วิธีเลือก เป้อุ้มทารก

รวมสุดยอดวิธี เลือกเป้อุ้มทารก
เพราะเป้อุ้มเด็ก เป็นเครื่องทุ่นแรงที่สำคัญยิ่งสำหรับคุณแม่ ที่เรียกได้ว่าคืออุปกรณ์คู่กายคู่ใจที่พาคุณแม่และลูกน้อยไปทำกิจวัตรด้วยกันได้เสมอ เป้อุ้มลูกนี้จึงเป็นหนึ่งในสิ่งอำนวยความสะดวกประจำบ้านที่กำลังเลี้ยงลูกอ่อน ยิ่งเป็นครอบครัวเล็กที่คุณแม่ต้องเลี้ยงลูกคนเดียวไม่มีคนมาช่วยเลี้ยงลูก ในช่วงเวลาที่คุณพ่อไปทำงานนอกบ้าน ยิ่งถือเป็นของใช้ที่จะช่วยให้คุณแม่ทำงานและกิจกรรมอื่นๆได้ พร้อมเลี้ยงลูกได้แบบเบ็ดเสร็จ
ซึ่งในยุคสมัยที่การหาเงินได้ฝืดเคือง และข้าวของใช้ราคาสูงเช่นนี้ การเลือกซื้อเป้อุ้มลูกทั้งที เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่จะต้องพิจารณาอย่างถ้วนถี่ และเลือกใช้ให้คุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่าย แต่จะรู้ได้อย่างไร? ว่าเป้อุ้มเด็กแบบไหนดี ทนทานปลอดภัย ใช้งานได้นานจนลูกโต ลองมาอ่านเทคนิคดีๆ เหล่านี้กันเลย
1. ตอบโจทย์การใช้งาน การเลี้ยงลูกของครอบครัว
นั่นคือการเลือกให้ตรงกับสไตล์การเลี้ยงลูกของครอบครัว การทำงานของคุณพ่อคุณแม่และการเดินทางของคนในบ้าน ซึ่งต้องคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ได้แก่
ขนาดของครอบครัวและคนช่วยเลี้ยงลูก เพราะหากเป็นครอบครัวเล็ก คุณแม่ต้องเลี้ยงลูกคนเดียว คุณพ่อไปทำงาน จำเป็นต้องใช้เป้อุ้มลูก สำหรับเวลาทำงานบ้าน ทำธุระหรือจำเป็นต้องออกไปซื้อของนอกบ้าน แม้แต่เป็นครอบครัวใหญ่ อาจจะได้ใช้เวลาคุณแม่ต้องทำธุระ ผลัดกันใช้เวลาเดินทางไปข้างนอก
สิ่งของที่ใช้กับลูก เวลาที่ต้องพาลูกออกนอกบ้าน เพราะหากคุณพ่อคุณแม่มีข้าวของเครื่องใช้ที่ไม่ต้องพกไปมาก การใช้เป้อุ้มเด็กก็จะทำให้สะดวก พ่อแม่ถือของใช้ และซื้อของได้สบาย ไม่ต้องใช้มืออุ้มหรือเข็นลูก หรือหากเวลาไปไหนที่ต้องใช้พื้นที่จำกัดการใช้เป้อุ้มเด็กก็จะไม่ต้องเปลืองพื้นที่เพราะพับเก็บได้ พกพาง่ายกว่ารถเข็น
การเดินทางของครอบครัว หมายถึงสังเกตการใช้ชีวิตของครอบครัวว่า ต้องออกไปต่างจังหวัด หรือไปเยี่ยมญาติบ่อยหรือเปล่า ใช้เวลาพาลูกออกนอกบ้านนานแค่ไหน หากต้องไปที่ไหนไม่นานนัก การใช้เป้อุ้มเด็กจะมีความคล่องตัวสะดวกกว่ารถเข็น แต่หากต้องใช้เวลาเดินหรือยืน เดินทางนานเป็นชั่วโมง อาจเลือกใช้รถเข็นจะดีกว่า
พาหนะของบ้านที่ใช้ในการเดินทาง รถที่บ้านเล็ก-ใหญ่แค่ไหน หากเป็นรถที่มีขนาดไม่ใหญ่ การใช้รถเข็นเด็กบางรุ่นหรือรุ่นที่พับไม่ได้ มีขนาดใหญ่ อาจจะไม่สะดวกเท่าใช้เป้อุ้มเด็ก รวมถึงหากต้องเดินทางด้วยรถสาธารณะก็ควรใช้เป้อุ้มเด็ก เพราะจะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่เดินทางได้คล่องตัวรวดเร็ว
ราคาเหมาะสม เลือกเป้อุ้มเด็กที่มีราคาเหมาะสมกับฐานะครอบครัว และจะดีมากหากใช้ได้ยาวนานและรักษาสภาพให้ดีจนสามารถขายต่อมือสอง หรือส่งต่อให้ญาติพี่น้องที่มีลูกต่อไปได้
2. คุณสมบัติรองรับน้ำหนักได้ดี มีวัสดุปลอดภัย
ควรเลือกซื้อเป้อุ้มเด็กที่มีคุณสมบัติรองรับน้ำหนักลูกได้ดี ดูคำแนะนำว่าใช้ได้สำหรับเด็กน้ำหนักเท่าไร? ใช้ได้จนถึงลูกอายุโตแค่ไหน ควรมีเนื้อผ้าหรือวัสดุที่นุ่ม เนื้อผ้าบริเวณที่ต้องสัมผัสกับใบหน้าของลูกน้อย เบาะรองนั่งและหลัง ควรมีผิวสัมผัสที่นุ่ม ไม่บาดผิว หากผลิตจากเส้นใยธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้าย Organic ใช้สีธรรมชาติ 100% ก็จะยิ่งมั่นใจได้ว่าปลอดภัยต่อลูกน้อย เหมาะกับลูกเบบี๋ทารกที่ผิวบอบบางแพ้ง่าย

3. ต้องได้มาตรฐาน ออกแบบตรงสรีรศาสตร์ ดีต่อสุขภาพแม่และลูก
คุณแม่ต้องเลือกเป้อุ้มเด็ก ที่มีการออกแบบตรงสรีรศาสตร์ คำนึงถึงสุขภาพที่ดีทั้งต่อคุณแม่และลูกน้อย เพื่อป้องกันอาการปวดหลัง ปวดแขนของคุณแม่ และป้องกันลูกขาโก่ง หรือโรคข้อสะโพกแคลื่อนหลุดในเด็ก คือเป้ควรจะช่วยกระจายน้ำหนักไปยังบริเวณบ่า และมีแถบคาดเอวที่หนาพิเศษ ช่วยพยุงหลัง ลดอาการปวดเมื่อย
หากเป็นเป้ที่ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด ควรมีการออกแบบฐานที่นั่งของลูกให้กว้าง เพื่อรองรับท่านั่งที่ถูกต้องของลูกน้อยได้ตั้งแต่วัยแรกเกิดจนโตขึ้น รองรับการเคลื่อนไหวของช่วงข้อต่อสะโพก และขา ป้องกันปัญหากระดูกข้อต่อเคลื่อนที่ ให้ลูกได้นั่งในท่าที่สบายแกว่งขาได้ในท่าที่เป็นธรรมชาติ ไม่กดทับบริเวณขาและแขน รวมถึงหากมี Head Support จะยิ่งดีเพราะจะช่วยประคองศีรษะลูกและคอไปได้พร้อมกัน
4. ความคุ้มค่า ทนทาน ใช้ได้ยาวนานจนลูกโต
ควรเลือกซื้อเป้อุ้มลูกที่ปรับการใช้งานได้หลายระดับ มีขนาดที่พอเหมาะ กว้างพอให้ลูกน้อยและคุณแม่ปรับใช้ให้ลูกได้จนอายุประมาณ 3 ขวบ หรือในบางแบบเป้อุ้มเด็กสามารถใช้ได้จนลูกอายุ 4-5 ขวบ เป้อุ้มต้องมีความทนทาน วัสดุเหนียวแน่น คงทน มีอายุการใช้งานยาวนาน ยิ่งมีส่วนเสริมสำหรับลูกน้อยแรกเกิด หรือ New Born Support คุณแม่ก็จะสามารถใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด โดยไม่ต้องซื้ออุปกรณ์เสริมเพิ่ม เมื่อลูกโตขึ้นก็เพียงปรับขนาดของตัวเป้ให้เหมาะสมกับช่วงอายุของลูก
ในเป้อุ้มลูกบางรุ่น ยังมีการออกแบบให้มีซิปหรือตัวปลดล็อกเข็มขัดแบบไร้เสียง Noiseless Waist Belt หรือ Noiseless Zipper เพื่อให้เวลาที่ลูกหลับ คุณแม่สามารถปลดล็อกแล้วอุ้มลูกลงนอนได้ โดยไม่มีเสียงดังจนทำให้ลูกตื่นอีกด้วย
5. ลูกใส่สบาย แม่ใส่ง่าย ปรับได้หลายแบบ
เลือกเป้อุ้มลูกทั้งที ต้องเป็นเป้ที่ลูกใส่สบาย หันหน้าออกได้ทั้งหน้า-หลัง ควรเป็นเป้ที่ปรับได้หลายรูปแบบ คุณแม่อุ้มด้านหน้าบ้าง หรืออาจสะพายเป็นเป้ด้านหลังก็ได้ สามารถปรับการอุ้มได้หลายแบบหลายท่า เช่น เป็นเป้อุ้มหรือหิ้วลูกได้ (Baby Carrier) เป็นที่นั่งอุ้มเด็ก (Hipseat) หรือชุดที่นั่งอุ้มเด็กได้ (Hipseat Carrier) เพราะมีอุปกรณ์ที่นั่งเสริมสำหรับเด็ก เบาะบริเวณหน้าท้องและหลังควรมีความหนา เพราะจะช่วยทำให้กระจายน้ำหนักได้ดีกว่า ลดอาการปวดเมื่อยจากการอุ้มเป็นเวลานาน ทำให้คุณแม่อุ้มลูกได้สบายขึ้น
นอกจากนี้ควรเป็นเป้อุ้มลูกที่คุณแม่ใส่ง่ายและถอดง่าย ไม่ต้องใช้เวลายุ่งยากหลากขั้นตอน แต่เมื่อใส่แล้วต้องหลุดหรือเลื่อนยาก เพื่อความปลอดภัยของลูกรัก

6. กระชับ ระบายอากาศได้ดี
เป้อุ้มลูกที่ดีต้องมีความกระชับพอดีตัว สำหรับทั้งคุณแม่และลูกน้อย สามารถอุ้มลูกทารกเบบี๋แรกเกิดได้กระชับ มั่นคงปลอดภัย ช่วยพยุงไม่ให้ลูกหลังงอ ด้วยการพยุง ประคองศีรษะ คอ หัวไหล่ หลังและเอว อีกคุณสมบัติคือควรเป็นผ้าที่นิ่ม หรือเป็นผ้าตาข่าย ที่ช่วยระบายอากาศได้ดีนอกจากนี้เป้อุ้มเด็กหลายรุ่นหลายยี่ห้อ ยังเลือกใช้วัสดุที่สามารถช่วยป้องกันแสงแดด และละอองฝนได้ด้วย
7. พกพาง่าย ทำความสะอาดสะดวก
สุดท้ายคือแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่เลือกเป้อุ้มลูกที่ม้วนหรือพับเก็บได้ง่าย พกพาได้สะดวก มีน้ำหนักเบา ขนาดกะทัดรัดไม่เทอะทะ เพื่อการหยิบใช้ได้แสนง่ายในทุกการเดินทาง และคุณแม่ต้องอย่าลืมเลือกเป้ที่สามารถถอดซักทำความสะอาดได้ง่าย ไม่ให้มีเชื้อโรคสะสมเพื่อสุขอนามัยที่ดีของลูกน้อย
สนใจเลือกซื้อเป้อุ้มเด็ก สามารถเข้ามา ลองเป้อุ้มเด็กด้วยตัวคุณเองได้ที่ BabyGift ทั้ง 5 สาขา ใกล้บ้านคุณ
ยินดีให้คำแนะนำ พร้อมสาธิตการใช้งานเป้อุ้มเด็กอย่างถูกวิธี
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ ท่าน คงเริ่มรู้จักกับคาร์ซีทกันบ้างแล้ว ว่าเป็นอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยสำหรับลูกน้อยในขณะเดินทาง แต่รู้หรือไม่ว่า คาร์ซีทที่ติดตั้งในรถยนต์แต่ละประเภทนั้น จะต้องติดตั้งตำแหน่งที่แตกต่างกัน เพื่อความปลอดภัยของลูกน้อย บทความนี้จะพาคุณพ่อคุณแม่ไปหาคำตอบกันว่า วิธีติดตั้งคาร์ซีท ตำแหน่งไหนปลอดภัยมากที่สุด วิธีติดตั้งคาร์ซีท มีอยู่ด้วยกัน 2 วิธี ตำแหน่งที่ควรติดตั้งคาร์ซีทมากที่สุด สำหรับประเทศไทย ตำแหน่งในรถยนต์ที่ควรติดตั้งคาร์ซีทมากที่สุดก็คือ “เบาะหลังฝั่งคนนั่ง” ด้วยเหตุผลดังนี้… รถยนต์ SUV หรือ รถตู้ ติดตั้งคาร์ซีทเบาะไหนดี ติดตั้งคาร์ซีทที่รถตู้ ส่วนใหญ่แล้วรถที่มีนั่งมากกว่า 2 ตอน ควรจะติดตั้งคาร์ซีทที่เบาะแถวสุดท้ายของตัวรถ แต่ก็จะมีข้อควรระวังในเรื่องของการติดตั้ง เช่น ควรจะขยับเบาะให้ห่างจากประตูหลัง เพื่อให้มีระยะห่างกับประตูพอสมควร เพื่อเป็นการเซฟตี้ลูกน้อยให้ปลอดภัยมากที่สุด Alphard ติดตั้งคาร์ซีทได้ไหม ติดตั้งเบาะไหนดี ติดตั้งคาร์ซีทที่รถ Toyota Alphard ควรจะติดตั้งที่เบาะแถวแรก หรือ แถวตอนสุดท้ายของตัวรถ ไม่ควรติดตั้งที่เบาะด้านหน้า เนื่องจากมีถุงลมนิรภัย (Airbag) และคาร์ซีทบางรุ่นอาจมีขนาดใหญ่ ทำให้ทัศนวิสัยในการมองของคนขับลดน้อยลง และสำหรับคาร์ซีทที่มีฟังก์ชั่นหมุนได้ เมื่อติดตั้งไปแล้วจะทำให้หมุนยากหรือหมุนไม่ได้เลย เนื่องจากเบาะรถมีขนาดพอดีตัว พื้นที่จำกัด ทำให้เวลาหมุนแล้วตัวคาร์ซีทจะไปติดที่ข้างเบาะ […]
หนึ่งอุปกรณ์สำคัญเพื่อการเลี้ยงลูกที่คุณแม่ขาดไม่ได้คือ ขวดนม ที่คุณแม่ตั้งครรภ์หลายท่านอาจมองข้าม เพราะคิดและตั้งใจไว้แล้วว่าจะให้นมแม่ล้วนหลังคลอด ซึ่งอาจลืมไปว่าแม้จะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ แต่ขวดนมก็ยังมีความสำคัญและเป็นผู้ช่วยชั้นดีของการให้นมแม่ได้แน่นอน » ขวดนมจำเป็นแค่ไหน ? » ขวดนม มีกี่แบบ ? ปัจจุบันขวดนมสำหรับเด็กผลิตขึ้นจากวัสดุที่หลากหลาย มีหลายประเภทและหลายรูปทรงให้เลือก วัสดุของขวดนม ขวดนมสำหรับเด็ก มีทั้งขวดแก้ว ขวดพลาสติก และขวดที่ใช้แล้วทิ้ง(Disposable Liners)ที่ใส่ลงในขวดนมอีกที แต่ปัจจุบันขวดนมส่วนใหญ่ที่นิยมใช้มักผลิตจากพลาสติกเพราะน้ำหนักเบา ตกไมแตก ทนความร้อนและหาซื้อง่าบ โดยมีทั้งขวดพลาสติกใส ขวดพลาสติกขาวขุ่น และขวดสีชา ที่ผลิตจากพลาสติกที่ต่างชนิดกัน 1. ขวดนม PP วัสดุ POLYPROPYLENE เป็นขวดนมที่มีสีโปร่งใส หรือสีขาวขุ่น มีน้ำหนักเบา ทนทาน โดยทนอุณหภูมิได้ตั้งแต่ -20 –110˚c มีอายุการใช้งานประมาณ 6 เดือน และอาจเหลือน้อยลงหากผ่านความร้อนจากการต้มหรือนึ่งบ่อยๆ 2. ขวดนม PES วัสดุ POLYETHERSULFONE เป็นขวดพลาสติกสีชาหรือน้ำผึ้ง สามารถทนอุณหภูมิได้ที่ -50–180˚c มีอายุการใช้งานยาวนานประมาณ 6 เดือน […]
คาร์ซีท AILEBEBE กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศไทย เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่มั่นใจว่าได้รับคาร์ซีทของแท้และนำเข้าถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมบริการหลังการขายที่ใส่ใจเหมือนครอบครัว เราขอแนะนำให้ตรวจสอบ 2 ขั้นตอนง่าย ๆ นี้เลยค่ะ วิธีตรวจสอบคาร์ซีท AILEBEBE ของแท้ 1. ตรวจสอบบรรจุภัณฑ์ว่ามีคำแนะนำเป็นภาษาไทยหรือไม่ ? คาร์ซีท Ailebebe ของแท้จะมีฉลากและคำแนะนำการใช้งานเป็นภาษาไทย เช่น ชื่อผลิตภัณฑ์, ข้อมูลผู้ผลิต, วิธีการใช้งาน, และคำเตือนด้านความปลอดภัย ตามที่กฎหมายประเทศไทยกำหนด การมีฉลากภาษาไทยนี้ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่มั่นใจในการใช้งานอย่างถูกต้องและปลอดภัย 2. ตรวจสอบว่ามีสติกเกอร์ BabyGift ตัวแทนนำเข้า Offical หรือไม่ ? คาร์ซีท Ailebebe ของแท้ จะมีการรับประกันและใช้อะไหล่แท้จากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งสามารถหาได้เฉพาะจากตัวแทน Official เท่านั้น เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากสินค้าที่อาจไม่ได้มาตรฐานและไม่ปลอดภัยสำหรับลูกน้อย เพียงแค่นี้คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถมั่นใจได้ว่ากำลังซื้อสินค้าของแท้นำเข้ามาถูกต้อง ใช้ได้อย่างถูกวิธีช่วยให้ลูกน้อยปลอดภัยทุกการเดินทาง หยุดเสี่ยง หยุดใช้คาร์ซีท Ailebebe นำเข้าผิดกฎหมาย การซื้อคาร์ซีท Ailebebe จากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของลูกน้อยดังนี้ค่ะ 1.ความเสี่ยงจากการใช้งานคาร์ซีทไม่ถูกต้อง ผู้ลักลอบจำหน่ายมักขาดความรู้และความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับสินค้า วิธีการใช้งาน และคำแนะนำตามมาตรฐานที่แบรนด์กำหนด เนื่องจากไม่ได้รับการอบรมจากทีมงานผู้เชี่ยวชาญของ Ailebebe […]
เครื่องปั๊มนมเป็นตัวช่วยอันดับหนึ่งของคุณแม่ลูกอ่อน โดเฉพาะคุณแม่ที่ต้องการให้ลูกน้อยได้กินนมแม่อย่างต่อเนื่องยาวนานที่สุด เครื่องปั๊มนมจะช่วยให้คุณแม่ปั๊มนมได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่ทำให้เกิดอาการคัดเต้านม ซึ่งการที่คุณแม่ปั๊มนมอย่างสม่ำเสมอนั้น เป็นการช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตน้ำนมได้มากยิ่งขึ้น ทำให้คุณแม่สามารถสต็อกน้ำนมได้ตามความต้องการ ปัจจุบันในท้องตลาดมีเครื่องปั๊มนมหลากหลายยี่ห้อมากมาย และก็มีหลายประเภทให้เลือกซื้อ คุณแม่บางคนอาจสงสัยว่าควรเลือกแบบไหน จะเลือกเครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ? BabyGift มีเครื่องปั๊มนมน่าใช้ในปี 2024 มาแนะนำให้เหล่าคุณแม่ได้เลือกใช้ตามความเหมาะสมกันเลยค่ะ เครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ? เครื่องปั๊มนมแบบไหนที่ถูกใจคุณแม่บ้าง ? เครื่องปั๊มนมนั้นจำเป็นสำหรับคุณแม่อย่างมาก โดยเฉพาะคุณแม่ที่เพิ่งคลอดลูกและต้องกลับไปทำงานหลังลาคลอดทำให้ไม่ได้ให้ลูกกินนมจากเต้าเหมือนตอนอยู่บ้าน เครื่องปั๊มนมนั้นก็มีประโยชน์มากมาย อย่างเช่น ทำให้คุณแม่ปั๊มนมเก็บลงสต็อกได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ช่วยกระตุ้นน้ำนม เสมือนว่ามีทารกดูดน้ำนมอย่างเสมอซึ่งช่วยให้ร่างกายคุณแม่ผลิตน้ำนมได้มากยิ่งขึ้น ทั้งช่วยบรรเทาอาการคัดเต้านม และทำให้คุณแม่ได้มีเวลาพักผ่อนหรือมีเวลาทำกิจกรรมส่วนตัวเพิ่มขึ้นในระหว่างที่ลูกดูดนมสต็อกในขวดแทนการดูดจากเต้า เรียกว่าเครื่องปั๊มนมนั้นมีความจำเป็นมากทีเดียวเลยค่ะ แล้วจะเลือกเครื่องปั๊มนม ยี่ห้อไหนดี ? ก็ต้องดูว่าแต่ละรุ่นแต่ละแบบนั้น ตอบโจทย์การใช้งานของคุณแม่ได้มากน้อยอย่างไร สำหรับคุณแม่ที่อาจจะกำลังสงสัยว่าเครื่องปั๊มนม มีกี่แบบ ? โดยหลัก ๆ แล้วจะมีอยู่ 2 แบบด้วยกันดังนี้ค่ะ BabyGift แนะนำเครื่องปั๊มนม 10 อันดับน่าใช้ประจำปี 2024 รู้กันแล้วว่ามีกี่ประเภท ตอนนี้เราลองมาดูยี่ห้อน่าใช้กันต่ะค่ะ ปัจจุบันตามท้องตลาดก็มีเครื่องปั๊มนมจำหน่ายมากมาย ทั้งแบบปั๊มมือ และแบบไฟฟ้า มีฟังก์ชั่นให้เลือกอย่างหลากหลาย […]
เมื่อพี่ตู่เตรียมคาร์ซีท พาน้องริสาออกไปเที่ยวครั้งแรก… แต่มะลิ (แม่บ้าน) ดันถอดเบาะคาร์ซีทไปซักซะงั้น งานนี้พี่ตู่ต้องใส่ผ้าหุ้มกลับเข้าไปเหมือนเดิม เบาะทั้งหมดแบ่งออกเป็น 3 ชิ้น ที่เข้าใจง่ายๆ พี่ตู่บอกว่าง่ายมาก ทำครั้งแรกก็ได้เลย #แท็กสามี #ซักคาร์ซีทให้หน่อย เพราะคุณแม่นุชออกไปทำธุระข้างนอก การพาน้องริสาออกไปเที่ยวครั้งนี้มีแค่สองพ่อลูกเท่านั้น คาร์ซีทจึงจำเป็นมาก พี่ตู่เลือกคาร์ซีท Ailebebe รุ่น Kurutto 4 Grance ผ้าหุ้มตาข่ายระบายอากาศได้ดี น้องริสานั่งแล้วสบายตัว ไม่อึดอัด ไม่งอแง สบายจังเลย…ปะป๋า ของีบแป๊บบบบนะคะ หมุนได้ 360 องศา อุ้มน้องริสาขึ้นลงคาร์ซีทได้ง่าย คาร์ซีท Ailebebe ปลอดภัยแน่นอน เพราะทุกตัวผ่านการทดสอบอย่างเข้มงวด จากประเทศญี่ปุ่น รีวิวคาร์ซีท Ailebebe รุ่น Kurutto4
เชื่อว่าปัญหาที่หลายๆ บ้านจะต้องเจอก็คือ การที่ลูกรักไม่ยอมกินข้าว โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่อายุ 1 ขวบขึ้นไป เมื่อเริ่มเดินได้คล่อง เริ่มวิ่งได้บ้าง ก็จะติดเล่น ไม่ค่อยยอมกินข้าวหรือกินได้น้อย บางคนก็อมข้าว ไม่ยอมเคี้ยว หรือหันหน้าหนี กว่าจะป้อนหมดชามก็ใช้เวลานานเกินไป ซึ่งทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายๆ คนเป็นกังวล เพราะการที่ลูกเราไม่ยอมกินข้าวก็อาจส่งผลต่อสุขภาพและการเติบโตของลูกได้ แต่ปัญหาการกินของลูกรับมือได้ไม่ยากเลยค่ะ เพียงแค่ต้องให้เวลา ใช้ความเข้าใจ และต้องใจแข็งนิดหน่อย ก็จะทำให้ลูกมีวินัยในการกินมากขึ้น ลูกไม่ยอมกินข้าว 1 ขวบ จะแก้ปัญหาอย่างไรดี ? มาลองฝึกลูกน้อยไปพร้อม ๆ กันกับ BabyGift ได้เลยค่ะ ลูกไม่ยอมกินข้าว 1 ขวบ ทำยังไงดี ? ชวนดูเทคนิคดีๆ ที่ทำให้ลูกกินได้มากขึ้น การได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอในปริมาณที่เหมาะสมนั้นเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากสำหรับลูกน้อย เพราะส่งผลต่อการเจริญเติบโตตามวัย หากได้รับสารอาหารไม่เพียงพอนั้นอาจทำให้ลูกมีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์และสุขภาพไม่แข็งแรงได้ โดยทั่วไปแล้ว เมื่อเด็กอายุครบ 1 ขวบจะเริ่มเรียนรู้การปฏิเสธอาหารหรือคายอาหาร เนื่องจากมีพัฒนาการด้านการเคลื่อนไหวร่างกาย สามารถหยิบจับอาหารเข้าปากได้เอง การปฏิเสธ หรือคายอาหารจึงเป็นสัญชาตญาณอย่างหนึ่งที่ช่วยป้องกันไม่ให้ตัวเองกินสิ่งที่เป็นพิษหรือสิ่งแปลกปลอมเข้าไป โดยส่วนใหญ่แล้ว การที่ลูกไม่ยอมกินข้าว 1 ขวบนั้นจะเกิดขึ้นไม่นานและหายไปได้เอง แต่เด็กบางคนอาจมีพฤติกรรมกินยาก […]

ร้านสินค้าแม่และเด็กที่คัดสรรนวัตกรรมของใช้แม่และเด็กที่มี
คุณภาพให้คำปรึกษาและบริการ อย่างผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยให้การเลี้ยงลูกเป็นเรื่องง่าย ปลอดภัย และมีความสุข
Online Shopping
สาขา ปิ่นเกล้า ราชพฤกษ์
สาขา Mega บางนา
สาขา Central World
สาขา The Crystal รามอินทรา
สาขา BTS วงเวียนใหญ่ (Outlet)
Copyright 2024 © Baby Gift (Retail) Co., Ltd.