วัยทอง 2 ขวบ ลูกเอาแต่ใจ รับมือแบบไหนดี?

คุณพ่อคุณแม่คงเคยได้ยินคำว่า วัยทอง 2 ขวบ หรือ Terrible Two ใช่ไหมคะ ซึ่งเป็นวัยที่เด็ก ๆ มีการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม และพฤติกรรม อย่างเห็นได้ชัด เริ่มแสดงความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ต้องทำความเข้าใจพัฒนาการวัยนี้ให้ดีเลยนะคะ เพื่อจะได้เตรียมพร้อมรับมือกับลูกวัยนี้ได้อย่างถูกต้อง

วัยทอง 2 ขวบ แค่เข้าใจก็รับมือได้

ลูกรักวัย 2 ขวบ มีพัฒนาการทางด้านจิตใจและอารมณ์ที่มากขึ้นและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ลูกวัย 2 ขวบ มีความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น เมื่อถูกบังคับก็จะหงุดหงิด เมื่อไม่พอใจก็จะโวยวาย เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย งอแงง่ายกว่าเดิม เนื่องจากลูกต้องการเป็นอิสระตามใจ และอยากทำอะไรด้วยตัวเอง ซึ่งทั้งหมดเป็นพัฒนาการปกติของเด็กวัยนี้

สาเหตุที่ลูกวัยทองสองขวบหงุดหงิดง่าย

  • ลูกร้องไห้อาละวาดเพราะเขาเสียใจ ผิดหวัง ง่วงเหนื่อยและหิว แต่ยังสื่อสารบอกพ่อแม่ไม่ได้
  • ลูกกำลังเล่นสนุก แต่โดนขัดจังหวะ เช่น ต้องกินข้าว อาบน้ำ และอื่น ๆ จนรู้สึกเสียใจ
  • ลูกอยากมีอิสระ เล่นได้ตามใจต้องการ อยากเล่นของเล่นที่เลือกเอง และยังไม่ต้องการแบ่งของเล่นให้น้องหรือเพื่อน
  • ลูกอยากทำอะไรด้วยตัวเองได้ แต่ก็ยังทำได้ไม่ดี ไม่สำเร็จ เช่น อยากช่วยแม่กวาดบ้านแต่ผู้ใหญ่ก็บอกว่าหนูทำไม่ได้ จนรู้สึกเสียใจ รู้สึกตัวเองไม่สำคัญ
  • บางอย่างที่ลูกวัยนี้อยากทำแต่พ่อแม่ก็ไม่ให้ทำ บางอย่างถูกสั่งให้ทำโดยที่ลูกไม่เต็มใจ ลูกจึงแสดงความไม่พอใจตอบโต้ออกมา
  • ลูกมักงอแง ร้องไห้ ดิ้นลงไปกับพื้น เพราะไม่รู้จะควบคุมอารมณ์ตัวเองอย่างไร ซึ่งหากพ่อแม่ดุว่า ตำหนิหรือทำโทษ ยิ่งทำให้ลูกโมโหและมีพฤติกรรมที่ไม่ดีต่อไปเรื่อย ๆ

7 วิธีรับมือลูก วัยทอง 2 ขวบ

1. ใจเย็น เข้าใจความต้องการของลูก 

ลูกวัยนี้อาจจะยังสื่อสารบอกความต้องการได้ไม่ดี และพยายามจะทำอะไรเองก็ยังไม่สำเร็จ จึงหงุดหงิดตัวเอง และหงุดหงิดสิ่งรอบตัวได้ง่าย คุณพ่อคุณแม่จึงควรรับรู้ว่าเป็นเรื่องปกติตามวัยของเขา พร้อมกับหมั่นพูดคุย สอบถามความต้องการของลูกเสมอว่าลูกอยากจะทำอะไร ให้แม่ช่วยไหม ต้องมีความสม่ำเสมอในการแนะนำลูก

2. เปลี่ยนจากคำสั่ง เป็นขอความร่วมมือ

เพื่อให้ลูกได้เลือกเอง เพื่อกระตุ้นให้ลูกรู้สึกว่าเขาทำได้ ให้เขามีสิทธิเลือก ที่สำคัญต้องพูดคุยอย่างใจเย็น ใจดี และเชื่อว่าลูกทำได้เสมอ ลูกจะได้อารมณ์ดีให้ความร่วมมือง่ายขึ้น เช่น แทนที่จะพูดว่า “อย่าวิ่ง” ก็เปลี่ยนเป็น “เดินช้า ๆ นะลูก เดี๋ยวหกล้ม” หรือแทนที่จะสั่งว่า “เก็บของเล่นเดี๋ยวนี้” ให้เปลี่ยนเป็น “ถึงเวลาที่เจ้ากระต่าย ต้องกลับไปพักผ่อนแล้วครับ มาช่วยแม่เก็บกันเถอะ” การพูดขอความร่วมมือจะทำให้ลูกรู้สึกเป็นคนสำคัญในสายตาพ่อแม่ ต่อต้านน้อยลงได้

3. เอาใจใส่ ชมเชยในสิ่งที่ลูกทำได้ดี

เพื่อให้ลูกมีความภาคภูมิใจ และอารมณ์ดีได้ง่ายขึ้น โดยพ่อแม่ต้องให้คำชื่นชมลูกน้อยทุกครั้งที่ลูกเล่นกับเด็กคนอื่นได้ดี แบ่งของเล่นให้น้องได้ หรือเมื่อลูกช่วยเหลือตัวเองได้ดี เช่น ทานอาหารเอง เก็บของเล่นเอง แต่งตัวเอง ควรชมลูกว่า “หนูทำได้ดีมากค่ะ” หรือ “พยายามได้ดีมากค่ะ”

4. อ่านนิทาน สร้างเหตุการณ์สมมุติ
ลูกวัยนี้ให้ทำอะไรมักจะปฏิเสธว่าไม่ ไม่ชอบ กลัว หรืออื่น ๆ พ่อแม่ต้องไม่บังคับลูก แต่อาจจะต้องหานิทานหรือการ์ตูนช่วยสอนลูกให้เข้าใจสถานการณ์ แก้ไขปัญหาอารมณ์ ว่าสิ่งไหนทำได้หรือไม่ได้ พฤติกรรมแบบไหนที่ไม่เหมาะสม เช่น เมื่อลูกไม่ยอมแปรงฟัน อาจอ่านนิทานหนูนิดชวนแปรงฟัน หรือ สอนลูกให้กินข้าวและเข้านอนเป็นเวลา ด้วยนิทานที่บอกเวลา หรือจะเป็นการ์ตูนรถไฟที่ออกเดินทางตามเวลาเสมอ

5. เข้าใจความต้องการของลูก
หากลูกน้อยอยู่ในช่วงเวลาที่ไม่พร้อมจะทำตามหรือให้ความร่วมมือ เช่น ลูกกำลังเหนื่อยหรือหิว ก็ควรตอบสนองลูกทันที เช่น หาอะไรรองท้องให้ลูก ให้ลูกได้งีบหลับก่อนอาบน้ำ เพราะความเหนื่อยและความหิวเป็นตัวกระตุ้นอารมณ์ที่สำคัญ หากไปบังคับหรือในลูกทำอะไรในช่วงนี้ลูกจะอาละวาดได้

6. ชวนลูกเล่น เบี่ยงเบนความสนใจ
หาของเล่นเสริมพัฒนาการด้านต่าง ๆ มาเล่นกับลูก ให้ลูกอารมณ์ดี รวมถึงทำกิจกรรมสร้างสรรค์เพื่อไม่ให้ลูกไม่เบื่อหรือหงุดหงิดง่าย ตัวอย่างของเล่นสนุก ๆ สำหรับลูก 2 ปี เช่น Huile Toys ไซโลโฟน Enlightening Rainbow 8 Sounds Organ , Huile Toys ม้าโยก Happy Rocking Pony , Lele สระน้ำใส รุ่น Hello Baby

7. พาลูกออกไปนั่งรถเข็น เดินเล่น เล่นนอกบ้าน

ให้ลูกเล่นอยู่แต่ในบ้านเขาอาจจะเบื่อ เพราะมีแต่ของเล่นที่เห็นทุกวัน ไม่มีอะไรให้ตื่นเต้นหรือแปลกใหม่ ดังนั้นการพาลูกออกไปเดินเล่นสวนสาธารณะ ไปปั่นจักรยาน หรือนั่งรถเข็นสบาย ๆ ดูสัตว์ตามธรรมชาติ ก็จะช่วยให้ลูกอารมณ์อารมณ์ดีได้ หรืออาจมีตัวช่วยให้ลูกอารมณ์ดีนอกบ้านได้ เช่น Chillafish จักรยานทรงตัว รุ่น Quadie + Trailer  , Doona liki 5in1 รถเข็นและจักรยานพับได้ รุ่น S3 , Prince & Princess  รถเข็นเด็กพับอัตโนมัติ Autopact

8. ชวนลูกเล่น เบี่ยงเบนความสนใจ

หาของเล่นเสริมพัฒนาการด้านต่าง ๆ มาเล่นกับลูก ให้ลูกอารมณ์ดี รวมถึงทำกิจกรรมสร้างสรรค์เพื่อไม่ให้ลูกไม่เบื่อหรือหงุดหงิดง่าย ตัวอย่างของเล่นสนุก ๆ สำหรับลูก 2 ปี เช่น Huile Toys ไซโลโฟน Enlightening Rainbow 8 Sounds Organ , Huile Toys ม้าโยก Happy Rocking Pony , Lele สระน้ำใส รุ่น Hello Baby

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00

บทความแนะนำ

ในช่วงแรกของการเป็นคุณพ่อ คุณแม่มือใหม่ คำถามที่มักจะเกิดขึ้นก็คือ “ทำไมต้องใช้หมอนสำหรับทารก หรือหมอนหัวทุย” แท้จริงแล้วหมอนเหล่านี้มีประโยชน์มากมายสำหรับเจ้าตัวน้อย เนื่องจากช่วยป้องกันปัญหาหัวแบน กระดูกสันหลังบิดเบี้ยว ช่วยเพิ่มความสบายในการนอนหลับ ระบายอากาศได้ดี ดังนั้นในบทความนี้ BabyGift จะชวนมาเรียนรู้เหตุผลสำคัญที่คุณพ่อ คุณแม่ทุกคนไม่ควรมองข้ามในการเลือกหมอนสำหรับทารกแรกเกิด เพื่อเตรียมห้องนอนเด็กอ่อนให้พร้อมก่อนคลอดกันค่ะ  เลือกหมอนทารกใบแรกให้ลูก ต้องเลือกยังไง ? หมอนหัวทุยจำเป็นหรือเปล่า ?  หมอนสำหรับทารกถือเป็นสิ่งจำเป็นในการดูแลเจ้าตัวน้อย แม้จะดูเป็นสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ แต่การเลือกหมอนที่เหมาะกับทารกจะส่งผลต่อสุขภาพและความปลอดภัยของลูกน้อยอย่างมาก คุณพ่อ คุณแม่คนไหนที่กำลังสงสัยว่าจะเลือกหมอนสำหรับทารก หรือหมอนหัวทุยยังไงดี ไปหาคำตอบพร้อมกันในบทความนี้พร้อมๆ กันเลยค่ะ  หมอนทารก คืออะไร ?  หมอนสำหรับทารก เป็นหมอนขนาดเล็กที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับทารก ซึ่งมีวัตถุประสงค์หลักดังนี้   ควรใช้หมอนทารก เมื่อไหร่ ?  ตามคำแนะนำจากกุมารแพทย์ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ได้มีการสรุปว่า ท่านอนที่ดีและปลอดภัยที่สุดสำหรับทารก คือการนอนหงายบนพื้นผิวแบนราบโดยไม่มีสิ่งของใดๆ อยู่บนเตียงนอน เช่น ผ้าห่ม ตุ๊กตา หมอน เป็นต้น เนื่องจากอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ หรือโรคไหลตายในทารก (SIDS) ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิตในเด็กอายุไม่เกิน 4 เดือน การใช้หมอนอาจเพิ่มความเสี่ยงจากการอุดกั้นทางเดินหายใจของทารก เมื่อทารกพลิกตัว หรือคว้าวัตถุเหล่านั้นโดยไม่รู้ตัว […]

แม่ใบเตย-พ่อแมน ปลื้มใจ ที่ได้ตัวช่วยดีๆอย่างรถเข็น Aprica เข็นพาลูกออกไปไหนมาไหนก็ลื่นสมูทไม่มีสะดุด ช้อปปิ้งนานแค่ไหน น้องเวทมนต์ ก็นอนสบายหลับสนิทไม่งอแง การมีรถเข็นเด็กแรกเกิดดีๆสักคันที่แม่ไว้วางใจ การพาลูกออกไปเดินเล่นนอกบ้าน ก็ไม่ใช่เรื่องยากคุณแม่ใบเตยเลือก รถเข็น Aprica รุ่น Optia Cushion Premuim พา น้องเวทมนต์ ไปข้างนอกแบบสบายๆ ปรับเป็นแบบเข็นไปเห็นหน้าลูกไปก็ได้ สบายใจหายห่วงสุดๆ ตามมาส่องความน่ารัก ” น้องเวทมนต์ “ ลูกสาวตัวน้อยของแม่ใบเตย-พ่อแมนสุดน่ารักกันเลยค่า BabyGift ยินดีแนะนำรถเข็นที่เหมาะกับลูกน้อยและไลฟ์สไตล์คุณพ่อคุณแม่ ทักมาปรึกษาได้เลยค่า

ลูกไม่ยอมกินข้าว เป็นปัญหาที่พบเป็นประจำของหลาย ๆ บ้านเลยนะคะ สำหรับเรื่องการกินข้าวยากของลูกน้อย โดยเฉพาะคุณหนูวัย 1 ปีขึ้นไป ที่เริ่มเดินได้คล่อง เริ่มวิ่งได้บ้าง พอถึงเวลากินข้าวเมื่อไหร่ ก็ทำให้คุณพ่อคุณแม่หนักใจไม่น้อยเลย ทั้งกินข้าวน้อย อมข้าว ห่วงเล่นจนใช้เวลานานเกินไปสำหรับอาหาร 1 มื้อ แต่ปัญหาการกินของลูกรับมือได้ไม่ยากเลยค่ะ เพียงแต่ต้องให้เวลา ให้ความเข้าใจ และต้องใจแข็งนิดหน่อย คุณพ่อคุณแม่ก็จะช่วยให้ลูกมีวินัยในการกินมากขึ้นได้ มาลองฝึกลูกน้อยไปพร้อม ๆ กันเลยค่ะ ฝึกให้ลูกทานข้าวเป็นเวลา ให้คุณแม่ทำข้อตกลงกับลูกว่า เข็มนาฬิกาชี้เลขนี้ เวลานี้ คือเวลาทานอาหาร ลูกควรจะหยุดเล่น แล้วมาทานข้าวด้วยกัน หลังทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้วลูกค่อยกลับไปเล่นต่อ หรือ จะบอกลูกว่าเวลานี้ต้องทานอาหาร ลูกคือคนสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่อยากทานข้าวด้วย เราต้องทานพร้อมกัน เพื่อฝึกให้ลูกรู้จักเวลาของมื้ออาหาร และรู้ว่าทุก ๆ คนในบ้านก็ทำเหมือนกัน สร้างบรรยากาศการทานอาหารให้ลูก การทานอาหารร่วมกันก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่สร้างวินัยการทานอาหารให้ลูกได้ พ่อ แม่ ลูก ร่วมโต๊ะทานอาหารด้วยกัน ไม่ปล่อยให้ลูกทานคนเดียว หรือ แยกโต๊ะลูกออกไป ก็จะช่วยสร้างบรรยากาศการทานอาหารให้ลูก ให้ลูกรู้สึกว่าเขาเป็นคนสำคัญในบ้าน เป็นเหมือนผู้ใหญที่ได้นั่งโต๊ะกินข้าวด้วยกัน ฝึกให้ลูกนั่งเก้าอี้ทานข้าวสำหรับเด็ก คุณพ่อคุณแม่ห้ามตามป้อนข้าว […]

 คาร์ซีทหมุนได้ จำเป็นต่อคุณพ่อ คุณแม่อย่างไร คุณพ่อและคุณแม่ทุกคน พยายามและสรรหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกน้อยเสมอ เพราะลูกน้อยคือแก้วตาดวงใจของคุณพ่อและคุณแม่ แต่จะดีกว่าไหมถ้าสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อยยังสร้างความสะดวกสบายสำหรับคุณพ่อและคุณแม่ไปพร้อมกัน           การเลือกซื้อคาร์ซีทก็เหมือนกัน นอกจากจะดีที่สุด ปลอดภัยที่สุดแล้ว คุณพ่อคุณแม่ยังคงต้องคำนึงถึงความสะดวกสบายในการใช้งาน ต่อทั้งกับคุณพ่อ คุณแม่ และลูกน้อยอีกด้วย และหนึ่งในปัญหาชวนปวดหัวสำหรับคุณพ่อ คุณแม่ในการใช้คาร์ซีท อย่างปัญหาการอุ้มลูกน้อยเวลาขึ้นลงรถ หรือปัญหาที่จอดรถแคบเกินไป ที่ทำให้การอุ้มลูกน้อยขึ้นลงรถลำบาก อาจจะชนกับรถ หรือกำแพง ที่อาจเป็นอันตรายต่อทั้ง คุณพ่อ คูณแม่ และลูกน้อยได้ ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปถ้าคุณพ่อ และคุณแม่เลือกใช้คาร์ซีทแบบ Convertible Carseat คาร์ซีทหมุนได้ 2 ทิศทาง หรือคาร์ซีทที่หมุนได้ 360 องศา ที่นอกจากปกป้องลูกน้อยได้แล้ว ยังเพิ่มเติมความสะดวกสบายให้กับคุณพ่อคุณแม่ได้อีกด้วย นอกจากนี้คาร์ซีทหมุนได้ยังมีข้อดีอีกมากมาย ทาง Baby Gift จึงขอพา คุณพ่อ คุณแม่ มาเข้าใจถึงข้อดีของคาร์ซีทหมุนได้กันค่ะ ข้อดีของการใช้ คาร์ซีทหมุนได้ .คุณพ่อ และคุณแม่ สะดวกสบายในการอุ้มลูกน้อยขึ้นลงรถ           […]

เป็นยังไงกันบ้างคะ หลักการ เลือกรถเข็นเด็ก ของกุมารแพทย์ญี่ปุ่น บ้านไหนกำลังวางแผนซื้อรถเข็นให้ลูกสักคัน ลองเอาไปปรับใช้กันดูนะคะ พาลูกน้อยมาลองรถเข็นเด็ก ได้ที่ BabyGift ทั้ง 5 สาขา ใกล้บ้านคุณยินดีให้คำแนะนำ พร้อมสาธิตการใช้รถเข็นเด็กอย่างถูกวิธี

หนึ่งในความปรารถนาสูงสุดของคุณแม่ตั้งครรภ์ คือการคลอดลูกน้อยได้อย่างปลอดภัย ลูกน้อยแรกคลอดมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงมากที่สุด   แต่ปัญหาหนึ่งที่คุณแม่หลายๆ ท่านต้องพบเจอ คือภาวะคลอดก่อนกำหนด  ที่ทำให้คุณแม่จำเป็นต้องคลอดก่อนเวลา ลูกน้อยต้องคลอดในขณะที่ยังตัวเล็ก มีโอกาสเจ็บป่วย และพิการ รวมทั้งอวัยวะต่างๆ ยังทำงานหรือพัฒนาได้ไม่ดี เรื่องการคลอดก่อนกำหนดแบบนี้ไม่มีครอบครัวไหนอยากให้เกิดขึ้น ดังนั้นจะดีกว่าไหม? หากเราสามารถตรวจสอบหรือเช็กก่อนได้ เพื่อป้องกันไม่ให้ภาวะคลอดก่อนกำหนดร้ายนี้เกิดขึ้น รู้จักกับปัจจัยเสี่ยง เลี่ยงคลอดก่อนกำหนด ไม่มีแม่ท้องคนไหนอยากให้ลูกคลอดก่อนกำหนด ดังนั้นการรู้ทัน ป้องกันไว้ น่าจะเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและดีต่อทุกคน เราจึงอยากให้คุณแม่ตั้งครรภ์มาลองสังเกตและรู้จักกับปัจจัยเสี่ยงต่างๆ ที่อาจทำให้เกิดการคลอดก่อนกำหนด นั่นคือ การวัดปากมดลูก ป้องกันและลดปัญหาคลอดก่อนกำหนด เพราะความเสี่ยงของการคลอดก่อนกำหนดมีค่อนข้างมาก หากคุณแม่ได้สังเกตรู้ก่อนเพื่อป้องกันจะทำให้ลดความเสี่ยงของการคลอดก่อนกำหนดได้ ซึ่งวิธีการหนึ่งที่ทางการแพทย์ใช้ในการป้องกันและลดปัญหาคลอดก่อนกำหนด คือการวัดปากมดลูก  แต่จะต้องทำอย่างไร มีข้อจำกัดหรืออันตรายหรือไม่…ไปดูกันค่ะ การวัดปากมดลูกคืออะไร? คือการตรวจคัดกรองว่าคุณแม่มีภาวะปากมดลูกสั้นหรือไม่ ด้วยวิธีการประเมินปากมดลูกจากการวัดความยาวของปากมดลูก ผ่านการสแกนด้วยอัลตร้าซาวนด์ทางช่องคลอด หรือโดยแพทย์ วิธีนี้เป็นการวัดความยาวและประเมินความยาวปากมดลูกของคุณแม่ตั้งครรภ์ว่ามีขนาดปกติ หรือมีความสั้นจนเสี่ยงที่จะคลอดก่อนกำหนด  การวัดปากมดลูกหรือัลตราซาวนด์ปากมดลูกนี้ มีความปลอดภัย คุณแม่ไม่เจ็บ ทำไมต้องวัดปากมดลูก เพราะปากมดลูกเป็นส่วนล่างของมดลูกที่เชื่อมต่อกับช่องคลอด ตามปกติหากคุณแม่ไม่ได้ตั้งครรภ์ ปากมดลูกจะมีความยาวอย่างน้อยประมาณ 3 ซม. ซึ่งหากในระหว่างตั้งครรภ์คุณแม่มีปากมดลูกสั้นกว่าปกติ จะสัมพันธ์และทำให้มีความเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด  ยิ่งความยาวของปากมดลูกสั้นก็จะเสี่ยงคลอดก่อนกำหนดมากยิ่งขึ้น รวมถึงแพทย์จะได้ตรวจด้วยว่าคุณแม่มีการเปิดของปากมดลูกด้านในหรือเปล่า เพราะหากปากมดลูกเปิดเร็วก็อาจคลอดก่อนกำหนดเร็วด้วย ดังนั้นการที่สูติแพทย์ทำการวัดความยาวปากมดลูกโดยอัลตราซาวนด์  […]

Menu
All Categories
All Brands
All Ages
Promotions
Locations
BabyGift Family
BabyGift Care
Parents Guide
News & Event

All Categories

All Categories
All Brands
All Ages