หมอนรองให้นม คืออะไร ? จำเป็นแค่ไหน ? มีแล้วให้นมลูกได้ดีขึ้นจริงหรือ ?!

หมอนให้นม เป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้แม่และทารกรู้สึกสบายขณะให้นม มักจะมีรูปทรงคล้ายตัว C หรือ U ซึ่งช่วยรองรับทารก วัสดุส่วนใหญ่จะอ่อนโยน เพื่อไม่ผิวลูกเกิดอาการระคายเคือง ตัวหมอนหรือเบาะควรมีความนุ่ม ระบายอากาศได้ดี และทำความสะอาดได้ง่าย ซึ่งในบทความนี้ BabyGift จะชวนแม่ๆ มารู้จักหมอนรองให้นมกันให้มากขึ้น พร้อมยี่ห้อดีๆ มาแนะนำกันค่ะ 

รู้จัก หมอนรองให้นม ตัวช่วยคุณแม่ให้นมลูกที่สะดวก สบายขึ้น ! 

หมอนที่ใช้รองให้นมเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้การให้นมแม่สะดวกสบายมากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับแม่มือใหม่หรือแม่ที่ต้องให้นมบ่อยๆ เพราะช่วยรองรับน้ำหนักทารกขณะให้นม ลดความเมื่อยล้าของแขนและไหล่แม่ หมอนให้นมจะช่วยจัดท่าให้นมที่เหมาะสม ทำให้ทารกดูดนมได้ง่ายขึ้น ช่วยลดอาการปวดเมื่อยหลัง และคอของแม่ จึงเรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์ช่วยอำนวยความสะดวกที่ไม่ว่าคุณแม่น้ำนมเยอะ หรือน้ำนมน้อยต้องมีติดบ้านไว้กันเลยหล่ะค่ะ (อ่านเรื่องวิธีกระตุ้นน้ำนม เพิ่มเติมได้อีก BabyGift มีเขียนไว้แล้วค่ะ) 

ข้อดีของการใช้หมอนรองให้นม  

การใช้หมอนเพื่อให้นมนั้น มีข้อดีหลายประการ ซึ่งช่วยให้การให้นมลูกสะดวกสบายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น มาดูกันค่ะว่ามีข้อดีอะไรบ้าง 

  1. ช่วยรองรับน้ำหนักของทารก : ไม่ต้องใช้แขนและมือของคุณแม่ในการอุ้มลูกมากเท่าไหร่ ช่วยป้องกันอาการปวดเมื่อยจากการอุ้มลูกเป็นเวลานาน
  2. ปรับท่าทางให้เหมาะสม : ช่วยให้อุ้มลูกให้อยู่ในระดับที่เหมาะกับเต้านม ทำให้ลูกสามารถดูดนมแม่ได้ง่ายขึ้น เข้าเต้าได้ง่ายขึ้น ลดการเกร็งคอของลูก
  3. ช่วยบรรเทาความเครียด ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อหลังและไหล่ของคุณแม่ : ช่วยให้คุณแม่นั่งในท่าที่สบายขึ้น ไม่ต้องก้มหรือเอียงตัวมากเกินไป ป้องกันอาการปวดหลังและไหล่จากการให้นมในท่าที่ไม่ถูกต้อง
  4. เพิ่มความสะดวกสบายสำหรับคุณแม่หลังผ่าตัดคลอด : ป้องกันไม่ให้น้ำหนักของลูกกดทับบริเวณแผลผ่าตัด ช่วยให้คุณแม่สามารถให้นมได้สะดวกขึ้นในช่วงที่ยังมีอาการเจ็บแผล
  5. ปรับใช้ได้หลากหลายท่าทางการให้นม : สามารถใช้ได้กับหลายท่าการให้นม เช่น ท่าอุ้มฟุตบอล หรือท่านอนตะแคง
  6. ป้องกันการหลับในขณะให้นม : การมีหมอนรองรับจะช่วยลดความเสี่ยงที่คุณแม่จะหลับและทำลูกตกได้
  7. เพิ่มความมั่นใจในการให้นม : การมีอุปกรณ์ช่วยอาจทำให้คุณแม่มือใหม่รู้สึกมั่นใจในการให้นมมากขึ้น

แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าหมอนให้นมจะมีประโยชน์ แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะจำเป็นสำหรับคุณแม่ทุกคน บางคนอาจรู้สึกสบายกว่าเมื่อไม่ใช้หมอน ดังนั้นควรเลือกวิธีที่เหมาะสมกับตนเองและลูกที่สุดค่ะ 

วิธีเลือกหมอนรองให้นม 

การเลือกหมอนที่ใช้ช่วยคุณแม่สำหรับให้นมที่เหมาะกับการใช้งานนั้น สำคัญมากสำหรับความสะดวกสบายของทั้งตัวแม่และลูก ซึ่งจะช่วยสร้างประสบการณ์ที่สบาย และผ่อนคลายมากขึ้น เราลองมาดูกันค่ะ ว่าต้องดูปัจจัยอะไรบ้าง 

  1. รูปทรงและขนาด : เลือกรูปทรงที่ถนัด และเหมาะกับสรีระของคุณแม่และลูก ส่วนขนาดควรพอดีกับรูปร่างของคุณแม่
  2. ความกระชับและการรองรับสรีระ : ต้องกระชับแนบตัวลูกและคุณแม่ เพราะการรองรับสรีระทารกได้ดี จะช่วยให้อุ้มได้ถูกท่า และสำหรับหมอนรูปตัวยูควรปรับสายได้เพื่อให้แนบกระชับกับเอวคุณแม่
  3. วัสดุและคุณภาพ : เลือกวัสดุที่อ่อนโยน ไม่ระคายเคืองผิวทารก นุ่ม ระบายอากาศได้ดี ทำความสะอาดง่าย ทนทานต่อการใช้งาน และการซักบ่อยๆ
  4. การออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์ : องศาของหมอนต้องเหมาะกับทารก การออกแบบตามหลักสรีระศาสตร์และกระดูกสันหลังของทารกจะช่วยให้ทารกนอนในท่าที่ถูกต้อง
  5. ราคาและคุณภาพ : เลือกโดยคำนึงถึงความคุ้มค่าระหว่างราคาและคุณภาพ
  6. ความเอนกประสงค์ : สามารถใช้งานได้หลากหลาย เช่น รองนั่ง รองนอนทารก
  7. ความปลอดภัย : ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีส่วนประกอบที่อาจเป็นอันตรายต่อทารก
  8. รีวิวและคำแนะนำ : ตัดสินใจโดยการอ่านรีวิวจากคุณแม่ที่มีประสบการณ์คนอื่นๆ หรือขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญอย่าง BabyGift ได้เลยนะคะ

แนะนำ ท่าอุ้มลูกให้นมที่ถูกต้อง มีอะไรบ้าง ? 

แต่ละท่ามีข้อดีแตกต่างกัน คุณแม่สามารถเลือกใช้ท่าที่เหมาะสมกับสภาพร่างกายและความสะดวกสบายของตนเองและลูกได้ อีกทั้งการสลับท่าให้นมก็อาจช่วยลดอาการปวดเมื่อยได้อีกด้วย ลองมาดูวิธีการอุ้มให้นมในแต่ละท่ากันค่ะ 

  1. ท่าลูกนอนขวางบนตัก (Cradle hold) : ท่านี้เหมาะกับคุณแม่ที่คลอดเองตามธรรมชาติโดยไม่มีภาวะแทรกซ้อน โดยให้ลูกนอนตะแคงบนตักแม่ ให้หันหน้าเข้าหาตัวแม่ ให้ศีรษะลูกอยู่สูงกว่าลำตัวเล็กน้อย ท้ายทอยวางบนแขนแม่ ส่วนมือและแขนแม่ประคองตัวลูกไว้ มืออีกข้างของแม่ประคองเต้านม ท่านี้ช่วยให้แม่ และลูกสบายตัว และมองหน้ากันได้ขณะให้นม
  2. ท่าลูกนอนขวางบนตักแบบประยุกต์ (Modified/cross cradle hold) : เหมาะสำหรับคุณแม่ที่คลอดเองตามธรรมชาติโดยไม่มีภาวะแทรกซ้อน ช่วยในการนำลูกเข้าอมหัวนมได้ดีขึ้น ท่านี้จะคล้ายกับท่าแรก แต่จะใช้มือข้างเดียวกับที่ประคองเต้านม ประคองลูกเอาไว้ และมืออีกข้างรองรับต้นคอและท้ายทอยของลูก จะช่วยควบคุมการเคลื่อนไหวของศีรษะลูกให้เข้าหาเต้านมได้ดีกว่า
  3. ท่าอุ้มลูกฟุตบอล (Clutch hold หรือ Football hold) : เหมาะสำหรับแม่ที่ผ่าตัดคลอดทางหน้าท้อง, คุณแม่ที่มีเต้านมใหญ่หรือลูกตัวเล็ก หรือคุณแม่ที่คลอดลูกแฝด วิธีการก็คือ ให้ลูกอยู่ในท่ากึ่งตะแคงกึ่งนอนหงาย ขาชี้ไปทางด้านหลังของแม่โดยมือแม่จับที่ต้นคอและท้ายทอยของลูก กอดลูกให้กระชับกับสีข้าง ให้ลูกดูดนมจากเต้านมข้างเดียวกับมือที่จับลูกส่วนมืออีกข้างประคองเต้านม ท่านี้จะช่วยลดแรงกดทับบนแผลผ่าตัดหน้าท้อง และเหมาะกับแม่ที่มีเต้านมใหญ่หรือลูกตัวเล็ก และแม่ลูกแผดที่ให้ลูกดูดนมพร้อมกันได้
  4. ท่านอน (Side lying position) : เหมาะสำหรับแม่ที่ผ่าตัดคลอดทางหน้าท้องและต้องการพักผ่อน หรือให้นมลูกเวลากลางคืน วิธีการคือให้แม่และลูกนอนตะแคงเข้าหากัน โดยแม่นอนศีรษะสูงเล็กน้อย หลังและสะโพกตรง ให้ปากของลูกอยู่ตรงกับหัวนมของแม่ มือด้านล่างประคองตัวลูกให้ชิดลำตัวแม่ (อาจใช้ผ้าหรือหมอนช่วยหนุนหลังลูกแทนแขนของแม่ก็ได้) และใช้มือด้านบนประคองเต้านมในช่วงแรกที่เริ่มให้ลูกดูดจนกว่าลูกจะดูดได้ดีจึงเอามือออกก็ได้ค่ะ

BabyGift แนะนำ หมอนรองให้นม คุณภาพดี น่าใช้ ! 

1. MOTHERY หมอนรองให้นม เอียง 11 องศา 

หมอนให้นมเป็นตัวช่วยสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่จะช่วยคุณแม่มือใหม่ให้เลี้ยงลูกได้อย่างสะดวก สบายมากขึ้น MOTHERY เป็นหมอนรองให้นมที่พัฒนาโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ด้วยการออกแบบเอียง 11 องศา ทำให้การเข้าเต้าเป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณแม่  

จุดเด่น 

  • มีหลายสีให้เลือก สีสันสวยงาม ใช้งานง่าย ถูกใจคุณแม่ 
  • ดีไซน์แบบ U-curve ช่วยให้ลูกเข้าเต้าได้ด้วยองศาที่ดีที่สุด 
  • Back Support ช่วยลดอาการปวดเมื่อยให้กับคุณแม่ถึง 5 จุด 

2. ERGOBABY หมอนรองให้นม Nursing Pillow Natural Curve

ERGOBABY เป็นหมอนให้นมที่มีความอ่อนนุ่มแต่ก็มีความแน่นกระชับในตัวด้วย ช่วยลดความเมื่อยล้าจากการให้นม พกพาสะดวก หยิบใช้ง่าย เพราะมีหูจับ ใช้เป็นหมอนรองให้ลูกนอนช่วยย่อยก็ได้ คุณพ่อก็ใช้ได้ ใช้ง่าย เนื้อแน่นไม่ยุบตัว  

จุดเด่น  

  • หมอนรองให้นมที่ออกแบบมาให้โค้งรับตามหลักสรีรศาสตร์ 
  • ใช้ได้นานหลากหลายช่วงวัย ตั้งแต่เป็นหมอนที่ช่วยให้นมช่วยให้เข้าเต้าในวัยแรกเกิด เป็นหมอนให้ลูกนอนช่วยให้ผู้ปกครองป้อนขวดนมได้ง่ายขึ้น และเป็นหมอนใช้ฝึกคว่ำตัวในวัย 6 เดือน เป็นต้น 
  • มีสายคาดตัว ล็อกได้แนบตัวไม่ไหลหลุด ทำความสะอาดได้ ถอดปลอกซักเครื่องได้

3. SANDESICA หมอนให้นม

SANDESICA เป็นหมอนคุชชั่นคุณภาพพรีเมี่ยมจากประเทศญี่ปุ่น ที่ออกแบบมาเพื่อวางเด็กทารกขณะให้นมโดยเฉพาะ มีร่องให้ลูกอยู่กับที่ได้ไม่เอียงไปมาขณะให้นม มาพร้อมเข็มขัดที่สามารถปรับให้กระชับกับลำตัวได้ ช่วยให้แม่ลดอาการปวดหลังได้ 

จุดเด่น  

  • ช่วยรับน้ำหนักบริเวณสะโพก ซัพพอร์ตการอุ้มลูกให้นมในหลายๆ ท่า สามารถอุ้มท่าอุ้มลูกฟุตบอลได้ 
  • หมอนนุ่ม รับน้ำหนักได้สบาย ใช้งานง่าย มีเข็มขัดล็อก 

หมอนให้นมเป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้การให้นมลูกสะดวกสบายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยช่วยรองรับน้ำหนักของทารก ช่วยลดอาการปวดเมื่อย และช่วยปรับท่าทางให้ลูกเข้าเต้า เข้าดูดหัวนมแม่ได้ง่ายขึ้น เพิ่มความสะดวกสบายสำหรับคุณแม่หลังผ่าตัดคลอด และสามารถปรับใช้ได้หลากหลายท่าการให้นม ทำให้คุณแม่รู้สึกผ่อนคลายและมั่นใจในการให้นมมากขึ้น สำหรับคุณแม่คนไหนที่สนใจเรียนรู้ข้อมูลเกี่ยวกับแม่และเด็กเพิ่มเติม เช่น แม่เสริมหน้าอกให้นมได้มั้ย หรือบทความเรื่องแม่และเด็กอื่นๆ สามารถติดตาม BabyGift ได้ และหากใครสนใจผลิตภัณฑ์หมอนรองให้นม หรือสินค้าแม่ และเด็กอื่นๆ ก็สามารถมาเยี่ยมชมสินค้าหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ BabyGift ร้านจำหน่ายสินค้าแม่และเด็กระดับคุณภาพ มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี คุณพ่อคุณแม่สามารถมาเยี่ยมมสินค้าได้ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ร้านเบบี้กิ๊ฟ ทั้ง 4 สาขา ใกล้บ้าน หรือ สอบถามผ่านช่องทาง Online ทีมงาน BabyGift ยินดีให้คำแนะนำค่ะ 

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00

บทความแนะนำ

นั่งดูหนังฝรั่งส่วนใหญ่ก็ฟังแค่เสียง แต่ตัวอักษรแปลด้านล่างก็มองเห็นไปพร้อมกันเพราะเลี่ยงไม่ได้  ทำให้หลายครั้งจะเกิดอาการสะดุดในการดู ด้วยมีความรู้สึกว่า”?!?” ในใจ ก็คนแปลนะสิคะ  น่าจะเก่งการแป ลแต่คงไม่เก่งเรื่องสำนวน หลายครั้งที่คำไม่ได้มีความหมายตรงตามพจนานุกรม ดูมาหลายเรื่องหลายคำโดยที่ไม่ได้ใส่ใจนัก  จนกระทั่งเจอกับคำว่า shower ซึ่งเป็นเรื่องของมารยาทและธรรรมเนียมต่างๆ เข้าพอดี ในหนังเรื่องหนึ่ง ตัวละครพูดว่า “…baby shower…” คำแปลขึ้นว่า “อาบน้ำเด็ก”  ส่วนอีกเรื่องได้ยินคำว่า “…wedding shower…”  คำแปลขึ้นว่า “รดน้ำแต่งงาน” คนดูที่ไม่ได้สนใจเสียงภาษาอังกฤษ  ก็เข้าใจตามตัวอักษรไทยที่ปรากฏ  คนที่ดูหนังจริงจังหน่อย  อาจเกิดความสงสัยว่าสิ่งที่ตัวละครพูดมันเกี่ยวกับเรื่องที่ดำเนินอยู่ยังไงหว่า? ใช่ค่ะ shower แปลว่ารดน้ำ อาบน้ำ ซึ่งถ้าละเอียดขึ้นอีกนิด ก็ต้องบอกว่าเป็นการรด หรืออาบโดยใช้ฝักบัวให้น้ำโปรยปรายลงมา ไม่ใช่นอนแช่อ่างหรือตักราดโครมๆ แต่ shower ในที่นี้ หมายถึงธรรมเนียมในการจัดงานปาร์ตี้ประเภทหนึ่ง  ซึ่งเวลาพูดจะมีคำว่า party ตามหลังหรือไม่ก็ได้ การจัดงานเพื่อให้ของขวัญล่วงหน้าแบบนี้ไม่ใช่ธรรมเนียมไทย  ถ้าจะให้ของขวัญเด็กก็ต้องรอให้คลอดออกมาซะก่อน และด้วยความที่เราไม่รู้ว่าจะให้ของขวัญอะไรดี  ทุกวันนี้ก็เลยให้เงินแทนซะเลย อยากได้อะไรก็ซื้อเอาเอง ก็ดีไปอย่างค่ะ  แต่ไร้อารมณ์ไปหน่อย การจัดปาร์ตี้แบบ shower นั้น สร้างความอบอุ่น สนุกสนาน มิตรภาพ และความใกล้ชิดได้ดีมาก แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจที่มีต่อกันและกัน  เพราะเป็นงานเลี้ยงที่เจ้าภาพไม่ได้จัดให้ตัวเองแต่จัดให้กับคนที่ตนรัก กิจกรรมการเปิดของขวัญคือไฮไลต์ของงาน แต่ก็มีกิจกรรมอื่นๆ เช่น เกมหรือการแสดงก็เป็นสีสันของงานการจัดงานจะมี Theme […]

Kids Item 2018-2019 ของเพจ Daddy’s day ได้แก่ แท่น แทน แท่น แท๊นนนนนน Aprica Nano smart คันนี้เลย หลายคนถามมาเรื่องรถเข็นเด็ก ว่าใช้รุ่นไหนยังไงดี ทาง Daddy’s Day ขอเลือกคันนี้เลย เอาจริงๆ รถเข็นที่บ้านมี 3 คัน ตั้งแต่ไฮเทคสุดแต่หนักมาก  ไม่ไฮเทค พับง่ายแต่น้ำหนักยังหนักอยู่ จนมาลงตัวกับ Nano smart ที่สุด ชอบมากสุด ใช้ดีต้องบอกต่อเลย บ้านเราได้ทดลองใช้พาไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วย เพราะต้องเดินเยอะ แถมทางที่ไปหลายที่ มีทั้งทางเรียบ ขรุขระ ขึ้นเขาลงห้วยสารพัด รถเข็นคันนี้เอาอยู่หมด ตอบโจทย์มาก #พับเล็กพร้อมเดินทาง แบบสุดๆ 1. ที่ชอบที่สุดคือน้ำหนักเบา พกพาสะดวก เพราะรถเข็นน้ำหนักแค่ 5.6 kg เท่านั้น แบกสบาย ( มีกระเป๋าใส่มาให้ด้วยนะคะ แต่ทางเราไม่ได้ใช้เพราะรีบ ต้องแบกของเยอะ ) Daddy แบกของคนเดียวสบายๆเลย […]

เพราะลูกน้อยคือที่สุดของความรักจากใจแม่ไม่มีอะไรเทียบได้ คุณแม่ทุกท่านจึงต้องเลือกและหาสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกน้อยเสมอ และ “น้ำนมแม่” คือหนึ่งในอาหารที่มีคุณค่ามากที่สุด และดีที่สุดต่อลูกน้อย เป็นอาหารที่ไม่ต้องไปซื้อหาที่ไหน  ด้วยเพราะน้ำนมนั้นกลั่นมาจากอกจากธรรมชาติในร่างกายแม่ที่มุ่งมั่นตั้งใจจะให้ลูกน้อยได้รับคุณค่าสารอาหารเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการอย่างครบถ้วน ซึ่งการให้นมแม่ได้ยาวนานที่สุด และเต็มที่ที่สุดแก่ลูกน้อย  นอกจากจะส่งผลดีเยี่ยมต่อพัฒนาการในทุกด้าน สร้างเสริมภูมิต้านทานทำให้ลูกกินนมแม่ไม่ป่วยง่าย ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากมาย รวมถึงการให้นมแม่ยังดีต่อสุขภาพแม่ในแง่มุมต่างๆ ทั้งการช่วยให้มดลูกเข้าอู่เร็ว มีส่วนช่วยคุมกำเนิดได้ในช่วงหนึ่ง  พร้อมกับทำให้สุขภาพและรูปร่างของคุณแม่กลับคืนมาหุ่นดีได้เร็วและง่ายขึ้นด้วย ดังนั้นเพื่อให้ลูกน้อยได้รับพลังคุณค่าสารอาหารจากน้ำนมนมแม่ให้ยาวนานเต็มที่ คุณแม่ทุกท่านจึงมุ่งมั่นตั้งใจที่จะทำสต๊อกน้ำนมสะสมไว้ให้ลูกมากๆ  และหลายๆ ท่านก็เป็นคุณแม่นักปั๊มได้สำเร็จ มีน้ำนมแม่ให้ลูกเต็มที่ เต็มตู้แช่  แต่ทว่าปัญหาที่คุณแม่กลับต้องพบเจอ คือ ลูกไม่กินนมสต๊อก ที่ทำไว้  จึงมีคำถามมากมายว่าทำไม? ลูกจึงไม่ยอมกิน เพราะเป็นนมแม่เหมือนกัน เราจึงชวนมาดูสาเหตุที่ลูกน้อยไม่ยอมกินนมสต๊อก พร้อมกับวิธีการฝึกลูกน้อยกินนมแม่จากสต๊อกว่าต้องทำอย่างไร เพื่อแก้ปัญหาให้สำเร็จ ให้ลูกน้อยกินนมได้แม่ยาวนาน ได้รับที่สุดของโภชนาการนมแม่นี้อย่างเต็มที่ไปจนโตค่ะ สาเหตุที่ ลูกไม่กินนมสต๊อก วิธีฝึกลูกน้อยกินนมสต๊อก เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาลูกน้อยไม่กินนมสต๊อก คุณแม่จะต้องเตรียมตัวหรือฝึกลูกน้อยให้กินนมแม่สต๊อกจากขวดล่วงหน้า และแก้ปัญหาด้วยวิธีการต่างๆ ดังนี้ เมื่อคุณแม่รู้สาเหตุของการปฏิเสธนมสต๊อกของลูกแล้ว ก็สามารถแก้ไขและฝึกลูกได้ โดยขอเพียงหมั่นฝึกฝนตามวิธีการต่างๆ ที่แนะนำ พร้อมกับใช้ตัวช่วยต่างๆ เช่น เครื่องอุ่นนม จุกนมที่ดี  ร่วมกับการละลายนมสต๊อกที่ถูกต้อง และเทคนิคอื่นๆ โดยที่ไม่ให้ลูกกินนมอื่นๆ เด็ดขาด ก็มั่นใจได้ว่าลูกน้อยจะยอมกินนมแม่ที่สต๊อกไว้ได้ต่อเนื่อง  เติบโตแข็งแรงด้วยพลังคุณค่าจากน้ำนมแม่ยาวนานแน่นอนค่ะ

          SIDS หรืออาการภาวะไหลตาย เป็นอีกหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้เด็กทารกแรกเกิดเสียชีวิต ถือเป็นอีกสิ่งที่คุณพ่อ และคุณแม่ควรให้ความใส่ใจ และหาทางป้องกันไม่ให้เกิดอาการดังกล่าว ทาง BABY GIFT EXPERT จึงอยากพาคุณพ่อ คุณแม่ทุกคน มาทำความเข้าใจกันว่า SIDS คืออะไร และสามารถป้องกันได้อย่างไร SIDS คืออะไร         นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ ได้อธิบายถึงภาวะ SIDS (Sudden Infant Death Syndrome) หรือภาวะไหลตายไว้ว่า เป็นภาวะเสียชีวิตขณะนอนหลับ เกิดขึ้นได้แม้ในทารกที่มีสุขภาพแข็งแรงดี พบบ่อยในช่วงอายุเด็กแรกเกิดถึง 1 ปี และพบบ่อยที่สุดในช่วงที่อายุ 2-4 เดือน โดยส่วนมากมักจะพบในเด็กผู้ชายมากกว่าเด็กผู้หญิง สาเหตุของการเกิดภาวะ SIDS         SIDS มีสาเหตุมาจากการกีดขวางการหายใจของทารกขณะนอนหลับ เช่น การจัดท่าให้ทารกนอนคว่ำ หรือนอนตะแคง การที่มีผ้าห่มหรือวัตถุนิ่มๆปิดหน้าทารกขณะนอนหลับ การถูกผู้ใหญ่นอนทับ เป็นต้น เนื่องจากทารกยังไม่สามารถเคลื่อนไหวศีรษะได้ดี ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงของภาวะนี้ คือ ทารกเกิดก่อนกำหนด ควันบุหรี่ และอุณหภูมิห้องนอนที่ร้อน ซึ่งอุณหภูมิห้องนอนที่เหมาะสมของทารกคือ […]

แข็งแรง ทนทาน พับ-กางง่าย ลูกน้อยนอนสบาย นี่แหละคุณสมบัติรถเข็นเด็กที่แม่ๆต้องการ 1. รถเข็นเด็กที่แข็งแรง ทนทาน ต้องไม่มีรอยต่อหรือพับเล็กมากเกินไป โครงสร้างควรเชื่อมเป็นชิ้นเดียวกัน เพราะเมื่อผ่านการใช้งาน มักมีการขยับของข้อต่อ เป็นสาเหตุให้โครงสร้างไม่แข็งแรงและเกิดการสั่นสะเทือนเมื่อเข็นในที่ขรุขระ รถเข็นเด็กที่ดีควรมีการเชื่อมต่อส่วนที่สำคัญเป็นชิ้นเดียว จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงแม้ผ่านการใช้งานที่ยาวนาน 2. พับ-กางง่าย ด้วยมือเดียว เพราะต้องพาลูกเดินทางคนเดียวบ่อยๆ แน่นอนว่าแม่ๆ ที่ต้องเลี้ยงลูกเองไปไหนมาไหนกับลูกลำพัง เช่น ไปเดินห้าง เดินสวนสาธารณะ ต้องเลือกรถเข็นเด็กที่ให้ความคล่องตัว ใช้งานง่าย พับกางง่าย ไม่ซับซ้อน คุณแม่สามารถพับรถเข็นเด็กได้เองด้วยมือเพียงข้างเดียวได้ เพราะมืออีกข้างหนึ่งต้องอุ้มลูก พับแล้วตั้งกับพื้นได้โดยไม่ล้มกองบนพื้น จะช่วยให้คุณสามารถลากไปมาสะดวกและยังปลอดจากสิ่งสกปรกบนพื้นที่อาจเป็นอันตรายต่อลูกน้อยได้ 3. ชุด Support สำหรับเด็กแรกเกิด ชุดเบาะรองนอนสำหรับเด็กทารกเป็นสิ่งจำเป็นมาก รถเข็นเด็กแรกเกิด ควรมีหมอนรองรับสรีระเด็กทั้งศีรษะ คอ และหลัง เพราะเด็กทารกจะมีกระดูกสันหลังและคอที่ยังไม่แข็งแรง จึงต้องนอนบนเบาะที่ช่วยรองรับสรีระตั้งแต่ศีรษะ ต้นคอ หลัง และสะโพกเพื่อให้ท่านทนที่ถูกต้องหลังไม่โค้งงอผิดรูป และไม่เกิดการปิดกั้นทางเดินทางหายใจ Aprica รถเข็นเด็ก สำหรับวัยแรกเกิดอย่างแท้จริงๆ คิดค้นและวิจัยโดยกุมารแพทย์ จากประเทศญี่ปุ่น

ความเชื่อแรกที่ต้องมี..คาร์ซีทคือสิ่งสำคัญ เคยคิดไหมว่าถ้าวันหนึ่งคุณขับรถประสบอุบัติเหตุจนทำให้ลูกน้อยๆ ของคุณได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิต คุณจะใช้ชีวิตต่อไปยังไง?? ผมถือว่าผมเป็นคนที่โชคดีคนหนึ่งที่ได้รับการปลูกฝังให้เห็นความสำคัญของคาร์ซีทสำหรับเด็กๆ ทั้งจากคุณหมอประจำตัวลูกๆ พี่สาว ภรรยา ตลอดจนเพื่อนๆของผมและภรรยาที่เคยมีลูกมาก่อน ที่พร่ำสอนว่า ต้องให้เด็กนั่งคาร์ซีททุกครั้งที่ขึ้นรถนะ… ทุกครั้งที่ผมเดินทางไม่ว่าจะใกล้หรือไกล ผมกับภรรยาจะให้ลูกๆนั่งคาร์ซีทตลอดเวลา ถึงแม้ช่วงแรกๆ (รวมถึงช่วงหลังๆด้วยบางเวลา) เค้าจะร้องไห้ฟูมฟายก็ตาม เราก็ต้องใจแข็งปล่อยให้ร้องไห้ไป เพราะถือคติว่า “safety first” พอนานๆเข้า เด็กๆก็จะเริ่มรู้เงื่อนไขเองว่า ถ้าไม่นั่งบนคาร์ซีทจะไม่ได้ขึ้นรถไปด้วย แม้แต่วันแรกที่พาลูกออกจากโรงพยาบาลหลังคลอด ผมและภรรยาก็ให้ลูกน้อยนั่งคาร์ซีทสำหรับเด็กแรกเกิด …เชื่อว่าพ่อแม่หลายคนมักจะใจอ่อน และมักจะคิดว่านิดหน่อยคงไม่เป็นอะไร แต่อย่าลืมว่าอุบัติเหตุมันเกิดขึ้นได้ทุกวินาทีจริงๆ แข็งใจปล่อยให้ลูกร้องไห้ ดีกว่าไม่มีโอกาสให้เขาได้ร้องไห้นะครับ… กระนั้นก็ดี ด้วยความที่คาร์ซีทยี่ห้อดีๆมักจะมีราคาสูง(มาก) เดิมทีผมมีลูกชายคนเดียวก็มีสำหรับเด็กแรกเกิดถึงสองขวบ ต่อมาพอน้องปัณณ์โตขึ้นก็กัดฟันควักกระเป๋าซื้อสำหรับเด็ก 1-5 ขวบ มาอีกตัว จากนั้นพอผมมีน้องปุณณ์ ลูกสาวอีกคนที่อายุย่างเข้า 9 เดือน ภรรยาก็อยากได้ คาร์ซีทที่แข็งแรงๆ อีกอันไว้ให้น้องปัณณ์นั่ง ส่วนน้องปุณณ์จะขยับมานั่งอันที่สองแทน ผมก็คัดค้านเพราะเห็นว่าสิ้นเปลือง อันแรกยังใช้ได้อยู่เลย… แต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหว ยอมควักเงินอีกสองหมื่นกว่าซื้อมาอีกตัวอย่างเสียไม่ได้ หลังจากซื้อมาได้เพียงเดือนเดียว เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันและร้ายแรงที่สุดในชีวิตผมก็เกิดขึ้นจนได้ ผมกับครอบครัวเดินทางไป กทม. โดยลูกชายผมนั่งคาร์ซีทตัวใหม่อยู่ด้านข้างคนขับ (ขยับเบาะให้ไกลจาก […]

Menu
All Categories
All Brands
All Ages
Promotions
Locations
BabyGift Family
BabyGift Care
Parents Guide
News & Event

All Categories

All Categories
All Brands
All Ages