ประโยชน์ของนมแม่ ดียังไง ? ทำไมลูกถึงต้องกินนมแม่ ?

ว่ากันว่า “น้ำนมของแม่นั้นดีที่สุด” มีคำแนะนำทางการแพทย์ว่าควรให้ทารกกินนมแม่ไปจนถึงอายุ 2 ขวบหรือนานกว่านั้น แม้ว่าลูกน้อยจะอายุ 6 เดือนขึ้นไปแล้ว ก็ควรกินน้ำนมของแม่ร่วมกับการกินอาหารอื่น ๆ เพื่อเสริมคุณค่าทางโภชนาการ เพราะในน้ำนมของแม่นั้นมีความสำคัญต่อลูกน้อยมาก ๆ ในน้ำนมมีสารอาหารที่ดีต่อลูกน้อยหลายอย่าง ทั้งยังมีภูมิคุ้มกันที่ช่วยปกป้องลูกน้อยให้แข็งแรง นอกจากนี้ การให้ลูกกินน้ำนมของแม่ก็ยังมีข้อดีต่อตัวคุณแม่เองด้วยเช่นกัน ประโยชน์ของนมแม่ มีอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลยค่ะ 

ประโยชน์ นมแม่ อาหารเปี่ยมคุณค่าสำหรับลูกน้อย 

นมแม่นั้นเป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารกแรกเกิด เพราะเต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ และช่วยเสริมภูมิต้านทานโรคให้กับลูก ประโยชน์ของนมแม่ช่วยลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วย และในขณะที่ทารกกินน้ำนมจากเต้าของนั้น ก็เป็นการช่วยสร้างความผูกพันระหว่างแม่กับลูกด้วย ทั้งยังทำให้ทารกรู้สึกอบอุ่นปลอดภัยนอกจากนี้ สำหรับคุณแม่เอง การให้ลูกกินนมก็ยังจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ และเบาหวาน โดยองค์การอนามัยโลก และยูนิเซฟมีคำแนะนำเกี่ยวกับการให้นมของแม่เอาไว้ดังนี้ค่ะ 

  • ควรให้นมทันทีในช่วง 1 ชั่วโมงแรกหลังคลอด เพราะจะช่วยกระตุ้นให้เกิดความรัก ความผูกพันระหว่างแม่ลูก และช่วยให้น้ำนมมาเร็ว 
  • ควรให้เด็กกินน้ำนมของแม่เพียงอย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรกหลังคลอด ซึ่งในน้ำนมนั้นประกอบไปด้วยสารอาหาร วิตามินและแร่ธาตุมากมายอันจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของลูกน้อย  
  • ควรให้นมอย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับอาหารอื่นๆ ในช่วงที่ลูกอายุมากกว่า 6 เดือน และควรให้นมไปจนถึงอายุ 2 ขวบหรือมากกว่านั้น  

ประโยชน์ของนมแม่ มีอะไรบ้าง ?  

  1. มีคุณค่าทางโภชนาการ
    ในน้ำนมนั้นมีสารอาหารที่จำเป็นสำหรับทารกหลายอย่าง ทั้งพลังงาน โปรตีน ไขมัน แคลเซียม วิตามินเอ วิตามินบี โฟเลต และวิตามินซี ทั้งยังมีฮอร์โมนที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของทารก และยังช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้กับลูกน้อยอีกด้วย 
  2. ดีต่อระบบทางเดินอาหาร และระบบขับถ่ายของลูก 
    ในน้ำนมมีโพรไบโอติกส์ที่ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ดีต่อลำไส้ของทารก และยังมีสารนิวคลีโอไทด์ที่ช่วยให้เยื่อบุลำไส้ในทารกเจริญเติบโตได้เร็วเพื่อพร้อมรับการสัมผัสกับเชื้อประจำถิ่นได้
  3. ช่วยให้ลูกมีสุขภาพแข็งแรง ป้องกันการเกิดโรค
    ประโยชน์ของนมแม่นั้นช่วยป้องกันการแพ้โปรตีน และป้องกันการเกิดโรคภูมิแพ้ โรคหอบหืด ช่วยลดการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจ โรคอุจจาระร่วง ช่วยลดอัตราการตายของทารก และลดโอกาสการเกิดโรคเบาหวานในอนาคตอีกด้วย
  4. มีประโยชน์ต่อพัฒนาการทางสมองของทารก
    ในนมแม่มีกรดไขมันที่จำเป็นสำหรับทารกอย่าง DHA ซึ่งดีต่อพัฒนาการทางสมองและระบบประสาทของทารก มีการศึกษาพบว่า ทารกที่กินนมของแม่มีพัฒนาการทางสมองและเชาว์ปัญญา (IQ) ที่ดีกว่าทารกที่กินนมผสม
  5. ช่วยส่งเสริมด้านอารมณ์ และจิตใจของเด็ก
    ประโยชน์ของนมแม่นั้น นอกจากจะดีต่อร่างกายของลูกน้อยแล้ว การให้นมยังส่งผลต่อพัฒนาการด้านอารมณ์และจิตใจของลูกน้อยอีกด้วย เด็กที่กินนมจากเต้าคุณแม่จะได้รับความอบอุ่นทางใจ การที่แม่โอบกอดลูกน้อยระหว่างกินนมจะทำให้ลูกได้รับความอบอุ่น รับรู้ได้ถึงความรัก ความปลอดภัย รู้สึกสงบ ไม่ร้องไห้งอแง ส่งผลให้ลูกน้อยมีความสุขทางใจ ทำให้มีสุขภาพจิตที่ดี และมีการปรับตัวเข้ากับสังคมได้ดีเมื่อโตขึ้น

ชวนรู้ การให้นมลูกก็มีประโยชน์ต่อคุณแม่เองด้วย  

ประโยชน์ของนมแม่ นอกจากจะดีต่อลูกน้อยแล้ว การที่คุณแม่ให้นมลูก ก็มีข้อดีต่อตัวคุณแม่เองด้วย ดังนี้  

  • ช่วยให้มดลูกเข้าอู่ และกลับสู่สภาพเดิมได้เร็วขึ้น ในช่วงที่แม่ให้นมลูก จะมีการหลั่งฮอร์โมน Oxytoxin ซึ่งจะช่วยมดลูกหดรัดตัวได้ดี ทำให้มดลูกเข้าอู่ได้เร็วขึ้น 
  • ช่วยลดอาการซึมเศร้าหลังคลอดของคุณแม่ เพราะ Oxytocin หรือฮอร์โมนแห่งความรักจะช่วยให้คุณแม่เกิดความผ่อนคลาย ทำให้มีความสุขในขณะให้นมลูก ช่วยสร้างความรัก และความผูกพันธ์ระหว่างแม่กับลูก 
  • การให้นมลูกหลังคลอดจะช่วยลดโอกาสในการเกิดมะเร็งเต้านม และมะเร็งรังไข่ แถมยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคความดัน เบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือดอีกด้วย  
  • ช่วยให้น้ำหนักของคุณแม่ลดลงอย่างรวดเร็ว เพราะมีการกระตุ้นการสร้างฮอร์โมนที่ช่วยลดการสะสมของไขมัน ทำให้คุณแม่มีรูปร่างที่ดีขึ้น  

Tips ในการให้นม สำหรับคุณแม่มือใหม่ 

เมื่อได้รู้ประโยชน์ของนมแม่กันแล้ว เชื่อว่าคุณแม่หลายๆ ท่านก็อยากจะให้ลูกน้อยของเราได้กินนมตั้งแต่แรกเกินไปจนถึงอายุ 2 – 3 ขวบ แต่ในบางคนก็ต้องกลับไปทำงานประจำหลังพ้นช่วงลาคลอด 3 เดือน ซึ่งไม่สามารถให้ลูกกินนมจากเต้าได้ตลอดเวลา แล้วจะมีวิธีการเก็บน้ำนมคุณแม่อย่างไรให้มีคุณภาพดี มีเคล็ดลับอะไรสำหรับคุณแม่บ้าง มาดูคำแนะนำกันค่ะ  

  • ใช้เครื่องปั๊มนม เพื่อสต๊อกน้ำนมไว้ให้ลูกน้อยขณะที่ไม่อยู่บ้าน คุณแม่บางคนอาจจะสงสัยว่า เครื่องปั๊มนม จำเป็นไหม ซึ่งประโยชน์ของเครื่องปั๊มนมนั้น จะช่วยกระตุ้นให้น้ำนมคุณแม่มีต่อเนื่อง และช่วยกระตุ้นการเพิ่มปริมาณน้ำนมให้เพียงพอต่อลูกน้อย หากคุณแม่ไม่ได้ให้ลูกดูดนม หรือปั๊มนมเพื่อกระตุ้นและระบายน้ำนมออกทุกๆ  2 – 3 ชั่วโมงอย่างสม่ำเสมอ น้ำนมของแม่ก็จะผลิตน้อยลงจนหายไป ลูกก็จะไม่ได้กินนมของคุณแม่อย่างเต็มที่นั่นเองค่ะ 
  • ควรให้ลูกดูดนมจากเต้าอยู่เสมอ ในคุณแม่ที่ต้องไปทำงาน ก็ควรให้ลูกดูดนมจากเต้าเป็นประจำทุกวัน เช่น ช่วงเช้าก่อนไปทำงาน ช่วงเย็นหลังกลับจากที่ทำงาน และตอนกลางคืน เป็นต้น และวันหยุดควรเอาลูกเข้าเต้าทุกครั้ง เพราะการที่ลูกดูดนมจากเต้าของแม่จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการด้านจิตใจและอารมณ์ทั้งคุณแม่และลูกน้อย และยังเป็นการกระตุ้นการสร้างน้ำนมแบบธรรมชาติอีกด้วย 
  • เก็บน้ำนมอย่างถูกต้อง หากคุณแม่ไม่รู้วิธีเก็บน้ำนมแม่อย่างถูกต้อง อาจทำให้น้ำนมเหม็นหืน หรือบูดเสีย ลูกกินไม่ได้ รวมถึงหากเช่เย็นเก็บหรือละลายในอุณหภูมิไม่เหมาะสม ก็ทำให้น้ำนมสูญเสียคุณค่าสารอาหารที่สำคัญ ดังนั้น ควรเก็บอย่างถูกต้อง ใส่ใจรายละเอียดเรื่องวันเวลาที่ปั๊มนม และระยะเวลาการเก็บนม เพื่อให้น้ำนมมีคุณภาพมากที่สุด 
  • อุ่นนมแม่ให้ถูก ลูกได้สารอาหารเต็มที่ เมื่อคุณแม่ปั๊มนมไว้ แล้วต้องอุ่นให้ลูกน้อยทาน วิธีการอุ่นนมจึงต้องทำให้เหมาะสม เพื่อรักษาคุณค่าน้ำนมให้ได้มากที่สุด เช่น นำนมแม่ไปแช่ไว้ในถ้วยที่ใส่น้ำอุณหภูมิห้อง หรือ เปิดน้ำผ่านให้น้ำนมละลาย ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องอุ่นนมที่ช่วยอำนวยความสะดวกมากขึ้น ด้วยการตั้งอุณหภูมิได้ที่ 37 องศา แล้วรอเวลาให้ลูกน้อยทานได้เลย โดยไม่เสียคุณค่าน้ำนมแม่และยังช่วยประหยัดเวลาได้อีกด้วย 
  • จดบันทึกวันที่ และเวลาในการปั๊มนม เมื่อปั๊มนมเสร็จแล้วให้เขียนวันที่และเวลากำกับไว้ที่ถุงเก็บนมด้วย เพื่อที่จะได้นำน้ำนมออกมาใช้ตามลำดับวันที่ได้อย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันนมบูดเสียจากการเก็บนานเกินไป 
  • ไม่เก็บน้ำนมบริเวณประตูตู้เย็น เพราะความเย็นจะไม่คงที่ ทำให้น้ำนมเสียได้ง่าย และควรนำนมสต๊อกออกมาให้ลูกกินภายใน 6 เดือน เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนของเชื้อโรค และถ้ามีแม่ที่สต๊อกเก็บไว้เกิน 1 ปีแล้ว ต้องทิ้งให้หมด 

BabyGift แนะนำตัวช่วยหรับคุณแม่ เพื่อการให้นมแม่อย่างมีคุณภาพ  

1. เครื่องปั๊มนม HAENIM 7V

เครื่องปั๊มนมสำหรับคุณแม่ยุคใหม่ มีสัมผัสที่นุ่มนวล เสมือนทารกเข้าเต้า ไม่ทำให้เจ็บเต้าขณะปั๊มนม ผลิตและนำเข้าจากประเทศเกาหลี ผ่านการตรวจสอบเเละได้รับการรับรองมาตรฐาน อย. ไทย มั่นใจได้ว่าปลอดภัยกับเเม่เเละลูกน้อย สินค้ามีรับประกันหลังคลอด 1 ปี  

จุดเด่น  

กรวยเคลือบซิลิโคน NexusFit™ ที่ได้รับการจดสิทธิบัตรเจ้าเดียวในโลก ให้ความรู้สึกนุ่มถนอมหัวนม ไม่ทำให้เจ็บเต้า  

โหมดการใช้งานปรับได้ทั้งความแรงและความเร็วรอบดูดในเครื่องเดียว เพิ่มทางเลือกให้ตรงใจแม่มากที่สุด ถึง 75 รูปแบบ  

  • มีโหมดจดจำ บันทึกเก็บไว้ใช้ครั้งต่อไปได้เลย ช่วยประหยัดเวลาแม่ในการปั๊มนม 
  • มีโคมไฟและหน้าจอมีแสงไฟ ปั๊มกลางคืนได้โดยไม่ต้องเปิดไฟห้อง ไม่รบกวนลูกน้อยและคนรอบข้าง 
  • เครื่องมีเสียงเบาขณะทำงาน ไม่รบกวนลูกน้อย 
  • ขนาดเล็ก พกง่าย น้ำหนักเบาเพียง 385 กรัม 
  • มีขวดนมมาให้ครบเซ็ท ปั๊มเสร็จเปลี่ยนเป็นจุกนมให้ลูกดื่มได้เลย

2. ถุงเก็บน้ำนม อลูมิเนียมฟอยล์ รุ่น Snowbear Series​ – Prince & Princess

ถุงเก็บน้ำนมเป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับคุณแม่ที่ต้องสต๊อกนมไว้ให้ลูกน้อย ซึ่งถุงเก็บน้ำนมตัวนี้เป็นแบบอลูมิเนียมฟอยล์ มีความทึบแสง 100% แข็งแรงทนทาน ป้องกันกลิ่นเหม็นหืนได้ดี ทั้งยังคงคุณค่าสารอาหารในน้ำนมได้อย่างครบถ้วน ให้ลูกน้อยได้กินนมของคุณแม่อย่างมีคุณภาพ  

จุดเด่น  

  • ถุงหนา 4 ชั้น ทำจากวัสดุ Aluminium foil เสริมด้วย Polyethylene, Polyamide และ Polyester แข็งแรงทนทานกว่าถุงเก็บน้ำนมพลาสติกใสทั่วไป  
  • เป็นถุงแบบทึบแสง 100% ช่วยคงคุณค่าสารอาหาร ลดกลิ่นหืน และยืดอายุในการเก็บน้ำนมแม่  
  • ผลิตด้วยเทคโนโลยีการปิดกั้นออกซิเจน ลดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ป้องกันการเปลี่ยนสีของน้ำนม  
  • ซิปล็อค 2 ชั้น  ซีลขอบข้าง 0.6 มิลลิเมตร เสริมความแข็งแรง ไม่แตกง่าย  
  • เก็บความเย็นได้นานกว่าถุงนมพลาสติกใสทั่วไป พร้อมทนอุณหภูมิต่ำได้มากถึง – 20 °องศาเซลเซียส 
  • ผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อวิธีเดียวกับการฆ่าเชื้อในอาหาร สะอาด ปลอดภัย ไม่มีสารตกค้าง  
  • มีช่องเทน้ำนมแยก ฉีกง่าย เทง่าย ไม่ปนเปื้อน   
  • เป็นถุงทรงเตี้ย เทน้ำนมได้ง่าย ไม่นอนก้น ถุงตั้งได้ ไม่ล้ม สามารถจัดเก็บแบบตั้งในตู้เย็นได้สะดวก 

3. เครื่องอุ่นนม Baby Bottle Warmer & Sterilizer – PRINCE & PRINCESS 

อุ่นนมให้ลูกพร้อมทาน ไม่เสียคุณค่าน้ำนมแม่ เหมาะสำหรับคุณแม่ที่เวลาน้อย ด้วยคุณสมบัต Warm โหมดทำงานอัจฉริยะ ตั้งอุณภูมิอุ่นน้ำนมได้ 

จุดเด่น 

  • Warm โหมดอุ่นนม อุ่นนมโดยไม่เสียคุณค่าค่า ตั้งอุณหภูมิได้ 37°C 
  • Defrost โหมดละลายน้ำแข็ง ละลายน้ำนมแช่แข็งและอุ่นนมให้ลูกพร้อมทาน 
  • Sterilize โหมดนึ่งฆ่าเชื้อขวดนม ด้วยไอน้ำความร้อนสูง 100°C พกง่าย ใส่ได้ 2 ขวด 
  • ประหยัดเวลาแม่ อุ่นนมให้ลูกพร้อมทาน พร้อมกันได้ถึง 2 ขวด 
  • BPA Free ปลอดภัย อุ่นนมให้ลูกอย่างมั่นใจ 
  • สั่งงานด้วยระบบ Touch Screen 
  • น้ำหนักเบา พกง่าย อุ่นนมให้ลูกได้ทุกที่ 
  • อุ่นใจ มีบริการหลังการขาย มีรับประกันสินค้า 

4. MOTHERY หมอนรองให้นม

อีกหนึ่งตัวช่วยสำหรับคุณแม่ที่ขาดไม่ได้ก็คือ หมอนรองให้นมลูก BabyGift ขอแนะนำ MOTHERY หมอนให้นมลูก 11 องศา ที่ให้ลูกเข้าเต้าด้วยองศาที่ดีที่สุด ด้วยดีไซน์แบบ U-curve และมี Back Support ช่วยลดอาการปวดเมื่อยได้ 5 จุด พัฒนาโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทำให้การเข้าเต้าเป็นเรื่องง่าย อีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญสำหรับคุณแม่ในการให้นมลูก เพื่อช่วงเวลาที่แสนอบอุ่นสำหรับคุณแม่และลูกน้อย 

จุดเด่น

  • หมอนเอียง 11องศา องศาที่ผ่านการวิจัยและคิดค้นโดยสูตินารีแพทย์ว่าเป็นองศาที่เหมาะสมที่สุดในการให้นม
  • ช่วยลดอาการปวดข้อมือและแขนจากการเกร็งประคองหัวลูก
  • ฟองน้ำทำจาก Polyurethane นุ่ม แน่น ไม่ยวบ สามารถคืนตัวได้ดี ไม่เสียทรง
  • เนื้อผ้า cotton แท้ 100% นุ่ม เบาสบาย และด้านใต้ทำจากวัสดุ 3D Polyester ระบายอากาศได้ดี
  • ช่วยถ่ายเทความร้อน ไม่อับชื้น ทำให้ลูกและแม่เย็นสบาย
  • มีช่องเก็บของด้านข้าง สามารถใส่ผ้าอ้อมหรือทิชชู่เปียกได้
  • มีที่เก็บสายรัดเอว ไม่เกะกะเวลาใช้งาน (กรณีที่ไม่ต้องการใช้ที่รัดเอว) และยังช่วยให้ติดตั้งสายรัดได้ง่ายขึ้น

ประโยชน์ของนมแม่ มีมากมาย นอกจากจะดีต่อตัวลูกน้อยเองแล้ว การให้นมลูกจากเต้ายังดีต่อตัวคุณแม่เองด้วย และถ้ามีตัวช่วยอย่างเครื่องปั๊มนม หรืออุปกรณ์ที่จำเป็นอื่น ๆ ก็จะช่วยซับพอร์ตคุณแม่ได้มากขึ้น ทั้งนี้ หากคุณแม่สนใจของใช้สำหรับแม่และเด็กก็สามารถเข้ามาเยี่ยมชมสินค้าได้ที่ร้าน BabyGift ร้านจำหน่ายสินค้าแม่และเด็กระดับคุณภาพ มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ร้านเบบี้กิ๊ฟทั้ง 5 สาขา ใกล้บ้าน หรือสอบถามผ่านช่องทาง Online ทีมงาน BabyGift ยินดีให้คำแนะนำค่ะ 

อ้างอิงที่มาข้อมูลบางส่วนจาก :  www.phyathai.com/th/article/2286-11_เหตุผลที่ลูกควรกินนมแ
www.unicef.org/thailand/th/stories/นมแม่แน่แค่หกเดือน-จริงหรือ

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00

บทความแนะนำ

Renolux บริษัทผู้ผลิตสินค้าเพื่อแม่และเด็ก มานานกว่า 40 ปี สัญชาติฝรั่งเศส ก่อตั้งขึ้นในเมือง Nord-Isère ใกล้กับเมือง Lyon เป็นผู้นำนวัตกรรมด้านความปลอดภัยของเด็ก โดยเฉพาะในด้านการผลิตคาร์ซีท จนในปัจจุบันมีการพัฒนากระบวนการผลิตโฟมโพลียูรีเทนแบบพิเศษ ที่เป็นเอกสิทธ์เฉพาะของบริษัท          ทำให้จากความเชี่ยวชาญและความรู้ที่สั่งสมมาช่วยให้เราสามารถคิดสร้างสรรค์และควบคุมแต่ละขั้นตอนของการผลิตผลิตภัณฑ์ดูแลเด็กของเราทุกขั้นตอนภายในไซต์ 17,000 ตารางเมตรที่ตั้งอยู่ใน Nord-Isère ได้อย่างมีประสิทธิภาพ          ปัจจุบันความรู้ทางอุตสาหกรรมของ Renolux ช่วยให้เราเชี่ยวชาญในเทคนิคต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เทคนิคพอลิเมอไรเซชันผ่านกระบวนการจดสิทธิบัตรของเรา (โฟมโพลียูรีเทน) งานโลหะ (การเจาะการตัดการรัดการเชื่อม) สิ่งทอ (การเคลือบการตัดการทำ) และการประกอบในที่สุด มุ่งมั่นที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกวัน          เพราะฉะนั้น การใช้ผลิตภัณฑ์ของ Renolux จะไม่ใช่แค่ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กทั่วไปเท่านั้น แต่ยังได้ความเชี่ยวชาญมากกว่า 40 ปี ในการให้บริการผลิตภัณฑ์ดูแลเด็กที่มีคุณภาพของ Renolux           คาร์ซีท Renolux Renofix คาร์ซีทเด็กโตที่สามารถใช้ได้ตั้งแต่เด็กน้ำหนัก 15 – 36 KG. […]

บ้านไหน ? กำลังวางแผนซื้อรถเข็นให้ลูกอยู่บ้างเอ่ยยย พ่อแม่หลายคนถาม หมอแอม เข้ามากันเยอะมาๆๆ ว่าเวลาซื้อรถเข็นให้ลูกควรดูเรื่องอะไรบ้าง เลือกรถเข็นให้ลูกยังไง? ให้เหมาะกับสถานการณ์โควิด และสภาพแดดบ้านเราแบบนี้ ?? วันนี้ หมอแอม มีหลักการเลือกรถเข็นเด็ก ง่ายๆ สไตล์คุณหมอมาฝากกันค่ะ จะมีเคล็ดลับอะไรบ้าง ตามมาดูกันเลยค่ะ                    ตั้งแต่ปี 2019 จนถึงช่วงนี้ที่มีสถานการณ์โควิดระบาด และคิดว่าน่าจะอยู่กับเราไปอีกสักพัก  เด็กเล็ก 0-2 ขวบที่ยังใส่แมสก์เหมือนผู้ใหญ่ไม่ได้ คำแนะนำของสมาคมกุมารแพทย์สหรัฐอเมริกา และกรมอนามัย คือ แนะนำว่าเด็กเล็กๆให้หาผ้าคลุม หรือใช้รถเข็นเด็กแล้วคลุมผ้าไว้แทนการใส่แมสก์ได้ค่ะ  ทีนี้จะเลือกรถเข็นยังไงล่ะ? ให้เหมาะกับลูก เหมาะกับบ้านเรา และเหมาะกับสถานการณ์โควิด หรือสารพัดโรคระบาดของเด็กเล็กได้ วันนี้หมอแอมมีหลักการเลือกรถเข็นเด็กมาฝากค่ะ หลักการเลือกรถเข็นเด็ก 5 ข้อ เพจเรื่องเด็กๆ by หมอแอม 1) อันดับแรกที่ หมอแอม ดู คือ โครงสร้างต้องแข็งแรง และมีระบบลดการสั่นสะเทือน […]

คุณแม่ท้องหรือคุณแม่หลังคลอด ที่อยากเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อยากสต็อกนมแม่ให้ได้เยอะ ๆ  หลายคนเลยเกิดข้อสงสัยว่า นอกจากอาหารการกินที่ช่วยเพิ่มน้ำนมได้แล้ว วิธีนวดกระตุ้นน้ำนม การนวดเต้านม นวดเปิดท่อน้ำนม ที่ได้เห็นผ่านตาตามฟีดข่าวโซเชียลต่าง ๆ นั้น ช่วยเพิ่มน้ำนมได้จริงไหม แล้วมีเทคนิคอย่างอื่นช่วยกระตุ้นน้ำนมได้หรือเปล่า วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยให้คุณแม่และแชร์เทคนิคดี ๆ ให้คุณแม่ได้อ่านกันค่ะ การนวดเต้านม ช่วยกระตุ้นน้ำนมได้จริงไหม การนวดเต้านมให้ผ่อนคลายในท่าต่าง ๆ แบบนวดธรรมชาติทั่วไป ไม่ได้มีการรีดน้ำนมของคุณแม่ให้ออกมาแบบเกลี้ยงเต้า จะมีข้อดีคือจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของระบบต่าง ๆ ช่วยให้คุณแม่รู้สึกสบาย ผ่อนคลาย ลดปัญหาคัดตึงเต้านมได้ แต่การนวดแบบไม่ได้รีดน้ำนมออกมาให้เกลี้ยงเต้า ก็จะไม่ได้ช่วยกระตุ้นสร้างน้ำนมเท่าที่ควรนะคะ เพราะยังมีน้ำนมค้างเต้าอยู่ ร่างกายของคุณแม่ก็จะไม่สั่งผลิตน้ำนมเพิ่มค่ะ วิธีนวดกระตุ้นน้ำนม นวดแบบไหนช่วยเพิ่มน้ำนมได้ ? จากข้อมูลของคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านนมแม่ คุณหมอจะแนะนำให้บีบเต้านมในท่าที่ถูกวิธีด้วยมือ รีดน้ำนมของคุณแม่ให้ออกมาจนเกลี้ยงเต้า และการทำกระตุ้นจี๊ดนวดหัวนมไปด้วยเพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้น้ำนมเกลี้ยงเต้ามากขึ้น เมื่อน้ำนมเกลี้ยงเต้าแล้ว ร่างกายคุณแม่ก็จะสั่งผลิตน้ำนมใหม่มาทดแทน หากเอาลูกน้อยเข้าเต้าบ่อย ๆ ควบคู่ไปด้วย ร่างกายก็จะรับรู้ว่าลูกมีความต้องการ ก็จะรีบผลิตน้ำนมแม่เพิ่มอีก ก็จะทำให้มีน้ำนมมากขึ้นได้จริง ซึ่งคุณแม่ต้องรู้วิธีนวดเต้านมที่ถูกต้องก่อนนะคะ และต้องฝึกทำบ่อย ๆ ด้วยค่ะ 4 วิธีนวดกระตุ้นน้ำนม ให้เห็นผล คุณแม่ต้องใช้ขวดนม หรือ แก้ว […]

คุณแม่หลาย ๆ ท่านคงเคยดูคลิปทารกน้อยใส่ห่วงลอยน้ำ ฝึกน้ำดำ และฝึกลอยตัวอยู่ในน้ำกันใช่ไหมคะ เป็นคลิปที่น่าเอ็นดูมากเลย และหากลูกรักของเราได้ลองทำดูบ้างคงน่ารักมากแน่นอน แต่ก็ยังมีข้อสงสัยว่าจะให้ลูกเริ่มเรียนว่ายน้ำได้ตอนไหน ใช้อุปกรณ์อะไร ปลอดภัยแค่ไหน แล้วจะเลือกโรงเรียนว่ายน้ำแบบไหนให้ลูกดี เรามีคำตอบมาฝากกันค่ะ ลูกทารกเริ่มเรียนว่ายน้ำได้เมื่อไร?  เด็กทารกสามารถเรียนว่ายน้ำได้ตั้งแต่อายุ 3-4 เดือนขึ้นไป โดยให้คุณพ่อคุณแม่สังเกตว่าร่างกายของลูกพร้อมแค่ไหน ให้ลองเริ่มใช้ห่วงยางสวมศีรษะของลูกเพื่อช่วยพยุงตัวในน้ำ เมื่อปล่อยลูกลงสระน้ำแล้วลูกสามารถลอยตัวได้โดยไม่กลัวน้ำเลย การฝึกแบบนี้ก่อนจะช่วยให้ลูกมีความเคยชินกับน้ำ ไม่กลัวน้ำ และเพื่อในอนาคตจะได้หัดว่ายน้ำได้อย่างสบาย หรือจะเริ่มฝึกหรือเรียนว่ายน้ำในช่วงวัย 1 ขวบขึ้นไป ก็เป็นวัยที่เหมาะสมที่สุด เพราะเป็นช่วงที่ลูกมีพัฒนาการด้านภาษาดีขึ้น เข้าใจภาษาที่ผู้ใหญ่หรือพ่อแม่สื่อสาร เริ่มควบคุมการเคลื่อนไหวแขนขาได้ดีขึ้นมากแล้ว สระน้ำแบบไหน ปลอดภัยต่อเด็กเล็ก สระน้ำระบบน้ำเกลือจะเป็นระบบควบคุมความสะอาดของน้ำด้วยเกลือธรรมชาติ มีค่า pH balance ในใกล้เคียงกับน้ำตาธรรมชาติของคน ทำให้ไม่ระคายเคืองต่อตาหรือผิวหนังของเด็กทารก สระน้ำระบบโอโซน จะเป็นระบบที่เอาก๊าซโอโซนมาบำบัดน้ำในสระ มีประสิทธิภาพสูง สามารถฆ่าเชื้อโรคได้ในเวลาอันสั้น และไม่มีสารเคมีตกค้าง ไม่ทำให้ดวงตาหรือผิวหนังทารกระคายเคือง ซึ่งสระระบบนี้ยังไม่ค่อยมีให้บริการมากนัก   เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันของทารกยังไม่แข็งแรง สระน้ำควรจะควบคุมอุณหภูมิน้ำให้อยู่ที่ประมาณ 30- 35 องศาเซลเซียส เพื่อให้ร่างกายของลูกสามารถปรับอุณหภูมิได้ง่าย ไม่ป่วย อุปกรณ์สำคัญเมื่อลูกเล็กต้องว่ายน้ำ เลือกโรงเรียนสอนว่ายน้ำทารกแบบไหน ปลอดภัยเหมาะสม  ข้อดี […]

คุณแพรว เพชรแพรว อัครเตชวาทิน หรือแม่แพรว จากเพจ PRAEW ที่หลายคนรู้จักกันดีในบทบาทของ Influencer สายแม่และเด็ก ที่แชร์ประสบการณ์การเลี้ยงลูกเชิงบวกได้อย่างดี ซึ่งเราจะเห็นได้จากกน้อง เฌอลินน์ ลูกสาวคนโตที่โตขึ้นมาเป็นเด็กอารมณ์ดี มีความสามารถ ทำให้ใครหลายๆคนหลงกับความน่ารักของน้อง เฌอลินน์ ไปตามๆกัน และล่าสุดต้องขอแสดงความยินดีกับคุณแพรว กับการคลอดลูกคนที่ 2 ที่มีชื่อว่า เมอฌินน์ หรือฉายา เจ้าลูกชิ้น ลูกชายคนแรกของแม่แพรวด่วยค่ะ            และถ้าใครเคยตาม หรือเคยเข้าไปดูเพจ PRAEW จะรู้ว่า แม่แพรวจะ Post Content ให้ความรู้ แชร์ประสบการณ์การเลี้ยงลูกไว้เป็นจำนวนมาก และล่าสุด คุณแพรวก็ได้แชร์ประสบการณ์การใช้คาร์ซีทในวันแรกที่พาน้อง เมอฌินน์ ออกจากโรงพยาบาล วันนี้ทาง BabyGift ขอนำมาแชร์ต่อค่ะ พร้อมพามาดูกันว่า คาร์ซีทที่น้อง เมอฌินน์ ใช้คือคาร์ซีทรุ่นไหน  คุณแพรว ได้แชร์ไว้ว่า ทุกครั้งที่นั่งรถ แพรวต้องให้ลูกนั่งคาร์ซีททุกครั้งค่ะ เพราะสำหรับแพรวความปลอดภัยของลูกคือสิ่งที่สำคัญที่สุด สำหรับคาร์ซีทที่แพรวเลือกให้เมอคือ คาร์ซีท Ailebebe Kurutto ค่ะ อันนี้เป็นรุ่น 6 รุ่นใหม่ของเค้าค่ะ คุณแพรว ยังบอกอีกว่า ที่แพรวเลือกรุ่นนี้เพราะแพรวมั่นใจคือเรื่องความปลอดภัยของเค้าค่ะ เค้ามีเทคโนโลยีพิเศษที่เพิ่มความปลอดภัยที่ทำให้เมอปลอดภัยมากขึ้นเวลาที่นอนอยู่บนคาร์ซีท วัสดุดีมาก! มีมาตรฐานรองรับจากโรงงานประเทศญี่ปุ่นและความปลอดภัยระดับยุโรป เบาะก็ Support ดี สบาย ระบายอากาศได้ ไม่อึดอัดเลยค่ะ ปรับเอนนอนได้ นั่งทุกครั้งเมอฌินน์หลับปุ๋ยตลอด ติดตั้งง่ายด้วยระบบ Isofix ที่สำคัญที่มามี๊แฮปปี้ที่สุด […]

การนับอายุครรภ์คือหนึ่งในเรื่องที่สร้างความสับสนให้คุณแม่มือใหม่หลายคน และมักจะถูกถามบ่อย ๆ ว่า “ตอนนี้ท้องกี่เดือนแล้ว?” “อายุครรภ์เท่าไหร่?” ซึ่งบางครั้งคุณแม่เองก็อาจจะยังไม่แน่ใจนัก การทราบอายุครรภ์ที่แม่นยำจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะไม่ใช่แค่เพื่อตอบคำถาม แต่ยังเพื่อความปลอดภัยและพัฒนาการที่ดีของลูกน้อยในครรภ์นั่นเอง วันนี้ BabyGift จะพาคุณแม่มาไขข้อสงสัยและเรียนรู้วิธีการนับอายุครรภ์ให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำที่สุดกัน การนับอายุครรภ์สำคัญอย่างไร การนับอายุครรภ์ที่ถูกต้องและแม่นยำมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการดูแลสุขภาพทั้งของคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์ เพราะจะช่วยให้แพทย์สามารถประเมินพัฒนาการของทารกได้อย่างเหมาะสมในแต่ละสัปดาห์ รวมถึงวางแผนการตรวจครรภ์และติดตามความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ตลอดการตั้งครรภ์ ซึ่งจะนำไปสู่การดูแลที่ตรงจุดและมีประสิทธิภาพสูงสุด ประโยชน์ของการนับอายุครรภ์ การนับอายุครรภ์มีประโยชน์หลายอย่างที่คุณแม่ควรรู้ ประการแรกคือช่วยให้แพทย์ประเมินพัฒนาการของทารกในครรภ์ได้ตรงตามช่วงอายุจริง เช่น ขนาดของทารก หรือการเต้นของหัวใจ ประการที่สองคือช่วยกำหนดวันคลอดที่คาดการณ์ไว้ (EDC) ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในการเตรียมความพร้อมเรื่องของใช้ต่าง ๆ เช่น ของเตรียมคลอด ของใช้ลูกแรกเกิด อุปกรณ์แม่และเด็กมีอะไรบ้าง หรือการวางแผนการลาคลอด ประการที่สามคือใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจทางการแพทย์ เช่น การให้ยา หรือการทำหัตถการต่าง ๆ อย่างปลอดภัย 6 วิธีนับอายุครรภ์ที่ทำได้ด้วยตัวเอง การนับอายุครรภ์ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด คุณแม่สามารถเริ่มต้นคำนวณได้ด้วยตัวเองหลากหลายวิธี ซึ่งแต่ละวิธีก็มีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกันไป 1. นับอายุครรภ์ที่นับตามวันแรกของประจำเดือนครั้งสุดท้าย วิธีนี้เป็นวิธีพื้นฐานที่ใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับคุณแม่ที่จำวันแรกของประจำเดือนครั้งสุดท้ายได้แม่นยำ โดยสูตินรีแพทย์จะเริ่มนับอายุครรภ์จากวันแรกของประจำเดือนครั้งสุดท้ายที่มา (LMP) และใช้เป็นจุดเริ่มต้นของการตั้งครรภ์ ซึ่งปกติแล้วการตั้งครรภ์จะครบกำหนดที่ 40 สัปดาห์ หรือ 280 วัน นับจากวันแรกของประจำเดือนครั้งสุดท้าย และสามารถนำไปคำนวณวันคลอดที่คาดไว้ได้อย่างแม่นยำ […]

Menu
All Categories
All Brands
All Ages
Promotions
Locations
BabyGift Family
BabyGift Care
Parents Guide
News & Event

All Categories

All Categories
All Brands
All Ages