ประโยชน์ของนมแม่ ดียังไง ? ทำไมลูกถึงต้องกินนมแม่ ?

ว่ากันว่า “น้ำนมของแม่นั้นดีที่สุด” มีคำแนะนำทางการแพทย์ว่าควรให้ทารกกินนมแม่ไปจนถึงอายุ 2 ขวบหรือนานกว่านั้น แม้ว่าลูกน้อยจะอายุ 6 เดือนขึ้นไปแล้ว ก็ควรกินน้ำนมของแม่ร่วมกับการกินอาหารอื่น ๆ เพื่อเสริมคุณค่าทางโภชนาการ เพราะในน้ำนมของแม่นั้นมีความสำคัญต่อลูกน้อยมาก ๆ ในน้ำนมมีสารอาหารที่ดีต่อลูกน้อยหลายอย่าง ทั้งยังมีภูมิคุ้มกันที่ช่วยปกป้องลูกน้อยให้แข็งแรง นอกจากนี้ การให้ลูกกินน้ำนมของแม่ก็ยังมีข้อดีต่อตัวคุณแม่เองด้วยเช่นกัน ประโยชน์ของนมแม่ มีอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลยค่ะ 

ประโยชน์ นมแม่ อาหารเปี่ยมคุณค่าสำหรับลูกน้อย 

นมแม่นั้นเป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารกแรกเกิด เพราะเต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ และช่วยเสริมภูมิต้านทานโรคให้กับลูก ประโยชน์ของนมแม่ช่วยลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วย และในขณะที่ทารกกินน้ำนมจากเต้าของนั้น ก็เป็นการช่วยสร้างความผูกพันระหว่างแม่กับลูกด้วย ทั้งยังทำให้ทารกรู้สึกอบอุ่นปลอดภัยนอกจากนี้ สำหรับคุณแม่เอง การให้ลูกกินนมก็ยังจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งเต้านม มะเร็งรังไข่ และเบาหวาน โดยองค์การอนามัยโลก และยูนิเซฟมีคำแนะนำเกี่ยวกับการให้นมของแม่เอาไว้ดังนี้ค่ะ 

  • ควรให้นมทันทีในช่วง 1 ชั่วโมงแรกหลังคลอด เพราะจะช่วยกระตุ้นให้เกิดความรัก ความผูกพันระหว่างแม่ลูก และช่วยให้น้ำนมมาเร็ว 
  • ควรให้เด็กกินน้ำนมของแม่เพียงอย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรกหลังคลอด ซึ่งในน้ำนมนั้นประกอบไปด้วยสารอาหาร วิตามินและแร่ธาตุมากมายอันจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของลูกน้อย  
  • ควรให้นมอย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับอาหารอื่นๆ ในช่วงที่ลูกอายุมากกว่า 6 เดือน และควรให้นมไปจนถึงอายุ 2 ขวบหรือมากกว่านั้น  

ประโยชน์ของนมแม่ มีอะไรบ้าง ?  

  1. มีคุณค่าทางโภชนาการ
    ในน้ำนมนั้นมีสารอาหารที่จำเป็นสำหรับทารกหลายอย่าง ทั้งพลังงาน โปรตีน ไขมัน แคลเซียม วิตามินเอ วิตามินบี โฟเลต และวิตามินซี ทั้งยังมีฮอร์โมนที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของทารก และยังช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้กับลูกน้อยอีกด้วย 
  2. ดีต่อระบบทางเดินอาหาร และระบบขับถ่ายของลูก 
    ในน้ำนมมีโพรไบโอติกส์ที่ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของแบคทีเรียที่ดีต่อลำไส้ของทารก และยังมีสารนิวคลีโอไทด์ที่ช่วยให้เยื่อบุลำไส้ในทารกเจริญเติบโตได้เร็วเพื่อพร้อมรับการสัมผัสกับเชื้อประจำถิ่นได้
  3. ช่วยให้ลูกมีสุขภาพแข็งแรง ป้องกันการเกิดโรค
    ประโยชน์ของนมแม่นั้นช่วยป้องกันการแพ้โปรตีน และป้องกันการเกิดโรคภูมิแพ้ โรคหอบหืด ช่วยลดการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจ โรคอุจจาระร่วง ช่วยลดอัตราการตายของทารก และลดโอกาสการเกิดโรคเบาหวานในอนาคตอีกด้วย
  4. มีประโยชน์ต่อพัฒนาการทางสมองของทารก
    ในนมแม่มีกรดไขมันที่จำเป็นสำหรับทารกอย่าง DHA ซึ่งดีต่อพัฒนาการทางสมองและระบบประสาทของทารก มีการศึกษาพบว่า ทารกที่กินนมของแม่มีพัฒนาการทางสมองและเชาว์ปัญญา (IQ) ที่ดีกว่าทารกที่กินนมผสม
  5. ช่วยส่งเสริมด้านอารมณ์ และจิตใจของเด็ก
    ประโยชน์ของนมแม่นั้น นอกจากจะดีต่อร่างกายของลูกน้อยแล้ว การให้นมยังส่งผลต่อพัฒนาการด้านอารมณ์และจิตใจของลูกน้อยอีกด้วย เด็กที่กินนมจากเต้าคุณแม่จะได้รับความอบอุ่นทางใจ การที่แม่โอบกอดลูกน้อยระหว่างกินนมจะทำให้ลูกได้รับความอบอุ่น รับรู้ได้ถึงความรัก ความปลอดภัย รู้สึกสงบ ไม่ร้องไห้งอแง ส่งผลให้ลูกน้อยมีความสุขทางใจ ทำให้มีสุขภาพจิตที่ดี และมีการปรับตัวเข้ากับสังคมได้ดีเมื่อโตขึ้น

ชวนรู้ การให้นมลูกก็มีประโยชน์ต่อคุณแม่เองด้วย  

ประโยชน์ของนมแม่ นอกจากจะดีต่อลูกน้อยแล้ว การที่คุณแม่ให้นมลูก ก็มีข้อดีต่อตัวคุณแม่เองด้วย ดังนี้  

  • ช่วยให้มดลูกเข้าอู่ และกลับสู่สภาพเดิมได้เร็วขึ้น ในช่วงที่แม่ให้นมลูก จะมีการหลั่งฮอร์โมน Oxytoxin ซึ่งจะช่วยมดลูกหดรัดตัวได้ดี ทำให้มดลูกเข้าอู่ได้เร็วขึ้น 
  • ช่วยลดอาการซึมเศร้าหลังคลอดของคุณแม่ เพราะ Oxytocin หรือฮอร์โมนแห่งความรักจะช่วยให้คุณแม่เกิดความผ่อนคลาย ทำให้มีความสุขในขณะให้นมลูก ช่วยสร้างความรัก และความผูกพันธ์ระหว่างแม่กับลูก 
  • การให้นมลูกหลังคลอดจะช่วยลดโอกาสในการเกิดมะเร็งเต้านม และมะเร็งรังไข่ แถมยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคความดัน เบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือดอีกด้วย  
  • ช่วยให้น้ำหนักของคุณแม่ลดลงอย่างรวดเร็ว เพราะมีการกระตุ้นการสร้างฮอร์โมนที่ช่วยลดการสะสมของไขมัน ทำให้คุณแม่มีรูปร่างที่ดีขึ้น  

Tips ในการให้นม สำหรับคุณแม่มือใหม่ 

เมื่อได้รู้ประโยชน์ของนมแม่กันแล้ว เชื่อว่าคุณแม่หลายๆ ท่านก็อยากจะให้ลูกน้อยของเราได้กินนมตั้งแต่แรกเกินไปจนถึงอายุ 2 – 3 ขวบ แต่ในบางคนก็ต้องกลับไปทำงานประจำหลังพ้นช่วงลาคลอด 3 เดือน ซึ่งไม่สามารถให้ลูกกินนมจากเต้าได้ตลอดเวลา แล้วจะมีวิธีการเก็บน้ำนมคุณแม่อย่างไรให้มีคุณภาพดี มีเคล็ดลับอะไรสำหรับคุณแม่บ้าง มาดูคำแนะนำกันค่ะ  

  • ใช้เครื่องปั๊มนม เพื่อสต๊อกน้ำนมไว้ให้ลูกน้อยขณะที่ไม่อยู่บ้าน คุณแม่บางคนอาจจะสงสัยว่า เครื่องปั๊มนม จำเป็นไหม ซึ่งประโยชน์ของเครื่องปั๊มนมนั้น จะช่วยกระตุ้นให้น้ำนมคุณแม่มีต่อเนื่อง และช่วยกระตุ้นการเพิ่มปริมาณน้ำนมให้เพียงพอต่อลูกน้อย หากคุณแม่ไม่ได้ให้ลูกดูดนม หรือปั๊มนมเพื่อกระตุ้นและระบายน้ำนมออกทุกๆ  2 – 3 ชั่วโมงอย่างสม่ำเสมอ น้ำนมของแม่ก็จะผลิตน้อยลงจนหายไป ลูกก็จะไม่ได้กินนมของคุณแม่อย่างเต็มที่นั่นเองค่ะ 
  • ควรให้ลูกดูดนมจากเต้าอยู่เสมอ ในคุณแม่ที่ต้องไปทำงาน ก็ควรให้ลูกดูดนมจากเต้าเป็นประจำทุกวัน เช่น ช่วงเช้าก่อนไปทำงาน ช่วงเย็นหลังกลับจากที่ทำงาน และตอนกลางคืน เป็นต้น และวันหยุดควรเอาลูกเข้าเต้าทุกครั้ง เพราะการที่ลูกดูดนมจากเต้าของแม่จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการด้านจิตใจและอารมณ์ทั้งคุณแม่และลูกน้อย และยังเป็นการกระตุ้นการสร้างน้ำนมแบบธรรมชาติอีกด้วย 
  • เก็บน้ำนมอย่างถูกต้อง หากคุณแม่ไม่รู้วิธีเก็บน้ำนมแม่อย่างถูกต้อง อาจทำให้น้ำนมเหม็นหืน หรือบูดเสีย ลูกกินไม่ได้ รวมถึงหากเช่เย็นเก็บหรือละลายในอุณหภูมิไม่เหมาะสม ก็ทำให้น้ำนมสูญเสียคุณค่าสารอาหารที่สำคัญ ดังนั้น ควรเก็บอย่างถูกต้อง ใส่ใจรายละเอียดเรื่องวันเวลาที่ปั๊มนม และระยะเวลาการเก็บนม เพื่อให้น้ำนมมีคุณภาพมากที่สุด 
  • อุ่นนมแม่ให้ถูก ลูกได้สารอาหารเต็มที่ เมื่อคุณแม่ปั๊มนมไว้ แล้วต้องอุ่นให้ลูกน้อยทาน วิธีการอุ่นนมจึงต้องทำให้เหมาะสม เพื่อรักษาคุณค่าน้ำนมให้ได้มากที่สุด เช่น นำนมแม่ไปแช่ไว้ในถ้วยที่ใส่น้ำอุณหภูมิห้อง หรือ เปิดน้ำผ่านให้น้ำนมละลาย ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องอุ่นนมที่ช่วยอำนวยความสะดวกมากขึ้น ด้วยการตั้งอุณหภูมิได้ที่ 37 องศา แล้วรอเวลาให้ลูกน้อยทานได้เลย โดยไม่เสียคุณค่าน้ำนมแม่และยังช่วยประหยัดเวลาได้อีกด้วย 
  • จดบันทึกวันที่ และเวลาในการปั๊มนม เมื่อปั๊มนมเสร็จแล้วให้เขียนวันที่และเวลากำกับไว้ที่ถุงเก็บนมด้วย เพื่อที่จะได้นำน้ำนมออกมาใช้ตามลำดับวันที่ได้อย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันนมบูดเสียจากการเก็บนานเกินไป 
  • ไม่เก็บน้ำนมบริเวณประตูตู้เย็น เพราะความเย็นจะไม่คงที่ ทำให้น้ำนมเสียได้ง่าย และควรนำนมสต๊อกออกมาให้ลูกกินภายใน 6 เดือน เพื่อป้องกันความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนของเชื้อโรค และถ้ามีแม่ที่สต๊อกเก็บไว้เกิน 1 ปีแล้ว ต้องทิ้งให้หมด 

BabyGift แนะนำตัวช่วยหรับคุณแม่ เพื่อการให้นมแม่อย่างมีคุณภาพ  

1. เครื่องปั๊มนม HAENIM 7V

เครื่องปั๊มนมสำหรับคุณแม่ยุคใหม่ มีสัมผัสที่นุ่มนวล เสมือนทารกเข้าเต้า ไม่ทำให้เจ็บเต้าขณะปั๊มนม ผลิตและนำเข้าจากประเทศเกาหลี ผ่านการตรวจสอบเเละได้รับการรับรองมาตรฐาน อย. ไทย มั่นใจได้ว่าปลอดภัยกับเเม่เเละลูกน้อย สินค้ามีรับประกันหลังคลอด 1 ปี  

จุดเด่น  

กรวยเคลือบซิลิโคน NexusFit™ ที่ได้รับการจดสิทธิบัตรเจ้าเดียวในโลก ให้ความรู้สึกนุ่มถนอมหัวนม ไม่ทำให้เจ็บเต้า  

โหมดการใช้งานปรับได้ทั้งความแรงและความเร็วรอบดูดในเครื่องเดียว เพิ่มทางเลือกให้ตรงใจแม่มากที่สุด ถึง 75 รูปแบบ  

  • มีโหมดจดจำ บันทึกเก็บไว้ใช้ครั้งต่อไปได้เลย ช่วยประหยัดเวลาแม่ในการปั๊มนม 
  • มีโคมไฟและหน้าจอมีแสงไฟ ปั๊มกลางคืนได้โดยไม่ต้องเปิดไฟห้อง ไม่รบกวนลูกน้อยและคนรอบข้าง 
  • เครื่องมีเสียงเบาขณะทำงาน ไม่รบกวนลูกน้อย 
  • ขนาดเล็ก พกง่าย น้ำหนักเบาเพียง 385 กรัม 
  • มีขวดนมมาให้ครบเซ็ท ปั๊มเสร็จเปลี่ยนเป็นจุกนมให้ลูกดื่มได้เลย

2. ถุงเก็บน้ำนม อลูมิเนียมฟอยล์ รุ่น Snowbear Series​ – Prince & Princess

ถุงเก็บน้ำนมเป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับคุณแม่ที่ต้องสต๊อกนมไว้ให้ลูกน้อย ซึ่งถุงเก็บน้ำนมตัวนี้เป็นแบบอลูมิเนียมฟอยล์ มีความทึบแสง 100% แข็งแรงทนทาน ป้องกันกลิ่นเหม็นหืนได้ดี ทั้งยังคงคุณค่าสารอาหารในน้ำนมได้อย่างครบถ้วน ให้ลูกน้อยได้กินนมของคุณแม่อย่างมีคุณภาพ  

จุดเด่น  

  • ถุงหนา 4 ชั้น ทำจากวัสดุ Aluminium foil เสริมด้วย Polyethylene, Polyamide และ Polyester แข็งแรงทนทานกว่าถุงเก็บน้ำนมพลาสติกใสทั่วไป  
  • เป็นถุงแบบทึบแสง 100% ช่วยคงคุณค่าสารอาหาร ลดกลิ่นหืน และยืดอายุในการเก็บน้ำนมแม่  
  • ผลิตด้วยเทคโนโลยีการปิดกั้นออกซิเจน ลดปฏิกิริยาออกซิเดชั่น ป้องกันการเปลี่ยนสีของน้ำนม  
  • ซิปล็อค 2 ชั้น  ซีลขอบข้าง 0.6 มิลลิเมตร เสริมความแข็งแรง ไม่แตกง่าย  
  • เก็บความเย็นได้นานกว่าถุงนมพลาสติกใสทั่วไป พร้อมทนอุณหภูมิต่ำได้มากถึง – 20 °องศาเซลเซียส 
  • ผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อวิธีเดียวกับการฆ่าเชื้อในอาหาร สะอาด ปลอดภัย ไม่มีสารตกค้าง  
  • มีช่องเทน้ำนมแยก ฉีกง่าย เทง่าย ไม่ปนเปื้อน   
  • เป็นถุงทรงเตี้ย เทน้ำนมได้ง่าย ไม่นอนก้น ถุงตั้งได้ ไม่ล้ม สามารถจัดเก็บแบบตั้งในตู้เย็นได้สะดวก 

3. เครื่องอุ่นนม Baby Bottle Warmer & Sterilizer – PRINCE & PRINCESS 

อุ่นนมให้ลูกพร้อมทาน ไม่เสียคุณค่าน้ำนมแม่ เหมาะสำหรับคุณแม่ที่เวลาน้อย ด้วยคุณสมบัต Warm โหมดทำงานอัจฉริยะ ตั้งอุณภูมิอุ่นน้ำนมได้ 

จุดเด่น 

  • Warm โหมดอุ่นนม อุ่นนมโดยไม่เสียคุณค่าค่า ตั้งอุณหภูมิได้ 37°C 
  • Defrost โหมดละลายน้ำแข็ง ละลายน้ำนมแช่แข็งและอุ่นนมให้ลูกพร้อมทาน 
  • Sterilize โหมดนึ่งฆ่าเชื้อขวดนม ด้วยไอน้ำความร้อนสูง 100°C พกง่าย ใส่ได้ 2 ขวด 
  • ประหยัดเวลาแม่ อุ่นนมให้ลูกพร้อมทาน พร้อมกันได้ถึง 2 ขวด 
  • BPA Free ปลอดภัย อุ่นนมให้ลูกอย่างมั่นใจ 
  • สั่งงานด้วยระบบ Touch Screen 
  • น้ำหนักเบา พกง่าย อุ่นนมให้ลูกได้ทุกที่ 
  • อุ่นใจ มีบริการหลังการขาย มีรับประกันสินค้า 

4. MOTHERY หมอนรองให้นม

อีกหนึ่งตัวช่วยสำหรับคุณแม่ที่ขาดไม่ได้ก็คือ หมอนรองให้นมลูก BabyGift ขอแนะนำ MOTHERY หมอนให้นมลูก 11 องศา ที่ให้ลูกเข้าเต้าด้วยองศาที่ดีที่สุด ด้วยดีไซน์แบบ U-curve และมี Back Support ช่วยลดอาการปวดเมื่อยได้ 5 จุด พัฒนาโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ทำให้การเข้าเต้าเป็นเรื่องง่าย อีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญสำหรับคุณแม่ในการให้นมลูก เพื่อช่วงเวลาที่แสนอบอุ่นสำหรับคุณแม่และลูกน้อย 

จุดเด่น

  • หมอนเอียง 11องศา องศาที่ผ่านการวิจัยและคิดค้นโดยสูตินารีแพทย์ว่าเป็นองศาที่เหมาะสมที่สุดในการให้นม
  • ช่วยลดอาการปวดข้อมือและแขนจากการเกร็งประคองหัวลูก
  • ฟองน้ำทำจาก Polyurethane นุ่ม แน่น ไม่ยวบ สามารถคืนตัวได้ดี ไม่เสียทรง
  • เนื้อผ้า cotton แท้ 100% นุ่ม เบาสบาย และด้านใต้ทำจากวัสดุ 3D Polyester ระบายอากาศได้ดี
  • ช่วยถ่ายเทความร้อน ไม่อับชื้น ทำให้ลูกและแม่เย็นสบาย
  • มีช่องเก็บของด้านข้าง สามารถใส่ผ้าอ้อมหรือทิชชู่เปียกได้
  • มีที่เก็บสายรัดเอว ไม่เกะกะเวลาใช้งาน (กรณีที่ไม่ต้องการใช้ที่รัดเอว) และยังช่วยให้ติดตั้งสายรัดได้ง่ายขึ้น

ประโยชน์ของนมแม่ มีมากมาย นอกจากจะดีต่อตัวลูกน้อยเองแล้ว การให้นมลูกจากเต้ายังดีต่อตัวคุณแม่เองด้วย และถ้ามีตัวช่วยอย่างเครื่องปั๊มนม หรืออุปกรณ์ที่จำเป็นอื่น ๆ ก็จะช่วยซับพอร์ตคุณแม่ได้มากขึ้น ทั้งนี้ หากคุณแม่สนใจของใช้สำหรับแม่และเด็กก็สามารถเข้ามาเยี่ยมชมสินค้าได้ที่ร้าน BabyGift ร้านจำหน่ายสินค้าแม่และเด็กระดับคุณภาพ มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ร้านเบบี้กิ๊ฟทั้ง 5 สาขา ใกล้บ้าน หรือสอบถามผ่านช่องทาง Online ทีมงาน BabyGift ยินดีให้คำแนะนำค่ะ 

อ้างอิงที่มาข้อมูลบางส่วนจาก :  www.phyathai.com/th/article/2286-11_เหตุผลที่ลูกควรกินนมแ
www.unicef.org/thailand/th/stories/นมแม่แน่แค่หกเดือน-จริงหรือ

สินค้าที่เกี่ยวข้อง

คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00
คาร์ซีทเด็กโต AILEBEBE รุ่น Papatto Premium

สำหรับเด็กแรกเกิด – 7 ขวบ / 25kg (Group 0+/1/2)

7,700.00

บทความแนะนำ

เมื่อลูกน้อยถึงวัยเริ่มกินอาหารเสริมนอกจากนมแม่ ซึ่งก็คือในช่วงอายุ 6 เดือนขึ้นไป หากลูกเริ่มนั่งได้เก่งขึ้น สามารถนั่งได้เองโดยที่ไม่ต้องประคอง และเริ่มชอบเอามือหยิบจับสิ่งต่าง ๆ เข้าปาก นั่นแสดงว่าลูกน้อยของเราพร้อมที่จะกินอาหารเสริมได้แล้ว ในบางบ้านอาจจะคุ้นเคยกับการเตรียมอาหารเด็กอ่อนโดยการปั่นหรือบดละเอียดและป้อนให้ลูก แต่หลาย ๆ บ้านก็อาจจะใช้วิธีฝึกให้ลูกกินอาหารด้วยตัวเองที่เรียกว่า BLW (Baby-Led Weaning) แต่ไม่ว่าจะเป็นวิธีไหนก็ตาม อุปกรณ์สำคัญอย่างโต๊ะกินข้าวเด็กก็เป็นของที่ต้องมี และถ้าเลือกให้ดีก็จะใช้งานได้อย่างยาวนานตั้งแต่เล็กจนโต แล้วจะมีวิธีการเลือกอย่างไร ควรเลือกแบบไหนดี ? BabyGift มีคำแนะนำดี ๆ มาฝากแล้วค่ะ  โต๊ะกินข้าวเด็ก สำคัญอย่างไร ? ควรเลือกแบบไหนดี ?  โต๊ะกินข้าวสำหรับเด็กนั้นมีความแตกต่างจากโต๊ะทั่ว ๆ ไป โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นโต๊ะที่เรียกว่า High Chair โดยเป็นชุดเก้าอี้กินข้าวเด็กที่มีโต๊ะพับมาให้แบบครบชุด สามารถใช้งานได้หลายแบบ บางรุ่นสามารถพกพาออกไปข้างนอกได้ด้วย และยังมีเข็มขัดนิรภัยเพื่อป้องกันเด็กพลัดตกเก้าอี้ ทำให้มีความปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งบางที่อาจเรียกว่าโต๊ะกินข้าวเด็ก หรือบางที่ก็เรียกว่าเก้าอี้กินข้าวเด็ก หรือ อาจเรียกรวม ๆ ว่าชุดโต๊ะเก้าอี้กินข้าวของเด็ก แต่จะเรียกแบบไหน ก็หมายถึง High Chair ที่นั่งกินข้าวของเด็กเล็กโดยเฉพาะนั่นเองค่ะ  โต๊ะกินข้าวสำหรับเด็กนั้นเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นมาก โดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่ที่อยากฝึกลูกให้กินข้าวด้วยตัวเองแบบ BLW ซึ่งการฝึกลูกกินข้าวเอง […]

Hypochlorous Acid หรือ HOCl คืออะไร? Hypochlorous Acid หรือ กรดไฮโปคลอรัส มีชื่อเรียกทางเคมีว่า HOCl นั้น เป็นกรดอ่อน ๆ ชนิดหนึ่งที่ถูกผลิตขึ้นโดยธรรมชาติโดยเซลล์เม็ดเลือดขาวในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิดเพื่อการรักษาและการปกป้องร่างกาย  ซึ่งกรดไฮโปคลอรัส มีคุณสมบัติในการกำจัดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา รวมไปถึงสปอร์ของเชื้อราได้ โดยการเข้าไปทำลายผนังหุ้มเซลล์ของเชื้อโรค เพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคเหล่านั้น เนื่องจากกรดไฮโปคลอรัส (HOCl) เป็นกรดชนิดเดียวกันกับที่อยู่ในระบบภูมิคุ้มกัน ในเม็ดเลือดขาวของร่างกายมนุษย์ จึงปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อผิวบอบบาง  หรือดวงตา ไม่ทำให้เกิดอาการแสบ และมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคมากกว่าสารฟอกขาวประเภทคลอรีนถึง 80-120 เท่า กรดไฮโปคลอรัส สามารถพบได้จาก “ น้ำอิเล็กโทรไลต์ “ ซึ่งเป็นน้ำที่ได้จากกระบวนการอิเล็กโทรลิซิส (Electrolysis) ซึ่งมีการคิดค้นครั้งแรกโดยนักฟิสิกส์และนักเคมี นามว่า ไมเคิล ฟาราเดย์ (Michael Faraday) เมื่อปีทศวรรษ 1834 โดยเขาได้คิดค้นหลักการสำคัญของกระบวนการอิเล็กโทรลิซิสตั้งเป็นกฎสองข้อเรียกกันว่า Faraday’s Laws of Electrolysis ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของวิชาไฟฟ้าเคมี (Electrochemistry) มาจนถึงทุกวันนี้ กระบวนการอิเล็กโทรลิซิส (Electrolysis) คืออะไร ? อิเล็กโทรลิซิส (Electrolysis) คือกระบวนการผ่านกระแสไฟฟ้า ด้วยเครื่องมือที่ใช้แยกสารละลายด้วยไฟฟ้า มีชื่อเรียกว่า เซลล์อิเล็กโทรไลต์ หรือ อิเล็กโทรลิติกเซลล์ ประกอบด้วย […]

ความปรารถนาสูงสุดของคุณพ่อคุณแม่ คือการได้เห็นลูกน้อยเติบโตอย่างมีคุณภาพ มีสุขภาพที่แข็งแรงสมบูรณ์ พร้อมด้วยความเก่ง ฉลาด เป็นผู้ใหญ่ที่มีศักยภาพในอนาคต ดังนั้นเมื่อลูกน้อยลืมตาดูโลก คุณแม่ทุกท่านจึงตั้งใจเต็มที่ที่จะให้น้ำนมแม่แก่ลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิดและมอบนมแม่ให้เป็นสุดยอดอาหารของลูกรักไปนานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เราจึงเห็นว่าปัจจุบัน คุณแม่มีการเตรียมพร้อมเพื่อจะเป็นคุณแม่นักปั๊ม ทำนมแม่สต๊อกไว้ให้ลูกน้อยกันแต่เนิ่นๆ แต่คุณแม่รู้ไหมว่า…นอกจากการปั๊มนมที่ต้องพิถีพันใส่ใจในทุกรายละเอียดแล้ว วิธีการเก็บสต๊อกนมแม่ก็มีความสำคัญเช่นกัน เพราะหากคุณแม่เก็บไม่ถูกต้อง ไม่ถูกวิธี อาจทำให้นมแม่ก็เก็บบูดเสีย ลูกกินไม่ได้ รวมถึงหากเช่เย็นเก็บหรือละลายในอุณหภูมิไม่เหมาะสม ก็ทำให้นมแม่สูญเสียคุณค่าสารอาหารสำคัญและจำเป็นต่อสมองและร่างกายของลูกน้อยไปแบบน่าเสียดาย  เสียทั้งกำลังกาย กำลังใจ นมแม่ที่โภชนาการดีๆมากมาย กลับเสียหายไปไร้ประโยชน์ ดังนั้นเราจึงขอแนะนำ วิธีการเก็บน้ำนมแม่สต๊อกที่ถูกต้อง พร้อมเคล็ดลับเรื่องการเก็บนมแม่ไว้ไม่ให้เหม็นหืน เพื่อให้ลูกน้อยกินนมแม่จากสต๊อกได้อย่างเต็มที่ และมีความสุข วิธีเก็บน้ำนมแม่สต๊อก ขั้นตอนการปั๊มและ วิธีเก็บน้ำนมแม่สต๊อก ระยะเวลาการเก็บน้ำนมแม่ วิธีเก็บนมแม่สต๊อก ระยะเวลาที่เก็บได้ ตั้งทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้อง ไม่เข้าตู้เย็น เก็บได้ 1 ชั่วโมง ตั้งทิ้งไว้ในห้องปรับอากาศ  (ไม่เข้าตู้เย็น) เก็บได้ 4 ชั่วโมง ในกระติกน้ำแข็งที่มีน้ำแข็งตลอดเวลา เก็บได้ 1 วัน ใส่ตู้เย็น ช่อง/ชั้นธรรมดา เก็บได้ 3-5 วัน ใส่ตู้เย็นแบบ 1 […]

วันนี้เรามีประสบการณ์จริง จากประโยชน์ของการใช้คาร์ซีท ที่คุ้มค่ามากเท่าชีวิต คุณปีใหม่ คุณแม่มือใหม่ที่ศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับคาร์ซีท ตั้งแต่เธอเมื่อเริ่มตั้งครรภ์ เธอให้ลูกนั่งคาร์ซีทตั้งแต่วันแรกที่ออกจากโรงพยาบาล ช่วงนั้นค่อนข้างมีปัญหากับทางบ้านนิดหน่อย เนื่องจากคุณแม่ของเธอเป็นคนหัวโบราณ ไม่เข้าใจเรื่องคาร์ซีท และคิดว่าจะอุ้มหลานเองน่าจะปลอดภัยอยู่แล้ว เธอจึงต้องอธิบายให้คุณแม่เข้าใจอยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่ค่อยเป็นผลเท่าไหร่ จนมาวันหนึ่งเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น เธอเล่าว่า วันนั้นเธอ สามีและน้องบีน่าลูกสาววัยเพียง 2 เดือน กำลังเดินทางกลับจากจังหวัดชลบุรี  อยู่บนทางด่วนบูรพาวิถี สามีใช้ความเร็วปกติ เธอนั่งที่เบาะหลัง ส่วนน้องบีน่า นอนหลับปุ๋ยอยู่ในคาร์ซีท เมื่อสามีขับออกมาจากช่องเก็บค่าทางด่วน สังเกตเห็นว่ารถคันหน้าที่ขับอยู่เลนขวา ขับช้าผิดปกติ สามีจึงจะแซงซ้ายขึ้นไป ทันใดนั้นรถคันหน้าก็เปลี่ยนเลนมาทางซ้ายกะทันหัน เลยชนเข้าอย่างแรง เมื่อรู้ตัวอีกทีคุณปีใหม่กระเด็นไปอยู่ที่เบาะหน้า เพราะไม่ได้คาดเข็มขัดนิรภัย มีรอยฟกช้ำ ระบมไปทั้งตัว  Airbag แตกรอบคัน พอมีสติก็รีบเปิดประตูรถไปดูน้องบีน่าก่อนเลย น้องบีน่ายังหลับปุ๋ยอยู่ในคาร์ซีทเหมือนเดิม ไม่มีร่องรอยบาดเจ็บใดๆ  นี่ถ้าอุ้มลูกไว้เองจะเป็นยังไงไม่อยากนึกเลย ตัวเองยังเอาไม่รอด ขอบคุณคาร์ซีทมากๆ ลูกรอดตายเพราะคาร์ซีทจริงๆ หลังจากเหตุการณ์นี้ คุณยายของน้องบีน่าก็เข้าใจประโยชน์ของคาร์ซีทแล้วว่าสำคัญมากเพียงใด ในวันนั้นคาร์ซีทได้ทำหน้าที่ปกป้องชีวิตหลานตัวน้อยเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด  และได้นำเรื่องนี้ไปบอกต่อ กับคนรู้จักว่า “หลานฉันรอดมาได้เพราะคาร์ซีทแท้ๆ” คุณปีใหม่ใช้คาร์ซีท Ailebebe ที่ซื้อจากร้าน Baby Gift ซึ่งทางเรามีบริการ รับประกันสินค้า เปลี่ยนคาร์ซีทตัวใหม่ให้ลูกค้า หากเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน ทาง Baby […]

ถึงเวลาเปลี่ยนคาร์ซีทกันแล้วหรือยังคะ ?  เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่ที่เข้ามาอ่านบทความนี้ก็คงจะมีประสบการณ์เลือกคาร์ซีทเด็กเล็กกันมาบ้างแล้ว ตอนนี้กำลังมองหาคาร์ซีทเด็กโตให้กับเจ้าตัวน้อยที่กำลังนั่งตัวเดิมแล้วดูอึดอัดกันอยู่ใช่หรือเปล่าคะ ? ในบทความนี้ BabyGift จะชวนคุณพ่อคุณแม่มาดู 10 รุ่นคุณภาพดี พร้อมกับแนะนำการเลือกคาร์ซีทสำหรับเด็กโตกัน ลองมาดูกันว่า เมื่อเจ้าตัวเล็กของเราเริ่มจะโตขึ้น เราต้องใส่ใจกับเรื่องอะไรบ้าง มีคาร์ซีทรุ่นไหนบ้างที่น่าสนใจ มาหาคำตอบกันได้จากบทความนี้ค่ะ   10 คาร์ซีทเด็กโตคุณภาพดี แนะนำรุ่นฮิต ถูกใจคุณพ่อคุณแม่ by babyGift !  การเลือกคาร์ซีทนั้น นอกจากจะเลือกตามอายุ น้ำหนัก หรือส่วนสูงของลูกน้อยแล้ว อายุการใช้งานของคาร์ซีทก็เป็นสิ่งที่เราควรจะพิจารณาเป็นพิเศษ ก่อนที่เราจะไปดูคาร์ซีทสำหรับเด็กโตทั้ง 10 รุ่นที่ BabyGift แนะนำ จะขอพาผู้อ่านทุกคนมาทำความเข้าใจเพิ่มเติมเกี่ยวกับความสำคัญ และประเด็นต่างๆ ที่ควรจะพิจารณาก่อนเปลี่ยนคาร์ซีทกันก่อนค่ะ  คาร์ซีทเด็กโต จำเป็นไหม ? ทำไมเด็กโตถึงยังต้องใช้คาร์ซีท  สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ให้ลูกนั่งคาร์ซีทตั้งแต่เป็นยังเป็นเด็กเล็กก็คงจะไม่มีปัญหาเรื่องการฝึกลูกนั่งคาร์ซีท แต่สำหรับบ้านไหนที่เด็กๆ เริ่มโตแล้ว และจะต้องนั่งคาร์ซีทตามข้อกฏหมายอันมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค. 2566 เป็นต้นมา ก็ไม่ต้องกังวลไปนะคะ การฝึกลูกนั่งคาร์ซีทไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป แต่ก็ยังมีคุณพ่อคุณแม่บางคนอาจจะเกิดคำถามในใจว่า คาร์ซีทสำหรับเด็กโต มีความจำเป็นไหม ? ซึ่งคาร์ซีทสำหรับเด็กโตนั้น  […]

   ผ้าฆ่าเชื้อ AG Pure เป็นนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นเพื่อส่งเสริมความสะอาดและสุขอนามัยที่ดีสำหรับเด็กทารกและเด็กเล็ก ที่มีภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง ผ้าชนิดนี้จึงถูกนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์เด็กหลายประเภท โดยเฉพาะในผ้าหุ้มคาร์ซีทแบรนด์ Ailebebe ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย  ผ้า AG Pure ในคาร์ซีทฆ่าเชื้อโรคได้จริงไหม ปลอดภัยสำหรับผิวบอบบางของทารกหรือไม่ มาทำความรู้จักกันเลยค่ะ  AG Pure คืออะไร ? ผ้าฆ่าเชื้อแบคทีเรียปลอดภัยต่อทารกไหม ?  AG Pure คือผ้าฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ที่จดสิทธิบัตรโดย Ailebebe มีคุณสมบัติพิเศษในการฆ่าเชื้อด้วยเส้นใย Agreza® ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยสถาบัน Toyobo STC Co., Ltd. จากประทศญี่ปุ่น โดยมีการผสมซิลเวอร์ไอออน ทำให้สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ถึง 99%  ผ้าชนิดนี้ได้รับการทดสอบความปลอดภัยจากสถาบัน Boken Quality Efracing Organization และผ่านมาตรฐาน EN71-3 ของยุโรป ซึ่งเป็นมาตรฐานสำหรับของเล่นเด็ก ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าปลอดภัยต่อผิวหนังของทารกและเด็กเล็ก แม้ในกรณีที่เด็กเอาเข้าปากก็ไม่มีอันตราย กลไกการฆ่าเชื้อของเส้นใย Agreza® ด้วยพลัง Silver ion  กลไกการฆ่าแบคทีเรียจะใช้ […]

Menu
All Categories
All Brands
All Ages
Promotions
Locations
BabyGift Family
BabyGift Care
Parents Guide
News & Event

All Categories

All Categories
All Brands
All Ages