %
  • สามารถพับและกางได้ด้วยมือเดียว
  • สามารถถอดซักได้ทุกชิ้นส่วน ซักกับเครื่องซักผ้าได้

Aprica รถเข็นเด็ก สำหรับวัยแรกเกิดอย่างแท้จริงๆ คิดค้นและวิจัยโดยกุมารแพทย์ จากประเทศญี่ปุ่น

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00

บทความแนะนำ

รวมสุดยอดวิธี เลือกเป้อุ้มทารก เพราะเป้อุ้มเด็ก  เป็นเครื่องทุ่นแรงที่สำคัญยิ่งสำหรับคุณแม่  ที่เรียกได้ว่าคืออุปกรณ์คู่กายคู่ใจที่พาคุณแม่และลูกน้อยไปทำกิจวัตรด้วยกันได้เสมอ เป้อุ้มลูกนี้จึงเป็นหนึ่งในสิ่งอำนวยความสะดวกประจำบ้านที่กำลังเลี้ยงลูกอ่อน ยิ่งเป็นครอบครัวเล็กที่คุณแม่ต้องเลี้ยงลูกคนเดียวไม่มีคนมาช่วยเลี้ยงลูก ในช่วงเวลาที่คุณพ่อไปทำงานนอกบ้าน  ยิ่งถือเป็นของใช้ที่จะช่วยให้คุณแม่ทำงานและกิจกรรมอื่นๆได้ พร้อมเลี้ยงลูกได้แบบเบ็ดเสร็จ ซึ่งในยุคสมัยที่การหาเงินได้ฝืดเคือง และข้าวของใช้ราคาสูงเช่นนี้ การเลือกซื้อเป้อุ้มลูกทั้งที เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่จะต้องพิจารณาอย่างถ้วนถี่ และเลือกใช้ให้คุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่าย แต่จะรู้ได้อย่างไร? ว่าเป้อุ้มเด็กแบบไหนดี ทนทานปลอดภัย ใช้งานได้นานจนลูกโต ลองมาอ่านเทคนิคดีๆ เหล่านี้กันเลย 1 ตอบโจทย์การใช้งาน การเลี้ยงลูกของครอบครัว นั่นคือการเลือกให้ตรงกับสไตล์การเลี้ยงลูกของครอบครัว การทำงานของคุณพ่อคุณแม่และการเดินทางของคนในบ้าน ซึ่งต้องคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ  ได้แก่  ขนาดของครอบครัวและคนช่วยเลี้ยงลูก เพราะหากเป็นครอบครัวเล็ก คุณแม่ต้องเลี้ยงลูกคนเดียว คุณพ่อไปทำงาน จำเป็นต้องใช้เป้อุ้มลูก สำหรับเวลาทำงานบ้าน ทำธุระหรือจำเป็นต้องออกไปซื้อของนอกบ้าน   แม้แต่เป็นครอบครัวใหญ่ อาจจะได้ใช้เวลาคุณแม่ต้องทำธุระ ผลัดกันใช้เวลาเดินทางไปข้างนอก  สิ่งของที่ใช้กับลูก เวลาที่ต้องพาลูกออกนอกบ้าน เพราะหากคุณพ่อคุณแม่มีข้าวของเครื่องใช้ที่ไม่ต้องพกไปมาก การใช้เป้อุ้มเด็กก็จะทำให้สะดวก พ่อแม่ถือของใช้ และซื้อของได้สบาย ไม่ต้องใช้มืออุ้มหรือเข็นลูก หรือหากเวลาไปไหนที่ต้องใช้พื้นที่จำกัดการใช้เป้อุ้มเด็กก็จะไม่ต้องเปลืองพื้นที่เพราะพับเก็บได้ พกพาง่ายกว่ารถเข็น    การเดินทางของครอบครัว หมายถึงสังเกตการใช้ชีวิตของครอบครัวว่า ต้องออกไปต่างจังหวัด หรือไปเยี่ยมญาติบ่อยหรือเปล่า ใช้เวลาพาลูกออกนอกบ้านนานแค่ไหน หากต้องไปที่ไหนไม่นานนัก การใช้เป้อุ้มเด็กจะมีความคล่องตัวสะดวกกว่ารถเข็น  […]

ต้องบอกว่าคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่นั้นโชคดีมากมาย เพราะการเลี้ยงลูกสมัยนี้มีเครื่องอำนวยความสะดวกที่ช่วยทุ่นแรง ช่วยประหยัดเวลา และช่วยทำความสะอาดฆ่าเชื้อ ช่วยให้นมแม่ เรียกว่ามีสารพัดตั้งแต่ช่วยให้นม ทำความสะอาด ช่วยเตรียมอาหาร ครบถ้วนทั้งอุปกรณ์การนอน การกิน การอยู่สำหรับคุณแม่และลูกน้อย และสิ่งหนึ่งที่หลายๆ บ้านขาดไม่ได้ และคุณพ่อคุณแม่มือใหม่กำลังมองหา เพราะเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยทุ่นแรงกายในการอุ้มลูกน้อยวัยทารก นั่นคือ เป้อุ้มเด็ก เครื่องทุ่นแรงสำคัญที่มีประโยชน์มาก เพราะช่วยทำให้คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องอุ้มลูกน้อยด้วยมือตัวเองตลอดเวลา  และไม่ต้องหาคนช่วยอุ้ม เพราะลูกเบบี๋ยังเดินไม่ได้ การกิจวัตรการดูแลลุกส่วนใหญ่ก็จำเป็นต้องอุ้มลูกไว้บ่อยๆ ทั้งการอุ้มไล่ลม อุ้มกล่อมนอน อุ้มปลอบโยน อุ้มเดินเล่น หลายชั่วดมงต่อวัน  แถมยังต้องอุ้มลูกนานตั้งแต่แรกเกิดหรือวัยทารกไปจนถึงวัยประมาณเกือบ 2 ขวบ จนเมื่อลูกเดินได้เก่ง   ฉะนั้นเพื่อตอกย้ำถึงประโยชน์และความคุ้มค่าในการใช้เป้อุ้มเด็ก  ให้คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังตัดสินใจว่าจะซื้อเป้อุ้มให้ลูกดีหรือไม่  ได้เห็นถึงข้อดีว่ามีแค่ไหน…เชื่อว่าเมื่อรู้แล้วทุกท่านจะสามารถเลือกซื้อใช้กันได้มั่นใจยิ่งขึ้น 10 ข้อดี ที่ต้องมี เป้อุ้มเด็ก 1 ประหยัดแรงกาย ประหยัดแรงคน เพราะเป้อุ้มเด็ก จะช่วยทุ่นแรงคุณแม่ไม่ต้องเดินอุ้มลูก ใช้กำลังแขนกำลังมืออุ้มลูกบ่อยๆ ประหยัดแรงกาย ช่วยให้คุณแม่ไม่เมื่อยล้า แต่เป้จะช่วยรองรับน้ำหนักตัวของลูกน้อยด้วยเป้และสายรัดให้อยู่กับตัวคุณแม่ ประหยัดแรงคนไม่ต้องหาคนมาช่วยอุ้มลูกเวลาที่คุณแม่จะต้องทำงาน เดินซื้อของ หรือทำธุระอื่นๆ 2 ลูกปลอดภัย นั่งและนอนได้สบาย เมื่อลูกน้อยอยู่ในเป้อุ้มเด็กจะปลอดภัย เพราะตัวคุณแม่และเป้จะประคองลูกตลอดเวลา ซึ่งเป้อุ้มเด็กส่วนใหญ่จะผลิตจากวัสดุที่ทำด้วยผ้าหนานุ่ม […]

Aprica ก่อตั้งเมื่อปี 1947 ปี โดยทีมกุมารแพทย์จากประเทศญี่ปุ่น ด้วยความห่วงใยและใส่ใจเกี่ยวกับเด็กทารก เพราะถือว่าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเด็ก จึงได้ช่วยกันคิดค้นและวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นอย่างพิถีพิถัน โดยมีเป้าหมายคือการมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเด็กและพ่อแม่ ด้วยความเชี่ยวชาญและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องกว่า 70 ปี Aprica จึงได้รับการยอมรับและไว้ว่างใจอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น Aprica เป็นบริษัทแรกในโลก ที่มีการใช้หุ่นจำลองเด็กทารกขนาด 5 kg. ที่มีมูลค่าสูงถึง 30 ล้านบาท โดยหุ่นจำลองนี้มีข้อต่อและอวัยวะในร่างกายเช่นเดียวกับเด็กทารก ติดตั้งเซ็นเซอร์ตัวรับสัญญาณในส่วนต่างๆ ทั่วร่างกาย เพื่อตรวจวัดการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นจากการกระแทกในอุบัติเหตุจำลองรูปแบบต่างๆ ได้รับรางวัลทรงเกียรติจากสถาบันนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็น

ใครๆ ก็รู้ว่าน้ำนมแม่สำคัญต่อพัฒนาการของลูกน้อยมากแค่ไหน แต่น้ำนมของคุณแม่แต่ละคนไม่ได้มีเยอะเท่ากันใช่มั้ยหล่ะคะ บางคนก็เยอะ บางคนก็น้อย บางคนก็ไม่มี ดังนั้นการกระตุ้นน้ำนมอย่างถูกวิธีมีความสำคัญอย่างมากต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ซึ่งเป็นวิธีการเลี้ยงดูที่ดีที่สุดสำหรับทารกในช่วงแรกเกิด และในบทความนี้ BabyGift จะพาคุณแม่ไปรู้จักกับวิธีกระตุ้นน้ำนมกันค่ะว่าจะมีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยแม่ๆ ที่มีปัญหาเรื่องน้ำนมได้บ้าง แชร์วิธีกระตุ้นน้ำนมแม่ ทำยังไงให้คุณแม่มีน้ำนมเพียงพอ ส่งต่อสุขภาพดีๆ ให้ลูก  การกระตุ้นน้ำนมแม่มีความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำนมให้เพียงพอต่อความต้องการของทารก เพราะน้ำนมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารกในช่วง 6 เดือนแรก ซึ่งจะช่วยให้ทารกได้รับสารอาหารครบถ้วน เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และช่วยให้ร่างกายทารกเจริญเติบโตอย่างเต็มที่และแข็งแรง แถมยังเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์แม่ลูกให้แน่นแฟ้น เพราะในขณะที่แม่ให้นมลูก จะเกิดการหลั่งฮอร์โมนความรักและผูกพันกัน ช่วยเสริมสร้างความรู้สึกอบอุ่น ความปลอดภัยให้แก่ทารกค่ะ เอาหล่ะค่ะ แล้ววิธีกระตุ้นน้ำนมแม่มีอะไรบ้าง เรามาดูกันต่อเลยค่ะ วิธีกระตุ้นน้ำนมแม่ มีอะไรบ้าง ?  มีหลายวิธีในการกระตุ้นการไหลของน้ำนมแม่ค่ะ เป็นวิธีง่ายๆ ที่ทำได้จริง ซึ่งการทำตามวิธีเหล่านี้อย่างสม่ำเสมอและถูกวิธี จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำนมได้อย่างเต็มที่ มาดูกันค่ะ  1. การดื่มน้ำ : และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ : วิธีง่ายๆ แต่ส่งผลต่อปริมาณและคุณภาพของน้ำนมแม่ คุณแม่ลองใส่ใจในการกินอาหารให้มากขึ้น เช่น ถั่วงอก ข้าวกล้อง น้ำผลไม้ กระเจี๊ยบเขียว […]

เด็กบางคนจะมีเหงื่อออกมาก ทั้งบนศีรษะ หน้า หน้าอก แผ่นหลัง จนหมอน และชุดนอนเปียกชื้น โดยเฉพาะเด็กที่ปกติมีเหงื่อมาก เมื่อนอนไปได้สักระยะหนึ่งอุณหภูมิของร่างกายจะสูงขึ้น ทำให้มีเหงื่อออกจนคุณพ่อคุณแม่ตกใจเกรงลูกจะเป็นโรคร้าย เพราะมีคนกล่าวว่า เหงื่อออกมากเวลากลางคืนอาจจะเป็นอาการระยะเริ่มต้นของโรคต่างๆ ดังนี้ >>>ขอบคุณข้อมูลจาก : เว็ปไซด์ maerakluke.com

ขวดนมที่ผลิตจากพลาสติกทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นขวดที่ผลิตจากพลาสติกประเภท polypropylene (PP), polyethersulfone (PES), polyphenylsulfone (PPSU) ซึ่งไม่มีสาร BPA ในกระบวนการผลิต (สามารถตรวจสอบได้ที่ข้างกล่อง) สามารถใช้ตู้อบ UV ในการฆ่าเชื้อได้ และยังเป็นการชลอการเสื่อมของพลาสติกเพราะการฆ่าเชื้อด้วยแสง UV เป็นการใช้แสงและความร้อนต่ำแต่สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ถึง 99.99% ขวดนมที่ผลิตจากแก้ว สามารถใช้กับตู้อบ UV ในการฆ่าเชื้อได้ทุกแบรนด์ ขวดนมที่ผลิตจากซิลิโคนที่มีขอบเกลียวเป็นพลาสติกแบบถอดแยกชิ้นส่วนได้ สามารถใช้กับตู้อบ UV ในการฆ่าเชื้อได้ เพราะไม่ใช้สารเคมีในการเชื่อมขอบเกลียวพลาสติกให้ติดกับขวดซิลิโคน ขวดนมที่ไม่สามารถใช้กับตู้อบ UV ในการฆ่าเชื้อได้ ขวดนมที่ผลิตจากซิลิโคนที่มีขอบเกลียวเป็นพลาสติกแบบแยกชิ้นส่วนไม่ได้ ไม่สามารถใช้กับตู้อบ UV ในการฆ่าเชื้อได้ เพราะมีการเชื่อมต่อระหว่างขอบเกลียวพลาสติกและขวดซิลิโคนให้ยึดติดกันโดยใช้วัสดุ ที่ไม่สามารถระบุได้ เป็นตัวเชื่อม ซึ่งวัสดุที่ใช้เชื่อมนี้จะเสื่อมสภาพเมื่อได้รับแสง UV เป็นระยะเวลานาน คำแนะนำสำหรับการใช้ขวดนม : ควรเปลี่ยนขวดนมหลังจากการใช้งานแล้วทุกๆ 6-12 เดือน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Menu
All Categories
All Brands
All Ages
Promotions
Locations
BabyGift Family
BabyGift Care
Parents Guide
News & Event

All Categories

All Categories
All Brands
All Ages