รีวิวพาลูกน้อยขึ้นเครื่องบินพร้อมรถเข็นแบบสุดCool (ตอนที่1)

เมื่อต้องพาเจ้าตัวน้อยเดินทางไกลขึ้นเครื่องบินครั้งแรก คุณแม่หลายท่านมักมีคำถามมากมาย เพื่อให้ทุกท่านเตรียมตัวเดินทางได้อย่างสนุกสนานพร้อมรถเข็นคันโปรดคู่ใจ Baby Gift ได้รวบรวมทุกคำตอบไว้ในที่เดียวจบ
1.รถเข็นแบบไหนสามารถนำขึ้นเครื่องบินได้บ้าง จำเป็นต้องพับเล็กๆ หรือมีข้อกำหนดเกี่ยวกับขนาดและ

ตอบ เมื่อมีผู้โดยสารที่เป็นเด็กเดินทางไปพร้อมกัน รถเข็นเด็กทุกขนาด ไม่ว่าจะพับใหญ่พับเล็ก ทั้งหนักและเบา สามารถนำขึ้นเครื่องบินได้ทั้งหมดโดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องขนาดและน้ำหนัก แต่รถเข็นต้องสามารถพับได้ (ซึ่งรถเข็นทุกรุ่นทุกแบรนด์ที่จำหน่ายในปัจจุบันพับได้ทุกคัน)
2. ขั้นตอนการนำรถเข็นขึ้นเครื่องบิ
ตอบ เมื่อนำกระเป๋าขนาดใหญ่ Check in เพื่อโหลดใต้ท้องเครื่องให้แจ้งเจ้าหน้าที่สายการบินว่ามีรถเข็นเด็กมาด้วย และต้องการเข็นไปโหลดที่หน้าประตูเครื่องบิน (หรือเรียกว่า Gate Check) เจ้าหน้าที่จะนำ Tag (หรือป้ายติดกระเป๋า) ติดให้ที่รถเข็นเพื่อป้องกันการสูญหาย เราสามารถเข็นลูกน้อยผ่านพิธีการต่างๆ ไปจนถึงหน้าประตูเครื่องบินตรงจุดที่มีแอร์โฮสเตสยืนต้อนรับ ให้พับรถเข็นให้เรียบร้อย หลังจากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่รอรับฝากรถเข็นเพื่อนำลงไปเก็บใต้เครื่อง (ในบางกรณีเจ้าหน้าที่จะจัดเตรียมถุงพลาสติกขนาดใหญ่คลุมให้อย่างดีเพื่อความสะอาดและปลอดภัย) ซึ่งเมื่อถึงที่หมายปลายทางเจ้าหน้าที่จะนำรถเข็นมาส่งคืนให้ที่หน้าประตูเครื่องบินเหมือนเดิม ในกรณีต่อเครื่อง (Transfer) ก็สามารถรับรถเข็นคืนได้ที่หน้าประตูเครื่องเช่นเดียวกัน



3. มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรั
ตอบ ทุกสายการบินอนุญาติให้นำรถเข็นขึ้นเครื่องได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
4. ในกรณีที่รถเข็นมีขนาดเล็

ตอบ รถเข็นบางรุ่นสามารถพับและนำขึ้นเก็บบน Cabinได้ มีความเป็นไปได้ที่ทางสายการบินจะอนุญาติหรืออาจจะปฎิเสธไม่อนุญาติให้นำขึ้นไปเก็บบน Cabin ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ 1)กฎระเบียบของแต่ละสายการบิน 2)จำนวนผู้โดยสารในแต่ละเที่ยวบิน 3)ปริมาณสัมภาระของของผู้โดยสารในเที่ยวบินนั้นๆ ซึ่งอาจเป็นข้อจำกัดทำให้ทางสายการบินขอให้ผู้โดยสารฝากรถเข็นที่หน้าประตูเครื่องบินเช่นเดียวกับรถเข็นคันอื่นๆ ได้ โดยเฉพาะการบิน Low Cost ที่มีข้อกำหนดเกี่ยวกับการนำสัมภาระติดตัวขึ้นเครื่องบินอย่างเคร่งครัดจะมีความเป็นไปได้สูงที่จะไม่อนุญาติให้นำรถเข็นขึ้นไปเก็บบนที่จัดเก็บสัมภาระบนที่นั่งเหนือศีรษะ
และโดยเฉพาะการบิน Low Cost ที่มีข้อกำหนดเกี่ยวกับการนำสัมภาระติดตัวขึ้นเครื่องบินอย่างเคร่งครัดจะมีความเป็นไปได้สูงที่จะไม่อนุญาติให้นำรถเข็นขึ้นไปเก็บบนที่จัดเก็บสัมภาระบนที่นั่งเหนือศีรษะ
สำหรับคุณแม่ที่เตรียมตัวพาลูกน้อยเดินทางไปเมืองนอกได้อย่างคล่องตัว ควรเลือกให้เหมาะสมตามช่วงวัย และรถเข็นควรมีน้ำหนักที่เบา และพับกางเก็บได้ด้วยมือเดียวเพื่อความสะดวกยิ่งขึ้นด้วยค่ะ
สินค้าที่เกี่ยวข้อง
บทความแนะนำ
ของเล่นเด็ก เป็นไอเท็มที่มีส่วนช่วยในการส่งเสริมพัฒนาการ ให้กับลูกน้อยได้เป็นอย่างดี โดยของเล่นแต่ละแบบจะมีวิธีการเล่น การกระตุ้นให้ลูกน้อยใช้กล้ามเนื้อ ร่างกาย ประสาทสัมผัสที่ไม่เหมือนกัน การเลือกซื้อ ของเล่นเด็ก ให้ลูกน้อยได้ถูกต้องสมวัย จะช่วยให้เล่นได้สนุก และยังช่วยส่งเสริมพัฒนาการได้อย่างแท้จริง เบบี้กิ๊ฟ เข้าใจแม่ ในความสงสัย และสับสนว่า ควรเลือกซื้อของเล่นชิ้นไหนดี เพราะทุกวันนี้มีของเล่นในท้องตลาดมากมาย ทั้งราคาถูก ไปจนถึงราคาแพง แบบไหนถึงจะเหมาะกับลูกน้อยแต่ละวัย เบบี้กิ๊ฟ หาคำตอบมาให้แล้วในบทความนี้ ของเล่นเด็ก วัยแรกเกิด – 6 เดือน วัยนี้ลูกน้อยจะใช้เวลาไปกับการนอนมากเป็นพิเศษ สลับกับการตื่นมาทานนมทุกๆ 3 ชั่วโมง ในช่วงระหว่างที่ลูกน้อยตื่นนอน สามารถส่งเสริมพัฒนาการให้กับเด็กวัยนี้ได้ โดยเริ่มจาก การฝึกการมองเห็น ผ่านดวงตาโตใสแป๋ว โดยทารกวัยนี้มักจะชอบ มองสิ่งของที่ขยับไปมา เช่น โมบายหมุนได้ และดวงตาของทารกจะ มองเห็นสีที่ตัดกันชัดเจน เช่น สีดำ/ขาว เหลือง/แดง เพราะน้องๆจะยังไม่รู้จักสีพาสเทลเหมือนผู้ใหญ่ และการมองตัวเองแค่ในกระจก ก็เรียกเสียงหัวเราะจากน้องได้แล้วค่า โดยสามารถเลือกเป็น เพลเพน ที่มีโมบาย กระจก ตุ๊กตาห้อยให้ลูกน้อยนอนมองเล่นได้เพลินๆ ค่ะ ฉะนั้น การเลือกของเล่นที่มีสีสันฉูดฉาด บาดใจ จะเหมาะกับเด็กน้อยวันนี้มากๆ โดยวัสดุของเล่นนั้น ควรจะมีลักษณะเป็นผ้า อ่อนนุ่ม ซักทำความสะอาดได้ […]
หลายวันมานี้เราท่องโลกอินเทอร์เน็ตหนักมาก เพราะอยากรู้ว่าแม่ยุคใหม่เขาชอบอะไร ไอเทมไหนกำลังเป็นที่พูดถึงในกลุ่มแม่ๆ มากที่สุด จากการส่องพบว่าท็อปปิคที่ถูกพูดถึงมาก แต่ยังมีข้อมูลน้อยคือ “รถเข็นเด็ก” ไอเทมใหม่สำหรับแม่ลูกเล็กในยุคนี้นั่นเอง เราจึงไม่รอช้ารีบหาข้อมูลว่าคุณแม่ต้องการรถเข็นแบบไหนและพอจะสรุปได้ว่า คุณแม่ส่วนใหญ่ต้องการรถเข็นเด็กที่น้ำหนักเบา พับเก็บมือเดียวได้ เพราะส่วนมากไปกันสองคนแม่ลูก ต้องการระบบล้อที่ดี เข็นลื่นไหลไม่ต้องออกแรงมากส่วนใหญ่จะเข็นในสวนสาธารณะและทางเท้าซึ่งพื้นค่อนข้างขรุขระ สามารถปรับเอนได้เพราะลูกมักหลับตอนพาเที่ยว วันนี้เลยไปคว้า รถเข็นเด็ก Aprica รุ่น LUXUNA CTS มารีวิวเผื่อคุณพ่อคุณแม่จะเก็บไว้เป็นตัวเลือกเวลาต้องออกไปด้านนอกกับเจ้าตัวเล็กเพียงลำพัง รีวิวรถเข็นเด็ก Aprica” รุ่น LUXUNA CTS เห็นรูปลักษณ์ทะมัดทะแมงอย่างนี้แต่น้ำหนักเบานะจ๊ะ ช่วยเพิ่มความคล่องตัวในการใช้งานมากๆ มาสำรวจสิว่าอะไรเป็นอะไร พอใช้งานจริงจะได้ไม่ยืนงง เริ่มต้นที่ด้ามจับเลยล่ะกัน เราว่าตอบโจทย์มากนะ เพราะสามารถปรับที่จับให้อยู่ด้านหน้าหรือด้านหลังลูกก็ได้ คุณแม่ที่กังวลว่าจะไม่มีปฎิสัมพันธ์กับลูกสบายใจเรื่องนี้ได้เลยและเลิศได้อีกกับล้อแบบ Auto 4 wheels ที่จะล๊อคล้อและคลายล๊อคล้อแบบอัตโนมัติในเวลาเราเปลี่ยนที่จับให้มาอยู่ด้านหน้าหรือด้านหลังก็ได้ ถ้าใครเคยเข็นลูกแบบแม่อยู่ด้านหน้าจะนึกออกเลยว่าเวลาเราเข็นแบบนี้แล้วถ้าล้อหลังหมุนไม่ได้ พอจะเลี้ยวซ้ายที เลี้ยวขวาทีก็ต้องตีวงอ้อมกว้างไปอีก บังคับทิศทางก็ยากมาก มาเจอล้อแบบ Auto 4 Wheels สบายเลยขนาดเราลองเข็นในที่แคบ ๆ ก็ยังเข็นง่ายเรียกว่าโดนใจสุดๆ การปรับก้านเข็นไปด้านหลัง ช่วยให้เข็นได้ง่าย ปรับเอนนอนได้ 170 องศา เมื่อปรับก้านเข็นมาด้านหน้า ระบบล้อจะถูกปรับเปลี่ยนการล๊อคได้แบบอัตโนมัติ นอกจากเรื่องปรับล้อหมุนแบบ 360 องศา Auto 4 Wheels เรื่องรองรับแรงกระแทกที่ล้อก็โอเคเลย […]
แน่นอนว่าคุณแม่ทุกบ้านจะต้องตื่นเต้นกับการทานข้าวมื้อแรกของลูก แต่นอกจากความตื่นเต้นแล้ว การฝึกลูกน้อยให้มีวินัยในการรับประทานอาหารก็ถือเป็นงานหินชิ้นนึงเลยล่ะค่ะ สำหรับคุณแม่ๆ บ้านไหนที่กำลังหาวิธีฝึกลูกน้อยให้คุ้นชินกับการทานข้าวอยู่ล่ะก็ มาดูกันดีกว่าว่าเรามีวิธีดีๆ อะไรมาฝากกันบ้าง ฝึกลูกหม่ำข้าวด้วยวิธีง่ายๆ ไม่ต้องบังคับ 1. นั่งโต๊ะและเริ่มทานข้าวพร้อมกัน อย่างที่เรารู้ๆ กันอยู่ว่าเด็กมักจะชอบเลียนแบบพฤติกรรมของผู้ใหญ่ นั่นแหละค่ะ เราลองเอาเรื่องนี้มาเป็นตัวช่วยกันดีกว่า เพราะงั้นเวลาเราทานข้าว เราก็ควรให้ลูกน้อยของเรานั่งร่วมโต๊ะอาหารด้วยเนอะ ให้เค้าเห็นว่าทุกคนมีความสุขในการรับประทานอาหาร เห็นเวลาเรานำช้อนเข้าปาก ให้เค้ารู้ว่าการทานข้าวเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนทำ และเค้าก็ต้องทำด้วยเหมือนกัน แม้ตอนแรกอาจจะมีร้องงอแงบ้าง แต่ก็อย่าไปยอมแพ้ค่ะ ทำบ่อยๆ ทำให้เป็นกิจวัตร เดี๋ยวเค้าก็จะชินไปเอง 2. ทานอาหารให้เป็นเวลา คุณแม่บางบ้านอาจจะยุ่งหัวหมุนกับทั้งงานประจำและงานบ้านจนเผลอไม่ได้ทานข้าว อ๊ะๆ ถ้าคุณแม่กำลังเป็น Working Woman แบบนี้อยู่ เราขอให้คุณแม่วางงานซักนิด แล้วมาทานข้าวกับลูกน้อยเมื่อถึงเวลา เพราะเราควรฝึกให้เค้าคุ้นเคยกับเวลาที่ต้องทานอาหาร ไม่ว่าจะเป็นอาหารเช้า กลางวัน เย็น คุณแม่ก็ควรจะให้เค้าทานเวลาเดิมๆ นอกจากจะสร้างนิสัยให้เค้าแล้ว ยังเป็นการปรับระบบย่อยอาหารภายในร่างกายของลูกน้อยอีกด้วยน้า ถ้าเค้าคุ้นเคยกับเวลาแล้ว ทีนี้ล่ะ ไม่ต้องเรียกเลย พอถึงเวลาเค้าก็จะหิวขึ้นมาเอง 3. เปลี่ยนเมนูอาหารให้หลากหลาย เด็กหลายๆ คนเบื่อข้าว อมข้าว เพราะอาจจะเป็นเรื่องของรสชาติที่ไม่ถูกปาก หรือเมนูอาจจะซ้ำซากจำเจจนเกินไป การเปลี่ยนเมนูอาหารให้หลากหลายเนี่ย นอกจากจะช่วยให้ลูกได้รับสารอาหารครบถ้วนแล้ว ยังทำให้เค้าเพลิดเพลินไปกับเมนูใหม่ๆ ด้วยนะ […]
แม้ตอนนี้ข่าว PM2.5 จะดูซาๆ ลงไป เพราะมีข่าวดังอย่าง COVID-19 มาแทนที่ แต่คุณแม่ก็อย่าเพิ่งวางใจ เพราะเจ้าฝุ่นนี้ก็ยังคงไม่ได้หายไปไหนนะคะ ความน่ากลัวคือเจ้าฝุ่นนี้มันมีขนาดเล็กมาก มากจนมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เรียกได้ว่าเล็กพริกขี้หนูของจริง เพราะถึงจะมีขนาดเล็ก แต่ภัยร้ายนั้นขอบอกว่าเพียบ โดยเฉพาะต่อกลุ่มเสี่ยงอย่าเด็ก สตรีมีครรภ์ และคนชรา ส่วนหนึ่งที่คุณแม่ตั้งครรภ์เป็นเป้าหมายของเจ้าฝุ่นตัวร้ายนี้ก็เพราะ ในช่วงตั้งครรภ์นี้คุณแม่จะมีภูมิคุ้มกันต่ำกว่าปกติค่ะ ทำให้เวลาคุณแม่หายใจเอาเจ้าฝุ่นเล็กๆ เหล่านี้เข้าไป มันจะส่งผลร้ายต่อร่างกายของคุณแม่ได้รุนแรงกว่าคนทั่วไป เรามาดูกันดีกว่าว่าโรคร้ายอะไรบ้างที่อาจเกิดจากฝุ่น PM2.5 ได้ โรคร้ายที่สามารถเกิดได้จากฝุ่น PM2.5 1. โรคมะเร็งปอด เมื่อเราหายใจนำฝุ่นเข้าไป ฝุ่นที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าเหล่านี้จะสามารถวิ่งเข้าไปได้ลึกถึงถุงลมปอดเลยล่ะค่ะ ซ้ำร้าย บางส่วนของฝุ่นอาจจะซึมผ่านถุงลมปอดเข้าไปในกระแสเลือดอีก ทำให้เกิดเส้นเลือดอุดตันต่างๆ ตามมา และการที่ฝุ่นเข้าไปนี้เองที่ทำให้ระบบในร่างกายแปรปรวนจนทำให้เซลล์พยายามกลายพันธุ์ภายใต้สภาวะแวดล้อมที่ไม่เหมือนเดิม ซึ่งก็อาจจะร้ายแรงถึงขั้นที่จะเปลี่ยนเป็นมะเร็งเลยนะ 2. โรคหัวใจและหลอดเลือด อย่างที่บอกไปแล้วก่อนหน้านี้ว่าฝุ่น PM2.5 นั้นสามารถซึมผ่านถุงลมปอดได้ง่ายๆ ทำให้มันสามารถแทรกซึมไปทั่วทั้งร่างกายโดยเฉพาะในกระแสเลือด เมื่อสะสมเป็นจำนวนมากๆ เข้า จะทำให้เส้นเลือดอุดตัน เลือดไหลเวียนไม่สะดวก หากปล่อยให้เรื้อรังอาจเกิดเส้นเลือดตีบได้เลยค่ะ 3. โรคทางเดินหายใจ โรคทางเดินหายใจเป็นโรคที่เกิดจาก PM2.5 ที่พบได้มากที่สุด เนื่องจากทางเดินหายใจเป็นด่านแรกที่ต้องเผชิญกับเจ้าฝุ่นพวกนี้ การที่เราหายใจเอาฝุ่นเข้าไปจำนวนมากนั้นจะทำให้เรารู้สึกไม่สบายจมูก โรคทางเดินหายใจที่เรารู้จักกันดี […]
Ailebebe รุ่น Kurutto R The First 1 และ Kurutto R The First 2 เป็นคาร์ซีทเด็กแรกเกิดที่ผลิตจากประเทศญี่ปุ่น ที่มีนวัตกรรมความปลอดภัยล้ำสมัย ช่วยให้การเดินทางของลูกน้อยทั้งปลอดภัยและสะดวกสบาย และทั้ง 2 รุ่น มีคุณสมบัติที่เด่นและแตกต่างกัน ซึ่งสามารถตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย เราจะพาคุณพ่อคุณแม่มาทำความรู้จักกับความแตกต่างเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่เลือกคาร์ซีทที่เหมาะสมกับความต้องการของครอบครัวได้ค่ะ เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจเลือกซื้อคาร์ซีท Ailebebe รุ่น Kurutto R ได้อย่างเหมาะสมกับลูกน้อยมากที่สุด มาเริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจกันก่อนว่าทำไมรุ่นนี้ถึงเป็นที่นิยมและมีจุดเด่นอะไรบ้างนะคะ ทำไมต้องเลือก Ailebebe รุ่น Kurutto R ? 1. มาตรฐานความปลอดภัยระดับสูงสุด : ผ่านการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยจากสหภาพยุโรป R129 (i-Size) 2. การทดสอบที่แม่นยำ : ใช้เซ็นเซอร์วัดแรงกระแทกสูงสุดถึง 32 จุดบนหุ่นจำลอง และหุ่นไม่ได้รับการบาดเจ็บ 3. ทดสอบการชนที่เข้มงวด : ทดสอบการชนที่ความเร็ว 70-100 กม./ชม. เพื่อความปลอดภัยสูงสุด […]
การเตรียมตัวสำหรับเด็กแรกเกิดนั้นมีสิ่งต่าง ๆ ที่ต้องเตรียมพร้อมอยู่หลายอย่างด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นคาร์ซีท เป้อุ้มเด็ก รถเข็นเด็ก เปลนอน ขวดนม ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ของใช้ประจำตัวลูก ฯลฯ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ เตียงนอนเด็กแรกเกิดซึ่งจำเป็นสำหรับลูกน้อยมาก ๆ ปัจจุบันมีคำแนะนำว่าควรมีเตียงนอนแยกจากเตียงพ่อแม่ โดยสามารถตั้งไว้ข้างๆ เตียงของพ่อแม่ได้ แต่ไม่ควรอุ้มทารกมานอนเตียงเดียวกับเรา เพื่อป้องกันการนอนทับลูกขณะหลับ ทั้งยังช่วยป้องกันลูกตื่นเวลาที่เราเผลอพลิกตัว ทำให้ลูกได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเต็มที่ เตียงนอนสำหรับเด็กมีกี่แบบ จะเลือกอย่างไรดี มียี่ห้อไหนน่าใช้บ้าง BabyGift มีข้อมูลมาฝากแล้วค่ะ เตียงนอนเด็กแรกเกิดจำเป็นหรือไม่ นอนกับพ่อแม่ได้หรือเปล่า ? เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่หลายๆ คนอาจเกิดความสัยขึ้นมาว่า เตียงนอนเด็กแรกเกิดนั้นมีความจำเป็นหรือไม่ สามารถให้ลูกนอนเตียงเดียวกับเราได้หรือเปล่า ? ปัจจุบันมีคำแนะนำว่าไม่ควรให้เด็กทารกนอนเตียงเดียวกับพ่อแม่ เพราะมีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายกับลูก ข้อมูลจาก สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวไว้ว่า เด็กมีโอกาสเสียชีวิตจากการถูกทับโดยพ่อแม่จนขาดอากาศหายใจและเสียชีวิต เช่น ในคุณพ่อคุณแม่บางคนที่หลับลึก นอนหลับสนิทมาก หรือรับประทานยาบางชนิดที่ทำให้หลับลึก เช่น ยาแก้หวัด หรือยาชนิดอื่น ๆ ที่ทำให้หลับสนิทก็อาจเผลอพลิกตัวนอนทับลูกโดยไม่รู้ตัวจนทำให้ลูกขาดอากาศหายใจได้ หรือผ้าห่มของผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนักอาจไปคลุมศีรษะเด็ก ทำให้หายใจไม่สะดวก หรือมีโอกาสที่ลูกจะถูกหมอนทับหน้าทำให้ขาดอากาศหายใจได้เช่นกัน แม้กระทั่งคุณพ่อคุณแม่นอนดิ้นและอาจเบียดลูกตกเตียงได้ ดังนั้นแล้ว เตียงนอนเด็กแรกเกิดโดยเฉพาะที่แยกที่นอนลูกเป็นสัดส่วนจึงสำคัญและจำเป็นมาก ๆ […]






